ละคร ส้มหวาน น้ำตาลเปรี้ยว

ดู 2,132 ครั้ง / แชร์
ช่องที่ออกอากาศ ละครช่อง 7
เริ่มออกอากาศ 25 กุมภาพันธ์ 2554
เวลาออกอากาศ 18:45 - 19:30 น.
  
กำกับโดย คมกริช ตรีวิมล
ประพันธ์โดย บทประพันธ์ ณารา, บทโทรทัศน์ เบญจมาศ ดาลหิรัญรัตน์
นำแสดงโดย
สหรัฐ สังคปรีชา ... นาคินทร์
ปิยธิดา วรมุสิก ... นายิกา-อาจารย์นาย
อภิญญา สกุลเจริญสุข ... นิดานุช
พงษ์พิสุทธิ์ ผิวอ่อน ... ดำรงเดช-ดอย
ทนงศักดิ์ ศุภกร ... ดำรง-กำนันดำ
ปิยะมาศ โมนยะกุล ... ย่าเอื้องจันทร์
สุเทพ ประยูรพิทักษ์ ... ปู่นพ
อรหทัย ซื่อศรีสวัสดิ์ ... ลิ้นจี่
ราตรี วิทวัส ... บัวตอง
ศิริพร อยู่ยอด ... อาจารย์โสภิต
เฉลิมพล ทิฆัมพรธีรวงศ์ ... ธงชัย-ตือ
ผู้สร้าง มีเดีย สตูดิโอ

ภาพนิ่งจากละคร

เรื่องย่อ ส้มหวาน น้ำตาลเปรี้ยว

"จงชราอย่างกล้าหาญ จงขึ้นคานอย่างมีศักดิ์ศรี" คือสโลแกนประจำใจของเหล่าอาจารย์สาววัยเกาะคาน แห่งภาควิชาภาษาไทยของมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ ที่รวมตัวกันตั้งเป็นกลุ่มสาวโสด"“หัวใจเปรี้ยว" โดยมีรองคณบดีวัย 40 เป็นประธาน นายิกา-อาจารย์นาย (ปิยะธิดา วรมุสิก) คือสมาชิกวัย35 ที่มีอายุน้อยที่สุดในกลุ่ม ต่อหน้าใครๆ นายิกาเชิดหน้าทำเป็นฉันไม่แคร์ ถ้าจะต้องแก่ตายโดยไม่ต้องมือชาย แต่ในใจเธอกลับกรีดร้องว่าเธอไม่ได้อยากเป็นสาวแก่ไปจนตายสักหน่อย เธอมีหัวใจ ที่พร้อมจะรักใครสักคนที่เป็นคนดี ไม่จำเป็นต้องร่ำรวย ขอแค่รักเธอก็พอ เพียงแต่เธอไม่เคยมีโอกาสได้พบกับผู้ชายคนนั้นเลย ชีวิตเธอหมดไปกับการเรียนอย่างหนักจนจบด็อกเตอร์ แทบจะไม่มีเวลาคิดถึงเรื่องความรัก แต่พอเธอเริ่มคิดวัยสาวก็กำลังจะลาจากเธอไปแล้ว นายิกาเกือบจะเลิกหวัง จนกระทั่งเธอได้อ่าน"โลกของคนเหงา" นวนิยายงานเขียนฝีมือของลูกศิษย์ในวิชาการประพันธ์เรื่องสั้นและนวนิยายที่เธอสอนอยู่ นายิกาก็ตกหลุมรักนาคินทร์ (สหรัฐ สังคปรีชา) ผู้ชายที่เป็นตัวเอกของเรื่องในทันที

นาคินทร์ ชายหนุ่มที่เคยสดใส อารมณ์ดี เปลี่ยนเป็นคนละคน เมื่อต้องสูญเสียดารารัตน์ ภรรยาสุดที่รักและลูกชายหญิง 2 คนจากอุบัติเหตุรถตกเขา นาคินทร์เอาแต่ฝังตัวเองอยู่กับงานในไร่ส้มและสวนลิ้นจี่ ที่มีอาณาเขตนับร้อยไร่ติดกับเส้นทางเดินป่าขึ้นดอยอ่างข่างและใกล้ชายแดนพม่า จนทำให้นิดานุช(อภิญญา สกุลเจริญสุข) หลานสาว,เอื้องจันทร์ (ปิยะมาศ โมนยะกุล) แม่ และนพ (สุเทพ ประยูรพิทักษ์) พ่ออดเป็นห่วงอนาคตของพ่อม่ายนาคินทร์ไม่ได้ นิดานุชตัดสินใจนำชีวิตของนาคินทร์ มาเขียนเป็นนวนิยายเพื่อส่งในวิชาที่เรียนกับนายิกา ซึ่งเป็นอาจารย์ที่นิดานุชสนิทสนมมากที่สุด เมื่อนายิกาได้อ่านเรื่องของนาคินทร์ ผู้ชายที่อ้างว้างโดดเดี่ยวที่สุดในความคิดของนายิกา เธอก็หลงรักเขา ทั้งๆ ที่ไม่เคยได้พบหน้าค่าตามาก่อน และตัดสินใจที่จะนำนวนิยายของนิดานุชส่งเข้าประกวดรางวัลในระดับมหาวิทยาลัย

หลังจากที่ลางานเข้ากรุงเทพ เพื่อไปร่วมงานแต่งงานของนภันต์-นัท น้องชายเพียงคนเดียว กับแฟนสาวลูกครึ่งภัณฑิลา-พอลล่า นายิกาก็กลับมามหาวิทยาลัยด้วยโฉมใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าหน้าผมที่สวยปิ๊งกว่าเก่า เพราะถูกพอลล่าและภวิตรา น้าสาวของพอลล่า ที่เป็น บ.ก.นิตยาสารความงาม พาเธอเข้าคอร์สสปานวดหน้าทำผมเมคโอเว่อร์ จนดูอายุอ่อนกว่าเดิมไปหลายปี อาจารย์หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ในมหาวิทยาลัยที่ไม่เคยเห็นนายิกาอยู่ในสายตา ก็พากันหันมาสนใจ ทำให้อาจารย์โสภิต (ศิริพร อยู่ยอด) ประธานกลุ่มสาวแก่หัวใจเปรี้ยว ถึงกับเดือดเป็นฟืนเป็นไฟ ที่นายิกาทำตัวเหมือนกับจะชิ่งจากคานที่ช่วยกันเกาะ และการเปลี่ยนไปของนายิกานี่เอง ทำให้นิดานุชเกิดความคิดที่จะจับคู่อาจารย์สาวให้กับอาคินทร์ผู้น่าสงสารของเธอ เพราะขณะนี้นาคินทร์กำลังถูกคุณลิ้นจี่ (อรหทัย ซื่อศรีสวัสดิ์) แม่ม่ายสาวเจ้าของรีสอร์ต ที่อยู่ไม่ไกลจากไร่ตามหว่านเสน่ห์ ตื้อถึงไร่ ลุยถึงพ่อแม่เพื่อหวังพิชิตใจนาคินทร์ นิดานุชไม่ชอบท่าทางเย้ายวนอุดมด้วยร้อยเล่ห์พันมารยาของลิ้นจี่ ไม่อยากได้มาเป็นอาสะใภ้ให้ปวดหัว เลยปรึกษาเรื่องนี้กับย่าเอื้องและปู่นพ และแล้วแผนการทั้งหมดก็เกิดขึ้น โดยชวนเพื่อนในคณะและนายิกาไปเที่ยวชมไร่ส้มและเดินป่าในช่วงปิดเทอม นายิกาตอบรับคำเชิญชวนเพราะอยากได้พบตัวจริงของนาคินทร์ ผู้ชายแสนเศร้าที่น่าสงสารคนนั้น อาจารย์โสภิตรู้เรื่องก็ขอตามไปด้วย ด้วยเหตุผลว่าเป็นห่วงสวัสดิภาพของนายิกา การไปอยู่ใกล้พ่อม่ายหัวใจเปลี่ยวอย่างนาคินทร์มันอันตราย โสภิตเลยต้องการจะไปเป็นดูแลนายิกาให้ครองสถานะขึ้นคานไว้เหมือนตัวเอง

ครั้งแรกที่ได้เจอตัวจริงที่แสนหล่อเข้ม สมชายชาตรีของนาคินทร์ที่ "บ้านไร่ผดุงเกียรติ" ใจของนายิกาแทบละลาย แต่ความรู้สึกดีๆ กลับพังทลายไปจนหมดสิ้น เมื่อนาคินทร์ถามถึงอาจารย์นายสาวแก่กับนิดานุชต่อหน้าเธอ นาคินทร์เคยเห็นนายิกาโดยบังเอิญตอนไปรับนิดานุชที่คณะ ตอนนั้นนายิกายังไว้ผมบ๊อบ ใส่แว่นแต่งตัวเป็นป้าอยู่เลย เมื่อนายิกาเปลี่ยนโฉมใหม่จนสวยแปลกตาเปลี่ยนไปเหมือนเป็นคนละคน นาคินทร์ถึงจำเธอไม่ได้ แต่แทนที่จะรู้สึกผิด แต่ในใจนาคินทร์กลับโทษว่าเป็นความผิดของนายิกา ที่ลุกขึ้นมาทำตัวสวย ซึ่งเขาคิดว่าไม่เหมาะสมสำหรับคนที่เป็นอาจารย์ แถมยังคิดว่านายิกาคงกำลังคิดจะจับผู้ชายคนไหนสักคนเพื่อจะลงจากคาน แต่เพราะความรักหลานและเป็นสุภาพบุรุษ นาคินทร์ไปขอโทษนายิกาที่เสียมารยาทกับเธอในฐานะที่เธอเป็นแขกของบ้าน นายิกาไม่ถือโกรธแต่ในใจเริ่มมีกำแพง โดยมีโสภิตคอยพูดเป่าหูให้เห็นข้อเสียของนาคินทร์

การมาเที่ยวไร่ของกลุ่มนายิกา ตกอยู่ในสายตากำนันดำ (ทะนงศักดิ์ ศุภการ) เจ้าของที่ดินที่มีอาณาเขตติดกัน แม้กำนันดำจะมีที่ดินมากกว่า แต่ผลผลิตในไร่ส้มก็น้อยกว่า และขายได้ราคาต่ำกว่าผลผลิตในไร่ของนาคินทร์มาก เนื่องจากนาคินทร์คิดค้นผลิตปุ๋ยและยาฆ่าแมลงตามธรรมชาติใช้เอง ที่สำคัญที่ดินของนาคินทร์มีตาน้ำพุที่เป็นแหล่งน้ำ ไปหล่อเลี้ยงไร่ส้มได้อุดมสมบูรณ์กว่า กำนันดำจึงคิดจะฮุบที่ดินในไร่ผดุงเกียรติมานาน ตั้งแต่นคเรศ...พ่อของนิดานุชและพี่ชายของนาคินทร์ยังดูแลไร่อยู่ กำนันดำเพียรพยายามจะขอซื้อไร่จากนคเรศ ทั้งใช้อิทธิพลบีบ แต่ก็ไม่สำเร็จ ต่อมานคเรศและแม่ของนิดานุชก็ถูกยิงเสียชีวิต โดยที่ไม่สามารถจับตัวคนร้ายได้ แม้นาคินทร์จะสงสัยว่ากำนันดำเป็นผู้บงการฆ่า แต่ตำรวจก็ไม่มีหลักฐานจะเอาผิดได้ จนกระทั่งนาคินทร์เข้ามาสืบทอดดูแลไร่ส้มแทนพี่ชาย เขาก็ยังถูกกำนันดำคุกคาม พยายามรุกล้ำ เมื่อไม่สำเร็จ กำนันดำก็วางแผนเก็บนาคินทร์อีกเป็นคนที่2 แต่คนที่รับเคราะห์แทนกลับกลายเป็นเมียและลูกทั้ง 2 ของนาคินทร์ โดยกำนันดำส่งคนขับรถเบียดรถของดารารัตน์กับลูกตกเขา เพราะคิดว่าในรถมีนาคินทร์นั่งมาด้วย แต่เนื่องจากวันนั้นนาคินทร์ติดธุระ ไม่ได้ไปด้วย เขาจึงรอดตายอย่างปาฎิหาริย์แต่ก็เป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ ซึ่งเขามั่นใจว่าต้องเป็นฝีมือของกำนันดำ แต่ก็ไม่มีหลักฐานไปเอาผิดกำนันดำได้เช่นเคย แม้แต่ดำรงเดช (พงษ์พิสุทธิ์ ผิวอ่อน) ลูกชายคนเดียวของกำนันดำ ซึ่งหลงรักนิดานุชก็ปฏิเสธแทนพ่อมาตลอด ดำรงเดชไม่เคยเชื่อว่าพ่อจะเป็นฆาตกรใจคอโหดเหี้ยมเช่นนั้น เป็นผลทำให้ความเป็นเพื่อนที่นิดานุชเคยมีให้ดำรงเดชต้องขาดลง

กำนันดำสืบรู้ว่า นาคินทร์มีแผนจะพาเพื่อนๆ ของนิดานุชเดินป่า ขึ้นไปพักค้างแรมบนดอยอ่างข่าง กำนันดำเห็นโอกาสที่จะกำจัดนาคินทร์ทันที โดยพาสมุนปลอมตัวเป็นกลุ่มทหารว้าแดงไปซุ่มดักรอยิงนาคินทร์อยู่กลางป่า ประจวบเหมาะกับนิดานุชกับเพื่อนๆ ก็วางแผนจะให้นาคินทร์กับนายิกาหลงป่าไปด้วยกันพอดี เพราะหวังว่าการที่ทั้ง 2 หลงป่าไปด้วยกัน ความใกล้ชิดจะทำให้ทั้ง 2 เกิดตกหลุมรักกันสมใจ วันต่อมานาคินทร์ก็พาทุกคนเดินป่าขึ้นดอยอ่างข่าง ลิ้นจี่ขอตามไปด้วยเพราะหึงนายิกา ไม่ไว้ใจให้อยู่ใกล้ๆ นาคินทร์ คืนที่ 2 ของการพักค้างแรมในป่าระหว่างทางเดินขึ้นดอย นิดานุชกับเพื่อนคิดเกมส์วอล์กแรลลี่ขึ้น โดยให้นาคินทร์กับนายิกาจับคู่กันหาของในป่า คำอ้ายและสมพงษ์ ลูกน้องคนสนิทของนาคินทร์ก็ร่วมมือกับนิดานุชด้วย โดยพวกนิดานุชปลอมเป็นผีหลอกนายิกา จนตกใจวิ่งหนีเตลิดเข้าป่าไป นาคินทร์เลยวิ่งตามไปจนพลัดหลงกับทุกคน จังหวะที่ทุกคนทำตามแผน กลุ่มของกำนันดำก็บุกยิงนาคินทร์พอดี ทำให้เกิดความสับสนวุ่นวายไม่รู้ใครเป็นใคร นาคินทร์ชักปืนยิงถูกลูกน้องของกำนันดำบาดเจ็บไปคนหนึ่ง แล้วพานายิกาหนีออกจากวงล้อม จนลื่นไถงตกหน้าผาไปในเหวลึกทั้งคู่ นาคินทร์หัวกระแทกจนสลบไป ขณะนายิกาบาดเจ็บข้อมือซ้นและฟกช้ำทั่วร่างกาย ฝนเทกระหน่ำลงมา นายิกาลากร่างที่เปียกโชกของนาคินทร์เข้าหลบใต้ชะง่อนหิน ทั้งๆ ที่มือเจ็บ ช่วยเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เขาแล้วก็หมดแรงหลับไป นาคินทร์ฟื้นขึ้นมาพบนายิกาอยู่ข้างๆ เขา ก็รู้สึกซึ้งในน้ำใจนายิกาที่ช่วยลากเขาหนีฝน แล้วยังช่วยทำแผลเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เขาอีกทั้งๆ ที่ตัวเองก็บาดเจ็บ นาคินทร์ปลุกนายิกาและเริ่มออกเดินหาทางกลับไร่

ฝ่ายกำนันดำแม้จะรู้ว่านาคินทร์รอดไปได้ แต่ก็เข้าใจผิดคิดว่าพวกคำอ้ายเป็นกองกำลังว้าแดง เลยหนีไปตั้งหลักที่หมู่บ้านชาวเขา นิดานุชไม่คิดอย่างงั้น...เธอคิดว่าต้องเป็นฝีมือของกำนันดำแน่ หลังจากที่ส่งเพื่อนขึ้นไปพักที่ดอยอ่างข่างแล้ว เธอกับคำอ้ายและสมพงษ์ก็รีบไปที่ไร่กำนันดำ นิดานุชเจอกับดำรงเดชที่ไร่ เขายืนยันว่าพ่อกำลังขุดหาตาน้ำอยู่ที่ท้ายไร่ไม่ได้ไปไหน นิดานุชตามไปดู กำนันดำกลับลงจากเขามารับหน้านิดานุชได้ทันเวลา เมื่อเป็นอย่างนั้น นิดานุช คำอ้ายและสมพงษ์เลยพาลูกน้องกลับเข้าป่าเพื่อตามหานาคินทร์และนายิกา แต่เพราะหุบเหวที่นาคินทร์กับนายิกาตกลงมาลึกมาก และนาคินทร์ก็ไม่คุ้นชินเส้นทางนี้ ทำให้คืนนั้นทั้ง 2 ต้องพักแรมอยู่ในโพรงถ้ำเล็กๆ นาคินทร์หุงหาอาหารที่ติดตัวมาให้นายิกากิน ฝนเทลงมาอย่างหนัก นาคินทร์ใช้สายฝนเป็นน้ำอาบ แล้วไล่ให้นายิกาไปอาบ นายิกาเจอกิ้งก่ากระโดดเกาะ เธอตกใจโผกอดนาคินทร์ สัมผัสของนายิกาทำให้นาคินทร์ค้นพบว่า เขาแอบมีใจให้นายิกาตั้งแต่แรกที่ได้เห็นเธอที่ไร่ เขาถึงสนุกสนานกับการแกล้งให้เธอโกรธ ยั่วให้เธอมีปากมีเสียงกับเขามาตลอดการเดินทาง ซึ่งความรู้สึกเบิกบานนี้ไม่เคยมีเลยนับแต่ดารารัตน์จากไป จนกระทั่งได้มาพบนายิกา และการหลงป่ามาด้วยกัน ทำให้เขาได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของนายิกาว่าเป็นคนอดทน มีน้ำใจ และจิตใจดี เพราะฝนตกทั้งคืน ทำให้คืนนั้นอากาศหนาวมาก แต่มีผ้าห่มอยู่ผืนเดียว นายิกากับนาคินทร์ต้องนอนหลับอยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน และก็ตื่นขึ้นมาพบว่าต่างก็ซุกอย่างอบอุ่นอยู่ด้วยกัน และเป็นอย่างนั้นอยู่ 2 คืน ทำให้นาคินทร์เริ่มเปิดประตูใจยอมรับนายิกาเข้ามาอยู่ในใจแล้ว

แต่แล้วคืนต่อมา นายิกาก็พูดถึงนิยายโลกของคนเหงาของนิดานุชให้นาคินทร์ฟัง เมื่อหวนคิดถึงดารารัตน์ ทำให้นาคินทร์รู้สึกผิดที่ปันใจให้นายิกา และกลับมามึนตึงใส่นายิกาทันที กลับมาเป็นนาคินทร์ผู้เคร่งขรึมอีกครั้ง นายิกาผิดหวังมาก แต่ไม่ว่านาคินทร์จะพยายามบังคับใจให้มึนตึงกับนายิกายังไง ความใกล้ชิดก็ทำให้เขาไม่สามารถบังคับความรักที่มีต่อนายิกาได้ เขาเผลอจูบเธอ มันเป็นจูบแรกของนายิกา แต่นาคินทร์จูบเธอแล้วกลับวิ่งหนีหายเข้าป่าไป ก่อนจะกลับมาสารภาพว่ามีใจให้นายิกา แต่ไม่อาจลืมดารารัตน์ได้ นายิกาเข้าใจนาคินทร์ และขอให้เวลาเป็นตัวตัดสิน แต่คืนต่อมา นายิกาเก็บเห็ดเมามาย่างกิน ทำให้ทั้งคู่มึนเมา นายิกาสารภาพว่าตกหลุมรักเขาตั้งแต่ได้อ่านนิยายของนิดานุช และแล้วทั้งคู่ก็ตกเป็นของกันและกัน ตื่นเช้ามา นายิกาตกใจร้องห่มร้องไห้ ขณะที่นาคินทร์ก็ช็อคไป เขาคิดว่ามันเป็นความผิดพลาดทางเทคนิค นายิกาขอให้ลืมเรื่องคืนนั้นเสีย ทั้ง 2 ออกเดินทางอีกครั้ง จนมาพักอยู่ในหมู่บ้านของชาวจาวปะหล่อง...ชนเผ่าอพยพจากพม่า ที่นี่เอง...ทั้ง 2 ยอมรับรักกันอย่างเปิดใจ

ฝ่ายกำนันดำสืบรู้มาว่านาคินทร์กับนายิกาพักอยู่ที่หมู่บ้านของชาวจาวปะหล่อง ก็พาลูกน้องเข้าป่าเพื่อตามไปเก็บอีกครั้ง ดำรงเดชเห็น แอบตามไป ไปเจอหัวหน้าชาวภูเขาที่กำนันดำหนีไปตั้งหลักในวันแรกที่นาคินทร์ถูกลอบยิง รู้ความจริงทั้งหมดว่ากำนันดำเข้าป่าในวันนั้น และคนที่ยิงนาคินทร์ก็คือกำนันดำนั่นเอง ดำรงเดชตามหากลุ่มนิดานุชจนพบ และขอร่วมทางตามค้นหานาคินทร์ไปกับเธอ เพื่อขัดขวางไม่ให้กำนันดำทำร้ายใครอีก นาคินทร์กับนายิกาเดินทางออกจากหมู่บ้าน จนมาเจอกลุ่ม นิดานุชเข้า แต่กลุ่มกำนันดำก็ตามมาพบเช่นกัน เกิดการต่อสู้กันขึ้น กำนันดำพลาดยิงถูกดำรงเดชทะลุอกขวา แต่ก็ยังไม่ยอมแพ้ จี้นายิกาเป็นตัวประกัน เพื่อแลกกับชีวิตของนาคินทร์ นายิกาฮึดสู้แย่งปืน ยื้อยุดกัน นาคินทร์เข้าช่วย กำนันดำพลาดตกลงเหวตาย ดำรงเดชถูกส่งตัวไปผ่าตัดเอากระสุนออก...รอดพ้นขีดอันตราย เหตุการณ์ร้ายผ่านไป นาคินทร์อโหสิกรรมทุกอย่างให้ครอบครัวดำรงเดช และไม่ขัดขวางถ้านิดานุชจะรักกับดำรงเดช ขณะที่เขาพานายิกาไปดูพระอาทิตย์ตกดินที่ผาท้ายไร่ เพื่อเป็นการอำลา คืนนั้นนายิกาอยู่กับนาคินทร์ทั้งคืน ก่อนจะจากไปในวันรุ่งขึ้น โดยไม่มีคำพูดใดๆ จากปากของนาคินทร์ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเธอจะเป็นอย่างไรต่อไป นายิกากลับไปอย่างผิดหวัง

2 เดือนผ่านไป ไม่มีการติดต่อจากนาคินทร์ ไม่มีแม้โทรศัพท์จากเขา นายิกาได้แต่เฝ้ารอและโศกเศร้าเสียใจอยู่คนเดียวๆ ขณะที่นาคินทร์เอาแต่จมอยู่กับงาน โดยหวังว่าจะตัดใจจากนายิกาได้ เพราะไม่อยากจะผิดคำสัญญาที่เคยให้ไว้กับดารารัตน์ ว่าจะรักเดียวใจเดียวกับเธอไปจนวันตาย แต่ยิ่งพยายามลืม นาคินทร์กลับคิดถึงนายิกามากจนแทบคลั่ง นิดานุชต้องยื่นมือเข้ามาช่วยอีกครั้ง โดยวางแผนให้พี่ชายเพื่อนไปหานายิกาเพื่อถามเกรด แล้วแอบถ่ายรูปไว้ เอาไปหลอกนาคินท์ว่านายิกาได้พบรักกับชายหนุ่มรุ่นน้องแล้ว ทำเอานาคินทร์ร้อนรุ่มจนทนไม่ไหวอีกต่อไป นาคินทร์รีบโทรเข้ามือถือนายิกา แต่ภวินท์สามีภวิตราเป็นคนรับสาย นาคินทร์เข้าใจผิดคิดว่าเป็นแฟนนายิกา เขาบึ่งไปหาเธอ และต่อยภวินท์ ก่อนที่ทุกคนจะช่วยกันอธิบายว่าเขาเข้าใจผิด และทุกอย่างเป็นแผนการของนิดานุชอีกแล้ว นาคินทร์คุกเข่าขอนายิกาแต่งงาน เขาจะรักและเก็บดารารัตน์ไว้ในใจของเขาตลอดไป ดารารัตน์คืออดีตที่ไม่อาจลืมเลือน แต่นายิกาคืออนาคตที่สดใสของเขา และเขาคิดว่าดารารัตน์ก็คงจะยินดีที่เห็นเขามีความสุข หลังจากที่นาคินทร์ตามง้องอนอยู่นาน ในที่สุดนายิกาก็ยอมตกลงแต่งงานกับนาคินทร์ ส่วนนิยายโลกของคนเหงา ของนิดานุชได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับ 3 จากการประกวด