ละคร บุพเพร้อยร้าย
ดู 3,283 ครั้ง /
แชร์
ละครออกอากาศ | วันพุธ วันพฤหัส | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ช่องที่ออกอากาศ | ละครช่อง 3 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เริ่มออกอากาศ | 26 พฤษภาคม 2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เวลาออกอากาศ | 20:30 - 22:30 น. |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
กำกับโดย | สมุทร น่วมเศรษฐี | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ประพันธ์โดย | บทประพันธ์ อินเอวา, บทโทรทัศน์ วรกร | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
นำแสดงโดย | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ผู้สร้าง | บริษัท บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด |
ภาพนิ่งจากละคร
เรื่องย่อ บุพเพร้อยร้าย
มุกมณี (ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์) รองบ.ก.สาวแห่งสำนักข่าวชื่อดังอย่าง วูแมนออนเดอะท็อป เคยชินอยู่กับชีวิตที่เธอควบคุมทุกอย่างได้มาตลอด 27 ปี แต่แล้วชีวิตที่เป็นระบบระเบียบของเธอก็ถึงคราวสั่นคลอน เมื่อเธอต้องไปร่วมงานแต่งงานระหว่าง เกล็ดดาว (ชนนิกานต์ เนตรจุ้ย) นางแบบสาวเพื่อนรักของเธอกับ ธัช (รพีพงศ์ ทับสุวรรณ) นายแพทย์หนุ่มหล่อ และได้พบกับ ชินกฤต (พงศกร เมตตาริกานนท์) เพื่อนเจ้าบ่าวที่เป็นทนายหนุ่มหน้าตาคมเข้ม ผู้มาพร้อมฝีปากคมกริบ และมีเหตุให้ต้องปะทะคารมกันอยู่หลายยก เธอรู้สึกไม่ชอบขี้หน้าเขา เขาเองก็ดูไม่กินเส้นกับเธอนัก และทั้งสองก็คงไม่ต้องโคจรมาพบกันอีก หากไม่ใช่เพราะอุบัติเหตุบางอย่างที่ทำให้เขาและเธอ ตื่นขึ้นมาบนเตียงเดียวกันในสภาพเปลือยเปล่าอย่างไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ
นั่นไม่ใช่คลื่นลูกเดียวที่ซัดเข้ามาทำให้มุกมณีเสียศูนย์ แต่อยู่ๆ เธอก็ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีเผยแพร่เฟคนิวส์ เกี่ยวกับการทำศัลยกรรมใบหน้าของ โสภิตา (ปกฉัตร เทียมชัย) นักแสดงสาวสมองกลวง และกำลังจะถูกฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเป็นเงินหลายล้าน มุกมณีมั่นใจว่าเรื่องนี้ต้องเป็นฝีมือของ ดาริน (กัญญาภัค พงษ์ศักดิ์) รองบ.ก.อีกคนของ วูแมนออนเดอะท็อป ที่กำลังช่วงชิงตำแหน่งบ.ก.กับเธอ แต่ในเมื่อเธอไม่มีหลักฐานยืนยันความบริสุทธิ์ ปาริณี (สกาวใจ พูนสวัสดิ์) เจ้านายของเธอจึงจำต้องจ้างทนายฝีมือดีมาสู้คดีให้เธอ ซึ่งทนายคนนั้นก็คือชินกฤตนั่นเอง
แม้จะเริ่มต้นกันได้ไม่สวยนัก แต่เมื่อต้องใกล้ชิดกันในฐานะทนายและลูกความ มุกมณีก็แอบยอมรับในความเก่งกาจของชินกฤต โดยเฉพาะหลังจากที่เขาไปสืบรู้มาว่า โสภิตาร่วมมือกับดารินใส่ร้ายมุกมณี เพราะเข้าใจผิดว่ามุกมณีแย่ง เดชา (ปราบ ยุทธพิชัย) นักการเมืองที่เธอเคยคบหาไป ทั้งๆที่ความจริงแล้วเดชาคือพ่อแท้ๆที่มุกมณีไม่ใยดีด้วย เพราะเคยทำร้ายจิตใจแม่ของเธอจนตัดขาดกันไปเมื่อนานมาแล้วนั่นเอง แต่ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ชินกฤตชนะคดีนี้ได้ก็คือ การที่เขาได้รู้ว่าปัจจุบันโสภิตาแอบคบหาอยู่กับ สินชัย (ศรัณยู ประชากริช) นักธุรกิจเจ้าของโรงแรมชื่อดัง ซึ่งนอกจากจะเป็นคู่แค้นในอดีตของเขาแล้ว ยังมีลูกมีเมียแล้วอีกด้วย ชินกฤตจึงใช้ข้อมูลดังกล่าวเป็นแต้มต่อ ให้สินชัยสั่งให้โสภิตายอมถอนฟ้อง แลกกับการที่ไม่ต้องถูกภรรยาฟ้องหย่าเอาทรัพย์สินจนหมดตัว
คดีความจบลงด้วยดี แต่เรื่องของมุกมณีกับชินกฤตดูจะไม่จบลงแค่นั้น เมื่อทั้งสองแอบพึงพอใจกันอยู่ลึกๆ และต่างก็พร้อมจะเปิดประตูให้อีกฝ่ายเข้ามาสานสัมพันธ์ กระนั้นสถานการณ์ก็พลิกผันอีกครั้ง เมื่อมุกมณีได้รับข้อความปริศนาว่า คุณเป็นนักข่าวใช่ไหม ฉันขอนัดเจอคุณได้ไหม ฉันมีเรื่องเกี่ยวกับการขายตัวใน โชว์ไทม์ อยากจะเล่าให้ฟัง จากหญิงสาวชื่อ เอวา (นารา เทพนุภา) ซึ่งมุกมณีค้นเจอในภายหลังว่า เธอเคยเป็นนักแสดงฝึกหัดอยู่ที่ โชว์ไทม์ เมเนจเมนต์ เอเจนซีนักแสดงยักษ์ใหญ่ ซึ่งชินกฤตเป็นทนายประจำบริษัทอยู่ สัญชาตญาณนักข่าวทำให้เป้าหมายของมุกมณีเริ่มเบี่ยงเบน จากที่เข้าหาชินกฤตเพราะเรื่องหัวใจล้วนๆ ก็เริ่มแบ่งพื้นที่ให้เรื่องงานเข้ามามีเอี่ยว ยิ่งเมื่อได้รู้ว่า ธาม (รพีพงศ์ ทับสุวรรณ) เจ้าของ โชว์ไทม์ เมเนจเมนต์ ที่เป็นคู่แฝดของธัชและเป็นเพื่อนสนิทอีกคนหนึ่งของชินกฤต เคยมีความสัมพันธ์เกินเลยกับเอวาจนทำให้เขาถูกคนรักอย่าง ช่อผกา (คาลิยา นิฮุต) ถอนหมั้นมาแล้ว ก็ยิ่งทำให้มุกมณีมองเห็นความเป็นไปได้ในข้อความที่เอวาส่งมา
มุกมณีวางแผนจะเข้าไปทานข้าวกับ ชรัณ (สุเมธ องอาจ) และ กฤติยา (ภัสสร บุณยเกียรติ) พ่อและแม่ของชินกฤตที่บ้านของเขา เพื่อค้นหาฮาร์ดดิสก์ซึ่งเอวาใช้บันทึกข้อมูลสำคัญบางอย่าง และเธอเชื่อว่าตอนนี้มันอยู่กับชินกฤต แต่กระนั้นยังไม่ทันที่เธอจะได้ก้าวเข้าบ้านชินกฤต แผนของเธอก็เป็นหมันไปเสียก่อน เมื่อ นีรพัธ (มารีน่า บาเล็นซิเอก้า) ผู้จัดการฝ่ายดูแลนักแสดงสาวสวยของ โชว์ไทม์ ที่แอบมีใจให้ชินกฤตมาเนิ่นนาน ล่วงรู้ว่าเธอมีจุดประสงค์แอบแฝงในการเข้าหาชินกฤต และได้นำเรื่องนี้ไปบอกเขา จนทำให้ชินกฤตไม่พอใจ และไม่ยอมให้มุกมณีมาตีสนิทอีก แต่ความต้องการเนื้อหาเด็ดๆ ที่จะสร้างแต้มต่อให้เธอเอาชนะดารินและคว้าตำแหน่งบ.ก.มาได้ ทำให้มุกมณีไม่ยอมแพ้ และเกิดความคิดพิสดารที่ว่า ถ้าชินกฤตไม่ยอมให้เธอเข้าหา เธอก็จะใช้เสน่ห์ที่เธอมั่นอกมั่นใจว่ามีมากพอ ทำให้เขาคลั่งรักและเป็นฝ่ายเข้าหาเธอ จนยอมเปิดทั้งประตูบ้านและประตูหัวใจให้เธอเข้าไปล้วงความลับได้อย่างง่ายดาย
มุกมณีไม่ได้ดำเนินแผนนี้เพียงลำพัง แต่ยังขอร้องแกมบังคับ พิมพ์ขวัญ(มิณฑิตา วัฒนกุล) ออกาไนเซอร์สาวแกร่งเพื่อนรักของเธอ ให้ต้องมาหัวหกก้นขวิดไปกับเธอด้วย ซึ่งพิมพ์ขวัญก็ได้รับความช่วยเหลือจาก จิม (ธนพล จารุจิตรานนท์) ผู้ช่วยหน้าอ่อนของชินกฤต ที่ยอมขายข้อมูลของลูกพี่เพื่อแลกกับการให้พิมพ์ขวัญช่วยเขาจีบ พลอยมณี (ลลินา ชูเอ็ทท์) น้องสาวแท้ๆ ของมุกมณี ที่นอกจากจะเป็นนักศึกษาฝึกงานอยู่ที่ โชว์ไทม์ แล้ว ยังแอบหลงรักเจ้านายอย่างธามอีกด้วย...เห็นได้ชัดว่า มันคงนำไปสู่ความสัมพันธ์อิรุงตุงนังของพิมพ์ขวัญ พลอยมณี จิม และธามแน่นอน
ข้อมูลที่พิมพ์ขวัญหามาได้และเป็นประโยชน์กับมุกมณีอย่างมากก็คือ เรื่องที่ชินกฤตชอบการแข่งขันเป็นอย่างยิ่ง เธอตระหนักในทันทีว่าวิธีที่รวดเร็วที่สุดในการทำให้ชินกฤตหันมาสนใจเธอ ก็คือการหาคู่แข่งให้เขา มุกมณีจึงบากหน้าไปข้อความช่วยเหลือจาก ปรเมศร์ (ณคุณ โรจนัย) เกย์หนุ่มผู้บริหารสตรีมมิ่งชื่อดังอย่าง ซีนทีวี ซึ่งในอดีตเคยแอ๊บแมนมาคบเธอเพื่อปกปิดเพศภาวะของตนเอง ให้มารับสมอ้างเป็นคนรักของเธออีกครั้ง แรกทีเดียวนั้นปรเมศร์ก็ไม่คิดจะทำตามคำขอของมุกมณี เพราะเขามี คามิน (อชิรวิชญ์ สุภาวิตา) เด็กหนุ่มเจ้าของร้านกาแฟเป็นคนรักอยู่แล้ว แต่ก็เป็นคามินนั่นเองที่บอกให้เขายอมช่วยเธอ เพราะเห็นว่าสามารถให้มุกมณีเป็นกันชน ไม่ให้ใครล่วงรู้สถานะของพวกเขาได้เช่นกัน
ทุกอย่างเป็นไปตามแผนของมุกมณี เพราะไม่ว่าชินกฤตจะพยายามปฏิเสธตนเองแค่ไหน และไม่ว่าตัวกวนใจอย่างดารินกับ วีว่า (เพียวฤดี พงษ์ประเสริฐ) ผู้ช่วยของเธอ รวมถึงศัตรูหัวใจอย่างนีรพัธจะพยายามเข้ามาวุ่นวายขัดขวางเพียงใด แต่ด้วยเทคนิคอันแพรวพราวเต็มไปด้วยลูกล่อลูกชนของมุกมณี ในเวลาไม่นานนักชินกฤตก็ตกหลุมรักมุกมณีอย่างไม่ทันรู้เนื้อรู้ตัว ขณะเดียวกันการได้เข้าไปใกล้ชิดสนิทสนม ก็ทำให้มุกมณีเผลอประทับใจในตัวชินกฤตอย่างไม่ทันตั้งตัวเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะเมื่อเธอได้รู้ว่า ก่อนหน้าที่จะได้มารู้จักกันนี้ เธอและเขาได้เฉียดใกล้กันมาหลายต่อหลายครั้งแล้ว ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่เธอเผชิญความเสียใจในวัยเด็ก หรือจะเป็นในยามที่เขาและเธอรับบทบาทสมมติในโลกไซเบอร์ก็ตาม ทั้งหมดนี้ทำให้มุกมณีซึ่งโดยปรกติไม่ใช่คนที่เชื่อในอำนาจที่มองไม่เห็น เริ่มตระหนักถึงพลังของพรหมลิขิตหรือบุพเพสันนิวาสขึ้นมา
มุกมณีไม่ได้เป็นคนเดียวที่ถูกความรักเล่นกล แต่ยังรวมถึงเพื่อนๆ และน้องสาวของเธอด้วย ขณะที่พลอยมณีคอยแอบปลื้มธามอยู่ห่างๆ พิมพ์ขวัญเองก็ต้องช่วยจิมที่แอบปลื้มพลอยมณีอยู่อีกที ให้สมหวังในความรักตามที่ได้ตกปากรับคำว่า แต่ไม่ว่าจะเล่นด้วยเล่ห์หรือเล่นด้วยกล ใช้ทั้งมนต์หรือแม้แต่หมอดู จิมก็ดูไม่มีทีท่าว่าจะสมหวังในความรัก แต่กลับทำให้พลอยมณีปักใจเชื่อว่าธามคือเนื้อคู่ของเธอด้วยซ้ำ จนเขาเริ่มท้อใจ พิมพ์ขวัญเองแม้จะชอบต่อปากต่อคำกับจิม แต่เมื่อเห็นเขาซึมเศร้าจึงอดไม่ได้ที่จะปลอบใจ โดยไม่ได้คิดมาก่อนว่ามันจะนำไปสู่การเผลอจูบ ที่ทำให้เธอเกิดอาการวาบหวิวหวั่นไหวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ส่วนเกล็ดดาวนั้น แม้จะเป็นฝั่งเป็นฝาไปแล้วแต่ก็ยังเจอเรื่องปวดหัว เมื่อเธอตกลงกับธัชไว้ว่าไม่ต้องการมีลูก แต่กลับจับได้ทีหลังว่าธัชวางแผนมัดมือชกจะทำให้เธอท้องให้ได้ เกล็ดดาวโกรธมากจนหอบผ้าหอบผ่อนย้ายออกจากบ้านธัช ร้อนถึงชินกฤตและมุกมณีที่ต้องวางแผนให้ทั้งสองกลับมาคืนดีกันอีกครั้ง นอกจากแผนนั้นจะสำเร็จด้วยดีแล้ว มันยังทำให้ทั้งคู่ได้รู้ความจริงว่า ในคืนแต่งงานของธัชและเกล็ดดาวนั้น มุกมณีและชินกฤตแค่จับพลัดจับผลูมานอนห้องเดียวกัน แต่ยังไม่มีอะไรเกินเลยแต่อย่างใด ถึงแม้จะยังไม่มีการล่วงล้ำทางร่างกาย แต่ในด้านหัวใจนั้น มุกมณีรู้ดีว่าเธอถูกรุกล้ำมามากพอตัว เธอพยายามดึงตัวเองให้กลับมาคิดเรื่องงาน และวางแผนเผด็จศึกชินกฤตด้วยการแสร้งมีปัญหากับปรเมศร์จนต้องเลิกรากัน เป็นการเปิดโอกาสให้ชินกฤตยอมเปิดเผยความในใจและขอคบหาเธออย่างเป็นทางการ
ทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่เธอตั้งใจไว้ เพราะหลังจากนั้นไม่นานนัก มุกมณีก็ได้มีโอกาสไปเยี่ยมบ้านของชินกฤต และเธอก็ไม่พลาดที่จะแอบขึ้นไปบนห้องส่วนตัวของเขาเพื่อหยิบฮาร์ดดิสก์ที่เธอคาดว่าเป็นของเอวา แม้จะเปิดดูไม่ได้เพราะมันเข้ารหัส แต่กระนั้นแผนของเธอก็ไม่ได้สูญเปล่า เมื่อเธอพบข้อมูลที่น่าสงสัยว่าครั้งหนึ่งชินกฤตเคยเป็นทนายแก้ต่างให้สินชัยในคดีล่วงละเมิดทางเพศเด็กสาวชื่อ นุชชี่ มุกมณีไม่เก็บความสงสัยไว้นาน เธอรีบตรงไปหา นพนภา แม่ของนุชชี่ซึ่งเป็นโจทย์ยื่นฟ้องในคดีดังกล่าว และได้ข้อมูลอันชวนอึ้ง เมื่อนพนภาด่าประณามชินกฤตสาดเสียเทเสีย อีกทั้งยังยืนยันความคิดตนเองว่าชินกฤตก็คงเลวไม่ต่างกับสินชัย ไม่งั้นคงไม่ยอมทำคดีให้สินชัยพ้นความผิดอุกฉกรรจ์ได้
คำยืนยันของนพนภาทำให้มุกมณีเกิดความสับสน เพราะถ้าหากเป็นจริง ก็เท่ากับชินกฤตสมรู้ร่วมคิดกับสินชัย และอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องในธุรกิจค้ากามภายใน โชว์ไทม์ ซึ่งทั้งหมดนั้นก็ดูจะสวนทางกับภาพลักษณ์แสนดีและรักความยุติธรรมแบบที่เธอเคยสัมผัส และทำให้เธอเริ่มหลงรักเขา แต่ในขณะที่มุกมณีกำลังสับสนอยู่นั้น เธอก็ไม่รู้ตัวเลยว่าความลับและแผนการของเธอก็กำลังจะถูกเปิดเผยเช่นกัน เมื่อนีรพัธที่ยังเฝ้าจับตามองมุกมณีมาตลอด ได้รับข้อมูลเรื่องที่ปรเมศร์เป็นเกย์จากดาริน มันทำให้เธอยิ่งสงสัยในจุดประสงค์ที่แท้จริงของมุกมณี หลังจากใช้เวลาขุดคุ้ยและปะติดปะต่อเรื่องราวไม่นานนัก นีรพัธก็เข้าใจความต้องการและแผนการของมุกมณีอย่างทะลุปรุโปร่ง ซึ่งเธอก็ไม่รอช้า วางแผนทำให้ ชินกฤตได้รู้เรื่องราวทั้งหมดด้วยตัวเอง ในวันที่เขากำลังรักมุกมณีอย่างสุดหัวใจ
ชินกฤตทั้งโกรธและผิดหวัง เพราะนอกจากเธอจะเอาความรักมาเป็นเครื่องมือและล้อเล่นกับหัวใจของเขาแล้ว สิ่งที่มุกมณีสงสัยเกี่ยวกับตัวเขาและธามเพื่อนรักของเขาก็ไม่เป็นจริงแม้แต่น้อย เขามั่นใจว่าเรื่องขายตัวใน โชว์ไทม์ เป็นสิ่งที่มุกมณีคิดเองเออเอง ขณะที่เรื่องที่เขาทำคดีให้สินชัยนั้น ก็เกิดขึ้นเพราะความไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมของเขา ที่หลงคิดไปว่าสินชัยเป็นผู้บริสุทธิ์ ซึ่งทันทีที่รู้ความจริง ชินกฤตก็คิดจะชดใช้ด้วยการช่วยสองแม่ลูกเอาผิดสินชัยอีกครั้ง แต่พวกเธอก็มีอคติกับเขาไปเสียแล้ว และนั่นก็เป็นสิ่งที่ทำให้เขาจงเกลียดจงชังสินชัยมาจนถึงทุกวันนี้
มุกมณีไม่พียงแต่จะถูกชินกฤตเมินใส่เท่านั้น แต่ธามยังห้ามไม่ให้เธอเข้ามาใน โชว์ไทม์ อีกเป็นอันขาด เพราะเกรงว่าเธอจะสร้างข่าวเสื่อมเสียให้บริษัทของเขา โดยหารู้ไม่ว่าสิ่งที่มุกมณีสงสัยนั่นเป็นความจริง มีการลักลอบส่งเด็กในสังกัดไปขายตัวจริงๆ และคนที่เป็นตัวการสำคัญก็คือคนในอย่างนีรพัธนั่นเอง ก่อนหน้านี้ธุรกิจลับๆ ของนีรพัธเคยเกือบถูกเอวาแฉมาแล้ว แต่เธอก็รอดมาได้ เพราะลูกน้องของสินชัยพลั้งมือฆ่าเอวาตายไปเสียก่อน นีรพัธจัดการอำพรางเรื่องนี้เป็นอย่างดี จนสินชัยนึกสงสัยอยู่เงียบๆว่าทำไมคนอย่างเธอต้องลงมาคลุกคลีกับเรื่องสกปรกเหล่านี้ อีกทั้งเธอยังกระตือรือร้นที่จะเข้าพบและทำความรู้จักกับ ท่าน ผู้มีอิทธิพลและคอยคุ้มครองเขามาตลอดอีกด้วย
มุกมณีเกือบถอดใจจากเรื่องนี้ หากไม่ใช่เพราะพิมพ์ขวัญหาคนถอดรหัสฮาร์ดดิสก์ของเอวามาจนได้ พวกเธอรีบเปิดดูข้อมูลในนั้นและพบหลักฐานรูปถ่ายที่ชี้ชัดว่ามีนักแสดงในสังกัด โชว์ไทม์ ทั้งอดีตและปัจจุบันเข้าไปขายตัวในโรงแรมของสินชัยจริงๆ แต่ยังไม่ทันได้ดูข้อมูลจนครบถ้วน ชินกฤตที่เพิ่งรู้ตัวว่ามุกมณีหยิบฮาร์ดดิสก์นั้นมาจากบ้านของเขา ก็ตามมาทวงมันคืนเสียก่อน และนำมาสู่เหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวายที่ทำให้ฮาร์ดดิสก์อันนั้นตกแตกเสียหาย สถานการณ์กลับตาลปัตร คราวนี้มุกมณีเป็นฝ่ายโกรธชินกฤตบ้าง เพราะเธอคิดว่าเขาจงใจทำฮาร์ดดิสก์นั้นพังเพื่อปกปิดและทำลายหลักฐานเรื่องการขายตัวในบริษัทของเขา ซึ่งชินกฤตก็ต้องหาทางง้อและพิสูจน์ตัวเองว่าเขาก็เพิ่งรู้เรื่องนี้อยู่พักใหญ่ กว่ามุกมณีจะยอมเปิดใจให้เขาเข้ามาช่วยเหลือ แม้คราวนี้จะเตือนตัวเองว่าให้คิดเพียงเรื่องงาน ไม่มีเรื่องหัวใจมาปะปนก็ตาม
ทั้งสองวางแผนล่อ บีน่า เด็กในสังกัด โชว์ไทม์ ที่มีหลักฐานชี้ชัดว่าขายตัว มาคาดคั้นหาคำตอบว่าใครคือหนอนบ่อนไส้ในบริษัทที่คอยส่งเด็กให้สินชัย แต่บีน่าก็ให้คำตอบพวกเขาไม่ได้ เพราะเธอ รวมทั้งเด็กคนอื่นๆที่ขายตัวไม่เคยเจอหน้าคนที่เธอเรียกว่า คนกลาง หรือ มิสเจ เลย ได้แต่เพียงติดต่อกันทางโทรศัพท์เท่านั้น อย่างไรก็ตามเธอก็ได้ให้ข้อมูลว่า สินชัยเก็บหลักฐานเกี่ยวกับธุรกิจค้ากามของเขาไว้ในคอมพิวเตอร์ในห้องทำงานที่โรงแรม มุกมณีและชินกฤตจึงวางแผนปลอมตัวเป็นเชฟเข้าไปทดสอบฝีมือทำอาหาร และล่วงข้อมูลทั้งหมดออกมาจนได้
ความสำเร็จในภารกิจที่ทำร่วมกัน ทำให้มุกมณีและชินกฤตกลับมารู้สึกดีๆ ต่อกันอีกครั้ง แต่กระนั้นก็ยังตั้งท่าปฏิเสธหัวใจตนเอง จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ทั้งสองรู้ว่า เมื่อหลายปีก่อนพวกเขาเคยคุยและประทับใจกันทางโทรศัพท์มาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อมุกมณีโทรไปหาทนายเพื่อปรึกษาเรื่องฟ้องหย่าของพ่อกับแม่ และเธอก็เพิ่งรู้ว่าทนายที่เธอคุยด้วยวันนั้นก็คือชินกฤตนี่เอง ถึงตอนนี้ ทั้งสองจึงไม่อาจปฏิเสธพรหมลิขิตที่กำหนดให้มาคู่กันได้อีกต่อไป พวกเขาต่างปล่อยตัวปล่อยใจให้ความสัมพันธ์แนบแน่นยิ่งกว่าเดิม แต่มุกมณีกับชินกฤตก็ไม่ใช่คู่เดียวที่ความสัมพันธ์ก้าวไปอีกขั้น เพราะหลังจากที่พลอยมณีเปิดใจสารภาพรักกับธามและต้องผิดหวังมาแล้ว เธอก็เริ่มหันมาเห็นความดีงามที่จิมเพียรทำให้เธอ ก่อนจะยอมเปิดใจลองคบกับเขา ซึ่งทำให้พิมพ์ขวัญที่เผลอใจหวั่นไหวไปกับเขา ได้แต่เก็บซ่อนความรู้สึกเอาไว้
แต่ทุกอย่างก็ยังไม่ถึงจุดแฮปปี้เอนดิ้ง พวกเขาดีใจได้เพียงแค่ข้ามคืน ก็ต้องตื่นมาพบข่าวร้ายว่าสินชัยใช้เส้นสายของ ท่าน ทำให้ไม่มีใครเอาผิดธุรกิจค้ากามของเขาได้ มิหนำซ้ำยังมาขู่มุกมณีว่าจะฟ้องเรียกค่าเสียหายถ้าเธอนำเรื่องนี้ไปทำเป็นข่าว มุกมณีและชินกฤตจำต้องถอยออกมาจากสินชัย และพุ่งเป้าไปที่การตามล่าและกระชากหน้ากาก คนกลาง แทน พวกเขาขอความร่วมมือกับลูกพี่ลูกน้องของปรเมศร์ที่เคยเป็นลูกค้าของสินชัย ให้ล่อ"คนกลาง"ออกมาพบ แต่อีกฝ่ายกลับรู้ทันเสียก่อน มิหนำซ้ำยังโทรมาบอกให้มุกมณีหยุดตามเรื่องของเธอ ไม่เช่นนั้นคนรอบตัวเธอจะเดือดร้อน คนกลาง ไม่ได้แค่ขู่ แต่ทำให้ดูเป็นตัวอย่างด้วยการนำเรื่องที่ปรเมศร์เป็นเกย์ไปแฉให้สังคมรับรู้ จนทำให้ปรเมศร์และคามินตัดสินใจย้ายไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศ มุกมณีเสียใจที่ทำให้พวกเขาเดือดร้อน แต่ปรเมศร์ก็ไม่ได้โทษเธอ แถมยังบอกให้เธอสู้ต่อไป มุกมณีจึงตั้งใจที่จะขุดคุ้ยเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด และไม่นานนักเธอก็ได้รับเบาะแสสำคัญ
เมื่อพิมพ์ขวัญเห็นว่าแก้วคริสตัลที่ญาติปรเมศร์ได้รับเป็นของสมนาคุณจาก คนกลาง นั้น เหมือนกับที่เธอเคยเห็นนีรพัธถืออยู่ไม่มีผิดเพี้ยน มุกมณีที่สงสัยนีรพัธมาได้พักใหญ่ ค่อนข้างมั่นใจว่านีรพัธนี่แหละคือคนกลาง เธอจึงเข้าไปสืบประวัติของอีกฝ่าย ก่อนจะรู้ว่าครอบครัวที่นีรพัธอาศัยอยู่ด้วยนั้นไม่ใช่แม่แท้ๆ มุกมณีเริ่มสงสัยในตัวตนและวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของนีรพัธ พร้อมๆ กับที่ฝ่ายไอทีของ โชว์ไทม์ กู้ข้อมูลในฮาร์ดดิสก์ของเอวาได้อีกครั้ง ซึ่งมุกมณีก็ได้เห็นข้อมูลส่วนที่เธอยังไม่ทันได้ดูในคราวก่อน และพบว่ามีข้อมูลของผู้หญิงที่ชื่อ พัดชา (มารีน่า บาเล็นซิเอก้า) ซึ่งชินกฤตบอกว่าเป็นคนที่เขาเคยรู้จัก โดยไม่ยอมบอกรายละเอียดมากกว่านั้น ยิ่งสร้างความคลุมเครือให้กับมุกมณี
ฝ่ายนีรพัธเองเมื่อรู้ตัวว่าทุกคนเริ่มสงสัย เธอก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ เธอเร่งให้สินชัยพาเธอเข้าไปพบ ท่าน ของเขา ซึ่งยิ่งทำให้เขาเกิดความระแวงสงสัย จึงลองใจด้วยการบอกให้นีรพัธทำลาย โชว์ไทม์ ให้เขาดู เพื่อแสดงให้เห็นว่าเธอจงรักภักดีต่อเขาจริงๆ นีรพัธหนักใจมาก เพราะเธอไม่ได้ตั้งใจทำร้ายใครขนาดนั้น อีกทั้งเธอก็ยังรักชินกฤตอยู่ แต่เมื่อรู้ข่าวว่ามุกมณีได้ย้ายเข้าไปใช้ชีวิตร่วมกับชินกฤต เธอจึงรู้ตัวว่าไม่มีหวังในตัวเขาแล้ว นีรพัธจึงตัดสินใจลาออกจาก โชว์ไทม์ พร้อมกับทิ้งระเบิดใส่ความธามว่าเป็นเอเจนซี่จัดหาเด็กไปปรนเปรอคนใหญ่คนโต ขณะที่ธามวิ่งวุ่นแก้ปัญหาของตนเองนั้น ชินกฤตก็พบหลักฐานจากรูปถ่ายที่บ่งชี้ว่านีรพัธกับพัดชาอาจจะเป็นคนเดียวกัน พร้อมทั้งเล่าเรื่องของผู้หญิงคนนี้ให้มุกมณีฟังว่า เธอเป็นเพื่อนในคณะที่ค่อนข้างเก็บตัวและไม่มีเพื่อนนัก ชินกฤตสงสารจึงเข้าไปให้ความสนิทสนม พัดชาเรียนเก่งจึงช่วยติวให้ชินกฤต จนเขาสอบชิงทุนไปเรียนต่างประเทศได้ ซึ่งคืนก่อนที่เขาจะบินนั้นตรงกับวันเกิดของพัดชาพอดี เขาสัญญาณว่าจะไปฉลองวันเกิดกับครอบครัวของเธอ ซึ่งพัดชาก็ให้ที่อยู่มาแล้ว
แต่สินชัยซึ่งในตอนนั้นยังเป็นรุ่นพี่ที่เขาให้ความเกรงใจ กลับลากเขาไปเลี้ยงฉลองจนเขาเมามาย ตื่นมาอีกทีก็รุ่งเข้า และต้องเตรียมบินแล้ว จนกระทั่งเขาไปถึงต่างประเทศแล้วนั่นเอง จึงได้รู้ว่าคืนนั้นสินชัยพาพรรคพวกบุกไปทำร้ายครอบครัวพัดชาทั้งยังปู้ยี่ปู้ยำเธอ และเธอก็เข้าใจผิดว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เมื่อรู้เช่นนั้น มุกมณีก็พยายามเข้าไปคาดคั้นความจริงจากนีรพัธ แต่เธอก็บ่ายเบี่ยงไม่ยอมรับ ขณะเดียวกัน สินชัยก็รู้ความจริงว่านีรพัธคือคนเดียวกับพัดชา เขาจึงวางแผนหลอกเธอว่าจะพาไปทำความรู้จักกับท่าน เคราะห์ดีที่นีรพัธรู้ตัวเสียก่อน เธอหนีออกมาได้ ก่อนจะถูกรถชนจนได้รับบาดเจ็บ นีรพัธได้รับการช่วยเหลือจากชินกฤตและมุกมณี เธอจึงยอมเล่าความจริงทั้งหมดให้พวกเขาฟังว่า เมื่อสิบปีก่อนนั้น พ่อเธอซึ่งเป็นทนาย ตั้งใจจะแฉเรื่องการคอรัปชั่นที่เมืองทองแห่งหนึ่ง จนถูกหมายหัวจากผู้มีอิทธิพลรายหนึ่ง ที่ส่งสินชัยและพรรคพวกมาทำลายหลักฐานและจัดการพ่อของเธอ โชคดีที่เธอและแม่หนีออกมาได้ ทั้งสองพยายามเรียกร้องความยุติธรรม
แต่เมื่อไม่เกิดผลใดๆ จึงตัดสินใจไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่อเมริกา แต่ความแค้นที่สั่งสมในอก ทำให้พัดชาตัดสินใจผ่าตัดแปลงโฉมเป็นนีรพัธ และกลับมาเมืองไทย เพื่อแก้แค้นสินชัยและชินกฤต แต่ไม่นานนักเธอก็รู้ว่าชินกฤตไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งยังรู้ว่าตัวการใหญ่คือ ท่าน ของสินชัย เธอจึงแฝงตัวเข้าไปเป็นคนส่งเด็กให้สินชัย เพื่อหาคำตอบว่าท่านของสินชัยคือใครนั่นเอง มุกมณีและชินกฤตตกลงที่จะช่วยนีรพัธหาคำตอบนั้น ประจวบเหมาะพอดีกับที่ช่อผกา อดีตคู่หมั้นของธามกลับมาเมืองไทย และเปรยๆว่าเคยเห็นสินชัยแวะไปบ้าน ท่านสุรชิต (สุเชาว์ พงษ์วิไล)ซึ่งเป็นอดีตนักการเมืองผู้ทรงอิทธิพลและเป็นลุงของเพื่อนเธออยู่บ่อยๆ พวกเขาจึงสันนิษฐานว่านี่อาจจะเป็นท่านของสินชัยจริงๆ
นั่นไม่ใช่สันนิษฐานที่ผิดเลย สุรชิตคือท่านของสินชัยจริงๆ แต่ด้วยอุบัติเหตบางอย่างทำให้ตอนนี้ท่านสุรชิตนอนเป็นผักอยู่บนเตียงไม่มีฤทธิ์เดชใดๆ อีก ซึ่งสร้างความกลุ้มใจให้กับสินชัยเป็นอย่างยิ่ง เพราะเท่ากับไม่มีใครมาคุ้มกะลาหัวเขาแล้วนั่นเอง สินชัยพยายามปกปิดเรื่องนี้ให้นานที่สุด หารู้ไม่ว่าพวกชินกฤตวางแผนเปิดโปงทุกอย่างไว้หมดแล้ว ในที่สุดทุกอย่างก็ถูกเปิดเผยออกมา หลักฐานการทุจริตที่ท่านสุรชิตทำไว้ร่วมกับสินชัยถูกเปิดโปง เขาต้องติดคุกขณะที่ครอบครัวของนีรพัธก็พ้นมลทิน โดยที่เธอยอมรับความผิดตามกฎหมายทั้งหมดทุกอย่างลงเอยด้วยดี รวมถึงเรื่องของมุกมณีและชินกฤต ที่สุดท้ายก็ได้แต่งงานกันเสียที ไม่ผิดไปจากที่บุพเพได้ร้อยเรียงมาไว้เลย
นั่นไม่ใช่คลื่นลูกเดียวที่ซัดเข้ามาทำให้มุกมณีเสียศูนย์ แต่อยู่ๆ เธอก็ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีเผยแพร่เฟคนิวส์ เกี่ยวกับการทำศัลยกรรมใบหน้าของ โสภิตา (ปกฉัตร เทียมชัย) นักแสดงสาวสมองกลวง และกำลังจะถูกฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเป็นเงินหลายล้าน มุกมณีมั่นใจว่าเรื่องนี้ต้องเป็นฝีมือของ ดาริน (กัญญาภัค พงษ์ศักดิ์) รองบ.ก.อีกคนของ วูแมนออนเดอะท็อป ที่กำลังช่วงชิงตำแหน่งบ.ก.กับเธอ แต่ในเมื่อเธอไม่มีหลักฐานยืนยันความบริสุทธิ์ ปาริณี (สกาวใจ พูนสวัสดิ์) เจ้านายของเธอจึงจำต้องจ้างทนายฝีมือดีมาสู้คดีให้เธอ ซึ่งทนายคนนั้นก็คือชินกฤตนั่นเอง
แม้จะเริ่มต้นกันได้ไม่สวยนัก แต่เมื่อต้องใกล้ชิดกันในฐานะทนายและลูกความ มุกมณีก็แอบยอมรับในความเก่งกาจของชินกฤต โดยเฉพาะหลังจากที่เขาไปสืบรู้มาว่า โสภิตาร่วมมือกับดารินใส่ร้ายมุกมณี เพราะเข้าใจผิดว่ามุกมณีแย่ง เดชา (ปราบ ยุทธพิชัย) นักการเมืองที่เธอเคยคบหาไป ทั้งๆที่ความจริงแล้วเดชาคือพ่อแท้ๆที่มุกมณีไม่ใยดีด้วย เพราะเคยทำร้ายจิตใจแม่ของเธอจนตัดขาดกันไปเมื่อนานมาแล้วนั่นเอง แต่ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ชินกฤตชนะคดีนี้ได้ก็คือ การที่เขาได้รู้ว่าปัจจุบันโสภิตาแอบคบหาอยู่กับ สินชัย (ศรัณยู ประชากริช) นักธุรกิจเจ้าของโรงแรมชื่อดัง ซึ่งนอกจากจะเป็นคู่แค้นในอดีตของเขาแล้ว ยังมีลูกมีเมียแล้วอีกด้วย ชินกฤตจึงใช้ข้อมูลดังกล่าวเป็นแต้มต่อ ให้สินชัยสั่งให้โสภิตายอมถอนฟ้อง แลกกับการที่ไม่ต้องถูกภรรยาฟ้องหย่าเอาทรัพย์สินจนหมดตัว
คดีความจบลงด้วยดี แต่เรื่องของมุกมณีกับชินกฤตดูจะไม่จบลงแค่นั้น เมื่อทั้งสองแอบพึงพอใจกันอยู่ลึกๆ และต่างก็พร้อมจะเปิดประตูให้อีกฝ่ายเข้ามาสานสัมพันธ์ กระนั้นสถานการณ์ก็พลิกผันอีกครั้ง เมื่อมุกมณีได้รับข้อความปริศนาว่า คุณเป็นนักข่าวใช่ไหม ฉันขอนัดเจอคุณได้ไหม ฉันมีเรื่องเกี่ยวกับการขายตัวใน โชว์ไทม์ อยากจะเล่าให้ฟัง จากหญิงสาวชื่อ เอวา (นารา เทพนุภา) ซึ่งมุกมณีค้นเจอในภายหลังว่า เธอเคยเป็นนักแสดงฝึกหัดอยู่ที่ โชว์ไทม์ เมเนจเมนต์ เอเจนซีนักแสดงยักษ์ใหญ่ ซึ่งชินกฤตเป็นทนายประจำบริษัทอยู่ สัญชาตญาณนักข่าวทำให้เป้าหมายของมุกมณีเริ่มเบี่ยงเบน จากที่เข้าหาชินกฤตเพราะเรื่องหัวใจล้วนๆ ก็เริ่มแบ่งพื้นที่ให้เรื่องงานเข้ามามีเอี่ยว ยิ่งเมื่อได้รู้ว่า ธาม (รพีพงศ์ ทับสุวรรณ) เจ้าของ โชว์ไทม์ เมเนจเมนต์ ที่เป็นคู่แฝดของธัชและเป็นเพื่อนสนิทอีกคนหนึ่งของชินกฤต เคยมีความสัมพันธ์เกินเลยกับเอวาจนทำให้เขาถูกคนรักอย่าง ช่อผกา (คาลิยา นิฮุต) ถอนหมั้นมาแล้ว ก็ยิ่งทำให้มุกมณีมองเห็นความเป็นไปได้ในข้อความที่เอวาส่งมา
มุกมณีวางแผนจะเข้าไปทานข้าวกับ ชรัณ (สุเมธ องอาจ) และ กฤติยา (ภัสสร บุณยเกียรติ) พ่อและแม่ของชินกฤตที่บ้านของเขา เพื่อค้นหาฮาร์ดดิสก์ซึ่งเอวาใช้บันทึกข้อมูลสำคัญบางอย่าง และเธอเชื่อว่าตอนนี้มันอยู่กับชินกฤต แต่กระนั้นยังไม่ทันที่เธอจะได้ก้าวเข้าบ้านชินกฤต แผนของเธอก็เป็นหมันไปเสียก่อน เมื่อ นีรพัธ (มารีน่า บาเล็นซิเอก้า) ผู้จัดการฝ่ายดูแลนักแสดงสาวสวยของ โชว์ไทม์ ที่แอบมีใจให้ชินกฤตมาเนิ่นนาน ล่วงรู้ว่าเธอมีจุดประสงค์แอบแฝงในการเข้าหาชินกฤต และได้นำเรื่องนี้ไปบอกเขา จนทำให้ชินกฤตไม่พอใจ และไม่ยอมให้มุกมณีมาตีสนิทอีก แต่ความต้องการเนื้อหาเด็ดๆ ที่จะสร้างแต้มต่อให้เธอเอาชนะดารินและคว้าตำแหน่งบ.ก.มาได้ ทำให้มุกมณีไม่ยอมแพ้ และเกิดความคิดพิสดารที่ว่า ถ้าชินกฤตไม่ยอมให้เธอเข้าหา เธอก็จะใช้เสน่ห์ที่เธอมั่นอกมั่นใจว่ามีมากพอ ทำให้เขาคลั่งรักและเป็นฝ่ายเข้าหาเธอ จนยอมเปิดทั้งประตูบ้านและประตูหัวใจให้เธอเข้าไปล้วงความลับได้อย่างง่ายดาย
มุกมณีไม่ได้ดำเนินแผนนี้เพียงลำพัง แต่ยังขอร้องแกมบังคับ พิมพ์ขวัญ(มิณฑิตา วัฒนกุล) ออกาไนเซอร์สาวแกร่งเพื่อนรักของเธอ ให้ต้องมาหัวหกก้นขวิดไปกับเธอด้วย ซึ่งพิมพ์ขวัญก็ได้รับความช่วยเหลือจาก จิม (ธนพล จารุจิตรานนท์) ผู้ช่วยหน้าอ่อนของชินกฤต ที่ยอมขายข้อมูลของลูกพี่เพื่อแลกกับการให้พิมพ์ขวัญช่วยเขาจีบ พลอยมณี (ลลินา ชูเอ็ทท์) น้องสาวแท้ๆ ของมุกมณี ที่นอกจากจะเป็นนักศึกษาฝึกงานอยู่ที่ โชว์ไทม์ แล้ว ยังแอบหลงรักเจ้านายอย่างธามอีกด้วย...เห็นได้ชัดว่า มันคงนำไปสู่ความสัมพันธ์อิรุงตุงนังของพิมพ์ขวัญ พลอยมณี จิม และธามแน่นอน
ข้อมูลที่พิมพ์ขวัญหามาได้และเป็นประโยชน์กับมุกมณีอย่างมากก็คือ เรื่องที่ชินกฤตชอบการแข่งขันเป็นอย่างยิ่ง เธอตระหนักในทันทีว่าวิธีที่รวดเร็วที่สุดในการทำให้ชินกฤตหันมาสนใจเธอ ก็คือการหาคู่แข่งให้เขา มุกมณีจึงบากหน้าไปข้อความช่วยเหลือจาก ปรเมศร์ (ณคุณ โรจนัย) เกย์หนุ่มผู้บริหารสตรีมมิ่งชื่อดังอย่าง ซีนทีวี ซึ่งในอดีตเคยแอ๊บแมนมาคบเธอเพื่อปกปิดเพศภาวะของตนเอง ให้มารับสมอ้างเป็นคนรักของเธออีกครั้ง แรกทีเดียวนั้นปรเมศร์ก็ไม่คิดจะทำตามคำขอของมุกมณี เพราะเขามี คามิน (อชิรวิชญ์ สุภาวิตา) เด็กหนุ่มเจ้าของร้านกาแฟเป็นคนรักอยู่แล้ว แต่ก็เป็นคามินนั่นเองที่บอกให้เขายอมช่วยเธอ เพราะเห็นว่าสามารถให้มุกมณีเป็นกันชน ไม่ให้ใครล่วงรู้สถานะของพวกเขาได้เช่นกัน
ทุกอย่างเป็นไปตามแผนของมุกมณี เพราะไม่ว่าชินกฤตจะพยายามปฏิเสธตนเองแค่ไหน และไม่ว่าตัวกวนใจอย่างดารินกับ วีว่า (เพียวฤดี พงษ์ประเสริฐ) ผู้ช่วยของเธอ รวมถึงศัตรูหัวใจอย่างนีรพัธจะพยายามเข้ามาวุ่นวายขัดขวางเพียงใด แต่ด้วยเทคนิคอันแพรวพราวเต็มไปด้วยลูกล่อลูกชนของมุกมณี ในเวลาไม่นานนักชินกฤตก็ตกหลุมรักมุกมณีอย่างไม่ทันรู้เนื้อรู้ตัว ขณะเดียวกันการได้เข้าไปใกล้ชิดสนิทสนม ก็ทำให้มุกมณีเผลอประทับใจในตัวชินกฤตอย่างไม่ทันตั้งตัวเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะเมื่อเธอได้รู้ว่า ก่อนหน้าที่จะได้มารู้จักกันนี้ เธอและเขาได้เฉียดใกล้กันมาหลายต่อหลายครั้งแล้ว ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่เธอเผชิญความเสียใจในวัยเด็ก หรือจะเป็นในยามที่เขาและเธอรับบทบาทสมมติในโลกไซเบอร์ก็ตาม ทั้งหมดนี้ทำให้มุกมณีซึ่งโดยปรกติไม่ใช่คนที่เชื่อในอำนาจที่มองไม่เห็น เริ่มตระหนักถึงพลังของพรหมลิขิตหรือบุพเพสันนิวาสขึ้นมา
มุกมณีไม่ได้เป็นคนเดียวที่ถูกความรักเล่นกล แต่ยังรวมถึงเพื่อนๆ และน้องสาวของเธอด้วย ขณะที่พลอยมณีคอยแอบปลื้มธามอยู่ห่างๆ พิมพ์ขวัญเองก็ต้องช่วยจิมที่แอบปลื้มพลอยมณีอยู่อีกที ให้สมหวังในความรักตามที่ได้ตกปากรับคำว่า แต่ไม่ว่าจะเล่นด้วยเล่ห์หรือเล่นด้วยกล ใช้ทั้งมนต์หรือแม้แต่หมอดู จิมก็ดูไม่มีทีท่าว่าจะสมหวังในความรัก แต่กลับทำให้พลอยมณีปักใจเชื่อว่าธามคือเนื้อคู่ของเธอด้วยซ้ำ จนเขาเริ่มท้อใจ พิมพ์ขวัญเองแม้จะชอบต่อปากต่อคำกับจิม แต่เมื่อเห็นเขาซึมเศร้าจึงอดไม่ได้ที่จะปลอบใจ โดยไม่ได้คิดมาก่อนว่ามันจะนำไปสู่การเผลอจูบ ที่ทำให้เธอเกิดอาการวาบหวิวหวั่นไหวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ส่วนเกล็ดดาวนั้น แม้จะเป็นฝั่งเป็นฝาไปแล้วแต่ก็ยังเจอเรื่องปวดหัว เมื่อเธอตกลงกับธัชไว้ว่าไม่ต้องการมีลูก แต่กลับจับได้ทีหลังว่าธัชวางแผนมัดมือชกจะทำให้เธอท้องให้ได้ เกล็ดดาวโกรธมากจนหอบผ้าหอบผ่อนย้ายออกจากบ้านธัช ร้อนถึงชินกฤตและมุกมณีที่ต้องวางแผนให้ทั้งสองกลับมาคืนดีกันอีกครั้ง นอกจากแผนนั้นจะสำเร็จด้วยดีแล้ว มันยังทำให้ทั้งคู่ได้รู้ความจริงว่า ในคืนแต่งงานของธัชและเกล็ดดาวนั้น มุกมณีและชินกฤตแค่จับพลัดจับผลูมานอนห้องเดียวกัน แต่ยังไม่มีอะไรเกินเลยแต่อย่างใด ถึงแม้จะยังไม่มีการล่วงล้ำทางร่างกาย แต่ในด้านหัวใจนั้น มุกมณีรู้ดีว่าเธอถูกรุกล้ำมามากพอตัว เธอพยายามดึงตัวเองให้กลับมาคิดเรื่องงาน และวางแผนเผด็จศึกชินกฤตด้วยการแสร้งมีปัญหากับปรเมศร์จนต้องเลิกรากัน เป็นการเปิดโอกาสให้ชินกฤตยอมเปิดเผยความในใจและขอคบหาเธออย่างเป็นทางการ
ทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่เธอตั้งใจไว้ เพราะหลังจากนั้นไม่นานนัก มุกมณีก็ได้มีโอกาสไปเยี่ยมบ้านของชินกฤต และเธอก็ไม่พลาดที่จะแอบขึ้นไปบนห้องส่วนตัวของเขาเพื่อหยิบฮาร์ดดิสก์ที่เธอคาดว่าเป็นของเอวา แม้จะเปิดดูไม่ได้เพราะมันเข้ารหัส แต่กระนั้นแผนของเธอก็ไม่ได้สูญเปล่า เมื่อเธอพบข้อมูลที่น่าสงสัยว่าครั้งหนึ่งชินกฤตเคยเป็นทนายแก้ต่างให้สินชัยในคดีล่วงละเมิดทางเพศเด็กสาวชื่อ นุชชี่ มุกมณีไม่เก็บความสงสัยไว้นาน เธอรีบตรงไปหา นพนภา แม่ของนุชชี่ซึ่งเป็นโจทย์ยื่นฟ้องในคดีดังกล่าว และได้ข้อมูลอันชวนอึ้ง เมื่อนพนภาด่าประณามชินกฤตสาดเสียเทเสีย อีกทั้งยังยืนยันความคิดตนเองว่าชินกฤตก็คงเลวไม่ต่างกับสินชัย ไม่งั้นคงไม่ยอมทำคดีให้สินชัยพ้นความผิดอุกฉกรรจ์ได้
คำยืนยันของนพนภาทำให้มุกมณีเกิดความสับสน เพราะถ้าหากเป็นจริง ก็เท่ากับชินกฤตสมรู้ร่วมคิดกับสินชัย และอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องในธุรกิจค้ากามภายใน โชว์ไทม์ ซึ่งทั้งหมดนั้นก็ดูจะสวนทางกับภาพลักษณ์แสนดีและรักความยุติธรรมแบบที่เธอเคยสัมผัส และทำให้เธอเริ่มหลงรักเขา แต่ในขณะที่มุกมณีกำลังสับสนอยู่นั้น เธอก็ไม่รู้ตัวเลยว่าความลับและแผนการของเธอก็กำลังจะถูกเปิดเผยเช่นกัน เมื่อนีรพัธที่ยังเฝ้าจับตามองมุกมณีมาตลอด ได้รับข้อมูลเรื่องที่ปรเมศร์เป็นเกย์จากดาริน มันทำให้เธอยิ่งสงสัยในจุดประสงค์ที่แท้จริงของมุกมณี หลังจากใช้เวลาขุดคุ้ยและปะติดปะต่อเรื่องราวไม่นานนัก นีรพัธก็เข้าใจความต้องการและแผนการของมุกมณีอย่างทะลุปรุโปร่ง ซึ่งเธอก็ไม่รอช้า วางแผนทำให้ ชินกฤตได้รู้เรื่องราวทั้งหมดด้วยตัวเอง ในวันที่เขากำลังรักมุกมณีอย่างสุดหัวใจ
ชินกฤตทั้งโกรธและผิดหวัง เพราะนอกจากเธอจะเอาความรักมาเป็นเครื่องมือและล้อเล่นกับหัวใจของเขาแล้ว สิ่งที่มุกมณีสงสัยเกี่ยวกับตัวเขาและธามเพื่อนรักของเขาก็ไม่เป็นจริงแม้แต่น้อย เขามั่นใจว่าเรื่องขายตัวใน โชว์ไทม์ เป็นสิ่งที่มุกมณีคิดเองเออเอง ขณะที่เรื่องที่เขาทำคดีให้สินชัยนั้น ก็เกิดขึ้นเพราะความไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมของเขา ที่หลงคิดไปว่าสินชัยเป็นผู้บริสุทธิ์ ซึ่งทันทีที่รู้ความจริง ชินกฤตก็คิดจะชดใช้ด้วยการช่วยสองแม่ลูกเอาผิดสินชัยอีกครั้ง แต่พวกเธอก็มีอคติกับเขาไปเสียแล้ว และนั่นก็เป็นสิ่งที่ทำให้เขาจงเกลียดจงชังสินชัยมาจนถึงทุกวันนี้
มุกมณีไม่พียงแต่จะถูกชินกฤตเมินใส่เท่านั้น แต่ธามยังห้ามไม่ให้เธอเข้ามาใน โชว์ไทม์ อีกเป็นอันขาด เพราะเกรงว่าเธอจะสร้างข่าวเสื่อมเสียให้บริษัทของเขา โดยหารู้ไม่ว่าสิ่งที่มุกมณีสงสัยนั่นเป็นความจริง มีการลักลอบส่งเด็กในสังกัดไปขายตัวจริงๆ และคนที่เป็นตัวการสำคัญก็คือคนในอย่างนีรพัธนั่นเอง ก่อนหน้านี้ธุรกิจลับๆ ของนีรพัธเคยเกือบถูกเอวาแฉมาแล้ว แต่เธอก็รอดมาได้ เพราะลูกน้องของสินชัยพลั้งมือฆ่าเอวาตายไปเสียก่อน นีรพัธจัดการอำพรางเรื่องนี้เป็นอย่างดี จนสินชัยนึกสงสัยอยู่เงียบๆว่าทำไมคนอย่างเธอต้องลงมาคลุกคลีกับเรื่องสกปรกเหล่านี้ อีกทั้งเธอยังกระตือรือร้นที่จะเข้าพบและทำความรู้จักกับ ท่าน ผู้มีอิทธิพลและคอยคุ้มครองเขามาตลอดอีกด้วย
มุกมณีเกือบถอดใจจากเรื่องนี้ หากไม่ใช่เพราะพิมพ์ขวัญหาคนถอดรหัสฮาร์ดดิสก์ของเอวามาจนได้ พวกเธอรีบเปิดดูข้อมูลในนั้นและพบหลักฐานรูปถ่ายที่ชี้ชัดว่ามีนักแสดงในสังกัด โชว์ไทม์ ทั้งอดีตและปัจจุบันเข้าไปขายตัวในโรงแรมของสินชัยจริงๆ แต่ยังไม่ทันได้ดูข้อมูลจนครบถ้วน ชินกฤตที่เพิ่งรู้ตัวว่ามุกมณีหยิบฮาร์ดดิสก์นั้นมาจากบ้านของเขา ก็ตามมาทวงมันคืนเสียก่อน และนำมาสู่เหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวายที่ทำให้ฮาร์ดดิสก์อันนั้นตกแตกเสียหาย สถานการณ์กลับตาลปัตร คราวนี้มุกมณีเป็นฝ่ายโกรธชินกฤตบ้าง เพราะเธอคิดว่าเขาจงใจทำฮาร์ดดิสก์นั้นพังเพื่อปกปิดและทำลายหลักฐานเรื่องการขายตัวในบริษัทของเขา ซึ่งชินกฤตก็ต้องหาทางง้อและพิสูจน์ตัวเองว่าเขาก็เพิ่งรู้เรื่องนี้อยู่พักใหญ่ กว่ามุกมณีจะยอมเปิดใจให้เขาเข้ามาช่วยเหลือ แม้คราวนี้จะเตือนตัวเองว่าให้คิดเพียงเรื่องงาน ไม่มีเรื่องหัวใจมาปะปนก็ตาม
ทั้งสองวางแผนล่อ บีน่า เด็กในสังกัด โชว์ไทม์ ที่มีหลักฐานชี้ชัดว่าขายตัว มาคาดคั้นหาคำตอบว่าใครคือหนอนบ่อนไส้ในบริษัทที่คอยส่งเด็กให้สินชัย แต่บีน่าก็ให้คำตอบพวกเขาไม่ได้ เพราะเธอ รวมทั้งเด็กคนอื่นๆที่ขายตัวไม่เคยเจอหน้าคนที่เธอเรียกว่า คนกลาง หรือ มิสเจ เลย ได้แต่เพียงติดต่อกันทางโทรศัพท์เท่านั้น อย่างไรก็ตามเธอก็ได้ให้ข้อมูลว่า สินชัยเก็บหลักฐานเกี่ยวกับธุรกิจค้ากามของเขาไว้ในคอมพิวเตอร์ในห้องทำงานที่โรงแรม มุกมณีและชินกฤตจึงวางแผนปลอมตัวเป็นเชฟเข้าไปทดสอบฝีมือทำอาหาร และล่วงข้อมูลทั้งหมดออกมาจนได้
ความสำเร็จในภารกิจที่ทำร่วมกัน ทำให้มุกมณีและชินกฤตกลับมารู้สึกดีๆ ต่อกันอีกครั้ง แต่กระนั้นก็ยังตั้งท่าปฏิเสธหัวใจตนเอง จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ทั้งสองรู้ว่า เมื่อหลายปีก่อนพวกเขาเคยคุยและประทับใจกันทางโทรศัพท์มาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อมุกมณีโทรไปหาทนายเพื่อปรึกษาเรื่องฟ้องหย่าของพ่อกับแม่ และเธอก็เพิ่งรู้ว่าทนายที่เธอคุยด้วยวันนั้นก็คือชินกฤตนี่เอง ถึงตอนนี้ ทั้งสองจึงไม่อาจปฏิเสธพรหมลิขิตที่กำหนดให้มาคู่กันได้อีกต่อไป พวกเขาต่างปล่อยตัวปล่อยใจให้ความสัมพันธ์แนบแน่นยิ่งกว่าเดิม แต่มุกมณีกับชินกฤตก็ไม่ใช่คู่เดียวที่ความสัมพันธ์ก้าวไปอีกขั้น เพราะหลังจากที่พลอยมณีเปิดใจสารภาพรักกับธามและต้องผิดหวังมาแล้ว เธอก็เริ่มหันมาเห็นความดีงามที่จิมเพียรทำให้เธอ ก่อนจะยอมเปิดใจลองคบกับเขา ซึ่งทำให้พิมพ์ขวัญที่เผลอใจหวั่นไหวไปกับเขา ได้แต่เก็บซ่อนความรู้สึกเอาไว้
แต่ทุกอย่างก็ยังไม่ถึงจุดแฮปปี้เอนดิ้ง พวกเขาดีใจได้เพียงแค่ข้ามคืน ก็ต้องตื่นมาพบข่าวร้ายว่าสินชัยใช้เส้นสายของ ท่าน ทำให้ไม่มีใครเอาผิดธุรกิจค้ากามของเขาได้ มิหนำซ้ำยังมาขู่มุกมณีว่าจะฟ้องเรียกค่าเสียหายถ้าเธอนำเรื่องนี้ไปทำเป็นข่าว มุกมณีและชินกฤตจำต้องถอยออกมาจากสินชัย และพุ่งเป้าไปที่การตามล่าและกระชากหน้ากาก คนกลาง แทน พวกเขาขอความร่วมมือกับลูกพี่ลูกน้องของปรเมศร์ที่เคยเป็นลูกค้าของสินชัย ให้ล่อ"คนกลาง"ออกมาพบ แต่อีกฝ่ายกลับรู้ทันเสียก่อน มิหนำซ้ำยังโทรมาบอกให้มุกมณีหยุดตามเรื่องของเธอ ไม่เช่นนั้นคนรอบตัวเธอจะเดือดร้อน คนกลาง ไม่ได้แค่ขู่ แต่ทำให้ดูเป็นตัวอย่างด้วยการนำเรื่องที่ปรเมศร์เป็นเกย์ไปแฉให้สังคมรับรู้ จนทำให้ปรเมศร์และคามินตัดสินใจย้ายไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศ มุกมณีเสียใจที่ทำให้พวกเขาเดือดร้อน แต่ปรเมศร์ก็ไม่ได้โทษเธอ แถมยังบอกให้เธอสู้ต่อไป มุกมณีจึงตั้งใจที่จะขุดคุ้ยเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด และไม่นานนักเธอก็ได้รับเบาะแสสำคัญ
เมื่อพิมพ์ขวัญเห็นว่าแก้วคริสตัลที่ญาติปรเมศร์ได้รับเป็นของสมนาคุณจาก คนกลาง นั้น เหมือนกับที่เธอเคยเห็นนีรพัธถืออยู่ไม่มีผิดเพี้ยน มุกมณีที่สงสัยนีรพัธมาได้พักใหญ่ ค่อนข้างมั่นใจว่านีรพัธนี่แหละคือคนกลาง เธอจึงเข้าไปสืบประวัติของอีกฝ่าย ก่อนจะรู้ว่าครอบครัวที่นีรพัธอาศัยอยู่ด้วยนั้นไม่ใช่แม่แท้ๆ มุกมณีเริ่มสงสัยในตัวตนและวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของนีรพัธ พร้อมๆ กับที่ฝ่ายไอทีของ โชว์ไทม์ กู้ข้อมูลในฮาร์ดดิสก์ของเอวาได้อีกครั้ง ซึ่งมุกมณีก็ได้เห็นข้อมูลส่วนที่เธอยังไม่ทันได้ดูในคราวก่อน และพบว่ามีข้อมูลของผู้หญิงที่ชื่อ พัดชา (มารีน่า บาเล็นซิเอก้า) ซึ่งชินกฤตบอกว่าเป็นคนที่เขาเคยรู้จัก โดยไม่ยอมบอกรายละเอียดมากกว่านั้น ยิ่งสร้างความคลุมเครือให้กับมุกมณี
ฝ่ายนีรพัธเองเมื่อรู้ตัวว่าทุกคนเริ่มสงสัย เธอก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ เธอเร่งให้สินชัยพาเธอเข้าไปพบ ท่าน ของเขา ซึ่งยิ่งทำให้เขาเกิดความระแวงสงสัย จึงลองใจด้วยการบอกให้นีรพัธทำลาย โชว์ไทม์ ให้เขาดู เพื่อแสดงให้เห็นว่าเธอจงรักภักดีต่อเขาจริงๆ นีรพัธหนักใจมาก เพราะเธอไม่ได้ตั้งใจทำร้ายใครขนาดนั้น อีกทั้งเธอก็ยังรักชินกฤตอยู่ แต่เมื่อรู้ข่าวว่ามุกมณีได้ย้ายเข้าไปใช้ชีวิตร่วมกับชินกฤต เธอจึงรู้ตัวว่าไม่มีหวังในตัวเขาแล้ว นีรพัธจึงตัดสินใจลาออกจาก โชว์ไทม์ พร้อมกับทิ้งระเบิดใส่ความธามว่าเป็นเอเจนซี่จัดหาเด็กไปปรนเปรอคนใหญ่คนโต ขณะที่ธามวิ่งวุ่นแก้ปัญหาของตนเองนั้น ชินกฤตก็พบหลักฐานจากรูปถ่ายที่บ่งชี้ว่านีรพัธกับพัดชาอาจจะเป็นคนเดียวกัน พร้อมทั้งเล่าเรื่องของผู้หญิงคนนี้ให้มุกมณีฟังว่า เธอเป็นเพื่อนในคณะที่ค่อนข้างเก็บตัวและไม่มีเพื่อนนัก ชินกฤตสงสารจึงเข้าไปให้ความสนิทสนม พัดชาเรียนเก่งจึงช่วยติวให้ชินกฤต จนเขาสอบชิงทุนไปเรียนต่างประเทศได้ ซึ่งคืนก่อนที่เขาจะบินนั้นตรงกับวันเกิดของพัดชาพอดี เขาสัญญาณว่าจะไปฉลองวันเกิดกับครอบครัวของเธอ ซึ่งพัดชาก็ให้ที่อยู่มาแล้ว
แต่สินชัยซึ่งในตอนนั้นยังเป็นรุ่นพี่ที่เขาให้ความเกรงใจ กลับลากเขาไปเลี้ยงฉลองจนเขาเมามาย ตื่นมาอีกทีก็รุ่งเข้า และต้องเตรียมบินแล้ว จนกระทั่งเขาไปถึงต่างประเทศแล้วนั่นเอง จึงได้รู้ว่าคืนนั้นสินชัยพาพรรคพวกบุกไปทำร้ายครอบครัวพัดชาทั้งยังปู้ยี่ปู้ยำเธอ และเธอก็เข้าใจผิดว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เมื่อรู้เช่นนั้น มุกมณีก็พยายามเข้าไปคาดคั้นความจริงจากนีรพัธ แต่เธอก็บ่ายเบี่ยงไม่ยอมรับ ขณะเดียวกัน สินชัยก็รู้ความจริงว่านีรพัธคือคนเดียวกับพัดชา เขาจึงวางแผนหลอกเธอว่าจะพาไปทำความรู้จักกับท่าน เคราะห์ดีที่นีรพัธรู้ตัวเสียก่อน เธอหนีออกมาได้ ก่อนจะถูกรถชนจนได้รับบาดเจ็บ นีรพัธได้รับการช่วยเหลือจากชินกฤตและมุกมณี เธอจึงยอมเล่าความจริงทั้งหมดให้พวกเขาฟังว่า เมื่อสิบปีก่อนนั้น พ่อเธอซึ่งเป็นทนาย ตั้งใจจะแฉเรื่องการคอรัปชั่นที่เมืองทองแห่งหนึ่ง จนถูกหมายหัวจากผู้มีอิทธิพลรายหนึ่ง ที่ส่งสินชัยและพรรคพวกมาทำลายหลักฐานและจัดการพ่อของเธอ โชคดีที่เธอและแม่หนีออกมาได้ ทั้งสองพยายามเรียกร้องความยุติธรรม
แต่เมื่อไม่เกิดผลใดๆ จึงตัดสินใจไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่อเมริกา แต่ความแค้นที่สั่งสมในอก ทำให้พัดชาตัดสินใจผ่าตัดแปลงโฉมเป็นนีรพัธ และกลับมาเมืองไทย เพื่อแก้แค้นสินชัยและชินกฤต แต่ไม่นานนักเธอก็รู้ว่าชินกฤตไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งยังรู้ว่าตัวการใหญ่คือ ท่าน ของสินชัย เธอจึงแฝงตัวเข้าไปเป็นคนส่งเด็กให้สินชัย เพื่อหาคำตอบว่าท่านของสินชัยคือใครนั่นเอง มุกมณีและชินกฤตตกลงที่จะช่วยนีรพัธหาคำตอบนั้น ประจวบเหมาะพอดีกับที่ช่อผกา อดีตคู่หมั้นของธามกลับมาเมืองไทย และเปรยๆว่าเคยเห็นสินชัยแวะไปบ้าน ท่านสุรชิต (สุเชาว์ พงษ์วิไล)ซึ่งเป็นอดีตนักการเมืองผู้ทรงอิทธิพลและเป็นลุงของเพื่อนเธออยู่บ่อยๆ พวกเขาจึงสันนิษฐานว่านี่อาจจะเป็นท่านของสินชัยจริงๆ
นั่นไม่ใช่สันนิษฐานที่ผิดเลย สุรชิตคือท่านของสินชัยจริงๆ แต่ด้วยอุบัติเหตบางอย่างทำให้ตอนนี้ท่านสุรชิตนอนเป็นผักอยู่บนเตียงไม่มีฤทธิ์เดชใดๆ อีก ซึ่งสร้างความกลุ้มใจให้กับสินชัยเป็นอย่างยิ่ง เพราะเท่ากับไม่มีใครมาคุ้มกะลาหัวเขาแล้วนั่นเอง สินชัยพยายามปกปิดเรื่องนี้ให้นานที่สุด หารู้ไม่ว่าพวกชินกฤตวางแผนเปิดโปงทุกอย่างไว้หมดแล้ว ในที่สุดทุกอย่างก็ถูกเปิดเผยออกมา หลักฐานการทุจริตที่ท่านสุรชิตทำไว้ร่วมกับสินชัยถูกเปิดโปง เขาต้องติดคุกขณะที่ครอบครัวของนีรพัธก็พ้นมลทิน โดยที่เธอยอมรับความผิดตามกฎหมายทั้งหมดทุกอย่างลงเอยด้วยดี รวมถึงเรื่องของมุกมณีและชินกฤต ที่สุดท้ายก็ได้แต่งงานกันเสียที ไม่ผิดไปจากที่บุพเพได้ร้อยเรียงมาไว้เลย