ละคร/ซีรีส์ เพลงพยัคฆ์

เมื่องานคอนเสิร์ตใหญ่ของค่ายเพลงยอดชื่น มิวสิก ประสบความสำเร็จอย่างมาก เพลง (เด่นคุณ งามเนตร) ร้องเพลง ใจท้อบ่เคยถอย เพลงซึ่งเพิ่งแต่งขึ้นมาใหม่ ได้รับการต้อนรับอย่างล้นหลาม ในขณะที่เพลงกำลังจะร้องเพลงต่อไป กลับมีคนร้ายลอบแทงเพลงจนอาการสาหัส

ย้อนกลับไป 6 เดือนก่อน ตอนที่เพลงเพิ่งเรียนจบปริญญาตรีทางด้านสถาปัตย์แล้วกลับมาที่ค่ายยอดชื่น เพลงเห็นทุกคนกำลังแย่ ไม่ว่าจะเป็น ลุงยิ้ม (บุ๋มบิ๋ม สามโทน) กับ น้าจักร (ยะสะกะ ไชยสร) รวมทั้ง บุญโฮม (แซ็ค ชุมแพ) กับ กระติ๊บ (ฮาย ชุติมา) และนักร้องอีกคนอย่าง ธเนศ (สกลรัฐ พันเทศ) เพราะไม่มีงาน ไม่มีเงิน และโดนบริษัทเกรียงไกร เรคคอร์ด เรียกค่าลิขสิทธิ์แพงมาก จึงตัดสินใจไปขอร้อง เกรียงไกร (โกสินทร์ ราชกรม) และ นวลพรรณ (ชนกวนัน รักชีพ) แต่ได้รับการปฏิเสธ ทำให้ แทนรัก (ยิหวา ปรียากานต์) รู้สึกเห็นใจมาก แม้ว่าเธอจะเป็นลูกของเกรียงไกร แต่ก็ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของพ่อ

อีกด้านหนึ่ง พยัคฆ์ (เด่นคุณ งามเนตร) น้องชายฝาแฝดของเพลง ซึ่งอยู่กับ ตาสมภพ (ศานติ สันติเวชกุล) และ ยายอนงค์ (ดารณีนุช ปสุตนาวิน) ที่อเมริกา เป็นนักมวยที่มีชื่อเสียง สองพี่น้องไม่เคยเจอกันมาก่อน เพราะเพลงได้รับการเลี้ยงดูจากลุงยิ้มพี่ชายของพ่อ ตอนแรกลุงยิ้มตัดสินใจจะยุบวง แต่เพลงขอให้สู้ต่อ อย่ายอมแพ้

ลุงยิ้มและน้าจักรพาเพลงไปหาเจ้าหนี้เจ๊เยาวภา เพื่อขอผ่อนผันการจ่ายหนี้สิน ซึ่งเจ๊ยินยอม ทำให้เพลงสบายใจ เริ่มแต่งเพลง ใจท้อบ่เคยถอย และถ่ายมิวสิกวิดีโอ ปล่อยเพลงและร้องเพลงออกรายการ ปรากฏว่าประสบความสำเร็จ แทนรักดีใจด้วย แต่ด้านเกรียงไกร นวลพรรณ และกรภัทร์ (กฤตกานต์ ประสิทธิ์พานิช) ไม่พอใจอย่างมาก หาทางกลั่นแกล้งค่ายยอดชื่นต่างๆ นานา เพลง มีใจรัก แทนรัก ก็เลยแต่งเพลง อยากฮักให้โดนโดน เพื่อเป็นการสารภาพรัก แต่ยังไม่มีโอกาสร้องให้แทนรักฟัง

ขณะเดียวกันแทนรักโดนนวลพรรณ แม่เลี้ยงไล่ออกจากบริษัท ไม่ให้เข้าบ้านเพราะไปรู้ว่าแทนรักช่วยเพลงเรื่องซื้อลิขสิทธิ์เพลงจากคู่แข่งเพื่อไปร้องในงานคอนเสิร์ตของตัวเอง ด้านเพลงเปิดตัวเพลง อยากฮักให้โดนโดน แฟนคลับแห่มาเชียร์มากมาย ยอดวิวขึ้นสูงมาก เพลงรีบโทรศัพท์ไปหาแทนรัก แต่นวลพรรณรับสาย บอกว่าไล่แทนรักออกไปแล้ว เพลงเป็นห่วงแทนรักมาก ออกตามหาแทนรักไปทุกแห่ง เพลงหาแทนรักจนเจอ พากลับไปที่ค่ายยอดชื่น แต่ไม่มีใครยอมให้แทนรักอยู่ด้วยเพราะเห็นว่าเป็นลูกของเกรียงไกร ซึ่งเป็นเหมือนศัตรู สุดท้ายไปขอพักกับ น้านารี (อัญชิสา เลี่ยวไพโรจน์) แม่ครัวของค่ายเพลง ส่วนเพลงไปคุยกับลุงยิ้ม ขอร้องให้ลุงยิ้มรับแทนรักให้อยู่ด้วยและทำงานเป็นพีอาร์ของค่ายเพลง เพลงเกลี้ยกล่อมจนลุงยิ้มใจอ่อน เพลงของเพลงดังขึ้นเรื่อยๆ ทำให้กรภัทร์หมั่นไส้ จ้างคนไปทำร้ายเพลงอีก ทำให้ทั้งเพลงและแทนรักบาดเจ็บแต่ไม่เป็นอะไรมาก

ขณะเดียวกันพยัคฆ์ ฝาแฝดเพลง โทรมาหาเพลงเพราะอยากให้เห็นหน้ากัน เพลงยอมเปิดโทรศัพท์ให้เห็นหน้ากันและกัน ต่างคนต่างแปลกใจที่มีใบหน้าเหมือนกัน ลุงยิ้ม สมภพ และอนงค์ จึงยอมเล่าเรื่องอดีตให้เพลงและพยัคฆ์ฟัง ยอมรับว่าทั้งคู่เป็นพี่น้องฝาแฝดกัน โดยในอดีตแบ่งหลานไปเลี้ยงกันฝ่ายละคน โดยตายายเอาพยัคฆ์ไปเลี้ยง ส่วนลุงยิ้มเอาเพลงไปเลี้ยง

ด้านเพลงประสบความสำเร็จมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้กรภัทร์ไม่พอใจมาก จ้างคนไปทำร้ายเพลงกลางงานคอนเสิร์ตใหญ่ โดนแทงที่ขาจนบาดเจ็บ เพลงได้รับการผ่าตัดเรียบร้อยปลอดภัย แต่ขาที่ถูกแทงยังไม่สามารถเดินได้ ต้องใช้เวลารักษาพอสมควร ด้านสมภพ อนงค์ และพยัคฆ์ รีบเดินทางกลับมาเมืองไทยด้วยความเป็นห่วงเพลง สองพี่น้องฝาแฝดได้เจอกันแล้ว แต่แล้วคนของกรภัทร์ก็ไปลอบฆ่าเพลงอีก แต่ดีที่พยัคฆ์มาช่วยได้ทัน

พยัคฆ์อยากช่วยพี่ชาย จับตัวผู้ร้ายและคนบงการที่จ้างฆ่าเพลง จึงยอมปลอมตัวเป็นเพลง โดยพยัคฆ์ปลอมตัวเป็นเพลงแถลงข่าวกับสื่อมวลชน ทำให้ทุกคนแปลกใจที่เพลงไม่ได้เป็นอะไรมาก ทำให้กรภัทร์เรียกคนไปฆ่าเพลงอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้พยัคฆ์สามารถสู้และจับตัวคนร้ายได้ ทำให้ทุกคนแปลกใจที่เพลงบู๊เก่ง แทนรักก็แปลกใจเหมือนกัน แต่ก็ดีใจที่เพลงแข็งแรง ไม่เป็นอะไรมาก เมื่อกรภัทร์รู้เรื่องคนร้ายถูกตำรวจจับตัวได้ ก็ตกใจมาก กลัวจะโดนซัดทอด ปรึกษากับนวลพรรณ ทำให้นวลพรรณบังคับให้เกรียงไกรจัดการปิดปากมือปืน ด้านเพลงขอร้องให้พยัคฆ์ปลอมตัวเป็นเพลงกลับค่ายยอดชื่น เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน แต่พยัคฆ์รู้สึกหนักใจ เพราะร้องเพลงไม่เป็น และตัวตนจริง ๆ ไม่เหมือนเพลงเลย กลัวจะโดนจับได้

เสี่ยบวร (ต่อตระกูล จันทิมา) และ แขไข (ศรัณยา จำปาทิพย์) ไปบริษัทเกรียงไกร เรคคอร์ด ขอยกเลิกคอนเสิร์ตที่จองไว้ทั้งหมด โดยเฉพาะของกรภัทร์ เพราะเรื่องคดีที่เพลงโดนยิง มีข้อสงสัยว่ากรภัทร์อาจจะเกี่ยวข้องด้วย ส่วนพยัคฆ์เจอกับแทนรัก ก็หมั่นไส้ มีอคติที่เป็นลูกของเกรียงไกรคอยใช้งานแทนรักสารพัด และยังพูดจาไม่ดีกับแทนรักจนแทนรักแปลกใจกับความเปลี่ยนแปลงของเพลง โดยคนในค่ายยอดชื่นก็แปลกใจกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของเพลงเช่นกัน การบาดเจ็บของเพลงต้องใช้เวลาในการรักษา ขณะที่พยัคฆ์เองร้องเพลงแทบไม่ได้จะต้องปลอมตัวเป็นเพลงเพื่อแก้ปัญหาการรับงานของวงยอดชื่น