ละคร/ซีรีส์ แม่ปลาบู่

ดู 712 ครั้ง / แชร์
ละครออกอากาศ วันเสาร์ วันอาทิตย์
ช่องที่ออกอากาศ ละครช่อง 7
เริ่มออกอากาศ 1 มีนาคม 2568
เวลาออกอากาศ 08:00 - 09:00 น.
  
กำกับโดย ภิพัชพนธ์ อภิวรสิทธิ์
ประพันธ์โดย บทประพันธ์ บุราณ, บทโทรทัศน์ แป้นพิม
นำแสดงโดย
สุรศักดิ์ สุวรรณวงษ์ ... เจ้าชายพรหมทัต
เกศรินทร์ น้อยผึ้ง ... เอื้อย, อ้าย
มาฬิศร์ เชยโสภณ ... เศรษฐีภาติกะ
กชกร ส่งแสงเติม ... ขนิษฐา
ชมพูนุท พึ่งผล ... ขนิษฐี
ศุภกร จิเนราวัต ... อึ่ง
ปภาดา ประกอบเสียง ... พระธิดามัลลิกา
เพชรฎี ศรีฤกษ์ ... ท้าวพิไชยทัต
น้ำทิพย์ เสียมทอง ... พระมเหสีแสงจันทร์
ยุวดี เรืองฉาย ... แม่หมอ
ชลมารค ธ เชียงทอง ... แช่ม
เต่า เชิญยิ้ม ... ชม
ศรีนวล ขำอาจ ... ยายสม
นิตยา ปานะถึก ... คุณท้าวเทพทอง
ณัฐมนต์ พันธุ์เพ็ง ... คุณท้าวพิลัย
พงศ์ประยูร ราชอาภัย ... อำมาตย์เพิ่ม
วรวรรธน์ ภูวนัย ... หมื่นพิษณุ
วยุษฏิ์ รินทอง ... หมื่นสนธยา
สุระ มูรธานนท์ ... กำนันมิ่ง
จารุศิริ ภูวนัย ... จำปา
ตูมตาม เชิญยิ้ม ... ปลูก
จรรตรา นวสถาพร ... นางกำนัลเกสร
ปรารถนา ฉิมแก้ว ... นางกำนัลมาลี
กุลปริยา ศรนิล ... จี่
ลักษิกา สมบูรณ์ ... กลิ่น
ชัญญ จรัสวสุท ... พระโอรสพรหมทัต
ปาณิศรา กฤตติกูลภาคิน ... เอื้อย/อ้าย (เด็ก)
ไอย์ฌิฌา กรุดนาค ... พระธิดามัลลิกา (เด็ก)
ชนะพล ศรีพรชัย ... อึ่ง (เด็ก)
ปัณณวัฒน์ เพชรเด็ด ... พระลบ
วรัชศญา ตั้งชัยวรรณา ... จี่ (เด็ก)
นลินรัตน์ หรั่งน้ำทิพย์ ... กลิ่น (เด็ก)
ผู้สร้าง บริษัท สามเศียร จำกัด

ภาพนิ่งจากละคร

เรื่องย่อ แม่ปลาบู่

ในอดีตกาลนานมาแล้ว ชายชราคนหนึ่งในตำบลเมืองพาราณสี มีลูกสาวสองคนชื่อ ขนิษฐา (กชกร ส่งแสงเติม) กับ ขนิษฐี (ชมพูนุท พึ่งผล) ทั้งสองเป็นพี่น้องกัน ซึ่งขนิษฐาผู้เป็นพี่นั้น สวยงามกว่าน้องสาวมากเวลาเดินไปไหนด้วยกันสองคน ผู้ชายก็จะสนใจแต่ขนิษฐา ทำให้ขนิษฐีเกลียดและอิจฉาริษยาพี่สาวของตัวเองเป็นอย่างมาก รวมถึง เศรษฐีภาติกะ (มาฬิศร์ เชยโสภณ)สมัยหนุ่มๆ ก็ตกหลุมรักเข้าอย่างจัง จึงไปสู่ขอขนิษฐามาเป็นภรรยา ขนิษฐีไม่ยอม ออดอ้อนพ่อให้ยกตัวเองเป็นเมียภาติกะด้วยแม้ว่าเศรษฐีจะมีฐานะดี แต่ก็ขี้เหนียวมากเขายังคงทำงานหาเงินลงเรือไปจับปลามาขายด้วยตนเอง ภาติกะหลงใหลตามใจขนิษฐาจนแทบไม่สนใจขนิษฐีเลยความอิจฉาก็ยิ่งก่อตัวมากขึ้นทุกวัน

จนกระทั่งทั้งสองคลอดลูกออกมาไล่เลี่ยกันเศรษฐีตั้งชื่อลูกขนิษฐาว่า เอื้อย และตั้งชื่อลูกขนิษฐีว่า อ้ายนานวันขนิษฐีก็ยิ่งเห็นความต่างที่ตัวเองได้รับ จึงไปพบ แม่หมอ (ยุวดี เรืองฉาย) เพื่อทำเสน่ห์ใส่เศรษฐีภาติกะ แช่ม (ชลมารค ธ เชียงทอง) กับ ชม (เต่า เชิญยิ้ม) บริวารของแม่หมอ บอกว่าเศรษฐีภาติกะซ่อนทองที่เป็นมรดกเอาไว้ แม่หมอผู้โลภมากจึงตกลงร่วมมือกับขนิษฐีและห้ามภาติกะดื่มเหล้าเพื่อป้องกันมนต์เสน่ห์เสื่อมคลายหลังจากนั้นภาติกะเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือคอยตวาดทำร้ายใช้งานทุบตีขนิษฐา ขนิษฐาเสียใจมาก แต่ก็ต้องพยายามปกป้องลูก จนกระทั่ง เอื้อย กับ อ้าย (เกศรินทร์ น้อยผึ้ง) เติบใหญ่ ด้วยความขี้เหนียวของเศรษฐี ทำให้เหล่าข้าทาสบริวารทนไม่ไหว พากันหนีออกมาจากบ้านของเศรษฐี จึงทำให้ขนิษฐา กับเอื้อยถูกใช้งานอย่างหนัก เมื่อใดที่ ขนิษฐาไปจับปลากับภาติกะเอื้อยก็จะโดนรังแก และทุบตี ยังดีที่เอื้อยมี จี่ (กุลปริยา ศรนิล) อึ่ง (ศุภกร จิเนราวัต) กลิ่น (ลักษิกา สมบูรณ์) ที่เป็นเพื่อนคอยช่วยและแก้เผ็ดแทนให้อยู่เสมอ

เคราะห์ซ้ำกรรมซัด วันหนึ่งภาติกะไปจับปลากับขนิษฐาแต่ไม่ว่าจะเหวี่ยงแหไปกี่ครั้ง ก็ได้แต่ปลาบู่ทองที่ตั้งท้องตัวเดียวปล่อยไปก็ยังว่ายกลับมา จนกระทั่งพลบค่ำเศรษฐีภาติกะ ก็ตัดสินใจที่จะเอาปลาบู่ทองที่จับได้เพียงตัวเดียวกลับบ้าน แต่ขนิษฐาเกิดความสงสารปลาบู่ที่ตั้งท้อง ขอให้เศรษฐีปล่อยปลาไปเกิดการยื้อแย่งกันจนเศรษฐีบันดาลโทสะ ฟาดนางขนิษฐาด้วยไม้พายตกน้ำไปขนิษฐาว่ายน้ำไม่เป็น กำลังจมน้ำต่อหน้าภาติกะแต่ด้วยฤทธิ์มนต์ดำทำให้เศรษฐีได้แต่ยืนมองอย่างสะใจได้สติอีกทีกระโดดลงไปตามหาก็ไม่เจอแล้ว เมื่อกลับถึงบ้านเอื้อยถามหาแม่เศรษฐีตอบว่าหนีตามผู้ชายไป เอื้อยไม่เชื่อว่าแม่จะทิ้งไป แต่วันแล้ววันเล่าแม่ก็ไม่เคยกลับมา นับตั้งแต่วันนั้นขนิษฐี กับอ้ายก็กลั่นแกล้งใช้งานเอื้อยเป็นประจำ โดยที่เศรษฐีภาติกะรับรู้ แต่ไม่สนใจ เอื้อยคิดถึงแม่มาก เอื้อยมักไปนั่งร้องไห้อยู่ริมท่าน้ำ ด้วยจิตสุดท้ายของขนิษฐาที่เป็นห่วงทั้งปลาบู่ และลูกสาวจึงได้เกิดมาเป็น ปลาบู่ทอง ขนิษฐาว่ายน้ำมาเรื่อยๆ จนได้มาเจอเอื้อยที่นั่งร้องไห้อยู่ ขนิษฐาจึงพูดกับลูก เอื้อยดีใจมากที่ได้กลับมาได้ยินเสียงแม่อีกครั้งแต่ก็เสียใจมากเช่นกันที่รู้ว่าแม่ได้ตายลงไปแล้ว

ทางฝั่งพระราชวังพาราณสี พระโอรสพรหมทัต (สุรศักดิ์ สุวรรณวงษ์) เบื่อสังคมภายในวังมาก เพื่อนเล่นตอนเด็กก็มีแต่ พระธิดามัลลิกา (ปภาดา ประกอบเสียง)จากเมืองคีรีมาศ ที่พ่อแม่จับคลุมถุงชนเป็นคู่หมั้นกันตั้งแต่เล็กพระโอรสพรหมทัตจึงตัดสินใจแอบออกมาจากวังแต่งตัวเป็นชาวบ้านพร้อมกับผู้ติดตามสองคน เที่ยวเดินเล่นที่ตลาดชุมชนจนถึงวันสงกรานต์ของไทย ชุมชนมีการจัดงานก่อพระเจดีย์ทรายพรหมทัตจึงขอให้ผู้ติดตามพาออกไปเที่ยวเล่น ในขณะที่ทุกคนออกไปเที่ยวกันเอื้อยก็ไปนั่งร้องไห้ระบายให้แม่ฟัง ขนิษฐาอยากช่วยลูกจึงบอกว่าเดี๋ยวจะช่วยดูต้นทางให้ ให้ลูกคอยเล่นอยู่แถวท่าน้ำเอาไว้ถ้าพ่อและแม่เลี้ยงมา จะรีบว่ายไปบอกทันที เอื้อยดีใจมาก จึงรีบวิ่งไปยังงานประจำปีระหว่างทางที่วิ่งมาเอื้อยก็เด็ดดอกไม้สวย ๆ มาด้วย มาถึงก็ก่อเจดีย์ทรายกับเพื่อนๆ ริมท่าน้ำอย่างที่แม่ได้ขอไว้ ประจวบเหมาะกับเจ้าชายพรหมทัต ที่ผู้ติดตามไม่อยากให้ใกล้ชิดกับฝูงชนมากนัก จึงก่อเจดีย์ทรายบริเวณที่เอื้อยและเพื่อนอยู่ เจ้าชายพรหมทัตที่ไม่ได้เตรียมอะไรมา เจดีย์จึงไม่มีอะไรประดับ เอื้อยเห็นแบบนั้นก็นึกสงสาร จึงหันไปแบ่งของตนให้กับเจ้าชาย และช่วยเจ้าชายพรหมทัตก่อเจดีย์จนเสร็จสมบูรณ์เจ้าชายพรหมทัตมองเอื้อยที่ยิ้มสวยงาม อ่อนโยนและใจดี ก็นึกหลงรักตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา