ละคร เงาพราย
ดู 2,173 ครั้ง /
แชร์
ละครออกอากาศ | วันจันทร์ วันอังคาร | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ช่องที่ออกอากาศ | ละครช่อง 3 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เริ่มออกอากาศ | 31 พฤษภาคม 2554 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เวลาออกอากาศ | 20:30 - 22:30 น. |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
กำกับโดย | วีระชัย รุ่งเรือง | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ประพันธ์โดย | บทประพันธ์ แก้วเก้า, บทโทรทัศน์ เอกลิขิต | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
นำแสดงโดย | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ผู้สร้าง | ทีวีซีน |
ภาพนิ่งจากละคร
เรื่องย่อ เงาพราย
ศักยะ (ศรราม เทพพิทักษ์) เดินทางกลับเมืองไทยหลังทราบข่าวการเสียชีวิตของ นาวาโท หลวงสินาดชลยุทธ์ ซึ่งเป็นปู่แท้ๆ ของเขาซึ่งมอบมรดกบ้านสินาดชลยุทธ์และทรัพย์อีกจำนวนหนึ่ง ส่วน นิศรา (อภิสรา ฉวีวงษ์) ลูกพี่ลูกน้องได้ทรัพย์สินจำนวนหนึ่ง และหลวงสินาดฯได้มอบเงิน 1 ล้านบาท ให้กับ ลพ (กิตติศักดิ์ ชีวาสัจจาสกุล) เพื่อนรักและผู้มีพระคุณแต่ยังหาเขาไม่พบ และหลวงสินาดฯ ยังระบุไว้ในพินัยกรรมว่าให้ศักยะนำของขลังที่เก็บในกระท่อมท้ายบ้านไปถ่วงลงน้ำที่ปากอ่าวทั้งหมด แต่เมื่อ ตาจอน (ไกรลาศ เกรียงไกร) พาศักยะนำของขลังไปทิ้งปากอ่าวตามที่คุณปู่สั่งไว้ ศักยะกลับแอบนำโถลายครามออกมาและเขาก็สังเกตเห็นควันพวยพุ่งขึ้นมาก่อนจะละลายหายไปในอากาศ หลังจากนั้น ศักยะนำโถลายครามไปขายให้ รัชต์ (เกียรติกมล ล่าทา) เพื่อนเก่าสมัยมัธยมของเขา แต่รัชต์ไม่ซื้อเพราะเห็นรอยแตกร้าวที่โถ ที่นั่นศักยะที่พบ พิมพ์พัสตรา (ชาเคอลีน มิ้นช์) แฟนของรัชต์ เขารู้สึกชอบเธอตั้งแต่แรกเห็น
ศักยะนำโถลายครากลับบ้านเขาเห็นสิ่งประหลาดเหมือนหนอนแหวกว่ายในนั้น จึงตกใจและขว้างไปจนโถแตกเป็นเสี่ยงๆ คืนหนึ่ง ศักยะฝันเห็นเจ้าคุณปู่ตำหนิเขาที่ไม่นำผอบแก้วไปถ่วงน้ำ เขารู้สึกว่าบ้านหลังนี้มีอะไรแปลกๆ จึงปรึกษากับรัชต์ว่าอยากจะขาย แต่รัชต์เสียดายจึงท้วงว่าจะขอเช่าเป็นออฟฟิศสำหรับสำนักงานตกแต่งบ้านของเขา ศักยะจึงตอบตกลงทันที ในคืนนั้น เขาพบพราย มันบอกว่ามันสามารถบันดาลทุกสิ่งที่เขาต้องการได้ ศักยะลองทดสอบดูก็ได้สิ่งที่เขาต้องการจริงๆ แต่เขาก็เก็บเรื่องนี้เป็นความลับ
ต่อมาศักยะได้พบกับ เรน หรือ วัสสา (ราศรี บาเลนซิเอก้า) ผู้ช่วยของรัชต์ ศักยะให้เจ้าพรายช่วยตามหาลูกหลานของเพื่อนคุณปู่ให้มารับมรดก จึงได้รู้ว่าเรนเป็นลูกหลานของคุณตาลพที่เขาตามหา ซึ่งคุณตาลพไม่มีลูกหลานอื่น นอกจากน้องชายของท่านคือ คุณตาเลิศ (ชุมพร เทพพิทักษ์) ซึ่งเป็นตาแท้ๆ ของเรน วันหนึ่ง เมื่อเรนมาดูแลงานตกแต่งออฟฟิศในตอนเย็น เธอก็ได้พบกับคนรูปร่างเหมือนเด็กแต่หน้าแก่ มันหลอกให้เธอไปแขวนคอที่ต้นไม้ใหญ่ โชคดีที่ศักยะมาพบเข้าและช่วยเธอได้ทันเวลา ตาจอนรู้เข้าก็ตกใจและไม่พอใจจึงตำหนิศักยะที่ไม่ยอมเอาผอบแก้วไปถ่วงน้ำ และบอกให้ศักยะขายบ้านแล้วกลับไปนิวซีแลนด์เพื่อความปลอดภัย แต่ศักยะก็หาว่าแกเลอะเลือนและจะรื้อศาลพระภูมิทิ้ง ตาจอนห้ามไว้ก็ไม่เป็นผล ต่อมาเจ้าที่ได้มาเตือนตาจอนให้รีบออกจากบ้านให้เร็วที่สุดเพราะท่านคุ้มครองแกไม่ได้แล้ว แต่ในที่สุดตาจอนก็ไม่รอดพ้นเงื้อมมือของปีศาจพรายไปได้
หลังจากนั้นศักยะก็ให้เจ้าพรายช่วยเหลือเรื่องงานจนประสบความสำเร็จและมีรายได้ดีขึ้น ต่อมาเจ้าพรายจะเอาชีวิตรัชต์แต่ศักยะก็ช่วยรัชต์ไว้ได้ ดังนั้นเจ้าพรายจึงเอาชีวิตไว เด็กรับใช้ในบ้านรัชต์ไปแทน ในวันเผาศพไว ศักยะรู้สึกร้อนรุ่มเหมือนถูกไฟเผาแล้วเขาก็ไข้ขึ้นสูงและหมดสติไป เมื่อฟื้นขึ้นมาเขาก็พบว่าพิมมาเฝ้าพยาบาลเขา เขาจึงหลงรักพิมเต็มหัวใจ หลังจากนั้นความสัมพันธ์ของศักยะกับพิมก็พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วโดยที่รัชต์กับเรนไม่รู้ วันหนึ่งเข็มทอง แฟนสาวของไวบังเอิญได้ยินศักยะพูดกับเจ้าพราย เธอจึงไปฟ้องรัชต์เรื่องที่ศักยะพูดอยู่คนเดียวเพราะเธอระแวงศักยะอยู่แล้ว แต่ก็ไม่เป็นผล ศักยะต้องการจะกำจัดเข็มทองแต่เข็มทองคอยหลีกเลี่ยง อีกทั้งแม่ของรัชต์ให้เข็มทองไปช่วยงานที่ร้านเบเกอรี่ จึงยิ่งทำให้ศักยะไม่มีโอกาสได้พบเข็มทองอีก
เจ้าพรายให้ศักยะลงทุนในตลาดหุ้น สร้างทรัพย์สินเพิ่มพูนให้ชายหนุ่มอย่างเงียบเชียบและรวดเร็ว โดยที่ศักยะไม่บอกให้ใครรู้ ศักยะพาคุณตาเลิศไปดูบ้านของคุณปู่ ตาเลิศเล่าเรื่องเพื่อนของปู่ศักยะที่ชื่ออ้นที่อุตรินำหัวกะโหลกออกมาจากดงกล้วย แต่เมื่อเอาหัวกะโหลกกลับไปคืน เขากลับออกมาไม่ได้จึงอดตายอยู่ในนั้น เหมือนเป็นตัวตายตัวแทนของผีตายโหงเจ้าของหัวกะโหลก แม้ตำรวจมาสืบสวนก็ยังหาสาเหตุการตายไม่ได้ หลังจากนั้น ปู่ชัดก็ตัดสินใจเผาดงกล้วยจนสิ้นซาก ตาเลิศสังเกตเห็นว่าศาลเจ้าที่หายไปและเมื่อเห็นรูปปู่ชัด ตาเลิศก็ทักว่าหน้าตาปู่ชัดในรูปดูเศร้าหมองแบบที่ไม่เห็นมาก่อน ศักยะยกไม้เท้าที่เคยเป็นของปู่ให้ตาเลิศ และยังให้เรนกับคุณตาไปอยู่บ้านเดี่ยวหลังใหม่ที่เขาซื้อไว้ชั่วคราวในระหว่างที่เรนหาบ้านหลังใหม่ แต่คุณตาเลิศไม่อยากอยู่ที่บ้านหลังนี้ เพราะรู้สึกร้อนรุ่มอย่างบอกไม่ถูก
ธุรกิจของรัชต์ประสบปัญหาและอุปสรรคมากขึ้นเรื่อย ๆ พ่อของรัชต์ถูกหามเข้าโรงพยาบาลกะทันหัน ในขณะที่ศักยะประสบความสำเร็จเพราะเขามีเจ้าพรายคอยกระซิบบอกว่าจะทำอย่างไรต่อไป มันแนะนำให้ศักยะลงทุนในตลาดหุ้นต่อไปและซื้อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของรัชต์มาเป็นของตนในนามของ เอสวายเรียลเอสเตท รัชต์ไม่ระแคะระคายเลยว่าเจ้าของเอสวายเรียลเอสเตทก็คือศักยะนั่นเอง จนวันที่ศักยะเข้าไปประกาศกับเขาในห้องทำงาน รัชต์ตกตะลึงอย่างนึกไม่ถึง ศักยะอวดอ้างตัวเองและบอกว่าจะจ้างรัชต์กับเรนเป็นพนักงานในบริษัทที่เขาซื้อไว้ ซึ่งเดิมเคยเป็นของพ่อแม่รัชต์มาก่อน ทำให้รัชต์เจ็บปวดและไม่พอใจมาก รัชต์ปฏิเสธงานที่ศักยะเสนอให้ ศักยะทำเป็นใจกว้างให้รัชต์ใช้บ้านคุณปู่เขาเป็นออฟฟิศต่อไปได้ฟรีๆ โดยไม่คิดค่าเช่า แต่เรนกับรัชต์ไม่อยากอยู่ที่บ้านหลังนี้อีกต่อไปแล้วจึงมองหาสถานที่ใหม่สำหรับทำเป็นออฟฟิศ
พิมบอกเลิกรัชต์โดยอ้างว่าเขาไม่ค่อยมีเวลาให้เธอ เรนรู้ว่าพิมหันไปคบกับศักยะแต่ไม่กล้าบอกนาย เข็มทองย้ายมาทำงานที่ออฟฟิศเดียวกับเรน หลังจากกิจการของแม่รัชต์ต้องล้มเลิกไป ตาเลิศมาช่วยงานที่ออฟฟิศบ้างเพราะรู้สึกไม่ชอบมาพากล และยังได้ยินเรื่องแปลกๆ ที่เข็มทองเล่าให้ฟังอีกด้วย ความสัมพันธ์ของศักยะกับพิมแนบแน่นจนเป็นที่รู้กันว่าเธอคือว่าที่เจ้าสาวของเขา ศักยะได้ทุกอย่างตามที่เจ้าพรายรับปากไว้ มันจึงกลับมาทวงผู้หญิงที่เคยขอศักยะเป็นข้อแลกเปลี่ยน ศักยะจึงหลอกพาเข็มทองมาฆ่าและเอาศพของเธอใส่ถุงดำไปทิ้ง ต่อมาศักยะถูกเรียกตัวไปสอบปากคำ และชายหนุ่มก็ขอให้เจ้าพรายช่วยไม่ให้ตำรวจพบรอยเลือดในโกดังที่เขาฆ่าเข็มทอง มันแนะนำว่าต้องให้ไฟไหม้โกดังทำลายหลักฐานทั้งหมดซึ่งหมายความว่าไฟต้องไหม้บ้านทั้งหลังด้วย ศักยะรู้สึกเสียดายบ้านแต่จำใจตอบตกลงเพราะไม่อยากให้เรื่องยุ่งยากไปกว่านี้ ตำรวจจึงยังหาฆาตกรตัวจริงไม่ได้
รัชต์ย้ายออฟฟิศมาอยู่ในสำนักงานเล็กๆ กึ่งทาวน์เฮาส์ เขาเลื่อนขั้นเรนขึ้นเป็นหุ้นส่วนของเขา ทั้งสองสนิทสนมกันมากขึ้น ต่อมา ศักยะแต่งงานกับพิม พิไล (เพ็ญพักตร์ ศิริกุล) รู้ข่าวก็โทรมาต่อว่าที่ลูกชายแต่งงานโดยไม่บอกให้แม่รู้สักคำ ศักยะอ้างว่าไม่อยากให้แม่ต้องปิดร้านและฝ่ายเจ้าสาวก็ออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด แต่ แม้นฤกษ์ (ภาณุเดช วัฒนสุชาติ) พ่อเลี้ยงของศักยะสงสัยว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากล จึงยุให้พิไลเดินทางมาหาลูกชายที่เมืองไทย หลังจากเรนกับตาเลิศย้ายเข้ามาอยู่บ้านใหม่ คุณตาก็ผูกมิตรกับเพื่อนบ้านจนสนิทสนมกันดีและได้ว่าจ้างเกษมและภรรยามาช่วยดูแลบ้าน ทั้งสองคุยกันถูกคอจนได้รู้ว่าที่แท้แล้วเกษมเป็นลูกชายของตาจอนนั่นเอง เมื่อตาเลิศได้ฟังเรื่องตาจอนจากเกษมแล้วก็ยิ่งรู้สึกไม่ชอบมาพากลแต่ยังไม่กล้าเล่าให้เรนฟัง คืนหนึ่ง ตาจอนมาปรากฏตัวให้รัชต์ เรน และตาเลิศเห็น พร้อมทั้งเตือนให้ระวังตัวและหนีไปให้ไกลที่สุด แต่ทั้งตาเลิศและเรนต่างไม่ยอมย้ายไปอยู่ที่ไหน รัชต์จึงอาสาย้ายมาอยู่เป็นเพื่อนสองตาหลานที่บ้านหลังนี้ วันหนึ่ง ตาเลิศเกือบถูกรถกระบะพุ่งชนแต่แกใช้ไม้เท้าของหลวงสินาดยันไว้ได้ทันจึงรอดมาได้หวุดหวิด แกจึงรู้ตัวว่าเจ้าปีศาจร้ายต้องการเอาชีวิตแกเป็นรายต่อไป
แม้นฤกษ์กลับมาเมืองไทยพร้อมพิไล จึงมาเยี่ยมลูกสาวซึ่งก็คือเรนที่บ้าน เขายุยงพิไลให้ขอบ้านจากศักยะโดยอ้างว่าอยากขายร้านอาหารแล้วกลับมาอยู่เมืองไทย แต่ศักยะรู้ทันจึงไม่ยอมยกบ้านให้ วันหนึ่งแม้นฤกษ์ให้เรนไปส่งเขาที่บ้าน จึงได้พบศักยะกำลังคุยอยู่กับพิไล ศักยะและเรนจึงรู้ว่าที่แท้พ่อเลี้ยงของศักยะ ก็คือพ่อแท้ๆ ของเรนนั่นเอง ภายในหนึ่งเดือนที่พิไลและแม้นฤกษ์อยู่ที่เมืองไทย แม้นฤกษ์ผลาญเงินของลูกเลี้ยงไปเป็นจำนวนมาก ทำให้ศักยะโกรธมากจึงไประบายกับเจ้าพรายว่าอยากให้แม้นฤกษ์ไปลงนรกเสีย เจ้าพรายจึงจัดการแม้นฤกษ์จนจมน้ำตาย คืนหนึ่ง เจ้าพรายปรากฏตัวขึ้นในความฝันของศักยะ ทวงสิ่งตอบแทนว่ามันต้องการให้เขาทำลายไม้เท้าของนายเลิศเสีย วันหนึ่ง ศักยะสามารถขโมยไม้เท้าตาเลิศมาได้สำเร็จโดยหารู้ไม่ว่าที่แท้ไม้เท้าของหลวงสินาดฯ ยังอยู่กับตาเลิศ แต่ไม้เท้าที่ศักยะเผาทำลายไปนั้นเป็นไม้เท้าที่คุณตาใช้ประจำ
รัชต์ติดต่อกับพิมทำให้ศักยะหึงหวง ทั้งคู่จึงทะเลาะกัน พิมหนีออกจากบ้าน ศักยะสั่งให้พรายตามเธอไป หากไปหาชู้ก็ให้ฆ่าทั้งคู่ พิมจะสามารถรอดพ้นเงื้อมมือของเจ้าพรายไปได้หรือไม่ บทสรุปของศักยะและเจ้าพรายจะเป็นอย่างไรต่อไป ติดตามชมได้ใน ละครเงาพราย ออกอากาศทุกวันจันทร์ - อังคาร เวลา 20.30 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3 เริ่มตอนแรกวันอังคารที่ 31 พฤษภาคม นี้
ศักยะนำโถลายครากลับบ้านเขาเห็นสิ่งประหลาดเหมือนหนอนแหวกว่ายในนั้น จึงตกใจและขว้างไปจนโถแตกเป็นเสี่ยงๆ คืนหนึ่ง ศักยะฝันเห็นเจ้าคุณปู่ตำหนิเขาที่ไม่นำผอบแก้วไปถ่วงน้ำ เขารู้สึกว่าบ้านหลังนี้มีอะไรแปลกๆ จึงปรึกษากับรัชต์ว่าอยากจะขาย แต่รัชต์เสียดายจึงท้วงว่าจะขอเช่าเป็นออฟฟิศสำหรับสำนักงานตกแต่งบ้านของเขา ศักยะจึงตอบตกลงทันที ในคืนนั้น เขาพบพราย มันบอกว่ามันสามารถบันดาลทุกสิ่งที่เขาต้องการได้ ศักยะลองทดสอบดูก็ได้สิ่งที่เขาต้องการจริงๆ แต่เขาก็เก็บเรื่องนี้เป็นความลับ
ต่อมาศักยะได้พบกับ เรน หรือ วัสสา (ราศรี บาเลนซิเอก้า) ผู้ช่วยของรัชต์ ศักยะให้เจ้าพรายช่วยตามหาลูกหลานของเพื่อนคุณปู่ให้มารับมรดก จึงได้รู้ว่าเรนเป็นลูกหลานของคุณตาลพที่เขาตามหา ซึ่งคุณตาลพไม่มีลูกหลานอื่น นอกจากน้องชายของท่านคือ คุณตาเลิศ (ชุมพร เทพพิทักษ์) ซึ่งเป็นตาแท้ๆ ของเรน วันหนึ่ง เมื่อเรนมาดูแลงานตกแต่งออฟฟิศในตอนเย็น เธอก็ได้พบกับคนรูปร่างเหมือนเด็กแต่หน้าแก่ มันหลอกให้เธอไปแขวนคอที่ต้นไม้ใหญ่ โชคดีที่ศักยะมาพบเข้าและช่วยเธอได้ทันเวลา ตาจอนรู้เข้าก็ตกใจและไม่พอใจจึงตำหนิศักยะที่ไม่ยอมเอาผอบแก้วไปถ่วงน้ำ และบอกให้ศักยะขายบ้านแล้วกลับไปนิวซีแลนด์เพื่อความปลอดภัย แต่ศักยะก็หาว่าแกเลอะเลือนและจะรื้อศาลพระภูมิทิ้ง ตาจอนห้ามไว้ก็ไม่เป็นผล ต่อมาเจ้าที่ได้มาเตือนตาจอนให้รีบออกจากบ้านให้เร็วที่สุดเพราะท่านคุ้มครองแกไม่ได้แล้ว แต่ในที่สุดตาจอนก็ไม่รอดพ้นเงื้อมมือของปีศาจพรายไปได้
หลังจากนั้นศักยะก็ให้เจ้าพรายช่วยเหลือเรื่องงานจนประสบความสำเร็จและมีรายได้ดีขึ้น ต่อมาเจ้าพรายจะเอาชีวิตรัชต์แต่ศักยะก็ช่วยรัชต์ไว้ได้ ดังนั้นเจ้าพรายจึงเอาชีวิตไว เด็กรับใช้ในบ้านรัชต์ไปแทน ในวันเผาศพไว ศักยะรู้สึกร้อนรุ่มเหมือนถูกไฟเผาแล้วเขาก็ไข้ขึ้นสูงและหมดสติไป เมื่อฟื้นขึ้นมาเขาก็พบว่าพิมมาเฝ้าพยาบาลเขา เขาจึงหลงรักพิมเต็มหัวใจ หลังจากนั้นความสัมพันธ์ของศักยะกับพิมก็พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วโดยที่รัชต์กับเรนไม่รู้ วันหนึ่งเข็มทอง แฟนสาวของไวบังเอิญได้ยินศักยะพูดกับเจ้าพราย เธอจึงไปฟ้องรัชต์เรื่องที่ศักยะพูดอยู่คนเดียวเพราะเธอระแวงศักยะอยู่แล้ว แต่ก็ไม่เป็นผล ศักยะต้องการจะกำจัดเข็มทองแต่เข็มทองคอยหลีกเลี่ยง อีกทั้งแม่ของรัชต์ให้เข็มทองไปช่วยงานที่ร้านเบเกอรี่ จึงยิ่งทำให้ศักยะไม่มีโอกาสได้พบเข็มทองอีก
เจ้าพรายให้ศักยะลงทุนในตลาดหุ้น สร้างทรัพย์สินเพิ่มพูนให้ชายหนุ่มอย่างเงียบเชียบและรวดเร็ว โดยที่ศักยะไม่บอกให้ใครรู้ ศักยะพาคุณตาเลิศไปดูบ้านของคุณปู่ ตาเลิศเล่าเรื่องเพื่อนของปู่ศักยะที่ชื่ออ้นที่อุตรินำหัวกะโหลกออกมาจากดงกล้วย แต่เมื่อเอาหัวกะโหลกกลับไปคืน เขากลับออกมาไม่ได้จึงอดตายอยู่ในนั้น เหมือนเป็นตัวตายตัวแทนของผีตายโหงเจ้าของหัวกะโหลก แม้ตำรวจมาสืบสวนก็ยังหาสาเหตุการตายไม่ได้ หลังจากนั้น ปู่ชัดก็ตัดสินใจเผาดงกล้วยจนสิ้นซาก ตาเลิศสังเกตเห็นว่าศาลเจ้าที่หายไปและเมื่อเห็นรูปปู่ชัด ตาเลิศก็ทักว่าหน้าตาปู่ชัดในรูปดูเศร้าหมองแบบที่ไม่เห็นมาก่อน ศักยะยกไม้เท้าที่เคยเป็นของปู่ให้ตาเลิศ และยังให้เรนกับคุณตาไปอยู่บ้านเดี่ยวหลังใหม่ที่เขาซื้อไว้ชั่วคราวในระหว่างที่เรนหาบ้านหลังใหม่ แต่คุณตาเลิศไม่อยากอยู่ที่บ้านหลังนี้ เพราะรู้สึกร้อนรุ่มอย่างบอกไม่ถูก
ธุรกิจของรัชต์ประสบปัญหาและอุปสรรคมากขึ้นเรื่อย ๆ พ่อของรัชต์ถูกหามเข้าโรงพยาบาลกะทันหัน ในขณะที่ศักยะประสบความสำเร็จเพราะเขามีเจ้าพรายคอยกระซิบบอกว่าจะทำอย่างไรต่อไป มันแนะนำให้ศักยะลงทุนในตลาดหุ้นต่อไปและซื้อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของรัชต์มาเป็นของตนในนามของ เอสวายเรียลเอสเตท รัชต์ไม่ระแคะระคายเลยว่าเจ้าของเอสวายเรียลเอสเตทก็คือศักยะนั่นเอง จนวันที่ศักยะเข้าไปประกาศกับเขาในห้องทำงาน รัชต์ตกตะลึงอย่างนึกไม่ถึง ศักยะอวดอ้างตัวเองและบอกว่าจะจ้างรัชต์กับเรนเป็นพนักงานในบริษัทที่เขาซื้อไว้ ซึ่งเดิมเคยเป็นของพ่อแม่รัชต์มาก่อน ทำให้รัชต์เจ็บปวดและไม่พอใจมาก รัชต์ปฏิเสธงานที่ศักยะเสนอให้ ศักยะทำเป็นใจกว้างให้รัชต์ใช้บ้านคุณปู่เขาเป็นออฟฟิศต่อไปได้ฟรีๆ โดยไม่คิดค่าเช่า แต่เรนกับรัชต์ไม่อยากอยู่ที่บ้านหลังนี้อีกต่อไปแล้วจึงมองหาสถานที่ใหม่สำหรับทำเป็นออฟฟิศ
พิมบอกเลิกรัชต์โดยอ้างว่าเขาไม่ค่อยมีเวลาให้เธอ เรนรู้ว่าพิมหันไปคบกับศักยะแต่ไม่กล้าบอกนาย เข็มทองย้ายมาทำงานที่ออฟฟิศเดียวกับเรน หลังจากกิจการของแม่รัชต์ต้องล้มเลิกไป ตาเลิศมาช่วยงานที่ออฟฟิศบ้างเพราะรู้สึกไม่ชอบมาพากล และยังได้ยินเรื่องแปลกๆ ที่เข็มทองเล่าให้ฟังอีกด้วย ความสัมพันธ์ของศักยะกับพิมแนบแน่นจนเป็นที่รู้กันว่าเธอคือว่าที่เจ้าสาวของเขา ศักยะได้ทุกอย่างตามที่เจ้าพรายรับปากไว้ มันจึงกลับมาทวงผู้หญิงที่เคยขอศักยะเป็นข้อแลกเปลี่ยน ศักยะจึงหลอกพาเข็มทองมาฆ่าและเอาศพของเธอใส่ถุงดำไปทิ้ง ต่อมาศักยะถูกเรียกตัวไปสอบปากคำ และชายหนุ่มก็ขอให้เจ้าพรายช่วยไม่ให้ตำรวจพบรอยเลือดในโกดังที่เขาฆ่าเข็มทอง มันแนะนำว่าต้องให้ไฟไหม้โกดังทำลายหลักฐานทั้งหมดซึ่งหมายความว่าไฟต้องไหม้บ้านทั้งหลังด้วย ศักยะรู้สึกเสียดายบ้านแต่จำใจตอบตกลงเพราะไม่อยากให้เรื่องยุ่งยากไปกว่านี้ ตำรวจจึงยังหาฆาตกรตัวจริงไม่ได้
รัชต์ย้ายออฟฟิศมาอยู่ในสำนักงานเล็กๆ กึ่งทาวน์เฮาส์ เขาเลื่อนขั้นเรนขึ้นเป็นหุ้นส่วนของเขา ทั้งสองสนิทสนมกันมากขึ้น ต่อมา ศักยะแต่งงานกับพิม พิไล (เพ็ญพักตร์ ศิริกุล) รู้ข่าวก็โทรมาต่อว่าที่ลูกชายแต่งงานโดยไม่บอกให้แม่รู้สักคำ ศักยะอ้างว่าไม่อยากให้แม่ต้องปิดร้านและฝ่ายเจ้าสาวก็ออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด แต่ แม้นฤกษ์ (ภาณุเดช วัฒนสุชาติ) พ่อเลี้ยงของศักยะสงสัยว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากล จึงยุให้พิไลเดินทางมาหาลูกชายที่เมืองไทย หลังจากเรนกับตาเลิศย้ายเข้ามาอยู่บ้านใหม่ คุณตาก็ผูกมิตรกับเพื่อนบ้านจนสนิทสนมกันดีและได้ว่าจ้างเกษมและภรรยามาช่วยดูแลบ้าน ทั้งสองคุยกันถูกคอจนได้รู้ว่าที่แท้แล้วเกษมเป็นลูกชายของตาจอนนั่นเอง เมื่อตาเลิศได้ฟังเรื่องตาจอนจากเกษมแล้วก็ยิ่งรู้สึกไม่ชอบมาพากลแต่ยังไม่กล้าเล่าให้เรนฟัง คืนหนึ่ง ตาจอนมาปรากฏตัวให้รัชต์ เรน และตาเลิศเห็น พร้อมทั้งเตือนให้ระวังตัวและหนีไปให้ไกลที่สุด แต่ทั้งตาเลิศและเรนต่างไม่ยอมย้ายไปอยู่ที่ไหน รัชต์จึงอาสาย้ายมาอยู่เป็นเพื่อนสองตาหลานที่บ้านหลังนี้ วันหนึ่ง ตาเลิศเกือบถูกรถกระบะพุ่งชนแต่แกใช้ไม้เท้าของหลวงสินาดยันไว้ได้ทันจึงรอดมาได้หวุดหวิด แกจึงรู้ตัวว่าเจ้าปีศาจร้ายต้องการเอาชีวิตแกเป็นรายต่อไป
แม้นฤกษ์กลับมาเมืองไทยพร้อมพิไล จึงมาเยี่ยมลูกสาวซึ่งก็คือเรนที่บ้าน เขายุยงพิไลให้ขอบ้านจากศักยะโดยอ้างว่าอยากขายร้านอาหารแล้วกลับมาอยู่เมืองไทย แต่ศักยะรู้ทันจึงไม่ยอมยกบ้านให้ วันหนึ่งแม้นฤกษ์ให้เรนไปส่งเขาที่บ้าน จึงได้พบศักยะกำลังคุยอยู่กับพิไล ศักยะและเรนจึงรู้ว่าที่แท้พ่อเลี้ยงของศักยะ ก็คือพ่อแท้ๆ ของเรนนั่นเอง ภายในหนึ่งเดือนที่พิไลและแม้นฤกษ์อยู่ที่เมืองไทย แม้นฤกษ์ผลาญเงินของลูกเลี้ยงไปเป็นจำนวนมาก ทำให้ศักยะโกรธมากจึงไประบายกับเจ้าพรายว่าอยากให้แม้นฤกษ์ไปลงนรกเสีย เจ้าพรายจึงจัดการแม้นฤกษ์จนจมน้ำตาย คืนหนึ่ง เจ้าพรายปรากฏตัวขึ้นในความฝันของศักยะ ทวงสิ่งตอบแทนว่ามันต้องการให้เขาทำลายไม้เท้าของนายเลิศเสีย วันหนึ่ง ศักยะสามารถขโมยไม้เท้าตาเลิศมาได้สำเร็จโดยหารู้ไม่ว่าที่แท้ไม้เท้าของหลวงสินาดฯ ยังอยู่กับตาเลิศ แต่ไม้เท้าที่ศักยะเผาทำลายไปนั้นเป็นไม้เท้าที่คุณตาใช้ประจำ
รัชต์ติดต่อกับพิมทำให้ศักยะหึงหวง ทั้งคู่จึงทะเลาะกัน พิมหนีออกจากบ้าน ศักยะสั่งให้พรายตามเธอไป หากไปหาชู้ก็ให้ฆ่าทั้งคู่ พิมจะสามารถรอดพ้นเงื้อมมือของเจ้าพรายไปได้หรือไม่ บทสรุปของศักยะและเจ้าพรายจะเป็นอย่างไรต่อไป ติดตามชมได้ใน ละครเงาพราย ออกอากาศทุกวันจันทร์ - อังคาร เวลา 20.30 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3 เริ่มตอนแรกวันอังคารที่ 31 พฤษภาคม นี้