ละคร ปาฏิหาริย์รักแม่โพสพ

เรื่องราวความวุ่นวายได้ก่อตัวขึ้นเมื่อ ภาคภูมิ (สวิส เตชภูวนนท์) นักธุรกิจหนุ่มเจ้าของบริษัทไทยฟาร์ม ผู้นำเกษตรครบวงจร ตัดสินใจจะเซ็นสัญญากับบริษัทของอเมริกา โดยไม่รู้เลยว่า การทำธุรกิจร่วมในครั้งนี้จะสร้างภัยพิบัติใหญ่หลวงให้กับวงการข้าวไทย งานนี้เดือดร้อนถึง พระแม่โพสพ (อรุณณภา พาณิชจรูญ) เห็นว่าวงการข้าวไทยคงดับสนิท หากการทำสัญญาสำเร็จ ที่นาไทยคงตกเป็นของต่างชาติ ชาวนาก็ไม่ต่างอะไรกับแรงงานทาสที่จะต้องผลิตข้าวให้ต่างชาติ จึงตัดสินใจส่งเทพธิดาขวัญข้าวมาที่โลกมนุษย์เพื่อสกัดดาวรุ่ง จัดการทำให้ภาคภูมิเปลี่ยนความคิด เทพธิดาขวัญข้าว (อมลรดา ไชยเดช) จอมทะเล้นงานเข้า ไม่รู้จะทำยังไง จึงแอบขโมยเมล็ดข้าวผสานใจ ของวิเศษบนสวรรค์มาให้ภาคภูมิ และความหวัง (สรวิชญ์ สุบุญ) ชาวนาผู้ใสซื่อกิน โดยเข้าใจผิดว่าเมล็ดข้าวนี้จะทำให้ภาคภูมิเข้าใจหัวอกชาวนามากขึ้น ทว่าผลมันกลับทำให้พวกเขาสลับร่างกันเสียนี่ ภาคภูมิและความหวังตื่นขึ้นมาในนิมิต พร้อมกับสร้อยคอรูปเมล็ดข้าวที่แกะยังไงก็แกะไม่ออก เหมือนเป็นสัญลักษณ์ประจำตัวว่าทั้งสองสลับร่างกัน ขวัญข้าวเห็นทั้งสองสลับร่างกันก็อึ้ง ไม่รู้จะทำยังไง จึงพลิกวิกฤตเป็นโอกาส และบอกภาคภูมิว่า ถ้าภาคภูมิสามารถปลูกข้าวจนได้เมล็ดพันธุ์ข้าวที่ดีที่สุดเมื่อไร ก็จะสามารถคืนร่างได้

ภาคภูมิคิดว่าตัวเองฝันไป แต่แล้วเขาก็ต้องสติแตกแทบคลั่ง เมื่อพบว่าตัวเองตื่นขึ้นมากลางบ้านไม้ซอมซ่อที่เหมือนจะพังแหล่ไม่พังแหล่ของชาวนา อีกทั้งยังเจอใครก็ไม่รู้ ที่มาเรียกตัวเองว่าไอ้หวัง ทั้ง พ่อสมหมาย (สันติสุข พรหมศิริ) แม่สายใจ (รสริน จันทรา) และน้องพาฝัน (ณภัค เจนจิตรานนท์) พ่อแม่และน้องสาวตัวเล็กของความหวัง รวมถึงพ่อผู้ใหญ่เด็จ (กล้วย เชิญยิ้ม) และไอ้ขวด (มณฑล รักษ์คณพล) ลูกชายจอมทะเล้นของพ่อผู้ใหญ่ ไหนจะน้อง หนูนา (กนกกาญจน์ จุลทอง) สาวสวยประจำหมู่บ้าน ลูกสาว กำนันเป็ด (เวนย์ ฟอลโคเนอร์) ที่ความหวังแอบหลงรัก ที่แห่กันมาเยี่ยมภาคภูมิด้วยความเป็นห่วง เพราะเข้าใจว่าภาคภูมิประสบอุบัติเหตุความจำเสื่อม ทุกคนพาภาคภูมิไปทบทวนความจำ ดูไร่นาที่บ้าน สวนที่พ่อปลูก ไก่ที่พ่อเลี้ยง บ้านของพ่อสมหมายดูร่มรื่นน่าอยู่สมบูรณ์ไปด้วยพืชผักผลไม้ผิดกับในเมือง แต่ภาคภูมิกลับรับไม่ได้

ภาคภูมิ นักธุรกิจหนุ่ม สุดเนี้ยบ ที่เห็นเงินเป็นพระเจ้าต้องมาใช้ชีวิตเป็นชาวนา ข้าวของเครื่องใช้ สบู่ ยาสระผมก็มีแต่ของราคาถูก ภาคภูมิไม่กล้าหยิบจับอะไร เพราะมันดูสกปรกไปหมด กลัวนั่น กลัวนี่ ทำอะไรไม่ได้ อาหารแต่ละมื้อก็มีแต่ผักแต่หญ้า พอมีเนื้อสัตว์สักที ก็กลายเป็นเนื้อกบเนื้อเขียดในนา ภาคภูมิอ้วกแทบพุ่งกินอะไรไม่ลง เขาทนอยู่ที่นี่ไม่ไหวแล้ว ทางเดียวที่คิดได้คือต้องหาทางหนี ภาคภูมิพยายามหาทางหนี แต่ภาคภูมิก็ไม่มีเงิน เทพธิดาขวัญข้าวปรากฏตัวขึ้นและบอกให้ภาคภูมิยอมแพ้และรับชะตากรรม ภาคภูมิไล่เทพธิดาขวัญข้าวด้วยข้าวสาร เพราะคิดว่าเป็นผี ภาคภูมิรู้สึกกลัวและเกลียดเทพธิดาขวัญข้าวที่คอยตามทับถมเขา ต่างจากขวัญข้าวที่รู้สึกสนุกทุกครั้งที่ได้แกล้งภาคภูมิ

ทางด้านความหวังเองก็ประสบปัญหาชะตากรรมเช่นเดียวกับภาคภูมิ ความหวังตื่นมาในคฤหาสน์กลางเมือง ไม่ว่าจะหันซ้ายหันขวาก็เจอแต่เครื่องใช้ ตารางงานผู้บริหารที่ยาวเป็นหางว่าว ยิ่งไปกว่านั้นเขายังพบว่าตัวเองมีแฟนสาว ชื่อ ฟ้าใหม่ (พัชร์สิตา อธิอนันตศักดิ์) สาวผู้ดีแฟนของภาคภูมิ ที่พยายามพาเขาไปซื้อของทานอาหาร ใช้ชีวิตฟู่ฟ่ามากมาย แต่อะไรก็ไม่โหดร้ายเท่ากับสิ่งที่เขาได้รับรู้ว่า เขาจะต้องบริหารบริษัทแทนภาคภูมิ นายความหวัง ตะลึง ชาวนาจบแค่ ม. 6 อย่างเขา พูดภาษาอังกฤษก็ไม่ได้ จะไปบริหารบริษัทไทยฟาร์ม บริษัทยักษ์ใหญ่ที่เป็นรากฐานเศรษฐกิจไทยได้ไง ทว่าธิดาขวัญข้าวก็ให้กำลังใจบอกว่าความหวังรู้เรื่องข้าวมากกว่าหุ้นส่วนในบริษัทเสียอีก ความหวังยอมรับชะตากรรมเข้ามาบริหารงานอย่างซื่อๆตามแบบฉบับของเขา จากผู้บริหารมาดเนี้ยบ โหด หน้าเลือด กลายเป็นผู้บริหารที่มีสัมมาคารวะที่สุดในประเทศ ไหว้ตั้งแต่ผู้บริหารระดับสูงจนถึงยามหน้าบริษัท ความหวังปฏิวัติองค์กรให้เห็นค่าของข้าว บุญคุณของชาวนา ดังนั้นก่อนเข้างาน พนักงานทุกคนต้องท่องกลอนระลึกคุณข้าวว่า..'ข้าวทุกจาน อาหารทุกอย่าง อย่ากินทิ้งขว้าง เป็นของมีค่า หลายคนเหนื่อยยาก ฯลฯ จนกลายเป็นวัฒนธรรมใหม่ขององค์กร

ในขณะที่ฟ้าใหม่ก็งงว่าทำไมภาคภูมิถึงได้เปลี่ยนจากหน้ามือขนาดนี้ จากผู้ชายมาดเท่ นำแฟชั่น ฉลาด รู้ทุกสิ่ง กลายเป็นผู้ชายไร้รสนิยม ทั้งซื่อทั้งบื้อ ชวนไปกินอาหารหรู ก็กินไม่เป็น โซ้ยแต่ส้มตำ การแต่งตัวก็เปลี่ยนไปราวฟ้ากับเหว ฟ้าใหม่แทบรับไม่ได้ ไม่อยากเชื่อว่านี่คือผู้ชายที่ตนกำลังลองศึกษาด้วยจริงๆ ในขณะที่ภาคภูมินั่งกินนอนกิน แต่งหล่อ หวีผมเรียบ อยู่บ้านฟังเสียงตุ๊กแกกับจิ้งจกไปวันๆจนเบื่อ ภาคภูมิจึงตัดสินใจไปที่นา ภาคภูมิมองทุกคนช่วยกันทำนาอย่างยากลำบาก แต่ทุกคนกลับมีความสุข พ่อเรียกให้ภาคภูมิมาช่วยเตรียมดิน ภาคภูมิไม่ทำ ธิดาขวัญข้าวจึงหลอกภาคภูมิว่าถ้าไม่ทำ จะเสกให้สลับร่างกับควาย!! วินาทีนี้ภาคภูมิไม่กลัวอะไรทั้งนั้นนอกจากขวัญข้าวที่เอาแต่ขู่ให้ทำนั่นทำนี่ต่างๆ นานา โดยที่ภาคภูมิไม่รู้เลยว่าธิดาขวัญข้าวไม่มีพลังที่จะเสกอะไรทั้งนั้น เขากำลังโดนหลอก ภาคภูมิที่รักสะอาดเป็นชีวิตจิตใจ จำต้องเอาเท้าเหยียบลงบนดินโคลนอย่างขยะแขยง ทว่าพอเขาหันไปเห็นกิ้งกือไส้เดือน ภาคภูมิก็หน้ามืดเป็นลมล้มลงไปทันที

หลังจากที่ขวัญข้าวเอาแต่สนุกอยู่กับการแกล้งภาคภูมิอยู่นาน ก็อดเป็นห่วงชาวนาตัวจริงอย่างความหวังที่ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองไม่ได้ ในเย็นวันนี้ จะมีการเลี้ยงอาหารค่ำต้อนรับตัวแทนบริษัทโอเอ็มจีจากอเมริกาเพื่อคุยเรื่องสัญญา แต่ความหวังพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ซักคำ เทพธิดาขวัญข้าวจึงบอกว่าถ้าเขาถามอะไรก็ให้ตอบแค่ เยส โน โอเค ไอ แปลว่าฉัน และยูแปลว่าเธอ แต้งกิ้ว แปลว่าขอบคุณ ถ้าความหวังจำได้แค่นี้ ก็เอาตัวรอดได้แล้ว ทว่าความหวังก็ทำเสียเรื่องจนได้ เมื่อความหวังพูดผิดพูดถูกจนต้องตามล่ามมาเป็นการเร่งด่วน การเจรจาธุรกิจจึงสามารถสื่อสารกันรู้เรื่อง ทว่าเมื่อความหวังได้ฟังข้อตกลงที่เอาเปรียบชาวนามากๆ ความหวังก็ของขึ้น เทศนาฝรั่งยกใหญ่ก่อนจะยกเลิกสัญญาทันที

เช้าวันรุ่งขึ้นหนังสือพิมพ์พาดหัวข่าวว่าความหวังฉีกสัญญากับต่างชาติ ข่าวนี้เป็นที่ถูกอกถูกใจของชาวนาทั่วประเทศ นั่นหมายความว่าสัญญาที่ทุกคนกลัวได้ถูกยกเลิก ยกเว้นภาคภูมิที่โมโหจัดที่บริษัทของเขากำลังจะพังพินาศเพราะฝีมือความหวัง เทพธิดาขวัญข้าวจึงฉวยโอกาสนี้บอกภาคภูมิว่าถ้าไม่อยากให้บริษัทพังก็ให้รีบๆ ไปไถนา ความหวังสะสางงานที่บริษัท และหาจังหวะกลับไปหาภาคภูมิที่นาบ้านเกิด เพื่อหาทางสลับร่างกลับ แต่ธิดาขวัญข้าวบอกว่าจะสลับร่างได้ต่อเมื่อภาคภูมิทำนาสำเร็จเท่านั้น!! เมื่อเห็นว่าไม่มีทางเลือกทุกคนจึงจำใจรับชะตากรรม ความหวังเอาเงินให้ภาคภูมิไว้ใช้ซื้อของที่จำเป็น ภาคภูมิไม่รอช้ารีบนำเงินไปซื้อเสื้อผ้า หมวก รองเท้า เจลทาผม เครื่องประทินโฉมทันที ภาคภูมิตัดสินใจเริ่มต้นการเป็นชาวนาในขณะเดียวกันก็ช่วยความหวังบริหารบริษัท โดยการเฟซไทม์จากกลางทุ่งไปหาความหวัง

การทำนาวันแรก ภาคภูมิแต่งตัวหล่อเต็มยศในชุดที่เรียกว่ามิดชิด กันแดดและกันดินได้ดีที่สุดเท่าที่เขามี เขาใส่หมวกใบใหญ่ที่สุดเท่าที่จะหาได้ ใส่แว่นตากันแดด รองเท้าบู๊ทจัดเต็ม หวีผมเรียบเนี้ยบ แต่แล้วพอไปถึงกลางนาภาคภูมิกลับกลัวควาย เทพธิดาขวัญข้าวขำ บอกว่าจะทำนาแต่กลัวควายก็ไม่มีทางจะทำได้หรอก แต่ภาคภูมิยืนยันว่าเขาไม่ง้อควายก็ได้ รถไถนาก็มีถมไป เขาจึงตัดสินใจนำเงินที่มีทั้งหมดไปซื้อรถไถนาในเมือง จนโดนกำนันเป็ด ฉายาเพลี้ยกระโดดเพราะจ้องทำลายชาวนา เจ้าของร้านค้าในเครือบริษัทไทยฟาร์มของภาคภูมิหลอกขายของจนหมดตัว ทว่ากว่าภาคภูมิจะรู้ตัวก็สายไปเสียแล้ว ภาคภูมิเศร้าๆ ทุกคนให้กำลังใจภาคภูมิ ภาคภูมิซึ้งใจ เช้าวันต่อมาภาคภูมิจึงฮึดสู้!!ตื่นขึ้นมาทำสวนให้พ่อสมหมาย ภาคภูมิกระหน่ำฉีดทั้งยาฆ่าแมลง ทั้งปุ๋ยเคมีใส่ต้นไม้และแปลงผักของพ่อสมหมายเพราะคิดว่าจะทำให้โตเร็ว แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อพ่อสมหมายไม่รู้ดันไปเก็บผลไม้กิน จนต้องเข้าโรงพยาบาลอาการหนักปางตาย

ทางด้านสวรรค์ เทพธิดาขวัญข้าวโดนพระแม่โพสพเรียกไปตำหนิยกใหญ่ ที่แอบเอาข้าวผสานใจไปใช้จนเกิดเรื่อง พระแม่โพสพทำโทษเทพธิดาขวัญข้าวให้ไปช่วยภาคภูมิอย่างจริงจังในฐานะมนุษย์คนหนึ่งเท่านั้น เท่านั้นไม่พอพระแม่โพสพยังดัดนิสัยธิดาขวัญข้าว โดยการผูกชีวิตธิดาขวัญข้าวไว้กับไร่นาของความหวัง ถ้าไร่นาของความหวังแข็งแรงโตวันโตคืน ธิดาขวัญข้าวก็จะแข็งแรงตามไปด้วย แต่ถ้าไร่นาไม่แข็งแรง ธิดาขวัญข้าวก็จะป่วยตามไปด้วย ส่วนเรื่องการคืนร่าง พระแม่โพสพบอกว่า แค่กินข้าวที่สร้อยคอภาคภูมิ ภาคภูมิก็สามารถคืนร่างได้แล้ว แต่ถ้าภาคภูมิคืนร่างแล้วกลับไปทำลายที่นาอีก ธิดาขวัญข้าวก็จะไม่สามารถกลับสวรรค์ได้ ธิดาขวัญข้าวจึงเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ แล้วหลอกภาคภูมิต่อไป

ก่อนกลับจากสวรรค์พระแม่โพสพก็ได้ให้สร้อยเมล็ดข้าวไว้กับธิดาขวัญข้าว และบอกว่า เมล็ดข้าวนี้สามารถเปลี่ยนสีไปตามความรู้สึกที่ภาคภูมิมีต่อไร่นา ตอนนี้เม็ดข้าวเป็นสีดำ ถ้าเม็ดขาวเปลี่ยนเป็นสีขาวเมื่อไร หมายความว่าภาคภูมิได้เปลี่ยนความคิดแล้ว และขวัญข้าวก็จะสามารถกลับสวรรค์ได้ หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น ภาคภูมิก็หันมาจริงจังกับการทำเกษตรแบบไม่ใช้สารเคมี ภาคภูมิไปปรึกษาพ่อผู้ใหญ่เรื่องการทำยาฆ่าแมลงแบบใช้สมุนไพร แต่เมื่อถึงบ้านพ่อผู้ใหญ่ ภาคภูมิก็ได้พบกับเทพธิดาขวัญข้าวในร่างของมนุษย์ และต้องยิ่งงงไปมากกว่านั้น เมื่อเทพธิดาขวัญข้าวได้กลายเป็นลูกสาวคนโตของพ่อผู้ใหญ่ ชื่อว่าข้าวสวย ไปเสียแล้ว เทพธิดาขวัญข้าวบอกว่าตนใส่ความทรงจำให้คนในหมู่บ้านใหม่ และบอกว่าตนชื่อข้าวสวย ภาคภูมิกระดากปากเรียกข้าวสวยไม่ลง จึงเรียก 'ข้าวต้ม' แทนข้าวสวย เพราะธิดาขวัญข้าวต้มคนทั้งหมู่บ้าน ธิดาขวัญข้าวบอกว่าตนจะมาช่วยภาคภูมิทำนา!! ภาคภูมิเหวอตั้งรับไม่ทันที่ผีจะมากลายเป็นคนได้ยังไง! ธิดาขวัญข้าวโชว์สร้อยคอรูปข้าวของตนให้ภาคภูมิดู บอกว่าเมล็ดข้าวจะเปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ ตอนนี้ข้าวเป็นสีดำ ถ้าภารกิจเสร็จเมื่อไหร่ข้าวนี้จะกลายเป็นสีขาว

ภาคภูมิวางแผนการทำนา แต่ก็เจออุปสรรคมากมาย ทั้งไม่มีเงินซื้อเมล็ดพันธุ์ เป็นหนี้ อุปกรณ์ก็โยนทิ้งไปหมดแล้ว แถมควายก็มาป่วยอีก ภาคภูมิจึงต้องเอาตัวรอดโดยการปลูกผักปลูกหญ้า เก็บไข่ไปขาย โชคดีที่เพื่อนในหมู่บ้านช่วยเหลือ เอาผักผลไม้ในสวนของตัวเองมาแบ่งภาคภูมิ ให้ยืมควาย แถมยังชวนไปขูดเลขเด็ดขอหวยเพื่อรวยทางลัด ภาคภูมิซึ้งใจชาวบ้าน และได้เรียนรู้คำว่าเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ว่ามันยังมีอยู่ในยุคทุนนิยมเช่นนี้ ภาคภูมิคิดค้นสมุนไพรตัวใหม่ ลองผิดลองถูก โดยมีข้าวสวย หรือเทพธิดาขวัญข้าวคอยช่วย ภาคภูมิคิดค้นอุปกรณ์ต่างๆ ในการทำนา ฯลฯ จากภาคภูมิผู้บริหารสุดเนี้ยบ ก็เริ่มกลายเป็นภาคภูมิที่มีจิตวิญญาณความเป็นชาวนาเพิ่มขึ้นทุกที จากวันแรกที่ใส่หมวกขนาดใหญ่ กลัวแดด กลัวดิน แต่งหล่อ แบบจัดเต็ม ตอนนี้ภาคภูมิได้ละทิ้งทุกสิ่งและกลายสภาพเป็นชาวนาเต็มตัวแล้ว

ทางด้านธิดาขวัญข้าวที่มาเป็นมนุษย์ ก็พยายามปลูกฝังให้ทุกคนรู้คุณค่าของข้าว โดยเฉพาะกับเด็กๆ แก่นกะโหลกทั้งหลายในหมู่บ้านที่ชอบกินทิ้งกินขว้าง ข้าวสวยจัดการปราบเด็กๆให้รู้คุณข้าว แต่เด็กแสบก็ไม่สำนึก ขวัญข้าวเลยใช้มนต์วิเศษที่ใช้ได้แค่วันพระ ใช้ได้บ้างไม่ได้บ้าง สั่งสอนเด็กๆ จนทุกคนหมอบศิโรราบให้ข้าวสวยเป็นหัวหน้า ในขณะเดียวกัน ความรู้สึกดีของทั้งภาคภูมิและข้าวสวยก็ก่อตัวขึ้นจากคู่กัด กลายมาเป็นเพื่อนคู่คิดที่ต้องคอยช่วยเหลือกัน ทว่าเส้นทางความรักของทั้งสองก็ไม่ราบรื่นซะทีเดียว เพราะต้องเจอหนูนามาสกัดดาวรุ่ง เป็นมารขวางคอ เรียกร้องความสนใจจากภาคภูมิเป็นระยะๆ ทางด้านความหวังเองก็บริหารงานไปแบบซื่อตามความคิดแบบชาวนาจนฟ้าใหม่รู้สึกได้ว่าความหวังเข้าใจและหวังดีกับชาวนาจริงๆ ความจริงใจ ซื่อตรงของความหวัง ทำให้ฟ้าใหม่เริ่มรู้สึกดีกับความหวังในร่างภาคภูมิเสียแล้ว ในขณะเดียวกันความหวังก็เริ่มตกหลุมรักฟ้าใหม่เช่นกัน แต่เขาก็ต้องหักห้ามใจ เพราะรู้ดีว่า ฟ้าใหม่เป็นคนรักของภาคภูมิ ฟ้าใหม่ทำดีกับตน รักตน เพราะว่ารักภาคภูมิ ไม่ใช่ความหวัง

จนวันหนึ่งความรักสี่เส้าห้าเส้าของหนุ่มสาวจึงเริ่มก่อตัวขึ้น เมื่อภาคภูมิกลับมาที่บริษัท และพบว่า บริษัทของตน รวมไปถึงบ้านของตนเปลี่ยนแปลงไปราวฟ้ากับเหว สวนหรูสไตล์ยุโรปหน้าบ้าน กลับกลายเป็นนาข้าวทดลอง บริษัทระดับไอเอสโอกลับกลายเป็นธุรกิจครอบครัว บริหารงานแบบลูกทุ่งไปแล้ว ภาคภูมิต้องกลับมาจัดการบริษัทอย่างใกล้ชิด ภาคภูมิกลับมาที่บริษัทและได้เจอกับฟ้าใหม่ ฟ้าใหม่รู้สึกคุ้นกับภาคภูมิในร่างความหวัง รู้สึกว่าความหวังเหมือนภาคภูมิคนเก่าที่ตนเคยรู้จัก ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ฟ้าใหม่สนิทกับภาคภูมิอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ความหวังเห็นคนรักมาเจอกัน กลับรู้สึกเสียใจอกหัก พยายามหลีกทางให้ เพราะรู้ว่าความจริงแล้วตนไม่ใช่คนรักของฟ้าใหม่ ตนเป็นแค่ตัวปลอมเท่านั้น ข้าวสวยเองก็รู้สึกเสียใจ ยิ่งพอมาเจอภาคภูมิบอกว่าไม่อยากทำนาแล้ว บวกกับหนูนาที่มายุแยงให้ข้าวสวยกับภาคภูมิผิดใจกัน ข้าวสวยก็ยิ่งเสียใจ แอบไปร้องไห้จนน้ำท่วมทุ่งนา ภาคภูมิกลับมาเห็นน้ำท่วมทุ่งก็ตกใจ รีบปลอบ ง้อข้าวสวย และเกือบหลุดปากพูดความในใจที่มีต่อขวัญข้าวออกไป ทุ่งนาจึงกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง

ในที่สุดของขวัญจากก้อนดินก็งอกเงย เมล็ดข้าวที่หว่านไว้เริ่มออกรวง ภาคภูมิดีใจน้ำตาแทบไหล ในตอนนี้ภาคภูมิรู้สึกรักที่นามากขึ้น ความเอาใจใส่ของภาคภูมิที่มีต่อนาข้าว ทำให้สร้อยคอรูปเมล็ดข้าวที่คอข้าวสวยกลายเป็นสีชมพูสดใส และข้าวสวยได้รับความรักจากภาคภูมิด้วยเช่นกัน ภาคภูมิแปลกใจว่าทำไม สร้อยกลายเป็นสีชมพู ข้าวสวยจึงบอกว่าเพราะไร่นาได้รับความรัก ภาคภูมิอาศัยจังหวะนี้บอกความรู้สึกดีๆที่มีกับข้าวสวย ขณะที่ความหวังเองก็ตัดสินใจถามฟ้าใหม่ตรงๆ ว่าชอบภาคภูมิที่เปลี่ยนไปคนนี้รึเปล่า ฟ้าใหม่บอกตามตรงว่า ตอนแรกตนไม่ชอบความหวังเลย แต่ความจริงใจ ใสซื่อของความหวัง ทำให้ตนรู้สึกรักภาคภูมิคนนี้มากกว่าคนเดิมด้วยซ้ำ ในระหว่างที่ทุกคนเฝ้าดูต้นข้าวออกรวง ความรักของหนุ่มสาวก็ก่อตัวขึ้นเรื่อยๆ เช่นเดียวกับต้นข้าว แต่แล้วความสุขก็สลายลงเมื่อเช้าวันหนึ่งภาคภูมิตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าไร่นาโดนเพลี้ยกระโดดจู่โจมกินไปจนเกือบหมดไร่ ทางเดียวที่แก้ได้ คือต้องทำใหม่

ในขณะที่ต้นข้าวกำลังจะตาย ข้าวสวยรู้สึกได้ถึงความผิดปกติของร่างกายตนเองเช่นกัน เล็บของตนเริ่มซีดและกลายเป็นสีดำความผิดหวังในครั้งนี้ของภาคภูมิ ทำให้ภาคภูมิถอดใจจากการทำนา และหนีกลับมาที่บริษัท ที่บริษัท ความหวังบอกภาคภูมิว่าปัญหานี้เป็นเรื่องปกติที่ชาวนาทุกคนต้องเผชิญอยู่บ่อยๆ ภาคภูมิยังโชคดีกว่าพวกพ่อสมหมายที่เคยเจอน้ำท่วมหนัก ต้องนั่งเรือและจับปลายต้นข้าวทั้งน้ำตา จะเริ่มทำใหม่ก็ทำไม่ได้ เพราะน้ำไม่ลด ใช้ชีวิตอยู่อย่างนั้นเป็นเดือน ได้แต่มองนาข้าวตัวเองจมน้ำตาย โดยที่ไม่สามารถทำอะไรได้ ที่สำคัญเรื่องที่ควรเป็นห่วงตอนนี้คือเรื่อง ข้าวสวย ความหวังบอกว่าข้าวสวยถูกผูกชีวิตไว้กับนาข้าว ถ้านาข้าวตาย ข้าวสวยก็จะค่อยๆ ทรุดป่วยตายตามไปด้วย ภาคภูมินึกขึ้นได้ว่า ช่วงนี้มือและเล็บข้าวสวยซีดผิดปกติ ภาคภูมิจึงรีบกลับไปดูข้าวสวย ข้าวสวยป่วยหนัก แต่เมื่อภาคภูมิกลับมาข้าวสวยก็กำลังใจดีขึ้น เมล็ดข้าวที่คอข้าวสวยก็เริ่มสดใสขึ้นอีกครั้ง ข้าวสวยบอกว่าชาวนาน่าสงสาร เพราะนอกจากจะสู้กับตัวเองแล้ว ยังต้องสู้กับธรรมชาติที่เราคาดเดาไม่ได้ด้วย ทุกคนให้กำลังใจภาคภูมิ บอกว่า ถึงแม้เราจะไม่มีข้าวแต่เราก็ยังมีแรง มีที่นาให้ทำนา พวกเราทุกคนจะมาสู้กันใหม่ ขอให้ภาคภูมิยิ้มสู้กับมัน ภาคภูมิมีกำลังใจขึ้นมาอีกครั้ง และพยายามทำนา เพื่อช่วยให้ข้าวสวยหายป่วย

ภาคภูมินับหนึ่งใหม่อีกครั้ง เขานำวิธีการที่เขาศึกษามาทั้งหมดมาใช้กับแปลงนา พอทุกอย่างพร้อมแล้ว ภาคภูมิก็ทำพิธีไหว้พระแม่โพสพ เพื่อฝากให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยดูแลข้าว ภาคภูมิและทุกคนช่วยกันหว่านเมล็ดข้าวลงพื้นนาเหมือนกับเป็นการหว่านความหวังอีกครั้งหนึ่ง ไม่นานนักต้นข้าวก็เริ่มออกรวงอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้นาข้าวของเขาดูสวยกว่าแต่ก่อน เช่นเดียวกับข้าวสวยที่ดูสวยวันสวยคืนตามต้นข้าว จนมีหนุ่มๆมาตามจีบเต็มไปหมด ภาคภูมิหึงจนอยากจะเอาน้ำร้อนรดนาข้าว แต่ก็ต้องห้ามใจไว้เพราะกลัวว่าข้าวสวยจะไม่สบาย ภาคภูมิรีบทำพิธีสู่ขวัญข้าว ใส่ปุ๋ย และฉีดสมุนไพร โดยมีทุกคนมาช่วยกันอย่างมีความสุข โดยหารู้ไม่ว่าปัญหาเรื่องการลงทุนกับบริษัทโอเอ็มจีกำลังจะกลับมาอีกครั้ง ทางด้านบริษัทไทยฟาร์ม ไผท (วิทิต แลต) พ่อของภาคภูมิกลับมาจากต่างประเทศพร้อมกับนักลงทุนของบริษัทโอเอ็มจีเพื่อทำโครงการขายที่นา ไผทสั่งให้จัดงานเกษตรแฟร์ เพื่อเป็นการโปรโมทโครงการ ให้ชาวบ้านขายที่ดินให้ แล้วมาเป็นพนักงานทำนา

ที่งานเกษตรแฟร์เกิดเรื่องวุ่นวายมากมาย ข้าวสวยกับไอ้ขวดรวมหัวกับเด็กๆหาโอกาสแกล้ง เอาคืนนายทุนอย่างไผทกันสนุกสนาน ในขณะที่หนูนาแอบไปได้ยินความหวังคุยกับภาคภูมิว่าข้าวสวยไม่ใช่คน ก็พยายามหาทางจับผิดต่างๆ นานา ภาคภูมิในร่างความหวังก็รวมตัวกับคนในหมู่บ้านเพื่อต่อกรกับไผท พ่อของตนเองในการรักษาที่นา ฟ้าใหม่ที่เริ่มซึมซับสิ่งดีๆจากความหวังก็มาเป็นกำลังสำคัญในการช่วยพวกชาวนาด้วย ชาวนาถึงแม้ว่าจะรู้ตัวว่าถ้ายืนหยัดสู้กับโครงการไผทก็มีแต่จะเสียเปรียบ แต่เพื่อปากท้องของครอบครัว จึงทำให้ไม่มีทางเลือก สุดท้ายชาวนาหลายคนจึงตัดสินใจที่จะขายที่นาให้กับคุณไผท ข้าวใกล้ถึงเวลาเก็บเกี่ยว แต่ที่นากำลังจะถูกทำลาย ภาคภูมิกับความหวังจึงต้องร่วมมือกันเพื่อช่วยชาวนา ทว่าไผทก็พยายามทำทุกทางเพื่อจะเซ็นสัญญากับบริษัทโอเอ็มจี และในที่สุดเขาก็ทำสำเร็จ

การทำสัญญากับบริษัทโอเอ็มจีจะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ ความหวังกับภาคภูมิจึงวางแผนหลอกนายทุนจากอเมริกาให้มาดูที่นาก่อนจะเซ็นสัญญา เพราะนี่เป็นโอกาสสุดท้ายที่จะทำให้พวกเขาเปลี่ยนใจ ความหวังพยายามกล่อมให้พวกฝรั่งรู้ว่าการทำนามันยาก ต่อให้พวกเขาได้ที่นาของไทยไป และมีชาวนาคอยทำนาให้ แต่ถ้าไม่รู้วิธีการ ทำไม่เป็นก็เปล่าประโยชน์ ความหวังพาพวกฝรั่งไปเที่ยวนาในหมู่บ้าน ชาวบ้านในหมู่บ้านร่วมมือร่วมใจกันหลอกให้ฝรั่งทำนา จนรู้ว่าการทำนามันไม่ใช่ง่ายๆ แถมยังเสี่ยงเจ๊งเพราะภัยธรรมชาติมากมายที่เดาไม่ได้ ยิ่งต่างชาติมาลงทุน แต่ไม่รู้เรื่องข้าวก็คงไม่น่ารอด ภาคภูมิชักแม่น้ำทั้งห้ามาพูด หลังจากนั้นก็ปิดการขายด้วยการบอกฝรั่งว่าเปลี่ยนจากทำธุรกิจข้าวที่ไทย มาซื้อข้าวไทยเพิ่มอย่างเดียวดีกว่า ไม่เสี่ยงด้วย ประกอบกับภาคภูมิให้ข้อเสนอที่น่าสนใจมากกว่า พวกฝรั่งเริ่มคล้อยตาม

ภาคภูมิกับความหวังร่วมมือกัน ประสานงานเป็นอย่างดี ภาคภูมิในร่างชาวนามาช่วยเจรจาการค้า ทำให้ชาวต่างชาติรู้สึกประทับใจที่ชาวนาทั้งฉลาดและเก่ง และมาเจรจาธุรกิจด้วยตนเอง ในขณะที่ความหวังก็ใช้ความซื่อและจริงใจของตนในการคุยกับชาวบ้าน จนชาวบ้านเริ่มเห็นดีเห็นงาม และรู้สึกว่าเจ้าของบริษัทให้ความสำคัญกับชาวนา แถมยังติดดิน เข้าใจชาวนาเป็นอย่างดี ชาวนาจึงมั่นใจในบริษัทมากขึ้น ระหว่างที่ภาคภูมิกำลังยุ่งเรื่องเจรจาธุรกิจ หนูนาก็ฉวยโอกาสนี้พิสูจน์ว่าข้าวสวยไม่ใช่คนโดยการไปฉีดยาฆ่าแมลงที่นา และทำลายศาลธิดาขวัญข้าว เพราะได้ยินมาว่าเป็นจุดอ่อนของขวัญข้าว โชคดีที่ภาคภูมิกลับมาช่วยได้ทัน ข้าวสวยจึงรอดมาได้ เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ภาคภูมิไม่อยากห่างจากตัวข้าวสวยแม้แต่ก้าวเดียว

ต้นข้าวเริ่มใกล้จะถึงเวลาเก็บเกี่ยวเข้าไปทุกที ภารกิจสลับร่างเพื่อสร้างเมล็ดพันธุ์ข้าวที่ดีที่สุดกำลังจะเสร็จสิ้น ทุกคนกำลังจะได้กลับสู่สถานภาพเดิม และการจากลากำลังจะตามมา ข้าวสวย ความหวัง และภาคภูมิต่างรู้สึกใจหาย ความหวังตัดสินใจสารภาพความจริงกับฟ้าใหม่ว่าตนคือความหวัง ในขณะที่ภาคภูมิใช้เวลากับการเป็นชาวนาที่เหลืออยู่กับทุกคนอย่างเต็มที่ ภาคภูมิบอกว่าตนโชคดีที่มีโอกาสได้เรียนรู้การทำนา ต่างจากพวกผู้บริหารคนอื่น ที่บริหารแต่เปลือกไปวันๆ ไม่ได้มาสัมผัสปัญหาที่แท้จริงแบบตน ข้าวสวยภูมิใจที่ภาคภูมิคิดได้ ข้าวสวยจึงคิดจะบอกวิธีคืนร่างให้กับคนทั้งคู่ แต่หนูนาลูกสาวกำนันที่หลงรักความหวังกลับมาทำลายสร้อยของทั้งสองเสียก่อน โดยที่หนูนาไม่รู้เลยว่าจริงๆแล้วสร้อยนี้เป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้สองคนสลับร่างกลับมาเหมือนเดิม! ความหวังและภาคภูมิจึงหมดหวังที่จะสลับร่างกลับ

ในที่สุดก็ถึงวันที่ต้องเก็บเกี่ยวข้าว ทุกคนมาดูการเก็บเกี่ยวข้าวที่สวยและสมบูรณ์แบบที่สุด แม้กระทั่งกำนันเป็ดยังอยากจะขอไปขายเป็นพันธุ์ข้าวที่ร้าน ภาคภูมิและความหวังจึงตกลงกันว่าจะเอาข้าวทั้งหมดที่ได้มาไปแจกจ่ายเป็นเมล็ดพันธุ์ข้าว โดยให้บริษัทไทยฟาร์มเป็นตัวกลางในการแจกจ่าย ชาวนาจะได้มีพันธุ์ข้าวที่ดีเอาไว้ปลูก หลังจากเก็บเกี่ยวเสร็จ ที่หมู่บ้านก็มีงานเลี้ยงเล็กๆ เป็นข้าวมื้อแรกที่ชาวนาจะได้กินข้าวที่ตนเองเป็นคนปลูก ภาคภูมิจะได้กินข้าวแห่งความทรงจำที่ตนเองปลูกด้วยความเหนื่อยยากเป็นครั้งแรก ภาคภูมิตักข้าวเข้าปากและนึกถึงความทรงจำที่ผ่านมาทั้งดีและร้ายของตน ทุกอย่างล้วนเป็นเหตุการณ์ที่ภาคภูมิจะไม่มีวันลืมไปตลอดชีวิต หลังจากกินข้าว จู่ๆ ภาคภูมิกับความหวังก็สลบไปพร้อมกัน ทั้งคู่ตื่นมาในนิมิต และได้พบกับพระแม่โพสพ พระแม่โพสพขอโทษภาคภูมิและความหวังที่ทำให้ทั้งสองสลับร่างกัน และบอกว่าตนจะพยายามทำให้ทั้งสองสลับร่างกลับเหมือนเดิม ทว่าทั้งสองบอกว่าไม่เป็นไร เพราะตนได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างจากการสลับร่าง และตนก็ตกลงใจกันว่าจะอยู่ในร่างนี้ต่อไป ภาคภูมิที่ชินกับการเป็นชาวนา เลือกที่จะเป็นชาวนา

ในขณะที่ความหวังเองก็ยินดีที่จะทำงานบริหาร เพื่อช่วยเหลือชาวนา หลังจากกลับมาโลกปกติ ภาคภูมิ และความหวังจึงรีบกลับเข้าบริษัททันทีเพื่อไปทำสัญญา การทำสัญญาผ่านไปได้ด้วยดี รวมไปถึงการจัดการพันธุ์ข้าวที่จะไปแจกจ่าย ภาคภูมิตั้งชื่อพันธุ์ข้าวใหม่ว่า ข้าวสมหวัง เมื่อการจัดการทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี ภาคภูมิจึงกลับมาที่หมู่บ้านเพื่อหาข้าวสวย ทว่าพอไปถึงที่หมู่บ้าน พ่อผู้ใหญ่กลับบอกว่าตนไม่มีลูกสาว มีขวดเป็นลูกชายคนเดียว ซ้ำร้ายทุกคนในหมู่บ้าน ไม่มีใครรู้จักข้าวสวยเลย ภาคภูมิมาหาความหวัง ความหวังบอกว่าเทพธิดาขวัญข้าวได้กลับไปที่ของเธอแล้ว และเทพธิดาขวัญข้าวได้บอกตนว่า เธอเกิดมาเพื่อคุ้มครองข้าว ให้มนุษย์มีข้าวกิน และเจริญเติบโตเป็นคนดี แค่นี้เทพธิดาขวัญข้าวก็พอใจแล้ว ภาคภูมิบอกว่าจะมีใครรู้ไหมว่าพันธุ์ข้าวที่ดีที่สุดนั้นเกิดจากภารกิจของเทพธิดาขวัญข้าว ถึงแม้ว่าจะไม่มีใครรู้ แต่อย่างน้อยถ้าทุกคนยังระลึกถึงคุณพระแม่โพสพก็คงจะดี

การจากไปของเทพธิดาขวัญข้าวทำให้ภาคภูมิเสียใจมาก เวลากินข้าวทุกมื้อไม่มีวันไหนที่ภาคภูมิไม่คิดถึงธิดาขวัญข้าว ภาคภูมิตัดสินใจใช้ชีวิตโสดและทุ่มเทชีวิตให้กับการทำนา และช่วยความหวังพัฒนาอุตสาหกรรมข้าวและการเกษตร เขาคิดว่าอย่างน้อย ก็เป็นสิ่งที่เขาทำเพื่อธิดาขวัญข้าวได้ ภาคภูมิใช้เวลากับการพัฒนาพันธุ์ข้าว เป็นที่ปรึกษาให้ความหวัง โดยนำความรู้จากการที่ตนได้เป็นชาวนามาผสมผสานบูรณาการกับความรู้ด้านการจัดการธุรกิจ จากทำนาบนหลังชาวนา จึงกลายเป็นการพึ่งพาช่วยเหลือซึ่งกันและกัน จากเน้นที่ขายเอากำไรเยอะเพราะกดราคาชาวนา ก็เน้นเป็นการผลิตเยอะเพื่อให้ได้กำไรเยอะมากขึ้น เมื่อเราช่วยให้ชาวนาปลูกข้าวได้เยอะ เราก็สามารถขายได้เยอะ ได้กำไรเยอะเช่นกัน ชาวนาก็รวยขึ้น นายทุนก็รวย ข้าวก็ส่งออกได้มากขึ้น ประเทศก็พัฒนาตามมาด้วย

ผืนแผ่นดินไทยเต็มไปด้วยสีเขียวของทุ่งนาพระแม่โพสพจึงให้รางวัลขวัญข้าว อนุญาตให้ขวัญข้าวลางานกลับไปใช้ชีวิตที่โลกมนุษย์และอยู่กับภาคภูมิได้ ขวัญข้าวห่วงงานที่สวรรค์ แต่พระแม่โพสพบอกว่า 1 เดือนบนโลกของพวกเรา เท่ากับ 50 ปีบนโลกมนุษย์ ขวัญข้าวก็แค่ลาพักร้อนแค่เดือนเดียวเท่านั้นเอง ในที่สุดขวัญข้าวก็ได้กลับมาบนโลกมนุษย์ และใช้ชีวิตกับภาคภูมิอยู่ที่ท้องนาอันอุดมสมบูรณ์ ผืนนาแห่งนี้จึงเต็มไปด้วยความรัก ในขณะที่ความหวัง และฟ้าใหม่ ก็ช่วยกันบริหารบริษัท และส่งออกข้าวไทยไปนานาประเทศ วงการข้าวไทยก็กลับมาคึกคักเหมือนเดิม