ละคร นรสิงห์
ดู 1,847 ครั้ง /
แชร์
ละครออกอากาศ | วันจันทร์ วันอังคาร วันพุธ วันพฤหัส วันศุกร์ | |||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ช่องที่ออกอากาศ | ละครช่อง 3 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
เริ่มออกอากาศ | 6 กรกฎาคม 2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
เวลาออกอากาศ | 19:00 - 20:00 น. |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
กำกับโดย | จักร์กริช วัฒนวีร์, ปริญญ์ วัฒนวีร์ | |||||||||||||||||||||||||||||||||
ประพันธ์โดย | บทประพันธ์ แมนยู, บทโทรทัศน์ รังนิค, จักร์กริช วัฒนวีร์, ปริญญ์ วัฒนวีร์ | |||||||||||||||||||||||||||||||||
นำแสดงโดย | ||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
ภาพนิ่งจากละคร
เรื่องย่อ นรสิงห์
เรื่องราวของ ลักษมี (ศรัณยา จําปาทิพย์) นักข่าวไฟแรงตามหา รตี(ฉัตรฑริกา สิทธิพรม) นักโบราณคดีเพื่อนของเธอที่อยู่ในกลุ่มค้นหาสมบัติโบราณโดยมี อุรเคน (นริศสันต์ โลกวิทย์) เศรษฐีทุนสีเทาเป็นผู้อุดหนุนค่าใช้จ่ายรตีพบสลักประตูโลกันต์ที่ใช้ผนึกอสูรร้ายที่ถูกกักขังหลังประตูโลกันต์ด้วยความโลภของ อุรเคน จึงใช้สลักความโลภปลดปล่อย จอมอสูรศิปุ (วิศรุต หิรัญบุศย์) ตนแรกออกมาและร่วมมือกันเพื่อครองโลก ในขณะที่รตีสูญหายไปพร้อมกับสลักประตูอีกสองอันที่เหลือลักษมีตัดสินใจตามสืบเรื่องนี้กับ บูชา(ธวัชนินทร์ ดารายน) เพื่อนร่วมงานของเธอโดยสะกดรอยอุรเคนเจ้าพ่อค้าวัตถุโบราณและสิ่งผิดกฎหมายที่เธอเชื่อว่าน่าจะเป็นผู้อยู่เบื้อง หลังการหายตัวไปของคณะสำรวจโดยหารู้ไม่ว่าแท้จริงเขาคือพญานาคนอกแถวจอมละโมบที่ถูกเผ่าพันธุ์เดียวกันขับไล่จนต้องหนีตายขึ้นมาอยู่ที่โลกมนุษย์
ขณะเดียวกันก็มี วราหะ (ศรุต นวประดิษฐกุล) ตำรวจจากหน่วยกองปราบพิเศษที่ความจริงเขาคือขุนพลผู้พิชิตอสูรศากยะ (พิเชษฐ์ เปรียบยอดยิ่ง) เข้าดูแลคดีนี้ด้วย และยังเป็นคนรักของเธอด้วยความเป็นห่วงจึงไม่อยากให้ลักษมีไปยุ่งกับคดีนี้แต่ลักษมีก็แอบสืบเองอย่างลับๆแต่ยิ่งสืบไปก็ยิ่งพบว่าคดีนี้เกี่ยวข้องกับอดีตอันพิศวงของเธอเองตกกลางคืนลักษมีมักฝันเห็น นรสิงห์ (วีรคณิศร์ กานต์วัฒนกุล) และตัวเธอที่เป็นเทพลักษมีกำลังต่อสู้กับอสูรร้ายศิปุลักษมีแอบไปหาหลักฐานในพิพิธภัณฑ์ที่ได้ยึดวัตถุโบราณจากคณะสำรวจของอุรเคนมาเป็นของกลาง จนไปพบกับรูปปั้นนรสิงห์อุรเคนและศิปุตามมาสังหารเธอจนเกิดอุบัติเหตุเลือดของลักษมีหยดลงไปบนรูปปั้นนรสิงห์และได้ปลดปล่อยนรสิงห์ออกมาจากการจองจำภายในรูปปั้น และได้ช่วยลักษมีไว้ได้ทันเวลา
แต่เมื่อวราหะมาพบ กลับคิดว่านรสิงห์จะทำร้ายลักษมีทั้งคู่เข้าต่อสู้กันซึ่งความจริงแล้วทั้งคู่ต่างเป็นขุนพลเทวะที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อต่อสู้กับอสูรและร่วมรบกับลักษมีเทพเพื่อปกป้องโลกมนุษย์และต่างตกหลุมรักนางทั้งคู่ แต่ศึกครั้งสุดท้าย ทุกคนเข้าใจว่านรสิงห์ทำให้ลักษมีเสียความทรงจำความเป็นเทพแต่ร่างของนางยังคงเป็นอมตะ และนางต้องวนเวียนอยู่ในโลกมนุษย์โดยอยู่ในความดูแลของ อุมา (พริมรตา เดชอุดม)เทพทรงอำนาจที่แฝงตัวในคราบ ผอ. สำนักข่าวพีเพิลนิวส์ โดยมี สุบรรณ (เกียรติกมล ล่าทา) พญาครุฑหัวหน้าแผนกข่าว และ อิศร (ศิฏวศิลป์ กบิลชลธิศ) เทพนักปราชญ์ในร่างเด็กที่ถูกส่งมาให้เป็นน้องชายจอมซนของลักษมี ทั้งหมดนี้ต้องร่วมมือกันตามหาสลักสองอันที่หายไป นั่นคือสลักแห่งความรักที่ใช้ปลดปล่อยมารกามเทพ (กฤตกานต์ ประสิทธิ์พานิช) ผู้มีศรกามเทพเป็นอาวุธ และสลักความโกรธที่ใช้ปลดปล่อย อสูรพันหน้า (ภาสกร เครือโสภณ) ที่ไม่มีผู้ใดเคยเห็นหน้าเพราะทวยเทพและอสูรต่างถูกมันสังหารหากได้เห็นแม้เงา เหล่าทวยเทพต้องช่วยกันยับยั้งก่อนที่พวกมันจะออกมาทำลายล้างทั้งสามโลกอีกครั้ง
ขณะเดียวกันก็มี วราหะ (ศรุต นวประดิษฐกุล) ตำรวจจากหน่วยกองปราบพิเศษที่ความจริงเขาคือขุนพลผู้พิชิตอสูรศากยะ (พิเชษฐ์ เปรียบยอดยิ่ง) เข้าดูแลคดีนี้ด้วย และยังเป็นคนรักของเธอด้วยความเป็นห่วงจึงไม่อยากให้ลักษมีไปยุ่งกับคดีนี้แต่ลักษมีก็แอบสืบเองอย่างลับๆแต่ยิ่งสืบไปก็ยิ่งพบว่าคดีนี้เกี่ยวข้องกับอดีตอันพิศวงของเธอเองตกกลางคืนลักษมีมักฝันเห็น นรสิงห์ (วีรคณิศร์ กานต์วัฒนกุล) และตัวเธอที่เป็นเทพลักษมีกำลังต่อสู้กับอสูรร้ายศิปุลักษมีแอบไปหาหลักฐานในพิพิธภัณฑ์ที่ได้ยึดวัตถุโบราณจากคณะสำรวจของอุรเคนมาเป็นของกลาง จนไปพบกับรูปปั้นนรสิงห์อุรเคนและศิปุตามมาสังหารเธอจนเกิดอุบัติเหตุเลือดของลักษมีหยดลงไปบนรูปปั้นนรสิงห์และได้ปลดปล่อยนรสิงห์ออกมาจากการจองจำภายในรูปปั้น และได้ช่วยลักษมีไว้ได้ทันเวลา
แต่เมื่อวราหะมาพบ กลับคิดว่านรสิงห์จะทำร้ายลักษมีทั้งคู่เข้าต่อสู้กันซึ่งความจริงแล้วทั้งคู่ต่างเป็นขุนพลเทวะที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อต่อสู้กับอสูรและร่วมรบกับลักษมีเทพเพื่อปกป้องโลกมนุษย์และต่างตกหลุมรักนางทั้งคู่ แต่ศึกครั้งสุดท้าย ทุกคนเข้าใจว่านรสิงห์ทำให้ลักษมีเสียความทรงจำความเป็นเทพแต่ร่างของนางยังคงเป็นอมตะ และนางต้องวนเวียนอยู่ในโลกมนุษย์โดยอยู่ในความดูแลของ อุมา (พริมรตา เดชอุดม)เทพทรงอำนาจที่แฝงตัวในคราบ ผอ. สำนักข่าวพีเพิลนิวส์ โดยมี สุบรรณ (เกียรติกมล ล่าทา) พญาครุฑหัวหน้าแผนกข่าว และ อิศร (ศิฏวศิลป์ กบิลชลธิศ) เทพนักปราชญ์ในร่างเด็กที่ถูกส่งมาให้เป็นน้องชายจอมซนของลักษมี ทั้งหมดนี้ต้องร่วมมือกันตามหาสลักสองอันที่หายไป นั่นคือสลักแห่งความรักที่ใช้ปลดปล่อยมารกามเทพ (กฤตกานต์ ประสิทธิ์พานิช) ผู้มีศรกามเทพเป็นอาวุธ และสลักความโกรธที่ใช้ปลดปล่อย อสูรพันหน้า (ภาสกร เครือโสภณ) ที่ไม่มีผู้ใดเคยเห็นหน้าเพราะทวยเทพและอสูรต่างถูกมันสังหารหากได้เห็นแม้เงา เหล่าทวยเทพต้องช่วยกันยับยั้งก่อนที่พวกมันจะออกมาทำลายล้างทั้งสามโลกอีกครั้ง