ละคร ศิลามณี
ดู 5,507 ครั้ง /
แชร์
ละครออกอากาศ | วันศุกร์ วันเสาร์ วันอาทิตย์ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ช่องที่ออกอากาศ | ละครช่อง 7 | |||||||||||||||||||||
เริ่มออกอากาศ | 8 พฤศจิกายน 2551 | |||||||||||||||||||||
เวลาออกอากาศ | 20:30 - 22:30 น. |
|||||||||||||||||||||
กำกับโดย | ธงชัย ประสงค์สันติ | |||||||||||||||||||||
ประพันธ์โดย | บทประพันธ์ วราภา, บทโทรทัศน์ วิรัลพัชร | |||||||||||||||||||||
นำแสดงโดย | ||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||
ผู้สร้าง | บริษัท คำพอดี จำกัด |
ภาพนิ่งจากละคร
เรื่องย่อ ศิลามณี
เจ้าหญิงแสงฝาง หรือ งาม เจ้าหญิงวัยรุ่นแสนสวยจากเมืองเชียงรัฐ เธอมีอายุสิบสี่ปี มาขอพบคุณหญิงอทิติ บูรณโยธิน คุณหญิงผู้ยังสาวและสวยมาก เป็นภรรยาของพลเอกจอมณรงค์ เมื่อคุณหญิงอทิติได้พบกับเจ้าหญิงแสงฝางก็ถึงกับอึ้งไป ไม่ใช่เพราะเป็นเจ้าหญิง แต่เพราะเป็นลูกสาวคนเดียวของเธอ
อทิติสมรสครั้งแรกกับเจ้าฟ้าแสนหลวง เจ้าผู้ครองเชียงรัฐ รัฐอิสระทางภาคเหนือของประเทศไทย เจ้าอายุมากกว่าอทิติถึงสองรอบ ความแตกต่างของอายุและความเงียบเชียบของเชียงรัฐซึ่งอยู่ท่ามกลางขุนเขาและป่าไม้ทำให้อทิติทนไม่ได้ สองปีหลังจากให้กำเนิดลูกสาวคือเจ้าหญิงแสงฝาง อทิติทิ้งทุกอย่างที่เชียงรัฐกลับเป็นตัวของตัวเอง และต่อมาก็ได้สมรสกับพลเอกจอมณรงค์ เจ้าหญิงแสงฝางน้อยใจที่แม่ทอดทิ้ง จึงไม่ยอมติดต่อคุณหญิงอทิติเลย
เจ้าหญิงแสงฝาง มากับหอมนวล พี่เลี้ยงวัยกลางคน เจ้าแสงฝางไม่แสดงอาการที่บ่งบอกถึงความรักที่ลูกมีต่อแม่แต่อย่างใดเลย เธอบอกคุณหญิงอทิติว่าเจ้าฟ้าแสนหลวงป่วยและเธอจะไปเยี่ยม ขอให้คุณหญิงอทิติไปด้วย แต่คุณหญิงปฏิเสธ โดยอ้างสถานะ ที่ขณะนี้มีสามีใหม่แล้ว และไม่เห็นด้วยที่เจ้าแสงฝางจะขาดเรียน แต่เจ้าแสงฝางยืนยันจะไป การพูดถึงเจ้าพ่อด้วยความรักและผูกพันอย่างลึกซึ้งแต่พูดกับผู้เป็นแม่อย่างห่างเหินราวพูดกับคนรู้จักผิวเผินทำให้คุณหญิงอทิติไม่ชอบใจ ศศิ ลูกสาวของพลเอกจอมณรงค์ ลูกเลี้ยงของคุณหญิงอทิติ วัยไล่เลี่ยกับเจ้าแสงฝาง สนใจเจ้าแสงฝางมากเมื่อรู้ว่าเป็นเจ้าหญิงจากเมืองเหนือ แต่เธอไม่รู้ว่าเจ้าแสงฝางเป็นลูกสาวของคุณหญิงอทิติ
เจ้าแสงฝางเดินทางไปเชียงรัฐคนเดียว เจ้าสายบดี มารับเจ้าแสงฝางที่สนามบินเชียงใหม่ เจ้าสายบดีเป็นลูกชายของเจ้าบัวละวง น้องสาวคนเดียวของเจ้าฟ้าแสนหลวง บิดาของเขาคือเจ้าวงตะวัน เจ้าแสงฝางถามอาการของเจ้าพ่อทันที เขาบอกว่าอาการเจ้าฟ้าแสนหลวงไม่สู้ดี ท่านอยากพบลูกสาวคนเดียวซึ่งเป็นสุดดวงใจของท่าน เพราะมีเรื่องสำคัญมากจะพูดกับเธอ ท่านจึงยังประคองลมหายใจมาได้จนวันนี้
เจ้าแสงฝางน้ำตาพรูเมื่อเห็นสภาพร่างกายที่ผ่ายผอมของเจ้าพ่อ เจ้าฟ้าแสนหลวงขอให้เจ้าแสงฝางรับช่วงปกครองเชียงรัฐต่อจากท่าน ขอให้เธอมีความอดทน และอย่าอับอายว่าเชียงรัฐเป็นเพียงเมืองเล็กๆ เป็นเพียงจุดๆเดียวที่มองไม่เห็นในแผนที่ประเทศไทย เพราะมันคืออาณาจักรบ้านเกิดเมืองนอนของเจ้าแสงฝาง เจ้าแสงฝางให้สัญญา และเจ้าฟ้าแสนหลวงได้พูดเรื่องสำคัญกับเธอ ขอให้เธอสัญญาว่าจะไม่โกรธและเกลียดท่าน ท่านบอกว่าได้ให้ศิลามณีแก่เพื่อนรักที่สุดของท่านคือ เจ้าคุณพระยาเพชรายุทธ เจ้าคุณเป็นคนดีพร้อมทั้งจิตใจและชาติตระกูล ท่านจึงให้ศิลามณีไป
ล่าสุดที่ติดต่อกันก่อนพระยาเพชรายุทธถึงแก่อสัญกรรม ฝ่ายนั้นยังคงเก็บรักษาศิลามณีไว้อย่างดี เจ้าแสงฝางรู้ธรรมเนียมของเผ่าพงศ์ดีว่าการให้ศิลามณีซึ่งเป็นสมบัติล้ำค่าของเชียงรัฐและเป็นสิ่งเดียวที่สำคัญที่สุดในการย่างเข้าสู่ความเป็นหญิงสาวของเธอแก่อีกฝ่ายนั้นหมายความว่าอย่างไร
เจ้าบัวละวงสะดุ้งใจเมื่อเจ้าแสงฝางถามว่าจะเอาศิลามณีคืนมาได้อย่างไร เจ้าแสงฝางบอกว่าเธอเป็นเลือดเนื้อของเชียงรัฐ เธอไม่เคยอับอายในประเพณีโบราณของเชียงรัฐเลย และพร้อมจะปฏิบัติเหมือนหญิงสาวเชียงรัฐทั่วไป แต่เธออยากเป็นผู้มอบศิลามณีให้แก่ชายที่เธอพอใจ ไม่ใช่ใครก็ไม่รู้ที่เขาอาจกำลังหัวเราะเยาะเธออยู่ก็ได้ เจ้าบัวละวงบอกว่าเมื่อเจ้าคุณเพชรายุทธสิ้น ศิลามณีคงตกอยู่ที่ คุณหญิงเสมอใจ ผู้เป็นภรรยา
เจ้าแสงฝางบอกว่าเมื่อเรียนจบจะกลับมาอยู่เชียงรัฐ เป็นสมบัติของเชียงรัฐ เป็นกำลังใจให้พลเมืองที่นี่ไปจนเธอแก่เฒ่า เธอจึงอยากได้ศิลามณีคืน เจ้าสายบดีวิ่งหน้าตาตื่นมาตามเจ้าแสงฝางว่าเจ้าฟ้าแสนหลวงสิ้นใจแล้ว เจ้าแสงฝางเสียใจมาก เธอสาบานว่าจะต้องเอาศิลามณีกลับคืนมาเป็นสมบัติของเชียงรัฐให้ได้ โดยเธอจะกลับกรุงเทพไปเรียนต่อให้จบ และเธอจะอยู่อย่างสามัญชน จากนี้ไปจะไม่มีเจ้าหญิงแสงฝาง จะมีแต่ผู้หญิงที่ชื่อ งาม แสนหลวง เท่านั้น
ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ งามเรียนคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเดียวกับศศิ ด้วยความขรึม เฉยเมย และไว้ตัวของงาม ทำให้หนุ่มๆ ประจำสามแยกปากหมาว่าเธอหยิ่ง ไม่มีใครรู้ชาติตระกูลของเธอ งามมีชาลี หนุ่มผมยาวแต่งตัวมอมตามแบบฉบับชาวศิลปากรรับส่งเป็นประจำ
ภรต ราชเสนา หรือ ต้อม ลูกชายแท้ๆ ของคุณหญิงเสมอใจ ช่วยพี่ชายบุญธรรม นายแพทย์พิภพ ภักดีพงศ์ หรือ ต้น พูดกับคุณหญิงเสมอใจขอยืมเงินและขอที่ดินทำคลินิก หลังจาก นพ.พิภพย้ายจากต่างจังหวัดเข้ามาอยู่กรุงเทพ และยังพูดเลยไปเรื่องหญิงสาวที่ นพ.พิภพรักและมีแผนจะแต่งงานกัน คุณหญิงเสมอใจไม่พอใจนักที่ นพ.พิภพจะลงเอยกับ เภสัชกรหญิงอิสรี สุรคุปต์ เพราะท่านยังไม่เคยเห็นหน้า และเมื่อซักประวัติคร่าวๆ เธอเป็นแค่หญิงสาวในครอบครัวข้าราชการบำนาญที่ไม่ร่ำรวยอะไร ท่านจึงไม่ค่อยเห็นด้วยและยังห่วงเรื่องหน้าตาของตระกูล
ภรตอยากช่วยพี่ชายให้ถึงที่สุดจึงตามไปห้องนอนของแม่เพื่อช่วยพูดเชียร์ให้แม่เห็นด้วยกับความรักของพี่ คุณหญิงเสมอใจกำลังขนเครื่องเพชรเครื่องทองออกมาดู ในจำนวนนั้นมีสร้อยมรกตเม็ดโตล้อมเพชรที่ใครๆ เห็นก็ต้องรู้ว่างามมากและค่ามหาศาล ภรตยิ่งประหลาดใจเมื่อแม่บอกว่ามีคนให้มา คุณหญิงเครียดเมื่อนึกถึงที่มาของสร้อยมรกต คุณหญิงเล่าให้ภรตฟังว่า นี่คือของหมั้นตามธรรมเนียมของเชียงรัฐฝ่ายหญิงจะหมั้นชาย และเขาก็ได้หมั้นภรต ถึงฝ่ายโน้นจะเป็นเจ้า แต่ก็เป็นเจ้าแห่งเมืองเล็กๆ ซึ่งท่านเห็นว่าต่ำต้อยและรังเกียจมาก แต่เมื่อเจ้าคุณผู้เป็นสามีสั่งไว้ก่อนสิ้นใจให้ท่านดำเนินการต่อ มิฉะนั้นต้องคืนสร้อยมรกตเส้นนี้ไป
ภรตไปหาชาลี น้องชายแท้ๆ ของเขา ที่เรือนพักหลังเล็กซึ่งชาลีมักใช้เป็นห้องสร้างสรรค์งานศิลป์ของเขา ภรตถือวิสาสะเปิดดูภาพเขียนซึ่งชาลีคลุมผ้าไว้ ชาลีหวงภาพนี้มาก ภาพนั้นคือภาพพอเทรตครึ่งตัวหญิงสาวสวยอ่อนหวานมาก โพกศีรษะแบบสาวชาวบ้านลานนา โดยมีงามเป็นนางแบบให้กับชาลี ในวันรุ่งขึ้น งามมาเป็นแบบให้ชาลีวาดภาพต่อจนเสร็จชาลีแนะนำงามให้รู้จักภรตว่าเป็นพี่ชายของเขา ภรตทักทายสั้นๆ กับงามแล้วไป เหมือนเย่อหยิ่งไม่สนใจเธอเลย งามเกิดอาการคอแข็งขึ้นมาทันที เธอแปลกใจที่คบกับชาลีมานานแต่ไม่รู้เลยว่าชาลีนามสกุลราชเสนา แต่ที่เธอใจเต้นที่สุดคือการได้รู้จักภรต ราชเสนา เขาคนนี้เองคือผู้ครอบครองศิลามณีของเธอ
เมื่องามกลับถึงโรงงานผ้าไหมของเธอ งามเปลี่ยนเสื้อผ้าจากชุดนักศึกษาสาวสะอาดใสเป็นชุดสาวเหนือ แต่งหน้าเป็นสาวจัด ป้าหอมนวลบ่นเป็นห่วงงามที่ทำตัวเป็นนักศึกษายากจนไม่มีหัวนอนปลายเท้าโหนรถเมล์กลับบ้านทุกวันให้คนดูถูก หากต้องการดูใจผู้คน ตอนนี้ก็ได้เห็นใจชาลีแล้วว่าเป็นคนดีมากทำไมไม่ให้ชาลีรับส่ง งามไม่ต้องการให้ชาลีรู้ว่าเธออยู่ที่ไหน พันโทอติศักดิ์ หนึ่งในชายหนุ่มที่มาติดพันแม่เลี้ยงสาวเจ้าของโรงงานผ้าไหม พาเพื่อนมาซื้อเสื้อผ้าไหม เขาคือภรต ราชเสนา ภรตรู้สึกแม่เลี้ยงเหมือนใครที่เขาเคยเห็น แต่ก็นึกไม่ออก
คุณหญิงอทิติไม่เคยได้ข่าวลูกสาวอีกเลยนับตั้งแต่งามเดินทางไปเยี่ยมเจ้าพ่อ การเติบโตเป็นสาวของศศิทำให้คุณหญิงคิดถึงลูกงามของเธอมาก ด้วยว่าทั้งสองสาวอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน คุณหญิงมีลูกชายกับพลเอกจอมณรงค์คนหนึ่ง ขณะนี้เพิ่งอายุสามขวบ
งานฉลองแซยิดของคุณหญิงเสมอใจเป็นงานใหญ่ แขกเหรื่อมากมาย ภรตให้ชาลีชวนงามมาร่วมงานด้วย เมื่อได้พบคุณหญิงเสมอใจ งามเห็นว่าท่านไม่ได้สวมศิลามณี งามกังวลว่าศิลามณีอยู่ที่ไหน และงามต้องใจหายเมื่อเห็นพลเอกจอมณรงค์ เธอเกรงจะพบแม่อทิติของเธอ แต่โล่งใจเมื่อรู้ว่านายพลมากับศศิ คุณหญิงเสมอใจเอาใจศศิมากจนออกนอกหน้า หลังอาหารงามและชาลีแยกตัวจากกลุ่มผู้คนไปนั่งเล่นใกล้เรือนเล็กของชาลี ถ้อยคำที่ชาลีแสดงความจงรักเทิดทูนงามอย่างยิ่งทำให้งามทั้งสงสารและสมเพชชาลี
เธอพูดเป็นนัยว่าชาลีอาจคิดว่าเธอดี แต่เธออาจใช้ชาลีเป็นบันไดไปสู่อะไรบางอย่าง ซึ่งหากวันหนึ่งชาลีรู้ความจริง ชาลีจะเสียใจและเกลียดเธออย่างที่สุดก็ได้ ชาลีว่าถึงเขาจะต้องเสียใจเพราะงามแต่ความเสียใจนั้นจะไม่มีวันทำลายความรู้สึกที่เขายกย่องงามได้เลย ภรตพาศศิมาที่เรือนของชาลีเพราะศศิอยากดูภาพเขียน ชาลีพาศศิเข้าไปดูภาพเขียนในบ้าน ภรตจึงอยู่กับงามสองต่อสอง งามรู้สึกว่าบรรยากาศอึดอัดขึ้นมาทันใด ภรตจงใจพูดยั่วประสาทงาม เธอต่อปากต่อคำเขาไม่ลดละ
ภรตนึกถึงแม่เลี้ยงสาวที่โรงงานผ้าไหม บอกงามว่าหน้างามเหมือนแม่เลี้ยงสาวคนนั้น แต่ประชดประชันว่าแม่เลี้ยงสาวยิ้มหวานช่างพูดช่างเอาใจ แต่งามตรงข้ามทั้งหมด งามว่าเธอไม่มีทางเป็นแม่เลี้ยงคนนั้น เธอพูดประชดประชันเรื่องชาติกำเนิดที่เป็นคนต่างเมือง แต่เธอก็ทึ่งที่ภรตไม่ได้แบ่งชั้นวรรณะเลย เขาว่าถึงเป็นชาวเหนือแต่ก็เป็นคนไทยเหมือนกัน
ภรตถามงามถึงเชียงรัฐ งามบอกว่ารู้จักดีที่สุดเพราะเธอเกิดและโตที่นั่น ภรตตื่นเต้นมาก เขาถามงามถึงเจ้าหญิงแสงฝางว่าเป็นอย่างไร งามว่าเธอเป็นคนวงนอก ไม่ค่อยรู้อะไรนัก เท่าที่รู้เจ้านางเป็นคนสวย มักอยู่แต่ในวัง ไม่ค่อยออกไปไหน เจ้านางเกลียดความชุลมุนวุ่นวายของโลกภายนอก ภรตแกล้งถามถึงประเพณีที่ผู้หญิงขอผู้ชายแต่งงาน ทำให้งามชักสงสัยว่าเหตุใดภรตจึงพูดถึงประเพณีของเชียงรัฐและเจ้านางหรือว่าภรตจะรู้เรื่องของศิลามณีแล้ว
ศศิบังเอิญเจอกับชาลีเมื่อรถเธอเสีย ชาลีเข้ามาช่วยและพาศศิไปส่งที่มหาวิทยาลัย เธอรู้สึกถูกใจกับชาลีเป็นอย่างมาก แต่ชาลีกับนิ่งเรียบมีใจให้งามเพียงคนเดียว
งามกลับจากมหาวิทยาลัย ป้าหอมนวลบอกว่าภรตมาหาและจะกลับมาใหม่ตอนค่ำ ทุกครั้งที่ได้ยินชื่อภรตงามใจเต้นระรัวด้วยสาเหตุที่ตอบตัวเองไม่ได้ แต่ก็ยินดีว่าเมื่อภรตตามเธอนั่นหมายถึงชัยชนะกำลังเดินมาหาเธอ หากภรตหลงรูปโฉมของเธอ เธอก็จะใช้ความงามปอกลอกเอาศิลามณีกลับคืนมา
งามในสภาพแม่เลี้ยงสาวดูงามยิ่งนักในสายตาภรต ภรตเอ่ยปากชวนแม่เลี้ยงไปทานอาหาร แม่เลี้ยงตกปากรับคำทันที เมื่อภรตกลับถึงบ้าน ชาลีบอกภรตว่าเขาตกลงใจเช่าร้านที่ภรตติดต่อให้ เปิดแสดงภาพเขียน และจะเอาภาพสาวชาวป่าที่งามเป็นแบบไปโชว์ด้วย แต่จะไม่ขาย คุณหญิงเสมอใจถามเรื่องที่ค้างคาใจตั้งแต่งานเลี้ยงแซยิดว่างามเป็นใคร รู้สึกผิวเหลืองเหมือนสาวเหนือ ชาลีเงียบ เขาคบหากับงามมานานแต่ไม่เคยรู้เลยว่างามเป็นใครมาจากไหน ภรตเลยตอบแทนว่าเป็นสาวเหนือ เป็นชาวเชียงรัฐ
คุณหญิงเสมอใจได้ยินก็นึกถึงเรื่องศิลามณี ท่านรังเกียจและดูถูกงามทันที และสั่งชาลีให้ระวังการคบหากับงาม ตอกย้ำว่าผู้หญิงเชียงรัฐรักผู้ชายคนไหนจะสู่ขอเลยทันที อีกหน่อยงามคงสู่ขอชาลีเหมือนที่ภรตโดนเจ้าหญิงเชียงรัฐสู่ขอมาแล้วตั้งแต่เด็ก แต่ชาลีไม่สนใจ ภรตวางแผน เขาบอกแม่ว่าเขาจะดึงชาลีออกมาจากงามให้ได้ ภรตทะเลาะกับชาลี ดูถูกว่างามไม่มีหัวนอนปลายเท้าจะปอกลอกชาลี ชาลีปกป้องงามจากคำกล่าวหาของภรต ภรตท้าพนันให้คอยดูว่างามจะโอนเอนมาหาเขาทั้งๆ ที่ชาลีสนิทสนมกับงามก่อนเขาและมากกว่าเขา
ภรตมาพบแม่เลี้ยง เขาคุยกับเธอเรื่องความหัวอ่อนและอารมณ์อ่อนไหวของชาลีที่ทำให้ลุ่มหลงผู้หญิงซึ่งแม่ไม่ชอบ และยังว่าผู้หญิงคนนั้นซึ่งคืองามให้งามฟังอีกด้วย เขาว่าเมื่อเห็นแม่เลี้ยงครั้งแรกเขาคิดว่าเป็นคนเดียวกับผู้หญิงคนนั้น แต่แม่เลี้ยงต่างจากผู้หญิงคนนั้นมาก ภรตว่าแม่มองผู้หญิงไว้ให้ชาลีแล้ว แต่ไม่ได้บอกว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร ภรตชวนไปข้างนอก ตลอดทางแม่เลี้ยงยิ้มหวานคุยสนุกกับเขาแต่ใจบอกตัวเองว่าเกลียดนายภรตคนนี้นัก เขาดูถูกงาม แสนหลวง ไม่รู้เลยว่าจุดไต้ตำตอเข้าเต็มๆ
ภรตพาแม่เลี้ยงไปดูแกลเลอรี่ของชาลี เธอแทบทำหน้าไม่ถูก เกรงชาลีจับได้ เธอเห็นภาพงามที่ชาลีวาดแขวนอยู่ในที่ที่เด่นที่สุด เมื่อชาลีมาต้อนรับ และบอกว่าเขาไม่ขายภาพสาวชาวป่าที่เขาตั้งชื่อว่างาม เขาพูดถึงผู้เป็นนางแบบอย่างยกย่องภาคภูมิใจยิ่งนัก งามรู้ว่าเขาจริงใจเสมอต้นเสมอปลาย ความจริงใจของชาลีเกือบจะละลายทิฐิของงามต่อตระกูลราชเสนาลงได้ ชาลีตกใจเมื่อเห็นหน้าหญิงสาวที่ภรตแนะนำว่าเป็นแม่เลี้ยงเจ้าของโรงงานผ้าไหม แต่เมื่อแม่เลี้ยงไม่ได้แสดงทีท่าว่าจะเป็นงาม ชาลีจึงนิ่งไป แต่ด้วยสายตาของผู้เป็นจิตกร เขาคิดว่ารูปร่างหน้าตาเช่นนี้ไม่น่าจะมีซ้ำเป็นคนที่สอง แม่เลี้ยงยืนยันอยากได้ภาพเขียนที่ชื่องาม ชาลียืนยันไม่ขาย
ภรตเริ่มเดินแผนแยกชาลีจากงาม เขาไปหางามที่มหาวิทยาลัย ขอคุยกับเธอ เรื่องชาลี ว่าทั้งแม่และเขาเห็นว่าชาลีควรได้แต่งงานกับหญิงที่มีสกุลรุนชาติและดีพร้อมหมด และเธอคนนั้นคือศศิ ภรตขอให้งามตีตัวออกห่างจากชาลีโดยคบชายอื่นแทน และเพื่อให้ชาลีแน่ใจว่างามทิ้งชาลีจริง ภรตเสนอตัวเองเป็นคนรักชั่วคราวของงาม งามถูกต้อนและถูกดูแคลนจนทั้งเจ็บทั้งแค้น แต่ที่เธอเจ็บปวดนักคือการที่เธอต้องทำร้ายชาลีเพื่อนแท้คนเดียวที่จริงใจต่อเธอที่สุด แต่จะทำอย่างไรได้ในเมื่อเธอเป็นคนเริ่มทุกอย่างเอง เริ่มด้วยความแค้นด้วยปณิธานแรงกล้าที่จะเอาศิลามณีคืน งามรับปากภรตจะตัดขาดชาลี
แม่เลี้ยงงามดีใจมากเมื่อภรตนำภาพเขียนชื่องามของชาลีไปให้ ภรตไม่รับเงินค่าภาพเขียน บอกว่าเป็นของขวัญจากเขา แม่เลี้ยงจึงสวนกลับว่าเป็นของขวัญเพื่อการจากกัน ภรตเครียดขรึมทันที งามรู้สึกว่าการปลอมตัวของเธอไม่ทำให้เธอเข้าถึงศิลามณี แต่กลับจะทำให้เธอกับภรตผูกพันกันยิ่งขึ้น เธอต้องตัดเขาแล้ว เธอบอกภรตว่าเจ้าสายบดีจะมาหาเธอวันนี้ ภรตสรุปว่าเจ้าสายบดีคือเจ้าของเธอ เขาลากลับทันที
ในงานแข่งขันฟุตบอลประเพณีจุฬา-ธรรมศาสตร์ ภรตยังเจ็บแค้นแม่เลี้ยง เลยพาลไปถึงงามด้วย เขาเตือนชาลีให้เตรียมรับความโลเลใจง่ายชอบหลอกล่อชายให้ติดบ่วงของผู้หญิง ชาลีไม่สนใจ ภรตเข้ามาดูแข่งบอลด้วย เมื่อเจอกับงาม ภรตดึงงามไปต่อหน้าต่อตาชาลีและศศิ บอกชัดเจนว่างามกับเขานัดกันไว้ งามไม่ขัดขืน เธอต้องรักษาสัจจะ ชาลีแทบหัวใจสลาย เขาไม่เข้าใจว่าเหตุใดงามเปลี่ยนทีท่ากะทันหันมาก เขาไม่เชื่อว่าเธอจะเป็นหญิงใจโลเลดังที่พี่ชายพยายามพูดชี้นำ
งามขึ้นรถไปกับภรต เธอเสียใจมากที่ทำร้ายความรู้สึกของชาลี ภรตพูดแกมบังคับเธอว่า จากนี้ไปงามจะไปไหนโดยไม่มีเขาไม่ได้จนกว่าชาลีจะแต่งงานกับศศิ หากงามจะพิสูจน์ตัวเองตามที่งามเคยบอกว่าคบกับชาลีด้วยความบริสุทธิ์ใจ งามต้องรอจนกว่าชาลีลงเอยกับศศิแล้วเขาจึงจะปล่อยมือจากเธอ
ชาลีกับภรตทะเลาะกันเรื่องงามอย่างหนัก จากวันนั้นชาลีเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างสิ้นเชิง ชาลีไปหาศศิ ทำเป็นร่าเริงจี๋จ๋ากับเธอกลบใจที่เจ็บจนชาของตัวเอง ศศิมีความสุขยิ่งนัก
คุณหญิงเสมอใจยังประณามงามในฐานะสาวเหนือให้ภรตได้ยิน ภรตแก้ต่างแทนงาม เขาคิดว่าตัวเองทำกับเธอเกินไป ที่ผ่านมาเขามองงามผิดๆ เพราะเขายังไม่เคยรู้ความจริงด้วยตัวเขาเอง คุณหญิงเสมอใจรื้อฟื้นที่ท่านเคยลั่นวาจาว่าหากชาลีและภรตแต่งงานกับผู้หญิงที่ท่านไม่ชอบจะไม่ได้มรดกจากท่านเลย ภรตออกจากห้องมารดามาเจอกับชาลี ชาลีได้ยินทุกอย่างที่แม่พูด คำพูดของคุณหญิงเสมอใจครั้งนี้ทำให้พี่น้องกลับคืนกลมเกลียวกันได้ เพราะต่างเข้าใจและเห็นใจงามด้วยกันทั้งคู่ ภรตเสียใจที่มองงามผิดๆ และทำไม่ดีกับงามไว้มาก เขาอยากชดใช้ ภรตตั้งใจจะเอาศิลามณีไปคืนที่เชียงรัฐแล้วกลับมาของามแต่งงาน
จนวันแต่งงานของชาลีกับศศิ ศศิพางามไปแนะนำกับคุณหญิงอทิติ เธอจำงามได้ งามไม่ยอมเรียกแม่ว่าแม่ เรียกว่าคุณหญิงทุกคำ ถึงเวลารดน้ำสังข์ งามยืนเป็นเพื่อนเจ้าสาวด้วยใจเด็ดเดี่ยว เธอสงสารชาลีจนแทบจะร้องไห้ เมื่อเสร็จพิธีรดน้ำสังข์งามเป็นเหน็บเดินไม่ไหว ภรตโอบประคองเธอไปนั่ง เขาเป็นชายคนแรกที่ได้กอดเธอแนบชิด
งามรู้สึกว่าสัมผัสนั้นนุ่มนวลจริงใจยิ่งนัก ภรตรู้สึกว่าเขาทำผิดกับงามอย่างมาก เขาพยายามขอโทษ งามไม่สนใจ บอกว่าเธอทำเพราะพันธะที่รับปากเขา ทันทีที่เสร็จสิ้นงานแต่งงานเธอถือว่าเธอเป็นอิสระจากพันธะกับภรต คุณหญิงอทิติมาเจอ ขอคุยกับงามเป็นส่วนตัว งามยังคงน้อยใจแม่ คำพูดของงามทำให้คุณหญิงอทิติเสียใจจนร้องไห้ งามใจอ่อนยอมเรียกแม่ว่าแม่ และเล่าเรื่องที่เธอเป็นงาม แสนหลวงผู้ยากจนไม่มีสกุลรุนชาติ กับเรื่องศิลามณีให้แม่ฟัง
งามกลับถึงเชียงรัฐบ้านเกิด ได้ไปกราบอัฐิเจ้าพ่อที่กู่เจ้าในวัดสวนดอก ถ้อยคำอธิษฐานของเธอเศร้านัก เธอบอกเจ้าพ่อว่ากลับมาเชียงรัฐอย่างผู้แพ้ หวังที่สุดที่จะให้ความอบอุ่นจากเชียงรัฐเป็นเครื่องสมานหัวใจของเธอ เจ้าหญิงแสงฝางกราบคารวะอัฐิผู้เป็นบิดาด้วยน้ำตา
เจ้าสายบดีพาเพื่อนคือ เจ้าชายกาวิล แห่งรัฐไชยาบุรีมารู้จักกับเจ้าแสงฝาง เจ้าชายกาวิลเพิ่งกลับจากฝรั่งเศส และมาท่องเที่ยวเชียงรัฐ เขารูปชั่วปานกับจรกา เจ้าชายกาวิลรักเจ้าแสงฝางทันทีที่เห็น และรู้ว่าแสงฝางมีคู่หมั้นแล้ว ชื่อภรต ราชเสนา
ภรตบอกชาลีว่างามหายไปตั้งแต่วันรุ่งขึ้นที่ชาลีแต่งงานและเธอลาออกจากมหาวิทยาลัยแล้ว คำพูดและท่าทางเหมือนใกล้ตายของพี่ชายทำให้ชาลีถามว่าเขารักงามหรือ ภรตยอมรับว่าเขารักและต้องการแต่งงานกับงาม ภรตเล่าให้ชาลีฟังว่ามารดาเคี่ยวเข็ญให้แต่งงานกับ ลูกสาวของของคุณพระอายุศ ภรตขอศิลามณีไปคืนเชียงรัฐ เขาอยากหมดพันธะกับเจ้าหญิงแสงฝางเพื่อแต่งงานกับงาม ไม่แคร์แล้วว่างามจะเป็นใครมีหัวนอนปลายเท้าหรือไม่
ภรตจึงเขียนจดหมายถึงเจ้าหญิงแสงฝางขอยกเลิกการหมั้นและจะเอาศิลามณีไปคืนที่เชียงรัฐและขอพบเจ้าหญิงเพื่อเชิญไปงานแต่งงานของเขา เจ้าแสงฝางถือว่าจดหมายฉบับนี้เยาะเย้ยกันโดยตรง เธอรู้สึกว่าภรตดูถูกเธอ แล้วยังจะมาดูหน้าเธอถึงเชียงรัฐเยาะเย้ยกันอีกด้วย เจ้าแสงฝางจึงตัดสินใจแต่งงานกับเจ้าชายกาวิล
ภรตเดินทางมาถึงเชียงรัฐ ขอพบเจ้าหญิงแสงฝาง แต่เจ้าหญิงไม่อยู่ ภรตจึงจะไปรอที่เชิงดอย ระหว่างทางมีรถจี๊ปคันหนึ่งแล่นเร็วมาก และรถของภรตแล่นสวนด้วยความเร็วมากพอกัน จึงหลีกกันไม่พ้น พุ่งชนกันอย่างแรง แสงฝางฟื้นขึ้นที่โรงพยาบาลโดยไม่บาดเจ็บอะไรมาก พยาบาลบอกเธอว่าชายที่มากับรถอีกคันแขนหัก ศีรษะแตก แสงฝางจึงไปเยี่ยมชายคนนั้น เธอตกใจเมื่อเห็นว่าเขาคือภรต แสงฝางจัดการให้ภรตได้อยู่ห้องพิเศษ
ภรตฟื้นมาเห็นงามด้วยความดีใจที่สุด เขาบอกว่าคิดถึงเธอใจแทบขาดและพยายามตามหาเธอ ภรตเล่าเรื่องที่เขาไปเชียงรัฐแต่ไม่พบเจ้าหญิงแสงฝาง งามโกหกภรตว่าเธอเป็นคนรับใช้ของเจ้าหญิงแสงฝาง ภรตว่าเขาจะถอนหมั้นเจ้าหญิงมาแต่งงานกับคนใช้ งามช็อกไปเลย เธอไม่นึกฝันเลยว่าจะได้ยินคำนี้จากภรต ภรตขอให้งามรอเขาหายป่วยแล้วเขาจะแต่งงานกับเธอ แต่งามปฏิเสธ เธอเชิญภรตมาร่วมงามแต่งงานของเจ้าแสงฝางกับเจ้าชายกาวิล
คุณหญิงอทิติตัดสินใจจะเปิดเผยความจริงเรื่องงาม แสนหลวงแก่ภรต ชาลีบอกว่าภรตไปเชียงรัฐ เอาศิลามณีไปคืน คุณหญิงอทิติเปิดเผยกับชาลีและศศิว่างามเป็นลูกสาวของเธอ พ่อของงามคือเจ้าฟ้าแสนหลวงแห่งเชียงรัฐ งามคือเจ้าหญิงแสงฝางคู่หมั้นของภรต คุณหญิงอทิติเล่าสาเหตุที่เจ้าแสงฝางเข้ากรุงเทพมาตามหาศิลามณีให้ชาลีและศศิฟังทั้งหมด
เจ้าชายกาวิลกลับมาพร้อมของบรรณาการ และในวันงานขันโตก เจ้าสายบดียังบ่นไม่ชอบใจที่แสงฝางถือแต่ทิฐิจะแก้แค้นภรต สายบดีพาภรตไปนั่งกับเจ้าชายกาวิล กาวิลหงุดหงิดทันใดเมื่อสายบดีแนะนำว่าหนุ่มรูปงามผู้นี้ คือ ภรต ราชเสนา และก็มีเสียงขานชื่อเจ้าหญิงแสงฝางแล้วผู้คนลุกยืนต้อนรับ ภรตรู้สึกเหมือนถูกใครควักหัวใจกระชากอย่างแรง เจ้าหญิงแสงฝางคู่หมั้นของเขานั้น คืองาม แสนหลวงชัดๆ และแวบหนึ่งที่เจ้าหญิงสบตาเขา ภาพความหลังต่างๆ ผุดพรายในความทรงจำ เธอมิใช่เพียงเป็นงาม แสนหลวง เธอยังเป็นแม่เลี้ยงสาวเจ้าของโรงงานผ้าไหมอีกด้วย ภรตเพิ่งตาสว่างวันนี้ ความรัก ความแค้น ความถือตัวทำให้เลือดในกายแล่นพล่าน
คำบอกเล่าของงาม แสนหลวงที่ว่าเจ้าหญิงแสงฝางกับเจ้าชายกาวิลกำลังจะแต่งงานกัน ที่ทำให้ภรตดีใจว่าเขาจะเป็นอิสระได้แต่งงานกับหญิงอันเป็นที่รัก กลับกลายเป็นว่างาม แสนหลวงจับเขาเชิดเป็นเป็นหุ่นอย่างสนุกมือ ภรตบอกว่าจะกลับกรุงเทพวันรุ่งขึ้น แสงฝางใจหาย จากนั้นทั้งตาทั้งใจของภรตว่างเปล่า ภรตได้พบกับเจ้าแสงฝางเป็นการส่วนตัว สองคนโต้กันด้วยใจที่เจ็บร้าวด้วยรัก ภรตเสียใจที่แสงฝางทำทุกอย่างเพียงเพื่อแก้แค้นเขา แสงฝางโต้อย่างเจ็บช้ำที่ภรตทำกับเธอ เหยียดเธอเป็นพวกต่างเมือง กีดกันชาลีจากเธอ เขาต่างหากที่ตีราคาเธอต่ำจนเธอต้องสัญญากับตัวเองว่าเขาจะได้รับการตอบแทนจากเธอเช่นกัน
ภรตว่าแสงฝางได้ตอบแทนเขาอย่างสาสมแล้ว การที่รู้ว่าผู้หญิงที่ตนรักกำลังจะแต่งงานกับชายอื่นทำให้เขาผิดหวังมาก แต่เขาก็ยินดีกับเธออย่างจริงใจ เขาสวมสร้อยศิลามณีให้แสงฝาง กระซิบฝากบอกงาม แสนหลวงว่าถึงอย่างไรเขาก็รักเธอเสมอ แล้วเดินจากไป สายบดีเข้ามาบอกเจ้าแสงฝางว่าเขาบอกเจ้าชายกาวิลไปแล้วว่าแสงฝางกับภรตกำลังตกลงกันเรื่องวันแต่งงาน ก็หมั้นกันมาตั้งนานแล้ว แสงฝางทุบสายบดีฐานเจ้าอุบาย
ภรตอยู่ไปวันๆ ด้วยความเซ็ง ชาลีกับศศิมาบอกว่าวันนี้คุณหญิงอทิติพาลูกสาวมาไหว้คุณหญิงเสมอใจ ภรตงงว่าคุณหญิงอทิติมีลูกสาวที่ไหนอีก เมื่อภรตมาที่ห้องรับแขก เขาพบกับงาม แสนหลวง เขาตะลึงตัวชา งามเล่าให้ภรตฟังว่าเธอกลับมากรุงเทพเพราะคุณหญิงอทิติส่งจดหมายไปบอกว่าป่วยมาก แต่เมื่อเธอมาถึงคุณหญิงไม่เป็นอะไรเลย คุณหญิงบอกว่าใช้วิธีนั้นเรียกงามมาเพื่อพางามไปกราบทำความรู้จักกับคุณหญิงเสมอใจ ภรตรู้ว่าแม่เขาพอใจงามขึ้นมาบ้างเมื่อรู้ว่างามเป็นลูกสาวคุณหญิงอทิติ ต้องขอบคุณคุณหญิงอทิติที่ช่วยแก้ปัญหารักให้เขากับงาม ภรตชื่นใจยิ่งนัก เขาบอกงามว่าเป็นเพื่อนเจ้าสาวให้อิสรีแต่งกับนพ.พิภพคราวนี้แล้วเลิกเป็นเพื่อนเจ้าสาวเสียที เก็บตัวไว้เป็นเจ้าสาวของเขาคนเดียว งามยิ้มรับอย่างอ่อนหวาน
อทิติสมรสครั้งแรกกับเจ้าฟ้าแสนหลวง เจ้าผู้ครองเชียงรัฐ รัฐอิสระทางภาคเหนือของประเทศไทย เจ้าอายุมากกว่าอทิติถึงสองรอบ ความแตกต่างของอายุและความเงียบเชียบของเชียงรัฐซึ่งอยู่ท่ามกลางขุนเขาและป่าไม้ทำให้อทิติทนไม่ได้ สองปีหลังจากให้กำเนิดลูกสาวคือเจ้าหญิงแสงฝาง อทิติทิ้งทุกอย่างที่เชียงรัฐกลับเป็นตัวของตัวเอง และต่อมาก็ได้สมรสกับพลเอกจอมณรงค์ เจ้าหญิงแสงฝางน้อยใจที่แม่ทอดทิ้ง จึงไม่ยอมติดต่อคุณหญิงอทิติเลย
เจ้าหญิงแสงฝาง มากับหอมนวล พี่เลี้ยงวัยกลางคน เจ้าแสงฝางไม่แสดงอาการที่บ่งบอกถึงความรักที่ลูกมีต่อแม่แต่อย่างใดเลย เธอบอกคุณหญิงอทิติว่าเจ้าฟ้าแสนหลวงป่วยและเธอจะไปเยี่ยม ขอให้คุณหญิงอทิติไปด้วย แต่คุณหญิงปฏิเสธ โดยอ้างสถานะ ที่ขณะนี้มีสามีใหม่แล้ว และไม่เห็นด้วยที่เจ้าแสงฝางจะขาดเรียน แต่เจ้าแสงฝางยืนยันจะไป การพูดถึงเจ้าพ่อด้วยความรักและผูกพันอย่างลึกซึ้งแต่พูดกับผู้เป็นแม่อย่างห่างเหินราวพูดกับคนรู้จักผิวเผินทำให้คุณหญิงอทิติไม่ชอบใจ ศศิ ลูกสาวของพลเอกจอมณรงค์ ลูกเลี้ยงของคุณหญิงอทิติ วัยไล่เลี่ยกับเจ้าแสงฝาง สนใจเจ้าแสงฝางมากเมื่อรู้ว่าเป็นเจ้าหญิงจากเมืองเหนือ แต่เธอไม่รู้ว่าเจ้าแสงฝางเป็นลูกสาวของคุณหญิงอทิติ
เจ้าแสงฝางเดินทางไปเชียงรัฐคนเดียว เจ้าสายบดี มารับเจ้าแสงฝางที่สนามบินเชียงใหม่ เจ้าสายบดีเป็นลูกชายของเจ้าบัวละวง น้องสาวคนเดียวของเจ้าฟ้าแสนหลวง บิดาของเขาคือเจ้าวงตะวัน เจ้าแสงฝางถามอาการของเจ้าพ่อทันที เขาบอกว่าอาการเจ้าฟ้าแสนหลวงไม่สู้ดี ท่านอยากพบลูกสาวคนเดียวซึ่งเป็นสุดดวงใจของท่าน เพราะมีเรื่องสำคัญมากจะพูดกับเธอ ท่านจึงยังประคองลมหายใจมาได้จนวันนี้
เจ้าแสงฝางน้ำตาพรูเมื่อเห็นสภาพร่างกายที่ผ่ายผอมของเจ้าพ่อ เจ้าฟ้าแสนหลวงขอให้เจ้าแสงฝางรับช่วงปกครองเชียงรัฐต่อจากท่าน ขอให้เธอมีความอดทน และอย่าอับอายว่าเชียงรัฐเป็นเพียงเมืองเล็กๆ เป็นเพียงจุดๆเดียวที่มองไม่เห็นในแผนที่ประเทศไทย เพราะมันคืออาณาจักรบ้านเกิดเมืองนอนของเจ้าแสงฝาง เจ้าแสงฝางให้สัญญา และเจ้าฟ้าแสนหลวงได้พูดเรื่องสำคัญกับเธอ ขอให้เธอสัญญาว่าจะไม่โกรธและเกลียดท่าน ท่านบอกว่าได้ให้ศิลามณีแก่เพื่อนรักที่สุดของท่านคือ เจ้าคุณพระยาเพชรายุทธ เจ้าคุณเป็นคนดีพร้อมทั้งจิตใจและชาติตระกูล ท่านจึงให้ศิลามณีไป
ล่าสุดที่ติดต่อกันก่อนพระยาเพชรายุทธถึงแก่อสัญกรรม ฝ่ายนั้นยังคงเก็บรักษาศิลามณีไว้อย่างดี เจ้าแสงฝางรู้ธรรมเนียมของเผ่าพงศ์ดีว่าการให้ศิลามณีซึ่งเป็นสมบัติล้ำค่าของเชียงรัฐและเป็นสิ่งเดียวที่สำคัญที่สุดในการย่างเข้าสู่ความเป็นหญิงสาวของเธอแก่อีกฝ่ายนั้นหมายความว่าอย่างไร
เจ้าบัวละวงสะดุ้งใจเมื่อเจ้าแสงฝางถามว่าจะเอาศิลามณีคืนมาได้อย่างไร เจ้าแสงฝางบอกว่าเธอเป็นเลือดเนื้อของเชียงรัฐ เธอไม่เคยอับอายในประเพณีโบราณของเชียงรัฐเลย และพร้อมจะปฏิบัติเหมือนหญิงสาวเชียงรัฐทั่วไป แต่เธออยากเป็นผู้มอบศิลามณีให้แก่ชายที่เธอพอใจ ไม่ใช่ใครก็ไม่รู้ที่เขาอาจกำลังหัวเราะเยาะเธออยู่ก็ได้ เจ้าบัวละวงบอกว่าเมื่อเจ้าคุณเพชรายุทธสิ้น ศิลามณีคงตกอยู่ที่ คุณหญิงเสมอใจ ผู้เป็นภรรยา
เจ้าแสงฝางบอกว่าเมื่อเรียนจบจะกลับมาอยู่เชียงรัฐ เป็นสมบัติของเชียงรัฐ เป็นกำลังใจให้พลเมืองที่นี่ไปจนเธอแก่เฒ่า เธอจึงอยากได้ศิลามณีคืน เจ้าสายบดีวิ่งหน้าตาตื่นมาตามเจ้าแสงฝางว่าเจ้าฟ้าแสนหลวงสิ้นใจแล้ว เจ้าแสงฝางเสียใจมาก เธอสาบานว่าจะต้องเอาศิลามณีกลับคืนมาเป็นสมบัติของเชียงรัฐให้ได้ โดยเธอจะกลับกรุงเทพไปเรียนต่อให้จบ และเธอจะอยู่อย่างสามัญชน จากนี้ไปจะไม่มีเจ้าหญิงแสงฝาง จะมีแต่ผู้หญิงที่ชื่อ งาม แสนหลวง เท่านั้น
ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ งามเรียนคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเดียวกับศศิ ด้วยความขรึม เฉยเมย และไว้ตัวของงาม ทำให้หนุ่มๆ ประจำสามแยกปากหมาว่าเธอหยิ่ง ไม่มีใครรู้ชาติตระกูลของเธอ งามมีชาลี หนุ่มผมยาวแต่งตัวมอมตามแบบฉบับชาวศิลปากรรับส่งเป็นประจำ
ภรต ราชเสนา หรือ ต้อม ลูกชายแท้ๆ ของคุณหญิงเสมอใจ ช่วยพี่ชายบุญธรรม นายแพทย์พิภพ ภักดีพงศ์ หรือ ต้น พูดกับคุณหญิงเสมอใจขอยืมเงินและขอที่ดินทำคลินิก หลังจาก นพ.พิภพย้ายจากต่างจังหวัดเข้ามาอยู่กรุงเทพ และยังพูดเลยไปเรื่องหญิงสาวที่ นพ.พิภพรักและมีแผนจะแต่งงานกัน คุณหญิงเสมอใจไม่พอใจนักที่ นพ.พิภพจะลงเอยกับ เภสัชกรหญิงอิสรี สุรคุปต์ เพราะท่านยังไม่เคยเห็นหน้า และเมื่อซักประวัติคร่าวๆ เธอเป็นแค่หญิงสาวในครอบครัวข้าราชการบำนาญที่ไม่ร่ำรวยอะไร ท่านจึงไม่ค่อยเห็นด้วยและยังห่วงเรื่องหน้าตาของตระกูล
ภรตอยากช่วยพี่ชายให้ถึงที่สุดจึงตามไปห้องนอนของแม่เพื่อช่วยพูดเชียร์ให้แม่เห็นด้วยกับความรักของพี่ คุณหญิงเสมอใจกำลังขนเครื่องเพชรเครื่องทองออกมาดู ในจำนวนนั้นมีสร้อยมรกตเม็ดโตล้อมเพชรที่ใครๆ เห็นก็ต้องรู้ว่างามมากและค่ามหาศาล ภรตยิ่งประหลาดใจเมื่อแม่บอกว่ามีคนให้มา คุณหญิงเครียดเมื่อนึกถึงที่มาของสร้อยมรกต คุณหญิงเล่าให้ภรตฟังว่า นี่คือของหมั้นตามธรรมเนียมของเชียงรัฐฝ่ายหญิงจะหมั้นชาย และเขาก็ได้หมั้นภรต ถึงฝ่ายโน้นจะเป็นเจ้า แต่ก็เป็นเจ้าแห่งเมืองเล็กๆ ซึ่งท่านเห็นว่าต่ำต้อยและรังเกียจมาก แต่เมื่อเจ้าคุณผู้เป็นสามีสั่งไว้ก่อนสิ้นใจให้ท่านดำเนินการต่อ มิฉะนั้นต้องคืนสร้อยมรกตเส้นนี้ไป
ภรตไปหาชาลี น้องชายแท้ๆ ของเขา ที่เรือนพักหลังเล็กซึ่งชาลีมักใช้เป็นห้องสร้างสรรค์งานศิลป์ของเขา ภรตถือวิสาสะเปิดดูภาพเขียนซึ่งชาลีคลุมผ้าไว้ ชาลีหวงภาพนี้มาก ภาพนั้นคือภาพพอเทรตครึ่งตัวหญิงสาวสวยอ่อนหวานมาก โพกศีรษะแบบสาวชาวบ้านลานนา โดยมีงามเป็นนางแบบให้กับชาลี ในวันรุ่งขึ้น งามมาเป็นแบบให้ชาลีวาดภาพต่อจนเสร็จชาลีแนะนำงามให้รู้จักภรตว่าเป็นพี่ชายของเขา ภรตทักทายสั้นๆ กับงามแล้วไป เหมือนเย่อหยิ่งไม่สนใจเธอเลย งามเกิดอาการคอแข็งขึ้นมาทันที เธอแปลกใจที่คบกับชาลีมานานแต่ไม่รู้เลยว่าชาลีนามสกุลราชเสนา แต่ที่เธอใจเต้นที่สุดคือการได้รู้จักภรต ราชเสนา เขาคนนี้เองคือผู้ครอบครองศิลามณีของเธอ
เมื่องามกลับถึงโรงงานผ้าไหมของเธอ งามเปลี่ยนเสื้อผ้าจากชุดนักศึกษาสาวสะอาดใสเป็นชุดสาวเหนือ แต่งหน้าเป็นสาวจัด ป้าหอมนวลบ่นเป็นห่วงงามที่ทำตัวเป็นนักศึกษายากจนไม่มีหัวนอนปลายเท้าโหนรถเมล์กลับบ้านทุกวันให้คนดูถูก หากต้องการดูใจผู้คน ตอนนี้ก็ได้เห็นใจชาลีแล้วว่าเป็นคนดีมากทำไมไม่ให้ชาลีรับส่ง งามไม่ต้องการให้ชาลีรู้ว่าเธออยู่ที่ไหน พันโทอติศักดิ์ หนึ่งในชายหนุ่มที่มาติดพันแม่เลี้ยงสาวเจ้าของโรงงานผ้าไหม พาเพื่อนมาซื้อเสื้อผ้าไหม เขาคือภรต ราชเสนา ภรตรู้สึกแม่เลี้ยงเหมือนใครที่เขาเคยเห็น แต่ก็นึกไม่ออก
คุณหญิงอทิติไม่เคยได้ข่าวลูกสาวอีกเลยนับตั้งแต่งามเดินทางไปเยี่ยมเจ้าพ่อ การเติบโตเป็นสาวของศศิทำให้คุณหญิงคิดถึงลูกงามของเธอมาก ด้วยว่าทั้งสองสาวอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน คุณหญิงมีลูกชายกับพลเอกจอมณรงค์คนหนึ่ง ขณะนี้เพิ่งอายุสามขวบ
งานฉลองแซยิดของคุณหญิงเสมอใจเป็นงานใหญ่ แขกเหรื่อมากมาย ภรตให้ชาลีชวนงามมาร่วมงานด้วย เมื่อได้พบคุณหญิงเสมอใจ งามเห็นว่าท่านไม่ได้สวมศิลามณี งามกังวลว่าศิลามณีอยู่ที่ไหน และงามต้องใจหายเมื่อเห็นพลเอกจอมณรงค์ เธอเกรงจะพบแม่อทิติของเธอ แต่โล่งใจเมื่อรู้ว่านายพลมากับศศิ คุณหญิงเสมอใจเอาใจศศิมากจนออกนอกหน้า หลังอาหารงามและชาลีแยกตัวจากกลุ่มผู้คนไปนั่งเล่นใกล้เรือนเล็กของชาลี ถ้อยคำที่ชาลีแสดงความจงรักเทิดทูนงามอย่างยิ่งทำให้งามทั้งสงสารและสมเพชชาลี
เธอพูดเป็นนัยว่าชาลีอาจคิดว่าเธอดี แต่เธออาจใช้ชาลีเป็นบันไดไปสู่อะไรบางอย่าง ซึ่งหากวันหนึ่งชาลีรู้ความจริง ชาลีจะเสียใจและเกลียดเธออย่างที่สุดก็ได้ ชาลีว่าถึงเขาจะต้องเสียใจเพราะงามแต่ความเสียใจนั้นจะไม่มีวันทำลายความรู้สึกที่เขายกย่องงามได้เลย ภรตพาศศิมาที่เรือนของชาลีเพราะศศิอยากดูภาพเขียน ชาลีพาศศิเข้าไปดูภาพเขียนในบ้าน ภรตจึงอยู่กับงามสองต่อสอง งามรู้สึกว่าบรรยากาศอึดอัดขึ้นมาทันใด ภรตจงใจพูดยั่วประสาทงาม เธอต่อปากต่อคำเขาไม่ลดละ
ภรตนึกถึงแม่เลี้ยงสาวที่โรงงานผ้าไหม บอกงามว่าหน้างามเหมือนแม่เลี้ยงสาวคนนั้น แต่ประชดประชันว่าแม่เลี้ยงสาวยิ้มหวานช่างพูดช่างเอาใจ แต่งามตรงข้ามทั้งหมด งามว่าเธอไม่มีทางเป็นแม่เลี้ยงคนนั้น เธอพูดประชดประชันเรื่องชาติกำเนิดที่เป็นคนต่างเมือง แต่เธอก็ทึ่งที่ภรตไม่ได้แบ่งชั้นวรรณะเลย เขาว่าถึงเป็นชาวเหนือแต่ก็เป็นคนไทยเหมือนกัน
ภรตถามงามถึงเชียงรัฐ งามบอกว่ารู้จักดีที่สุดเพราะเธอเกิดและโตที่นั่น ภรตตื่นเต้นมาก เขาถามงามถึงเจ้าหญิงแสงฝางว่าเป็นอย่างไร งามว่าเธอเป็นคนวงนอก ไม่ค่อยรู้อะไรนัก เท่าที่รู้เจ้านางเป็นคนสวย มักอยู่แต่ในวัง ไม่ค่อยออกไปไหน เจ้านางเกลียดความชุลมุนวุ่นวายของโลกภายนอก ภรตแกล้งถามถึงประเพณีที่ผู้หญิงขอผู้ชายแต่งงาน ทำให้งามชักสงสัยว่าเหตุใดภรตจึงพูดถึงประเพณีของเชียงรัฐและเจ้านางหรือว่าภรตจะรู้เรื่องของศิลามณีแล้ว
ศศิบังเอิญเจอกับชาลีเมื่อรถเธอเสีย ชาลีเข้ามาช่วยและพาศศิไปส่งที่มหาวิทยาลัย เธอรู้สึกถูกใจกับชาลีเป็นอย่างมาก แต่ชาลีกับนิ่งเรียบมีใจให้งามเพียงคนเดียว
งามกลับจากมหาวิทยาลัย ป้าหอมนวลบอกว่าภรตมาหาและจะกลับมาใหม่ตอนค่ำ ทุกครั้งที่ได้ยินชื่อภรตงามใจเต้นระรัวด้วยสาเหตุที่ตอบตัวเองไม่ได้ แต่ก็ยินดีว่าเมื่อภรตตามเธอนั่นหมายถึงชัยชนะกำลังเดินมาหาเธอ หากภรตหลงรูปโฉมของเธอ เธอก็จะใช้ความงามปอกลอกเอาศิลามณีกลับคืนมา
งามในสภาพแม่เลี้ยงสาวดูงามยิ่งนักในสายตาภรต ภรตเอ่ยปากชวนแม่เลี้ยงไปทานอาหาร แม่เลี้ยงตกปากรับคำทันที เมื่อภรตกลับถึงบ้าน ชาลีบอกภรตว่าเขาตกลงใจเช่าร้านที่ภรตติดต่อให้ เปิดแสดงภาพเขียน และจะเอาภาพสาวชาวป่าที่งามเป็นแบบไปโชว์ด้วย แต่จะไม่ขาย คุณหญิงเสมอใจถามเรื่องที่ค้างคาใจตั้งแต่งานเลี้ยงแซยิดว่างามเป็นใคร รู้สึกผิวเหลืองเหมือนสาวเหนือ ชาลีเงียบ เขาคบหากับงามมานานแต่ไม่เคยรู้เลยว่างามเป็นใครมาจากไหน ภรตเลยตอบแทนว่าเป็นสาวเหนือ เป็นชาวเชียงรัฐ
คุณหญิงเสมอใจได้ยินก็นึกถึงเรื่องศิลามณี ท่านรังเกียจและดูถูกงามทันที และสั่งชาลีให้ระวังการคบหากับงาม ตอกย้ำว่าผู้หญิงเชียงรัฐรักผู้ชายคนไหนจะสู่ขอเลยทันที อีกหน่อยงามคงสู่ขอชาลีเหมือนที่ภรตโดนเจ้าหญิงเชียงรัฐสู่ขอมาแล้วตั้งแต่เด็ก แต่ชาลีไม่สนใจ ภรตวางแผน เขาบอกแม่ว่าเขาจะดึงชาลีออกมาจากงามให้ได้ ภรตทะเลาะกับชาลี ดูถูกว่างามไม่มีหัวนอนปลายเท้าจะปอกลอกชาลี ชาลีปกป้องงามจากคำกล่าวหาของภรต ภรตท้าพนันให้คอยดูว่างามจะโอนเอนมาหาเขาทั้งๆ ที่ชาลีสนิทสนมกับงามก่อนเขาและมากกว่าเขา
ภรตมาพบแม่เลี้ยง เขาคุยกับเธอเรื่องความหัวอ่อนและอารมณ์อ่อนไหวของชาลีที่ทำให้ลุ่มหลงผู้หญิงซึ่งแม่ไม่ชอบ และยังว่าผู้หญิงคนนั้นซึ่งคืองามให้งามฟังอีกด้วย เขาว่าเมื่อเห็นแม่เลี้ยงครั้งแรกเขาคิดว่าเป็นคนเดียวกับผู้หญิงคนนั้น แต่แม่เลี้ยงต่างจากผู้หญิงคนนั้นมาก ภรตว่าแม่มองผู้หญิงไว้ให้ชาลีแล้ว แต่ไม่ได้บอกว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร ภรตชวนไปข้างนอก ตลอดทางแม่เลี้ยงยิ้มหวานคุยสนุกกับเขาแต่ใจบอกตัวเองว่าเกลียดนายภรตคนนี้นัก เขาดูถูกงาม แสนหลวง ไม่รู้เลยว่าจุดไต้ตำตอเข้าเต็มๆ
ภรตพาแม่เลี้ยงไปดูแกลเลอรี่ของชาลี เธอแทบทำหน้าไม่ถูก เกรงชาลีจับได้ เธอเห็นภาพงามที่ชาลีวาดแขวนอยู่ในที่ที่เด่นที่สุด เมื่อชาลีมาต้อนรับ และบอกว่าเขาไม่ขายภาพสาวชาวป่าที่เขาตั้งชื่อว่างาม เขาพูดถึงผู้เป็นนางแบบอย่างยกย่องภาคภูมิใจยิ่งนัก งามรู้ว่าเขาจริงใจเสมอต้นเสมอปลาย ความจริงใจของชาลีเกือบจะละลายทิฐิของงามต่อตระกูลราชเสนาลงได้ ชาลีตกใจเมื่อเห็นหน้าหญิงสาวที่ภรตแนะนำว่าเป็นแม่เลี้ยงเจ้าของโรงงานผ้าไหม แต่เมื่อแม่เลี้ยงไม่ได้แสดงทีท่าว่าจะเป็นงาม ชาลีจึงนิ่งไป แต่ด้วยสายตาของผู้เป็นจิตกร เขาคิดว่ารูปร่างหน้าตาเช่นนี้ไม่น่าจะมีซ้ำเป็นคนที่สอง แม่เลี้ยงยืนยันอยากได้ภาพเขียนที่ชื่องาม ชาลียืนยันไม่ขาย
ภรตเริ่มเดินแผนแยกชาลีจากงาม เขาไปหางามที่มหาวิทยาลัย ขอคุยกับเธอ เรื่องชาลี ว่าทั้งแม่และเขาเห็นว่าชาลีควรได้แต่งงานกับหญิงที่มีสกุลรุนชาติและดีพร้อมหมด และเธอคนนั้นคือศศิ ภรตขอให้งามตีตัวออกห่างจากชาลีโดยคบชายอื่นแทน และเพื่อให้ชาลีแน่ใจว่างามทิ้งชาลีจริง ภรตเสนอตัวเองเป็นคนรักชั่วคราวของงาม งามถูกต้อนและถูกดูแคลนจนทั้งเจ็บทั้งแค้น แต่ที่เธอเจ็บปวดนักคือการที่เธอต้องทำร้ายชาลีเพื่อนแท้คนเดียวที่จริงใจต่อเธอที่สุด แต่จะทำอย่างไรได้ในเมื่อเธอเป็นคนเริ่มทุกอย่างเอง เริ่มด้วยความแค้นด้วยปณิธานแรงกล้าที่จะเอาศิลามณีคืน งามรับปากภรตจะตัดขาดชาลี
แม่เลี้ยงงามดีใจมากเมื่อภรตนำภาพเขียนชื่องามของชาลีไปให้ ภรตไม่รับเงินค่าภาพเขียน บอกว่าเป็นของขวัญจากเขา แม่เลี้ยงจึงสวนกลับว่าเป็นของขวัญเพื่อการจากกัน ภรตเครียดขรึมทันที งามรู้สึกว่าการปลอมตัวของเธอไม่ทำให้เธอเข้าถึงศิลามณี แต่กลับจะทำให้เธอกับภรตผูกพันกันยิ่งขึ้น เธอต้องตัดเขาแล้ว เธอบอกภรตว่าเจ้าสายบดีจะมาหาเธอวันนี้ ภรตสรุปว่าเจ้าสายบดีคือเจ้าของเธอ เขาลากลับทันที
ในงานแข่งขันฟุตบอลประเพณีจุฬา-ธรรมศาสตร์ ภรตยังเจ็บแค้นแม่เลี้ยง เลยพาลไปถึงงามด้วย เขาเตือนชาลีให้เตรียมรับความโลเลใจง่ายชอบหลอกล่อชายให้ติดบ่วงของผู้หญิง ชาลีไม่สนใจ ภรตเข้ามาดูแข่งบอลด้วย เมื่อเจอกับงาม ภรตดึงงามไปต่อหน้าต่อตาชาลีและศศิ บอกชัดเจนว่างามกับเขานัดกันไว้ งามไม่ขัดขืน เธอต้องรักษาสัจจะ ชาลีแทบหัวใจสลาย เขาไม่เข้าใจว่าเหตุใดงามเปลี่ยนทีท่ากะทันหันมาก เขาไม่เชื่อว่าเธอจะเป็นหญิงใจโลเลดังที่พี่ชายพยายามพูดชี้นำ
งามขึ้นรถไปกับภรต เธอเสียใจมากที่ทำร้ายความรู้สึกของชาลี ภรตพูดแกมบังคับเธอว่า จากนี้ไปงามจะไปไหนโดยไม่มีเขาไม่ได้จนกว่าชาลีจะแต่งงานกับศศิ หากงามจะพิสูจน์ตัวเองตามที่งามเคยบอกว่าคบกับชาลีด้วยความบริสุทธิ์ใจ งามต้องรอจนกว่าชาลีลงเอยกับศศิแล้วเขาจึงจะปล่อยมือจากเธอ
ชาลีกับภรตทะเลาะกันเรื่องงามอย่างหนัก จากวันนั้นชาลีเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างสิ้นเชิง ชาลีไปหาศศิ ทำเป็นร่าเริงจี๋จ๋ากับเธอกลบใจที่เจ็บจนชาของตัวเอง ศศิมีความสุขยิ่งนัก
คุณหญิงเสมอใจยังประณามงามในฐานะสาวเหนือให้ภรตได้ยิน ภรตแก้ต่างแทนงาม เขาคิดว่าตัวเองทำกับเธอเกินไป ที่ผ่านมาเขามองงามผิดๆ เพราะเขายังไม่เคยรู้ความจริงด้วยตัวเขาเอง คุณหญิงเสมอใจรื้อฟื้นที่ท่านเคยลั่นวาจาว่าหากชาลีและภรตแต่งงานกับผู้หญิงที่ท่านไม่ชอบจะไม่ได้มรดกจากท่านเลย ภรตออกจากห้องมารดามาเจอกับชาลี ชาลีได้ยินทุกอย่างที่แม่พูด คำพูดของคุณหญิงเสมอใจครั้งนี้ทำให้พี่น้องกลับคืนกลมเกลียวกันได้ เพราะต่างเข้าใจและเห็นใจงามด้วยกันทั้งคู่ ภรตเสียใจที่มองงามผิดๆ และทำไม่ดีกับงามไว้มาก เขาอยากชดใช้ ภรตตั้งใจจะเอาศิลามณีไปคืนที่เชียงรัฐแล้วกลับมาของามแต่งงาน
จนวันแต่งงานของชาลีกับศศิ ศศิพางามไปแนะนำกับคุณหญิงอทิติ เธอจำงามได้ งามไม่ยอมเรียกแม่ว่าแม่ เรียกว่าคุณหญิงทุกคำ ถึงเวลารดน้ำสังข์ งามยืนเป็นเพื่อนเจ้าสาวด้วยใจเด็ดเดี่ยว เธอสงสารชาลีจนแทบจะร้องไห้ เมื่อเสร็จพิธีรดน้ำสังข์งามเป็นเหน็บเดินไม่ไหว ภรตโอบประคองเธอไปนั่ง เขาเป็นชายคนแรกที่ได้กอดเธอแนบชิด
งามรู้สึกว่าสัมผัสนั้นนุ่มนวลจริงใจยิ่งนัก ภรตรู้สึกว่าเขาทำผิดกับงามอย่างมาก เขาพยายามขอโทษ งามไม่สนใจ บอกว่าเธอทำเพราะพันธะที่รับปากเขา ทันทีที่เสร็จสิ้นงานแต่งงานเธอถือว่าเธอเป็นอิสระจากพันธะกับภรต คุณหญิงอทิติมาเจอ ขอคุยกับงามเป็นส่วนตัว งามยังคงน้อยใจแม่ คำพูดของงามทำให้คุณหญิงอทิติเสียใจจนร้องไห้ งามใจอ่อนยอมเรียกแม่ว่าแม่ และเล่าเรื่องที่เธอเป็นงาม แสนหลวงผู้ยากจนไม่มีสกุลรุนชาติ กับเรื่องศิลามณีให้แม่ฟัง
งามกลับถึงเชียงรัฐบ้านเกิด ได้ไปกราบอัฐิเจ้าพ่อที่กู่เจ้าในวัดสวนดอก ถ้อยคำอธิษฐานของเธอเศร้านัก เธอบอกเจ้าพ่อว่ากลับมาเชียงรัฐอย่างผู้แพ้ หวังที่สุดที่จะให้ความอบอุ่นจากเชียงรัฐเป็นเครื่องสมานหัวใจของเธอ เจ้าหญิงแสงฝางกราบคารวะอัฐิผู้เป็นบิดาด้วยน้ำตา
เจ้าสายบดีพาเพื่อนคือ เจ้าชายกาวิล แห่งรัฐไชยาบุรีมารู้จักกับเจ้าแสงฝาง เจ้าชายกาวิลเพิ่งกลับจากฝรั่งเศส และมาท่องเที่ยวเชียงรัฐ เขารูปชั่วปานกับจรกา เจ้าชายกาวิลรักเจ้าแสงฝางทันทีที่เห็น และรู้ว่าแสงฝางมีคู่หมั้นแล้ว ชื่อภรต ราชเสนา
ภรตบอกชาลีว่างามหายไปตั้งแต่วันรุ่งขึ้นที่ชาลีแต่งงานและเธอลาออกจากมหาวิทยาลัยแล้ว คำพูดและท่าทางเหมือนใกล้ตายของพี่ชายทำให้ชาลีถามว่าเขารักงามหรือ ภรตยอมรับว่าเขารักและต้องการแต่งงานกับงาม ภรตเล่าให้ชาลีฟังว่ามารดาเคี่ยวเข็ญให้แต่งงานกับ ลูกสาวของของคุณพระอายุศ ภรตขอศิลามณีไปคืนเชียงรัฐ เขาอยากหมดพันธะกับเจ้าหญิงแสงฝางเพื่อแต่งงานกับงาม ไม่แคร์แล้วว่างามจะเป็นใครมีหัวนอนปลายเท้าหรือไม่
ภรตจึงเขียนจดหมายถึงเจ้าหญิงแสงฝางขอยกเลิกการหมั้นและจะเอาศิลามณีไปคืนที่เชียงรัฐและขอพบเจ้าหญิงเพื่อเชิญไปงานแต่งงานของเขา เจ้าแสงฝางถือว่าจดหมายฉบับนี้เยาะเย้ยกันโดยตรง เธอรู้สึกว่าภรตดูถูกเธอ แล้วยังจะมาดูหน้าเธอถึงเชียงรัฐเยาะเย้ยกันอีกด้วย เจ้าแสงฝางจึงตัดสินใจแต่งงานกับเจ้าชายกาวิล
ภรตเดินทางมาถึงเชียงรัฐ ขอพบเจ้าหญิงแสงฝาง แต่เจ้าหญิงไม่อยู่ ภรตจึงจะไปรอที่เชิงดอย ระหว่างทางมีรถจี๊ปคันหนึ่งแล่นเร็วมาก และรถของภรตแล่นสวนด้วยความเร็วมากพอกัน จึงหลีกกันไม่พ้น พุ่งชนกันอย่างแรง แสงฝางฟื้นขึ้นที่โรงพยาบาลโดยไม่บาดเจ็บอะไรมาก พยาบาลบอกเธอว่าชายที่มากับรถอีกคันแขนหัก ศีรษะแตก แสงฝางจึงไปเยี่ยมชายคนนั้น เธอตกใจเมื่อเห็นว่าเขาคือภรต แสงฝางจัดการให้ภรตได้อยู่ห้องพิเศษ
ภรตฟื้นมาเห็นงามด้วยความดีใจที่สุด เขาบอกว่าคิดถึงเธอใจแทบขาดและพยายามตามหาเธอ ภรตเล่าเรื่องที่เขาไปเชียงรัฐแต่ไม่พบเจ้าหญิงแสงฝาง งามโกหกภรตว่าเธอเป็นคนรับใช้ของเจ้าหญิงแสงฝาง ภรตว่าเขาจะถอนหมั้นเจ้าหญิงมาแต่งงานกับคนใช้ งามช็อกไปเลย เธอไม่นึกฝันเลยว่าจะได้ยินคำนี้จากภรต ภรตขอให้งามรอเขาหายป่วยแล้วเขาจะแต่งงานกับเธอ แต่งามปฏิเสธ เธอเชิญภรตมาร่วมงามแต่งงานของเจ้าแสงฝางกับเจ้าชายกาวิล
คุณหญิงอทิติตัดสินใจจะเปิดเผยความจริงเรื่องงาม แสนหลวงแก่ภรต ชาลีบอกว่าภรตไปเชียงรัฐ เอาศิลามณีไปคืน คุณหญิงอทิติเปิดเผยกับชาลีและศศิว่างามเป็นลูกสาวของเธอ พ่อของงามคือเจ้าฟ้าแสนหลวงแห่งเชียงรัฐ งามคือเจ้าหญิงแสงฝางคู่หมั้นของภรต คุณหญิงอทิติเล่าสาเหตุที่เจ้าแสงฝางเข้ากรุงเทพมาตามหาศิลามณีให้ชาลีและศศิฟังทั้งหมด
เจ้าชายกาวิลกลับมาพร้อมของบรรณาการ และในวันงานขันโตก เจ้าสายบดียังบ่นไม่ชอบใจที่แสงฝางถือแต่ทิฐิจะแก้แค้นภรต สายบดีพาภรตไปนั่งกับเจ้าชายกาวิล กาวิลหงุดหงิดทันใดเมื่อสายบดีแนะนำว่าหนุ่มรูปงามผู้นี้ คือ ภรต ราชเสนา และก็มีเสียงขานชื่อเจ้าหญิงแสงฝางแล้วผู้คนลุกยืนต้อนรับ ภรตรู้สึกเหมือนถูกใครควักหัวใจกระชากอย่างแรง เจ้าหญิงแสงฝางคู่หมั้นของเขานั้น คืองาม แสนหลวงชัดๆ และแวบหนึ่งที่เจ้าหญิงสบตาเขา ภาพความหลังต่างๆ ผุดพรายในความทรงจำ เธอมิใช่เพียงเป็นงาม แสนหลวง เธอยังเป็นแม่เลี้ยงสาวเจ้าของโรงงานผ้าไหมอีกด้วย ภรตเพิ่งตาสว่างวันนี้ ความรัก ความแค้น ความถือตัวทำให้เลือดในกายแล่นพล่าน
คำบอกเล่าของงาม แสนหลวงที่ว่าเจ้าหญิงแสงฝางกับเจ้าชายกาวิลกำลังจะแต่งงานกัน ที่ทำให้ภรตดีใจว่าเขาจะเป็นอิสระได้แต่งงานกับหญิงอันเป็นที่รัก กลับกลายเป็นว่างาม แสนหลวงจับเขาเชิดเป็นเป็นหุ่นอย่างสนุกมือ ภรตบอกว่าจะกลับกรุงเทพวันรุ่งขึ้น แสงฝางใจหาย จากนั้นทั้งตาทั้งใจของภรตว่างเปล่า ภรตได้พบกับเจ้าแสงฝางเป็นการส่วนตัว สองคนโต้กันด้วยใจที่เจ็บร้าวด้วยรัก ภรตเสียใจที่แสงฝางทำทุกอย่างเพียงเพื่อแก้แค้นเขา แสงฝางโต้อย่างเจ็บช้ำที่ภรตทำกับเธอ เหยียดเธอเป็นพวกต่างเมือง กีดกันชาลีจากเธอ เขาต่างหากที่ตีราคาเธอต่ำจนเธอต้องสัญญากับตัวเองว่าเขาจะได้รับการตอบแทนจากเธอเช่นกัน
ภรตว่าแสงฝางได้ตอบแทนเขาอย่างสาสมแล้ว การที่รู้ว่าผู้หญิงที่ตนรักกำลังจะแต่งงานกับชายอื่นทำให้เขาผิดหวังมาก แต่เขาก็ยินดีกับเธออย่างจริงใจ เขาสวมสร้อยศิลามณีให้แสงฝาง กระซิบฝากบอกงาม แสนหลวงว่าถึงอย่างไรเขาก็รักเธอเสมอ แล้วเดินจากไป สายบดีเข้ามาบอกเจ้าแสงฝางว่าเขาบอกเจ้าชายกาวิลไปแล้วว่าแสงฝางกับภรตกำลังตกลงกันเรื่องวันแต่งงาน ก็หมั้นกันมาตั้งนานแล้ว แสงฝางทุบสายบดีฐานเจ้าอุบาย
ภรตอยู่ไปวันๆ ด้วยความเซ็ง ชาลีกับศศิมาบอกว่าวันนี้คุณหญิงอทิติพาลูกสาวมาไหว้คุณหญิงเสมอใจ ภรตงงว่าคุณหญิงอทิติมีลูกสาวที่ไหนอีก เมื่อภรตมาที่ห้องรับแขก เขาพบกับงาม แสนหลวง เขาตะลึงตัวชา งามเล่าให้ภรตฟังว่าเธอกลับมากรุงเทพเพราะคุณหญิงอทิติส่งจดหมายไปบอกว่าป่วยมาก แต่เมื่อเธอมาถึงคุณหญิงไม่เป็นอะไรเลย คุณหญิงบอกว่าใช้วิธีนั้นเรียกงามมาเพื่อพางามไปกราบทำความรู้จักกับคุณหญิงเสมอใจ ภรตรู้ว่าแม่เขาพอใจงามขึ้นมาบ้างเมื่อรู้ว่างามเป็นลูกสาวคุณหญิงอทิติ ต้องขอบคุณคุณหญิงอทิติที่ช่วยแก้ปัญหารักให้เขากับงาม ภรตชื่นใจยิ่งนัก เขาบอกงามว่าเป็นเพื่อนเจ้าสาวให้อิสรีแต่งกับนพ.พิภพคราวนี้แล้วเลิกเป็นเพื่อนเจ้าสาวเสียที เก็บตัวไว้เป็นเจ้าสาวของเขาคนเดียว งามยิ้มรับอย่างอ่อนหวาน