ละคร แม่ผัวตะบันไฟ แม่ยายตะไลเพลิง

ดู 1,945 ครั้ง / แชร์
ละครออกอากาศ วันจันทร์ วันอังคาร วันพุธ วันพฤหัส วันศุกร์
ช่องที่ออกอากาศ ละครช่อง 3
เริ่มออกอากาศ 25 สิงหาคม 2554
เวลาออกอากาศ 18:30 - 20:00 น.
  
กำกับโดย ศุภฌา ศรุฑนาค
นำแสดงโดย
วิทยา วสุไกรไพศาล ... พลรบ
ณปภา ตันตระกูล ... เหมยหลิน
ดวงตา ตุงคะมณี ... ศรีจันต์
ญาณี จงวิสุทธิ์ ... กิมกี
มนตรี เจนอักษร ... อุดร
กฤตย์ อัทธเสรี ... เสี่ยสมบัติ
เกริก ชิลเลอร์ ... ราเชน
สุพจน์ จันทร์เจริญ ... ครองธรรม
กณิณ ปัทมนันท์ ... ราชันย์
พรรณชนิดา ศรีสำราญ ... รจเรจ
ไซม่อน เคสเลอร์ ... ยกทับ
พิศาล ศรีมั่นคง ... ชัยสว่าง
นนท์ หาญตระกูล ... ลิ้นจี่
มยุรี อิศรเสนา ณ อยุธยา ... ชอุ่ม
ใจดี ดีดีดี ... อุ่นเรือน
จีรนันท์ ปรีดากุล ... มะนาว
วิมลลักษณ์ จงรัตนเสธีกุล ... ฝนแรก
กัญญ์รัชการย์ นิลวรรณ ... ผ่อง
หมวย ชวนชื่น ... สำเพ็ง
นันท์นิชา ดิษฐ์พาณิชย์ ... นมผึ้ง
ผู้สร้าง ทีวีธันเดอร์

ภาพนิ่งจากละคร

เรื่องย่อ แม่ผัวตะบันไฟ แม่ยายตะไลเพลิง

พลรบ (วิทยา วสุไกรไพศาล) หนุ่มนักเรียนนอก ต้องกลับมาทำธุรกิจของที่บ้านโดยไม่ได้ใช้ความรู้ความสามารถที่เรียนมาเพราะ นางศรีจันต์ (ดวงตา ตุงคมณี) มารดาทำธุรกิจน้ำพริก ในนาม “น้ำพริกแม่ศรีจันต์” ซี่งเป็นเจ้าใหญ่ของสุพรรณบุรี โดยมีน้ำพริกปลาร้าเป็นสินค้าขึ้นชื่อ มีคู่ปรับ คือ นางกิมกี (ญาณี จงวิสุทธิ์) เจ้าแม่ขนมไทย ฉายา “กิมกีกะหรี่ปั๊ป” มีกะหรี่ปั๊ปไส้ไก่พริกไทยดำ เป็นขนมสูตรเด็ดเลื่องชื่อเช่นกัน เมื่อทั้ง 2 มาพบกันมีอันต้องเกิดเรื่องวุ่นวายเพราะต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกัน ซึ่งสาเหตุมาจากอดีตทั้งคู่เคยเป็นเพื่อนรักกัน แต่ต้องมาแตกคอเพราะหลงรักพระเอกนักบู๊ชื่อ ราเชน (เกริก ชิลเลอร์) ที่ทั้งคู่แย่งชิงกันแต่สุดท้ายชายหนุ่มหายตัวไปทำให้ต่างโทษอีกฝ่ายเป็นสาเหตุทำให้ราเชนหนีหายไป จึงตัดเป็นตัดตายกลายเป็นคู่แข่งกันตั้งแต่นั้นมา คนที่ค่อยช่วยห้ามไม่ให้ทั้งคู่ทะเลาะกันเมื่อเจอหน้าก็หนีไม่พ้นบรรดาลูกและสามีอย่าง นายอุดร (มนตรี เจนอักษร) สามีของนางศรี และ เสี่ยสมบัติ (กฤตย์ อัทธเสรี) สามีของกิมกี และลูกสาวของนางกิมกี เหมยหลิน (ณปภา ตันตระกูล) ที่พลรบเมื่อได้พบเหมย ก็ตะลึงในความสวยที่เปลี่ยนไปจากอดีตจากเด็กอ้วนกะโปโล และเมื่อต้องค่อยรวมมือกันห้ามไม่ให้แม่ๆ ทะเลาะกันบ่อยเข้าทำให้ทั้งคู่ได้ใกล้ชิดกันจนกลายเป็นความรัก แต่ก็ต้องพบกับอุปสรรคใหญ่ คือ แม่ของพวกตนที่ไม่ยอมให้ทั้งคู่คบกัน แต่ทั้งคู่ก็ได้รับความช่วยเหลือจาก ไฉ (พิศาล ศรีมั่นคง) พี่ชายของเหมย และ ยกทัพ (ไซม่อน เคสเลอร์) น้องชายของพลรบ ร่วมถึงเพื่อนของเหมยอย่าง มะนาว (จีรนันท์ ปรีดากุล) ฝนแรก (วิมลลักษณ์ จงรัตนเสธีกุล) แต่เมื่อ กิมกี ก็บังคับเหมยแต่งงานกับ ครองธรรม (สุพจน์ จันทร์เจริญ) ลูกชายของผู้ดีเก่า

เมื่อ พลรบ รู้เรื่องจึงบุกงานหมั้นของ เหมย ทำให้เหมยต้องหลอกทุกคนว่าท้องกับพล โดยได้รับความช่วยเหลือจาก เฮียไฉ ช่วยสร้างหลักฐานมาหลอกว่า เหมย ท้องจึงทำให้แม่ทั้งสองต้องจำยอมให้ทั้งคู่ได้แต่งงานกัน ก่อนวันงานแต่งงานของทั้งคู่จะเกิดขึ้น ราเชน ก็ปรากฎตัวขึ้น กลับมาเพราะต้องการสูตรลับของแม่ๆ ทั้งสอง โดยวางแผนทำให้ทั้งสองครอบครัวแตกคอกันด้วยการส่ง ราชันย์ (กณิณ ปัทมนันท์) ลูกชายของตน และ รจเรจ (พรรณชนิดา ศรีสำราญ) เมียของราชันย์ เข้ามาตีสนิทกับทั้งสองครอบครัว ให้ ราชันย์ จีบเหมย หวังล้วงความลับสูตรขนมจากเหมยและนางกิมกี ส่วน รจเรจ เข้ามาตีสนิทนางศรีเพื่อพยายามแทรกระหว่าง พล เหมย และหาทางขโมยสูตรน้ำพริก

หลังงานหมั่น พลพาเหมย เข้ามาอยู่ในบ้าน ทำให้นางศรีไม่พอใจจึงหาทางกลั่นแกล้งเหมย แต่เหมยก็รับได้ทุกสถาณการณ์และยิ่งนางศรียิ่งโกรธหนักเมื่อเหมยมาขอสูตรทำน้ำพริกที่เป็นความลับของนาง จึงออกอุบายให้เหมยทำน้ำพริกผิดสูตรจนเสียหมดศูนย์เงินหายนับแสน เมื่อ นางกิมกี รู้จึงบุกมาถึงบ้านนางศรี เพื่อพา เหมย กลับบ้าน และคิดแก้แค้นนางศรี โดยออกกฏว่าก่อนวันแต่งเป็นธรรมเนียม ต้องให้เจ้าบ่าวมาอยู่บ้านเจ้าสาวสิบวันเพื่อบูชาบรรพบุรุษ พลรบพยายามเอาใจนางกิมกี ทั้งช่วยงานในบ้านและช่วยทำขนมแต่นางกิมก็ไม่ใจอ่อน จนวันหนึ่งเสี่ยสมบัติเกิดหน้ามืด หายใจไม่ออกได้พลรบช่วยไว้ นางกิมถึงรู้สึกดีกับพลรบขึ้นมาบ้าง

เมื่อแต่งงาน เหมย เข้ามาอยู่บ้านนางศรีในฐานะภรรยาของพล แต่ไม่ยอมร่วมเตียงกับพล จนพลรบน้อยใจและคิดว่าที่จริง เหมย ไม่ได้รักตน ด้านนางศรี ก็น้อยใจที่ทุกคนในบ้านหันไปรักเหมย จึงออกเที่ยวกลางคืนจนไปพบผับของราเชนดูแลอยู่ และได้พบกับนางกิม ที่ว้าเหว่เพราะเสียลูกสาวไปอยู่บ้านศรี ทำให้นายอุดร และเสี่ยสมบัติ กลุ้มใจเพราะนางศรีและนางกิมออกเที่ยวผับนายเชนทุกคืน ทั้งสองจึงตามไปจะเอาเรื่อง แต่ดันไปเจอ เจ๊อิ่มสวาท และราเชน กล่อมให้ทั้งคู่ไปเที่ยวนอกเมืองให้พ้นจากสายตาเมีย ทำทั้งคู่ติดใจออกเที่ยวทุกคืน

ส่วนรจเรจ เอาใจ นางศรี จนให้มาดูการทำน้ำพริกที่บ้านของตนและให้พลรบดูแลใกล้ชิดรจเรจเป็นพิเศษ ทำให้เหมยโกรธพลรบ และกลับไปบ้านแต่ก็ต้องพบว่า ราชันย์ กลายเป็นแขกประจำของบ้านเพราะเสนอตัวมาสอนนางกิมกี ร้องเพลง ส่วนพลรบยิ่งเหมยไม่ยอมนอนด้วยยิ่งน้อยใจ หันไปสนิทกับรจเรจมากขึ้น จนวันหนึ่งเหมยกลับบ้านกลางดึกกลางดึกพบว่า พลรบ เมา กำลังกอดรจเรจอยู่ เหมยและพลรบ จึงทะเลาะกัน เหมย เลยขอกลับไปอยู่บ้านของตน พลตามไปง้อแต่ก็พบว่าเหมยอยู่กับ ราชันย์ นางกิมจึงเสนอว่า ถ้าเหมยคลอดลูก เธอจะขอหย่าทันทีและเหมยเองก็ยืนยัน พลยิ่งเสียใจ นางศรีเห็นเช่นนั้นจึงยุให้พล เอารจเรจมาเป็นลูกสะใภ้แทนเหมย

ในงานออกร้านของจังหวัด เหมยและพล ควง รจเรจและราชันย์ มาในงานเพื่อเย้ยกัน จนเหมย หมั่นไส้เข้าตบหน้ารจเรจ แต่พลเข้าปกป้องและต่อว่าเหมย ราชันย์จึงเข้าปกป้องเหมย พลชกราชันย์ เหมยเห็นเหตุการณ์วุ่นวายจึงตัดสินใจ บอกความจริงกับทุกคนว่าไม่ได้ท้อง นางศรีและนางกิมกี รู้ก็ดีใจประกาศว่า การแต่งงานของทั้งคู่เป็นโฆฆะ ในวันที่เหมยมาเก็บของพลเมาหนักด้วยความเสียใจ พลรบจึงขอคุยกับเหมยส่วนตัวในห้องนอน แล้วชวนเหมยดื่ม จนเช้าวันต่อมาทั้งคู่ตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดของกันและกัน และตกลงหาทางฝ่าด่านแม่ๆ กลับมาอยู่ด้วยกันให้ได้อีกครั้ง ด้านยกทัพ จับได้ว่ารจเรจ มีแผนที่จะขโมยสูตรน้ำพริกของแม่ตน เช่นเดียวกับ เฮียไฉ ที่สงสัยว่าราชันย์เช่นกัน

จนเมื่อ พลปฎิเสธที่จะแต่งงานกับรจเรจ และเหมยปฎิเสธราชันย์ ทำให้ราเชนโกรธทั้งคู่ที่ทำตามแผนไม่สำเร็จ อิ่มสวาท จึงเสนอให้ลักพาตัวทั้งสองแม่มารีดความจริงแทน นางกิมกี สงสัยว่าเหมยกลับไปค้างบ้านพลทุกคืน นางศรีก็สงสัย พล ที่ช่วยเหมยเก็บของทุกคืนเช่นกัน มีแต่ยกทัพและเฮียไฉ สองคนที่รู้เรื่องของทั้งคู่ว่ากับมารักกันเหมือนเดิม นางกิมตัดสินใจบุกบ้านนางศรีอีกครั้ง จึงเกิดศึกปะทะคารมของทั้งคู่ขึ้นที่หน้าบ้าน จนมีชายฉกรรจ์เข้ามาลักพาตัวทั้งสองคนขึ้นรถตู้ไป นั้นคือพวกของ ราเชนจับทั้งสองมาที่เซฟเฮ้าส์ของ ราเชน และเฉลยความจริงว่าไม่ได้รักทั้งสองแม้แต่นิดแต่ต้องการสูตรลับของทั้งสอง นางศรีและนางกิมกีจึงบอกสูตรรับของพวกตน แต่ ราเชน ไม่เข้าใจ ทรมานทั้งสองให้อดข้าวอดน้ำ ทั้งสองจึงตกลงร่วมมือกันหาทางหนี จนหลบออกมาได้แต่ก็พบว่าตนอยู่กลางป่าลึกไม่รู้ทางออก แถมโดน ราชันย์ อิ่มสวาทและ รจเรจ ไล่ล่า ทั้งสองจึงหนีเข้าไปในป่าลึก

ด้าน พลและเหมย และทุกคนในครอบครัวออกตามหาสองแม่กันทั้งเมืองแต่ไม่พบ จึงให้ตำรวจช่วยออกตาม ส่วน ราเชน เมื่อได้ข่าวว่าทั้งสองแม่หนีออกไปได้ จึงรีบกลับเซฟเฮ้าส์ทันที ส่วนทั้งสองแม่ที่อยู่ในป่าก็ยังสามารถเอาตัวรอดได้และได้ปรับความเข้าใจกันถึงเรื่องที่ทำให้บาดหมางกันในอดีตจนเข้าใจกัน ทั้งคู่จึงตกลงเป็นเพื่อนกันอีกครั้ง

ฝ่ายราเชนและพวกก็ตามมาจนเจอทั้งสองแม่จึงจับตัวทั้งคู่กลับไปที่เซฟเฮ้าส์ สองแม่จึงออกอุบายบอกสูตรรับด้วยการทำสาธิตให้ดู โดยนางศรี หลอกบอกสูตรลับของตนอยู่ที่เมล็ดสมุนไพรมะกล่ำตาหนูที่คั้นน้ำออกมาได้หนึ่งถ้วยผสมในเครื่องแกงได้ทุกชนิด ส่วนนางกิม หลอกว่าเคล็ดลับขนมของเธอคือ ดอกยี่โถจีน คั้นน้ำออกมาดื่มสดๆ ทั้งราเชน เจ๊อิ่มสวาท ราชันย์ และรจเรจ ลองชิมดูก็เกิดอาการท้องเสียอย่างรุนแรง เพราะที่แท้สมุนไพรที่นำมาใช้ คือสมุนไพรพิษที่มีผลทำให้ท้องร่วงรุนแรงที่ทั้งสองแม่เก็บได้จากในป่านั่นเอง

พล เหมย นายอุดรและเสี่ยสมบัติ พร้อมตำรวจบุกมาถึงเซฟเฮ้าส์ก็พบว่า ราเชนและพวก ท้องร่วงนอนแผ่หมดสภาพ สองแม่ดีใจที่ได้เจอลูกชายลูกสาวและสามีอีกครั้ง แต่ก็ยังแสดงทีท่าว่ายังไม่ญาติดีต่อกัน ทำให้ทั้งพลและเหมยไม่กล้าจะบอกความจริงว่าตนจะไม่หย่าแล้ว จนถึงวันนัดเซ็นใบหย่า ทั้งสองครอบครัวมากันพร้อมหน้า นางศรีและนางกิม ถามพลและเหมยว่ารักกันมากแค่ไหน เมื่อรู้ว่าทั้งคู่รักกันมากและเหมยท้องจริงๆ แล้ว ทั้งสองแม่จึงให้ทั้งคู่กับรักกันเหมือนเดิม และนางศรีจันต์และนางกิมกี ได้เผยสูตรลับของทั้งคู่ให้พลและเหมยรู้ ว่า “ความอดทนและประณีตนั้นก็คือขั้นตอนทุกขั้นต้องใส่ใจ วัตถุดิบต้องสดใหม่ เครื่องแกงและขนมบางอย่างต้องใช้เวลาทั้งคืนทั้งวันในการปรุง กว่าจะถึงเครื่องทั้งรสชาติและกลิ่นกรุ่น นี่แหละสูตรลับง่ายๆ ของของดีประจำจังหวัด” ของสองแม่ผัวและแม่ยายคู่นี้ เป็นความสามารถของภูมิปัญญาไทยโดยแท้ที่ต้องรักษาไว้สืบชั่วลูกชั่วหลาน