ละคร คุณหมอ ม.3

ดู 2,394 ครั้ง / แชร์
ละครออกอากาศ วันเสาร์
ช่องที่ออกอากาศ ละครช่อง 7
เริ่มออกอากาศ 4 กันยายน 2553
เวลาออกอากาศ 11:15 - 12:00 น.
  
กำกับโดย ปัญญา ชุ่มฤทธิ์
ประพันธ์โดย บทประพันธ์ เพ็ญศิริ, บทโทรทัศน์ ดินสอดำ
นำแสดงโดย
ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์ ... ธัญชยุท / นายยุท
มรกต กิตติสาระ ... มะก่องแก้ว / แก้ว
ธันน์ ธนากร ... เกรียงไกร
พิชยดนย์ พึ่งพันธ์ ... ภูวดล
เปรมสินี รัตนโสภา ... กันเกรา
ปาริตา โกศลศักดิ์ ... วันทนา
นันทศัย พิศลยบุตร ... เสม็ด
เจมี่ บูเฮอร์ ... นุสมล
ธราภา กงทอง ... จรีย์กร
อิทธิกร สาธุธรรม ... จำลอง
ดร.ปัทมาฆะ สุคนธมาน ... ท่านผู้หญิงพจีรัตนา
ตฤณ เศรษฐโชค ... กวี
วีรินท์ เชยอรุณ ... ภัทริน
ปนัดดา โกมารทัต ... เพียงใจ
ปนัดดา วรัญญาณ ... บุญรัตน์
กฤษฎี พวงประยงค์ ... มะตูม
ผู้สร้าง 559 ออนแอร์ จำกัด

ภาพนิ่งจากละคร

เรื่องย่อ คุณหมอ ม.3

ครอบครัว กวี (ตฤณ เศรษฐโชค) กับ บุญรัตน์ (ปนัดดา วรัญญาณ) สืบทอดการนวดแผนไทย และปลูกพืชสมุนไพรมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ กันเกรา (เปรมสินี รัตนโสภา) ลูกคนโต เสม็ด (นันทศัย พิศลยบุตร) คนรอง และ มะก่องแก้ว,แก้ว (มรกต กิตติสาระ) คนสุดท้อง ล้วนศึกษาวิชาด้านนี้จนชำนาญ แต่แก้วกลับเลือกที่จะค้าขาย ทั้งนี้เพราะชาวบ้านมีความเชื่อกันว่าลูกหลานที่สืบทอดอาชีพนวดจะเป็นผีปอบ ทำให้แก้วมักมีปัญหากับเพื่อนที่ชอบล้อเธอมาตั้งแต่เด็ก ประกอบกับลูกค้าหนุ่ม บางคนตีค่าว่าหมอนวดใจง่าย คิดซื้อตัวหลังนวด แถมความสวยของเธอก็ทำให้มีการลวนลามเกิดขึ้น ปัญหาเหล่านี้ล้วนเป็นสาเหตุให้แก้วไม่อยากยึดอาชีพนวดตามรอยคนในครอบครัวตัวเอง หลังจบมัธยม 3 แก้วก็เบนอาชีพไปเป็นแม่ค้าในตลาดกับมะตูม (ญาติ) (กฤษฎี พวงประยงค์) เนื่องจากแม่ต้องดูแลร้านนวด ส่วนพ่อก็ต้องดูแลสวนสมุนไพร ย่าเพียงใจ (ปนัดดา โกมารทัต) ก็ต้องเป็นผู้ผสมตัวยา จึงไม่มีใครนำสินค้าพืชสวนพืชไร่ สมุนไพร และลูกประคบไปขาย แก้วนั้นไม่ค่อยจะยอมนวดให้ใครนัก เว้นแต่เพื่อนหรือคนสูงวัยที่ปวดเมื่อยเป็นบางครั้งเท่านั้น

ธัญชยุท (ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์) หนุ่มผู้ร่ำรวย เชื้อสายผู้ดีเก่าตั้งแต่ยุคปู่ย่าคือ หลวงรัชไพสิท กับ ท่านผู้หญิงพจีรัตนา (ปัจจุบันมีชีวิตอยู่) กระทั่งมาถึงยุคพ่อแม่คือ จารุทัศน์ กับ ภัทริน ก็ยังร่ำรวย มีที่ดินมากมาย สองสามีภรรยามีลูก3คนคือ นุสมล (เจมี่ บูเฮอร์) คนโต อิษฏา คนกลาง และธัญชยุทคนเล็ก ซึ่งค่อนข้างติดดินต่างกับพี่ๆเพราะนอกจากเขาจะเลือกเรียนที่มหาวิทยาลัยเปิด ยังไม่ชอบคบไฮโซฯ แต่เลือกคบเพื่อนฐานะธรรมดาทั่วไป ภัทรินเกรงลูกชายจะไม่ได้ดี จึงพยายามบังคับให้หมั้นกับ จรีย์กร (ภราดา กงทอง) ลูกนักธุรกิจใหญ่ แต่ธัญชยุทไม่ชอบสาวหัวสูง แถมจรีย์กร ยังไม่ชอบเพื่อนๆของเขา โดยเฉพาะ ภูวดล (พิชยดนย์ พึ่งพันธ์) ซึ่งเป็นพนักงานส่งเอกสาร เพราะมองว่าต้อยต่ำ ภูวดลนั้นมีภาระต้องลางานกลับไปเยี่ยมพ่อที่เป็นอัมพฤกษ์ที่ต่างจังหวัดบ่อยๆ หากบริษัทมีงานธัญชยุทก็อาสาส่งเอกสารแทนเพื่อนบ้าง

เมื่อธัญชยุททนครอบครัวกดดันเรื่องจรีย์กรไม่ไหว จึงตัดสินใจหนีไปพักกับภูวดลที่แฟลต เขาต้องปรับตัวเพื่อให้เข้ากับสภาพความเป็นอยู่ติดดินของเพื่อน แต่บางครั้งก็เผลอใช้เงินเลี้ยงเพื่อนบ้าง แม้ภูวดลจะคอยเตือนเพื่อน ให้ใช้จ่ายอย่างประหยัดก็ตาม ทางบ้านส่งข่าวมาว่า ภาคภูมิ พ่อของภูวดล ตอนนี้อาการหนักจน ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ภูวดลกลุ้มใจมาก ตัดสินใจลาออกจากงานเพื่อกลับไปดูแลพ่อ ธัญชยุทนึกสนุกจึงขอตามไปด้วย ภาคภูมิปลูกผักตามฤดูกาลขาย ดังนั้นภูวดลจึงมีหน้าที่ขับรถนำสินค้าไปส่งยังตลาดสด โดยมีธัญชยุทติดตามไปเสมอ อาชีพค้าขายเป็นชีวิตแปลกใหม่สำหรับชายหนุ่ม เขาสนุกที่ต้องเป็น "นายยุท" หรือ "เจ้ายุท" ของพวกพ่อค้าแม่ค้า เพราะความเป็นคน พูดไม่คิด หยอกคนผิดจังหวะ ธัญชยุทจึงมีปัญหาขัดแย้งกับพวกพ่อค้าหนุ่มๆหรือพวกมอเตอร์ไซค์รับจ้างบ้างในช่วงแรกๆ แต่ความเป็นหนุ่มรูปงามก็ทำให้พวกแม่ค้าสาว ๆ พอใจเขาเสียส่วนใหญ่ โดยเฉพาะ วันทนา (ปาริตา โกศลศักดิ์) แม่ค้าปลาร้าปลาส้ม ซึ่งผิดกับแก้วที่ไม่ชอบนิสัยปากพร่อยของนายยุทเอาเลย

ธัญชยุทนึกหมั่นไส้แก้วที่แสดงความไม่ชอบหน้าเขา ผิดกับแม่ค้าคนอื่น จึงพนันกับภูวดลว่าจะจีบเธอให้ได้ในหนึ่งอาทิตย์ ถ้าไม่สำเร็จก็จะยอมกลับบ้าน แต่ไม่ว่าจะใช้วิธีใดแก้วก็ไม่ชายตาแล ยิ่งไปกว่านั้นพ่อค้าหนุ่มๆ ยังแกล้งหาเรื่องชายหนุ่มอวดแม่ค้าสาวๆ ธัญชยุทไม่เก่งเชิงยุทธ จึงเสียท่า แก้วดูถูกว่านายยุทไม่มีน้ำยา แต่ริมาทำตัวเป็นขาใหญ่ เมื่อครบสัปดาห์ปรากฏว่าชายหนุ่มไม่สามารถจีบแก้วสำเร็จ ภูวดลทวงสัญญาเรื่องแพ้ถ้าจะยอมกลับ แต่ธัญชยุท ขอต่อเวลาเพราะใจนึกชอบแก้วขึ้นมาจริง ๆ ซะแล้ว

วันทนาแสดงอาการหึงหวงแก้ว ทั้งที่เมื่อก่อนเคยสนิทกัน เพราะเกรงว่านายยุทอาจจะมีใจชอบแก้ว จึงแสดงอาการกันท่าและไม่กินเส้นกับเพื่อน ทั้งที่แก้วพยายามอธิบายว่า เธอไม่มีใจนึกชอบนายยุทเลยแม้แต่น้อย ขณะเดียวกัน จำลอง (อิทธิกร สาธุธรรม) เจ้าของร้านชำ ขาใหญ่ของตลาด ซึ่งชอบแก้วมานาน ก็แสดงอาการไม่ชอบหน้านายยุท จนพาลูกน้องมาหาเรื่องกลั่นแกล้งให้เขาอับอาย และเพื่อแสดงบารมีอวดแก้ว แต่แก้วไม่ชอบนิสัยจำลองเธอจึงไม่มีใจตอบ ยิ่งทำให้จำลองหมั่นไส้นายยุทยิ่งขึ้น

ธัญชยุทหาทางจะเอาชนะใจแก้ว ภูวดลแนะว่าต้องใช้ความดี มีน้ำใจ และเป็นลูกผู้ชายจึงจะสำเร็จ เขาพยายามทำตามคำแนะนำ โดยฝึกทำงานหนักทุกอย่าง ลดความเจ้าสำอางลง จนเป็นที่ชื่นชมของบรรดาพ่อค้าแม่ขาย แก้วเริ่มคลายความไม่ชอบหน้านายยุทแต่ก็ยังรักษาฟอร์มไว้ วันทนายุจำลองว่าตอนนี้แก้วกำลังจะเอนเอียงหันไปทางนายยุทแล้ว จำลอง พยายามจะพิชิตใจแก้วทุกวิถีทาง กระทั่งวางแผนฉุดเมื่อแก้วไม่เล่นด้วย โชคดีที่นายยุทกับภูวดลเห็นเหตุการณ์จึงเข้าช่วย นายยุทบาดเจ็บหัวแตก แก้วจึงไปเยี่ยม นายยุททำทีเป็นปวดเมื่อย ขอให้นวดให้ นายยุทได้โอกาสลวนลาม จึงถูกแก้วใช้วิชาป้องกันตัวสั่งสอนจนแทบจะเดี้ยงจริง ๆ หญิงสาวบอกว่าหมอนวดไทยไม่ได้ใจง่าย อาศัยวิชาบังหน้าแต่ทำมาหากินอย่างอื่นเหมือนดังใครเข้าใจกัน แต่ทำด้วยใจรักและเมตตาสงสารคนป่วยอย่างแท้จริง ธัญชยุทขอโทษแก้ว ให้สัญญาว่าจะไม่ล่วงเกินอีก ทั้งสองเริ่มเข้าใจ และมีใจให้กัน

ครอบครัวกวี เริ่มเอ็นดูนายยุทจนเปิดประตูรับเป็นแขกพิเศษ ยอมให้ลูกสาวคุยด้วยตามลำพัง แก้วสงสัยว่าทำไมนายยุทถึงหายหน้าไปบ่อยๆ โดยไม่ค่อยบอกกล่าว พยายามถาม เขาก็ตอบว่าไปเยี่ยมบ้าน จากการได้ใกล้ชิดจึงรู้ว่าอาชีพทางบ้านแก้วคือการนวดแผนโบราณ แต่แก้วไม่ยอมสืบทอดกิจการ เนื่องจากโกรธที่ถูกชาวบ้านบางคนดูถูกว่าคนในตระกูลที่ยึดอาชีพนี้จะต้องมีทายาทเป็นปอบ นอกจากนี้ยังเคยมีคนที่มารักษากับรุ่นปู่ย่า ต้องตายอย่างปริศนา ชาวบ้านเลยพากันเหมาว่า ถูกปอบสิงและกินตับไตไส้พุงจนตาย นายยุทพูดให้กำลังใจแก้ว เพื่อพิสูจน์ว่าความเชื่อเหล่านี้เป็นเรื่องเหลวไหล ประจวบเหมาะกับมีคนในหมู่บ้านต้องตายอย่างปริศนาหลังมาให้นายกวีนวด อดีตที่ล่ำลือ กลับมาโจษจันอีกครั้ง คราวนี้พวกชาวบ้านแทบจะคว่ำบาตรไล่ครอบครัวนายกวีออกจากหมู่บ้าน แก้วเสียใจมาก ถึงกับสั่งทุกคนให้เลิกอาชีพนี้ นายยุทติดต่อรุ่นพี่ซึ่งเป็นหมอมาพิสูจน์หาหลักฐานการตายของคนไข้ จนรู้ว่าเสียชีวิตด้วยโรคไข้ฉี่หนูซึ่งมักระบาดในช่วงฤดูฝนต่างหาก

ครอบครัวกวีพ้นมลทิน แก้วมองนายยุทในแง่ดีขึ้น ธัญชยุทรู้สึกตัวว่าเขารักแก้วจริง ๆ จากการพิสูจน์จิตใจแม่ค้าสาวว่า มีความเด็ดเดี่ยว สู้ชีวิต จิตใจเข้มแข็ง หากินด้วยลำแข้งของตนเอง โดยไม่สนใจความสุขสบายทางลัด ขนาดนายอำเภอเกรียงไกร (ธันน์ ธนากร) พ่อหม้ายหนุ่ม ที่ชอบนำตำแหน่งมายั่วยวนเพื่อหวังจะเอาชนะใจหญิงสาว ก็ยังไม่วาย ถูกแก้วปัดไมตรีอย่างไม่ถนอมความรู้สึกกันบ่อยครั้ง แก้วบอกนายยุทว่า คนที่เธอจะรักและร่วมชีวิตด้วยนั้น ไม่ต้องมียศถาบรรดาศักดิ์ ขอเพียงเป็นคนดีและรักเธอจริง คิดจะสร้างฐานะอย่างสุจริตก็พอ นายยุทสัญญาว่าจะไม่ทำให้หญิงสาวเสียใจแน่นอน

แก้วกลุ้มใจเรื่องนิสัยใจร้อนวู่วามของนายยุทที่มักมีเรื่องกับจำลองเป็นประจำ ขณะเดียวกันวันทนาก็เข้ามาใกล้ชิดคลุกคลี ทั้งที่คนทั้งตลาดรู้ว่านายยุทและแก้วรักกันอยู่ ด้านจำลองก็ปั่นหัวนายยุทเพื่อให้ทั้งสองเข้าใจผิด จนทั้งคู่มีปากเสียงเกิดขึ้น แก้วเบื่อความขี้หึงของนายยุท จึงใช้วิธีไม่ยอมพบหน้า ยิ่งทำให้ชายหนุ่มพาลเข้าใจผิดยิ่งขึ้น ธัญชยุทมีนิสัยวู่วามขาดสติอยู่แล้ว จึงเผลอตัวข่มเหงแก้วจนได้เสียกัน แก้วเสียใจมาก จึงหนีกลับบ้านโดยไม่ฟังคำขอโทษใด ๆ จากเขา ธัญชยุทกลุ้มใจมาก ภูวดลแนะนำให้เพื่อนตามไปง้อ และยอมรับผิดชอบต่อเรื่องที่เกิดขึ้น ชายหนุ่มจึงสารภาพกับกวีและเสม็ด ๆ โกรธมากถึงกับลงมือลงไม้ นายยุทถูกทำร้ายจนสลบ แก้วตกใจมากจึงรีบห้ามพี่ชาย แม้กวีกับบุญรัตน์จะโกรธและไม่พอใจนายยุทแค่ไหน แต่ทั้งสองก็อภัยเพราะเห็นคุณความดีที่ทำมานาน บุญรัตน์พูดเรื่องแต่งงาน แต่นายยุทบอกว่าเขายังไม่มีเงิน กวีบอกว่าเรื่องนั้นไม่สำคัญ ขอเพียงรักลูกสาวจริงก็พอ หนุ่มสาวเข้าพิธีผูกข้อมือตามประเพณีชาวบ้าน แต่แก้วขอร้องนายยุทว่าอย่าเพิ่งเข้ามาอยู่กินกัน จนกว่าจะพิสูจน์ตัวเองว่ารักเธอจริง ๆ

แก้วและครอบครัวยังแคลงใจเรื่องครอบครัวนายยุทที่ยังคลุมเครือ วันทนาผิดหวังมากจนไม่ยอมพูดกับแก้ว ภูวดลอาสาเจรจาเพราะแอบมีใจชอบวันทนาอยู่ ส่วนจำลองนั้นแค้นนายยุทถึงขั้นดักทำร้าย ดีแต่ว่ามีคนช่วยไว้ทัน ด้วยความห่วงใยคนรัก แก้วจึงตัดสินใจหาบ้านเช่าใกล้ตลาดเพื่อจะได้ดูแลนายยุท ทั้งสองช่วยกันค้าขายโดยนายยุทเป็นหัวเรี่ยวหัวแรง จนแก้วนึกสงสารที่เห็นผู้ชายที่เคยสำอาง ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อเธอขนาดนี้ จังหวะที่ธัญชยุทต้องกลับกรุงเทพเพื่อไปสอบ แก้วขอไปด้วยแต่เขาก็บ่ายเบี่ยง วันทนาเยาะเย้ยว่านายยุทไม่จริงจังและกำลังคิดจะตีจาก แก้วคิดมากจึงเคี้ยวเข็ญภูวดลจนต้องพาหญิงสาวไปดักพบธัญชยุท หน้ามหาวิทยาลัย ความลับจึงเปิดเผย

แก้วผิดหวังมากที่ถูกหลอก ธัญชยุทเพียรง้อก็ไม่ฟัง ภูวดลต้องช่วยอธิบายอีกแรง หญิงสาวจึงยอมอภัยให้ ประกอบกับเธอกำลังตั้งครรภ์ ธัญชยุทตัดสินใจพาเมียเข้าบ้าน แม้ทุกคนจะไม่ยอมรับแก้ว เนื่องจากฐานะต่างกันมาก ประกอบกับแก้วมีความรู้เพียงชั้นม.3 ภายในบ้านไม่มีใครเมตตาแก้วเลย ยกเว้น แฉล้ม แม่บ้าน แต่แกก็ต้องแอบดูแลแก้ว เวลาที่พวกนายไม่อยู่ แฉล้มสงสารแก้วที่แพ้ท้องจัดแต่กลับไม่ได้รับความเมตตา ส่วนธัญชยุทถูกดึงไปช่วยงานในบริษัทจนไม่มีเวลาอยู่ติดบ้าน เขาเข้าใจว่าแก้วมีความเป็นอยู่ดี เพราะทุกคนทำให้เห็นอย่างนั้น ส่วนแก้วก็ไม่อยากสร้างความหนักใจให้สามี จึงไม่เคยปริปากเล่าความทุกข์อันเนื่องจากถูกญาติ ๆ ของเขา รวมทั้งจรีย์กรกลั่นแกล้ง ท่านผู้หญิงพจีรัตนานั้น นึกสมเพชหลานสะใภ้ แต่ก็ไม่อาจทำใจยอมรับแก้วได้

แก้วพยายามใช้ความดีเอาชนะใจทุกคน แต่ไม่ว่าจะทำดีอย่างไรก็ไม่เป็นผล ปกติแล้วแก้วเป็นคนไม่ยอมใคร แต่ต้องตัดใจเพื่อสามี ครั้งหนึ่งท่านผู้หญิงพจีรัตนาเกิดเป็นลมสว้าน แก้วฝืนขัดคำสั่ง เข้าไปทำการบำบัดรักษาและต้มยาสมุนไพรให้ดื่ม ปรากฏว่าอาการดีขึ้น โดยเรื่องนี้ทุกคนในบ้านพากันปกปิดไม่ให้จารุทัศน์กับภัทรินรู้ ท่านผู้หญิงซักถามประวัติครอบครัวแก้วกระทั่งรู้ว่าคนที่เคยรักษาสามีเมื่อครั้งไปดำรงตำแหน่งอยู่ที่ชุมพรและได้รับอุบัติเหตุรถคว่ำจนกระดูกหัก คือ ปู่ของแก้วนั่นเอง แต่ท่านก็ไม่สามารถทำใจยอมรับแก้วได้อยู่ดี เพราะเหตุยังขุ่นเคืองเรื่องที่คุณหลวงเคยไปติดพันสาวชุมพรเมื่อครั้งก่อน

ภัทรินกับนุสมลกลุ้มใจเมื่อเห็นธัญชยุทรักใคร่แก้วและพยายามจะส่งเป็นเมียออกหน้าอยู่เรื่อย ประกอบกับแก้วก็มีใจอดทนต่อแรงกดดันต่างๆ สองแม่ลูกรวมทั้งจรีย์กร วางแผนไล่หญิงสาวกลับชุมพรก่อนที่จะท้องแก่ แก้วถูกแม่สามีและพี่ๆ กลั่นแกล้ง จรีย์กรเองก็แกล้งทำดีแต่ที่แท้คือประสงค์ร้าย กระทั่งแก้วแท้งลูก แต่ทุกคนกลับพากันยืนยันว่าหญิงสาวหาเรื่องใส่ตัวเอง ธัญชยุทเชื่อแม่และพี่ๆจนต่อว่าเมียมากมายเพราะเสียใจที่เสียลูก ภัทรินได้โอกาส วางแผนให้นุสมลชวนน้องชายไปต่างประเทศโดยให้จรีย์กรตามไปด้วย แก้วเสียใจมากเมื่อถูกสามีทอดทิ้งไปทั้งที่เธอเพิ่งบอบช้ำจากการแท้งลูกหมาดๆ เมื่อไม่มีธัญชยุทในบ้าน แก้วก็ถูกภัทรินกลั่นแกล้งกดดันจนล้มป่วย บุญรัตน์เห็นแก้วเงียบไม่ส่งข่าวจึงชวนมะตูมกับกันเกราบุกไปเยี่ยม ทั้งหมดได้รับการต้อนรับอย่างเหยียดหยามดูแคลน บุญรัตน์เห็นสภาพบอบช้ำของลูกก็ทนไม่ไหวขอให้แก้วกลับไปรักษาตัวที่ชุมพร ธัญชยุทกลับจากต่างประเทศ รู้จากแม่ว่าแก้วหนีตามผู้ชายไปก็เข้าใจผิดคิดว่าคนที่มารับเป็นจำลองหรือเกรียงไกร ประกอบกับทุกคนในบ้านรวมทั้งจรีย์กรช่วยกันเป่าหูจนเขาไขว้เขวไปชั่วขณะ เขาจึงมุเรื่องเรียนเพื่อจะเรียนจนจบโดยเร็วเพื่อลืมหญิงสาวให้ได้

ภูวดลซึ่งพาพ่อไปรักษาที่บ้านกวี เห็นแก้วเอาแต่เก็บเนื้อเก็บตัวไม่ร่าเริง ก็นึกสงสาร จึงพยายามจะชี้แจงให้แก้วตระหนักว่าที่จริงธัญชยุทนั้นรักเธออย่างแท้จริง แต่แก้วก็ไม่ฟัง

เกรียงไกรซึ่งเคยหมายปองหญิงสาว ย้อนกลับมาหวังจะสร้างไมตรีให้ได้ แต่แก้วก็รักษาน้ำใจของเขาเป็นเสมือนพี่ชายเท่านั้น เกรียงไกรวิ่งเต้นหาทางจดทะเบียนร้านนวดของกวีเพื่อให้ถูกต้อง ต่อมาร้านนวดร้านนี้ได้ชื่อใหม่ว่าเป็นสถานบำบัดแผนโบราณ "คลีนิกหมอไทยใจดี" มีลูกค้ามากมาย มาบำบัดรักษา พืชสมุนไพรของนายกวีพลอยขายดิบขายดีกลายเป็นสินค้าโอท็อป จนคุณย่าเพียงใจผสมยาไม่ทัน ต้องเกณฑ์เพื่อนบ้านมาช่วยผสม กระทั่งต่อมาหมู่บ้านนี้ได้กลายเป็นหมู่บ้านปลูกและจำหน่ายสินค้าโอท็อปสมุนไพรไทยขึ้นชื่อ ตัวแก้วเองเมื่อคิดถึงคำดูถูกเหยียดหยามของภัทรินกับลูกๆ ก็มุมานะ จะสร้างตัวจากการนวดแผนโบราณให้ได้ หญิงสาวตัดสินใจไปเข้าคอร์สฝึกนวดไทยของหน่วยงานรัฐ เพื่อเพิ่มความรู้การรักษาบำบัดให้ถูกต้องยิ่งขึ้น กระทั่งได้ใบรับรองมายืนยันต่อคนไข้ นอกจากนี้หญิงสาวยังฝึกคนในหมู่บ้านและใกล้เคียงที่มีความสนใจเรื่องนวดและยาแผนโบราณจนจบคอร์สไปหลายรุ่น จนคนมากมายเรียกเธอว่า "หมอ" คลินิกหมอไทยใจดี ให้การบำบัดรักษาคนไข้ โดยไม่เลือกชั้นวรรณะ แม้บางรายไม่มีเงินจ่ายค่ายาค่ารักษาก็ตาม แก้วได้ไอเดียวางกล่องรับบริจาคค่ายาไว้หน้าโต๊ะแทนที่จะเรียกเป็นจำนวนเงินตายตัวยิ่งทำให้ชื่อเสียงของหญิงสาวแพร่สะพัดมากขึ้น

ธัญชยุท ถูกแม่และพี่สาวบังคับให้แต่งงานกับจรีย์กรหลังเรียนจบ ระหว่างนั้นหญิงสาวก็เข้ามาคลุกคลีตีสนิทกับเขา ชายหนุ่มพยายามทำใจยอมรับจรีย์กรแต่ก็ไม่อาจลืมแก้วได้ ภูวดลส่งข่าวเรื่องแก้วให้เพื่อนรู้เป็นระยะแม้กระทั่งเรื่องแก้วปฏิเสธคำขอแต่งงานของเกรียงไกร ต่อมาแฉล้มซึ่งทนฟังแก้วถูกบรรดานายๆ ใส่ไฟไม่ไหว จึงแอบเล่าเหตุการณ์ระหว่างที่ชายหนุ่มไม่อยู่บ้านว่าแก้วถูกกลั่นแกล้งอย่างไรบ้าง ชายหนุ่มได้รู้ความจริง เขาต่อว่าแม่กับพี่ๆ ด้วยความเสียใจที่หลงเข้าใจแก้วผิดมาตลอด ภัทรินยอมรับว่าที่ทำไปเพราะไม่อาจยอมรับผู้หญิงที่มีความรู้เพียงม.3 เป็นสะใภ้ได้ ธัญชยุทเสียใจมาก เขาเริ่มได้คิดว่าควรกลับมาเป็นตัวของตัวเองอีกครั้ง หลังเรียนจบแล้ว เขาจึงรีบเดินทางไปชุมพรเพื่อง้อขอคืนดีกับแก้ว เป็นจังหวะที่เกรียงไกรกำลังนำชาวบ้านจากต่างจังหวัดไปชมกิจการงานนวดและสวนสมุนไพรพอดี แก้วแสร้งทำตัวเป็นคนรักนายอำเภออวดธัญชยุท ชายหนุ่มเสียใจมาก แต่ภูวดลยืนยันว่าแก้วกับนายอำเภอไม่มีอะไรกัน เพราะทั้งสองสัญญาว่าจะรักเหมือนพี่น้อง ธัญชยุทเพียรพยายามไปตามง้อแก้ว ก็ถูกกวีและครอบครัวปั้นปึ่งใส่ ธัญชยุทขอโทษหญิงสาว แต่แก้วใจแข็งมากไม่อภัยให้ เธอเฉยชาทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า จนชายหนุ่มน้อยใจ ภูวดลว่าสาเหตุที่แก้วทำเช่นนั้น เพราะเธอมีใจรักนายยุทคนเก่าไม่ใช่ธัญชยุทผู้ร่ำรวย ถ้าจะขอคืนดีก็ให้เขากลับมาเป็นนายยุทคนเดิมอาจชนะใจได้ ชายหนุ่มทำตามคำแนะนำของเพื่อน เขาเริ่มกลับไปทำตัวเป็นนายยุท ผู้ชายติดดินคนเก่า แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไร แก้วกับครอบครัวก็ยังใจแข็งไม่นำพาเช่นเดิม

ธัญชยุทน้อยใจที่แก้วใจแข็งกับเขาเกินไป แม้ภูวดลกับวันทนาที่หันมาคบกัน จะพยายามเกลี้ยกล่อมหญิงสาวสักเพียงใด ชายหนุ่มจึงดื่มเหล้าเมาแล้วมีเรื่องกับนายจำลองซึ่งยังเขม่นเขาอยู่ ภูวดลเล่าให้แก้วฟังแต่เธอก็ไม่ใส่ใจ วันทนาแนะว่า ตื้อเท่านั้นที่ครองโลก เขาจึงขยันขี่มอเตอร์ไซค์ ไปที่บ้านหญิงสาวทุกวันแม้ฝนฟ้าจะตก กระทั่งมอเตอร์ไซค์ไปชนกับต้นไม้ จนได้รับบาดเจ็บถึงขั้นขาหัก กระดูกสันหลังเคลื่อนทับเส้นประสาท หมอวินิจฉัยว่าควรได้รับการผ่าตัดกระดูกสันหลัง แต่ท่านผู้หญิงพจีรัตนาคัดค้าน ท่านไม่อยากให้หลานต้องผ่าตัด แต่อยากให้ไปรักษาทางแพทย์แผนโบราณบำบัดอาจจะดีกว่า โดยเปรยว่า แก้วรักษาได้ ภัทรินไม่เชื่อฝีมืออดีตลูกสะใภ้ม.3 แต่ธัญชยุท คิดเหมือนคุณย่ายืนยันว่าจะยอมให้ก็แต่แก้วรักษาเท่านั้น เพราะขนาดพ่อของภูวดลซึ่งเป็นอัมพาตแก้วยังนวดรักษาจนอาการทุเลา สามารถประคองตัวเดินได้

กวีกับบุญรัตน์ ไม่อาจปฏิเสธได้ เพราะบรรพบุรุษสั่งไว้ ห้ามปฏิเสธคนไข้เพราะความรู้สึกส่วนตัว เว้นแต่สุดวิสัยเกินกว่าจะรักษาไหว แต่แก้วก็ไม่ใส่ใจจะรักษาชายหนุ่ม กลับโยนหน้าที่ไปให้แม่กับพี่สาวแทน ธัญชยุทน้อยใจแก้ว บวกกับภาพบาดตาที่เห็นนายอำเภอกลายเป็นแขกประจำของครอบครัวนี้ ทำให้เขากลายเป็นคนหงุดหงิดอารมณ์เสียง่ายจนไม่มีใครเข้าหน้าติด จรีย์กรตามมาดูแลและกีดกันไม่ให้ธัญชยุทคืนดีกับแก้ว แต่ไม่ว่าจะเพียรเอาใจอย่างไร ธัญชยุทก็ยังไม่วายระบายอารมณ์ใส่จนจรีย์กรทนไม่ไหว ในที่สุดก็ยอมแพ้ขอกลับกรุงเทพ

ภัทริน และครอบครัวผลัดกันดูแลลูกชายที่คลินิกไม่ขาด เมื่อทุกคนเห็นกรรมวิธีการนวดเส้นที่สร้างความเจ็บปวดทรมานในช่วงต้นๆก็ไม่เห็นด้วยกับการรักษาวิธีนี้ ถึงกับเคี้ยวเข็ญให้ลูกชายกลับไปรักษาตัวที่กรุงเทพ หรือไม่ก็จะส่งไปรักษาตัวที่ต่างประเทศ แก้วทั้งขอร้องและประชดประชันให้กลับไปกับครอบครัว คนไข้หนุ่มก็ยังยืนยันไม่ยอม

แก้วกลุ้มใจมากเมื่อเห็นพฤติกรรมอารมณ์แปรปรวนของเขา แต่ก็แสร้งทำใจแข็ง ธัญชยุทโวยวายไม่ยอมให้ใครนวดนอกจากแก้วคนเดียว เธอก็ทำหูทวนลมไม่รับรู้ กลับไปรักษาคนป่วยไข้ฐานะยากจนซึ่งบางรายไม่อาจจะเดินทางมารักษาที่คลินิกได้ โดยไม่สนใจค่าจ้างก้อนใหญ่ ที่ภัทรินว่าจ้างแม้แต่น้อย แก้วรำคาญความจุ้นจ้านของนุสมลที่ชอบถามซอกแซกเรื่องขั้นตอนการรักษา ขณะเดียวกันก็เริ่มคิดว่าที่ธัญชยุท ต้องเจ็บทรมานครั้งนี้ส่วนหนึ่งก็มาจากความรักความเพียรพยายามง้อเธอเป็นสำคัญ

วันทนาซึ่งหันมาญาติดีกับแก้ว เตือนสติเพื่อนให้รีบรักษาก่อนที่อาการคนไข้จะเรื้อรังรักษายาก เพราะไม่มีหมอนวดคนใดเข้าหน้าธัญชยุทติดสักคน แม้แต่บุญรัตน์ซึ่งเริ่มจะสงสารและห่วงใยอดีตลูกเขยขึ้นมาบ้างก็ยังไม่อาจทนอารมณ์ของเขาได้ ภัทรินไม่เห็นว่าอาการของลูกชายจะดีขึ้นทั้งที่เสียเวลามานาน จึงเคี่ยวเข็ญให้กลับบ้าน เดือดร้อนท่านผู้หญิงพจีรัตนาต้องถ่อสังขารมาชุมพรทั้งที่เคยตั้งใจไว้ว่าจะไม่มาเหยียบเมืองนี้อีก ท่านผู้หญิงกับคุณย่าเพียงใจพอจะจำกันได้แต่ต่างก็ไม่มีใครปริปากพูดเรื่องเก่าๆ ท่านผู้หญิงออกคำสั่งต้องให้ธัญชยุทอยู่รักษาต่อจนหายหรือหากไม่หาย ต้องตายก็ให้ตายที่นี่ โดยมีท่านเป็นคนการันตีรับรองเอง จารุทัศน์กับภรรยาไม่อาจฝ่าฝืนคำสั่งคุณย่า จึงต้องปล่อยเลยตามเลยทั้งที่ไม่เต็มใจ

ในที่สุดแก้วก็ทนเห็นธัญชยุททรมานไม่ได้ ตัดสินใจยอมรักษาให้ แต่พอธัญชยุททำท่าหึงหวงยามเมื่อเห็นเธอไปไหนมาไหนกับนายอำเภอ หญิงสาวก็เริ่มทำไม่สนใจอีก ภูวดลจำต้องเตี้ยมกับคุณหมอ ว่านอกจากธัญชยุทจะเจ็บป่วยทางกายแล้วก็ยังเจ็บป่วยทางใจ จึงยังไม่สามารถเคลื่อนไหวไปไหนมาไหนได้อีก ดังนั้นการรักษาจึงต้องควบคู่ไปพร้อมๆกันและคนที่จะสามารถรักษาได้ก็คือแก้ว

บุญรัตน์และลูกสาวรวมทั้งบรรดาหมอนวดทั้งหลายนึกเห็นใจคนไข้หนุ่ม จึงเพียรขอร้องให้แก้วลดทิฐิ หันมาดูแลธัญชยุทอย่างจริงจังเสียที แก้วชักจะใจอ่อน ประกอบกับเธอก็ยังมีใจให้เขา หญิงสาวจึงทุ่มเทเวลาและความสามารถ รักษาคนไข้หนุ่มอย่างเต็มที่ ในบางครั้งที่คนไข้หนุ่มหึงหวงใส่อารมณ์กับเธอ แก้วก็ต้องหักห้ามความโกรธและทำใจเย็น หญิงสาวพาเขาไปฟังเทศน์ฟังธรรม ทำบุญที่วัดบ้าง นั่งรถเข็นชมธรรมชาติและรับน้ำค้างยามเช้าบ้าง พาไปร่วมกิจกรรมของหมู่บ้านบ้างเพื่อให้ชายหนุ่มคลายเครียด ระยะหลังๆ อาการของธัญชยุทจึงเริ่มกระเตื้องขึ้น แต่ภัทรินกับลูกสาวก็ยังไม่วางใจซะทีเดียว ทั้งสองยังมีปัญหาปะทะคารมกับบุญรัตน์และกันเกรา(เป็นคู่กัดกัน)อยู่เนืองๆเนื่องจากความเป็นอยู่แบบชาวบ้านที่ไม่สะดวกสบาย ทำให้ภัทรินกับนุสมลเกิดเจ็บป่วยปวดเมื่อย ครั่นตัวบ่อยครั้ง แก้วกับพวกหมอในคลินิกจะนวดรักษาให้แต่ทั้งคู่ไม่ยอมเพราะหวาดระแวงเกรงจะถูก "เอาคืน" กระทั่งภัทรินเป็นไข้สูงจนทนไม่ไหว จึงยอมกินยาสมุนไพรที่บุญรัตน์นำมาให้ และยอมให้แก้วนวดเส้นสาย จนอาการทุเลาเป็นปกติดี

ตลอดเวลาที่ภัทรินและครอบครัวมาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับครอบครัวนายกวีทั้งหมดได้เห็นความมีน้ำใจต่อเพื่อนมนุษย์ โดยไม่หวังผลตอบแทนใดๆก็เริ่มซาบซึ้งในความเป็นคนมีคุณธรรมของครอบครัวนี้ แต่ภัทรินยังรักษามาดทำปั้นปึ่งใส่ ขณะเดียวกันเธอกับสามีก็สังเกตเห็นท่านผู้หญิงพจีรัตนากับคุณย่าเพียงใจ นั่งคุยกันตามลำพังเสมอ จนระยะหลังๆมานี้ท่านผู้หญิงแทบจะเรียนรู้สูตรผสมตัวยาสมุนไพรของคุณย่าเพียงใจได้ ผลจากการสัมผัสยาสมุนไพรหลายๆอย่าง ทำให้สุขภาพของท่านดีขึ้น ผู้สูงวัยทั้งสองทำราวกับว่าเคยรู้จักกันมาก่อน

คอร์สช่วงท้ายๆถือเป็นขั้นตอนสำคัญในการรักษา ธัญชยุทต้องอดทนกับการอยู่ในกระโจมสมุนไพรเพื่อไล่พิษ อาบน้ำร้อน นอนทับสมุนไพรความร้อนสูงภายในห้องอุณหภูมิร้อนจัด แรกๆ คนไข้หนุ่มทนไม่ไหวแต่แก้วก็อยู่เป็นเพื่อนเขาในห้องตลอดเวลาการรักษา เธอปลอบใจให้เหตุผลต่างๆ บางครั้งก็เปิดซีดีธรรมะ อ่านหนังสือพระ เล่าเรื่องตลก อดีตสมัยที่ทั้งคู่เพิ่งรู้จักและรักกันใหม่ๆ จนชายหนุ่มเริ่มอารมณ์ดี คุ้นเคยต่อความร้อนและการรักษาขั้นตอนทรมานได้บ้าง ผิดกับภัทรินที่ทนเห็นลูกทรมานไม่ไหว จึงออกคำสั่งจะพากลับท่าเดียว จารุทัศน์ไม่อาจทัดทานความต้องการของภรรยาได้แต่ท่านผู้หญิงพจีรัตนาไม่ยอม ภัทรินก็ไม่ยอมเช่นกันจนกว่าท่านผู้หญิงจะมีเหตุผลสมควร สุดท้ายท่านจำต้องคลายความจริงครั้งอดีต เรื่องคุณหลวงรัชไพสิทเคยได้รับอุบัติเหตุ ดีแต่ว่านายก่ำต้นตระกูลของกวี นวดรักษาจนหายแต่เหตุที่ท่านไม่ยอมเปิดเผยแต่แรกเพราะฝังใจเรื่องคุณหลวงเผลอใจมาติดพันสาวชุมพร จนเกิดเรื่องเกิดราวให้หมางใจไประยะหนึ่ง

ภัทรินและสามียอมแพ้ต่อเหตุผลของท่านผู้หญิง ภัทรินนั้นเมื่อทนดูความทรมานของลูกไม่ไหว บุณรัตน์จึงแกล้งชวนเธอไปดูกิจกรรมต่างๆ ของชาวบ้าน จนเริ่มคลายความเครียดและรังเกียจเหยียดหยามคนในระดับชาวบ้าน กลายเป็นมิตรเข้ากับชาวบ้านได้ดีขึ้น ส่วนจารุทัศน์ก็ออกไปดูสวนสมุนไพรกับกวี จนนึกชอบชีวิตลูกทุ่ง ๆ สามารถทำตัวกลมกลืนเสมือนเป็นชาวไร่คนหนึ่ง