ละคร อสูรน้อยในตะเกียงแก้ว
ดู 10,747 ครั้ง /
แชร์
ละครออกอากาศ | วันศุกร์ วันเสาร์ วันอาทิตย์ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ช่องที่ออกอากาศ | ละครช่อง 7 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เริ่มออกอากาศ | 20 มกราคม 2555 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เวลาออกอากาศ | 20:30 - 22:30 น. |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
กำกับโดย | จรูญ ธรรมศิลป์ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ประพันธ์โดย | บทประพันธ์ โสภี พรรณราย, บทโทรทัศน์ ฉายฉันท์ / ภาวิต | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
นำแสดงโดย | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ผู้สร้าง | ดีด้า วีดีโอ โปรดักชั่น จำกัด |
ภาพนิ่งจากละคร
เรื่องย่อ อสูรน้อยในตะเกียงแก้ว
ณ ดินแดนเวทมนตร์ เมืองของแม่มดพ่อมดทั้งหลาย ทาฮิร่า (ดวงดาว จารุจินดา) แม่มดอาวุโส กับ บาบาร่า (สุปรีย์ฎา คำนวนศิลป์) คู่ปรับตัวร้ายที่กลายมาเป็นเพื่อนรัก และไทเกอร์ แมวแสนรู้พูดได้ กำลังเดินเล่นในเมือง ซึ่งมีงานฉลองวันเวลาพิเศษในรอบหลายพันปี คือ วันที่ 9 เดือน 9 ปี 9 เวลา 9 นาฬิกา ทุกคนต่างมีความสุข แต่แล้วก่อนถึงเวลาสำคัญไม่กี่ชั่วโมง จู่ๆ เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง แผ่นดินแตกแยกเป็นร่องลึกอย่างน่ากลัว ซ้ำร้ายลมพัดแรงกลายเป็นพายุหอบน้ำทะเลขึ้นมาซัดท่วมเมือง ผู้คนหนีตายกันอลหม่าน รวมทั้ง ทาฮิร่า บาบาร่า และไทเกอร์ เวลาผ่านไปครู่ใหญ่ ทุกอย่างก็สงบลง ดินแดนเวทมนตร์ได้รับความเสียหายมากอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน มีคนบาดเจ็บล้มตายกันมาก
เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นอาเพศบอกลางร้ายที่น่ากลัวมาก กลุ่มแม่มดอาวุโสรีบไปที่หอประชุมอย่างรู้หน้าที่ เมื่อที่ประชุมพร้อม ประธานซึ่งเป็นผู้ที่อาวุโสที่สุดจึงบอกกับทุกคนว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่เป็นเพราะมีอสูรร้ายตนหนึ่งเกิดขึ้นแล้วบนดินแดนแห่งนี้ อสูรน้อยตนนี้ถ้าไม่รีบกำจัด อีกยี่สิบปีข้างหน้ามันจะย้อนมาทำลายดินแดนเวทมนตร์จนไม่เหลือซาก อสูรน้อยตนนี้เกิดมาเพื่อทำลายจริงๆ ขอให้แม่มดพ่อมดทั้งหลายออกตามล่า และกำจัดมันให้เร็วที่สุด อันตรายจากอสูรน้อยทำให้ทุกคนหวาดกลัวรวมทั้ง ทาฮิร่า บาบาร่า แต่ทั้งคู่ไม่คิดหนีเอาตัวรอด หน้าที่ในการดูแลรักษาดินแดนแห่งนี้เป็นของแม่มดอาวุโสทุกคน ทาฮิร่า กับ บาบาร่า รวมทั้งไทเกอร์ แมวที่มีประสาทในการดมกลิ่นดีเป็นพิเศษจึงออกตามล่าอสูรด้วยกัน ผ่านไปหลายชั่วโมงทั้งสามก็ไม่พบวี่แววอสูรแต่อย่างใด ทาฮิร่า จึงแยกไปตามหาอีกทางหนึ่ง ปล่อยให้ บาบาร่า กับ ไทเกอร์ ไปอีกทางหนึ่ง
ขณะที่ทาฮิร่าขี่ไม้กวาดผ่านป่าละเมาะ นางสังเกตเห็นแสงสว่างนวลเหมือนแสงไฟส่องวูบวาบขึ้นมา ทาฮิร่า ตัดสินใจบินลงไปเดินสำรวจทันที ที่นั่นนางพบกระท่อมหลังหนึ่งเก่าทรุดโทรมจนไม่น่าจะมีใครอยู่ได้ แต่เสียงเด็กทารกร้องแว่วออกมาทำให้ทาฮิร่ารีบเข้าไปในกระท่อมทันที ที่พื้นห้องกลางบ้านมีตะกร้าหวายบุด้วยผ้าสีแดงสวยสดใสวางอยู่ เสียงเด็กทารกร้องมาจากในตะกร้า ทาฮิร่าปราดเข้าไปดูทันที ทารกน้อยน่ารักลืมตามองนางตาแป๋ว ทาฮิร่ามองตาใสๆ ปากนิดจมูกหน่อย ของแกแล้วก็อดอุ้มขึ้นมาไม่ได้ พลางนึกสงสัยว่าเป็นลูกของใครกัน ร่างน้อยๆ นั้นห่อหุ้มด้วยผ้าไหมเนื้อเนียนสีแดงสวยมีลายปักด้วยเป็นลวดลายสวยประณีตงดงาม แสดงว่าพ่อแม่เด็กคนนี้ต้องไม่ธรรมดาแน่นอน ทาฮิร่าอดคิดถึง จินนี่ และ ฮันนี่ หลานสาวที่ตัดสินใจไปใช้ชีวิตอยู่ที่โลกมนุษย์ไม่ได้ เพราะเมื่อยังเป็นเด็กทั้งสองสาวก็น่ารักน่าเอ็นดูไม่แพ้เด็กคนนี้เลย ทาฮิร่าตกใจเมื่อคิดได้ว่า เด็กคนนี้เป็นลูกอสูรที่นางต้องกำจัด สำนึกในหน้าที่ทำให้ ทาฮิร่า ยกมืออีกข้างขึ้นสูงเตรียมกำจัดเด็กน้อย ตาใสแจ๋วที่มองนาง ปากน้อยๆ ที่เผยอขึ้นราวจะพูดด้วยทำให้ทาฮิร่าทำไม่ลง นางคิดทบทวนช้าๆ ถ้าเด็กคนนี้ไม่ใช่อสูร นางก็จะทำความผิดมหันต์เป็นบาปหนักหนาสำหรับแม่มด ตราบใดที่พิสูจน์ไม่ได้ว่าเจ้าตัวน้อยนี้เป็นอสูรทาฮิร่าจะไม่กำจัดแก เมตตาธรรมในใจทำให้นางตัดสินใจจะเลี้ยงทารกน้อยนี้ไว้เป็นหลานสาวคนใหม่ เสียงของบาบาร่ากับไทเกอร์ที่ร้องเรียกทาฮิร่า ทำให้นางต้องรีบซ่อนเจ้าตัวน้อยไว้ในลังเก่าๆ ที่มุมกระท่อมทันทีเพราะรู้ดีว่าถ้าบาบาร่ากับไทเกอร์พบแกเข้า เด็กน้อยคนนี้คงไม่รอดชีวิตแน่นอน
เมื่อทั้งสองตามเข้ามาในกระท่อม ไทเกอร์ทำจมูกฟุดฟิดทันทีพลางพึมพำว่ากลิ่นเด็กทารก ไทเกอร์ปรี่เข้าค้นในกระท่อมจนทาฮิร่าใจหาย นางได้แต่ส่งกระแสจิตเตือนเด็กน้อยให้หาวิธีซ่อนร่องรอยกลิ่นของตัวเองอย่าให้ไทเกอร์หาพบ ถ้าพ้นจากที่นี่ได้นางจะดูแลแกต่อไป ทาฮิร่าไม่หวังว่าเด็กคนนี้จะรับรู้อะไร ได้แต่คิดหาทางช่วยเหลือทางอื่น ทว่าจู่ๆ ไทเกอร์หยุดชะงัก หมุนไปรอบๆ ยื่นจมูกดมทุกอย่างจนแม้กระทั่งที่ลังนั่น ทาฮิร่าใจสั่นทำอะไรไม่ถูกกลัวไทเกอร์จะเปิดลังแล้วพบเด็กน้อย ทว่าไทเกอร์กลับไม่มีท่าทางว่าจะสนใจลังใบนั้นอีก ได้แต่เดินบ่นพึมพำว่าแปลกที่กลิ่นทารกหายไปเฉยๆ หายไปทันทีไม่ใช่ค่อยๆ จางไป แต่หายวูบไปราวกับไม่เคยมีมาก่อน ทาฮิร่าจึงแกล้งว่า ไทเกอร์เพี้ยน แล้วชวนหนึ่งแม่มดกับหนึ่งแมวออกไปตามหาที่อื่น แมวตัวเก่งเริ่มหงุดหงิดเพราะมั่นใจในประสาทสัมผัสพิเศษของตัวเอง แต่เมื่อบาบาร่าเห็นด้วยกับทาฮิร่าที่จะไปจากที่นี่ไทเกอร์จำใจยอมตามไปด้วย
ดึกมากแล้วเมื่อทาฮิร่าย้อนกลับมาที่กระท่อมร้างเพื่อมาพาเด็กน้อยกลับไปที่บ้าน นางดีใจที่เด็กน้อยยังอยู่ที่เดิมที่ซ่อนไว้ นางจึงรีบพากลับไปที่บ้านของนางทันที ทาฮิร่าปิดประตูแน่นหนา นางโบกมือร่ายคาถา นมขวดหนึ่งปรากฏขึ้นมาทันที นางรีบป้อนให้เจ้าตัวเล็ก พึมพำหยอกล้อกับเด็กน้อยอย่างอารมณ์ดี ทาฮิร่าแปลกใจที่แม่หนูอึดเกินเด็กทั่วไปไม่ได้กินนมหลายชั่วโมงแต่ก็ไม่งอแง นมหมดขวดอย่างรวดเร็ว ทาฮิร่าโยนขวดเปล่าหายวับไปในอากาศ เจ้าตัวเล็กในอ้อมแขนส่งเสียงอ้อแอ้เหมือนจะคุยด้วย นางจึงบอกแกว่าจะตั้งชื่อให้ว่า แนนนี่ (พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์) พูดแล้วก็ลังเลพึมพำเหมือนจะถามต่อไปว่าชอบไหมหรือจะเปลี่ยนเป็นชื่ออื่น ทาฮิร่าตกใจมากเมื่อได้ยินเสียงใสๆ ตอบมาว่าหนูชอบชื่อแนนนี่จ้ะ เสียงนั้นดังขึ้นในความคิดในจิตใจอย่างประหลาด แต่นางไม่มีเวลาหาที่มาของเสียงนั้น เพราะบาบาร่ากับไทเกอร์กำลังเคาะประตูอยู่ดังลั่น
ทาฮิร่าหันซ้ายหันขวาลุกลี้ลุกลนหาที่ซ่อนแม่หนูแนนนี่ นางยิ้มอย่างดีใจเมื่อเหลือบไปเห็นตะเกียงแก้วบนโต๊ะ ทาฮิร่ากระซิบบอกแนนนี่ให้ซ่อนอยู่ในตะเกียงแก้วและให้ระวังไทเกอร์ให้ดี พริบตาเดียวร่างแนนนี่หายวับไปในตะเกียงแก้ว แต่ทาฮิร่าต้องตกใจเมื่อไทเกอร์ปรากฏตัวขึ้นมาแทนในชั่วเสี้ยววินาทีตามมาด้วยบาบาร่า ไทเกอร์ทำจมูกฟุดฟิดเดินวนรอบทาฮิร่า ทำหน้าตาสงสัย พึมพำว่ากลิ่นแปลกๆ ก่อนจะหันไปสนใจตะเกียงแก้ว ทาฮิร่ารีบคว้าตะเกียงแก้วขึ้นมาถือไว้ ย่อส่วนจนเหลืออันนิดเดียว แล้วรีบซุกไว้ในเสื้อคลุมของนาง พลางบ่นว่าต้องรีบเก็บก่อนไทเกอร์จะทำตะเกียงแตกเพราะทั้งซนและซุ่มซ่าม ไทเกอร์งอนแต่ไม่วายจะเที่ยวดมฟุดฟิดไปทั่วบ้านงึมงำแต่ว่ากลิ่นทารก กลิ่นเด็กอ่อน ต้องหาให้เจอ ทาฮิร่าได้แต่ส่งกระแสจิตเตือนแนนนี่ให้ระวังตัว จู่ๆ ไทเกอร์หยุดนิ่งทำหน้างงๆ ก่อนจะบ่นอุบอิบว่ากลิ่นหายไปหมดแล้ว ทาฮิร่าจึงถอนใจยาวอย่างโล่งอก จากนั้นต้องใช้เวลาอีกนานพอสมควรกว่าบาบาร่ากับไทเกอร์จะยอมกลับไป
เมื่อแน่ใจว่าอยู่กันตามลำพัง ทาฮิร่าจึงลองส่งกระแสจิตคุยกับแนนนี่อีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่านางไม่ได้หูแว่วไปเอง เด็กน้อยทำให้นางอึ้งเมื่อสามารถโต้ตอบกับนางทางกระแสจิตได้ราวกับคนที่โตแล้ว ทาฮิร่าเลี้ยงแนนนี่ลำบากขึ้นทุกวัน เพราะบาบาร่ากับไทเกอร์มาแอบดูอยู่เสมอและหลายครั้งที่เกือบจับแนนนี่ได้ ทว่าแนนนี่มีอำนาจพิเศษที่เก่งกว่าเพราะจะรู้ตัวและหายจากอ้อมแขนทาฮิร่าไปซ่อนตัวในตะเกียงแก้วอย่างรวดเร็วจนทาฮิร่าปรับตัวไม่ทัน ต้องยืนทำท่าอุ้มเด็กพูดคนเดียวอยู่จนบาบาร่ากับไทเกอร์สงสัยมากขึ้นทุกที ขณะเดียวกันผู้นำแม่มดประกาศตามล่าอสูรต่อไปจนกว่าจะกำจัดได้ สถานการณ์ที่ดินแดนเวทมนตร์ตึงเครียดขึ้นทุกวัน จนทาฮิร่าตัดสินใจว่าต้องส่งแนนนี่มาเลี้ยงที่โลกมนุษย์ และต้องหาครอบครัวที่ดีมีศีลธรรมด้วยเพื่อจะได้อบรมสั่งสอนให้อสูรน้อยกลับตัวกลับใจ นางมั่นใจว่าเด็กที่ได้รับการอบรมเลี้ยงดูด้วยความรัก ความเมตตา และได้รับการสั่งสอนที่ดีจะเติบโตเป็นคนดีได้ ดังนั้นทาฮิร่าจึงต้องเดินทางมาโลกมนุษย์บ่อยครั้ง ครอบครัวดีที่ต้องการนั้นหายากเหลือเกิน
วันหนึ่ง ทาฮิร่าบินผ่านซอยเปลี่ยวแห่งหนึ่ง นางเห็นหญิงสาววัยรุ่นอุ้มเด็กเดินแกมวิ่งท่าทางโกรธจัดหน้าตาบูดบึ้ง ปากบ่นพึมพำอะไรสักอย่าง เมื่อนางตั้งใจฟังก็ตกใจจนแทบเป็นลมเพราะหญิงคนนั้นตั้งใจพาเด็กมาทิ้งที่กองขยะ หรือถ้ามีโอกาสก็จะฆ่าทิ้งทันที ก่อนที่ทาฮิร่าจะบินลงไปห้าม ผู้หญิงอีกคนหนึ่งวิ่งมาห้ามเสียก่อน ผู้หญิงคนนี้แต่งกายดีท่าทางมีเมตตา ทาฮิร่าแอบดูเหตุการณ์ต่อไปจึงรู้ว่าแม่ของเด็กชื่อมาลี เป็นเด็กสาวมาจากต่างจังหวัดมีอาชีพเป็นแม่ค้าขายปลาในตลาด อยู่มาวันหนึ่ง มาลีถูกผู้ชายกลุ่มหนึ่งฉุดและโดนรุมข่มขืนจนหมดสติจำอะไรไม่ได้ มาลีไม่กล้าไปแจ้งความเก็บเรื่องเงียบไว้กว่าจะรู้ตัวก็ตั้งท้องได้หลายเดือนแล้ว พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้แท้ง แต่ไม่สำเร็จ เธอไม่รักลูกเลยสักนิด ทุกวันมาลีจะบ่นระบายความเคียดแค้นชิงชังอยู่คนเดียวโดยไม่รู้ว่าเด็กในท้องรับรู้ถึงความโกรธแค้นนี้ด้วย เมื่อครบกำหนดมาลีคลอดลูกเป็นหญิงหน้าตาน่าเอ็นดู แต่เธอกลับเกลียดลูกที่สุด ทันทีที่ออกจากโรงพยาบาลมาลีตั้งใจจะอุ้มลูกมาทิ้ง ทว่า ปัทมน (มยุริญ ผ่องผุดพันธ์) เจ้าของโรงงานเย็บกระเป๋าเพื่อส่งออกที่มีชื่อเสียงมาพบเข้าเสียก่อน เธอเป็นคนใจบุญ จึงขอลูกสาวของมาลีมาอุปการะ มาลีรีบส่งลูกให้โดยไม่อาลัยสักนิดมาลีวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็วราวกับกลัวว่าปัทมนจะคืนลูกกลับมา
ทาฮิร่าตามปัทมนไปถึงบ้านได้รู้เพิ่มเติมอีกว่าปัทมนเป็นม่าย มีลูกชายหนึ่งคนชื่อ ธานี (กฤษณกันท์ มณีผกาพันธ์) อายุเพิ่ง 5 ขวบ เธอเป็นนักธุรกิจหญิงที่ประสบความสำเร็จมาก ใจบุญ และฐานะดี บ้านของเธออยู่ติดกับ ดร.จักรวาล (ปรินทร์ วิกรานต์) นักวิทยาศาสตร์หนุ่มใหญ่ เขาเป็นพ่อม่ายมีลูกติดสองคนชายหนึ่งหญิงหนึ่ง คือ ภวัต (ชนะพล สัตยา) อายุเท่า ธานี และ รัดเกล้า (ธันย์ชนก ฤทธินาคา) อายุประมาณ 3 ขวบ ทั้งสองครอบครัวนี้สนิทสนมกันมาก เด็กๆ ก็รักกันเหมือนพี่น้อง เรียนอยู่ที่เดียวกันด้วย ดังนั้น ดร.จักรวาล กับ ปัทมน จะผลัดกันรับลูกถ้าอีกฝ่ายไม่ว่างหรือถ้าใครมีงานต้องไปต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ หลายวัน ดร.จักรวาล กับ ปัทมน จะสลับกันช่วยดูแลเด็กๆ ให้ เด็กหญิงลูกของมาลี ปัทมนตั้งชื่อให้ว่า ดารกา (อัญรินทร์ ธีราธนันพัฒน์) ธานีเห่อน้องสาวคนใหม่มาก รวมไปถึงภวัตกับรัดเกล้าด้วย ทาฮิร่าพรางตัวแอบตามดูครอบครัวนี้อยู่หลายวันจนรู้ว่า ดร.จักรวาล กับ ปัทมน เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันจริงๆ ยิ่งไปกว่านั้น ปัทมนเป็นคนจิตใจงาม อ่อนโยน ชอบปฏิบัติธรรม
ทาฮิร่าดีใจที่พบคนที่เหมาะสมที่จะฝากแนนนี่ให้ดูแลแล้ว แต่ยังหาวิธีส่งตัวแนนนี่มาอยู่ที่นี่อย่างแยบยลไม่ได้ ทุกวันที่กลับไปจากบ้านปัทมน ทาฮิร่าจะเล่าเรื่องครอบครัวนี้ให้แนนนี่ฟัง นางบอกต่อไปว่าการที่หลานสาวตัวน้อยได้ไปอยู่กับปัทมนจะเป็นการดีและปลอดภัยที่สุด บ่ายวันหนึ่งขณะที่ทาฮิร่าพรางตัวมาที่บ้านนี้เช่นเคย เสียงเอะอะของคนในบ้านที่ตามหาธานี ทำให้ทาฮิร่าร้อนใจ นางปรากฏร่างที่สระว่ายน้ำทันทีที่ได้ยินเสียงกรีดร้องของปัทมน ภาพของเด็กชายธานีกำลังดิ่งจมลงก้นสระทำให้ปัทมนทำอะไรไม่ถูก ทาฮิร่าร่ายมนตร์วิเศษทันที ร่างธานีกลับพลิกหงายลอยตัวขึ้นช้าๆ กลับมาที่ริมสระ ในช่วงเวลานั้นปัทมนตกตะลึงตาค้างมองทาฮิร่าอย่างแปลกใจ เมื่อร่างลูกชายลอยมาใกล้เธอๆ รีบวิ่งไปช้อนตัวลูกชายขึ้นมากอด ธานีรู้สึกตัวดีไม่มีอาการของคนที่จมน้ำเลย อย่างไรก็ตามปัทมนก็จะพาแกไปโรงพยาบาล ขณะที่ทุกคนในบ้านโกลาหลช่วยธานี ปัทมนเหลียวหาหญิงวัยกลางคนสวมเสื้อคลุมรุ่มร่ามท่าทางใจดีที่ช่วยลูกชายไว้ เธอหันไปพบนางกำลังจะเลือนหายไปในกำแพงปัทมนอึ้งทำอะไรไม่ถูก
ที่โรงพยาบาลหมอตรวจธานีอย่างละเอียดและบอกว่าปลอดภัยดี คืนนั้นปัทมนสวดมนตร์อยู่นาน ตั้งจิตอธิษฐานขอพบหญิงลึกลับที่ช่วยชีวิตลูกชายสักครั้ง เมื่อปัทมนกลับเข้าห้องนอนส่วนตัว เธอพบทาฮิร่านั่งรออยู่แล้ว มาคราวนี้นางแต่งกายสุภาพทันสมัย สง่างาม หน้าตายิ้มแย้มอย่างคนใจดี ปัทมนรีบยอตัวลงนั่งพนมมือไหว้ขอบคุณทาฮิร่าทันที การที่นางช่วยชีวิตธานีไว้ปัทมนถือว่าเธอเป็นหนี้บุญคุณนางที่สุด ทาฮิร่าคุยกับปัทมนอยู่นานนางขอร้องให้ช่วยเลี้ยงแนนนี่หลานสาวตัวน้อยเด็กพิเศษที่ไม่เหมือนใคร ทาฮิร่าจำเป็นต้องบอกข้อมูลบางอย่างให้ปัทมนรู้เพื่อจะได้ไม่ตกใจ ถ้ายัยหนูทำอะไรแผลงๆ ทาฮิร่าบอกว่านางเป็นแม่มดมาจากดินแดนเวทมนตร์ ส่วนแนนนี่เป็นหลานสาวที่มีเลือดผสมของมนุษย์กับแม่มด เด็กกลุ่มนี้จะไม่ได้รับการยอมรับจากคนที่นั่น ทาฮิร่าจึงต้องนำมาฝากให้ปัทมนเลี้ยงดู โดยขอให้อบรมแกให้เป็นคนดีและสัญญาว่าจะมาเยี่ยมแกบ่อยๆ ช่วยประคับประคองอีกทางหนึ่ง ทาฮิร่าขอร้องให้ปัทมนเก็บเรื่องแนนนี่เป็นแม่มดไว้เป็นความลับซึ่งปัทมนยอมรับปากอย่างเต็มใจ
ไม่กี่วันต่อมา ทาฮิร่าในมาดหญิงวัยกลางคนที่แต่งตัวดีสง่างามก็อุ้มแนนนี่มาให้ปัทมน เธอรับแกมาอุ้มอย่างเอ็นดู เด็กน้อยตากลมโตใสแจ๋วยิ้มให้ปัทมน ทาฮิร่าอยู่ไม่นานก็กลับไปได้แต่ส่งกระแสจิตคุยกับแนนนี่ตลอดเวลา น่าแปลกที่ทันทีที่ปัทมนอุ้มแนนนี่ ดารกากลับร้องไห้จ้างอแงอย่างไม่มีเหตุผล วันนั้นธานี ภวัต และรัดเกล้า แย่งกันเลี้ยงน้องสาวคนใหม่ พอดารการ้องไห้ก็ไปโอ๋ดารกา ภวัต สะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงใสแจ๋วก้องในหัวว่าห้ามไปเล่นกับคนอื่น พี่ภวัตต้องเป็นพี่ชายของแนนนี่คนเดียว เขาเหลียวมองรอบตัวก็ไม่มีใคร ภวัตหันไปมองแนนนี่ยัยหนูยิ้มให้ส่งเสียงอ้อแอ้ชวนเล่นเหมือนทารกทั่วไป แต่เมื่อเขาหันไปหาดารกา เสียงดุๆ ใสแจ๋วนั่นก็ดังขึ้นอีก พี่ภวัตมาหาแนนนี่ ภวัตมองธานี รัดเกล้า และยายผาด (จารุศิริ คชหิรัญ) พี่เลี้ยงของเด็กๆ อย่างประหลาดใจที่ทุกคนทำราวกับไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น ภวัตหันไปมองแนนนี่อีกครั้งก่อนจะตัดสินใจเดินออกจากห้องนั้น เด็กชายคิดว่าเขาหูแว่วไปเอง
ทาฮิร่าที่แอบเฝ้าดูเหตุการณ์อยู่อ่อนใจในความแก่นแก้วของแนนนี่ นางหาโอกาสปรากฏตัวมาคุยกับภวัต บอกว่าแกเป็นยายของแนนนี่ ค่อยๆ คุยจนเด็กชายถามถึงเรื่องที่ได้ยินเสียงแนนนี่ หรือแนนนี่พูดโต้ตอบราวกับอ่านใจเขาได้ ทาฮิร่าทำเป็นดีใจที่ภวัตรู้สึกเหมือนแก แถมยังบอกอีกว่าแกไม่กล้าบอกใครกลัวเขาจะหาว่าเพี้ยน แนนนี่เป็นเด็กพิเศษจริงๆ ทาฮิร่ากับภวัตตกลงกันว่าจะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับรู้กันสองคน ภวัตรู้สึกดีและสบายใจมากขึ้นที่ไม่ได้ผิดปกติคนเดียว ดึกมากแล้วเมื่อทาฮิร่ามาหาแนนนี่ยัยหนูดีใจนักหนา แต่เมื่อทาฮิร่าถามเรื่องภวัตว่าทำไมต้องพูดคุยสื่อสารกับเขา แนนนี่ตอบด้วยน้ำเสียงจริงจังว่าตนรู้สึกผูกพันกับเขามาก ทันทีที่เห็นหน้า และจะไม่ยอมให้เขาไปวุ่นวายกับคนอื่นเด็ดขาด พี่ภวัตต้องรักแนนนี่เป็นพี่ชายของแนนนี่คนเดียว ทาฮิร่าเริ่มหนักใจกับอิทธิฤทธิ์ของเจ้าอสูรน้อยเต็มที
เวลาผ่านไป วันนี้ที่บ้านปัทมนจัดงานฉลองวันเกิดให้ลูกสาวทั้งสองคน คือ ดารกา และแนนนี่ ทั้งคู่อายุ 12 ปีแล้ว ปัทมนเลี้ยงเด็กทั้งคู่มาด้วยกัน อบรมเหมือนกันทุกอย่างแต่นิสัยใจคอต่างกันลิบลับ แนนนี่ทั้งขี้อิจฉา เอาแต่ใจตัวเอง เป็นตัวป่วนประจำบ้าน แก่นแก้ว ชอบแกล้งและเอาเปรียบดารกาตลอดมา แกไม่ยอมรับว่าดารกาเป็นพี่สาว แม้ปากจะเรียกพี่ดา แต่ก็เรียกไปอย่างนั้น แนนนี่รักและติดภวัตมาตั้งแต่เด็กๆ จะอาละวาดถ้าภวัตไม่เล่นด้วยหรือหันไปสนใจดารกา ด้านการเรียนแนนนี่เรียนไม่ค่อยเก่งจนปัทมนหนักใจส่วนดารกาตรงกันข้าม เด็กหญิงเรียบร้อย อ่อนหวาน เรียนเก่ง และยอมให้แนนนี่แกล้งตลอดเวลา ยายผาดสรุปว่าถ้าเป็นละครดารกาก็เป็นนางเอกส่วนแนนี่คือนางอิจฉา วันนั้นเกิดเรื่องอีกจนได้ เมื่อภวัตหยิบกล่องของขวัญผูกโบว์สีชมพูให้ดารกาก่อนจะหยิบกล่องผูกโบว์สีแดงให้แนนนี่ พลางพูดเย้าอย่างอารมณ์ดีว่าสีชมพูเหมาะกับดารกาที่หวานเรียบร้อยส่วนแนนนี่เป็นสีแดงเพราะซนเหลือเกิน แนนนี่ตาคว่ำมองดารกาที่บรรจงแกะกล่องอย่างหมั่นไส้เต็มทน แต่ยังเกรงใจภวัตจึงไม่อาละวาด ดารกาหยิบผ้าพันคอเนื้อนิ่มสีชมพูหวานคลี่ออกดูอย่างพอใจ เด็กสาวขอบคุณภวัตพี่ชายที่แสนดีอย่างน่ารัก แนนนี่งอนป่องฉวยกล่องของขวัญไปที่ห้องนอน เธอแกะโบว์และฉีกกระดาษขาดอย่างคนใจร้อนและเอาแต่ใจ ทาฮิร่าซึ่งแอบดูอยู่นานได้แต่ส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ แนนนี่กระชากผ้าพันคอเนื้อนิ่มแบบเดียวกับของดารกา เพียงแต่เป็นสีแดงออกมาอย่างโกรธจัด ทั้งที่ผ้าพันคอผืนนั้นสีสวยสดใสมาก แต่แนนนี่กลับมองไม่เห็นความสวยงามของมันเด็กสาวฉีกผ้าพันคอขาดเป็นริ้วทันที บ่นพึมพำต่อว่าภวัตที่ไม่รู้ใจตนว่าตัวเองชอบสีชมพูและเกลียดสีแดงที่สุด
แนนนี่ทำให้ทาฮิร่าต้องปรากฏตัวออกมา แนนนี่ดีใจที่ยายมาหา แต่ก็หน้าเสียเพราะรู้ว่าเดี๋ยวต้องถูกดุแน่นอน ทาฮิร่าอบรมแนนนี่ที่ทำตัวไม่น่ารัก ไม่เห็นคุณค่าของของขวัญที่ภวัตหามาให้ เด็กสาวเถียงข้างๆ คูๆ ว่า ภวัตแกล้งเลือกสีแดงมาให้ทั้งที่รู้ว่าแนนนี่ชอบสีชมพู ทาฮิร่าจึงพูดอย่างรู้ทันว่าถ้าภวัตเลือกสีแดงให้ดารกาแล้วสีชมพูให้แนนนี่ เธอก็จะเกลียดสีชมพูใช่หรือไม่ แนนนี่หน้าแดงที่ยายรู้ทันแต่ไม่ยอมรับง่ายๆ ทาฮิร่าจึงบอกว่ารู้มั้ยกว่าภวัตจะตัดสินใจเลือกผ้าพันคอผืนนี้ให้แนนนี่เขาใช้เวลาเลือกอยู่นานมาก ต่างกับของดารกาที่เห็นปุ๊บก็หยิบเลย แนนนี่ยังเถียงว่าเพราะภวัตสนใจแต่ดารกาจึงรู้ดีว่าต้องหยิบสีชมพู ทาฮิร่าระอาใจกับความรั้นของแนนนี่จนอยากจะตีแม่หลานสาวจอมแก่นสักที แต่ก็ทำไม่ลงจึงอธิบายต่อไปอีกว่าตรงกันข้ามเลยที่เลือกให้แนนนี่อยู่นานก็เพราะต้องการให้ของที่ถูกใจแนนนี่ต่างหาก ภวัตเดินหาอยู่นานกว่าจะได้ผ้าพันคอสีแดงสวยถูกใจเขา ถ้าไม่เพราะสนใจแนนนี่มากจะเดินหาให้เหนื่อยทำไม หยิบสีอะไรก็ได้ หรือแม้แต่สีแดงก็มีให้เลือกเป็นสิบๆ เฉดสี แต่ผืนนี้สวยต่างจากผืนอื่นภวัตจึงเลือกมาให้เธอ แต่แนนนี่กลับฉีกขาดเหมือนไม่เห็นคุณค่าและน้ำใจคนให้ ทาฮิร่าย้ำว่าที่รู้ก็เพราะแอบตามไปเพื่อหาของขวัญให้แนนนี่เหมือนกัน แนนนี่ยิ้มออกโบกมือร่ายคาถาอย่างรวดเร็ว ผ้าพันคอที่ขาดเป็นริ้วกลับคืนสู่สภาพเดิมทันที
ทาฮิร่าถอนใจอย่างหนักใจเมื่อเห็นแนนนี่ใช้เวทมนตร์ นางย้ำกับเธอว่าบอกกี่ครั้งว่าห้ามใช้เวทมนตร์พร่ำเพรื่อ เพราะแนนนี่เกิดมาเป็นลูกครึ่งแม่มดลูกครึ่งมนุษย์การใช้เวทมนตร์พร่ำเพรื่อหรือใช้ในทางที่ผิดจะเป็นการทำลายตนเอง แนนนี่โผกอดทาฮิร่าอย่างประจบและรับปากว่าจะระวังให้มากขึ้น ทาฮิร่าใจอ่อนแม้จะรู้ว่าแนนนี่จะเผลอตัวบ่อยครั้งเมื่อไม่ได้ดั่งใจ แนนนี่อ้อนขอตะเกียงแก้วจากทาฮิร่าเป็นของขวัญวันเกิดเหมือนทุกปี เด็กสาวปฏิเสธของขวัญชิ้นอื่นจากทาฮิร่าจะขอเพียงอย่างเดียวคือตะเกียงแก้วที่ผูกพันมาตั้งแต่เด็ก ทาฮิร่ารับปากว่าปีนี้จะให้โดยตกลงกันก่อนว่าแนนนี่ต้องเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดีเป็นความลับอย่าให้ใครเห็นเด็ดขาด แนนนี่รับปาก ทาฮิร่าจึงบอกว่าคืนนี้จะนำมาให้ แต่ตอนนี้ให้แนนนี่กลับลงไปทำหน้าที่เจ้าของวันเกิดที่น่ารักได้แล้ว เด็กสาวพันผ้าพันคอผืนสวยวิ่งลงมาอย่างอารมณ์ดี แม้จะหงุดหงิดที่ต้องเป่าเค้กพร้อมกับดารกาแต่ก็พยายามข่มใจ แนนนี่ตัดเค้กลงจานแบ่งแล้วรีบยกไปให้ปัทมนกับจักรวาลที่โต๊ะก่อนดารกาจะแย่งทำ แต่เมื่อกลับมาอีกครั้งแนนนี่เห็นดารกากำลังประคองถาดเสิร์ฟเค้กให้ ภวัต รัดเกล้า และธานีที่โต๊ะกลางสนาม แนนนี่ก็โกรธขึ้นมาอีก เธอเหลือบเห็นผ้าพันคอสีชมพูที่ดารกาวางเอาไว้ แนนนี่ห้ามใจไม่อยู่สาวน้อยอารมณ์ร้ายหยิบผ้าพันคอผืนนั้นขึ้นมาฉีกขาดก่อนจะพับไว้เหมือนเดิม เมื่องานเลี้ยงเลิก ดารกาหยิบกล่องของขวัญกลับไปที่ห้อง เธอใจหายเมื่อเห็นว่าผ้าพันคอผืนสวยเป็นรอยขาดหลายแห่ง ดารกานึกรู้ว่าต้องเป็นฝีมือแนนนี่ เธอเดินไปที่ห้องน้องสาวและต่อว่าอย่างเสียใจ แต่แนนนี่กลับทำไม่รู้เรื่องปฏิเสธเสียงแข็ง แต่แล้วก็หน้าซีดเมื่อดารกาพูดเรียบๆ ว่า งั้นคงขาดมาจากที่ร้านแล้วภวัตไม่เห็น เธอจะไปบอกภวัตให้พาไปเปลี่ยนผ้าผืนใหม่ ดารกาออกจากห้องไปแล้ว แนนนี่หน้าเง้าไม่พอใจเธอจะยอมให้ดารกาทำอย่างนั้นไม่ได้ สาวน้อยพึมพำขอโทษทาฮิร่าก่อนจะผิดสัญญาใช้เวทมนตร์ทำให้ผ้าพันคอสีชมพูกลับสู่สภาพเดิมอย่างไม่ค่อยพอใจนัก
ส่วนดารกากลับไปที่ห้องส่วนตัว ได้แต่เสียใจที่โดนแกล้ง แต่เธอคงไม่บอกภวัตที่พูดไปก็เพราะต้องการให้แนนนี่กลัวบ้างเท่านั้น ดารกาสะบัดผ้าออกเพื่อพับเก็บ เด็กสาวอึ้งเมื่อเห็นว่าผ้าพันคอผืนสวยไม่มีรอยขาดแม้สักนิด ความดีใจที่ได้ของกลับมามีมากกว่าความสงสัยว่าเป็นไปได้อย่างไรกัน คืนนั้นดารกาหลับอย่างมีความสุข ส่วนแนนนี่คอยทาฮิร่าจนดึกกว่าทาฮิร่าจะมา นางนำตะเกียงแก้วมาให้แนนนี่ตามสัญญา ซึ่งแนนนี่ดีใจมากคว้ามือทาฮิร่าหายวับลงไปในตะเกียงแก้วด้วยกันทันที ห้องในตะเกียงแก้วสวยงามน่าอยู่เหมือนเดิมทุกอย่าง แนนนี่ลงนอนบนเบาะนุ่มสีสวยแล้วหลับไปอย่างง่ายดาย ทาฮิร่ายิ้มให้อย่างเอ็นดูก่อนจะกลับดินแดนเวทมนตร์ไป
ไม่กี่วันต่อมา จักรวาลนำข่าวดีมาบอกภวัตว่ามหาวิทยาลัยที่อเมริกาตอบรับให้เขาเข้าเรียนแล้ว และต้องเดินทางเร็วๆ นี้ ภวัตตั้งใจจะเรียนแพทย์ เขาเรียนเก่งจนได้ไปเรียนต่ออย่างที่ตั้งใจ ข่าวนี้ทำให้ดารกาซึมลงไป เธอเองก็รักและติดภวัตไม่ต่างจากแนนนี่เช่นกัน ส่วนแนนนี่ที่ใครต่อใครเป็นห่วงว่าคงอาละวาดไม่ยอมให้ภวัตไป กลับนิ่งเฉยไม่ทุกข์ร้อนเสียใจอะไรเลยสักนิดจนทุกคนแปลกใจ เมื่อถามเธอเรื่องนี้แนนนี่กลับพูดจาเป็นผู้ใหญ่ว่าภวัตไปเรียนเพื่อนำความรู้กลับมารักษาคนไข้ไม่ได้ไปเที่ยวสักหน่อยจะโกรธทำไม ที่จริงแล้วแนนนี่รู้ดีว่าเธอจะไปหาภวัตเมื่อไหร่ก็ได้ เพราะเธอเป็นแม่มด แว้บไปแว้บมาเมืองไทยกับอเมริกาง่ายนิดเดียว วันที่ไปส่งภวัตที่สนามบินแนนนี่หงุดหงิดที่ดารกาทำพวงกุญแจที่มีกรอบรูปใส่รูปตัวเองให้ภวัตติดตัวไปเป็นที่ระลึกเพื่อจะได้ไม่ลืมเธอ แต่ครู่เดียวก็ยิ้มระรื่นรูปถ่ายหรือจะสู้ตัวจริงอย่างแนนนี่ ทาฮิร่าแอบมาพบภวัตที่ห้องพักผู้โดยสาร นางมาอวยพรให้เขาเรียนสำเร็จและเดินทางปลอดภัย ชายหนุ่มงงๆ ที่ทาฮิร่าโผล่มาและหายไปอย่างรวดเร็วจนเขานึกชมว่านางช่างแข็งแรงเหลือเกิน ส่วนแนนนี่เมื่อกลับถึงบ้านเธอรีบกลับไปที่ห้องส่วนตัวก่อนจะหายแว้บไปพร้อมไม้กวาดพาหนะคู่ใจ เธอจะบินตามไปส่งภวัตพี่ชายคนพิเศษของเธอ ส่วนภวัตตกใจนึกว่าตาฝาดเมื่อเห็นแนนนี่ขี่ไม้กวาดบินลอยอยู่ข้างหน้าต่างเครื่องบิน เสียงใสๆ ของเธอที่ดังขึ้นในใจทำให้เขารู้ว่าไม่ผิดตัวเป็นแนนนี่จริง ภวัตทำอะไรไม่ถูก ไม่เข้าใจว่าเธอทำได้อย่างไร แนนนี่โบกมือให้เมื่อเห็นว่าเธอกำลังทำให้ผู้โดยสารที่นั่งข้างๆ สงสัยว่า ภวัตจะเพี้ยน เพราะมีเขาเพียงคนเดียวที่จะเห็นเธอได้ ในเวลาเดียวกันทาฮิร่าที่เฝ้ามองหลานสาวจากดินแดนเวทมนตร์ หนักใจที่แนนนี่อสูรน้อยตนนี้ฤทธิ์มากเหลือเกิน ขี่ไม้กวาดบินตามเครื่องบินได้อย่างไม่เหน็ดเหนื่อยตั้งแต่อายุนิดเดียว แนนนี่เป็นเด็กพิเศษมากจริงๆ เสียด้วย ทาฮิร่าอดสงสัยไม่ได้ว่าหลานสาวเป็นอสูรแต่ทำไมใช้เวทมนตร์และขี่ไม้กวาดคล่องแคล่วราวกับแม่มดอย่างนี้ เก่งกว่าจินนี่กับฮันนี่เสียอีก ส่วนภวัตแปลกใจมากขึ้นเมื่อเขาเดินทางถึงที่พักแล้วพบแนนนี่นั่งรออยู่แล้วที่เก้าอี้รับแขก
ภวัตเข้าใจว่าแนนนี่บินตามมาพร้อมครอบครัว แนนนี่ต้องอธิบายอยู่นาน แสดงการใช้เวทมนตร์อีกหลายอย่างกว่าภวัตจะยอมรับอย่างไม่เต็มใจนักว่าเธอเป็นแม่มด เวลาผ่านไปอีก แนนนี่โตเป็นสาวสวยคมเข้มสะดุดตา เธอเรียนที่มหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง ส่วนดารกามุมานะจนสอบติดแพทย์จนได้ เธอตั้งใจเรียนแพทย์เหมือนภวัตเพราะต้องการใกล้ชิดกับเขาทั้งที่เคยตั้งความฝันว่าจะเป็นนักธุรกิจเหมือนปัทมน ขณะที่ภวัตเรียนอยู่อเมริกา คนอื่นๆ ในครอบครัวติดต่อกับเขาทางสื่อทันสมัยต่างๆ ทั้งโทรศัพท์หรืออินเทอร์เน็ต แต่แนนนี่กลับใช้วิชาแม่มด แม้จะโบราณแต่ได้ผลดีกว่าเพราะเธอสามารถไปพบกับภวัตได้ตลอดเวลา แม้จะต้องทำตามเงื่อนไขของภวัตอยู่บ้าง เช่นให้ระวังตัวหรือห้ามมากวนตอนใกล้สอบแนนนี่ก็พอใจ
บ่ายวันนี้ รัดเกล้านำข่าวของภวัตมาเล่าให้ฟังเหมือนเคย แต่ข่าวนี้กลับทำให้ดารกาเสียใจมาก รวมทั้งแนนนี่ด้วย รัดเกล้าบอกว่ากลับมาคราวนี้ภวัตคงพาแฟนกลับมาด้วย เธอชื่อ บุษบา (ณิชานันท์ ฝั้นแก้ว) เป็นผู้หญิงที่สนิทสนมกับภวัตมากเป็นพิเศษ ดารกาเสียใจเจ็บปวดจนต้องหนีกลับไปร้องไห้ที่ห้องพัก เธอรักภวัตเหลือเกิน ในความรู้สึกของเธอภวัตไม่ใช่พี่ชายมานานหลายปีแล้ว แต่เขาเป็นคนพิเศษในใจเธอต่างหาก ส่วนแนนนี่แทบอดใจรอจนถึงค่ำไม่ไหว คืนนี้เธอต้องไปคุยกับภวัตให้รู้ความจริงเกี่ยวกับบุษบาให้ได้ ที่ห้องพักของภวัตชายหนุ่มโดนแนนนี่แม่มดจอมป่วน ซักถามเขาอย่างละเอียดเรื่องบุษบา ซึ่งเขาตอบตามความจริงว่าไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่าเพื่อน แนนนี่ถามจนพอใจ เมื่อมั่นใจว่าภวัตไม่ได้รักบุษบาเธอโผเข้ากอดภวัตแน่นอย่างดีใจ บอกย้ำว่าเขาต้องรักเธอดูแลเธอคนเดียวเท่านั้น ภวัตใจเต้นแรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่แนนนี่เข้ามากอดเขา แต่ทุกครั้งเธอเหมือนน้องน้อยน่ารักขี้ประจบทำให้เขารู้สึกเอ็นดู ไม่เคยใจเต้นแรงอย่างนี้สักครั้ง ภวัตค่อยๆ ปลดมือยัยจอมแก่นออกจากตัวข่มใจไม่ให้ตื่นเต้นจนแนนนี่รู้ เพราะเธออ่านใจเขาได้ง่ายมากถ้าภวัตเผลอตัวคิดเรื่อยเปื่อย เขารู้ว่าถ้าเขาทำจิตว่างแล้วแนนนี่จะไม่สามารถอ่านใจเขาได้เลย ชายหนุ่มแกล้งไล่แนนนี่กลับโดยอ้างว่าเขาจะดูหนังสือเตรียมสอบครั้งสุดท้าย แนนนี่ยอมกลับแต่โดยดี ภวัตข่มใจอ่านหนังสือต่อไป พยายามทำจิตนิ่งๆ แต่ภาพของแนนนี่แม่มดสาวสวยคอยรบกวนจิตใจอยู่ร่ำไป
วันหนึ่ง แนนนี่นึกสนุกแอบเดินทางไปที่ดินแดนเวทมนตร์ทั้งที่รู้ว่า ทาฮิร่าห้ามนักหนา แต่ความอยากรู้อยากเห็นทำให้เธอแอบไปจนได้ แนนนี่ตื่นตาตื่นใจมากกับความสวยงามของดินแดนแห่งนี้ สาวน้อยไปที่โรงเรียนเวทมนตร์ เธอนั่งฟังการสอนของครูอย่างสนุกสนาน คาถาต่างๆ พรั่งพรูเข้าสมองอย่างง่ายดาย ช่างต่างจากการเรียนที่มหาวิทยาลัยบนโลกจริงๆ ที่แนนนี่ไม่เข้าใจอะไรเลย หญิงสาวหลบออกไปก่อนที่ใครจะทันสังเกต เธอเดินเพลินๆ ไปที่ห้องสมุดสะดุดตากับหนังสือเล่มหนึ่งปกสีดำสนิทตัวหนังสือสีทองกระจ่างที่หน้าปก แนนนี่หยิบขึ้นมาเปิดดูอย่างสนใจ ตาคมสวยเป็นประกายอย่างถูกใจเมื่อเห็นว่าเป็นตำราที่รวบรวมคาถาบทพิเศษๆ เอาไว้ แนนนี่พึมพำขอยืมก่อนจะเก็บหนังสือเล่มนั้นใส่กระเป๋าสะพายทันที แม่มดน้อยออกเที่ยวต่อไปอย่างตื่นตาตื่นใจ จนมาถึงตลาดกลางเมืองซึ่งทาฮิร่า บาบาร่ากับไทเกอร์ออกมาซื้อของเช่นกัน แนนนี่เดินปะปนกับชาวเมืองไปเรื่อยๆ เธอเที่ยวเพลินจนไม่ทันระวังตัว มารู้สึกตัวอีกทีเจ้าไทเกอร์แมวตัวร้ายก็มาอยู่ตรงหน้าแล้ว ไทเกอร์เดินวนดมฟุดฟิดรอบตัวเธอ มันลังเลไม่แน่ใจเมื่อได้กลิ่นอสูรจางๆ จากตัวแนนนี่ กลิ่นอ่อนมากแต่ก็เป็นกลิ่นอสูร ไทเกอร์โวยวายเอะอะให้ช่วยจับอสูรทันที ทาฮิร่าตกใจแทบช็อกเมื่อเห็นแนนนี่ เหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวายจนแนนนี่ทำอะไรไม่ถูกแต่เมื่อหันไปเห็นทาฮิร่าก็ใจชื้น สองยายหลานคุยกันทางกระแสจิต ทาฮิร่าแอบร่ายมนตร์ช่วยแนนนี่ให้หนีรอดไปได้อย่างหวุดหวิดเต็มที
คืนนั้นทาฮิร่าตามมาดุแนนนี่ในตะเกียงแก้วมากมาย นางชี้ให้เห็นถึงอันตรายต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นกับแนนนี่ถ้ายังดื้อไม่เชื่อนางและแอบไปที่ดินแดนเวทมนตร์อีก และการที่แนนนี่หยิบตำราสำคัญออกมาจากดินแดนเวทมนต์ถือเป็นความผิดที่ร้ายแรง แนนนี่จึงหยิบตำราเล่มนั้นออกมาคืนทาฮิร่า หญิงสาวยิ้มไม่ออกเมื่อทาฮิร่าบอกว่าตำราเล่มนี้จะเป็นเหมือนอุปกรณ์ส่งสัญญาณที่ทำให้คนจากดินแดนเวทมนตร์ตามมาจับตัวเธอได้ ทาฮิร่าจึงสั่งห้ามแนนนี่ไม่ให้ไปที่นั่นอีกเด็ดขาด แนนนี่ยอมสัญญาแต่โดยดี ข่าวการเดินทางกลับมาของภวัตทำให้แนนนี่และดารกาตื่นเต้น ทุกคนในครอบครัวไปรับเขาที่สนามบิน ภาพของหญิงสาวสวยที่เดินคล้องแขนภวัตมาอย่างสนิทสนม คนอื่นตื่นเต้นดีใจตรงข้ามกับพี่น้องสองสาวที่หมดความสุขทันที
แนนนี่หงุดหงิดเมื่อจำได้ว่าเธอคือบุษบา หน้าสวยๆ บึ้งดุตาวาวน่ากลัวอย่างโกรธจัด ส่วนดารกาเจ็บจี๊ดที่หัวใจเธอรู้สึกเหมือนตัวกำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ เหมือนมีพลังอะไรบางอย่างที่รุนแรงมากอยู่ในตัวเอง ดารกาพยายามข่มไว้อย่างสุดความสามารถ เธอถามภวัตถึงพวงกุญแจแทนใจของเธอ ภวัตตอบว่ายังอยู่ทำให้ดารกาใจชื้นขึ้น ส่วนแนนนี่หงุดหงิดหวงภวัตหมั่นไส้ทั้งดารกาและ บุษบาที่วุ่นวายกับภวัตเหลือเกิน สาวน้อยจึงพึมพำร่ายคาถาขโมยพวงกุญแจรูปดารกาซึ่งเป็นของที่ระลึกแทนใจของพี่สาวมาจากภวัต เธอทำหน้าเฉยมองชายหนุ่มที่ค้นกระเป๋าเสื้อ กระเป๋ากางเกงวุ่นวายไปหมดเพื่อหาพวงกุญแจมาให้ดารกาเห็นว่าเขาเก็บไว้อย่างดีจริงๆ ภวัตแปลกใจที่หาไม่เจอ ในเมื่อเขามั่นใจว่าเก็บไว้ในกระเป๋ากางเกง สุดท้ายเขาต้องบอกดารกาว่าสงสัยเขาจะทำตกหายที่ไหนสักแห่ง เมื่อดารการู้ว่าภวัตทำพวงกุญแจหายหญิงสาวกลับเสียใจมากขึ้นไปอีก เธอรู้สึกเหมือนถูกทอดทิ้งไม่มีใครสนใจห่วงใยเลยสักคน หน้าจ๋อยๆ ของดารกาทำให้ภวัตสงสารมาก เขานึกรู้ว่าคงเป็นฝีมือแนนนี่แต่ทำอะไรไม่ได้ เขาตั้งใจว่าต้องพูดกับแนนนี่ให้รู้เรื่องเสียที
บุษบาแยกกลับไปกับหมอไชย (ตระการ พันธุมเลิศรุจี) พี่ชายซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง บุษบาเองก็มีหุ้นอยู่มากเหมือนกัน สองพี่น้องเป็นผู้บริหารคนสำคัญของโรงพยาบาลแห่งนี้ บุษบาสวีทกับภวัตอย่างไม่เกรงใจใคร เมื่อกลับถึงบ้านแนนนี่กลับไปที่ห้องส่วนตัว หยิบพวงกุญแจรูปดารกาออกมาโยนไว้บนโต๊ะเล็กหัวเตียงข้างตะเกียงแก้วใบน้อยอย่างหงุดหงิด เธอหมั่นไส้ทั้งดารกาและภวัตที่ใส่ใจกับพวงกุญแจนี้เหลือเกินทั้งที่แสนจะไร้สาระที่สุด ที่สำคัญทำไมภวัตไม่ยอมเข้าใจเสียทีว่าเขากับแนนนี่นั้นเกิดมาคู่กัน เธอไม่ยอมให้ภวัตเห็นผู้หญิงอื่นดีกว่าเธอแน่ๆ แม่มดจอมแก่นคิดอะไรเรื่อยเปื่อยจนไม่ได้ยินเสียงดารกาที่เปิดประตูเข้ามาในห้อง แนนนี่ตกใจเมื่อเห็นพี่สาวเดินมาถึงตัว ส่วนดารกาเมื่อเห็นพวงกุญแจของเธอวางอยู่บนโต๊ะหัวเตียง หญิงสาวหยิบขึ้นมากำไว้แน่นพูดอะไรไม่ออก ได้แต่มองน้องสาวอย่างเสียใจที่สุด น้ำตากลบตา แม้จะสงสัยว่าแนนนี่เอามาได้อย่างไรแต่ก็ยังน้อยกว่าอารมณ์ตัดพ้อน้อยใจเสียใจ ส่วนแนนนี่แก้ตัวไม่ออกได้แต่เจ็บใจตัวเองที่ประมาทไม่ซ่อนพวงกุญแจให้เรียบร้อย ดารกากำพวงกุญแจไว้ในมือเดินออกไปจากห้องนั้นทันที
เธอพบกับปัทมนที่หน้าห้องน้องสาว เพียงเห็นหน้าดารกาปัทมนก็รู้ว่าแนนนี่ทำเรื่องอีกแล้ว เธอดึงลูกสาวที่น่าสงสารเข้ามากอด เท่านั้นเองดารกาก็หมดความอดทน เธอกอดมารดาแน่นร้องไห้จนแทบไม่มีน้ำตาจะไหล ดารกาสะอื้นพลางเล่าทุกอย่างให้มารดาฟังจนหมด คืนนั้นปัทมนจึงเรียกแนนนี่มาพบที่ห้องพระ อบรมสั่งสอนอยู่นานและลงโทษด้วยการให้แนนนี่สวดมนตร์จากหนังสือสวดมนตร์จนจบเล่ม ดังนั้นกว่าแนนนี่จะได้ไปหาภวัตก็ดึกมากแล้ว เธอเสียใจที่ภวัตต่อว่าเรื่องพวงกุญแจของดารกาทันทีที่พบหน้า เขาไม่เปิดโอกาสให้แนนนี่พูดอะไรทั้งสิ้น แม่มดสาวน้อยจึงน้อยใจที่สุดเมื่อเข้าใจว่าเขาห่วงใยใส่ใจดารกามากกว่าเธอ แนนนี่มองเขาอย่างเจ็บช้ำใจที่สุดก่อนจะหายตัวกลับไปในตะเกียงแก้ว ทิ้งภวัตให้มองตามอย่างเสียใจที่ดุเธอมากไปหน่อย แนนนี่เงียบหายไปจนภวัตเริ่มกังวล ทว่างอนได้ไม่กี่วันสาวน้อยจอมแก่นก็ตามมาป่วนเขาอีกจนได้ แนนนี่ไม่เคยโกรธเขาได้เลยจริงๆ
ส่วนภวัตตัดสินใจไปทำงานกับหมอไชย เขามีความสุขกับการทำงานแต่การที่บุษบาตามวุ่นวายกับเขาทำให้ภวัตอึดอัดใจ เขายอมรับว่าเคยคิดจะพัฒนาความสัมพันธ์กับเธอให้มากกว่านี้ แต่ก็ต้องเปลี่ยนใจเพราะบุษบาไม่สามารถเข้ากับคนในครอบครัวเขาได้เลย ครอบครัวเขาที่หมายรวมถึง ปัทมนกับลูกๆ ด้วย ยิ่งนานวันบุษบาก็ยิ่งแสดงธาตุแท้ที่ร้ายกาจของเธอออกมา จนรัดเกล้าต้องมาออกปากกับเขา เธอเล่าว่าวันนี้ขณะที่ทุกคนสนุกสนานกับปาร์ตี้น้ำชา รัดเกล้าเห็นบุษบาทำกิริยาไม่น่าดูทำท่ารังเกียจดูถูกดารกาซ้ำร้ายยังพูดตอกย้ำเรื่องดารกาเป็นลูกที่แม่ไม่ต้องการ เป็นลูกสาวแม่ค้าขายปลากลางตลาด แม่ค้าที่โดนข่มขืนจนไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อของลูกในท้อง เมื่อคลอดจึงต้องทิ้งลูกซึ่งก็คือดารกานั่นเองจนดารกาต้องร้องไห้ แม้กระทั่งแนนนี่บุษบาก็ไม่ละเว้น รัดเกล้ามาถามภวัตให้แน่ใจว่าคิดจะให้บุษบามาเป็นพี่สะใภ้เธอหรือไม่ รัดเกล้ายิ้มได้เมื่อภวัตปฏิเสธว่าเขาไม่ได้รู้สึกกับบุษบามากไปกว่าความเป็นเพื่อน ภวัตไม่ได้บอกน้องสาวว่าคนที่ทำให้เขาเปลี่ยนใจคือแนนนี่ สาวน้อยคนนี้ทำให้เขารักเธอมากขึ้นทุกวัน แต่เขาต้องข่มใจไม่บอกให้เธอรู้ เขาจะรอจนกว่าเธอจะเรียนจบ ส่วนบุษบาความรักทำให้ตาบอด เธอรักภวัตมากเหลือเกิน บุษบาเกลียดทั้งดารกาและแนนนี่น้องสาวร่วมโลกของเขามาก ทำไมเธอจะดูไม่ออกว่าสองสาวนั่นรู้สึกอย่างไรกับภวัต เธอจะต้องหาทางกำจัดสองคนนั่นให้ได้
วันหนึ่ง บุษบามาที่บ้านภวัตขณะที่กำลังกินสปาเกตตีเป็นอาหารกลางวันกัน แนนนี่ซึ่งเลิกเรียนกลับมาพอดี เข้ามาขอร่วมโต๊ะด้วย บุษบาไม่พอใจมาก เธอทักทายแนนนี่อย่างอ่อนหวาน หยิกแกมหยอกแต่เชือดเฉือนร้ายลึกจนแนนนี่ทนไม่ไหว เธอโต้ตอบด้วยการเสกให้เส้นสปาเกตตีในปากบุษบาดิ้นกระดุบกระดิบจนเธอต้องคายออกมา ให้บุษบาตาฝาดเห็นสปาเกตตีเป็นหนอนดิ้นยั้วเยี้ยหลุดออกมาจากปาก เส้นสปาเกตตีในจานกลายเป็นหนอนดิ้นกระดุบกระดิบน่าคลื่นไส้ แนนนี่อมยิ้มเมื่อบุษบากรีดร้องโวยวายวิ่งหนีกลับไปที่รถขับออกไปทันที เด็กสาวหมดสนุกเมื่อหันมาเห็นภวัตกำลังมองเธอดุๆ วันนั้นภวัตอบรมแนนนี่มากมายและให้เธอสัญญาว่าจะไม่ใช้เวทมนตร์แกล้งใครอีก บุษบาหายไปหลายวัน ทำให้ทุกคนในครอบครัวมีความสุขมากขึ้นโดยเฉพาะแนนนี่ บ่ายวันหนึ่งภวัตกับแนนนี่ออกไปซื้อของด้วยกัน ชายหนุ่มซื้อเสื้อผ้าใหม่หลายชุด แนนนี่ช่วยเขาเลือกอย่างตั้งใจ ภวัตยอมรับว่าเธอมีรสนิยมดีและเลือกได้ถูกใจเขามาก ขณะที่แนนนี่ชวนภวัตดูต้นคริสต์มาสต์ต้นใหญ่ที่ประดับไฟระยิบตั้งอยู่ที่โถงใหญ่กลางห้างสรรพสินค้าหรู ที่ระเบียงชั้นบนสุดเด็กชายคนหนึ่งปีนขอบระเบียงออกมาเพื่อหยิบดาวบนยอดต้นไม้จนพลัดตกลงมา เสียงกรีดร้องดังลั่นจากคนที่พบเห็น ทุกอย่างหยุดนิ่งไปชั่วครู่เมื่อแนนนี่ร่ายเวทมนตร์ให้เด็กน้อยลอยกลับไปอยู่บนระเบียงลึกเข้าไปอย่างปลอดภัย เมื่อทุกอย่างกลับสู่ปกติ ภวัตเห็นมารดาของเด็กคว้าลูกชายอุ้มไว้อย่างปลอดภัยก็รู้ว่าเป็นฝีมือแนนนี่ เด็กสาวพึมพำขอโทษที่ผิดสัญญา แต่ภวัตกลับบอกว่าใช้เวทมนตร์ช่วยคนอย่างนี้ไม่เป็นไร เขายิ้มให้เธอแล้วจูงมือแนนนี่ชวนไปร้านอาหารอร่อยในห้างนั้น
บังเอิญว่าหมอไชยกับบุษบาอยู่ที่นั่นด้วย หมอไชยชวนร่วมโต๊ะด้วย แนนนี่หมดสนุกทันที ส่วนบุษบายิ่งเกลียดแนนนี่มากขึ้นไปอีก ภาพที่ภวัตเดินจูงมือแนนนี่ทำให้เธอแค้นจนสุดจะแค้น ขณะที่หมอไชยกับภวัตคุยเรื่องงานอย่างสนุกสนาน สองสาวกลับปะทะคารมเชือดเฉือนว่าใครกันแน่ที่เป็นคนพิเศษของภวัต แนนนี่หน้ามุ่ยเมื่อบุษบากระซิบว่าที่อเมริกาภวัตไม่ได้เพียงจับมือเธอเหมือนพี่ชายจูงน้องสาวอย่างเมื่อครู่หรอก แต่เขากับเธอทำมากกว่านั้นคือทั้งกอดและก็จูบ อาหารมื้อนั้นไม่อร่อยที่สุดในความรู้สึกของแนนนี่ โชคดีที่หมอไชยชวนบุษบากลับไปประชุมที่โรงพยาบาลก่อนที่แนนนี่จะทนข่มใจไม่ไหว สองพี่น้องแยกไปแล้ว ภวัตแปลกใจที่แนนนี่บ่นอยากกลับบ้าน
คืนนั้น ขณะที่ภวัตนั่งหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตอยู่เพลินๆ แนนนี่ก็ปรากฏตัวขึ้น เธอมาถามเขาเรื่องบุษบา อยากจะรู้ให้ได้ว่าเขาเคยจูบบุษบาหรือไม่ พูดไปพูดมาแนนนี่ก็พาล เธอขอให้เขาจูบเธอบ้าง บอกซื่อๆ ว่าอยากรู้ว่าเป็นอย่างไร ภวัตพยายามบ่ายเบี่ยง เขาอยากให้ทุกอย่างค่อยเป็นค่อยไปแต่แนนนี่ไม่ยอม สาวน้อยจอมแก่นบอกว่าถ้าเขาไม่จูบเธอ พรุ่งนี้แนนนี่จะไปที่มหาวิทยาลัยจะไปถามเพื่อนผู้ชายและจะให้พวกนั้นจูบเธอแทนซึ่งภวัตยอมไม่ได้เด็ดขาด เขาดึงมือแนนนี่ให้มายืนใกล้ๆ ก่อนจะก้มหน้าจูบเธอเบาๆ ที่ริมฝีปาก สัมผัสนั้นแผ่วเบาราวขนนกแต่ก็ทำให้เขาและเธอหน้าแดงร้อนวูบไปทั้งตัว ภวัตไล้แก้มแนนนี่เบาๆ พูดเสียงเข้มห้ามแนนนี่ไปทำอย่างนี้กับผู้ชายอื่นเด็ดขาด แนนนี่รับปากอายๆ แล้วหายตัวไป ภวัตถอนใจยาวเขาต้องพยายามอดทนข่มใจให้มากกว่านี้ ต้องรอจนกว่ายัยจอมแก่นนี่จะเรียนจบ เขาจึงจะบอกเธอได้ว่าเขาพร้อมจะดูแลเธอไปตลอดชีวิต
ตลอดเวลานั้นทั้งภวัต และแนนนี่ไม่รู้ว่าทาฮิร่ามาแอบดูอยู่ด้วย นางพร้อมจะจัดการภวัตถ้าเขาล่วงเกินแนนนี่มากไปกว่านี้ นางหายตัวตามแนนนี่ไปที่ตะเกียงแก้ว ตามไปอบรมหลานสาวจอมแก่นแสนซนอีกนาน หลังจากวันนั้นบุษบาตัดสินใจเด็ดขาดที่จะกำจัดมารหัวใจทั้งดารกาและแนนนี่ วันหนึ่งขณะที่ดารกากำลังจะกลับบ้าน เธอถูกชายลึกลับสามคนจับตัวไปที่บ้านร้างแห่งหนึ่ง บุษบาจ้างชายโฉดพวกนี้ให้ทำร้ายเธอ พวกมันพยายามจะข่มขืนดารกา หญิงสาวดิ้นรนหนีสุดชีวิต ด้วยความกลัวและอารมณ์เคียดแค้นที่เก็บกดมานาน ทำให้พลังร้ายในตัวดารกาปรากฏขึ้นมา เธอกรีดร้องดังลั่นเสียงนั้นทำให้ทุกอย่างสั่นสะเทือนราวกับเกิดแผ่นดินไหว ลมพายุพัดหมุนแรงรอบตัวดารกา ขณะที่หญิงสาวยืนนิ่ง แววตาที่มองออกมาเกรี้ยวกราดราวกับจะลุกเป็นไฟ สาวสวยหน้าหวานบอบบางกลายเป็นปีศาจร้ายน่ากลัว ชายทั้งสามตกใจแทบสิ้นสติ วิ่งหนีลนลานไปคนละทิศละทาง เมื่อทุกอย่างสงบลงดารกากลับบ้านอย่างอ่อนเพลียเธอไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ลึกๆ แล้วรู้สึกดีใจที่เธอมีพลังพร้อมที่จะจัดการคนที่ทำร้ายเธอได้แล้ว เมื่อครั้งแรกทำไม่สำเร็จ บุษบาไม่ละความพยายามส่งชายโฉดไปอีกหลายคนมากกว่าเดิมเพื่อทำลายดารกาให้เธอมีมลทินให้ได้ ภวัตจะได้เลิกสนใจดารกาเสียที
ในวันเกิดเหตุ ดารกาถูกจับตัวไปอีกครั้ง คราวนี้กลุ่มคนร้ายกักขฬะต่ำทรามมากกว่าเดิม เธอถูกพวกมันจับตัวไว้แน่น เสื้อผ้าโดนกระชากขาดวิ่น บุษบาซึ่งอยู่ที่นั่นด้วยมองอย่างสะใจ เธออยากจะเห็นดารกามารหัวใจของเธอโดนทำลายต่อหน้าต่อตา เมื่อเหตุการณ์วิกฤตดารกาดึงพลังในตัวเธอออกมาจนได้ กลุ่มชายชั่วผงะเมื่อแววตาสาวน้อยเปลี่ยนเป็นประกายตาของปีศาจ แววตาเปล่งประกายเขียวเรืองแสงน่ากลัว ดารกาสะบัดแขนเบาๆ กลุ่มชายโฉดที่จับตัวเธอก็กระเด็นไปคนละทิศละทาง หญิงสาวโบกมือไปมากรีดเสียงร้องอย่างดุร้ายน่ากลัว ลมพายุหมุนแรงบ้านร้างถล่มลงทับคนร้ายตายหมด บุษบาหาที่ซ่อนรอดตายหวุดหวิดแต่ก็หนีไม่ทัน ดารกาดักรออยู่แล้ว เมื่อรู้ว่าบุษบาอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เธอจึงแก้แค้นอย่างสาสม บุษบาจึงตายอย่างทรมาน เหตุการณ์ทั้งสองครั้งทำให้พลังของดารกามีมากขึ้น เมื่อบุษบาตายอย่างผิดปกติ ภวัตเข้าใจว่าเป็นฝีมือแนนนี่รวมถึงปัทมนด้วย แนนนี่โดนต่อว่ามากมายแต่การที่ภวัตหมางเมินเย็นชากับเธอกลับทำให้แนนนี่เสียใจที่สุด ประกอบกับทาฮิร่าเองก็หายไป แนนนี่ตัดสินใจไปหายายที่ดินแดนเวทมนตร์ แต่คราวนี้ แนนนี่ไม่โชคดีอย่างครั้งที่แล้ว สาวน้อยถูกจับตัวจนได้ เธอถูกพันธนาการแน่นหนาและทำให้ ทาฮิร่าเดือดร้อนไปด้วย แนนนี่พยายามร่ายคาถาหลบหนี แต่บนดินแดนแห่งนี้คาถาของเธอแทบไม่มีผลอะไรเลย ทางโลกมนุษย์ทุกคนร้อนใจที่แนนนี่หายไป โดยเฉพาะภวัตที่เพิ่งรู้แน่แก่ใจว่าเขารักแนนนี่มากแค่ไหน
ภวัตเจ็บปวดทรมานเมื่อติดต่อแนนนี่ไม่ได้ เธอหายไปอย่างไร้ร่องรอยจริงๆ ส่วนทาฮิร่าแอบมาบอกปัทมนว่าแนนนี่ถูกจับตัวไว้ที่ดินแดนเวทมนตร์และถูกตัดสินให้ถูกกำจัดเพราะเป็นอสูร ปัทมนใจจะขาดเธอได้แต่บอกทาฮิร่าว่า แนนนี่ไม่ใช่อสูรอย่างแน่นอน การหายตัวไปของแนนนี่ทำให้ดารกามีความสุข เธอฉวยโอกาสเข้าไปในห้องน้องสาวหยิบตะเกียงแก้วใบสวยขึ้นมาชื่นชมอย่างพอใจ เพียงคิดว่าอยากเข้าไปในตะเกียงแก้ว ดารกาก็ได้เข้าไปสมใจ บรรยากาศในนั้นสวยงามน่าอยู่มาก ของส่วนตัวของแนนนี่ที่วางไว้ทำให้ดารการู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของแนนนี่ ในเวลาเดียวกัน ทาฮิร่ากับแนนนี่พยายามหาทางหนีให้ได้ สองพลังแม่มดทำให้เครื่องพันธนาการของแนนนี่หลุดออก แม่มดน้อยหนีกลับมาโลกมนุษย์ได้อย่างหวุดหวิด เด็กสาวกลับไปที่ห้องนอนสัมผัสพิเศษทำให้รู้ว่าดารกาอยู่ในตะเกียงแก้ว แนนนี่หยิบตะเกียงเขย่าอย่างแรงจนดารกาอยู่ไม่ได้ ต้องปรากฏตัวออก ต่างฝ่ายยืนเผชิญหน้ากันด้วยตัวตนที่แท้จริง แววตาดารกาเปล่งประกายเขียวเรือง เธอได้โอกาสกำจัดแนนนี่แล้ว เมื่อไม่มีแนนนี่ภวัตก็จะรักเธอคนเดียว สองสาวต่อสู้กันดุเดือด
แนนนี่เป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำเพราะร่างกายอ่อนเพลียจากดินแดนเวทมนตร์ ดารกาบังคับให้ร่างแนนนี่ลอยขึ้นออกไปทางหน้าต่าง เธอพูดอย่างสะใจว่าแนนนี่ต้องตายอย่างน่าอนาถเหมือนบุษบา ตายเหมือนเป็นอุบัติเหตุ แต่ที่จริงแล้วเป็นเพราะดารกา แนนนี่พยายามขืนตัวไว้ แต่ก็ยากเต็มที ดารกาฆ่าคนตายไปหลายคนทำให้พลังอสูรในตัวเธอแข็งแกร่งมากขึ้น ก่อนที่แนนนี่จะตกลงไปทางหน้าต่าง ภวัตเข้ามาช่วยไว้ทันเวลา เขาดึงแนนนี่กลับเข้ามาจนได้ ชายหนุ่มกอดเธอไว้อย่างแสนรัก ภาพนั้นทำให้ดารกาแค้นมากขึ้นไปอีกเธอพยายามจะทำร้ายแนนนี่ให้ได้ แต่ภวัตหมุนตัวออกมาบังแนนนี่ไว้ เขาสบตาเขียวเรืองคลั่งแค้นของดารกาอย่างไม่กลัวพูดชัดเจนว่าถ้าดารกาจะฆ่าแนนนี่ก็ต้องฆ่าเขาก่อนเพราะเขาจะไม่ยอมให้ใครทำร้ายแนนนี่เด็ดขาด ดารกากรีดเสียงร้องอย่างโกรธแค้น เธอหายตัวไปที่ดินแดนเวทมนตร์ทันที อสูรร้ายในร่างดารกาทำลายดินแดนเวทมนต์อย่างบ้าคลั่ง
การปรากฏตัวของเธอทำให้ผู้นำแม่มดและคนอื่นๆ รู้ว่าใครคืออสูรร้ายตัวจริง ส่วนแนนนี่รีบตามดารกามาเพื่อขัดขวางเธอโดยมีภวัตตามมาด้วย แนนนี่สู้กับดารกาอย่างไม่กลัว ทั้งคู่เก่งพอๆ กัน ดินแดนเวทมนตร์โดนดารกาทำลายเสียหายมาก แผ่นดินแตกแยกเป็นรอยลึกอย่างน่ากลัว ทาฮิร่าได้แต่เฝ้ามองอย่างเป็นห่วง ผู้นำแม่มดเข้ามาบอกว่าที่จริงแล้วแนนนี่เกิดมาเพื่อกำจัดอสูรร้าย แต่เป็นเพราะเกิดในวันเดียวกัน เวลาเดียวกัน ทำให้เข้าใจผิด แนนนี่จะกำจัดดารกาได้แต่ก็ต้องตายไปพร้อมกัน ทาฮิร่ากับภวัตใจหายหาทางช่วยแนนนี่แต่ก็ยากเต็มที เมื่อถึงเวลาที่ชะตากำหนด แนนนี่รู้หน้าที่ว่าจะกำจัดอสูรร้ายตนนี้อย่างไร แม่มดน้อยแนนนี่ส่งกระแสจิตบอกทาฮิร่าว่า เธอรักนางมากและสำหรับภวัตเธอรักเขาและจะรักเขาคนเดียวตลอดไป แนนนี่กระซิบลาทุกคนก่อนจะคว้าแขนดารกาจับไว้แน่น พูดเสียงเข้มให้มาด้วยกัน เธอดึงร่างดารกาหายลงไปในรอยแยกของแผ่นดินด้วยกัน แนนนี่จะฝังร่างเธอกับดารกาลงใต้พื้นปฐพีลงไปให้ลึกที่สุด ร่างของสองสาวดิ่งลงไปอย่างรวดเร็ว ยิ่งลงลึกดารกาก็ยิ่งหมดแรงรวมถึงแนนนี่ด้วย ในช่วงเวลาเดียวกันปัทมนที่นั่งสวดมนตร์อยู่ในห้องพระ เห็นเหตุการณ์ทุกอย่างจากสมาธิเธอพยายามเตือนสติดารกาให้หยุดทำบาป ในช่วงเวลาเดียวกัน เสียงสวดมนตร์ของปัทมนทำให้สองสาวชะงัก แนนนี่กระซิบลาปัทมนก่อนจะลากดารกาดิ่งลงไปอีก อสูรร้ายดารกาต้องถูกกำจัด ตรงข้ามกับดารกาที่กระแสบุญของปัทมนทำให้เธอรู้สึกตัวได้สำนึกในความผิด ดารการวบรวมพลังครั้งสุดท้ายสะบัดแขนหลุดจากแนนนี่ เธอผลักน้องสาวจนสุดกำลังให้ลอยกลับขึ้นไป ร่างของสองสาวแยกจากกัน แนนนี่ลอยสูงขึ้น ส่วนดารกากลับดิ่งลึกลงอย่างรวดเร็ว เธอตะโกนบอกแนนนี่ให้ช่วยดูแลทุกคนโดยเฉพาะปัทมนและภวัต ทันทีที่ร่างแนนนี่ลอยพ้นรอยแยกของแผ่นดิน ผู้นำแม่มดและคนอื่นๆ ช่วยกันร่ายมนตร์จนผืนแผ่นดินกลับสมานกันสนิทเป็นดินผืนเดียวกันเหมือนเดิม อสูรร้ายดารกาถูกฝังจนไม่มีทางจะกลับมาทำร้ายใครได้อีกต่อไป ทาฮิร่ากลายเป็นแม่มดคนดังเป็นวีรสตรีแม่มดที่ปกป้องเลี้ยงดูผู้กำจัดอสูร ซึ่งก็คือแนนนี่จนโต เพราะถ้าทาฮิร่ากำจัดทารกน้อยแนนนี่ตั้งแต่พบตัว ดินแดนเวทมนตร์ต้องถูกทำลายจนหมดแน่นอน
แนนนี่กับภวัตกลับมาใช้ชีวิตบนโลกมนุษย์เหมือนเดิม เมื่อใครถามหาดารกาว่าหายไปไหน ปัทมนจำต้องบอกทุกคนว่าดารกาไปเรียนต่อต่างประเทศ เมื่อรัดเกล้าเรียนจบมาทำงานที่บริษัทของปัทมนซึ่งธานีเข้ามาช่วยบริหารงาน รัดเกล้ากับธานีเป็นคู่กัดที่น่ารักในสายตาของปัทมนและจักรวาล และคู่กัดก็กลายมาเป็นคู่รักจนได้ ธานีหมั้นกับรัดเกล้า ส่วนภวัตรอเวลาที่แนนนี่จะเรียนจบแล้วจะหมั้นกับเธอเป็นคู่ต่อไป ทาฮิร่าได้แต่ปลื้มใจที่หลานสาวจะมีความสุข ภวัตกับแนนนี่เกิดมาคู่กันจริงๆ เมื่อหมดกังวลในเรื่องแนนนี่ ทาฮิร่าจึงออกไปเที่ยวรอบจักรวาล โดยมีบาบาร่าและไทเกอร์ตามไปด้วย
เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นอาเพศบอกลางร้ายที่น่ากลัวมาก กลุ่มแม่มดอาวุโสรีบไปที่หอประชุมอย่างรู้หน้าที่ เมื่อที่ประชุมพร้อม ประธานซึ่งเป็นผู้ที่อาวุโสที่สุดจึงบอกกับทุกคนว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่เป็นเพราะมีอสูรร้ายตนหนึ่งเกิดขึ้นแล้วบนดินแดนแห่งนี้ อสูรน้อยตนนี้ถ้าไม่รีบกำจัด อีกยี่สิบปีข้างหน้ามันจะย้อนมาทำลายดินแดนเวทมนตร์จนไม่เหลือซาก อสูรน้อยตนนี้เกิดมาเพื่อทำลายจริงๆ ขอให้แม่มดพ่อมดทั้งหลายออกตามล่า และกำจัดมันให้เร็วที่สุด อันตรายจากอสูรน้อยทำให้ทุกคนหวาดกลัวรวมทั้ง ทาฮิร่า บาบาร่า แต่ทั้งคู่ไม่คิดหนีเอาตัวรอด หน้าที่ในการดูแลรักษาดินแดนแห่งนี้เป็นของแม่มดอาวุโสทุกคน ทาฮิร่า กับ บาบาร่า รวมทั้งไทเกอร์ แมวที่มีประสาทในการดมกลิ่นดีเป็นพิเศษจึงออกตามล่าอสูรด้วยกัน ผ่านไปหลายชั่วโมงทั้งสามก็ไม่พบวี่แววอสูรแต่อย่างใด ทาฮิร่า จึงแยกไปตามหาอีกทางหนึ่ง ปล่อยให้ บาบาร่า กับ ไทเกอร์ ไปอีกทางหนึ่ง
ขณะที่ทาฮิร่าขี่ไม้กวาดผ่านป่าละเมาะ นางสังเกตเห็นแสงสว่างนวลเหมือนแสงไฟส่องวูบวาบขึ้นมา ทาฮิร่า ตัดสินใจบินลงไปเดินสำรวจทันที ที่นั่นนางพบกระท่อมหลังหนึ่งเก่าทรุดโทรมจนไม่น่าจะมีใครอยู่ได้ แต่เสียงเด็กทารกร้องแว่วออกมาทำให้ทาฮิร่ารีบเข้าไปในกระท่อมทันที ที่พื้นห้องกลางบ้านมีตะกร้าหวายบุด้วยผ้าสีแดงสวยสดใสวางอยู่ เสียงเด็กทารกร้องมาจากในตะกร้า ทาฮิร่าปราดเข้าไปดูทันที ทารกน้อยน่ารักลืมตามองนางตาแป๋ว ทาฮิร่ามองตาใสๆ ปากนิดจมูกหน่อย ของแกแล้วก็อดอุ้มขึ้นมาไม่ได้ พลางนึกสงสัยว่าเป็นลูกของใครกัน ร่างน้อยๆ นั้นห่อหุ้มด้วยผ้าไหมเนื้อเนียนสีแดงสวยมีลายปักด้วยเป็นลวดลายสวยประณีตงดงาม แสดงว่าพ่อแม่เด็กคนนี้ต้องไม่ธรรมดาแน่นอน ทาฮิร่าอดคิดถึง จินนี่ และ ฮันนี่ หลานสาวที่ตัดสินใจไปใช้ชีวิตอยู่ที่โลกมนุษย์ไม่ได้ เพราะเมื่อยังเป็นเด็กทั้งสองสาวก็น่ารักน่าเอ็นดูไม่แพ้เด็กคนนี้เลย ทาฮิร่าตกใจเมื่อคิดได้ว่า เด็กคนนี้เป็นลูกอสูรที่นางต้องกำจัด สำนึกในหน้าที่ทำให้ ทาฮิร่า ยกมืออีกข้างขึ้นสูงเตรียมกำจัดเด็กน้อย ตาใสแจ๋วที่มองนาง ปากน้อยๆ ที่เผยอขึ้นราวจะพูดด้วยทำให้ทาฮิร่าทำไม่ลง นางคิดทบทวนช้าๆ ถ้าเด็กคนนี้ไม่ใช่อสูร นางก็จะทำความผิดมหันต์เป็นบาปหนักหนาสำหรับแม่มด ตราบใดที่พิสูจน์ไม่ได้ว่าเจ้าตัวน้อยนี้เป็นอสูรทาฮิร่าจะไม่กำจัดแก เมตตาธรรมในใจทำให้นางตัดสินใจจะเลี้ยงทารกน้อยนี้ไว้เป็นหลานสาวคนใหม่ เสียงของบาบาร่ากับไทเกอร์ที่ร้องเรียกทาฮิร่า ทำให้นางต้องรีบซ่อนเจ้าตัวน้อยไว้ในลังเก่าๆ ที่มุมกระท่อมทันทีเพราะรู้ดีว่าถ้าบาบาร่ากับไทเกอร์พบแกเข้า เด็กน้อยคนนี้คงไม่รอดชีวิตแน่นอน
เมื่อทั้งสองตามเข้ามาในกระท่อม ไทเกอร์ทำจมูกฟุดฟิดทันทีพลางพึมพำว่ากลิ่นเด็กทารก ไทเกอร์ปรี่เข้าค้นในกระท่อมจนทาฮิร่าใจหาย นางได้แต่ส่งกระแสจิตเตือนเด็กน้อยให้หาวิธีซ่อนร่องรอยกลิ่นของตัวเองอย่าให้ไทเกอร์หาพบ ถ้าพ้นจากที่นี่ได้นางจะดูแลแกต่อไป ทาฮิร่าไม่หวังว่าเด็กคนนี้จะรับรู้อะไร ได้แต่คิดหาทางช่วยเหลือทางอื่น ทว่าจู่ๆ ไทเกอร์หยุดชะงัก หมุนไปรอบๆ ยื่นจมูกดมทุกอย่างจนแม้กระทั่งที่ลังนั่น ทาฮิร่าใจสั่นทำอะไรไม่ถูกกลัวไทเกอร์จะเปิดลังแล้วพบเด็กน้อย ทว่าไทเกอร์กลับไม่มีท่าทางว่าจะสนใจลังใบนั้นอีก ได้แต่เดินบ่นพึมพำว่าแปลกที่กลิ่นทารกหายไปเฉยๆ หายไปทันทีไม่ใช่ค่อยๆ จางไป แต่หายวูบไปราวกับไม่เคยมีมาก่อน ทาฮิร่าจึงแกล้งว่า ไทเกอร์เพี้ยน แล้วชวนหนึ่งแม่มดกับหนึ่งแมวออกไปตามหาที่อื่น แมวตัวเก่งเริ่มหงุดหงิดเพราะมั่นใจในประสาทสัมผัสพิเศษของตัวเอง แต่เมื่อบาบาร่าเห็นด้วยกับทาฮิร่าที่จะไปจากที่นี่ไทเกอร์จำใจยอมตามไปด้วย
ดึกมากแล้วเมื่อทาฮิร่าย้อนกลับมาที่กระท่อมร้างเพื่อมาพาเด็กน้อยกลับไปที่บ้าน นางดีใจที่เด็กน้อยยังอยู่ที่เดิมที่ซ่อนไว้ นางจึงรีบพากลับไปที่บ้านของนางทันที ทาฮิร่าปิดประตูแน่นหนา นางโบกมือร่ายคาถา นมขวดหนึ่งปรากฏขึ้นมาทันที นางรีบป้อนให้เจ้าตัวเล็ก พึมพำหยอกล้อกับเด็กน้อยอย่างอารมณ์ดี ทาฮิร่าแปลกใจที่แม่หนูอึดเกินเด็กทั่วไปไม่ได้กินนมหลายชั่วโมงแต่ก็ไม่งอแง นมหมดขวดอย่างรวดเร็ว ทาฮิร่าโยนขวดเปล่าหายวับไปในอากาศ เจ้าตัวเล็กในอ้อมแขนส่งเสียงอ้อแอ้เหมือนจะคุยด้วย นางจึงบอกแกว่าจะตั้งชื่อให้ว่า แนนนี่ (พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์) พูดแล้วก็ลังเลพึมพำเหมือนจะถามต่อไปว่าชอบไหมหรือจะเปลี่ยนเป็นชื่ออื่น ทาฮิร่าตกใจมากเมื่อได้ยินเสียงใสๆ ตอบมาว่าหนูชอบชื่อแนนนี่จ้ะ เสียงนั้นดังขึ้นในความคิดในจิตใจอย่างประหลาด แต่นางไม่มีเวลาหาที่มาของเสียงนั้น เพราะบาบาร่ากับไทเกอร์กำลังเคาะประตูอยู่ดังลั่น
ทาฮิร่าหันซ้ายหันขวาลุกลี้ลุกลนหาที่ซ่อนแม่หนูแนนนี่ นางยิ้มอย่างดีใจเมื่อเหลือบไปเห็นตะเกียงแก้วบนโต๊ะ ทาฮิร่ากระซิบบอกแนนนี่ให้ซ่อนอยู่ในตะเกียงแก้วและให้ระวังไทเกอร์ให้ดี พริบตาเดียวร่างแนนนี่หายวับไปในตะเกียงแก้ว แต่ทาฮิร่าต้องตกใจเมื่อไทเกอร์ปรากฏตัวขึ้นมาแทนในชั่วเสี้ยววินาทีตามมาด้วยบาบาร่า ไทเกอร์ทำจมูกฟุดฟิดเดินวนรอบทาฮิร่า ทำหน้าตาสงสัย พึมพำว่ากลิ่นแปลกๆ ก่อนจะหันไปสนใจตะเกียงแก้ว ทาฮิร่ารีบคว้าตะเกียงแก้วขึ้นมาถือไว้ ย่อส่วนจนเหลืออันนิดเดียว แล้วรีบซุกไว้ในเสื้อคลุมของนาง พลางบ่นว่าต้องรีบเก็บก่อนไทเกอร์จะทำตะเกียงแตกเพราะทั้งซนและซุ่มซ่าม ไทเกอร์งอนแต่ไม่วายจะเที่ยวดมฟุดฟิดไปทั่วบ้านงึมงำแต่ว่ากลิ่นทารก กลิ่นเด็กอ่อน ต้องหาให้เจอ ทาฮิร่าได้แต่ส่งกระแสจิตเตือนแนนนี่ให้ระวังตัว จู่ๆ ไทเกอร์หยุดนิ่งทำหน้างงๆ ก่อนจะบ่นอุบอิบว่ากลิ่นหายไปหมดแล้ว ทาฮิร่าจึงถอนใจยาวอย่างโล่งอก จากนั้นต้องใช้เวลาอีกนานพอสมควรกว่าบาบาร่ากับไทเกอร์จะยอมกลับไป
เมื่อแน่ใจว่าอยู่กันตามลำพัง ทาฮิร่าจึงลองส่งกระแสจิตคุยกับแนนนี่อีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่านางไม่ได้หูแว่วไปเอง เด็กน้อยทำให้นางอึ้งเมื่อสามารถโต้ตอบกับนางทางกระแสจิตได้ราวกับคนที่โตแล้ว ทาฮิร่าเลี้ยงแนนนี่ลำบากขึ้นทุกวัน เพราะบาบาร่ากับไทเกอร์มาแอบดูอยู่เสมอและหลายครั้งที่เกือบจับแนนนี่ได้ ทว่าแนนนี่มีอำนาจพิเศษที่เก่งกว่าเพราะจะรู้ตัวและหายจากอ้อมแขนทาฮิร่าไปซ่อนตัวในตะเกียงแก้วอย่างรวดเร็วจนทาฮิร่าปรับตัวไม่ทัน ต้องยืนทำท่าอุ้มเด็กพูดคนเดียวอยู่จนบาบาร่ากับไทเกอร์สงสัยมากขึ้นทุกที ขณะเดียวกันผู้นำแม่มดประกาศตามล่าอสูรต่อไปจนกว่าจะกำจัดได้ สถานการณ์ที่ดินแดนเวทมนตร์ตึงเครียดขึ้นทุกวัน จนทาฮิร่าตัดสินใจว่าต้องส่งแนนนี่มาเลี้ยงที่โลกมนุษย์ และต้องหาครอบครัวที่ดีมีศีลธรรมด้วยเพื่อจะได้อบรมสั่งสอนให้อสูรน้อยกลับตัวกลับใจ นางมั่นใจว่าเด็กที่ได้รับการอบรมเลี้ยงดูด้วยความรัก ความเมตตา และได้รับการสั่งสอนที่ดีจะเติบโตเป็นคนดีได้ ดังนั้นทาฮิร่าจึงต้องเดินทางมาโลกมนุษย์บ่อยครั้ง ครอบครัวดีที่ต้องการนั้นหายากเหลือเกิน
วันหนึ่ง ทาฮิร่าบินผ่านซอยเปลี่ยวแห่งหนึ่ง นางเห็นหญิงสาววัยรุ่นอุ้มเด็กเดินแกมวิ่งท่าทางโกรธจัดหน้าตาบูดบึ้ง ปากบ่นพึมพำอะไรสักอย่าง เมื่อนางตั้งใจฟังก็ตกใจจนแทบเป็นลมเพราะหญิงคนนั้นตั้งใจพาเด็กมาทิ้งที่กองขยะ หรือถ้ามีโอกาสก็จะฆ่าทิ้งทันที ก่อนที่ทาฮิร่าจะบินลงไปห้าม ผู้หญิงอีกคนหนึ่งวิ่งมาห้ามเสียก่อน ผู้หญิงคนนี้แต่งกายดีท่าทางมีเมตตา ทาฮิร่าแอบดูเหตุการณ์ต่อไปจึงรู้ว่าแม่ของเด็กชื่อมาลี เป็นเด็กสาวมาจากต่างจังหวัดมีอาชีพเป็นแม่ค้าขายปลาในตลาด อยู่มาวันหนึ่ง มาลีถูกผู้ชายกลุ่มหนึ่งฉุดและโดนรุมข่มขืนจนหมดสติจำอะไรไม่ได้ มาลีไม่กล้าไปแจ้งความเก็บเรื่องเงียบไว้กว่าจะรู้ตัวก็ตั้งท้องได้หลายเดือนแล้ว พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้แท้ง แต่ไม่สำเร็จ เธอไม่รักลูกเลยสักนิด ทุกวันมาลีจะบ่นระบายความเคียดแค้นชิงชังอยู่คนเดียวโดยไม่รู้ว่าเด็กในท้องรับรู้ถึงความโกรธแค้นนี้ด้วย เมื่อครบกำหนดมาลีคลอดลูกเป็นหญิงหน้าตาน่าเอ็นดู แต่เธอกลับเกลียดลูกที่สุด ทันทีที่ออกจากโรงพยาบาลมาลีตั้งใจจะอุ้มลูกมาทิ้ง ทว่า ปัทมน (มยุริญ ผ่องผุดพันธ์) เจ้าของโรงงานเย็บกระเป๋าเพื่อส่งออกที่มีชื่อเสียงมาพบเข้าเสียก่อน เธอเป็นคนใจบุญ จึงขอลูกสาวของมาลีมาอุปการะ มาลีรีบส่งลูกให้โดยไม่อาลัยสักนิดมาลีวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็วราวกับกลัวว่าปัทมนจะคืนลูกกลับมา
ทาฮิร่าตามปัทมนไปถึงบ้านได้รู้เพิ่มเติมอีกว่าปัทมนเป็นม่าย มีลูกชายหนึ่งคนชื่อ ธานี (กฤษณกันท์ มณีผกาพันธ์) อายุเพิ่ง 5 ขวบ เธอเป็นนักธุรกิจหญิงที่ประสบความสำเร็จมาก ใจบุญ และฐานะดี บ้านของเธออยู่ติดกับ ดร.จักรวาล (ปรินทร์ วิกรานต์) นักวิทยาศาสตร์หนุ่มใหญ่ เขาเป็นพ่อม่ายมีลูกติดสองคนชายหนึ่งหญิงหนึ่ง คือ ภวัต (ชนะพล สัตยา) อายุเท่า ธานี และ รัดเกล้า (ธันย์ชนก ฤทธินาคา) อายุประมาณ 3 ขวบ ทั้งสองครอบครัวนี้สนิทสนมกันมาก เด็กๆ ก็รักกันเหมือนพี่น้อง เรียนอยู่ที่เดียวกันด้วย ดังนั้น ดร.จักรวาล กับ ปัทมน จะผลัดกันรับลูกถ้าอีกฝ่ายไม่ว่างหรือถ้าใครมีงานต้องไปต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ หลายวัน ดร.จักรวาล กับ ปัทมน จะสลับกันช่วยดูแลเด็กๆ ให้ เด็กหญิงลูกของมาลี ปัทมนตั้งชื่อให้ว่า ดารกา (อัญรินทร์ ธีราธนันพัฒน์) ธานีเห่อน้องสาวคนใหม่มาก รวมไปถึงภวัตกับรัดเกล้าด้วย ทาฮิร่าพรางตัวแอบตามดูครอบครัวนี้อยู่หลายวันจนรู้ว่า ดร.จักรวาล กับ ปัทมน เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันจริงๆ ยิ่งไปกว่านั้น ปัทมนเป็นคนจิตใจงาม อ่อนโยน ชอบปฏิบัติธรรม
ทาฮิร่าดีใจที่พบคนที่เหมาะสมที่จะฝากแนนนี่ให้ดูแลแล้ว แต่ยังหาวิธีส่งตัวแนนนี่มาอยู่ที่นี่อย่างแยบยลไม่ได้ ทุกวันที่กลับไปจากบ้านปัทมน ทาฮิร่าจะเล่าเรื่องครอบครัวนี้ให้แนนนี่ฟัง นางบอกต่อไปว่าการที่หลานสาวตัวน้อยได้ไปอยู่กับปัทมนจะเป็นการดีและปลอดภัยที่สุด บ่ายวันหนึ่งขณะที่ทาฮิร่าพรางตัวมาที่บ้านนี้เช่นเคย เสียงเอะอะของคนในบ้านที่ตามหาธานี ทำให้ทาฮิร่าร้อนใจ นางปรากฏร่างที่สระว่ายน้ำทันทีที่ได้ยินเสียงกรีดร้องของปัทมน ภาพของเด็กชายธานีกำลังดิ่งจมลงก้นสระทำให้ปัทมนทำอะไรไม่ถูก ทาฮิร่าร่ายมนตร์วิเศษทันที ร่างธานีกลับพลิกหงายลอยตัวขึ้นช้าๆ กลับมาที่ริมสระ ในช่วงเวลานั้นปัทมนตกตะลึงตาค้างมองทาฮิร่าอย่างแปลกใจ เมื่อร่างลูกชายลอยมาใกล้เธอๆ รีบวิ่งไปช้อนตัวลูกชายขึ้นมากอด ธานีรู้สึกตัวดีไม่มีอาการของคนที่จมน้ำเลย อย่างไรก็ตามปัทมนก็จะพาแกไปโรงพยาบาล ขณะที่ทุกคนในบ้านโกลาหลช่วยธานี ปัทมนเหลียวหาหญิงวัยกลางคนสวมเสื้อคลุมรุ่มร่ามท่าทางใจดีที่ช่วยลูกชายไว้ เธอหันไปพบนางกำลังจะเลือนหายไปในกำแพงปัทมนอึ้งทำอะไรไม่ถูก
ที่โรงพยาบาลหมอตรวจธานีอย่างละเอียดและบอกว่าปลอดภัยดี คืนนั้นปัทมนสวดมนตร์อยู่นาน ตั้งจิตอธิษฐานขอพบหญิงลึกลับที่ช่วยชีวิตลูกชายสักครั้ง เมื่อปัทมนกลับเข้าห้องนอนส่วนตัว เธอพบทาฮิร่านั่งรออยู่แล้ว มาคราวนี้นางแต่งกายสุภาพทันสมัย สง่างาม หน้าตายิ้มแย้มอย่างคนใจดี ปัทมนรีบยอตัวลงนั่งพนมมือไหว้ขอบคุณทาฮิร่าทันที การที่นางช่วยชีวิตธานีไว้ปัทมนถือว่าเธอเป็นหนี้บุญคุณนางที่สุด ทาฮิร่าคุยกับปัทมนอยู่นานนางขอร้องให้ช่วยเลี้ยงแนนนี่หลานสาวตัวน้อยเด็กพิเศษที่ไม่เหมือนใคร ทาฮิร่าจำเป็นต้องบอกข้อมูลบางอย่างให้ปัทมนรู้เพื่อจะได้ไม่ตกใจ ถ้ายัยหนูทำอะไรแผลงๆ ทาฮิร่าบอกว่านางเป็นแม่มดมาจากดินแดนเวทมนตร์ ส่วนแนนนี่เป็นหลานสาวที่มีเลือดผสมของมนุษย์กับแม่มด เด็กกลุ่มนี้จะไม่ได้รับการยอมรับจากคนที่นั่น ทาฮิร่าจึงต้องนำมาฝากให้ปัทมนเลี้ยงดู โดยขอให้อบรมแกให้เป็นคนดีและสัญญาว่าจะมาเยี่ยมแกบ่อยๆ ช่วยประคับประคองอีกทางหนึ่ง ทาฮิร่าขอร้องให้ปัทมนเก็บเรื่องแนนนี่เป็นแม่มดไว้เป็นความลับซึ่งปัทมนยอมรับปากอย่างเต็มใจ
ไม่กี่วันต่อมา ทาฮิร่าในมาดหญิงวัยกลางคนที่แต่งตัวดีสง่างามก็อุ้มแนนนี่มาให้ปัทมน เธอรับแกมาอุ้มอย่างเอ็นดู เด็กน้อยตากลมโตใสแจ๋วยิ้มให้ปัทมน ทาฮิร่าอยู่ไม่นานก็กลับไปได้แต่ส่งกระแสจิตคุยกับแนนนี่ตลอดเวลา น่าแปลกที่ทันทีที่ปัทมนอุ้มแนนนี่ ดารกากลับร้องไห้จ้างอแงอย่างไม่มีเหตุผล วันนั้นธานี ภวัต และรัดเกล้า แย่งกันเลี้ยงน้องสาวคนใหม่ พอดารการ้องไห้ก็ไปโอ๋ดารกา ภวัต สะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงใสแจ๋วก้องในหัวว่าห้ามไปเล่นกับคนอื่น พี่ภวัตต้องเป็นพี่ชายของแนนนี่คนเดียว เขาเหลียวมองรอบตัวก็ไม่มีใคร ภวัตหันไปมองแนนนี่ยัยหนูยิ้มให้ส่งเสียงอ้อแอ้ชวนเล่นเหมือนทารกทั่วไป แต่เมื่อเขาหันไปหาดารกา เสียงดุๆ ใสแจ๋วนั่นก็ดังขึ้นอีก พี่ภวัตมาหาแนนนี่ ภวัตมองธานี รัดเกล้า และยายผาด (จารุศิริ คชหิรัญ) พี่เลี้ยงของเด็กๆ อย่างประหลาดใจที่ทุกคนทำราวกับไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น ภวัตหันไปมองแนนนี่อีกครั้งก่อนจะตัดสินใจเดินออกจากห้องนั้น เด็กชายคิดว่าเขาหูแว่วไปเอง
ทาฮิร่าที่แอบเฝ้าดูเหตุการณ์อยู่อ่อนใจในความแก่นแก้วของแนนนี่ นางหาโอกาสปรากฏตัวมาคุยกับภวัต บอกว่าแกเป็นยายของแนนนี่ ค่อยๆ คุยจนเด็กชายถามถึงเรื่องที่ได้ยินเสียงแนนนี่ หรือแนนนี่พูดโต้ตอบราวกับอ่านใจเขาได้ ทาฮิร่าทำเป็นดีใจที่ภวัตรู้สึกเหมือนแก แถมยังบอกอีกว่าแกไม่กล้าบอกใครกลัวเขาจะหาว่าเพี้ยน แนนนี่เป็นเด็กพิเศษจริงๆ ทาฮิร่ากับภวัตตกลงกันว่าจะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับรู้กันสองคน ภวัตรู้สึกดีและสบายใจมากขึ้นที่ไม่ได้ผิดปกติคนเดียว ดึกมากแล้วเมื่อทาฮิร่ามาหาแนนนี่ยัยหนูดีใจนักหนา แต่เมื่อทาฮิร่าถามเรื่องภวัตว่าทำไมต้องพูดคุยสื่อสารกับเขา แนนนี่ตอบด้วยน้ำเสียงจริงจังว่าตนรู้สึกผูกพันกับเขามาก ทันทีที่เห็นหน้า และจะไม่ยอมให้เขาไปวุ่นวายกับคนอื่นเด็ดขาด พี่ภวัตต้องรักแนนนี่เป็นพี่ชายของแนนนี่คนเดียว ทาฮิร่าเริ่มหนักใจกับอิทธิฤทธิ์ของเจ้าอสูรน้อยเต็มที
เวลาผ่านไป วันนี้ที่บ้านปัทมนจัดงานฉลองวันเกิดให้ลูกสาวทั้งสองคน คือ ดารกา และแนนนี่ ทั้งคู่อายุ 12 ปีแล้ว ปัทมนเลี้ยงเด็กทั้งคู่มาด้วยกัน อบรมเหมือนกันทุกอย่างแต่นิสัยใจคอต่างกันลิบลับ แนนนี่ทั้งขี้อิจฉา เอาแต่ใจตัวเอง เป็นตัวป่วนประจำบ้าน แก่นแก้ว ชอบแกล้งและเอาเปรียบดารกาตลอดมา แกไม่ยอมรับว่าดารกาเป็นพี่สาว แม้ปากจะเรียกพี่ดา แต่ก็เรียกไปอย่างนั้น แนนนี่รักและติดภวัตมาตั้งแต่เด็กๆ จะอาละวาดถ้าภวัตไม่เล่นด้วยหรือหันไปสนใจดารกา ด้านการเรียนแนนนี่เรียนไม่ค่อยเก่งจนปัทมนหนักใจส่วนดารกาตรงกันข้าม เด็กหญิงเรียบร้อย อ่อนหวาน เรียนเก่ง และยอมให้แนนนี่แกล้งตลอดเวลา ยายผาดสรุปว่าถ้าเป็นละครดารกาก็เป็นนางเอกส่วนแนนี่คือนางอิจฉา วันนั้นเกิดเรื่องอีกจนได้ เมื่อภวัตหยิบกล่องของขวัญผูกโบว์สีชมพูให้ดารกาก่อนจะหยิบกล่องผูกโบว์สีแดงให้แนนนี่ พลางพูดเย้าอย่างอารมณ์ดีว่าสีชมพูเหมาะกับดารกาที่หวานเรียบร้อยส่วนแนนนี่เป็นสีแดงเพราะซนเหลือเกิน แนนนี่ตาคว่ำมองดารกาที่บรรจงแกะกล่องอย่างหมั่นไส้เต็มทน แต่ยังเกรงใจภวัตจึงไม่อาละวาด ดารกาหยิบผ้าพันคอเนื้อนิ่มสีชมพูหวานคลี่ออกดูอย่างพอใจ เด็กสาวขอบคุณภวัตพี่ชายที่แสนดีอย่างน่ารัก แนนนี่งอนป่องฉวยกล่องของขวัญไปที่ห้องนอน เธอแกะโบว์และฉีกกระดาษขาดอย่างคนใจร้อนและเอาแต่ใจ ทาฮิร่าซึ่งแอบดูอยู่นานได้แต่ส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ แนนนี่กระชากผ้าพันคอเนื้อนิ่มแบบเดียวกับของดารกา เพียงแต่เป็นสีแดงออกมาอย่างโกรธจัด ทั้งที่ผ้าพันคอผืนนั้นสีสวยสดใสมาก แต่แนนนี่กลับมองไม่เห็นความสวยงามของมันเด็กสาวฉีกผ้าพันคอขาดเป็นริ้วทันที บ่นพึมพำต่อว่าภวัตที่ไม่รู้ใจตนว่าตัวเองชอบสีชมพูและเกลียดสีแดงที่สุด
แนนนี่ทำให้ทาฮิร่าต้องปรากฏตัวออกมา แนนนี่ดีใจที่ยายมาหา แต่ก็หน้าเสียเพราะรู้ว่าเดี๋ยวต้องถูกดุแน่นอน ทาฮิร่าอบรมแนนนี่ที่ทำตัวไม่น่ารัก ไม่เห็นคุณค่าของของขวัญที่ภวัตหามาให้ เด็กสาวเถียงข้างๆ คูๆ ว่า ภวัตแกล้งเลือกสีแดงมาให้ทั้งที่รู้ว่าแนนนี่ชอบสีชมพู ทาฮิร่าจึงพูดอย่างรู้ทันว่าถ้าภวัตเลือกสีแดงให้ดารกาแล้วสีชมพูให้แนนนี่ เธอก็จะเกลียดสีชมพูใช่หรือไม่ แนนนี่หน้าแดงที่ยายรู้ทันแต่ไม่ยอมรับง่ายๆ ทาฮิร่าจึงบอกว่ารู้มั้ยกว่าภวัตจะตัดสินใจเลือกผ้าพันคอผืนนี้ให้แนนนี่เขาใช้เวลาเลือกอยู่นานมาก ต่างกับของดารกาที่เห็นปุ๊บก็หยิบเลย แนนนี่ยังเถียงว่าเพราะภวัตสนใจแต่ดารกาจึงรู้ดีว่าต้องหยิบสีชมพู ทาฮิร่าระอาใจกับความรั้นของแนนนี่จนอยากจะตีแม่หลานสาวจอมแก่นสักที แต่ก็ทำไม่ลงจึงอธิบายต่อไปอีกว่าตรงกันข้ามเลยที่เลือกให้แนนนี่อยู่นานก็เพราะต้องการให้ของที่ถูกใจแนนนี่ต่างหาก ภวัตเดินหาอยู่นานกว่าจะได้ผ้าพันคอสีแดงสวยถูกใจเขา ถ้าไม่เพราะสนใจแนนนี่มากจะเดินหาให้เหนื่อยทำไม หยิบสีอะไรก็ได้ หรือแม้แต่สีแดงก็มีให้เลือกเป็นสิบๆ เฉดสี แต่ผืนนี้สวยต่างจากผืนอื่นภวัตจึงเลือกมาให้เธอ แต่แนนนี่กลับฉีกขาดเหมือนไม่เห็นคุณค่าและน้ำใจคนให้ ทาฮิร่าย้ำว่าที่รู้ก็เพราะแอบตามไปเพื่อหาของขวัญให้แนนนี่เหมือนกัน แนนนี่ยิ้มออกโบกมือร่ายคาถาอย่างรวดเร็ว ผ้าพันคอที่ขาดเป็นริ้วกลับคืนสู่สภาพเดิมทันที
ทาฮิร่าถอนใจอย่างหนักใจเมื่อเห็นแนนนี่ใช้เวทมนตร์ นางย้ำกับเธอว่าบอกกี่ครั้งว่าห้ามใช้เวทมนตร์พร่ำเพรื่อ เพราะแนนนี่เกิดมาเป็นลูกครึ่งแม่มดลูกครึ่งมนุษย์การใช้เวทมนตร์พร่ำเพรื่อหรือใช้ในทางที่ผิดจะเป็นการทำลายตนเอง แนนนี่โผกอดทาฮิร่าอย่างประจบและรับปากว่าจะระวังให้มากขึ้น ทาฮิร่าใจอ่อนแม้จะรู้ว่าแนนนี่จะเผลอตัวบ่อยครั้งเมื่อไม่ได้ดั่งใจ แนนนี่อ้อนขอตะเกียงแก้วจากทาฮิร่าเป็นของขวัญวันเกิดเหมือนทุกปี เด็กสาวปฏิเสธของขวัญชิ้นอื่นจากทาฮิร่าจะขอเพียงอย่างเดียวคือตะเกียงแก้วที่ผูกพันมาตั้งแต่เด็ก ทาฮิร่ารับปากว่าปีนี้จะให้โดยตกลงกันก่อนว่าแนนนี่ต้องเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดีเป็นความลับอย่าให้ใครเห็นเด็ดขาด แนนนี่รับปาก ทาฮิร่าจึงบอกว่าคืนนี้จะนำมาให้ แต่ตอนนี้ให้แนนนี่กลับลงไปทำหน้าที่เจ้าของวันเกิดที่น่ารักได้แล้ว เด็กสาวพันผ้าพันคอผืนสวยวิ่งลงมาอย่างอารมณ์ดี แม้จะหงุดหงิดที่ต้องเป่าเค้กพร้อมกับดารกาแต่ก็พยายามข่มใจ แนนนี่ตัดเค้กลงจานแบ่งแล้วรีบยกไปให้ปัทมนกับจักรวาลที่โต๊ะก่อนดารกาจะแย่งทำ แต่เมื่อกลับมาอีกครั้งแนนนี่เห็นดารกากำลังประคองถาดเสิร์ฟเค้กให้ ภวัต รัดเกล้า และธานีที่โต๊ะกลางสนาม แนนนี่ก็โกรธขึ้นมาอีก เธอเหลือบเห็นผ้าพันคอสีชมพูที่ดารกาวางเอาไว้ แนนนี่ห้ามใจไม่อยู่สาวน้อยอารมณ์ร้ายหยิบผ้าพันคอผืนนั้นขึ้นมาฉีกขาดก่อนจะพับไว้เหมือนเดิม เมื่องานเลี้ยงเลิก ดารกาหยิบกล่องของขวัญกลับไปที่ห้อง เธอใจหายเมื่อเห็นว่าผ้าพันคอผืนสวยเป็นรอยขาดหลายแห่ง ดารกานึกรู้ว่าต้องเป็นฝีมือแนนนี่ เธอเดินไปที่ห้องน้องสาวและต่อว่าอย่างเสียใจ แต่แนนนี่กลับทำไม่รู้เรื่องปฏิเสธเสียงแข็ง แต่แล้วก็หน้าซีดเมื่อดารกาพูดเรียบๆ ว่า งั้นคงขาดมาจากที่ร้านแล้วภวัตไม่เห็น เธอจะไปบอกภวัตให้พาไปเปลี่ยนผ้าผืนใหม่ ดารกาออกจากห้องไปแล้ว แนนนี่หน้าเง้าไม่พอใจเธอจะยอมให้ดารกาทำอย่างนั้นไม่ได้ สาวน้อยพึมพำขอโทษทาฮิร่าก่อนจะผิดสัญญาใช้เวทมนตร์ทำให้ผ้าพันคอสีชมพูกลับสู่สภาพเดิมอย่างไม่ค่อยพอใจนัก
ส่วนดารกากลับไปที่ห้องส่วนตัว ได้แต่เสียใจที่โดนแกล้ง แต่เธอคงไม่บอกภวัตที่พูดไปก็เพราะต้องการให้แนนนี่กลัวบ้างเท่านั้น ดารกาสะบัดผ้าออกเพื่อพับเก็บ เด็กสาวอึ้งเมื่อเห็นว่าผ้าพันคอผืนสวยไม่มีรอยขาดแม้สักนิด ความดีใจที่ได้ของกลับมามีมากกว่าความสงสัยว่าเป็นไปได้อย่างไรกัน คืนนั้นดารกาหลับอย่างมีความสุข ส่วนแนนนี่คอยทาฮิร่าจนดึกกว่าทาฮิร่าจะมา นางนำตะเกียงแก้วมาให้แนนนี่ตามสัญญา ซึ่งแนนนี่ดีใจมากคว้ามือทาฮิร่าหายวับลงไปในตะเกียงแก้วด้วยกันทันที ห้องในตะเกียงแก้วสวยงามน่าอยู่เหมือนเดิมทุกอย่าง แนนนี่ลงนอนบนเบาะนุ่มสีสวยแล้วหลับไปอย่างง่ายดาย ทาฮิร่ายิ้มให้อย่างเอ็นดูก่อนจะกลับดินแดนเวทมนตร์ไป
ไม่กี่วันต่อมา จักรวาลนำข่าวดีมาบอกภวัตว่ามหาวิทยาลัยที่อเมริกาตอบรับให้เขาเข้าเรียนแล้ว และต้องเดินทางเร็วๆ นี้ ภวัตตั้งใจจะเรียนแพทย์ เขาเรียนเก่งจนได้ไปเรียนต่ออย่างที่ตั้งใจ ข่าวนี้ทำให้ดารกาซึมลงไป เธอเองก็รักและติดภวัตไม่ต่างจากแนนนี่เช่นกัน ส่วนแนนนี่ที่ใครต่อใครเป็นห่วงว่าคงอาละวาดไม่ยอมให้ภวัตไป กลับนิ่งเฉยไม่ทุกข์ร้อนเสียใจอะไรเลยสักนิดจนทุกคนแปลกใจ เมื่อถามเธอเรื่องนี้แนนนี่กลับพูดจาเป็นผู้ใหญ่ว่าภวัตไปเรียนเพื่อนำความรู้กลับมารักษาคนไข้ไม่ได้ไปเที่ยวสักหน่อยจะโกรธทำไม ที่จริงแล้วแนนนี่รู้ดีว่าเธอจะไปหาภวัตเมื่อไหร่ก็ได้ เพราะเธอเป็นแม่มด แว้บไปแว้บมาเมืองไทยกับอเมริกาง่ายนิดเดียว วันที่ไปส่งภวัตที่สนามบินแนนนี่หงุดหงิดที่ดารกาทำพวงกุญแจที่มีกรอบรูปใส่รูปตัวเองให้ภวัตติดตัวไปเป็นที่ระลึกเพื่อจะได้ไม่ลืมเธอ แต่ครู่เดียวก็ยิ้มระรื่นรูปถ่ายหรือจะสู้ตัวจริงอย่างแนนนี่ ทาฮิร่าแอบมาพบภวัตที่ห้องพักผู้โดยสาร นางมาอวยพรให้เขาเรียนสำเร็จและเดินทางปลอดภัย ชายหนุ่มงงๆ ที่ทาฮิร่าโผล่มาและหายไปอย่างรวดเร็วจนเขานึกชมว่านางช่างแข็งแรงเหลือเกิน ส่วนแนนนี่เมื่อกลับถึงบ้านเธอรีบกลับไปที่ห้องส่วนตัวก่อนจะหายแว้บไปพร้อมไม้กวาดพาหนะคู่ใจ เธอจะบินตามไปส่งภวัตพี่ชายคนพิเศษของเธอ ส่วนภวัตตกใจนึกว่าตาฝาดเมื่อเห็นแนนนี่ขี่ไม้กวาดบินลอยอยู่ข้างหน้าต่างเครื่องบิน เสียงใสๆ ของเธอที่ดังขึ้นในใจทำให้เขารู้ว่าไม่ผิดตัวเป็นแนนนี่จริง ภวัตทำอะไรไม่ถูก ไม่เข้าใจว่าเธอทำได้อย่างไร แนนนี่โบกมือให้เมื่อเห็นว่าเธอกำลังทำให้ผู้โดยสารที่นั่งข้างๆ สงสัยว่า ภวัตจะเพี้ยน เพราะมีเขาเพียงคนเดียวที่จะเห็นเธอได้ ในเวลาเดียวกันทาฮิร่าที่เฝ้ามองหลานสาวจากดินแดนเวทมนตร์ หนักใจที่แนนนี่อสูรน้อยตนนี้ฤทธิ์มากเหลือเกิน ขี่ไม้กวาดบินตามเครื่องบินได้อย่างไม่เหน็ดเหนื่อยตั้งแต่อายุนิดเดียว แนนนี่เป็นเด็กพิเศษมากจริงๆ เสียด้วย ทาฮิร่าอดสงสัยไม่ได้ว่าหลานสาวเป็นอสูรแต่ทำไมใช้เวทมนตร์และขี่ไม้กวาดคล่องแคล่วราวกับแม่มดอย่างนี้ เก่งกว่าจินนี่กับฮันนี่เสียอีก ส่วนภวัตแปลกใจมากขึ้นเมื่อเขาเดินทางถึงที่พักแล้วพบแนนนี่นั่งรออยู่แล้วที่เก้าอี้รับแขก
ภวัตเข้าใจว่าแนนนี่บินตามมาพร้อมครอบครัว แนนนี่ต้องอธิบายอยู่นาน แสดงการใช้เวทมนตร์อีกหลายอย่างกว่าภวัตจะยอมรับอย่างไม่เต็มใจนักว่าเธอเป็นแม่มด เวลาผ่านไปอีก แนนนี่โตเป็นสาวสวยคมเข้มสะดุดตา เธอเรียนที่มหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง ส่วนดารกามุมานะจนสอบติดแพทย์จนได้ เธอตั้งใจเรียนแพทย์เหมือนภวัตเพราะต้องการใกล้ชิดกับเขาทั้งที่เคยตั้งความฝันว่าจะเป็นนักธุรกิจเหมือนปัทมน ขณะที่ภวัตเรียนอยู่อเมริกา คนอื่นๆ ในครอบครัวติดต่อกับเขาทางสื่อทันสมัยต่างๆ ทั้งโทรศัพท์หรืออินเทอร์เน็ต แต่แนนนี่กลับใช้วิชาแม่มด แม้จะโบราณแต่ได้ผลดีกว่าเพราะเธอสามารถไปพบกับภวัตได้ตลอดเวลา แม้จะต้องทำตามเงื่อนไขของภวัตอยู่บ้าง เช่นให้ระวังตัวหรือห้ามมากวนตอนใกล้สอบแนนนี่ก็พอใจ
บ่ายวันนี้ รัดเกล้านำข่าวของภวัตมาเล่าให้ฟังเหมือนเคย แต่ข่าวนี้กลับทำให้ดารกาเสียใจมาก รวมทั้งแนนนี่ด้วย รัดเกล้าบอกว่ากลับมาคราวนี้ภวัตคงพาแฟนกลับมาด้วย เธอชื่อ บุษบา (ณิชานันท์ ฝั้นแก้ว) เป็นผู้หญิงที่สนิทสนมกับภวัตมากเป็นพิเศษ ดารกาเสียใจเจ็บปวดจนต้องหนีกลับไปร้องไห้ที่ห้องพัก เธอรักภวัตเหลือเกิน ในความรู้สึกของเธอภวัตไม่ใช่พี่ชายมานานหลายปีแล้ว แต่เขาเป็นคนพิเศษในใจเธอต่างหาก ส่วนแนนนี่แทบอดใจรอจนถึงค่ำไม่ไหว คืนนี้เธอต้องไปคุยกับภวัตให้รู้ความจริงเกี่ยวกับบุษบาให้ได้ ที่ห้องพักของภวัตชายหนุ่มโดนแนนนี่แม่มดจอมป่วน ซักถามเขาอย่างละเอียดเรื่องบุษบา ซึ่งเขาตอบตามความจริงว่าไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่าเพื่อน แนนนี่ถามจนพอใจ เมื่อมั่นใจว่าภวัตไม่ได้รักบุษบาเธอโผเข้ากอดภวัตแน่นอย่างดีใจ บอกย้ำว่าเขาต้องรักเธอดูแลเธอคนเดียวเท่านั้น ภวัตใจเต้นแรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่แนนนี่เข้ามากอดเขา แต่ทุกครั้งเธอเหมือนน้องน้อยน่ารักขี้ประจบทำให้เขารู้สึกเอ็นดู ไม่เคยใจเต้นแรงอย่างนี้สักครั้ง ภวัตค่อยๆ ปลดมือยัยจอมแก่นออกจากตัวข่มใจไม่ให้ตื่นเต้นจนแนนนี่รู้ เพราะเธออ่านใจเขาได้ง่ายมากถ้าภวัตเผลอตัวคิดเรื่อยเปื่อย เขารู้ว่าถ้าเขาทำจิตว่างแล้วแนนนี่จะไม่สามารถอ่านใจเขาได้เลย ชายหนุ่มแกล้งไล่แนนนี่กลับโดยอ้างว่าเขาจะดูหนังสือเตรียมสอบครั้งสุดท้าย แนนนี่ยอมกลับแต่โดยดี ภวัตข่มใจอ่านหนังสือต่อไป พยายามทำจิตนิ่งๆ แต่ภาพของแนนนี่แม่มดสาวสวยคอยรบกวนจิตใจอยู่ร่ำไป
วันหนึ่ง แนนนี่นึกสนุกแอบเดินทางไปที่ดินแดนเวทมนตร์ทั้งที่รู้ว่า ทาฮิร่าห้ามนักหนา แต่ความอยากรู้อยากเห็นทำให้เธอแอบไปจนได้ แนนนี่ตื่นตาตื่นใจมากกับความสวยงามของดินแดนแห่งนี้ สาวน้อยไปที่โรงเรียนเวทมนตร์ เธอนั่งฟังการสอนของครูอย่างสนุกสนาน คาถาต่างๆ พรั่งพรูเข้าสมองอย่างง่ายดาย ช่างต่างจากการเรียนที่มหาวิทยาลัยบนโลกจริงๆ ที่แนนนี่ไม่เข้าใจอะไรเลย หญิงสาวหลบออกไปก่อนที่ใครจะทันสังเกต เธอเดินเพลินๆ ไปที่ห้องสมุดสะดุดตากับหนังสือเล่มหนึ่งปกสีดำสนิทตัวหนังสือสีทองกระจ่างที่หน้าปก แนนนี่หยิบขึ้นมาเปิดดูอย่างสนใจ ตาคมสวยเป็นประกายอย่างถูกใจเมื่อเห็นว่าเป็นตำราที่รวบรวมคาถาบทพิเศษๆ เอาไว้ แนนนี่พึมพำขอยืมก่อนจะเก็บหนังสือเล่มนั้นใส่กระเป๋าสะพายทันที แม่มดน้อยออกเที่ยวต่อไปอย่างตื่นตาตื่นใจ จนมาถึงตลาดกลางเมืองซึ่งทาฮิร่า บาบาร่ากับไทเกอร์ออกมาซื้อของเช่นกัน แนนนี่เดินปะปนกับชาวเมืองไปเรื่อยๆ เธอเที่ยวเพลินจนไม่ทันระวังตัว มารู้สึกตัวอีกทีเจ้าไทเกอร์แมวตัวร้ายก็มาอยู่ตรงหน้าแล้ว ไทเกอร์เดินวนดมฟุดฟิดรอบตัวเธอ มันลังเลไม่แน่ใจเมื่อได้กลิ่นอสูรจางๆ จากตัวแนนนี่ กลิ่นอ่อนมากแต่ก็เป็นกลิ่นอสูร ไทเกอร์โวยวายเอะอะให้ช่วยจับอสูรทันที ทาฮิร่าตกใจแทบช็อกเมื่อเห็นแนนนี่ เหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวายจนแนนนี่ทำอะไรไม่ถูกแต่เมื่อหันไปเห็นทาฮิร่าก็ใจชื้น สองยายหลานคุยกันทางกระแสจิต ทาฮิร่าแอบร่ายมนตร์ช่วยแนนนี่ให้หนีรอดไปได้อย่างหวุดหวิดเต็มที
คืนนั้นทาฮิร่าตามมาดุแนนนี่ในตะเกียงแก้วมากมาย นางชี้ให้เห็นถึงอันตรายต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นกับแนนนี่ถ้ายังดื้อไม่เชื่อนางและแอบไปที่ดินแดนเวทมนตร์อีก และการที่แนนนี่หยิบตำราสำคัญออกมาจากดินแดนเวทมนต์ถือเป็นความผิดที่ร้ายแรง แนนนี่จึงหยิบตำราเล่มนั้นออกมาคืนทาฮิร่า หญิงสาวยิ้มไม่ออกเมื่อทาฮิร่าบอกว่าตำราเล่มนี้จะเป็นเหมือนอุปกรณ์ส่งสัญญาณที่ทำให้คนจากดินแดนเวทมนตร์ตามมาจับตัวเธอได้ ทาฮิร่าจึงสั่งห้ามแนนนี่ไม่ให้ไปที่นั่นอีกเด็ดขาด แนนนี่ยอมสัญญาแต่โดยดี ข่าวการเดินทางกลับมาของภวัตทำให้แนนนี่และดารกาตื่นเต้น ทุกคนในครอบครัวไปรับเขาที่สนามบิน ภาพของหญิงสาวสวยที่เดินคล้องแขนภวัตมาอย่างสนิทสนม คนอื่นตื่นเต้นดีใจตรงข้ามกับพี่น้องสองสาวที่หมดความสุขทันที
แนนนี่หงุดหงิดเมื่อจำได้ว่าเธอคือบุษบา หน้าสวยๆ บึ้งดุตาวาวน่ากลัวอย่างโกรธจัด ส่วนดารกาเจ็บจี๊ดที่หัวใจเธอรู้สึกเหมือนตัวกำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ เหมือนมีพลังอะไรบางอย่างที่รุนแรงมากอยู่ในตัวเอง ดารกาพยายามข่มไว้อย่างสุดความสามารถ เธอถามภวัตถึงพวงกุญแจแทนใจของเธอ ภวัตตอบว่ายังอยู่ทำให้ดารกาใจชื้นขึ้น ส่วนแนนนี่หงุดหงิดหวงภวัตหมั่นไส้ทั้งดารกาและ บุษบาที่วุ่นวายกับภวัตเหลือเกิน สาวน้อยจึงพึมพำร่ายคาถาขโมยพวงกุญแจรูปดารกาซึ่งเป็นของที่ระลึกแทนใจของพี่สาวมาจากภวัต เธอทำหน้าเฉยมองชายหนุ่มที่ค้นกระเป๋าเสื้อ กระเป๋ากางเกงวุ่นวายไปหมดเพื่อหาพวงกุญแจมาให้ดารกาเห็นว่าเขาเก็บไว้อย่างดีจริงๆ ภวัตแปลกใจที่หาไม่เจอ ในเมื่อเขามั่นใจว่าเก็บไว้ในกระเป๋ากางเกง สุดท้ายเขาต้องบอกดารกาว่าสงสัยเขาจะทำตกหายที่ไหนสักแห่ง เมื่อดารการู้ว่าภวัตทำพวงกุญแจหายหญิงสาวกลับเสียใจมากขึ้นไปอีก เธอรู้สึกเหมือนถูกทอดทิ้งไม่มีใครสนใจห่วงใยเลยสักคน หน้าจ๋อยๆ ของดารกาทำให้ภวัตสงสารมาก เขานึกรู้ว่าคงเป็นฝีมือแนนนี่แต่ทำอะไรไม่ได้ เขาตั้งใจว่าต้องพูดกับแนนนี่ให้รู้เรื่องเสียที
บุษบาแยกกลับไปกับหมอไชย (ตระการ พันธุมเลิศรุจี) พี่ชายซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง บุษบาเองก็มีหุ้นอยู่มากเหมือนกัน สองพี่น้องเป็นผู้บริหารคนสำคัญของโรงพยาบาลแห่งนี้ บุษบาสวีทกับภวัตอย่างไม่เกรงใจใคร เมื่อกลับถึงบ้านแนนนี่กลับไปที่ห้องส่วนตัว หยิบพวงกุญแจรูปดารกาออกมาโยนไว้บนโต๊ะเล็กหัวเตียงข้างตะเกียงแก้วใบน้อยอย่างหงุดหงิด เธอหมั่นไส้ทั้งดารกาและภวัตที่ใส่ใจกับพวงกุญแจนี้เหลือเกินทั้งที่แสนจะไร้สาระที่สุด ที่สำคัญทำไมภวัตไม่ยอมเข้าใจเสียทีว่าเขากับแนนนี่นั้นเกิดมาคู่กัน เธอไม่ยอมให้ภวัตเห็นผู้หญิงอื่นดีกว่าเธอแน่ๆ แม่มดจอมแก่นคิดอะไรเรื่อยเปื่อยจนไม่ได้ยินเสียงดารกาที่เปิดประตูเข้ามาในห้อง แนนนี่ตกใจเมื่อเห็นพี่สาวเดินมาถึงตัว ส่วนดารกาเมื่อเห็นพวงกุญแจของเธอวางอยู่บนโต๊ะหัวเตียง หญิงสาวหยิบขึ้นมากำไว้แน่นพูดอะไรไม่ออก ได้แต่มองน้องสาวอย่างเสียใจที่สุด น้ำตากลบตา แม้จะสงสัยว่าแนนนี่เอามาได้อย่างไรแต่ก็ยังน้อยกว่าอารมณ์ตัดพ้อน้อยใจเสียใจ ส่วนแนนนี่แก้ตัวไม่ออกได้แต่เจ็บใจตัวเองที่ประมาทไม่ซ่อนพวงกุญแจให้เรียบร้อย ดารกากำพวงกุญแจไว้ในมือเดินออกไปจากห้องนั้นทันที
เธอพบกับปัทมนที่หน้าห้องน้องสาว เพียงเห็นหน้าดารกาปัทมนก็รู้ว่าแนนนี่ทำเรื่องอีกแล้ว เธอดึงลูกสาวที่น่าสงสารเข้ามากอด เท่านั้นเองดารกาก็หมดความอดทน เธอกอดมารดาแน่นร้องไห้จนแทบไม่มีน้ำตาจะไหล ดารกาสะอื้นพลางเล่าทุกอย่างให้มารดาฟังจนหมด คืนนั้นปัทมนจึงเรียกแนนนี่มาพบที่ห้องพระ อบรมสั่งสอนอยู่นานและลงโทษด้วยการให้แนนนี่สวดมนตร์จากหนังสือสวดมนตร์จนจบเล่ม ดังนั้นกว่าแนนนี่จะได้ไปหาภวัตก็ดึกมากแล้ว เธอเสียใจที่ภวัตต่อว่าเรื่องพวงกุญแจของดารกาทันทีที่พบหน้า เขาไม่เปิดโอกาสให้แนนนี่พูดอะไรทั้งสิ้น แม่มดสาวน้อยจึงน้อยใจที่สุดเมื่อเข้าใจว่าเขาห่วงใยใส่ใจดารกามากกว่าเธอ แนนนี่มองเขาอย่างเจ็บช้ำใจที่สุดก่อนจะหายตัวกลับไปในตะเกียงแก้ว ทิ้งภวัตให้มองตามอย่างเสียใจที่ดุเธอมากไปหน่อย แนนนี่เงียบหายไปจนภวัตเริ่มกังวล ทว่างอนได้ไม่กี่วันสาวน้อยจอมแก่นก็ตามมาป่วนเขาอีกจนได้ แนนนี่ไม่เคยโกรธเขาได้เลยจริงๆ
ส่วนภวัตตัดสินใจไปทำงานกับหมอไชย เขามีความสุขกับการทำงานแต่การที่บุษบาตามวุ่นวายกับเขาทำให้ภวัตอึดอัดใจ เขายอมรับว่าเคยคิดจะพัฒนาความสัมพันธ์กับเธอให้มากกว่านี้ แต่ก็ต้องเปลี่ยนใจเพราะบุษบาไม่สามารถเข้ากับคนในครอบครัวเขาได้เลย ครอบครัวเขาที่หมายรวมถึง ปัทมนกับลูกๆ ด้วย ยิ่งนานวันบุษบาก็ยิ่งแสดงธาตุแท้ที่ร้ายกาจของเธอออกมา จนรัดเกล้าต้องมาออกปากกับเขา เธอเล่าว่าวันนี้ขณะที่ทุกคนสนุกสนานกับปาร์ตี้น้ำชา รัดเกล้าเห็นบุษบาทำกิริยาไม่น่าดูทำท่ารังเกียจดูถูกดารกาซ้ำร้ายยังพูดตอกย้ำเรื่องดารกาเป็นลูกที่แม่ไม่ต้องการ เป็นลูกสาวแม่ค้าขายปลากลางตลาด แม่ค้าที่โดนข่มขืนจนไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อของลูกในท้อง เมื่อคลอดจึงต้องทิ้งลูกซึ่งก็คือดารกานั่นเองจนดารกาต้องร้องไห้ แม้กระทั่งแนนนี่บุษบาก็ไม่ละเว้น รัดเกล้ามาถามภวัตให้แน่ใจว่าคิดจะให้บุษบามาเป็นพี่สะใภ้เธอหรือไม่ รัดเกล้ายิ้มได้เมื่อภวัตปฏิเสธว่าเขาไม่ได้รู้สึกกับบุษบามากไปกว่าความเป็นเพื่อน ภวัตไม่ได้บอกน้องสาวว่าคนที่ทำให้เขาเปลี่ยนใจคือแนนนี่ สาวน้อยคนนี้ทำให้เขารักเธอมากขึ้นทุกวัน แต่เขาต้องข่มใจไม่บอกให้เธอรู้ เขาจะรอจนกว่าเธอจะเรียนจบ ส่วนบุษบาความรักทำให้ตาบอด เธอรักภวัตมากเหลือเกิน บุษบาเกลียดทั้งดารกาและแนนนี่น้องสาวร่วมโลกของเขามาก ทำไมเธอจะดูไม่ออกว่าสองสาวนั่นรู้สึกอย่างไรกับภวัต เธอจะต้องหาทางกำจัดสองคนนั่นให้ได้
วันหนึ่ง บุษบามาที่บ้านภวัตขณะที่กำลังกินสปาเกตตีเป็นอาหารกลางวันกัน แนนนี่ซึ่งเลิกเรียนกลับมาพอดี เข้ามาขอร่วมโต๊ะด้วย บุษบาไม่พอใจมาก เธอทักทายแนนนี่อย่างอ่อนหวาน หยิกแกมหยอกแต่เชือดเฉือนร้ายลึกจนแนนนี่ทนไม่ไหว เธอโต้ตอบด้วยการเสกให้เส้นสปาเกตตีในปากบุษบาดิ้นกระดุบกระดิบจนเธอต้องคายออกมา ให้บุษบาตาฝาดเห็นสปาเกตตีเป็นหนอนดิ้นยั้วเยี้ยหลุดออกมาจากปาก เส้นสปาเกตตีในจานกลายเป็นหนอนดิ้นกระดุบกระดิบน่าคลื่นไส้ แนนนี่อมยิ้มเมื่อบุษบากรีดร้องโวยวายวิ่งหนีกลับไปที่รถขับออกไปทันที เด็กสาวหมดสนุกเมื่อหันมาเห็นภวัตกำลังมองเธอดุๆ วันนั้นภวัตอบรมแนนนี่มากมายและให้เธอสัญญาว่าจะไม่ใช้เวทมนตร์แกล้งใครอีก บุษบาหายไปหลายวัน ทำให้ทุกคนในครอบครัวมีความสุขมากขึ้นโดยเฉพาะแนนนี่ บ่ายวันหนึ่งภวัตกับแนนนี่ออกไปซื้อของด้วยกัน ชายหนุ่มซื้อเสื้อผ้าใหม่หลายชุด แนนนี่ช่วยเขาเลือกอย่างตั้งใจ ภวัตยอมรับว่าเธอมีรสนิยมดีและเลือกได้ถูกใจเขามาก ขณะที่แนนนี่ชวนภวัตดูต้นคริสต์มาสต์ต้นใหญ่ที่ประดับไฟระยิบตั้งอยู่ที่โถงใหญ่กลางห้างสรรพสินค้าหรู ที่ระเบียงชั้นบนสุดเด็กชายคนหนึ่งปีนขอบระเบียงออกมาเพื่อหยิบดาวบนยอดต้นไม้จนพลัดตกลงมา เสียงกรีดร้องดังลั่นจากคนที่พบเห็น ทุกอย่างหยุดนิ่งไปชั่วครู่เมื่อแนนนี่ร่ายเวทมนตร์ให้เด็กน้อยลอยกลับไปอยู่บนระเบียงลึกเข้าไปอย่างปลอดภัย เมื่อทุกอย่างกลับสู่ปกติ ภวัตเห็นมารดาของเด็กคว้าลูกชายอุ้มไว้อย่างปลอดภัยก็รู้ว่าเป็นฝีมือแนนนี่ เด็กสาวพึมพำขอโทษที่ผิดสัญญา แต่ภวัตกลับบอกว่าใช้เวทมนตร์ช่วยคนอย่างนี้ไม่เป็นไร เขายิ้มให้เธอแล้วจูงมือแนนนี่ชวนไปร้านอาหารอร่อยในห้างนั้น
บังเอิญว่าหมอไชยกับบุษบาอยู่ที่นั่นด้วย หมอไชยชวนร่วมโต๊ะด้วย แนนนี่หมดสนุกทันที ส่วนบุษบายิ่งเกลียดแนนนี่มากขึ้นไปอีก ภาพที่ภวัตเดินจูงมือแนนนี่ทำให้เธอแค้นจนสุดจะแค้น ขณะที่หมอไชยกับภวัตคุยเรื่องงานอย่างสนุกสนาน สองสาวกลับปะทะคารมเชือดเฉือนว่าใครกันแน่ที่เป็นคนพิเศษของภวัต แนนนี่หน้ามุ่ยเมื่อบุษบากระซิบว่าที่อเมริกาภวัตไม่ได้เพียงจับมือเธอเหมือนพี่ชายจูงน้องสาวอย่างเมื่อครู่หรอก แต่เขากับเธอทำมากกว่านั้นคือทั้งกอดและก็จูบ อาหารมื้อนั้นไม่อร่อยที่สุดในความรู้สึกของแนนนี่ โชคดีที่หมอไชยชวนบุษบากลับไปประชุมที่โรงพยาบาลก่อนที่แนนนี่จะทนข่มใจไม่ไหว สองพี่น้องแยกไปแล้ว ภวัตแปลกใจที่แนนนี่บ่นอยากกลับบ้าน
คืนนั้น ขณะที่ภวัตนั่งหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตอยู่เพลินๆ แนนนี่ก็ปรากฏตัวขึ้น เธอมาถามเขาเรื่องบุษบา อยากจะรู้ให้ได้ว่าเขาเคยจูบบุษบาหรือไม่ พูดไปพูดมาแนนนี่ก็พาล เธอขอให้เขาจูบเธอบ้าง บอกซื่อๆ ว่าอยากรู้ว่าเป็นอย่างไร ภวัตพยายามบ่ายเบี่ยง เขาอยากให้ทุกอย่างค่อยเป็นค่อยไปแต่แนนนี่ไม่ยอม สาวน้อยจอมแก่นบอกว่าถ้าเขาไม่จูบเธอ พรุ่งนี้แนนนี่จะไปที่มหาวิทยาลัยจะไปถามเพื่อนผู้ชายและจะให้พวกนั้นจูบเธอแทนซึ่งภวัตยอมไม่ได้เด็ดขาด เขาดึงมือแนนนี่ให้มายืนใกล้ๆ ก่อนจะก้มหน้าจูบเธอเบาๆ ที่ริมฝีปาก สัมผัสนั้นแผ่วเบาราวขนนกแต่ก็ทำให้เขาและเธอหน้าแดงร้อนวูบไปทั้งตัว ภวัตไล้แก้มแนนนี่เบาๆ พูดเสียงเข้มห้ามแนนนี่ไปทำอย่างนี้กับผู้ชายอื่นเด็ดขาด แนนนี่รับปากอายๆ แล้วหายตัวไป ภวัตถอนใจยาวเขาต้องพยายามอดทนข่มใจให้มากกว่านี้ ต้องรอจนกว่ายัยจอมแก่นนี่จะเรียนจบ เขาจึงจะบอกเธอได้ว่าเขาพร้อมจะดูแลเธอไปตลอดชีวิต
ตลอดเวลานั้นทั้งภวัต และแนนนี่ไม่รู้ว่าทาฮิร่ามาแอบดูอยู่ด้วย นางพร้อมจะจัดการภวัตถ้าเขาล่วงเกินแนนนี่มากไปกว่านี้ นางหายตัวตามแนนนี่ไปที่ตะเกียงแก้ว ตามไปอบรมหลานสาวจอมแก่นแสนซนอีกนาน หลังจากวันนั้นบุษบาตัดสินใจเด็ดขาดที่จะกำจัดมารหัวใจทั้งดารกาและแนนนี่ วันหนึ่งขณะที่ดารกากำลังจะกลับบ้าน เธอถูกชายลึกลับสามคนจับตัวไปที่บ้านร้างแห่งหนึ่ง บุษบาจ้างชายโฉดพวกนี้ให้ทำร้ายเธอ พวกมันพยายามจะข่มขืนดารกา หญิงสาวดิ้นรนหนีสุดชีวิต ด้วยความกลัวและอารมณ์เคียดแค้นที่เก็บกดมานาน ทำให้พลังร้ายในตัวดารกาปรากฏขึ้นมา เธอกรีดร้องดังลั่นเสียงนั้นทำให้ทุกอย่างสั่นสะเทือนราวกับเกิดแผ่นดินไหว ลมพายุพัดหมุนแรงรอบตัวดารกา ขณะที่หญิงสาวยืนนิ่ง แววตาที่มองออกมาเกรี้ยวกราดราวกับจะลุกเป็นไฟ สาวสวยหน้าหวานบอบบางกลายเป็นปีศาจร้ายน่ากลัว ชายทั้งสามตกใจแทบสิ้นสติ วิ่งหนีลนลานไปคนละทิศละทาง เมื่อทุกอย่างสงบลงดารกากลับบ้านอย่างอ่อนเพลียเธอไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ลึกๆ แล้วรู้สึกดีใจที่เธอมีพลังพร้อมที่จะจัดการคนที่ทำร้ายเธอได้แล้ว เมื่อครั้งแรกทำไม่สำเร็จ บุษบาไม่ละความพยายามส่งชายโฉดไปอีกหลายคนมากกว่าเดิมเพื่อทำลายดารกาให้เธอมีมลทินให้ได้ ภวัตจะได้เลิกสนใจดารกาเสียที
ในวันเกิดเหตุ ดารกาถูกจับตัวไปอีกครั้ง คราวนี้กลุ่มคนร้ายกักขฬะต่ำทรามมากกว่าเดิม เธอถูกพวกมันจับตัวไว้แน่น เสื้อผ้าโดนกระชากขาดวิ่น บุษบาซึ่งอยู่ที่นั่นด้วยมองอย่างสะใจ เธออยากจะเห็นดารกามารหัวใจของเธอโดนทำลายต่อหน้าต่อตา เมื่อเหตุการณ์วิกฤตดารกาดึงพลังในตัวเธอออกมาจนได้ กลุ่มชายชั่วผงะเมื่อแววตาสาวน้อยเปลี่ยนเป็นประกายตาของปีศาจ แววตาเปล่งประกายเขียวเรืองแสงน่ากลัว ดารกาสะบัดแขนเบาๆ กลุ่มชายโฉดที่จับตัวเธอก็กระเด็นไปคนละทิศละทาง หญิงสาวโบกมือไปมากรีดเสียงร้องอย่างดุร้ายน่ากลัว ลมพายุหมุนแรงบ้านร้างถล่มลงทับคนร้ายตายหมด บุษบาหาที่ซ่อนรอดตายหวุดหวิดแต่ก็หนีไม่ทัน ดารกาดักรออยู่แล้ว เมื่อรู้ว่าบุษบาอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เธอจึงแก้แค้นอย่างสาสม บุษบาจึงตายอย่างทรมาน เหตุการณ์ทั้งสองครั้งทำให้พลังของดารกามีมากขึ้น เมื่อบุษบาตายอย่างผิดปกติ ภวัตเข้าใจว่าเป็นฝีมือแนนนี่รวมถึงปัทมนด้วย แนนนี่โดนต่อว่ามากมายแต่การที่ภวัตหมางเมินเย็นชากับเธอกลับทำให้แนนนี่เสียใจที่สุด ประกอบกับทาฮิร่าเองก็หายไป แนนนี่ตัดสินใจไปหายายที่ดินแดนเวทมนตร์ แต่คราวนี้ แนนนี่ไม่โชคดีอย่างครั้งที่แล้ว สาวน้อยถูกจับตัวจนได้ เธอถูกพันธนาการแน่นหนาและทำให้ ทาฮิร่าเดือดร้อนไปด้วย แนนนี่พยายามร่ายคาถาหลบหนี แต่บนดินแดนแห่งนี้คาถาของเธอแทบไม่มีผลอะไรเลย ทางโลกมนุษย์ทุกคนร้อนใจที่แนนนี่หายไป โดยเฉพาะภวัตที่เพิ่งรู้แน่แก่ใจว่าเขารักแนนนี่มากแค่ไหน
ภวัตเจ็บปวดทรมานเมื่อติดต่อแนนนี่ไม่ได้ เธอหายไปอย่างไร้ร่องรอยจริงๆ ส่วนทาฮิร่าแอบมาบอกปัทมนว่าแนนนี่ถูกจับตัวไว้ที่ดินแดนเวทมนตร์และถูกตัดสินให้ถูกกำจัดเพราะเป็นอสูร ปัทมนใจจะขาดเธอได้แต่บอกทาฮิร่าว่า แนนนี่ไม่ใช่อสูรอย่างแน่นอน การหายตัวไปของแนนนี่ทำให้ดารกามีความสุข เธอฉวยโอกาสเข้าไปในห้องน้องสาวหยิบตะเกียงแก้วใบสวยขึ้นมาชื่นชมอย่างพอใจ เพียงคิดว่าอยากเข้าไปในตะเกียงแก้ว ดารกาก็ได้เข้าไปสมใจ บรรยากาศในนั้นสวยงามน่าอยู่มาก ของส่วนตัวของแนนนี่ที่วางไว้ทำให้ดารการู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของแนนนี่ ในเวลาเดียวกัน ทาฮิร่ากับแนนนี่พยายามหาทางหนีให้ได้ สองพลังแม่มดทำให้เครื่องพันธนาการของแนนนี่หลุดออก แม่มดน้อยหนีกลับมาโลกมนุษย์ได้อย่างหวุดหวิด เด็กสาวกลับไปที่ห้องนอนสัมผัสพิเศษทำให้รู้ว่าดารกาอยู่ในตะเกียงแก้ว แนนนี่หยิบตะเกียงเขย่าอย่างแรงจนดารกาอยู่ไม่ได้ ต้องปรากฏตัวออก ต่างฝ่ายยืนเผชิญหน้ากันด้วยตัวตนที่แท้จริง แววตาดารกาเปล่งประกายเขียวเรือง เธอได้โอกาสกำจัดแนนนี่แล้ว เมื่อไม่มีแนนนี่ภวัตก็จะรักเธอคนเดียว สองสาวต่อสู้กันดุเดือด
แนนนี่เป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำเพราะร่างกายอ่อนเพลียจากดินแดนเวทมนตร์ ดารกาบังคับให้ร่างแนนนี่ลอยขึ้นออกไปทางหน้าต่าง เธอพูดอย่างสะใจว่าแนนนี่ต้องตายอย่างน่าอนาถเหมือนบุษบา ตายเหมือนเป็นอุบัติเหตุ แต่ที่จริงแล้วเป็นเพราะดารกา แนนนี่พยายามขืนตัวไว้ แต่ก็ยากเต็มที ดารกาฆ่าคนตายไปหลายคนทำให้พลังอสูรในตัวเธอแข็งแกร่งมากขึ้น ก่อนที่แนนนี่จะตกลงไปทางหน้าต่าง ภวัตเข้ามาช่วยไว้ทันเวลา เขาดึงแนนนี่กลับเข้ามาจนได้ ชายหนุ่มกอดเธอไว้อย่างแสนรัก ภาพนั้นทำให้ดารกาแค้นมากขึ้นไปอีกเธอพยายามจะทำร้ายแนนนี่ให้ได้ แต่ภวัตหมุนตัวออกมาบังแนนนี่ไว้ เขาสบตาเขียวเรืองคลั่งแค้นของดารกาอย่างไม่กลัวพูดชัดเจนว่าถ้าดารกาจะฆ่าแนนนี่ก็ต้องฆ่าเขาก่อนเพราะเขาจะไม่ยอมให้ใครทำร้ายแนนนี่เด็ดขาด ดารกากรีดเสียงร้องอย่างโกรธแค้น เธอหายตัวไปที่ดินแดนเวทมนตร์ทันที อสูรร้ายในร่างดารกาทำลายดินแดนเวทมนต์อย่างบ้าคลั่ง
การปรากฏตัวของเธอทำให้ผู้นำแม่มดและคนอื่นๆ รู้ว่าใครคืออสูรร้ายตัวจริง ส่วนแนนนี่รีบตามดารกามาเพื่อขัดขวางเธอโดยมีภวัตตามมาด้วย แนนนี่สู้กับดารกาอย่างไม่กลัว ทั้งคู่เก่งพอๆ กัน ดินแดนเวทมนตร์โดนดารกาทำลายเสียหายมาก แผ่นดินแตกแยกเป็นรอยลึกอย่างน่ากลัว ทาฮิร่าได้แต่เฝ้ามองอย่างเป็นห่วง ผู้นำแม่มดเข้ามาบอกว่าที่จริงแล้วแนนนี่เกิดมาเพื่อกำจัดอสูรร้าย แต่เป็นเพราะเกิดในวันเดียวกัน เวลาเดียวกัน ทำให้เข้าใจผิด แนนนี่จะกำจัดดารกาได้แต่ก็ต้องตายไปพร้อมกัน ทาฮิร่ากับภวัตใจหายหาทางช่วยแนนนี่แต่ก็ยากเต็มที เมื่อถึงเวลาที่ชะตากำหนด แนนนี่รู้หน้าที่ว่าจะกำจัดอสูรร้ายตนนี้อย่างไร แม่มดน้อยแนนนี่ส่งกระแสจิตบอกทาฮิร่าว่า เธอรักนางมากและสำหรับภวัตเธอรักเขาและจะรักเขาคนเดียวตลอดไป แนนนี่กระซิบลาทุกคนก่อนจะคว้าแขนดารกาจับไว้แน่น พูดเสียงเข้มให้มาด้วยกัน เธอดึงร่างดารกาหายลงไปในรอยแยกของแผ่นดินด้วยกัน แนนนี่จะฝังร่างเธอกับดารกาลงใต้พื้นปฐพีลงไปให้ลึกที่สุด ร่างของสองสาวดิ่งลงไปอย่างรวดเร็ว ยิ่งลงลึกดารกาก็ยิ่งหมดแรงรวมถึงแนนนี่ด้วย ในช่วงเวลาเดียวกันปัทมนที่นั่งสวดมนตร์อยู่ในห้องพระ เห็นเหตุการณ์ทุกอย่างจากสมาธิเธอพยายามเตือนสติดารกาให้หยุดทำบาป ในช่วงเวลาเดียวกัน เสียงสวดมนตร์ของปัทมนทำให้สองสาวชะงัก แนนนี่กระซิบลาปัทมนก่อนจะลากดารกาดิ่งลงไปอีก อสูรร้ายดารกาต้องถูกกำจัด ตรงข้ามกับดารกาที่กระแสบุญของปัทมนทำให้เธอรู้สึกตัวได้สำนึกในความผิด ดารการวบรวมพลังครั้งสุดท้ายสะบัดแขนหลุดจากแนนนี่ เธอผลักน้องสาวจนสุดกำลังให้ลอยกลับขึ้นไป ร่างของสองสาวแยกจากกัน แนนนี่ลอยสูงขึ้น ส่วนดารกากลับดิ่งลึกลงอย่างรวดเร็ว เธอตะโกนบอกแนนนี่ให้ช่วยดูแลทุกคนโดยเฉพาะปัทมนและภวัต ทันทีที่ร่างแนนนี่ลอยพ้นรอยแยกของแผ่นดิน ผู้นำแม่มดและคนอื่นๆ ช่วยกันร่ายมนตร์จนผืนแผ่นดินกลับสมานกันสนิทเป็นดินผืนเดียวกันเหมือนเดิม อสูรร้ายดารกาถูกฝังจนไม่มีทางจะกลับมาทำร้ายใครได้อีกต่อไป ทาฮิร่ากลายเป็นแม่มดคนดังเป็นวีรสตรีแม่มดที่ปกป้องเลี้ยงดูผู้กำจัดอสูร ซึ่งก็คือแนนนี่จนโต เพราะถ้าทาฮิร่ากำจัดทารกน้อยแนนนี่ตั้งแต่พบตัว ดินแดนเวทมนตร์ต้องถูกทำลายจนหมดแน่นอน
แนนนี่กับภวัตกลับมาใช้ชีวิตบนโลกมนุษย์เหมือนเดิม เมื่อใครถามหาดารกาว่าหายไปไหน ปัทมนจำต้องบอกทุกคนว่าดารกาไปเรียนต่อต่างประเทศ เมื่อรัดเกล้าเรียนจบมาทำงานที่บริษัทของปัทมนซึ่งธานีเข้ามาช่วยบริหารงาน รัดเกล้ากับธานีเป็นคู่กัดที่น่ารักในสายตาของปัทมนและจักรวาล และคู่กัดก็กลายมาเป็นคู่รักจนได้ ธานีหมั้นกับรัดเกล้า ส่วนภวัตรอเวลาที่แนนนี่จะเรียนจบแล้วจะหมั้นกับเธอเป็นคู่ต่อไป ทาฮิร่าได้แต่ปลื้มใจที่หลานสาวจะมีความสุข ภวัตกับแนนนี่เกิดมาคู่กันจริงๆ เมื่อหมดกังวลในเรื่องแนนนี่ ทาฮิร่าจึงออกไปเที่ยวรอบจักรวาล โดยมีบาบาร่าและไทเกอร์ตามไปด้วย