ละคร เปรี้ยวตลาดแตก
ดู 3,389 ครั้ง /
แชร์
ละครออกอากาศ | วันจันทร์ วันอังคาร วันพุธ วันพฤหัส วันศุกร์ | |||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ช่องที่ออกอากาศ | ละครช่อง 7 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
เริ่มออกอากาศ | 25 มิถุนายน 2553 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
เวลาออกอากาศ | 18:45 - 19:45 น. |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
กำกับโดย | นุกูล บุญเอี่ยม | |||||||||||||||||||||||||||||||||
ประพันธ์โดย | บทประพันธ์ นันทนา วีระชน, บทโทรทัศน์ คำแพง | |||||||||||||||||||||||||||||||||
นำแสดงโดย | ||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||
ผู้สร้าง | ละครดี |
ภาพนิ่งจากละคร
เรื่องย่อ เปรี้ยวตลาดแตก
อีเปรี้ยวตลาดแตก สมญานี้ ชาวบ้านอำเภอปลายดง พร้อมใจกันตั้งให้ เปรี้ยว (ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์) สาวแก่นเก่ง และแกร่งกล้า ที่แม้แต่ชายอกสามศอกยังต้องสยบให้กับความห้าวของเธอ แต่ก็เหมือนสวรรค์แกล้ง ส่งคู่ปรับหมายเลขหนึ่ง อย่างร้อยตำรวจเอก เชียรฉาย ชนานนท์ (เขตต์ ฐานทัพ) มาเป็นสารวัตรประจำสภอ. ปลายดง แต่สารวัตรเชียรฉาย กับเปรี้ยวก็เป็นไม้เบื่อไม้เมากันตั้งแต่แรกเจอ เพราะเปรี้ยวดันไปออกฤทธิ์กับเชียรฉาย โดยไม่รู้ว่ากำลังต่อกรอยู่กับสารวัตรคนใหม่ จนทั้งคู่พบหน้ากันเมื่อไร ต้องปะทะกันตลอด แม้ว่าจะมี อาสำอาง (พิมพ์พรรณ ชลายนคุปต์) ที่เลี้ยงเปรี้ยวมาแต่แบเบาะคอยห้ามปราม แต่ลับหลังอาสำอาง เปรี้ยวต้องหาทางแกล้งเชียรฉายอย่างเจ็บแสบ
ที่เปรี้ยวแก่น กร้าวเกินหญิงได้ขนาดนี้ คงจะมาจากการอบรมเลี้ยงดูของ พ่ออวน (เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์) ที่หอบลูกและพาน้องสำอางหลบหนีจากกรุงเทพฯ มากบดานอยู่ในอำเภอปลายดงตั้งแต่ เปรี้ยวยังแบเบาะ อวนไม่คบค้าสมาคมกับใคร แถมยังสอนหนังสือเปรี้ยวด้วยตัวเอง ไม่ยอมให้เปรี้ยวไปโรงเรียน ไม่ให้สังคมกับใคร ทำให้เปรี้ยวมีความหวาดระแวง และโหยหาความรักจากแม่
แต่การทำงานของสารวัตรเชียรฉาย ก็มีอุปสรรคจากผู้ทรงอิทธิพลตัวบ่อนทำลายท้องถิ่นอันดับหนึ่งคือกำนันสาย (โกวิท วัฒนกุล) เจ้าพ่อไม้เถื่อนจอมโหดและ เสี่ยเส็งศักดิ์ (พิพัฒน์พล โกมารทัต) เจ้าของโรงสี โรงเลื่อย นายทุนหน้าเลือดที่ผูกขาดธุรกิจเกือบทั้งอำเภอ ทั้งสองเริ่มต้นแผนด้วยการให้ของกำนัลแพง ๆ แต่เสี่ยเส็งมีแผนลึกซึ้งถึงขั้นจับคู่ให้กับ สิริยา (อภิษฎา เครือคงคา) ลูกสาวคนโปรดที่เพิ่งเรียนแฟชั่นดีไซน์จบมาจากฝรั่งเศส สิริยาเองก็เต็มใจนำเสนอ แต่กลับถูกเชียรฉายปฏิเสธ
แต่ความสนิทสนมของเขากับสำอาง ยังทำให้ แสน (ณภัทร ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา) ลูกชายกำนันสายที่ทั้งหึง ทั้งแค้น เพราะแสนตามจีบสำอางมานาน แต่สำอางไม่เคยมีใจให้ รายต่อมาคือเปรี้ยว ที่ไม่อยากให้อาคบกับศัตรูของเธอ จึงหันหน้ามาปรองดองกันชั่วคราว เพื่อกำจัดเชียรฉายไปให้พ้นหน้าอีกรายหนึ่งที่แอบเสียใจคือ หมู่ปลิว (รวิช ไรวินทร์) ตำรวจม่ายเมียทิ้ง ที่หวังจะได้สำอางมาเป็นยารักษาแผลใจ แต่เมื่อโดนสารวัตรเชียรฉายที่หมู่ปลิวนับถือมาตัดหน้า ก็เลยได้แต่น้ำตาตกใน
ต่อมาเปรี้ยวหาทางซ่อมสะพานข้ามช่องเขาขาด เส้นทางเก่าแก่ที่ชาวอำเภอปลายดงใช้ติดต่อกับโลกภายนอก ที่กำลังชำรุดทรุดโทรมด้วยตัวเอง โดยติดสินบนแสนว่า ถ้าแสนแอบเอาไม้ของกำนันสายมาให้ซ่อมสะพานได้ เปรี้ยวจะเปิดทางสะดวกให้แสนได้ใกล้ชิดกับสำอาง แสนตกลงทันที โดยที่ไม่รู้ว่าทั้งหมดอยู่ในสายตาของเชียรฉาย จนมาถึงกำหนดส่งมอบไม้เถื่อน ในวันทอดกฐินจากคณะของกรุงเทพฯ เชียรฉายเข้าจับกุมเปรี้ยวไว้ได้พร้อมหลักฐาน ขณะกำลังชุลมุนวุ่นวายอยู่นั้น เปี๊ยกกระโดดหนีลงมาทับหมู่ปลิวจนปืนในมือเกิดลั่นขึ้น ทำให้คนขับตกใจเสียงปืนจนรถแฉลบพลิกคว่ำ เชียรฉายกับหมู่ปลิวต้องรีบเข้าไปช่วยเหลือ เปรี้ยวที่กำลังโดนคุมตัวก็กลับร่วมเสี่ยงตายพร้อมเชียรฉาย เข้าช่วย ชีวิตทุกคนบนรถออกมาได้อย่างหวุดหวิด
ท่านอธิบดีอังศุธร (ตฤณ เศรษฐโชค) กับคุณทิพย์จันทร์ (มัณฑนา หิมะทองคำ) ภรรยา และบุตรสาวทั้งสองคือ แพทย์หญิงแขฉวี (อธิชนัน ศรีเสวก) กับไขลดา (ปาลิตา โกศลศักดิ์) ที่รอดชีวิตมาได้รู้สึกขอบคุณและซาบซึ้งในน้ำใจของสารวัตรเชียรฉายกับเปรี้ยวเป็นอย่างมาก แต่คืนนั้น ท่านอธิบดี กับภรรยาและลูกจำเป็นต้องค้างที่วัดเพราะรถเสียหาย ไขลดามีนิสัยเอาแต่ใจตัวเอง รู้สึกหงุดหงิด ตลอด แต่แขฉวีกลับหลงรักทุกอย่าง เชียรฉายพูดคุยกับแขฉวีอย่างถูกคอ ทั้งสองสนิทกันอย่างรวดเร็ว เมื่อถึงเวลาที่จากกัน เชียรฉายก็ชักมั่นใจว่าแขฉวีคือผู้หญิงแบบที่เขาตามหามานานแสนนาน พร้อมชวนให้แขฉวีสมัครมาเป็นแพทย์ประจำอนามัยอำเภอ
ชาวบ้านต่างพากันดีใจให้การต้อนรับแพทย์หญิงคนใหม่ เปรี้ยวเองเข้ากับหมอแขได้เป็นอย่างดี เปรี้ยวดีใจที่มีหมอมาประจำอำเภอ หมอแขรู้สึกผูกพันเอ็นดูเปรี้ยวเหมือนน้องสาว เชียรฉายขอให้หมอช่วยอบรมเปรี้ยวให้เป็นผู้หญิงเรียบร้อยขึ้นบ้าง ซึ่งตั้งแต่หมอมาอยู่ เชียรฉายดูกระตือรือร้นขึ้น จนชาวบ้านลือกันว่าคงจะมีข่าวดีระหว่างสารวัตรกับคุณหมอในไม่ช้า แต่ทั้งเชียรฉายและเปรี้ยวกลับเริ่มมาคิดทบทวนความรู้สึกตัวเองกันอีกครั้ง
กระทั่งวันหนึ่งเปรี้ยวช่วยพ่อเก็บหน่อไม้อยู่ในป่า พบกำนันสายและเสี่ยเส็งศักดิ์กำลังร่วมมือกันตัดไม้ทำลายป่า เปรี้ยวโกรธแค้นต้องจัดการให้ได้ เปรี้ยวเลยสั่งเปี๊ยกไปเอากล้องและซื้อฟิล์มมา หมอแขฉวีมาตามเปรี้ยวถึงบ้านด้วยความเป็นห่วง แต่เปรี้ยวไม่อยู่ จึงได้มีโอกาสได้พูดคุยกับสำอาง และต่างก็พูดคุยกันถูกคอ จนเมื่ออวนรู้ว่าพ่อแม่ของหมอแขฉวีชื่อ อธิบดีอังศุธร และคุณทิพย์จันทร์ ทั้งอวนและสำอางต่างตกตะลึง อวนบอกให้หมอแขฉวีกลับไป หมอแอบสงสัยคิดว่าอวนรู้จักพ่อแม่ตนในใจ แต่อวน ปฎิเสธและออกปากไล่ จนเชียรฉายมารับหมอกลับบ้าน
คุณทิพย์จันทร์เฝ้านึกถึงแววตาของเปรี้ยวอยู่ตลอดเวลา จนเธอชวนสามีและไขลดา ไปอำเภอปลายดงอีกครั้งอ้างว่าไปเยี่ยมแขฉวี ต่อมาเชียรฉายได้รับซองเอกเป็นรูปคนกำลังตัดไม้ พอจะประมวลได้ว่ามีการตัดไม้ทำลายป่าเกิดขึ้น เชียรฉายมาปรึกษาหมู่ปลิว และคิดว่ารูปนี้อาจเป็นฝีมือของเปรี้ยว แต่เชียรฉายไม่เชื่อว่าเปรี้ยวจะทำสิ่งดี ๆ แบบนี้ เปรี้ยวโมโหที่ได้ยินประโยคนี้ จนไม่ยอมพบหน้าเขาหลายวัน แต่หมู่ปลิวบอกว่าสารวัตรยังรู้จักเปรี้ยวน้อยเกินไป ถึงภายนอกจะดูร้าย แต่เปรี้ยวรักปลายดงมาก ส่วนหมอแขฉวีช่วยง้อและอธิบายเหตุผลจนเปรี้ยวเข้าใจ จึงขอให้เปรี้ยวช่วยพาไปรับพ่อแม่ที่สถานีรถไฟ ท่านอธิบดีและภรรยาแสดงความเอ็นดูเปรี้ยว จนเปรี้ยวรู้สึกอบอุ่นผูกพันกับครอบครัวของหมอแขฉวีอย่างที่ไม่เคยรู้สึกกับใครมาก่อน ในขณะที่ไขลดาหงุดหงิดไม่พอใจไปเสียทุกอย่าง
เมื่อคุณทิพย์จันทร์ รู้ว่าเปรี้ยวเป็นลูกของอวน จึงแวะมาหาที่บ้าน แต่อวนไม่ยอมคุยและไล่ทิพย์จันทร์กลับไป จนสำอางขอให้อวนพูดความจริงและทำสิ่งที่ถูกต้อง แต่อวนไม่ยอม ต่อมาคุณทิพย์จันทร์หาโอกาสปรึกษากับท่านอธิบดีเรื่องเปรี้ยว ท่านอธิบดีร้อนรนจะชิงเอาตัวเปรี้ยวกลับมาให้ได้ ทิพย์จันทร์ห้ามว่าอย่าเพิ่งใช้ความรุนแรง และต้องทำความเข้าใจกับแขฉวี ไขลดา ให้รับความจริงว่าไม่ใช่ลูกแท้ ๆ แต่หมอแขฉวีมาแอบได้ยินเข้า เธอจึงบอกความจริงกับพ่อแม่ว่าได้ยินทุกอย่าง และรู้มานานแล้ว แต่ปัญหาคือ กลัวไขลดาจะรับไม่ได้ และที่สำคัญคือ จะต้องหาวิธีให้นายอวนคืนเปรี้ยวมาให้พ่อแม่โดยเร็ว
หมอแขฉวีไปเจรจาขอร้องให้อวนคืนเปรี้ยวให้พ่อแม่ แต่อวนไม่ยอม สำอางจึงเล่าเรื่องในอดีตให้แขฉวีฟังจนหมดว่า อวนหลงรักคุณทิพย์จนคลั่ง เมื่อคุณทิพย์แต่งงานมีลูก จึงไปขโมยตัวเด็กคือ เปรี้ยวออกมาเพื่อแก้แค้น ทั้ง ๆ ที่คุณทิพย์ไม่รู้เรื่องด้วยเลย สำอางต้องยอมตามมาอยู่ที่ปลายดงเพราะสงสารเปรี้ยว กลัวอวนจะเลี้ยงไม่รอด แขฉวีจึงวางแผนปรึกษาเชียรฉาย เพื่อเอาตัวเปรี้ยวกลับไป
ที่แค้มป์คนงานตัดไม้กลางป่า เปรี้ยวถูกเชียรฉายส่งไปดึงดูดความสนใจคนงานเพื่อถ่วงเวลา ให้กำลังตำรวจบุกโอบล้อมเข้าไปทุกด้าน เปรี้ยวถ่วงเวลาไป รอตำรวจบุกไปจนเกือบจะโดนคนงานบุกเข้ารุมทึ้ง เชียรฉายถึงสั่งบุกเหมือนจะถ่วงเวลาแกล้งกัน ในที่สุด ตำรวจจับกุมคนงานลักลอบตัดไม้ได้เกือบยกแก๊ง แต่คนที่หนีไปได้ คือกำนันสาย และเสี่ยเส็งศักดิ์ หัวโจกตัวร้ายที่สุด
คืนนั้น เปรี้ยวเข้ามาได้ยินสำอางคุยกับอวนขอให้ส่งตัวเปรี้ยวคืนกับพ่แม่แท้ ๆ แต่อวนกับสำอางไม่ตอบเปรี้ยววิ่งหนีออกไปจากบ้าน ส่วนกำนันสาย เสี่ยเส็งศักดิ์ และสิริยาหนีมาหลบซ่อนที่เซฟเฮาส์แห่งหนึ่ง และหวังจะจัดการกับเปรี้ยว เท่านั้นไม่พอยังคิดจะลักพาตัวแขฉวีเพื่อเป็นเครื่องมือต่อรองด้วยซึ่งเมื่อแขฉวี ถูกลากตัวไปขังไว้ที่กระท่อมท้ายไร่ แต่โชคยังดีที่เปรี้ยวชิงตัวหมอออกมาได้ แต่เมื่อกลับมาบ้าน ก็ถูกสารวัตรเชียรฉายที่ยังไม่ทันได้ชี้แจงอะไร ต่อว่าเปรี้ยวอย่างรุนแรง ที่ออกมาเที่ยวนอกบ้าน ทั้จนเปรี้ยวงอนหนีไป แต่ไขลดากลับหายไปอีกคน
ไขลาดถูกพวกของเสี่ยเส็งศักคิ์กับสิริยาคุกคาม ต่อรองให้เชียรฉาย และแขฉวี ทำตามที่ขบวนการค้าไม้เถื่อนต้องการ เชียรฉายวางแผนบุกชิงตัวประกัน แต่ต้องอาศัยเปรี้ยว จึงต้องตามไปง้อขอร้องให้เปรี้ยวช่วย ที่บ้านกำนัน แสนปรึกษากับเปรี้ยวว่าจะล่อให้ลูกน้องกำนันดื่มน้ำผสมยานอนหลับ แล้วให้เปรี้ยวเข้าไปช่วยตัวประกัน ที่เขาช่วยเปรี้ยวเพราะไม่อยากให้พ่อทำผิดมากไปกว่านี้ เปรี้ยวรับปากว่าจะช่วยเชียร์แสนขาดใจ ทั้งคู่จัดการตามแผน เปรี้ยวเข้าไปช่วยไขลดาออกมา แต่เจอกำนันขวางทางและโดนกำนันยิงที่ขา เปรี้ยวดึงให้ไขลดาวิ่งหนีไปทั้งที่ตัวเองถูกยิง จนมาประจันหน้ากับเสี่ยเส็งศักดิ์และสิริยา เปรี้ยวเอาตัวเองบังไขลดา สิริยายุเตี่ยให้ยิงทั้งคู่ ก่อนที่ปืนจะลั่น อวนกระโดดเข้ารับกระสุนแทนตน ก่อนเปรี้ยวจะหมดสติไป... เปรี้ยวฟื้นขึ้นมาในอ้อมอกของคุณทิพย์ สำอางบอกเปรี้ยวว่านี่คือแม่แท้ ๆ ของเปรี้ยว เปรี้ยวถามถึงพ่อ แต่อวนได้ทำหน้าที่ครั้งสุดท้ายของพ่อไปแล้ว เปรี้ยวเสียใจมาก
ที่สถานีรถไฟ สารวัตรเชียรฉาย มาส่งเปรี้ยว พร้อมชาวบ้าน จนรถไฟใกล้จะออก เชียรฉายจึงรวบรวมกำลังใจเข้าไปจับมือบอกเปรี้ยวว่า ให้กลับมาเร็ว ๆ เพราะที่นี่ (แตะที่หัวใจ) คือเขตสัมปทานของไอ้เปรี้ยวแต่เพียงผู้เดียว
กระทั่งหลายเดือนต่อมา สารวัตรเชียรฉายมองสำรวจรอบตลาด ชาวบ้านรีบเร่งปิดร้านหนีอะไรบางอย่าง พ่อแม่รีบดึงลูกเข้าบ้าน ไม่กี่วินาทีตลาดก็เงียบสงัด เชียรฉายรำพึงกับตัวเองว่า อีเปรี้ยวตลาดแตก เสียงเปรี้ยวรับคำดังมาจากข้างหลัง เชียรฉายหันกลับไปเห็นสาวน้อยน่ารักในชุดกระโปรงสวยเก๋สมตัว เชียรฉายตะลึงมองแล้วเดินเข้าไปโอบกอดไว้อย่างหวงแหน เจ้าของสัมปทานหัวใจแต่เพียงผู้เดียวของเขากลับมาแล้ว ชาวบ้านที่หลบอยู่ออกมาไชโยโห่ร้อง ต้อนรับเปรี้ยวกันอย่างครึกครื้น สมกับเป็นการกลับมาของอีเปรี้ยวตลาดแตกที่รักของทุกคน
ที่เปรี้ยวแก่น กร้าวเกินหญิงได้ขนาดนี้ คงจะมาจากการอบรมเลี้ยงดูของ พ่ออวน (เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์) ที่หอบลูกและพาน้องสำอางหลบหนีจากกรุงเทพฯ มากบดานอยู่ในอำเภอปลายดงตั้งแต่ เปรี้ยวยังแบเบาะ อวนไม่คบค้าสมาคมกับใคร แถมยังสอนหนังสือเปรี้ยวด้วยตัวเอง ไม่ยอมให้เปรี้ยวไปโรงเรียน ไม่ให้สังคมกับใคร ทำให้เปรี้ยวมีความหวาดระแวง และโหยหาความรักจากแม่
แต่การทำงานของสารวัตรเชียรฉาย ก็มีอุปสรรคจากผู้ทรงอิทธิพลตัวบ่อนทำลายท้องถิ่นอันดับหนึ่งคือกำนันสาย (โกวิท วัฒนกุล) เจ้าพ่อไม้เถื่อนจอมโหดและ เสี่ยเส็งศักดิ์ (พิพัฒน์พล โกมารทัต) เจ้าของโรงสี โรงเลื่อย นายทุนหน้าเลือดที่ผูกขาดธุรกิจเกือบทั้งอำเภอ ทั้งสองเริ่มต้นแผนด้วยการให้ของกำนัลแพง ๆ แต่เสี่ยเส็งมีแผนลึกซึ้งถึงขั้นจับคู่ให้กับ สิริยา (อภิษฎา เครือคงคา) ลูกสาวคนโปรดที่เพิ่งเรียนแฟชั่นดีไซน์จบมาจากฝรั่งเศส สิริยาเองก็เต็มใจนำเสนอ แต่กลับถูกเชียรฉายปฏิเสธ
แต่ความสนิทสนมของเขากับสำอาง ยังทำให้ แสน (ณภัทร ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา) ลูกชายกำนันสายที่ทั้งหึง ทั้งแค้น เพราะแสนตามจีบสำอางมานาน แต่สำอางไม่เคยมีใจให้ รายต่อมาคือเปรี้ยว ที่ไม่อยากให้อาคบกับศัตรูของเธอ จึงหันหน้ามาปรองดองกันชั่วคราว เพื่อกำจัดเชียรฉายไปให้พ้นหน้าอีกรายหนึ่งที่แอบเสียใจคือ หมู่ปลิว (รวิช ไรวินทร์) ตำรวจม่ายเมียทิ้ง ที่หวังจะได้สำอางมาเป็นยารักษาแผลใจ แต่เมื่อโดนสารวัตรเชียรฉายที่หมู่ปลิวนับถือมาตัดหน้า ก็เลยได้แต่น้ำตาตกใน
ต่อมาเปรี้ยวหาทางซ่อมสะพานข้ามช่องเขาขาด เส้นทางเก่าแก่ที่ชาวอำเภอปลายดงใช้ติดต่อกับโลกภายนอก ที่กำลังชำรุดทรุดโทรมด้วยตัวเอง โดยติดสินบนแสนว่า ถ้าแสนแอบเอาไม้ของกำนันสายมาให้ซ่อมสะพานได้ เปรี้ยวจะเปิดทางสะดวกให้แสนได้ใกล้ชิดกับสำอาง แสนตกลงทันที โดยที่ไม่รู้ว่าทั้งหมดอยู่ในสายตาของเชียรฉาย จนมาถึงกำหนดส่งมอบไม้เถื่อน ในวันทอดกฐินจากคณะของกรุงเทพฯ เชียรฉายเข้าจับกุมเปรี้ยวไว้ได้พร้อมหลักฐาน ขณะกำลังชุลมุนวุ่นวายอยู่นั้น เปี๊ยกกระโดดหนีลงมาทับหมู่ปลิวจนปืนในมือเกิดลั่นขึ้น ทำให้คนขับตกใจเสียงปืนจนรถแฉลบพลิกคว่ำ เชียรฉายกับหมู่ปลิวต้องรีบเข้าไปช่วยเหลือ เปรี้ยวที่กำลังโดนคุมตัวก็กลับร่วมเสี่ยงตายพร้อมเชียรฉาย เข้าช่วย ชีวิตทุกคนบนรถออกมาได้อย่างหวุดหวิด
ท่านอธิบดีอังศุธร (ตฤณ เศรษฐโชค) กับคุณทิพย์จันทร์ (มัณฑนา หิมะทองคำ) ภรรยา และบุตรสาวทั้งสองคือ แพทย์หญิงแขฉวี (อธิชนัน ศรีเสวก) กับไขลดา (ปาลิตา โกศลศักดิ์) ที่รอดชีวิตมาได้รู้สึกขอบคุณและซาบซึ้งในน้ำใจของสารวัตรเชียรฉายกับเปรี้ยวเป็นอย่างมาก แต่คืนนั้น ท่านอธิบดี กับภรรยาและลูกจำเป็นต้องค้างที่วัดเพราะรถเสียหาย ไขลดามีนิสัยเอาแต่ใจตัวเอง รู้สึกหงุดหงิด ตลอด แต่แขฉวีกลับหลงรักทุกอย่าง เชียรฉายพูดคุยกับแขฉวีอย่างถูกคอ ทั้งสองสนิทกันอย่างรวดเร็ว เมื่อถึงเวลาที่จากกัน เชียรฉายก็ชักมั่นใจว่าแขฉวีคือผู้หญิงแบบที่เขาตามหามานานแสนนาน พร้อมชวนให้แขฉวีสมัครมาเป็นแพทย์ประจำอนามัยอำเภอ
ชาวบ้านต่างพากันดีใจให้การต้อนรับแพทย์หญิงคนใหม่ เปรี้ยวเองเข้ากับหมอแขได้เป็นอย่างดี เปรี้ยวดีใจที่มีหมอมาประจำอำเภอ หมอแขรู้สึกผูกพันเอ็นดูเปรี้ยวเหมือนน้องสาว เชียรฉายขอให้หมอช่วยอบรมเปรี้ยวให้เป็นผู้หญิงเรียบร้อยขึ้นบ้าง ซึ่งตั้งแต่หมอมาอยู่ เชียรฉายดูกระตือรือร้นขึ้น จนชาวบ้านลือกันว่าคงจะมีข่าวดีระหว่างสารวัตรกับคุณหมอในไม่ช้า แต่ทั้งเชียรฉายและเปรี้ยวกลับเริ่มมาคิดทบทวนความรู้สึกตัวเองกันอีกครั้ง
กระทั่งวันหนึ่งเปรี้ยวช่วยพ่อเก็บหน่อไม้อยู่ในป่า พบกำนันสายและเสี่ยเส็งศักดิ์กำลังร่วมมือกันตัดไม้ทำลายป่า เปรี้ยวโกรธแค้นต้องจัดการให้ได้ เปรี้ยวเลยสั่งเปี๊ยกไปเอากล้องและซื้อฟิล์มมา หมอแขฉวีมาตามเปรี้ยวถึงบ้านด้วยความเป็นห่วง แต่เปรี้ยวไม่อยู่ จึงได้มีโอกาสได้พูดคุยกับสำอาง และต่างก็พูดคุยกันถูกคอ จนเมื่ออวนรู้ว่าพ่อแม่ของหมอแขฉวีชื่อ อธิบดีอังศุธร และคุณทิพย์จันทร์ ทั้งอวนและสำอางต่างตกตะลึง อวนบอกให้หมอแขฉวีกลับไป หมอแอบสงสัยคิดว่าอวนรู้จักพ่อแม่ตนในใจ แต่อวน ปฎิเสธและออกปากไล่ จนเชียรฉายมารับหมอกลับบ้าน
คุณทิพย์จันทร์เฝ้านึกถึงแววตาของเปรี้ยวอยู่ตลอดเวลา จนเธอชวนสามีและไขลดา ไปอำเภอปลายดงอีกครั้งอ้างว่าไปเยี่ยมแขฉวี ต่อมาเชียรฉายได้รับซองเอกเป็นรูปคนกำลังตัดไม้ พอจะประมวลได้ว่ามีการตัดไม้ทำลายป่าเกิดขึ้น เชียรฉายมาปรึกษาหมู่ปลิว และคิดว่ารูปนี้อาจเป็นฝีมือของเปรี้ยว แต่เชียรฉายไม่เชื่อว่าเปรี้ยวจะทำสิ่งดี ๆ แบบนี้ เปรี้ยวโมโหที่ได้ยินประโยคนี้ จนไม่ยอมพบหน้าเขาหลายวัน แต่หมู่ปลิวบอกว่าสารวัตรยังรู้จักเปรี้ยวน้อยเกินไป ถึงภายนอกจะดูร้าย แต่เปรี้ยวรักปลายดงมาก ส่วนหมอแขฉวีช่วยง้อและอธิบายเหตุผลจนเปรี้ยวเข้าใจ จึงขอให้เปรี้ยวช่วยพาไปรับพ่อแม่ที่สถานีรถไฟ ท่านอธิบดีและภรรยาแสดงความเอ็นดูเปรี้ยว จนเปรี้ยวรู้สึกอบอุ่นผูกพันกับครอบครัวของหมอแขฉวีอย่างที่ไม่เคยรู้สึกกับใครมาก่อน ในขณะที่ไขลดาหงุดหงิดไม่พอใจไปเสียทุกอย่าง
เมื่อคุณทิพย์จันทร์ รู้ว่าเปรี้ยวเป็นลูกของอวน จึงแวะมาหาที่บ้าน แต่อวนไม่ยอมคุยและไล่ทิพย์จันทร์กลับไป จนสำอางขอให้อวนพูดความจริงและทำสิ่งที่ถูกต้อง แต่อวนไม่ยอม ต่อมาคุณทิพย์จันทร์หาโอกาสปรึกษากับท่านอธิบดีเรื่องเปรี้ยว ท่านอธิบดีร้อนรนจะชิงเอาตัวเปรี้ยวกลับมาให้ได้ ทิพย์จันทร์ห้ามว่าอย่าเพิ่งใช้ความรุนแรง และต้องทำความเข้าใจกับแขฉวี ไขลดา ให้รับความจริงว่าไม่ใช่ลูกแท้ ๆ แต่หมอแขฉวีมาแอบได้ยินเข้า เธอจึงบอกความจริงกับพ่อแม่ว่าได้ยินทุกอย่าง และรู้มานานแล้ว แต่ปัญหาคือ กลัวไขลดาจะรับไม่ได้ และที่สำคัญคือ จะต้องหาวิธีให้นายอวนคืนเปรี้ยวมาให้พ่อแม่โดยเร็ว
หมอแขฉวีไปเจรจาขอร้องให้อวนคืนเปรี้ยวให้พ่อแม่ แต่อวนไม่ยอม สำอางจึงเล่าเรื่องในอดีตให้แขฉวีฟังจนหมดว่า อวนหลงรักคุณทิพย์จนคลั่ง เมื่อคุณทิพย์แต่งงานมีลูก จึงไปขโมยตัวเด็กคือ เปรี้ยวออกมาเพื่อแก้แค้น ทั้ง ๆ ที่คุณทิพย์ไม่รู้เรื่องด้วยเลย สำอางต้องยอมตามมาอยู่ที่ปลายดงเพราะสงสารเปรี้ยว กลัวอวนจะเลี้ยงไม่รอด แขฉวีจึงวางแผนปรึกษาเชียรฉาย เพื่อเอาตัวเปรี้ยวกลับไป
ที่แค้มป์คนงานตัดไม้กลางป่า เปรี้ยวถูกเชียรฉายส่งไปดึงดูดความสนใจคนงานเพื่อถ่วงเวลา ให้กำลังตำรวจบุกโอบล้อมเข้าไปทุกด้าน เปรี้ยวถ่วงเวลาไป รอตำรวจบุกไปจนเกือบจะโดนคนงานบุกเข้ารุมทึ้ง เชียรฉายถึงสั่งบุกเหมือนจะถ่วงเวลาแกล้งกัน ในที่สุด ตำรวจจับกุมคนงานลักลอบตัดไม้ได้เกือบยกแก๊ง แต่คนที่หนีไปได้ คือกำนันสาย และเสี่ยเส็งศักดิ์ หัวโจกตัวร้ายที่สุด
คืนนั้น เปรี้ยวเข้ามาได้ยินสำอางคุยกับอวนขอให้ส่งตัวเปรี้ยวคืนกับพ่แม่แท้ ๆ แต่อวนกับสำอางไม่ตอบเปรี้ยววิ่งหนีออกไปจากบ้าน ส่วนกำนันสาย เสี่ยเส็งศักดิ์ และสิริยาหนีมาหลบซ่อนที่เซฟเฮาส์แห่งหนึ่ง และหวังจะจัดการกับเปรี้ยว เท่านั้นไม่พอยังคิดจะลักพาตัวแขฉวีเพื่อเป็นเครื่องมือต่อรองด้วยซึ่งเมื่อแขฉวี ถูกลากตัวไปขังไว้ที่กระท่อมท้ายไร่ แต่โชคยังดีที่เปรี้ยวชิงตัวหมอออกมาได้ แต่เมื่อกลับมาบ้าน ก็ถูกสารวัตรเชียรฉายที่ยังไม่ทันได้ชี้แจงอะไร ต่อว่าเปรี้ยวอย่างรุนแรง ที่ออกมาเที่ยวนอกบ้าน ทั้จนเปรี้ยวงอนหนีไป แต่ไขลดากลับหายไปอีกคน
ไขลาดถูกพวกของเสี่ยเส็งศักคิ์กับสิริยาคุกคาม ต่อรองให้เชียรฉาย และแขฉวี ทำตามที่ขบวนการค้าไม้เถื่อนต้องการ เชียรฉายวางแผนบุกชิงตัวประกัน แต่ต้องอาศัยเปรี้ยว จึงต้องตามไปง้อขอร้องให้เปรี้ยวช่วย ที่บ้านกำนัน แสนปรึกษากับเปรี้ยวว่าจะล่อให้ลูกน้องกำนันดื่มน้ำผสมยานอนหลับ แล้วให้เปรี้ยวเข้าไปช่วยตัวประกัน ที่เขาช่วยเปรี้ยวเพราะไม่อยากให้พ่อทำผิดมากไปกว่านี้ เปรี้ยวรับปากว่าจะช่วยเชียร์แสนขาดใจ ทั้งคู่จัดการตามแผน เปรี้ยวเข้าไปช่วยไขลดาออกมา แต่เจอกำนันขวางทางและโดนกำนันยิงที่ขา เปรี้ยวดึงให้ไขลดาวิ่งหนีไปทั้งที่ตัวเองถูกยิง จนมาประจันหน้ากับเสี่ยเส็งศักดิ์และสิริยา เปรี้ยวเอาตัวเองบังไขลดา สิริยายุเตี่ยให้ยิงทั้งคู่ ก่อนที่ปืนจะลั่น อวนกระโดดเข้ารับกระสุนแทนตน ก่อนเปรี้ยวจะหมดสติไป... เปรี้ยวฟื้นขึ้นมาในอ้อมอกของคุณทิพย์ สำอางบอกเปรี้ยวว่านี่คือแม่แท้ ๆ ของเปรี้ยว เปรี้ยวถามถึงพ่อ แต่อวนได้ทำหน้าที่ครั้งสุดท้ายของพ่อไปแล้ว เปรี้ยวเสียใจมาก
ที่สถานีรถไฟ สารวัตรเชียรฉาย มาส่งเปรี้ยว พร้อมชาวบ้าน จนรถไฟใกล้จะออก เชียรฉายจึงรวบรวมกำลังใจเข้าไปจับมือบอกเปรี้ยวว่า ให้กลับมาเร็ว ๆ เพราะที่นี่ (แตะที่หัวใจ) คือเขตสัมปทานของไอ้เปรี้ยวแต่เพียงผู้เดียว
กระทั่งหลายเดือนต่อมา สารวัตรเชียรฉายมองสำรวจรอบตลาด ชาวบ้านรีบเร่งปิดร้านหนีอะไรบางอย่าง พ่อแม่รีบดึงลูกเข้าบ้าน ไม่กี่วินาทีตลาดก็เงียบสงัด เชียรฉายรำพึงกับตัวเองว่า อีเปรี้ยวตลาดแตก เสียงเปรี้ยวรับคำดังมาจากข้างหลัง เชียรฉายหันกลับไปเห็นสาวน้อยน่ารักในชุดกระโปรงสวยเก๋สมตัว เชียรฉายตะลึงมองแล้วเดินเข้าไปโอบกอดไว้อย่างหวงแหน เจ้าของสัมปทานหัวใจแต่เพียงผู้เดียวของเขากลับมาแล้ว ชาวบ้านที่หลบอยู่ออกมาไชโยโห่ร้อง ต้อนรับเปรี้ยวกันอย่างครึกครื้น สมกับเป็นการกลับมาของอีเปรี้ยวตลาดแตกที่รักของทุกคน