ละคร เจ้าหญิงหลงยุค
ดู 2,557 ครั้ง /
แชร์
ละครออกอากาศ | วันเสาร์ วันอาทิตย์ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ช่องที่ออกอากาศ | ละครช่อง 9 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เริ่มออกอากาศ | 16 เมษายน 2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เวลาออกอากาศ | 18:00 - 19:00 น. |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
กำกับโดย | ราเมศ เรืองประทุม | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ประพันธ์โดย | ราเมศ เรืองประทุม | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
นำแสดงโดย | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ผู้สร้าง | บริษัท ไผ่ร้อยกอโปรดักชั่น จำกัด |
ภาพนิ่งจากละคร
เรื่องย่อ เจ้าหญิงหลงยุค
ณ เมืองมรกต ดินแดนที่เต็มไปด้วยความศิวิไลซ์ หากแต่ได้มีความลับบางอย่างซ่อนอยู่ เมื่อ เจ้าหญิงกรรณิกาเกสร (ปวีณสุดา ดรูอิ้น) พระธิดาแห่ง เจ้าอ้ายคำตัน เจ้าผู้ครองนครมรกตเกิดหายตัวไปอย่างลึกลับ ก่อนที่เจ้าชายตืนสางจพระโอรสของเจ้าอ้ายกาไสย เจ้าผู้ครองพุกามนคร จะมาทาบทามสู่ขอ ขณะเดียวกัน ที่กรุงเทพฯกลับพบหญิงสาวในชุดไทยโบราณกลางเวทีคณะลิเกเทพเมธาของ เมธา (ชูเกียรติ เอี่ยมสุข) เจ้าของคณะลิเกชื่อดัง ขณะที่สายป่านและมงคลนักแสดงลิเกกำลังแสดงบนเวทีอยู่ โดยมี สน (ธนภณ โอภาสธัญกร) และ เมย์ (กัญกนิษฐ์ มั่งมี) เป็นนักแสดงสมทบ หญิงสาวผู้นี้ใบหน้าเหมือนเจ้าหญิงกรรณิกาเกสรไม่ผิดเพี้ยน ด้วยความตกใจที่เธอมาอยู่ที่นี่ทำให้เธอวิ่งหนีฝูงชนที่พากันแตกตื่นกับหญิงสาวชุดไทยกลางเวทีลิเกแห่งนี้
จนกระทั่ง รัฐ (วโรดม เข็มมณฑา) หนุ่มเจ้าของบริษัทโฆษณาชื่อดัง ลูกชาย พัชรี (รุ่งรัตน์ ดวงขวัญ) เจ้าของตลาดใหญ่แห่งนี้ขับรถมาหาแม่ของเขา เกิดเห็นหญิงสาวชุดไทยวิ่งตัดหน้ารถพอดี เขาจึงเบรกรถก่อนที่จะชนร่างของเธอ หากแต่หญิงสาวผู้นี้กลับบอกว่าเธอคือ เจ้าหญิงกรรณิกาเกสร ที่เดินทางมาที่นี่หลังจากอธิษฐานกับดอกไม้โลหะโบราณที่ได้จากชาวบ้านลึกลับในตลาดเมืองมรกต รัฐจำเป็นต้องพาตัวเธอกลับมาที่บ้าน เพราะกังวลว่ากรรณิกาเกสรจะความจำเสื่อมจากเหตุรถชนเมื่อกี้ เมื่อมาถึงที่บ้านกรรณิกาเกสรจึงได้รู้จักกับ พัชรี แม่ของรัฐ พีพี (ณฐมณฑ์ งามกนก) น้องสาวของเขา รวมไปถึง พัชรา (อริยา บัวคง) อ้ำอ้ำ (ช่อว่าน คำพันธุ์) อุ้มอุ้ม (ใบเฟิร์น คำพันธุ์) น้าสาวและน้องๆ ของเขาอีกด้วย
พัชรีได้รู้จักกับกรรณิกาเกสรก็รู้สึกเอ็นดูในความน่ารักของเธอ แม้จะแปลกใจกับความไร้เดียงสาอย่างสุดโต่งที่ถึงขั้นแทบไม่รู้จักข้าวของเครื่องใช้ทุกอย่าง อีกทั้งคำพูดคำจาของเธอยังผิดแผกไปจากคนทั่วไปอีกด้วย พีพีเห็นกรรณิกาเกสรที่ดูไม่ปกติจึงพยายามช่วยแนะนำเธอในทุกๆ เรื่อง จนกรรณิกาเกสรเริ่มปรับตัวในเมืองกรุงเทพแห่งนี้ได้อย่างกลมกลืนมากขึ้น แต่ใครจะรู้ว่าการหลงยุคมาอยู่ที่กรุงเทพของเจ้าหญิงกรรณิกาเกสรนั้นกลับมีเรื่องที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้น เมื่อลูกค้าของบริษัทรัฐ เกิดถูกใจกรรณิกาเกสรและอยากให้มาเป็นนางแบบโฆษณาสินค้าให้เขา ทำเอา ราเมศ (สุทธิพงษ์ นาคแดง) ผู้กำกับโฆษณา พ่วงตำแหน่งหุ้นส่วนของรัฐถึงกับต้องออกปากขอร้องให้รัฐติดต่อกรรณิกาเกสรมาถ่ายแบบหนังโฆษณาตัวนี้ให้ได้
ด้านกรรณิกาเกสรที่ในตอนนี้มืดแปดด้านไปหมด ที่พึ่งเดียวของเธอก็คือครอบครัวของรัฐ ทำให้เธอตกปากรับคำยอมถ่ายแบบโฆษณาให้รัฐแลกกับการที่รัฐจะพยายามหาทางพาเธอกลับเมืองมรกตให้ได้ แต่การรับงานนี้กลับกลายเป็นการสร้างศัตรูให้กับเธอนั่นคือ พอลล่า (สุษิรา แอนจิลีน่า) นางแบบสาว ผู้แอบชอบรัฐ และหวังพึ่งรัฐในการหางานให้กับเธอ โดยมี โชเบ (อาทิชา ธนาถิรายุส) เป็นผู้จัดการส่วนตัวที่พร้อมจะเป็นมือเป็นเท้าให้เธอในทุกๆ เรื่อง ทันทีที่พอลล่าถูกยกเลิกงานโดยมีกรรณิกาเกสรมาเสียบแทนก็ทำให้พอลล่าไม่พอใจและหาเรื่องกลั่นแกล้งกรรณิกาเกสร หากแต่รัฐ กลับเป็นคนคอยปกป้องกรรณิกาเกสรอยู่เสมอ มิหนำซ้ำเขายังพากรรณิกาไปรู้จักที่ต่างๆ ในเมืองไทย ราวกับเป็นการเปิดโลกใบใหม่ให้กับกรรณิกาเกสรอีกด้วยและด้วยความใกล้ชิดนี่เองที่ทำให้รัฐและกรรณิกาเกสรเริ่มรู้สึกดีต่อกัน
จนกระทั่งวันหนึ่ง ทั้งสองคนได้ไปเห็นร้านขายของโบราณแห่งหนึ่งเข้า ขณะที่รับได้เจอกริชโบราณที่เปล่งแสงสว่างออกมาทำให้เขาแปลกใจว่า กริชเล่มนี้เกี่ยวข้องอะไรกับเขา ขณะที่กรรณิกาเกสรก็ได้รู้จักกับ สุธี (พิเชษฐ์ เปรียบยอดยิ่ง) ลูกชายของ เธียร (ปรีชา เกตุคำ) เจ้าของร้านขายของโบราณแห่งนี้ มิหนำซ้ำเธียรยังมีข้าวของโบราณจากเมืองมรกตเมื่อ 500 ปี ก่อนอยู่ในร้านอยู่หลายชิ้น รวมไปถึงหนังสือประวัติเมืองมรกต ที่ท้ายเล่มได้บอกเล่าประวัติของเจ้าหญิงกรรณิกาเกสรที่หายตัวไป ทำให้กรรณิกาเกสรรู้ว่าเขาทั้งสองคือผู้ที่จะช่วยเธอให้เดินทางกลับเมืองมรกตได้ หากแต่สุธีเมื่อได้รู้จักกับกรรณิกาเกสรกลับคิดการใหญ่ว่าหากเขาพากรรณิกาเกสรเดินทางกลับเมืองมรกตเขาจะขอรางวัลจากเจ้าอ้ายคำตันเป็นทรัพย์สินเงินทองมากมายมาเป็นของตอบแทน สุธีจึงพากรรณิกาเกสรไปพบกับ พ่อหมอ (พยัพ คำพันธุ์) ชายลึกลับที่ล่วงรู้อดีตของเธอเป็นอย่างดี พ่อหมอได้เจอกรรณิกาเกสรก็พยายามหาทางช่วยให้เธอได้เดินทางกลับเมืองมรกต แต่กลับพบว่า การเดินทางกลับไปเมืองมรกตไม่ง่ายอย่างที่คิด
ขณะที่รัฐรู้สึกไม่ไว้ใจสุธี ก็พยายามขัดขวางเขาและหาทางที่จะช่วยกรรณิกาเกสรด้วยตัวเอง จนในที่สุดเขาก็ได้คำตอบว่า เขามีใบหหน้าเหมือนกับ รามเทพ องครักษ์ของกรรณิกาเกสรไม่ผิดเพี้ยน เบาะแสเรื่องการเดินทางข้ามเวลาของกรรณิกาเกสรค่อยๆ ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับความแค้นใจของพอลล่าที่วางแผนทำร้ายร่างกายกรรณิกาเกสรจนถึงกับขับรถเฉี่ยวเธอทำให้กรรณิกาเกสรไม่สามารถรับงานอีกได้ หากแต่รัฐ ราเมศ พีพี กลับจับได้ว่าเป็นฝีมือพอลล่า ทำให้พอลล่ายิ่งตกที่นั่งลำบากเมื่อไม่มีใครจ้างงานเธออีกเลย ด้านสุธีหลังจากที่ได้รู้จักกรรณิกาเกสรมากขึ้นก็เริ่มคิดการใหญ่กว่าเดิมหวังจะเป็นราชบุตรเขยของเจ้าอ้ายคำตันเสียเอง ทำให้เธียรคิดว่าต้องหาทางขัดขวางลูกชาย เขาจึงยอมเปิดเผยความจริงว่า เขามีดอกไม้โลหะอีกดอก และเขาเคยเดินทางข้ามเวลาระหว่างเมืองมรกตมาก่อน นั่งคือเหตุผลที่ทำให้ร้านของเขามีของใช้โบราณในยุคของเมืองมรกตมากมายและยังล่วงรู้ความลับของเจ้าหญิงที่หายตัวไปอีกด้วย
จนกระทั่ง รัฐ (วโรดม เข็มมณฑา) หนุ่มเจ้าของบริษัทโฆษณาชื่อดัง ลูกชาย พัชรี (รุ่งรัตน์ ดวงขวัญ) เจ้าของตลาดใหญ่แห่งนี้ขับรถมาหาแม่ของเขา เกิดเห็นหญิงสาวชุดไทยวิ่งตัดหน้ารถพอดี เขาจึงเบรกรถก่อนที่จะชนร่างของเธอ หากแต่หญิงสาวผู้นี้กลับบอกว่าเธอคือ เจ้าหญิงกรรณิกาเกสร ที่เดินทางมาที่นี่หลังจากอธิษฐานกับดอกไม้โลหะโบราณที่ได้จากชาวบ้านลึกลับในตลาดเมืองมรกต รัฐจำเป็นต้องพาตัวเธอกลับมาที่บ้าน เพราะกังวลว่ากรรณิกาเกสรจะความจำเสื่อมจากเหตุรถชนเมื่อกี้ เมื่อมาถึงที่บ้านกรรณิกาเกสรจึงได้รู้จักกับ พัชรี แม่ของรัฐ พีพี (ณฐมณฑ์ งามกนก) น้องสาวของเขา รวมไปถึง พัชรา (อริยา บัวคง) อ้ำอ้ำ (ช่อว่าน คำพันธุ์) อุ้มอุ้ม (ใบเฟิร์น คำพันธุ์) น้าสาวและน้องๆ ของเขาอีกด้วย
พัชรีได้รู้จักกับกรรณิกาเกสรก็รู้สึกเอ็นดูในความน่ารักของเธอ แม้จะแปลกใจกับความไร้เดียงสาอย่างสุดโต่งที่ถึงขั้นแทบไม่รู้จักข้าวของเครื่องใช้ทุกอย่าง อีกทั้งคำพูดคำจาของเธอยังผิดแผกไปจากคนทั่วไปอีกด้วย พีพีเห็นกรรณิกาเกสรที่ดูไม่ปกติจึงพยายามช่วยแนะนำเธอในทุกๆ เรื่อง จนกรรณิกาเกสรเริ่มปรับตัวในเมืองกรุงเทพแห่งนี้ได้อย่างกลมกลืนมากขึ้น แต่ใครจะรู้ว่าการหลงยุคมาอยู่ที่กรุงเทพของเจ้าหญิงกรรณิกาเกสรนั้นกลับมีเรื่องที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้น เมื่อลูกค้าของบริษัทรัฐ เกิดถูกใจกรรณิกาเกสรและอยากให้มาเป็นนางแบบโฆษณาสินค้าให้เขา ทำเอา ราเมศ (สุทธิพงษ์ นาคแดง) ผู้กำกับโฆษณา พ่วงตำแหน่งหุ้นส่วนของรัฐถึงกับต้องออกปากขอร้องให้รัฐติดต่อกรรณิกาเกสรมาถ่ายแบบหนังโฆษณาตัวนี้ให้ได้
ด้านกรรณิกาเกสรที่ในตอนนี้มืดแปดด้านไปหมด ที่พึ่งเดียวของเธอก็คือครอบครัวของรัฐ ทำให้เธอตกปากรับคำยอมถ่ายแบบโฆษณาให้รัฐแลกกับการที่รัฐจะพยายามหาทางพาเธอกลับเมืองมรกตให้ได้ แต่การรับงานนี้กลับกลายเป็นการสร้างศัตรูให้กับเธอนั่นคือ พอลล่า (สุษิรา แอนจิลีน่า) นางแบบสาว ผู้แอบชอบรัฐ และหวังพึ่งรัฐในการหางานให้กับเธอ โดยมี โชเบ (อาทิชา ธนาถิรายุส) เป็นผู้จัดการส่วนตัวที่พร้อมจะเป็นมือเป็นเท้าให้เธอในทุกๆ เรื่อง ทันทีที่พอลล่าถูกยกเลิกงานโดยมีกรรณิกาเกสรมาเสียบแทนก็ทำให้พอลล่าไม่พอใจและหาเรื่องกลั่นแกล้งกรรณิกาเกสร หากแต่รัฐ กลับเป็นคนคอยปกป้องกรรณิกาเกสรอยู่เสมอ มิหนำซ้ำเขายังพากรรณิกาไปรู้จักที่ต่างๆ ในเมืองไทย ราวกับเป็นการเปิดโลกใบใหม่ให้กับกรรณิกาเกสรอีกด้วยและด้วยความใกล้ชิดนี่เองที่ทำให้รัฐและกรรณิกาเกสรเริ่มรู้สึกดีต่อกัน
จนกระทั่งวันหนึ่ง ทั้งสองคนได้ไปเห็นร้านขายของโบราณแห่งหนึ่งเข้า ขณะที่รับได้เจอกริชโบราณที่เปล่งแสงสว่างออกมาทำให้เขาแปลกใจว่า กริชเล่มนี้เกี่ยวข้องอะไรกับเขา ขณะที่กรรณิกาเกสรก็ได้รู้จักกับ สุธี (พิเชษฐ์ เปรียบยอดยิ่ง) ลูกชายของ เธียร (ปรีชา เกตุคำ) เจ้าของร้านขายของโบราณแห่งนี้ มิหนำซ้ำเธียรยังมีข้าวของโบราณจากเมืองมรกตเมื่อ 500 ปี ก่อนอยู่ในร้านอยู่หลายชิ้น รวมไปถึงหนังสือประวัติเมืองมรกต ที่ท้ายเล่มได้บอกเล่าประวัติของเจ้าหญิงกรรณิกาเกสรที่หายตัวไป ทำให้กรรณิกาเกสรรู้ว่าเขาทั้งสองคือผู้ที่จะช่วยเธอให้เดินทางกลับเมืองมรกตได้ หากแต่สุธีเมื่อได้รู้จักกับกรรณิกาเกสรกลับคิดการใหญ่ว่าหากเขาพากรรณิกาเกสรเดินทางกลับเมืองมรกตเขาจะขอรางวัลจากเจ้าอ้ายคำตันเป็นทรัพย์สินเงินทองมากมายมาเป็นของตอบแทน สุธีจึงพากรรณิกาเกสรไปพบกับ พ่อหมอ (พยัพ คำพันธุ์) ชายลึกลับที่ล่วงรู้อดีตของเธอเป็นอย่างดี พ่อหมอได้เจอกรรณิกาเกสรก็พยายามหาทางช่วยให้เธอได้เดินทางกลับเมืองมรกต แต่กลับพบว่า การเดินทางกลับไปเมืองมรกตไม่ง่ายอย่างที่คิด
ขณะที่รัฐรู้สึกไม่ไว้ใจสุธี ก็พยายามขัดขวางเขาและหาทางที่จะช่วยกรรณิกาเกสรด้วยตัวเอง จนในที่สุดเขาก็ได้คำตอบว่า เขามีใบหหน้าเหมือนกับ รามเทพ องครักษ์ของกรรณิกาเกสรไม่ผิดเพี้ยน เบาะแสเรื่องการเดินทางข้ามเวลาของกรรณิกาเกสรค่อยๆ ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับความแค้นใจของพอลล่าที่วางแผนทำร้ายร่างกายกรรณิกาเกสรจนถึงกับขับรถเฉี่ยวเธอทำให้กรรณิกาเกสรไม่สามารถรับงานอีกได้ หากแต่รัฐ ราเมศ พีพี กลับจับได้ว่าเป็นฝีมือพอลล่า ทำให้พอลล่ายิ่งตกที่นั่งลำบากเมื่อไม่มีใครจ้างงานเธออีกเลย ด้านสุธีหลังจากที่ได้รู้จักกรรณิกาเกสรมากขึ้นก็เริ่มคิดการใหญ่กว่าเดิมหวังจะเป็นราชบุตรเขยของเจ้าอ้ายคำตันเสียเอง ทำให้เธียรคิดว่าต้องหาทางขัดขวางลูกชาย เขาจึงยอมเปิดเผยความจริงว่า เขามีดอกไม้โลหะอีกดอก และเขาเคยเดินทางข้ามเวลาระหว่างเมืองมรกตมาก่อน นั่งคือเหตุผลที่ทำให้ร้านของเขามีของใช้โบราณในยุคของเมืองมรกตมากมายและยังล่วงรู้ความลับของเจ้าหญิงที่หายตัวไปอีกด้วย