ละคร มนต์รักแม่น้ำมูล

ดู 3,284 ครั้ง / แชร์
ละครออกอากาศ
ช่องที่ออกอากาศ ละครช่อง 7
เริ่มออกอากาศ ตุลาคม 2553
  
กำกับโดย ธงชัย ประสงค์สันติ
ประพันธ์โดย บทประพันธ์ พงษ์ศักดิ์ จันทรุกขา, บทโทรทัศน์ คฑาหัสถ์ บุษปะเกศ / ปฏิการ เพชรมุนี
นำแสดงโดย
ศุกลวัฒน์ คณารศ ... พิณ
วรัทยา นิลคูหา ... เดือน
ศรัณย์ ศิริลักษณ์ ... สุดเขต
อามีนา พินิจ ... ทองสา
พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ ... คำหล้า
ธันวา สุริยจักร ... แคน
ภาณุ สุวรรณโณ ... ศรีไพร
อำภา ภูษิต ... ยายสา
ปิยะดา เพ็ญจินดา ... เพ็ง / แม่เดือน
ศักราช ฤกษ์ธำรงค์ ... บุญ / พ่อเดือน
มัณฑนา หิมะทองคำ ... สายไหม
ตฤณ เศรษฐโชค ... ลุงแสวง
ปริญญ์ วิกรานต์ ... ตะวัน
กชกร นิมากรณ์ ... ป้าอัญชลี
ต๋อง ชวนชื่น ... บุญหลาย
เด่น ดอกประดู่ ... เส็ง
วาสิฏฐี ศรีโลฟุ้ง ... มาลัย
รอง เค้ามูลคดี ... ตามา
ปริศนา วงศ์ศิริ ... คำแปง
ชูศรี เชิญยิ้ม ... ขาว
สุรศักดิ์ ชัยอรรถ ... นพ
เหลือเฟือ มกจ๊ก ... บุญเหลือ
เขาทราย แกเลคซี่ ... ดำ
เฉลิม แย้มขะมัง ... ขุนทอง
พลอยปภัส ธนันต์ชัยกานต์ ... บัวผัน
วิยะดา อุมารินทร์ ... ยายมี
ปิยะ ตระกูลราษฎร์ ... ตาสี
ผู้สร้าง คำพอดี จำกัด

ภาพนิ่งจากละคร

เรื่องย่อ มนต์รักแม่น้ำมูล

"แม่น้ำมูล" แต่เดิมนั้นสะกดด้วยคำว่า "มูน" ซึ่งในภาษาถิ่นแปลว่า "สิ่งมีค่าน่าหวงแหน เป็นมรดกของบรรพบุรุษที่สั่งสมเก็บไว้ให้ลูกหลาน" แม่น้ำสายนี้จึงไม่ใช่เป็นเพียงแค่สายเลือดหล่อเลี้ยงทุกชีวิตริมสองฝั่งน้ำ หรือเป็นเสมือนตัวแทนของความหวังอันสดใสของลูกอีสานทุกคน แต่แม่มูลยังเป็นมากกว่านั้น...ในช่วงเดือน ๔ ของทุกปี ชาวบ้านในชุมนุมเล็กๆ ริมฝั่งแม่มูล จะจัดงานบุญครั้งยิ่งใหญ่ เรียกว่า "บุญมหาชาติ" ทุกคนจะพากันแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่สวยงาม และพกพาใบหน้าที่เปี่ยมสุขมาร่วมงานกันอย่างครื้นเครงสนุกสนาน หนึ่งในนั้นก็คือ พิณ(ศุกลวัฒน์ คณารศ ) ครูช่วยสอน และ เดือน(วรัทยา นิลคูหา) หญิงคนรัก ทั้งสองรักกันมากแต่จำต้องพรากจากกัน เพราะลุง แสวง(ตฤณ เศรษฐโชค) กับป้าอัญชลี (กชกร นิมากรณ์)มาขอเดือนเป็นลูกบุญธรรม และตั้งใจจะส่งเสียให้เธอเรียนสูงๆ ตอนแรกเดือนไม่อยากไป แต่เธอก็ไม่สามารถขัดคำแม่ได้ จึงจำใจจากลาพิณด้วยความอาลัย พิณสัญญาว่าจะนับวันเวลารอเดือนอยู่ที่ริมแม่มูลสายนี้

พิณเห็นว่าการศึกษาเท่านั้นจะช่วยให้ลูกแม่มูลไม่ต้องพลัดพรากจากถิ่นเกิด จึงไปปรึกษาครู ตะวัน
(ปริญญ์ วิกรานต์)ครูใหญ่โรงเรียนประจำชุมชน เรื่องการพัฒนาการศึกษา แต่ครูตะวันที่ผ่านโลกมามากและถอดใจกับเรื่องนี้ไปนานแล้ว บอกพิณว่าตอนนี้แม่มูลกำลังจะตายเพราะ เถ้าแก่เส็ง (เด่น ดอกประดู่)พาพวกมาแอบดูดทรายไปขาย ทำให้จำนวนปลาลดลง ชาวบ้านไม่สามารถทำอาชีพจับปลาได้อีกต่อไป พวกเขาจึงสนับสนุนให้ลูกหลานไปทำงานในโรงงานมากกว่าเรียนต่อสูงๆ แต่พิณเห็นว่าถ้ามีกิจกรรมอื่นให้เด็กๆทำระหว่างเรียนหนังสือ และมีรายได้มาจุนเจือครอบครัว จะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ เขาจึงไปปรึกษา คำแปง(ปริศนา วงศ์ศิริ) หัวหน้าคณะลำเพลิน ที่เขาใช้เวลาว่างหลังการสอนแต่งเพลงให้

คำแปงและชาวคณะที่หากินด้วยการร้องเพลงแลกข้าวชาวบ้านเห็นดีเห็นงามด้วย หญิงสาวเห็นว่าคณะของตนพอจะมีชื่อเสียงอยู่บ้าง จึงตัดสินใจเอาที่นาที่มีอยู่ทั้งหมดไปจำนอง จัดตั้งคณะแม่มูลลำเพลินขึ้นมา โดยมีเด็กๆ เป็นหางเครื่อง พิณเป็นครูเพลง และ แคน (ธันวา สุริยจักร์)เป็นนักร้องชูโรง แคนนักร้องหนุ่มเลือดร้อนเพื่อนรักของพิณมี คำหล้า(พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์) เป็นสาวคนรัก หญิงสาวเลือกที่จะรักนักร้องจนๆอย่างแคนมากกว่า ศรีไพร (ภาณุ สุวรรณโณ)ลูกชายเถ้าแก่เส็งผู้มั่งคั่งที่มาติดพัน ทำให้ศรีไพรไม่พอใจส่งคนมาก่อกวนคณะแม่มูลลำเพลินอยู่เนืองๆ จนแคนทนไม่ไหวตามไปเอาเรื่องศรีไพรถึงบ้าน ทั้งสองชกต่อยกันอย่างรุนแรง พิณเข้ามาช่วยเพื่อน ก่อนเรื่องจะลุกลามใหญ่โต ทองสา(อมีนา พินิจ) น้องสาวหัวรั้นของศรีไพรที่แอบหลงรักพิณอยู่ออกมาห้ามพี่ชาย ทำให้ศรีไพรรู้สึกเสียหน้า ประกาศว่าจะเอาคืนคนทั้งสองอย่างสาสมเมื่อเดือนมาอยู่กรุงเทพเธอติดต่อกับพิณผ่านทางจดหมายและรายการวิทยุ "เสียงจากแม่มูล" ทำให้ทั้งสองรับรู้ความเป็นไปของกันและกัน ยกเว้นเรื่องเดียวที่เดือนไม่บอกให้พิณรู้ คือลุงกับป้าได้แนะนำเธอให้รู้จักกับ สุดเขต(ศรัณย์ ศิริลักษณ์) ชายหนุ่มฐานะดีมีชาติตระกูล

สุดเขตตกหลุมรักเดือนในทันทีที่ได้พบ เขาเพียรพยายามเอาใจเดือนสารพัด ถึงแม้เขาจะเป็นหนุ่มเจ้าสำราญ แต่เขาก็แสนจะสุภาพและให้เกียรติเดือนเสมอมา พ่อและแม่บุญธรรมของหญิงสาวพึงพอใจในตัวชายหนุ่มอย่างมาก อีกทั้งสองครอบครัวก็รู้จักชอบพอกันมายาวนาน ในที่สุด พ่อและแม่บุญธรรมก็จัดการให้เดือนได้หมั้นหมายกับสุดเขต

พิณเอาเดโม่เทปคณะแม่มูลลำเพลินมาเสนอขายนายทุนที่กรุงเทพ ก่อนจะแวะมาเยี่ยมเดือนโดยไม่ได้บอกกล่าวล่วงหน้า ทำให้เขาได้เห็นภาพบาดตาบาดใจระหว่างเดือนกับสุดเขต เธอสารภาพความจริงกับเขา พิณเห็นแก่อนาคตของเดือนบอกให้เธอลืมเขา และอวยพรให้เธอมีอนาคตที่สดใส ส่วนตัวเขาขอกลับไปครูบ้านนอกจนๆ ตามเดิม เดือนไม่ทันได้อธิบายความจริงให้พิณฟังว่าคนที่เธอรักคือเขา แต่ที่เธอต้องหมั้นหมายกับสุดเขตเพราะขัดผู้ใหญ่ที่มีพระคุณต่อเธอและครอบครัวไม่ได้ เดือนได้แต่เก็บงำเรื่องนี้ไว้ในใจ รอวันเวลาอธิบายความจริงให้พิณเข้าใจ

ขณะเดียวกันศรีไพรก็ทนคณะแม่มูลลำเพลินได้รับความนิยมไม่ได้ เพราะนอกจากแคนจะเป็นศัตรูหัวใจอันดับหนึ่งของเขาแล้ว เขายังมีเบื้องหลังที่โสมมมากกว่านั้น คือการเป็นนายหน้าค้าแรงงานเด็ก และส่งผู้หญิงไปขายตัวที่กรุงเทพ ถ้าคณะแม่มูลลำเพลินได้รับความนิยม ความเสื่อมใสศรัทธาที่ชาวบ้านมีต่อพิณ แคน และคำแปง จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจของเขา ศรีไพรจึงสั่งให้ ไอ้ดำ(เขาทราย กาแล๊คซี่) ไอ้ขาว(ชูษี เชิญยิ้ม) สองลูกน้องคนสนิทลอบเข้าไปปาระเบิดในงานคอนเสิร์ตคณะแม่มูลลำเพลิน จนทั้งชาวบ้านและ บุญเหลือ (เหลือเฟือ มกจ๊ก) หนึ่งในสองตัวโจ๊กประจำคณะต้องเสียชีวิตลง ส่วน บุญหลาย(ต๋อง ชวนชื่น) ตัวโจ๊กอีกคนบาดเจ็บสาหัส ทำให้พวกชาวบ้านไม่กล้ามาดูการแสดงของคณะแม่มูลลำเพลินอีกต่อไป

เมื่อพิณที่ผิดหวังจากความรักกลับมาเห็นแม่มูลลำเพลินในสภาพที่ยับเยินก็หัวใจแตกสลาย ส่วนแคนที่รู้ว่าทั้งหมดเป็นฝีมือพวกศรีไพร ก็ตามไปเอาเรื่องศรีไพรถึงบ้าน แต่เขาไม่มีหลักฐานเอาผิดศรีไพร ทำได้เพียงแค่ตะบันหน้าศรีไพรให้หายแค้น แต่นั่นกลับทำให้เรื่องราวบานปลายใหญ่โต เมื่อเขาถูกตำรวจลากตัวไปสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก

เมื่อแคนได้สติกลับมาเห็นสภาพชาวคณะ และคำแปงที่อยู่ในสภาพสิ้นเนื้อประดาตัว ร้องไห้ปริ่มจะขาดใจ เขาก็โทษว่าทั้งหมดเป็นความผิดของตัวเอง แคนตัดสินใจไปเสี่ยงโชคที่กรุงเทพ แม้คำหล้าจะทัดทาน แต่ลูกผู้ชายหัวใจเด็ดเดี่ยวอย่างแคนไม่ยอมพ่ายแพ้ต่อโชคชะตาง่ายๆ เขาบอกว่าการจากไปครั้งนี้ไม่ใช่แค่เพื่อตัวเอง แต่เพื่อลูกแม่มูลทุกคน ทั้งยังสัญญาว่ามีเงินเมื่อไหร่เขาจะกลับมาขอเธอแต่งงานทันที ก่อนจากไปแคนฝากให้พิณช่วยดูแลคำหล้าระหว่างที่เขาไม่อยู่ พิณรับปาก สองหนุ่มสัญญากันอย่างเป็นหมั่นเป็นเหมาะว่าจะช่วยกอบกู้คณะแม่มูลลำเพลินให้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งให้ได้

เดือนได้ข่าวแม่มูลลำเพลินถูกปาระเบิดก็ร้อนใจ นึกเป็นห่วงพิณขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก สุดเขตเห็นอาการกระสับกระส่ายของเดือนก็เข้าใจว่าเดือนเป็นห่วงทางบ้าน อาสาขับรถมาส่งเดือน แต่เดือนต้องอยู่กับสุดเขตตลอดเวลา ไม่สามารถปลีกตัวมาหาพิณได้ เธอจึงฝากข่าวผ่านทางคำหล้า นัดเจอเขาที่ริมแม่มูล แต่แล้วพิณก็ไม่มา เดือนตัดสินใจไปหาพิณด้วยตัวเอง แต่พอเห็นพิณอยู่กับทองสาเธอก็รู้สึกผิดหวัง คำหล้าจะไปอธิบายความจริงให้เดือนฟังว่าพิณกับทองสาไม่ได้มีอะไรกัน แต่พิณห้ามไว้ บอกให้เดือนเข้าใจผิดอย่างนี้ดีแล้ว เธอจะได้ตัดใจจากเขาได้ง่ายขึ้น

แคนเดินทางเข้ามาแสวงโชคในเมืองหลวงโดยลำพัง เขาสมัครเป็นนักร้องกับบริษัทแผ่นเสียงหลายแห่งแต่ก็ถูกปฏิเสธ แต่แคนไม่ย่อท้อ เมื่อเงินหมดเขาก็ทำงานก่อสร้างเพื่อหาเงิน ยังชีพ โดยไม่ลืมที่จะเขียนจดหมายถึงคำหล้า โกหกเธอว่ากำลังจะได้เป็นนักร้องดัง เพราะไม่อยากให้เธอเป็นห่วง คำหล้าดีใจจึงแอบไปหาแคน แต่พอรู้ว่าไม่ได้เป็นอย่างที่แคนเขียนเล่าให้จดหมายก็รู้สึกผิดหวัง จึงขอร้องให้กลับบ้านมาช่วยพิณทำวง

พิณคอยอยู่เป็นกำลังใจให้คำแปง เขาขอร้องให้เธอฮึดสู้ ไม่ใช่เพื่อตัวเองแต่เพื่อเด็กๆ ลูกแม่มูลทุกคนที่จะได้ไม่ต้องทิ้งถิ่นเกิด และลืมรากเหง้าของตัวเองไปแสวงโชคในกรุงเทพ คำแปงได้สติ แต่เธอก็ไม่มีกำลังใจทำงานอีกต่อไปแล้ว จนกระทั่ง บัวผัน(พลอยปภัส ธนันต์ชัยกานต์) ลูกศิษย์ที่พิณรักที่สุด และเป็นนักร้องเสียงทองฝ่ายหญิงที่คำแปงหมายหมั้นปั้นมือว่าจะให้ดังเหมือนแคน ถูกพ่อแม่ขายให้ศรีไพรและพวก เมื่อครูตะวันรู้ก็พยายามห้ามปรามจนถูกพวกศรีไพรทำร้ายบาดเจ็บสาหัส หมอสายไหม (มัณฑนา หิมะทองคำ)ที่ครูตะวันแอบรักอยู่เข้ามาช่วยดูแล ทำให้ครูตะวันรู้สึกดีต่อเธอมากขึ้น โดยที่เหมอสายไหมไม่ระแคะระคายเรื่องนี้เลย ขณะเดียวกันพิณก็ตัดสินใจเข้ากรุงเทพเพื่อตามหาลูกศิษย์ตัวน้อย

พิณมาอยู่กรุงเทพกับแคน เมื่อเดือนรู้จึงอาสาช่วยพิณตามหาลูกศิษย์ตามที่ต่างๆ จนความเข้าใจผิดที่มีต่อกันลดลง แปรเปลี่ยนเป็นความโหยหาที่ยากจะพรากจากกัน จนทั้งสองเกือบจะพลาดพลั้งทำเรื่องผิดศีลธรรม ซึ่งนั่นก็มากพอที่จะทำให้สุดเขตรู้ว่าหญิงคนรักของตนมีชายอื่นอยู่ในใจ เขาสกัดกลั้นความเจ็บปวดนี้อยู่ในใจเงียบๆ รอให้เดือนเป็นคนพูดความจริงกับเขา

สุดท้ายพิณก็ตามหาลูกศิษย์ของตัวเองไม่เจอ ความเศร้าเสียใจและความโหยหาที่จำต้องพรากจากหญิงคนรัก ทำให้เขาแต่งเพลง "เสียงจากแม่มูล" ที่บอกเล่าถึงความคิดถึง ห่วงหา ของแม่ที่มีต่อลูก ที่ต้องจำพรากจากกันไปไกลแสนไกล รอวันเวลาให้ลูกกลับมาอีกครั้ง ไม่ต้องมีเงินทอง ไม่ต้องมีชื่อเสียงโด่งดัง แค่ได้เห็นหน้าและรับรู้ว่าลูกเป็นอยู่สุขสบายดีแม่ก็พอใจแล้ว

พิณส่งเพลงนี้ให้แคนที่กำลังจะถอดใจร้องและนำไปเผยแพร่ผ่านทางคลื่นวิทยุเสียงจากแม่มูล ปรากฏว่าเพลงนี้ดังเพียงชั่วข้ามคืน และแคนก็ได้เป็นนักร้องดังสมใจ เขาพยายามเขียนจดหมายติดต่อคำหล้า แต่ศรีไพรที่สนิทกับบุรุษไปรษณีย์แอบขโมยจดหมายแคนไปซ่อน แล้วใช้เรื่องหนี้สินบีบให้พ่อแม่คำหล้ายกลูกสาวให้กับตน คำหล้าที่ขาดการติดต่อกับกับแคนเข้าใจว่าแคนดังแล้วลืมตัว ด้วยความเจียมตัวว่าตัวเองเป็นแค่ดอกหญ้าที่ไม่มีค่าอะไร จึงตัดสินใจแต่งงานกับศรีไพรเพื่อช่วยปลดหนี้ให้พ่อแม่

พิณรู้ว่าศรีไพรอยู่เบื้องหลังการค้ามนุษย์จึงหาหลักฐานเปิดโปง แต่บังเอิญไปเจอจดหมายที่แคนส่งหาคำหล้า เขาบอกเรื่องนี้กับแคน แคนจึงกลับมาขัดขวางงานแต่งของคำหล้า ทำให้ศรีไพรเสียหน้าและโกรธแค้นแคนมากขึ้น และยิ่งเมื่อรู้ว่าบัวผันที่ถูกหลอกพาไปขายที่กรุงเทพหนีรอดออกมาได้ และกำลังจะมาช่วยเป็นพยานให้พิณเปิดโปงธุรกิจการค้ามนุษย์ของเขา ศรีไพรจึงส่งคนไปฆ่าบัวผัน ทั้งพิณและแคนเจ็บแค้นศรีไพรเป็นอย่างมาก แต่ไม่สามารถทำอะไรศรีไพรได้ เพราะชาวบ้านส่วนใหญ่ยังเชื่อว่าศรีไพรเป็นคนดี

ต่อมาหมอสายไหมรู้ว่าครูตะวันแอบหลงรักตนอยู่ โดยที่ไม่มีใครคาดคิด เธอก็ตอบตกลงแต่งงานกับเขา ครูตะวันจึงได้เรียนรู้ว่าไม่มีอะไรในโลกที่เป็นไปไม่ได้ ถ้าเรามีความเพียรและยึดมั่นในคุณงามความดี เขาจึงมีกำลังใจกลับมาพัฒนาการเรียนสอนการสอนแก่เด็กๆ ตามอุดมการณ์ที่วาดไว้ตั้งแต่วัยหนุ่ม โดยมีพิณเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงใหญ่ ทั้งสองช่วยกันสร้าง "วังปลา" ด้วยภูมิปัญญาแบบชาวบ้าน เพื่อให้ปลาใช้เป็นที่สำหรับวางไข่ และเป็นแนวป้องกันไม่ให้พวกเถ้าแก่เส็งแอบเข้ามาดูดทรายในแม่น้ำไปขาย ศรีไพรได้ทีจึงยุยงให้พวกชาวบ้านเสียผลประโยชน์บุกเข้าไปรื้อวังปลา ทำชาวบ้านเริ่มรู้ว่าศรีไพรเป็นคนไม่ดี จึงให้เบาะแสบางอย่างเกี่ยวกับการตายของบัวผัน ทำให้พิณกับแคนมีหลักฐานเอาผิดศรีไพรในที่สุด

ขณะเดียวกันเดือนที่ได้ยินเสียงเพลงจากแม่มูลก็รู้ว่าพิณแต่งให้ตน เธอจึงโกหกสุดเขตว่าจะกลับมาเยี่ยมแม่ แต่แท้ที่จริงแล้วเธออยากกลับมาหาชายคนรัก สุดเขตรู้ว่ากำลังถูกเดือนโกหก แต่ด้วยความรักที่มีต่อเดือน เขาจึงพาเดือนมาส่งที่บ้าน พอทองสารู้ว่าสุดเขตเป็นคู่หมั้นของเดือน จึงยุยงให้สุดเขตหึงหวงเพื่อจะได้พาเดือนกลับไปกรุงเทพ แต่สุดเขตกลับนัดพิณออกมาเจรจากันตัวต่อตัว ก่อนจะชกต่อยพิณอย่างบ้าคลั่ง แต่ด้วยความเป็นหนุ่มลูกทุ่งพิณสามารถเอาชนะสุดเขตได้อย่างง่ายดาย สุดเขตพ่ายแพ้ต่อพิณทั้งในเชิงรักและหมัดมวย เขายอมจำนนต่อชายหนุ่มตรงหน้า ทั้งยังขอร้องให้พิณดูแลเดือนให้ดี พรุ่งนี้ผู้ใหญ่จะมาจัดงานแต่งงานให้เขากับเดือน ขอให้พิณรีบมาพาเดือนหนีไป เขาอยากเห็นหญิงสาวที่ตนรักมีความสุข

งานแต่งงานถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ เดือนมาขอร้องพิณให้พาเธอหนีไป แต่พิณกลับรู้สึกเห็นใจสุดเขต เขาไม่สามารถทำตามที่ใจปรารถนาได้ จนกระทั่งงานแต่งเริ่มขึ้น ศรีไพรที่รู้ว่าพิณมีหลักฐานว่าเขาเป็นคนฆ่าบัวผันจึงยกคนบุกมาทำลายงานแต่งงาน และจับตัวเดือนไปเป็นตัวประกัน เพื่อแลกกับหลักฐานชิ้นนั้น แต่ทองสาที่รู้เรื่องทั้งหมดเข้ามาช่วยพิณไว้จนตัวตาย ขณะเดียวกันสุดเขตก็ปกป้องเดือนด้วยชีวิต จนทำให้เดือนรู้ว่าเขารักเธอมากแค่ไหน ก่อนที่แคนและชาวคณะแม่มูลลำเพลินจะช่วยกันเปิดโปงแผนการชั่วร้ายของศรีไพร สามหนุ่มประจันหน้ากันกลางสายแม่มูลที่เชี่ยวกราด ทั้งพิณและแคนพลาดท่าเสียทีศรีไพรที่มีอาวุธเหนือกว่า ระหว่างความเป็นความตาย ศรีไพรก็พลาดท่าตกไปวังปลา ก่อนจะถูกสายแม่มูลดูดกลืนร่างหายไป

เมื่อเรื่องร้ายๆ ผ่านไป คำแปงตัดสินใจตั้งคณะแม่มูลลำเพลินขึ้นมาอีกครั้ง เพราะเธอได้ตระหนักแล้วว่า คณะลำเพลินของเธอไม่ได้เป็นเพียงแค่ความบันเทิงราคาถูก แต่มันเป็นเสมือนความหวัง และอนาคตที่สดใสของพวกเด็กๆ ถึงแม้ตอนแรกจะไม่มีคนฟังลำเพลินของคำแปง แต่เมื่อแคนกลับมา เสียงร้องอันแสนไพเราะเพราะพริ้งของเขาก็ช่วยเรียกชาวบ้านและเด็กรุ่นใหม่ให้หันกลับมาฟังลำเพลิงได้อีกครั้ง

เดือนที่กำลังสับสนให้รักสามเส้าครั้งนี้ ไม่รู้จะหาทางออกอย่างไรดี คำแปงเตือนสติให้เดือนนึกถึงสิ่งที่ลูกแม่มูลทุกคนต้องหวงแหวนรักษาไว้นั่นก็คือความดีงามในจิตใจ เดือนเห็นว่าความรักของเธอกับพิณเป็นเหมือนสายแม่มูลที่ไหลผ่านไป ไม่มีวันหวนกลับมาอีกแล้ว จะหลงเหลือก็เพียงแค่ความทรงจำ จึงตัดสินใจทำสิ่งที่ถูกต้องด้วยการแต่งงานกับสุดเขต ผู้ชายที่พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อเธอจนเธอสามารถรักเขาตอบได้โดยไม่ยาก

พิณกลับมาริมแม่มูลที่ที่ครั้งหนึ่งเขาเคยสัญญารักไว้กับเดือน วันนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปแต่แม่มูลยังเหมือนเดิม เสียงกระซิบของแม่มูลน้ำเตือนให้เขานึกถึงรากเหง้า ความดีงาม ที่บรรพบุรุษสั่งสมไว้ให้ลูกหลาน พิณไม่เสียใจอีกต่อไปที่จำต้องพรากจากหญิงคนรัก แต่เขากลับภูมิใจที่ตัวเองได้ทำสิ่งดีๆ ให้กับแผ่นดินเกิด แม้วันนี้แม่มูลไม่ได้เป็นดังสายเลือด หรือความหวังของคนริมสองฝั่งน้ำเหมือนเมื่อในอดีต แต่แม่มูลยังย้ำเตือนเสมอให้ให้เราไม่ลืมรากเหง้าและถิ่นกำเนิดของตัวเอง และที่สำคัญแม่มูลบอกเราว่าความดีงามในจิตใจจะช่วยเป็นเกราะป้องกันเราจากปัญหา อุปสรรค และสิ่งเลวร้ายนานัปการ เหมือนแม่ที่คอยปกป้องลูกน้อยด้วยความรักและความห่วงใย