ละคร วงศาคณาญาติ

ดู 1,437 ครั้ง / แชร์
ละครออกอากาศ วันเสาร์ วันอาทิตย์
ช่องที่ออกอากาศ ละครช่อง Amarin TV
เริ่มออกอากาศ 6 พฤษภาคม 2566
เวลาออกอากาศ 21:30 - 22:30 น.
  
กำกับโดย เอกสิทธิ์ ตระกูลเกษมสุข
ประพันธ์โดย บทประพันธ์ ว.วินิจฉัยกุล, บทโทรทัศน์ เสน่ห์จันทร์
นำแสดงโดย
มนชนก แสงฉายเพียงเพ็ญ ... พริม / พามิลา
พงศ์ทิวัตถ์ ตั้งวันเจริญ ... อารัณย์
นีรนุช ปัทมสูต ... คุณหญิงสายสวาท
สุประวัติ ปัทมสูต ... คุณปู่เรือง
รัดเกล้า อามระดิษ ... ป้าใหญ่
ณัฐนันท์ คุณวัฒน์ ... ทะนง
ดอม เหตระกูล ... พงศ์
ชนกวนันท์ รักชีพ ... ลักขณา
ลภัสรดา ช่วยเกื้อ ... อานิ่ม
ศุภกรณ์ กิจสุวรรณ ... ฉลอง
อริศรา วงษ์ชาลี ... อาเนียน
วรรธนะ กัมทรทิพย์ ... ธนพล
ณิชาภัทร ฉัตรชัยพลรัตน์ ... น้ำตาล
เหมวิช ขวัญอำไพพันธุ์ ... โจ้ / อติรูป
ณิชภาลักษณ์ ทองคำ ... เจื้อย
ศรัณย์ภัทร์ พีเดอร์เซน ... โสมอุษา
อัครวุฒิ มังคลสุต ... ป๊อด
พรพิพัฒน์ พัฒนเศรษฐานนท์ ... แป๊ด
พันธุ์ธัช กันคำ ... พอล
พรปวีณ์ อุปถัมภ์ ... ซูซาน
ผู้สร้าง บริษัท เช้นจ์2561 จำกัด

ภาพนิ่งจากละคร

เรื่องย่อ วงศาคณาญาติ

คุณปู่เรือง (สุประวัติ ปัทมสูต) เสียชีวิตจากอาการโรคหัวใจกำเริบจนเกิดอุบัติเหตุตกบันไดทำให้ คุณหญิงย่าสายสวาท (นีรนุช ปัทมสูต) ผู้เป็นภรรยา กลายเป็นผู้กุมอำนาจ ธุรกิจการศึกษาระดับหมื่นล้านของตระกูล ปาณบดี ที่มีทั้งโรงเรียนเตรียมอนุบาล โรงเรียนประถม โรงเรียนมัธยม และมหาวิทยาลัย โดยคุณปู่มีปณิธานว่า การศึกษาตั้งแต่อนุบาลจนถึงระดับมหาวิทยาลัยมีความสำคัญเท่าๆ กันเด็กจะเติบโตเป็นอย่างไร ไม่ได้อยู่แต่ที่ครอบครัว แต่อยู่ที่การศึกษาตั้งแต่ระดับต่ำสุดไปจนถึงสูงสุด ที่จะปั้นคนให้ออกมาสวยงามหรือบูดเบี้ยว ตระกูลปาณบดีมีลูกทั้ง 4 คนช่วยกันดูแลกันอย่างสามัคคี ไม่เคยมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งให้สังคมเห็น จนคนชื่นชมคุณหญิงย่าว่าเลี้ยงลูกมาดีและช่างโชคดีที่มีครอบครัวที่รักกันเหนียวแน่นเช่นนี้โดยไม่มีใครรู้ว่าต่อหน้าสังคมและลับหลังสังคมนั้นต่างกันเหมือนสวรรค์กับนรก เมื่อคุณปู่เสียและได้ทำพินัยกรรมไว้โดยพินัยกรรมได้ถูกส่งไปยังอีเมลของลูกแต่ละคนระบุข้อตกลงที่ลูกหลานในตระกูลทุกคนต้องทำตาม ถ้าไม่ทำทุกคนจะต้องถูกยึดอำนาจทางธุรกิจของตระกูล และถูกไล่ออกจากตระกูล และหลังจากที่ทุกคนได้อ่านอีเมลพินัยกรรม ต่างอุทานเหมือนกันว่า อะไรวะเนี่ย

พงศ์ (ดอม เหตระกูล) ลูกชายคนเดียวของคุณหญิงย่าผู้ซึ่งถูกวางอนาคตคือผู้สืบทอดตระกูลถูกระบุข้อตกลงในการได้มรดกคือเรื่องการแต่งงานของลูกชายและลูกสาวของพงศ์ว่าจะต้องแต่งงานกับญาติพี่น้องในตระกูลเท่านั้นโดย พริม หรือ พามิลา (มนชนก แสงฉายเพียงเพ็ญ) ลูกสาวคนโตของพงศ์และ ลักขณา (ชนกวนันท์ รักชีพ) ต้องแต่งงานกับ อติรูป หรือ โจ้ (เหมวิช ขวัญอำไพพันธุ์) ลูกชายคนโตของ ป้าใหญ่ (รัดเกล้า อามระดิษ) ซึ่งมีศักดิ์เป็นลูกพี่น้องกับเธอ แต่ทันทีทีพริมรู้เรื่องและกลับมาจากอังกฤษเธอก็ประกาศกับทุกคนในครอบครัวว่าไม่สามารถแต่งงานกับโจ้ได้เพราะเธอแต่งงานกับ อารัณย์ (พงศ์ทิวัตถ์ ตั้งวันเจริญ) แฟนเธอที่คบกันตั้งแต่อยู่ที่อังกฤษพงศ์โกรธพริมมากที่แต่งงานโดยไม่ยอมบอกใครพงศ์บังคับให้พริมหย่ากับอารัณย์และแต่งงานกับโจ้เพราะไม่อยากที่จะเสียอำนาจในการเป็นผู้บริหารฝ่ายมหาวิทยาลัยของตระกูลพริมไม่ยอมและตั้งใจจะคัดค้านความคิดบ้งๆ ที่ต้องการให้คนในตระกูลแต่งงานกันเพื่อไม่ให้เงินทองรั่วไหลซึ่งข้อตกลงนี้ไม่ใช่เธอคนเดียวที่ถูกบังคับ พอล (พันธุ์ธัช กันคำ) น้องชายแท้ๆ ของเธอก็ถูกบังคับให้แต่งงานกับ น้ำตาล (ณิชาภัทร ฉัตรชัยพลรัตน์) ลูกสาวของ อานิ่ม (ลภัสรดา ช่วยเกื้อ) แต่พอลหนีออกจากบ้านไปกับ ซูซาน (พรปวีณ์ อุปถัมภ์) คนรักของพอล พริมจึงเป็นความหวังของพงศ์และลักขณาที่ต้องทำตามพินัยกรรมให้ได้

ด้านป้าใหญ่นอกจากข้อตกลงเรื่องที่โจ้ต้องแต่งงานแล้ว ยังมีข้อตกลงในพินัยกรรมในอีเมล์ที่สั่งให้ป้าใหญ่เลิกกับ ทะนง (ณัฐนันท์ คุณวัฒน์) สามีของเธอ ซึ่งทะนงไม่ได้มีต้นตระกูลร่ำรวยแต่ที่ได้แต่งงานเพราะเมื่อก่อนเป็นดาราดังสามารถช่วยเหลือต่อยอดการเป็นพรีเซนเตอร์และชักนำแฟนคลับที่แต่งงานมีลูกส่งลูกมาเรียนในโรงเรียนมัธยมที่ป้าใหญ่เป็นผู้ดูแลแต่ปัจจุบันทะนงเป็นแค่ดาราเก่าๆ ที่ไม่มีใครสนใจจึงเริ่มไม่อยู่ในสายตาของใคร แม้ป้าใหญ่จึงคิดว่าสิ่งเดียวที่เธอจะรั้งอำนาจเอาไว้ได้คือต้องให้โจ้แต่งงานกับพริม และหวังว่าอนาคตพริมจะได้เป็นทายาทต่อจากพงศ์ ป้าใหญ่จึงจะสามารถฮุบทุกอย่างมาเป็นของเธอ ส่วน เจื้อย (ณิชภาลักษณ์ ทองคำ) ลูกสาวคนเล็กของป้าใหญ่เสนอข้อตกลงจะช่วยเป็นมือที่สามที่จะทำให้พริมเลิกกับอารัณย์และไล่อารัณย์ออกไป โดยป้าใหญ่ต้องให้เงินเดือนเจื้อยมากกว่าเดิม 5 เท่าและต้องไม่บังคับให้เธอทำงาน เพราะเจื้อยถูกเลี้ยงมาด้วยเงินจึงเห็นความสำคัญของเงินมากที่สุด

ส่วน อานิ่ม ลูกสาวคนที่สามของตระกูล ดูแลกิจการโรงเรียนประถมอานิ่มมีลูกชาย 2 คน คือ ป๊อด (อัครวุฒิ มังคลสุต) และ แป๊ด (พรพิพัฒน์ พัฒนเศรษฐานนท์) ส่วนสามี ฉลอง (ศุภกรณ์ กิจสุวรรณ) อดีตรัฐมนตรีการคลังได้ละทางโลกไปบวชเป็นเจ้าอาวาสตลอดชีวิตนั้นเพราะทนกับการถูกอาเนียนชี้นิ้วสั่งและบงการชีวิตตัวเองไม่ไหวอานิ่มเลี้ยงลูกทั้งสองเหมือนไข่ในหิน ควบคุมจัดการทุกอย่างเพื่อไม่ให้เสียลูกทั้งสองเหมือนที่เสียสามีไปแต่หารู้ไม่ว่าสิ่งที่ทำกับลูกๆเพราะคิดว่าจะควบคุมลูกชายทั้งสองได้กลับไม่เป็นอย่างที่คิด เพราะป๊อดก็หนีเข้าวัดบวชตามพ่อ ส่วน แป๊ด ที่มีรสนิยมทางเพศไม่เป็นไปตามที่เธอหวัง อาเนียน (อริศรา วงษ์ชาลี) ลูกสาวคนเล็กของคุณหญิงย่า ซึ่งเป็นลูกที่ถูกลืมก็ได้แค่ดูแลกิจการของตระกูลเพียงโรงเรียนเตรียมอนุบาลเล็กๆ ซึ่งในชีวิตของอาเนียนที่อยู่ในตระกูลนี้ก็แทบไม่เคยมีอำนาจอะไรอยู่แล้วและพินัยกรรมก็ยังไม่ระบุข้อตกลงอะไรให้เธอสามารถชิงอำนาจมาได้อาเนียนจึงเกลียดทุกคนในบ้าน โดยเฉพาะป้าใหญ่ที่แย่งทะนงคนรักของเธอไปแต่งงาน

อาเนียนเสียใจมากเอาแต่เที่ยวงานเลี้ยงจนพลาดท้องกับ ธนพล (วรรธนะ กัมทรทิพย์) จนมีน้ำตาล และตอนนี้ธนพลก็ยังติดคุกเพราะขับรถชนคนตายอาเนียนเกลียดน้ำตาลมากไม่เคยที่จะรักและดูแลคุณหญิงย่าสั่งให้ทุกคนทำตามพินัยกรรมและถ้าใครไม่ทำก็จะตัดออกจากตระกูลและจะไม่ได้เงินเลยสักบาทโดยเฉพาะข้อตกลงเรื่องพริมและโจ้เพราะคุณหญิงย่าต้องการให้โจ้มาใช้นามสกุลพริม เพื่อสืบสกุลปาณบดีและธุรกิจของตระกูลจะได้ไม่ตกไปอยู่ในมือคนนอกแต่พริมยืนยันว่าเธอจะไม่ทำตาม เพราะความเป็นผู้หญิงยุคใหม่มองว่าชายหญิงเท่าเทียมกันถึงพริมจะแต่งงานกับคนนอกพริมก็ดูแลธุรกิจทุกอย่างของตระกูลได้ และลึกๆ แล้วพริมยังรู้สึกว่าพินัยกรรมของคุณปู่มีอะไรไม่ชอบมาพากลเธอคิดว่าพินัยกรรมอันนี้อาจจะไม่ใช่ของจริงที่คุณปู่ทำอารัณย์กับพริมย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านพริมนั้นทั้งโกรธและหงุดหงิดกับข้อตกลงทุกข้อในพินัยกรรมซึ่งเธอรู้สึกว่ามันดูแปลก

พริมไม่เชื่อว่าคุณปู่จะทำพินัยกรรมแบบนี้จริง จึงคิดว่าต้องหาทางพิสูจน์เรื่องนี้ให้ได้ และย้ำกับอารัณย์ว่าต้องช่วยด้วย เพราะทันทีที่พริมแก้ปัญหาบ้าๆ ทุกอย่างนี้จบลง เรื่องการแต่งงานระหว่างเธอกับอารัณย์ก็จะได้เป็นอิสระจากกัน เพราะความจริงแล้วทั้งคู่ไม่ได้แต่งงานกันเพราะรักแต่แต่งงานกันเพื่อหลอกคนในตระกูลอารัณย์เป็นแค่เพื่อนสนิทที่พริมขอร้องให้มาช่วยเป็นสามีปลอมๆ ของเธอพริมและอารัณย์ได้รู้จักกันตอนอยู่ที่อังกฤษตั้งแต่ตอนที่พริมเพิ่งไปเรียนต่อมหาวิทยาลัยและได้ไปเจออารัณย์ที่จัดนิทรรศการภาพถ่ายฝีมือตัวเอง ด้วยความที่ทั้งสองเป็นคนไทยจึงกลายเป็นเพื่อนกันและทั้งสองคนมีนิสัยและความคิดตรงๆ เหมือนกัน พริมรับรู้ประวัติชีวิตครอบครัวอารัณย์ที่พ่อแม่เสียตั้งแต่เด็กมีแค่พี่ชายเป็นคนดูแลในขณะที่อารัณย์ก็เห็นคนในครอบครัวของพริมมาวุ่นวายกับพริมตลอดเวลา ทำให้พริมกับอารัณย์สนิทกันมากจนพริมไว้ใจและกล้าขอให้อารัณย์แต่งงานกับเธอหลอกๆ ได้

ส่วนอารัณย์นั้นคิดไว้ในใจอยู่แล้วว่าจะไม่ยอมปล่อยให้พริมแต่งงานเพราะโดนบังคับ พอพริมขอให้ช่วยเขาจึงเต็มใจรับปากเพื่อช่วยเพื่อนและที่สำคัญอารัณย์แอบรักพริมมากกว่าเพื่อน แต่ไม่กล้าแสดงออกป้าใหญ่กำชับให้โจ้ต้องหาวิธีแต่งงานกับพริมให้ได้โจ้จึงวางแผนที่จะเข้าหาลักขณาและพงศ์เพราะรู้ว่าทั้งสองคนนี้ก็ไม่มีทางยอมที่จะเสียทุกอย่างไปแม้ว่าพงศ์จะไม่อยากดองกับป้าใหญ่แต่ก็จำใจร่วมมือโจ้พยายามที่จะสร้างเรื่องให้อารัณย์กับพริมหย่ากันโดยมีเจื้อยที่พยายามเข้ามาช่วยหลอกให้อารัณย์หลงรักเธอแต่กลับกลายเป็นว่าเจื้อยเริ่มหลงรักอารัณย์เสียเองและคิดว่าจะต้องแย่งอารัณย์มาจากพริมให้ได้โจ้สืบประวัติของอารัณย์จนรู้ว่าอดีตเคยคบกับ โสมอุษา (ศรัณย์ภัทร์ พีเดอร์เซน) ซึ่งบังเอิญเคยเป็นคู่นอนของโจ้ โจ้จึงจ้างให้โสมอุษาเข้ามาเป็นตัวปัญหาให้กับชีวิตคู่ของพริมโดยที่ป้าใหญ่ไม่รู้เรื่อง เพราะป้าใหญ่เกลียดโสมอุษามากโสมอุษาหวังที่จะเข้ามาเอาคืนป้าใหญ่ที่เคยรังเกียจเธอเลยคิดจะจับปลาสองมือทั้งโจ้และอารัณย์ เพราะโสมอุษารู้ความจริงว่าอารัณย์ไม่ใช่ช่างภาพกระจอกแต่เป็นเจ้าของเกาะทางใต้และธุรกิจโรงแรมที่พี่ชายของอารัณย์ทำงานสร้างเนื้อสร้างตัวมา

ฝั่งอานิ่มที่สุดท้ายก็สึกผัวและลูกออกมาได้ แต่ทุกอย่างก็ไม่ได้ง่ายทั้งฉลองและแป๊ดยังคงใช้ชีวิตเหมือนกับตอนบวชเป็นพระ ละทางโลกสวดมนต์ ถือศีล หรือหนีแอบไปวัดบ่อยๆ อานิ่มกลัวว่าจะเสียทุกอย่างไปจึงวางแผนร่วมมือกับอาเนียนที่ต้องการล้มอำนาจของพงศ์กับป้าใหญ่อานิ่มหาทางให้ป๊อดแต่งงานกับพริม เพราะเธอหวังจะฮุบมรดกเหมือนกันแต่ป๊อดที่บวชเป็นพระมา10 กว่าปี ก็ไม่ได้มีทีท่าอยากจะแต่งงานเข้าหอแต่อยากจะกลับเข้าวัดบวชพระมากกว่า ส่วนอาเนียนก็คิดจะส่งน้ำตาลให้แต่งงานกับโจ้ให้ได้เพราะเธออยากเห็นป้าใหญ่ต้องอกแตกตายที่ได้ลูกสาวเธอเป็นลูกสะใภ้และเธอก็จะแย่งทะนงกลับมา น้ำตาลไม่อยากทำแต่ก็โดนอาเนียนทั้งข่มขู่และทำร้ายพริมและอารัณย์เจอศึกรอบด้านที่พยายามแยกทั้งสองคนแต่กลับกลายเป็นว่ายิ่งทุกคนสร้างปัญหากลับยิ่งทำให้พริมและอารัณย์ใกล้ชิดกัน เพราะทั้งคู่ต่างช่วยกันแก้ปัญหาต่างๆและความรู้สึกของทั้งสองคนก็เริ่มที่จะแสดงออกต่อกันว่าต่างห่วงและหวงโสมอุษากับเจื้อยเข้ามาใกล้อารัณย์มากเท่าไร พริมก็ขวางหาทางไล่

ส่วนโจ้และป๊อดที่ถูกส่งมาจีบพริม อารัณย์ก็จัดการทั้งสองให้ออกไปทั้งที่ก็รู้ว่าพริมไม่มีทางรักทั้งสองคนนี้แต่เพราะความหวงบางครั้งทำให้อารัณย์ทำเกินหน้าที่สามีปลอมพริมและอารัณย์ต่างช่วยกันตามสืบหาพินัยกรรมฉบับจริงและหาทางยับยั้งงานแต่งและเมื่อพริมเข้าไปทำงานในส่วนบริหารจนได้รู้ว่าทุกคนในครอบครัวต่างโกงเงินของกงสี กำไรของธุรกิจที่ทุกคนต้องส่งเงินเข้ากองกลางถูกทุกคนต่างตกแต่งบัญชี แม้กระทั่งพ่อและแม่เธอพริมเห็นว่าทุกคนต่างเห็นแก่ตัวและเห็นแก่เงินทุกคนไม่มีใครจะเอาคำสั่งสอนของปู่ที่มักบอกว่าจะทำอะไรให้นึกถึงคนในครอบครัวและรักพี่รักน้องมาใช้เลยพริมคิดจะทำลายความเห็นแก่ของทุกคนจึงร่วมมือกับอารัณย์และแป๊ดช่วยกันหาหลักฐานต่างๆ ของการยักยอกเงินกงสีของตระกูลของทุกคนและทันทีที่พริมได้หลักฐานทุกอย่างเธอเอาไปรายงานให้คุณหญิงย่าทำให้ทุกคนต่างเกลียดชังพริมยกเว้นคุณหญิงย่าที่ยิ่งมั่นใจในตัวของพริมมากที่จะขึ้นมาดูแลธุรกิจก็ยิ่งเร่งให้ป้าใหญ่จัดการเรื่องแต่งงานของพริมกับโจ้ให้เร็วที่สุด