ละคร นักสู้พันธ์ข้าวเหนียว
ดู 4,252 ครั้ง /
แชร์
ละครออกอากาศ | วันจันทร์ วันอังคาร | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ช่องที่ออกอากาศ | ละครช่อง 7 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เริ่มออกอากาศ | 6 กันยายน 2553 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เวลาออกอากาศ | 20:25 - 22:30 น. |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
กำกับโดย | สยาม น่วมเศรษฐี | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ประพันธ์โดย | บทประพันธ์ ธงสยาม, บทโทรทัศน์ แพรพริมา | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
นำแสดงโดย | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ผู้สร้าง | คำพอดี จำกัด |
ภาพนิ่งจากละคร
เรื่องย่อ นักสู้พันธ์ข้าวเหนียว
ตำนานฮีโร่คนใหม่เริ่มต้นที่หมู่บ้านดอนควาย มันเป็นวันพระใหญ่ วันที่พระอาทิตย์ ดาวเสาร์ และดวงจันทร์ โคจรมาตรงกับโลก ซึ่งใน ๑,๐๐๐ ปี จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้เพียงหนเดียวเท่านั้น เกิดสุริยะคราส ราหูอมพระอาทิตย์เข้าไปเกือบมิดดวง แสงอาทิตย์รอดหลังคาโบสถ์ลงมาต้องกับข้าวทิพย์หน้าพระประธานเกิดปาฏิหาริย์ข้าวทิพย์เปล่งแสงทองส่องสว่างไปทั้งโบสถ์ ด้วยความหิวเสือ (นิว วงศกร ปรมัตถากร) ในวัยเด็กหยิบข้าวทิพย์ก้อนนั้นกินเข้าไป แต่แล้วเสือก็รู้สึกร้อนจนท้องแทบระเบิดออกมา มันปวดท้องจนสุดจะทานทนได้เสือสลบไป ๗ วัน ๗ คืน นับแต่นั้นมาเสือก็ต้องพบกับความประหลาดใจ เพราะเขามีพลังพิเศษเพิ่มเข้ามาในตัวเองโดยที่เขาไม่รู้ตัว และนี่คือกำเนิดของ นักสู้พันธุ์ข้าวเหนียว
๑๐ ปีผ่านไป เสือ กลับจากรับราชการทหารมาทำนาที่หมู่บ้านดอนควาย เขาเผชิญกับ กำนันฉ่ำ (เวนช์ ฟอลโคเนอร์) และ ศร (นวพล ภูวดล) รวมทั้ง สมุนตัวร้าย ลิงลม (สมรักษ์ คำสิงห์) เห่าดง (อำพล รัตนวงษ์) และ หมีควาย (ณรัฐ พัฒนาพงศ์ชัย) พวกมันบังคับให้ชาวบ้านขายที่นาทำกินให้กับนายทุนชาวต่างชาติ โดยมีผู้พันอำนาจ (ศตวรรษ ดุลยวิจิตร) นักการเมืองผู้มีอิทธิพลเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง
เสือไม่ยอมจึงถูกเผาบ้าน และพวกมันได้จับ มะลิ (พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์) น้องสาวไปขายตัวที่กรุงเทพฯ พ่อ-แม่เสือถึงกับตรอมใจตาย เสือต้องออกตามหาน้องสาวและออกตามล่าไอ้พวกเดนสังคมไปลงนรกให้ได้ โดยมีปืนอาคมของ หลวงพ่อเข้ม (ยอดชาย เมฆสุวรรณ) และ หมัดเขวี้ยงควาย เป็นอาวุธประจำกาย
เสือเดินทางเข้ากรุงเทพฯ โดยบังเอิญได้พบกับ ผู้กองสิงห์ (เคลลี่ ธนะพัฒน์) นายตำรวจตงฉินที่เพิ่งกลับจากเมืองนอก ทั้งสองได้ช่วยกันจับโจรที่ปล้นปั๊มน้ำมัน และได้กลายเป็นเพื่อนกัน ที่กรุงเทพฯ เสือได้รับความช่วยเหลือจาก บักเคน (เหลือเฟือ มกจ๊ก) เพื่อนทหารเก่าที่ผันตัวเองมาขับแท็กซี่
ในการออกสืบหาน้องสาวบักเสือได้พบกับ ส้ม (กวินตรา โพธิจักร) นักร้องคาเฟ่ ที่นำพาเขาเข้าไปพัวพันกับบ่อนพนันจนต้องหนีหัวซุกหัวซุนออกมาโดย ส้มได้แอบยักยอกนำเงินนับล้านออกมาจากในบ่อนเมื่อเสือรู้เกิดการโต้เถียงยื้อแย่งกันจนถุงเงินแตกกระจาย เงินปลิวลงมาจากดาดฟ้าตึกชาวบ้านเห็นต่างวิ่งไล่เก็บเงินกันใหญ่ แสงระวี (ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์) นักข่าวสาวได้เก็บภาพเสือไว้ได้ แต่มันเป็นเพียงภาพที่ย้อนแสงตะวัน มองไม่ออกว่าเป็นใคร รู้แค่เพียงเป็นชาย พันผ้าขาวม้าไว้กับคอ
เช้าวันใหม่ภาพของเสือปรากฏบนหน้าหนังสือพิมพ์ แสงระวีนำภาพข่าวลงหน้าหนึ่งพาดหัวว่า มีฮีโร่คนใหม่เกิดขึ้นแล้ว โดยมี พญาอินทรี (วันชัย เผ่าพิบูลย์) เจ้าของคอลัมน์ ลมใต้ปีก ตั้งสมญาฮีโร่คนนี้ให้ว่า นักสู้พันธุ์ข้าวเหนียว
เมื่อผู้กองสิงห์ได้อ่านหนังสือพิมพ์ก็รู้สึกสะกิดใจกับ นักสู้พันธุ์ข้าวเหนียว คนนี้ แต่เขาก็ไม่ได้ระแคะระคายเลยว่าจะเป็นคนเดียวกับเสือ มิตรข้างทางในวันนั้น ซึ่งกำลังจะเป็นศัตรูหัวใจของเขากับแสงระวี ซึ่งเธอก็ได้ตั้งปฏิญาณไว้แล้วว่าจะต้องกระชากหน้ากากของ นักสู้พันธุ์ข้าวเหนียว ให้ได้และเสือก็ได้ตัดสินใจเป็น นักสู้พันธุ์ข้าวเหนียว เพื่อตามหาน้องสาว และอีกด้านเพื่อต่อกรกับความอยุติธรรมในสังคม และนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของ นักสู้พันธุ์ข้าวเหนียว
๑๐ ปีผ่านไป เสือ กลับจากรับราชการทหารมาทำนาที่หมู่บ้านดอนควาย เขาเผชิญกับ กำนันฉ่ำ (เวนช์ ฟอลโคเนอร์) และ ศร (นวพล ภูวดล) รวมทั้ง สมุนตัวร้าย ลิงลม (สมรักษ์ คำสิงห์) เห่าดง (อำพล รัตนวงษ์) และ หมีควาย (ณรัฐ พัฒนาพงศ์ชัย) พวกมันบังคับให้ชาวบ้านขายที่นาทำกินให้กับนายทุนชาวต่างชาติ โดยมีผู้พันอำนาจ (ศตวรรษ ดุลยวิจิตร) นักการเมืองผู้มีอิทธิพลเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง
เสือไม่ยอมจึงถูกเผาบ้าน และพวกมันได้จับ มะลิ (พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์) น้องสาวไปขายตัวที่กรุงเทพฯ พ่อ-แม่เสือถึงกับตรอมใจตาย เสือต้องออกตามหาน้องสาวและออกตามล่าไอ้พวกเดนสังคมไปลงนรกให้ได้ โดยมีปืนอาคมของ หลวงพ่อเข้ม (ยอดชาย เมฆสุวรรณ) และ หมัดเขวี้ยงควาย เป็นอาวุธประจำกาย
เสือเดินทางเข้ากรุงเทพฯ โดยบังเอิญได้พบกับ ผู้กองสิงห์ (เคลลี่ ธนะพัฒน์) นายตำรวจตงฉินที่เพิ่งกลับจากเมืองนอก ทั้งสองได้ช่วยกันจับโจรที่ปล้นปั๊มน้ำมัน และได้กลายเป็นเพื่อนกัน ที่กรุงเทพฯ เสือได้รับความช่วยเหลือจาก บักเคน (เหลือเฟือ มกจ๊ก) เพื่อนทหารเก่าที่ผันตัวเองมาขับแท็กซี่
ในการออกสืบหาน้องสาวบักเสือได้พบกับ ส้ม (กวินตรา โพธิจักร) นักร้องคาเฟ่ ที่นำพาเขาเข้าไปพัวพันกับบ่อนพนันจนต้องหนีหัวซุกหัวซุนออกมาโดย ส้มได้แอบยักยอกนำเงินนับล้านออกมาจากในบ่อนเมื่อเสือรู้เกิดการโต้เถียงยื้อแย่งกันจนถุงเงินแตกกระจาย เงินปลิวลงมาจากดาดฟ้าตึกชาวบ้านเห็นต่างวิ่งไล่เก็บเงินกันใหญ่ แสงระวี (ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์) นักข่าวสาวได้เก็บภาพเสือไว้ได้ แต่มันเป็นเพียงภาพที่ย้อนแสงตะวัน มองไม่ออกว่าเป็นใคร รู้แค่เพียงเป็นชาย พันผ้าขาวม้าไว้กับคอ
เช้าวันใหม่ภาพของเสือปรากฏบนหน้าหนังสือพิมพ์ แสงระวีนำภาพข่าวลงหน้าหนึ่งพาดหัวว่า มีฮีโร่คนใหม่เกิดขึ้นแล้ว โดยมี พญาอินทรี (วันชัย เผ่าพิบูลย์) เจ้าของคอลัมน์ ลมใต้ปีก ตั้งสมญาฮีโร่คนนี้ให้ว่า นักสู้พันธุ์ข้าวเหนียว
เมื่อผู้กองสิงห์ได้อ่านหนังสือพิมพ์ก็รู้สึกสะกิดใจกับ นักสู้พันธุ์ข้าวเหนียว คนนี้ แต่เขาก็ไม่ได้ระแคะระคายเลยว่าจะเป็นคนเดียวกับเสือ มิตรข้างทางในวันนั้น ซึ่งกำลังจะเป็นศัตรูหัวใจของเขากับแสงระวี ซึ่งเธอก็ได้ตั้งปฏิญาณไว้แล้วว่าจะต้องกระชากหน้ากากของ นักสู้พันธุ์ข้าวเหนียว ให้ได้และเสือก็ได้ตัดสินใจเป็น นักสู้พันธุ์ข้าวเหนียว เพื่อตามหาน้องสาว และอีกด้านเพื่อต่อกรกับความอยุติธรรมในสังคม และนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของ นักสู้พันธุ์ข้าวเหนียว