ละคร พยัคฆ์ยี่เก
ดู 2,294 ครั้ง /
แชร์
ละครออกอากาศ | วันจันทร์ วันอังคาร วันพุธ วันพฤหัส วันศุกร์ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ช่องที่ออกอากาศ | ละครช่อง 7 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เริ่มออกอากาศ | 28 กุมภาพันธ์ 2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เวลาออกอากาศ | 18:45 - 19:45 น. |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
กำกับโดย | ทองก้อน ศรีทับทิม | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ประพันธ์โดย | บทประพันธ์ มิสเตอร์เค, บทโทรทัศน์ มิสเตอร์เค, โจ้ สิงห์เดี่ยว | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
นำแสดงโดย | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ผู้สร้าง | บริษัท โคลีเซี่ยม อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด |
ภาพนิ่งจากละคร
เรื่องย่อ พยัคฆ์ยี่เก
เรื่องราวของศิลปินกลุ่มเล็กๆ ซึ่งยึดการแสดงลิเกเป็นอาชีพแม้ความนิยมของคนดูจะลดน้อยถอยลง แต่พวกเขายังคงต่อสู้ดิ้นรน เพื่อความอยู่รอดของคณะแต่เมื่อคณะลิเกเข้าไปพัวพัน กับการปล้นเพชรครั้งยิ่งใหญ่โดยไม่ตั้งใจ จึงนำเรื่องวุ่นวายและความตายมาสู่คนในคณะลิเก
บุญเอก อัมรินทร์ (วิชญพงศ์ เอี่ยมสะอาด) หัวหน้าคณะลิเกพระเอกเสียงมนต์เสก บุญเอก อัมรินทร์ ได้นำเอาวิทยาการสมัยใหม่ รวมทั้งเพลงลูกทุ่งที่กำลังอยู่ในความนิยม เข้ามาผสมผสานในการแสดงบนเวที เพื่อสร้างความตื่นตา ตื่นใจให้คนดู โดยมีอินทิรา อัมรินทร์ (ธนัชศลักษณ์ ฮัดสัน) น้องสาววัยใสของบุญเอก ซึ่งที่มีทั้งความสวยและความน่ารักเป็นนางเอกประจำคณะ ลิเกไฮเทคของบุญเอก อัมรินทร์ ไปแสดงที่ไหนมักจะมีบรรดาแม่ยก แห่ตามกันมาดูขวัญใจของตน โดยเฉพาะ นวล (บัวผัน ทังโส) ภรรยาของ กำนันเทิด (เอกพัน บันลือฤทธิ์) ผู้มีอิทธิพลถึงแม้กำนันเทิดจะไม่พอใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะเกรงใจและกลัวเมียจึงส่ง ทำนุ (สุทธิ์คุณ วันทานุ) ลูกชายวัยรุ่นที่กำลังสร้างอิทธิพลแข่งกับพ่อตามไปก่อกวน แต่ทำนุกลับมาถูกใจ อินทิรา จนไม่กล้าป่วนแถม ทับทิม (มาริสา โชลล์) น้องสาวคนสวยของทำนุกลับไปหลงใหลบุญเอกแข่งกับแม่กำนันเทิดจึงชอกช้ำเป็นทวีคูณ
บุญเอก ยังมีลิเกคู่แข่งอีกคณะหนึ่งคือ อนุชิต ศิษย์สำราญ (ชลพิพรรธน์ ชูแสง) โดยมี น้ำอ้อย (จิตรเลขา พูลสวัสดิ์) ซึ่งสวยไม่น้อยหน้าใครเป็นนางเอก ทั้งสองคณะไม่มีใครยอมใครไปตั้งเวทีประชันกันที่ไหนเป็นต้องงัดไม้ตายออกมาสู้กัน แม้บางครั้งคณะอนุชิตศิษย์สำราญจะมีแผนการร้ายๆ แต่ก็ทำอะไรลิเกไฮเทคของบุญเอกที่ร้องเพราะกว่า รำสวยกว่าไม่ได้ และเป็นเรื่องธรรมชาติของคนขี้แพ้ชวนตีจึงทำให้ลิเกสองคณะยกพวกเข้าห้ำหั่นกันบ่อยครั้ง
มีการจัดแสดงเพชรระดับโลกขึ้นที่กรุงเทพฯ หลายประเทศได้ส่งเพชรชั้นสุดยอดเข้ามาร่วมงานด้วย เดวิด (ชานนท์ จันทสะโร) นักธุรกิจจากต่างชาติผู้จัดงาน ได้วางแผนโจรกรรมเพชรที่ตัวเองจัดแสดงอย่างแยบยล แต่ เชิด (โอภาภูมิ ชิตาพัณณ์) เป็นตัวการปล้นซ้อนแผนของ เดวิด โดยมี ดารา (ชมพูนุท พึ่งผล) เป็นคนวางแผน เมื่อปล้นได้ เชิดนัด รองมงคล (จิรายุ อึ้งวานิช) หลังโรงลิเกเพื่อขายเพชรในขณะที่ลิเกกำลังเล่น เชิดเอาเพชรไปซ่อนไว้ที่รถบัสของคณะลิเกบุญเอก จุดเริ่มต้นของเรื่องร้ายๆ จึงเกิดขึ้นเพราะบุญโอบเจอเพชรที่ซ่อนอยู่ในรถ ด้านสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ส่ง ร.ต.อ. เดชา (วงศธร สมศรี) และ ร.ต.ท.หญิงบังอร (ญาณิศา ธีราธร) มือปราบฝีมือดีแห่งยุค ติดตามคดีนี้อย่างใกล้ชิดโดย เดชา ตัดสินใจแฝงตัวเข้าไปอยู่ในคณะลิเกของบุญเอก เพื่อตามสืบความจริงของคดีเพชรที่หายไปในครั้งนี้
บุญเอก อัมรินทร์ (วิชญพงศ์ เอี่ยมสะอาด) หัวหน้าคณะลิเกพระเอกเสียงมนต์เสก บุญเอก อัมรินทร์ ได้นำเอาวิทยาการสมัยใหม่ รวมทั้งเพลงลูกทุ่งที่กำลังอยู่ในความนิยม เข้ามาผสมผสานในการแสดงบนเวที เพื่อสร้างความตื่นตา ตื่นใจให้คนดู โดยมีอินทิรา อัมรินทร์ (ธนัชศลักษณ์ ฮัดสัน) น้องสาววัยใสของบุญเอก ซึ่งที่มีทั้งความสวยและความน่ารักเป็นนางเอกประจำคณะ ลิเกไฮเทคของบุญเอก อัมรินทร์ ไปแสดงที่ไหนมักจะมีบรรดาแม่ยก แห่ตามกันมาดูขวัญใจของตน โดยเฉพาะ นวล (บัวผัน ทังโส) ภรรยาของ กำนันเทิด (เอกพัน บันลือฤทธิ์) ผู้มีอิทธิพลถึงแม้กำนันเทิดจะไม่พอใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะเกรงใจและกลัวเมียจึงส่ง ทำนุ (สุทธิ์คุณ วันทานุ) ลูกชายวัยรุ่นที่กำลังสร้างอิทธิพลแข่งกับพ่อตามไปก่อกวน แต่ทำนุกลับมาถูกใจ อินทิรา จนไม่กล้าป่วนแถม ทับทิม (มาริสา โชลล์) น้องสาวคนสวยของทำนุกลับไปหลงใหลบุญเอกแข่งกับแม่กำนันเทิดจึงชอกช้ำเป็นทวีคูณ
บุญเอก ยังมีลิเกคู่แข่งอีกคณะหนึ่งคือ อนุชิต ศิษย์สำราญ (ชลพิพรรธน์ ชูแสง) โดยมี น้ำอ้อย (จิตรเลขา พูลสวัสดิ์) ซึ่งสวยไม่น้อยหน้าใครเป็นนางเอก ทั้งสองคณะไม่มีใครยอมใครไปตั้งเวทีประชันกันที่ไหนเป็นต้องงัดไม้ตายออกมาสู้กัน แม้บางครั้งคณะอนุชิตศิษย์สำราญจะมีแผนการร้ายๆ แต่ก็ทำอะไรลิเกไฮเทคของบุญเอกที่ร้องเพราะกว่า รำสวยกว่าไม่ได้ และเป็นเรื่องธรรมชาติของคนขี้แพ้ชวนตีจึงทำให้ลิเกสองคณะยกพวกเข้าห้ำหั่นกันบ่อยครั้ง
มีการจัดแสดงเพชรระดับโลกขึ้นที่กรุงเทพฯ หลายประเทศได้ส่งเพชรชั้นสุดยอดเข้ามาร่วมงานด้วย เดวิด (ชานนท์ จันทสะโร) นักธุรกิจจากต่างชาติผู้จัดงาน ได้วางแผนโจรกรรมเพชรที่ตัวเองจัดแสดงอย่างแยบยล แต่ เชิด (โอภาภูมิ ชิตาพัณณ์) เป็นตัวการปล้นซ้อนแผนของ เดวิด โดยมี ดารา (ชมพูนุท พึ่งผล) เป็นคนวางแผน เมื่อปล้นได้ เชิดนัด รองมงคล (จิรายุ อึ้งวานิช) หลังโรงลิเกเพื่อขายเพชรในขณะที่ลิเกกำลังเล่น เชิดเอาเพชรไปซ่อนไว้ที่รถบัสของคณะลิเกบุญเอก จุดเริ่มต้นของเรื่องร้ายๆ จึงเกิดขึ้นเพราะบุญโอบเจอเพชรที่ซ่อนอยู่ในรถ ด้านสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ส่ง ร.ต.อ. เดชา (วงศธร สมศรี) และ ร.ต.ท.หญิงบังอร (ญาณิศา ธีราธร) มือปราบฝีมือดีแห่งยุค ติดตามคดีนี้อย่างใกล้ชิดโดย เดชา ตัดสินใจแฝงตัวเข้าไปอยู่ในคณะลิเกของบุญเอก เพื่อตามสืบความจริงของคดีเพชรที่หายไปในครั้งนี้