ละคร ศีรษะมาร
ดู 2,802 ครั้ง /
แชร์
ละครออกอากาศ | วันจันทร์ วันอังคาร วันพุธ วันพฤหัส | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ช่องที่ออกอากาศ | ละครช่อง 8 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เริ่มออกอากาศ | 8 สิงหาคม 2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เวลาออกอากาศ | 20:30 - 21:30 น. |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
กำกับโดย | กรัณย์ คุ้มอนุวงศ์ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ประพันธ์โดย | บทประพันธ์ จินตวีร์ วิวัธน์, บทโทรทัศน์ ชนิกานต์ แตงน้อย, พัชรินทรา, มิติ, ฟรานเชสก้า ฮัว | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
นำแสดงโดย | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ผู้สร้าง | บริษัท แบร์ อิน มายด์ สตูดิโอส์ จำกัด |
ภาพนิ่งจากละคร
เรื่องย่อ ศีรษะมาร
เรื่องราวของ ปิลันธา หรือ ปี๋ (หยาดทิพย์ ราชปาล) เป็นหญิงผู้มีดวงหน้าสวยงามแต่กลับมีใจคอโหดร้ายเจ้าอารมณ์ เธออาศัยอยู่กับศาสตราจารย์นายแพทย์ ปีติ (วิลลี่ แมคอินทอช) ศัลยแพทย์ผู้มีชื่อเสียงและเป็นลุงของเธอ กับ พร (ภรัณยู โรจนวุฒิธรรม) ชายแก่ซึ่งเป็นคนรับใช้คนสนิท ปิลันธามีความสามารถพิเศษผิดกับผู้อื่นคือมีพลังจิต เคลื่อนย้ายสิ่งของต่างๆ ไปมาได้ กระทั่งคืนหนึ่ง ปิลันธาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ทำให้กระจกรถตัดคอเธอจนขาดออกจากร่างแต่เธอกลับไม่ตาย ปิลันธาใช้พลังจิตที่มีบังคับร่างกายให้หิ้วหัวที่ขาดของตัวเองเดินกลับไปบ้านเพื่อให้ปีติช่วยให้เธอกลับสู่สภาพเดิมโดยเร็ว ด้วยความสงสารปีติให้ปิลันธาลงไปซ่อนในห้องทดลองใต้ดิน และใช้น้ำยาวิทยาศาสตร์หรือสารสังเคราะห์สีเหลืองอ่อนและเหลืองแก่ที่ตนเองคิดค้น เพื่อคงสภาพร่างกายของปิลันธาทั้งสองส่วนไว้ ด้วยความหวังที่จะทำการต่อศีรษะเข้ากับร่างกายให้ปิลันธากลับมามีชีวิตปกติดังเดิมจากการช่วยเหลือของปีติ ปิลันธาใช้ผ้าพันคอปิดบังรอยแผลระหว่างหัวกับตัวที่คอไปพลาง แลดูเผินๆ ก็เหมือนคนปรกติไม่มีผิด แม้จะพูดไม่ได้อย่างปกติ แต่เธอสื่อสารด้วยการแทรกจิตด้วยคลื่นความคิดแทน
คืนหนึ่ง ปิลันธาอยากออกไปยังโลกภายนอก จึงหนีออกจากห้องใต้ดินต่อรถหลายทอดออกไปไกลถึงย่านหนองแขม พรซึ่งเป็นคนใช้คนสนิท ตามออกไปด้วยความเป็นห่วงแต่กลับถูกโจรทำร้าย ปิลันธาเห็นเช่นนั้นจึงถอดหัวออกจากร่าง เข้าไปกัดคอโจรจนขาดใจตาย เหตุนี้เองที่ทำให้ปิลันธารับรู้ว่าเลือดของมนุษย์เป็นสิ่งที่หล่อเลี้ยงศีรษะของเธอได้ดีเสียยิ่งกว่าน้ำยาวิทยาศาสตร์ของลุงเสียอีก นับตั้งแต่นั้น ปิลันธามักลอบไปดูดเลือดคนในยามวิกาลเสมอๆ แม้น้ำยาวิทยาศาสตร์นั้นสามารถคงสภาพศีรษะของปิลันธาไว้ได้ แต่ร่างกายนั้นกลับเน่าเปื่อยมีกลิ่นศพโชยออกมา ด้วยเหตุนี้เธอจึงเสาะแสวงหาหญิงสาวที่มีรูปร่างสะสวยมาแทนที่ร่างกายที่เน่าเปื่อยอยู่ตลอด จนเกิดเป็นคดีหญิงสาวหายตัวลึกลับ
ต่อมา วิฬารี หรือ แมวเหมียว (เกวลิน ศรีวรรณา) หลานสาวของหนึ่งของปีติและเป็นลูกพี่ลูกน้องของปิลันธาเดินทางกลับจากต่างประเทศพร้อมกับสักการ ซึ่งเป็นคนรัก ปิลันธาที่แอบไปเห็นเขาก็สนใจ เมื่อเธอใช้พลังจิตบังคับสักการ แต่กลับไม่เป็นผลก็ยิ่งทวีความสนใจในชายคนนี้ขึ้นไปอีก และพยายามแย่งมาเป็นของเธอ พรเห็นเช่นนั้นจึงตักเตือนปิลันธาด้วยความหวังดี แต่ปิลันธาโกรธมากจึงทำให้พรตาบอด ครั้นปีติทราบว่าปิลันธาทำร้ายพรก็เข้าไปต่อว่าอีก ปิลันธาโกรธจัดจนควบคุมตัวเองไม่ได้ เข้าทำลายข้าวของในห้องทดลองของปีติ ปีติโกรธจัดจึงผลักปิลันธาออกไปจนชนผนัง ทำให้น้ำกรดชนิดเข้มข้นพิเศษที่เก็บอยู่บนตู้ตกลงมาราดรดตัวปิลันธา ศีรษะและร่างกายของเธอแหลกเหลวไปต่อหน้าปีติ ปิลันธาร้องทรมานด้วยความเจ็บปวด ใบหน้าที่สวยงามมลายหาย ดวงตาที่เคยสวยงามก็หลุดห้อยลงมาน่าสยดสยอง
เธอขอให้ปีติผ่าตัดเอาสมองออกจากร่างนี้ บัดนี้ปิลันธาคงเหลือแต่ก้อนสมอง แต่ก้อนสมองของปิลันธานี้มีพลังจิต ยังบังคับให้ปีติช่วยให้เธอมีร่างกายกลับคืนดังเดิม โดยเฉพาะการยึดร่างของวิฬารีเพราะหวังจะครองรักกับสักการ ระหว่างนั้นปีติได้ออกแบบอุปกรณ์สำหรับดูดเลือดแก่ก้อนสมอง ปิลันธาที่เหลือเพียงก้อนสมอง สามารถลอยไปลอยมาเพื่อดูดเลือดคนต่อไปอีก คืนหนึ่ง วิฬารีเดินออกมาจากบ้าน แล้วพบเข้ากับก้อนสมองลอยได้ ปิลันธาใช้พลังจิตทำให้วิฬารีสลบ ก้อนสมองลอยเข้าไปเกาะที่ศีรษะของวิฬารีแล้วบังคับร่างให้ไปที่ห้องทดลองใต้ดิน หวังให้ปีติผ่าตัดร่างวิฬารีให้เป็นของเธอ ขณะเดียวกัน สักการพบว่าวิฬารีหายตัวไปจึงออกตามหา จนพบว่าร่างของวิฬารีอยู่ในห้องใต้ดินของปีติ และพบว่าวิฬารีถูกก้อนสมองของปิลันธาควบคุมอยู่ สักการเข้าไปช่วยขณะที่ปิลันธาทำร้ายวิฬารีเจียนตาย สักการยืนยันว่าขอกอดศพวิฬารีดีกว่าจะต้องเอาสมองของคนอื่นมาใส่ร่างของวิฬารี สุดท้ายก้อนสมองถูกกระสุนปืนยิงแหลกกระจาย ทว่าดวงจิตของปิลันธายังไม่ไปไหน เธอยังคงวนเวียนอยู่ในห้องทดลองชั้นใต้ดินเพื่อเฝ้ารอโอกาสที่จะกลับมามีชีวิตอีกครั้ง
คืนหนึ่ง ปิลันธาอยากออกไปยังโลกภายนอก จึงหนีออกจากห้องใต้ดินต่อรถหลายทอดออกไปไกลถึงย่านหนองแขม พรซึ่งเป็นคนใช้คนสนิท ตามออกไปด้วยความเป็นห่วงแต่กลับถูกโจรทำร้าย ปิลันธาเห็นเช่นนั้นจึงถอดหัวออกจากร่าง เข้าไปกัดคอโจรจนขาดใจตาย เหตุนี้เองที่ทำให้ปิลันธารับรู้ว่าเลือดของมนุษย์เป็นสิ่งที่หล่อเลี้ยงศีรษะของเธอได้ดีเสียยิ่งกว่าน้ำยาวิทยาศาสตร์ของลุงเสียอีก นับตั้งแต่นั้น ปิลันธามักลอบไปดูดเลือดคนในยามวิกาลเสมอๆ แม้น้ำยาวิทยาศาสตร์นั้นสามารถคงสภาพศีรษะของปิลันธาไว้ได้ แต่ร่างกายนั้นกลับเน่าเปื่อยมีกลิ่นศพโชยออกมา ด้วยเหตุนี้เธอจึงเสาะแสวงหาหญิงสาวที่มีรูปร่างสะสวยมาแทนที่ร่างกายที่เน่าเปื่อยอยู่ตลอด จนเกิดเป็นคดีหญิงสาวหายตัวลึกลับ
ต่อมา วิฬารี หรือ แมวเหมียว (เกวลิน ศรีวรรณา) หลานสาวของหนึ่งของปีติและเป็นลูกพี่ลูกน้องของปิลันธาเดินทางกลับจากต่างประเทศพร้อมกับสักการ ซึ่งเป็นคนรัก ปิลันธาที่แอบไปเห็นเขาก็สนใจ เมื่อเธอใช้พลังจิตบังคับสักการ แต่กลับไม่เป็นผลก็ยิ่งทวีความสนใจในชายคนนี้ขึ้นไปอีก และพยายามแย่งมาเป็นของเธอ พรเห็นเช่นนั้นจึงตักเตือนปิลันธาด้วยความหวังดี แต่ปิลันธาโกรธมากจึงทำให้พรตาบอด ครั้นปีติทราบว่าปิลันธาทำร้ายพรก็เข้าไปต่อว่าอีก ปิลันธาโกรธจัดจนควบคุมตัวเองไม่ได้ เข้าทำลายข้าวของในห้องทดลองของปีติ ปีติโกรธจัดจึงผลักปิลันธาออกไปจนชนผนัง ทำให้น้ำกรดชนิดเข้มข้นพิเศษที่เก็บอยู่บนตู้ตกลงมาราดรดตัวปิลันธา ศีรษะและร่างกายของเธอแหลกเหลวไปต่อหน้าปีติ ปิลันธาร้องทรมานด้วยความเจ็บปวด ใบหน้าที่สวยงามมลายหาย ดวงตาที่เคยสวยงามก็หลุดห้อยลงมาน่าสยดสยอง
เธอขอให้ปีติผ่าตัดเอาสมองออกจากร่างนี้ บัดนี้ปิลันธาคงเหลือแต่ก้อนสมอง แต่ก้อนสมองของปิลันธานี้มีพลังจิต ยังบังคับให้ปีติช่วยให้เธอมีร่างกายกลับคืนดังเดิม โดยเฉพาะการยึดร่างของวิฬารีเพราะหวังจะครองรักกับสักการ ระหว่างนั้นปีติได้ออกแบบอุปกรณ์สำหรับดูดเลือดแก่ก้อนสมอง ปิลันธาที่เหลือเพียงก้อนสมอง สามารถลอยไปลอยมาเพื่อดูดเลือดคนต่อไปอีก คืนหนึ่ง วิฬารีเดินออกมาจากบ้าน แล้วพบเข้ากับก้อนสมองลอยได้ ปิลันธาใช้พลังจิตทำให้วิฬารีสลบ ก้อนสมองลอยเข้าไปเกาะที่ศีรษะของวิฬารีแล้วบังคับร่างให้ไปที่ห้องทดลองใต้ดิน หวังให้ปีติผ่าตัดร่างวิฬารีให้เป็นของเธอ ขณะเดียวกัน สักการพบว่าวิฬารีหายตัวไปจึงออกตามหา จนพบว่าร่างของวิฬารีอยู่ในห้องใต้ดินของปีติ และพบว่าวิฬารีถูกก้อนสมองของปิลันธาควบคุมอยู่ สักการเข้าไปช่วยขณะที่ปิลันธาทำร้ายวิฬารีเจียนตาย สักการยืนยันว่าขอกอดศพวิฬารีดีกว่าจะต้องเอาสมองของคนอื่นมาใส่ร่างของวิฬารี สุดท้ายก้อนสมองถูกกระสุนปืนยิงแหลกกระจาย ทว่าดวงจิตของปิลันธายังไม่ไปไหน เธอยังคงวนเวียนอยู่ในห้องทดลองชั้นใต้ดินเพื่อเฝ้ารอโอกาสที่จะกลับมามีชีวิตอีกครั้ง