ละคร เวราอาฆาต

เรือง (เคลลี่ ธนะพัฒน์) ได้มาทำงานอยู่กับ กำนันเกรียง (กลศ อัทธเสรี) กำนันผู้ใช้หน้าที่การงานในทางที่ผิดเพื่อสร้างประโยชน์แก่ตนเอง เขาออกเงินดอกเงินกู้ให้พวกชาวบ้านกู้ยืม แล้วคดโกงชาวบ้านที่อ่านหนังสือไม่ออก โดยการยึดไร่นาหรือแม้แต่วัวควายของลูกหนี้มาเป็นของตน นอกจากนี้ กำนันเกรียงก็ยังมีอีกหนึ่งอาชีพคือการเปิดโรงเชือดชำแหละวัว-ควายขาย ต่อมาเมื่อเรืองได้เสียกับ ปลื้ม (แคทรียา อิงลิช) ลูกจ้างสาวของกำนัน ทั้งสองคิดจะแยกออกไปสร้างตัวต่างหาก เรืองขอทรัพย์สินบางส่วนของกำนันเป็นค่าตอบแทนที่เขาทำงานรับใช้กำนันอย่างถวายชีวิตมานาน แต่กำนันไม่ยอมให้ มิหนำซ้ำยังด่าว่าเรืองว่าเนรคุณ ขุนไม่ขึ้น เรืองโกรธมากจึงวางแผนปล้นและพลั้งมือฆ่ากำนันตาย เอี้ยง (สุปราณี เจริญผล) กับ เอม (แวนดา สหวงษ์) เมียและลูกสาวของกำนันเกรียง เข้ามาเห็นเข้า ทั้งสองจึงจำเป็นต้องฆ่าสองแม่ลูกเพื่อปิดปาก แต่เอมโชคดีไม่ถึงกับเสียชีวิตในครานั้น

เรืองกับปลื้มพากันหอบทรัพย์สินเงินทองและสมบัติของกำนันหลบหนีไปอาศัย ปทุม (ศิรประภา สุขดำรงค์) พี่สาวของปลื้ม เรืองทำมาหากินด้วยวิชาการโกงที่เรียนรู้มาจากกำนันเกรียง จนมีฐานะร่ำรวยถึงขั้นเศรษฐีของตำบลนั้น ต่อมาเรืองได้ไปหาเรื่องจะยึดที่ทางของ นายแดน (บุญโทน คนหนุ่ม) กับนางชิ้น (นุศรา ประวันณา) สองผัวเมียซึ่งกู้ยืมเงินเรืองไปทำไร่ทำนา แต่สองผัวเมียก็ยืนยันไม่ยอมเซ็นยกที่ไร่นาให้ เพราะทั้งคู่ได้จ่ายค่าเช่าเป็นข้าวเปลือกแก่เรืองครบทุกปี จึงเกิดการต่อสู้กันขึ้น เรืองสั่งลูกน้องให้จัดการสังหารแดนกับเมีย ดิน กับ ชื่น สองพี่น้องลูกของทั้งคู่ มาเห็นเข้า นางชิ้นตะโกนสั่งลูกๆ ให้หนีไป แต่ชื่นวิ่งเข้ามากอดแม่ เรืองซึ่งกำลังฟันนางชิ้นพอดี ชื่นจึงถูกลูกหลงตายในวงแขนแม่ ส่วนดินวิ่งหนีลงบ้าน เขาหนีลัดเลาะป่าจนทะลุเข้าวัด หลวงพ่อในวัดช่วยชีวิตดินเอาไว้ ดินจึงรอดชีวิตจากการถูกเรืองตามล่าได้อย่างหวุดหวิด นับแต่นั้นมา หลวงพ่อปรก (รอง เค้ามูลคดี) ก็อุปถัมภ์เลี้ยงดูดิน พร้อมกับตั้งชื่อใหม่ให้ว่า นคร (อัชชา นามปาน) โดยนครเติบโตมาท่ามกลางความแค้น เขารอคอยวันที่จะเอาคืนเรืองอย่างสาสม

เรืองกับปลื้มมีลูกด้วยกัน 3 คน คือ โรจน์ (พิชยดนย์ พึ่งพันธ์) ลูกชายคนโต ฤทธิ์ (ธาราเขต เพ็ชร์สุกใส) ลูกชายคนกลาง และ สมร (อรจิรา แก้วสว่าง) ลูกสาวคนเล็ก นอกจากนั้นยังได้ขอ มุกดา (ลักษณ์นารา เปี้ยทา) ลูกสาวของปทุม มาเลี้ยงเพื่อให้เป็นลูกไล่ของสมร แต่มุกดาเป็นเด็กไหวพริบดี เอาตัวรอดเก่ง ฉลาดปราดเปรียว ไม่เกรงกลัวใคร สมรจึงทำอะไรมุกดาไม่ได้มาก ลูกทั้งสามของเรืองไม่มีใครเป็นคนดีเลยสักคน ทุกคนล้วนหวังผลประโยชน์จากพ่อแม่กันทั้งสิ้น ต่อมาเมื่อมีฐานะร่ำรวยขึ้นมา เรืองก็กลายเป็นคนหลงตัวเอง เจ้าชู้จนมีเมียน้อยคือ วันเพ็ญ (พิไลรัมภา สิริสุรีภัสร์) หม้ายสาวนักพนัน เมื่อวันเพ็ญเข้ามาอยู่ในบ้านในฐานะเมียน้อยของเรือง ก็ขอเอา คะนอง (ฤตฎ์ อมรชัยฤกษ์) ซึ่งเธออ้างว่าเป็นพี่ชายเข้ามาอยู่ เพื่อคอยติดตามอารักขาความปลอดภัยให้เรืองด้วยอีกคน

เรืองได้สู่ขอ นภา (เขมนาฏ ธจิรมงคลกิตต์) ลูกสาวของเถ้าแก่โรงสีใหญ่ ให้แต่งงานกับโรจน์ แต่จู่ๆ เอม ซึ่งมิได้เสียชีวิตในครั้งนั้นตามที่เรืองเข้าใจ เอมติดตามคดีของพ่อแม่ที่ถูกเรืองสังหารจนรู้ว่าเรืองกับครอบครัวอยู่ที่ไหน และกำลังจะมีงานมงคลแต่งงานลูกชายคนโต เอมจึงบุกมาพบเรืองถึงบ้าน ทั้งๆ ที่ทีแรกเอมกับผู้กองนคร เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เอมแจ้งความ นครเป็นเจ้าของคดีนี้ วางแผนกันไว้ว่าจะยกกำลังตำรวจมาจับเรืองด้วยกัน แต่เอมใจร้อน เธอรุดหน้าไปหาเรืองที่บ้านก่อน เรืองกับปลื้มตกใจมาก เรืองจึงต้องสังหารเอมเพื่อหยุดปัญหา ผู้กองนครยกกำลังตำรวจตามไป แต่ปรากฏว่าช้าไปเสียแล้ว วันนั้นนครปะทะฝีปากกับมุกดาอย่างรุนแรงเพราะต่างก็เข้าใจกันผิด นครเริ่มเข้านอกออกในบ้านเรืองอย่างเปิดเผย โดยเขาตั้งใจหว่านเสน่ห์ให้สมรหลงรัก เพื่อที่จะอ้างได้ว่าเขาเข้ามาหาสมร สมรหึงหวงผู้หญิงทุกคนที่เข้าใกล้นายตำรวจหนุ่มโดยเฉพาะมุกดา นานวันเข้านครก็รับรู้ได้ว่าเรืองและปลื้มรักมุกดาไม่ต่างจากลูกแท้ๆ ของตัวเอง เลยจะใช้มุกดาเป็นเครื่องมือในการแก้แค้น แต่เมื่อได้ใกล้ชิดกับเธอมากขึ้น เขาก็เริ่มเกิดความรู้สึกดีๆ จนต้องเตือนตัวเองว่าเธอคือลูกหลานของคนที่ฆ่าพ่อแม่และน้องสาวของเขา

นภาวางแผนฮุบสมบัติครอบครัวของสามี โดยเรืองยกโรจน์เป็นผู้ดูแลมรดกทั้งหมด ฤทธิ์ไม่พอใจพี่น้องต้องผิดใจกันอย่างรุนแรงถึงขั้นจะฆ่าแกงกัน ทำให้ปลื้มทุกข์ใจมาก ขณะเดียวกัน มุกดาก็จับได้ว่าคะนองคือผัวของวันเพ็ญ ไม่ใช่พี่ชายอย่างที่กล่าวอ้าง วันเพ็ญกลัวความแตก จึงสั่งคะนองให้หาทางข่มขืนมุกดาเพื่อจับทำเมีย คะนองจับตัวมุกดาไปขังในกระท่อมท้ายสวนหวังจะข่มขืน แต่นครตามไปช่วยไว้ได้ทัน ทั้งสองมีเวลาอยู่ด้วยกัน จึงได้พูดคุยกันแบบปกติ ทำให้นครเข้าใจมุกดาดีมากขึ้น ปลื้มเครียดและเกิดเป็นความทุกข์ ทั้งยังเห็นภาพหลอนความชั่วต่างๆ ที่เคยทำร่วมกับเรือง ทำให้ยิ่งหวาดกลัวจนถึงขั้นล้มป่วย ในขณะที่เรืองเริ่มถูกเวรกรรมตามสนอง เขาเริ่มมีพฤติกรรมแปลกๆ โดยเฉพาะวันพระ ท่าทางของเรืองเหมือนดั่งวัวควายที่กำลังจะถูกฆ่าก็ไม่ปาน แม้ปลื้มจะชวนเข้าวัดเพื่อสะเดาะเคราะห์หรือทำบุญเพื่อให้บาปจางลง เรืองก็ไม่ได้สนใจอะไร นานวันเข้าอาการก็หนักมากขึ้นทุกที จนถึงขั้นกินนอนแบบคนปกติแทบไม่ได้ นครได้จังหวะที่จะได้สะสางความแค้นที่มีร่วมกันมา เมื่อเขาสามารถเข้าออกบ้านของเรืองได้อย่างสะดวก เวราที่รอวันสะสางใกล้เข้ามาทุกที