ละคร เขยบ้านนอก

โฉมโสภา ศิริไพบูลย์ (จิตตาภา แจ่มปฐม) หรือ คุณหนู สาวทันสมัยวัย 22 ปี บุตรสาวของ ฯพณฯ สุพจน์ ศิริไพบูลย์ (เศรษฐา ศิระฉายา) รัฐมนตรีกระทรวงสำคัญ กับ คุณหญิงสิรี ศิริไพบูลย์ (ดวงตา ตุงคะมณี) ไฮ โซตัวจริง ซึ่งถูกบิดามารดาส่งไปเรียนอยู่ที่อเมริกาตั้งแต่อายุสิบสอง เดินทางกลับมาเมืองไทยหลังจากจบการศึกษาปริญญาตรีด้านการโรงแรม
เมื่อโฉมโสภากลับมาถึง เธอก็พบว่ามารดา ได้จัดหาชายหนุ่มลูกมหาเศรษฐีหลายต่อหลายคนมาให้เธอเลือก แต่เธอกลับรู้สึกรำคาญชายหนุ่มเหล่านั้น โฉมโสภาจึงถือโอกาสนี้ เดินทางหลบไปพักที่ไร่ของพ่อเธอ ณ อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร โดยมีนายไก๋ (โย่ง เชิญยิ้ม) กับ หนู (ธนิดา กาญจนวัฒน์) ลูกสาว เป็นผู้ดูแลไร่ แล้ววันหนึ่ง เธอก็ได้พบกับสิ่งที่จะเปลี่ยนชีวิตเธอไปทั้งหมด เขาคือ หนุ่มชาวบ้าน หน้าตาคมสัน แต่ออกจะทะลึ่งทะเล้นไปซักนิด ที่ชื่อ นวน (เกียรติกมล ล่าทา)
นายนวน เป็นลูกชายของ ผู้ใหญ่นาค (วรุฒ วรธรรม) ซึ่ง มีที่ไร่อยู่ติดกับไร่ของคุณหญิงสิรี และยังมีที่ริมหาด ที่เปิดเป็นรีสอร์ทเล็กๆ แบบธรรมชาติอีกด้วย แม้ว่านวนจะดูทะลึ่งทะเล้นกับโฉมโสภา แต่สำหรับโฉมโสภา นวนกลับดูเป็นคนจริงใจ และหลายๆ อย่างที่นวนพูดเกี่ยวกับชีวิตและผู้คน ก็ล้วนเป็นความจริง เช่นเดียวกับนวน ที่ไม่ค่อยชอบพวกมั่งมี ร่ำรวยเงินทอง เพราะคนเหล่า นั้นมักเห็นแก่ตัว และชอบดูถูกคนอื่น ทำให้ทั้งคู่เริ่มสนิทกัน จนนวนนึกแอบชอบโฉมโสภาอยู่เหมือนกัน แต่คุณหญิงสิรียังไม่หยุดหาคู่ให้ลูกสาว ยังแอบเชื้อเชิญหนุ่มๆ จากกรุงเทพฯ ให้ตามมาเยี่ยมเยียน ในจำนวนนั้นมี วสุ (วริษฐ์ ทิพโกมุท) เลขานุการหนุ่มของพ่อเธอรวมอยู่ด้วย แต่ก็โดน นวนแอบคอยช่วยเล่นงานซะกระเจิงไปหมด
เรื่องราวความสัมพันธ์ของนวนกับ โฉมโสภารู้ถึงหูคุณหญิงสิรี ทำให้คุณหญิงโกรธมาก จนตัดสินใจจะพาโฉมโสภากลับกรุงเทพฯ แต่โฉมโสภาไม่อยากกลับ จึงแอบหนีมาหานวน และขอให้นวนพาเธอหนีไปอยู่บนภูเขา ที่ซึ่งโฉมโสภา รู้สึกเหมือนได้ปลดปล่อยความทุกข์ทั้งปวง แต่แล้วขากลับเกิดพายุฝนตกหนัก ทั้งสองต้องไปหลบอยู่ในโรงนาร้าง จนตีสอง กลุ่มชาวบ้านและพ่อของโฉมโสภาออกตามหาลูก ผู้ใหญ่นาคโกรธมากตรงเข้ามาตบหน้านวน แม้ว่าโฉมโสภาพยายามห้ามอย่างไรก็ไม่ฟัง โฉมโสภาถูกพากลับบ้าน คุณหญิงสิรีกับพ่อของเธอโกรธลูกมาก และคิดจะเล่นงานนวน แต่โฉมโสภาตัดสินใจบอกกับพ่อแม่ว่า เธอได้เสียกับนวนแล้ว ท่านรัฐมนตรีให้คนไปตามนวนมา แล้วคาดคั้นถามนวน นวนงงและปฏิเสธ เลยถูกลูกน้องท่านรัฐมนตรีซ้อม
โฉมโสภาขอพูดกับนวนตามลำพัง แล้วบอกกับนวนว่าเธอเป็นคนบอกพ่อกับแม่เธอเองว่า ทั้งสองมีอะไรกันแล้ว ส่วนหนึ่งเพื่อช่วยนวน และอีกส่วนหนึ่งเพราะเธออยากสู้กับแม่ของเธอบ้าง โฉมโสภาขอให้ นวนแต่งงานกับเธอ เพื่อดัดนิสัยแม่ของเธอ โดยไม่มีข้อผูกมัดใดๆ ที่สุด นวนจึงยอมแต่งงานด้วย คุณหญิงสิรีโกรธมาก แต่ก็ปล่อยให้ทั้งสองคนแต่งงานกัน
คุณหญิงสิรีแกล้งป่วย เพื่อให้โฉมโสภากลับมาบ้าน แต่ก็ต้องโกรธจี๊ดขึ้นมา เมื่อรู้ว่านวนตามมาอยู่ด้วย แต่เมื่อนวนได้อยู่ใกล้ชิดครอบครัวของโฉมโสภา ก็ยิ่งเห็นพฤติกรรมจอมเผด็จการของคุณหญิงสิรีที่มีต่อโฉมโสภา ถึงขนาดยุให้โฉมโสภาหย่าจากนวน แล้วเธอจะจับโฉมโสภาใส่ตะกร้าล้างน้ำ ให้ไปแต่งงานกับลูกเศรษฐีด้วยกัน นวนรู้สึกสงสารโฉมโสภามาก
แต่ระหว่างอยู่ที่กรุงเทพ นวนมักจะออกจากบ้านโฉมโสภาไปในตอนกลางวัน แล้วกลับบ้านเอาค่ำมืด จนคุณหญิงอดสงสัยไม่ได้ และบังเอิญเห็นนวนอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่ง จึงเอาเรื่องนี้มาเล่าให้โฉมโสภาฟัง โฉมโสภาก็นึกระแวงนวนขึ้นมา ลอบสังเกตพฤติกรรมของนวน แล้วเริ่มแอบตามนวนไป จนได้รู้ว่าหญิงสาวคนนั้นคือ ทรงสม ยุทธนาวา (ชนิสาร์ บังคมเนตร) ลูก สาวของนายพลทหารเรือ ตกค่ำ เมื่อนวนกลับมาบ้าน โฉมโสภาก็เริ่มซักไซ้นวน ทั้งสองเริ่มโต้เถียงกัน แต่เมื่อโฉมโสภาเถียงสู้ไม่ได้ ก็วิ่งออกไปนอกบ้านทั้งๆ ที่ฝนกำลังตกอยู่ นวนตามออกมา ดึงตัวโฉมโสภากลับเข้าบ้าน แล้วยืนยันว่าเขารักโฉมโสภาคนเดียว รักตั้งแต่แรกเห็นที่บ้านไร่ โฉมโสภาพูดไม่ออก แล้วนวนก็ดึงโฉมโสภาเข้ามาจูบ คืนนั้น ทั้งสองตกเป็นของกันและกัน
ต่อมา คุณหญิงก็ดึง หัสดี โอวัฒนา หรือ ลูกแอ๊ด (การิน ศตายุส์) ลูกชายของ นายอุเทน โอวัฒนา (ปกาศิต โบสุวรรณ) มหา เศรษฐีนักธุรกิจหมื่นล้าน ผู้สนับสนุนทุนการเมืองให้กับพ่อของโฉมโสภา ให้เข้ามาจีบโฉมโสภา โดยให้โฉมโสภาไปร่วมในงานเลี้ยงบนเรือของนายอุเทน บนเรือ โฉมโสภาควงคู่ไปกับหัสดี แต่เธอกลับได้เจอ นวนมาร่วมงานพร้อมกับทรงสม ทั้งคู่ทะเลาะกันหนัก จนโฉมโสภาเผลอเอ่ยปากขอหย่า ซึ่งนวนก็ยินดีทำตามที่โฉมโสภาต้องการ แต่ต้องไปหย่าที่ปะทิว แล้วนวนก็เก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋า เดินทางออกจากบ้านโฉมโสภาในคืนนั้นเลย
แต่แล้ววันหนึ่งระหว่างที่โฉมโสภา ไปช้อปปิ้งกับวสุ ก็บังเอิญเจอกับทรงสม ทำให้ทั้งสองได้พูดคุยกัน จนโฉมโสภาได้รู้ว่า นวน จริงๆ แล้วคือ นายคำนวน เหล่าพนา เพื่อนนักศึกษาปริญญาโทของทรงสม และทั้งสองเป็นเพียงแค่เพื่อนเท่านั้น โฉมโสภาเกิดรู้สึกวิงเวียนขึ้นมา จนเป็นลมไป วสุรีบพาโฉมโสภาไปหาหมอ ที่คลีนิค หลังจากหมอได้ตรวจร่างกายของโฉมโสภาเรียบร้อยแล้ว ก็บอกข่าวดีกับเธอว่า โฉมโสภาท้องได้สองเดือนแล้ว เธอสับสนมาก ไม่ยอมบอกเรื่องนี้กับใคร จนกระทั่งคุณหญิงและท่านรัฐมนตรีรู้เรื่องโฉมโสภากำลังตั้งท้อง คุณหญิงเผลอพูดว่าจะเอาเด็กออก ทำให้โฉมโสภาเสียใจมากๆ ยืนยันว่าเธอจะไม่เอาเด็กออก แต่เธอจะไปหย่าขาดจากนวนให้ แล้วถ้าผู้ชายที่แม่หาให้คนไหนพร้อมจะแต่งงานกับม่ายลูกติดอย่างเธอ เธอก็พร้อมจะแต่งด้วย
โฉมโสภากลับมาที่บ้านไร่ ทำให้นวนรู้ว่าโฉมโสภากำลังท้อง นวนดีใจมากๆ เขายืนยันจะไม่ยอมหย่าเด็ดขาด นวนบอกว่าเขารักโฉมโสภามากเพียงใด โฉมโสภาขอร้องว่าถ้ารักเธอจริง ก็ต้องยอมกลับไปอยู่กรุงเทพฯกับเธอ นวนยอมกลับกรุงเทพฯ แต่ขอเช่าบ้านอยู่เอง แต่คุณหญิงยังไม่ยอมลดละ จึงวางแผนใส่ความนวน จนทั้งสองทะเลาะกันอย่างรุนแรงอีกครั้ง ที่สุด โฉมโสภาก็ย้ายกลับไปอยู่กับแม่ของเธอ ที่บ้านคุณหญิง โฉมโสภาใช้ชีวิตอยู่อย่างซังกะตาย ท้องก็เริ่มโตขึ้นทุกวันๆ บรรดาชายหนุ่มที่คุณหญิงพยายามติดต่อให้ พอรู้ว่าโฉมโสภาท้อง ก็พากันตีจาก นายอุเทนก็โกรธมากหาว่าคุณหญิงพยายามจะหลอกลูกชายเขา ถึงกับทะเลาะกันกับท่านรัฐมนตรี
ในที่สุด โฉมโสภาคลอดลูกออกมาเป็นผู้ชาย โดยที่เธอหวังว่านวนจะมาดูลูกของเขา แต่กลับไม่มีใครติดต่อนวนได้เลย จนกระทั่งได้ทราบข่าวจากท่านรัฐมนตรี นวนตรงไปหาโฉมโสภาทันที เขากลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่เมื่อได้เห็นลูกของตน นวนขอร้องโฉมโสภาให้กลับไปอยู่กับเขา เขาสัญญาว่าจะไม่ให้มีเรื่องทำร้ายจิตใจโฉมโสภาอีก แต่ยังไม่ทันที่โฉมโสภาจะตอบอย่างไร คุณหญิงสิรีก็เข้ามาขัดขวางทั้งคู่ และไล่นวนไป กระทั่งโฉมโสภากลับมาบ้านพร้อมกับลูก รัฐมนตรีพยายามพูดให้คุณหญิงเปลี่ยนใจ ให้สามคนลูกเมียเขาได้อยู่ด้วยกัน แต่คุณหญิงก็ไม่ยอม ระหว่างที่ทั้งสองทะเลาะกันอยู่นั่นเอง ตำรวจก็มาที่บ้านคุณหญิง พร้อมกับหมายจับท่านรัฐมนตรี
เนื่องจากรัฐมนตรีสุพจน์ไม่พอใจ นายอุเทน จึงสั่งล้มโครงการประมูลหลายพันล้านที่นาย อุเทนหมายมั่นปั้นมือ นายอุเทนโกรธมาก จึงทำหลักฐานเท็จใส่ความว่า รัฐมนตรีสุพจน์รับสินบนกว่าสามร้อยล้านบาท รัฐมนตรีสุพจน์ต้องลาออกจากตำแหน่ง รอวันพิจารณาคดี คุณหญิงกลุ้มใจมาก เธอรู้ว่าสามีเธอบริสุทธิ์ สาเหตุจริงๆ ก็มาจากการกระทำของเธอนั่นเอง เธอเสียใจจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ แต่แล้ว นวน ก็ปรากฎตัวขึ้น เขาพร้อมจะช่วยรัฐมนตรีสุพจน์ จนศาลสั่งยกฟ้องรัฐมนตรีสุพจน์ พร้อมกับให้จับตัวนายอุเทน ในข้อหาใส่ร้ายผู้อื่น
วันต่อมา ที่รีสอร์ตของผู้ใหญ่นาค โฉมโสภามาหานวน เธอมาขอบใจนวนที่ช่วยพ่อของเธอไว้ พร้อมคุณหญิงสิรีกับท่านรัฐมนตรี คุณหญิงอุ้มลูกของนวนไว้ด้วย คุณหญิงบอกว่าเอาหลานมาให้ เธอรู้แล้วว่า คนอย่าง นายคำนวน เหล่าพนา ต้องเลี้ยงหลานของเธอได้ดีแน่นอน นวนรับลูกมาด้วยความดีใจ พร้อมกับขอโฉมโสภากลับมาด้วย พ่อแม่ลูกสามคนกอดกันกลม ทุกคนที่เห็นภาพนั้นต่างก็ตื้นตันจนอดน้ำตาไหลไม่ได้ หนูพูดทั้งน้ำตาว่า ต่อจากนี้ นายนวนจะได้เป็นหลักเป็นฐาน เลิกทำตัวทะลึ่งเสียที เสียงหัวเราะครืนดังเข้ามา