ละคร เผาขน
ดู 3,438 ครั้ง /
แชร์
ละครออกอากาศ | วันศุกร์ วันเสาร์ วันอาทิตย์ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ช่องที่ออกอากาศ | ละครช่อง 3 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เริ่มออกอากาศ | 14 พฤษภาคม 2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เวลาออกอากาศ | 20:30 - 22:30 น. |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
กำกับโดย | ทองก้อน ศรีทับทิม | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ประพันธ์โดย | บทประพันธ์ ส.อาสนจินดา, บทโทรทัศน์ ภูมิแผ่นดิน | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
นำแสดงโดย | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ผู้สร้าง | บริษัท โคลีเซี่ยม อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด |
ภาพนิ่งจากละคร
เรื่องย่อ เผาขน
อำพล (หัสวีร์ ภัคพงษ์ไพศาล) ตัวกลางนายหน้าค้ายา และตัวแทนผู้ค้ามนุษย์ตัวเล็กๆ กำลังติดต่อและต่อรองซื้อยาเสพติดกับลูกน้องของ สันติ (เอกพัน บรรลือฤทธิ์) ซึ่งเป็นลูกน้องระดับล่าง แต่อำพลต้องการเจรจากับสันติ ไม่มีใครสามารถทำแบบนั้นได้เพราะสันติคือผู้มีอิทธิพล จะเข้าถึงตัวได้ยากมาก เพราะมีศัตรูมากมายหลายกลุ่ม และกลุ่มที่ใหญ่และทรงอิทธิพลไม่แพ้สันติก็คือ กลุ่มของ โกเมศ (สุรวุฑ ไหมกัน) ผู้มีอิทธิพลที่ไม่เคยมีใครแตะต้องได้ การเจรจาต่อรองระหว่างอำพลกับลูกน้องของสันติยังไปไม่ถึงไหน ผู้กองโรมรัน (ชนะพล สัตยา) ก็พาตำรวจบุกเข้าทลายและจับกุม อำพลใช้จังหวะฝีมือต่อสู้หนีมาแล้วมาพบกับโรมรัน อำพลพลาดการซื้อ-ขายครั้งนี้ แถมเกือบเอาชีวิตไม่รอดจากผู้กองโรมรันที่เพิ่งย้ายมาประจำหน่วยปราบปรามยาเสพติดได้ไม่ถึง 2 สัปดาห์ แต่ก็ลุยสร้างผลงานซะแล้ว
อำพลจึงไปพบกับธนา เพื่อนที่สนิทสนมกับลูกน้องในกลุ่มของโกเมศ เพื่อหาซื้อยาเสพติด แต่ช่วงนี้โกเมศเก็บตัวเพราะกำลังมีคดี กลุ่มนักข่าวกำลังรอทำข่าวอยู่ที่หน้าศาลอาญา วันนี้มีข่าวใหญ่ที่ทุกคนพลาดไม่ได้ นั่นคือการพิจารณาคดีอุกฉกรรจ์หลายคดีของผู้มีอิทธิพลโกเมศ ไม่นานนักโกเมศก็เดินออกมาพร้อม อลัน (ปราปต์ปฎล สุวรรณบาง) กับ นีน่า (กมลรัตน์ ทานนท์) ผู้คุ้มกัน และ จีรเดช (อิทธิกร สาธุธรรม) ทนายใหญ่มือระดับพระกาฬ พร้อมกับ อลิส (ณัฐฌา บุญปอง) ผู้คุมครองสาวสวย มือขวาของจีรเดช ผลการพิจารณาคดีปรากฏว่าหลักฐานไม่เพียงพอ ศาลยกฟ้อง โกเมศรอดและยังมีชีวิตอย่างมีความสุข ผู้กองโรมรัน จ่าทิว (ไพศาล ขุนหนู) หมวดหมาน (ธนายง ว่องตระกูล) และทีมปราบปรามยาเสพติด ไม่มีใครรู้ข่าวเลยว่าจะมีการแลกเปลี่ยนซื้อ-ขายยาเสพติด แต่ผู้กองศิวะรู้เรื่องนี้ในทางลับ เขาไม่บอกใครว่ารู้ได้อย่างไร และแหล่งข่าวคือใคร มาจากไหน
ผู้กองศิวะบอกว่าเขามีสายข่าวคนใหม่ที่ยังเปิดเผยไม่ได้ เพราะมันเกี่ยวกับความปลอดภัยของสายข่าวคนนั้น มีการประชุมกันเกี่ยวกับการหาหลักฐานเพื่อจับกุมโกเมศ และสันติ ผู้กองโรมรันบอกว่าควรจะหาทางกำจัดสันติก่อน เพราะน่าจะง่ายกว่าโกเมศ เพราะคิดว่าในช่วงนี้โกเมศต้องระวังตัว เพราะเพิ่งหลุดจากคดีต่างๆ รองศิวะเห็นด้วย งานนี้ทางหน่วยเหนือส่ง หมวดมุทิตา (ญาณิศา ธีราธร) จากพิสูจน์หลักฐานมาช่วยงาน เพราะรองศิวะต้องการตรวจหลักฐานที่ได้อย่างทันท่วงที ไม่ว่าจะเป็นเขม่าดินปืน รอยนิ้วมือ ฯลฯ สันติกบดานอยู่ที่ไหนสักแห่งโดยไม่มีใครรู้ สุรสีห์ (พีรวัศ กุลนันท์วัฒน์) มือขวาของเขา ก็ยังดำเนินธุรกิจด้านค้ายาต่อไป โดยใช้ฉากหน้าเป็นนักธุรกิจด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งตอนนี้เขากำลังสร้างรีสอร์ตหรูแถวเขื่อนเขาแหลม เป็นเวลาประจวบเหมาะที่เขาได้มาใกล้ชิดกับ แนน เจ้าของธุรกิจและอัญมณี ที่มีบ่อพลอยอยู่แถวนั้น ซึ่งเป็นลูกสาวคนเดียวของ นายแพทย์ผดุงศักดิ์ (ดร.ปิยะวัชร์ บุญยืนยงสกุล) นายแพทย์ที่มีชื่อเสียงด้านสมองและการผ่าตัด แม้ว่าจะมีคนมาติดพันแนนมากมายทั้งคนไทยและชาวต่างประเทศ เธอกลับเลือกที่จะให้สุรสีห์คบหากับเธอ โดยที่หมอผดุงศักดิ์ก็เห็นดีด้วย
วันหนึ่งที่โรงพยาบาลจิตเวช อนันต์ ผู้ป่วยทางสมอง พ่อของอลิส หายออกไปจากโรงพยาบาล อลิสออกตามหาและไปแจ้งความคนหาย อลิสได้เจอกับผู้กองโรมรัน ผู้กองโรมรันจำได้ว่าอลิสเป็นหนึ่งในทีมทนายของจีรเดช ที่ว่าความให้โกเมศ จึงเข้าไปตีสนิทและช่วยเหลือ ทำให้อลิสไว้ใจ อลิสให้ดูภาพถ่ายของอนันต์ ภาพของอนัต์ดูโทรม ผมยาวไม่เป็นทรง มีหนวดเครา แทบมองไม่เห็นใบหน้าที่แท้จริง แต่มันคลับคล้ายคลับคลาว่ามีใบหน้าเหมือนใครคนหนึ่งที่โรมรันรู้จัก แต่เขานึกไม่ออก จากเหตุการณ์นี้ทำให้อลิสสนิทกับโรมรันและไว้ใจเขา สำหรับโรมรันในเบื้องต้นคิดเพียงว่าต้องการสนิทสนมกับอลิสเพื่อหาข่าวโกเมศ อำพลพยายามหาทางเข้าถึงตัวสุรสีห์ โดยการไปหาเอเย่นต์ยาเสพติดรายย่อยๆ แล้วปล่อยข่าวว่าเขาต้องการซื้อยาเสพติดจำนวนมาก ข่าวนี้ไปเข้าหูสุรสีห์และสันติ สันติรู้สึกสนใจจึงนัดมาเจรจา อำพลได้เข้าไปพบสุรสีห์ แต่ไม่พบสันติ เพราะสันตินั่งอยู่ในรถ แต่เหตุการณ์ผิดคาด มีตำรวจบุกเข้ามา ผู้กองโรมรันกับทีมนั่นเองที่เป็นคนนำกำลังมาจับกุม การต่อสู้เกิดขึ้นอย่างดุเดือด
อำพลแปลกใจว่าทำไมตำรวจถึงรู้เรื่องนี้ทุกครั้ง อย่างไรก็ดี เขากับธนาหนีออกมาได้ โรมรันบุกถึงรถสันติ แล้วยิงสันติบาดเจ็บสาหัส ซึ่งโรมรันคิดว่าตายสนิทแล้ว สุรสีห์รีบพาสันติไปที่โรงพยาบาล หมอผดุงศักดิ์พยายามรักษาอย่างเต็มที่ แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตของสันติไว้ได้ สันติเสียชีวิตในเวลาต่อมา หมวดมุและทีมเข้ามาพิสูจน์ และพบว่าเป็นสันติตัวจริง เพราะมีดีเอ็นเอที่รถและที่อื่นๆ ตรงกัน ข่าวการถูกวิสามัญของสันติกระจายไปอย่างรวดเร็ว คนที่ดีใจที่สุดเห็นจะได้แก่โกเมศ เพราะตอนนี้เขาไม่มีคู่แข่งอีกแล้ว แต่ก็มีข่าวร้ายหลังจากสันติเสียชีวิตไป หมอผดุงศักดิ์ก็เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุอย่างมีเงื่อนงำ แนนรู้สึกสงสัย จึงขอให้ตำรวจมาช่วยดูคดีให้ละเอียด ผู้กองโรมรันสั่งให้จ่าทิวกับหมวดมุไปดูเรื่องนี้ และจากการสืบสวนและรวมทั้งหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์มีเหตุให้เชื่อได้ว่า นายแพทย์ผดุงศักดิ์ตายอย่างผิดธรรมชาติ อาจเป็นการฆาตกรรม
แนนขอให้สุรสีห์ช่วยจัดการสืบหาด้วย สุรสีห์รับปาก ซึ่งตอนนี้ความสัมพันธ์ของคนทั้งสองดำเนินไปอย่างราบรื่น แต่จ่าทิวผู้มีความจริงใจก็เข้ามาสนิทสนมกับแนนเพื่อแจ้งความคืบหน้าทางคดีให้แนนทราบเป็นระยะ ทำให้แนนรู้สึกว่าจ่าทิวเป็นคนน่ารักและน่าคบคนหนึ่ง ยิ่งนานวันจ่าทิวก็เริ่มเข้ามาอยู่ในหัวใจของแนนขึ้นทุกวัน จนสุรสีห์เริ่มมองเห็นความชัดเจนของเรื่องนี้ เขาเก็บมันไว้ในใจด้วยความแค้น อนันต์ปรากฏตัวขึ้นที่ข้างถนนแห่งหนึ่ง เขากำลังจะถูกรถชน แต่อำพลบังเอิญผ่านมาแล้วช่วยเอาไว้ได้ อำพลไม่รู้จักอนันต์ แต่เห็นชุดโรงพยาบาลที่อนันต์สวมใส่ เขาจึงพาไปส่งที่โรงพยาบาล และจากจุดเริ่มต้นนี้เองเขาเริ่มสนิทกับอลิส เพราะช่วยชีวิตและสามารถตามพ่อของเธอกลับมา หลังจากที่อนันต์กลับมาที่โรงพยาบาล แพทย์ที่ดูแลอาการของเขาบอกว่าอนันต์มีอาการดีขึ้น หรือเทียบได้ว่าเท่ากับคนปกติ แต่เขายังนิ่งและพูดได้ช้า อีกทั้งจำใครไม่ได้ อลิสนำอนันต์มาพักที่บ้านกับเธอ และสัญญาว่าจะดูแลอนันต์อย่างดีที่สุดให้สมกับที่เธอทอดทิ้งเขามานาน
ซึ่งตอนนี้อำพลกลายเป็นเงาตามตัวอลิสทันที โรมรันรับรู้ เขาเคยบอกอลิสว่าอำพลไม่ใช่คนดีและพัวพันกับแก๊งยาเสพติด อลิสบอกว่าถ้าผิดก็จับไป โรมรันบอกว่าหลักฐานไม่พอ อลิสยิ้มพอใจแล้วบอกว่านั่นแสดงว่าเขาไม่ใช่คนร้าย แต่เรื่องที่โรมรันขอร้องให้หาข้อมูลเกี่ยวกับโกเมศนั้น อลิสบอกว่าเธอทำได้บางส่วนที่ไม่ให้กระทบจรรยาบรรณของวิชาชีพเธอ ในด้านความลับของลูกค้าโรมรันเข้าใจ แต่ฝากไว้กับอลิส ว่าระหว่างจรรยาบรรณกับการบ่อนทำลายชาติ อลิสก็คิดเหมือนกัน
อำพลจึงไปพบกับธนา เพื่อนที่สนิทสนมกับลูกน้องในกลุ่มของโกเมศ เพื่อหาซื้อยาเสพติด แต่ช่วงนี้โกเมศเก็บตัวเพราะกำลังมีคดี กลุ่มนักข่าวกำลังรอทำข่าวอยู่ที่หน้าศาลอาญา วันนี้มีข่าวใหญ่ที่ทุกคนพลาดไม่ได้ นั่นคือการพิจารณาคดีอุกฉกรรจ์หลายคดีของผู้มีอิทธิพลโกเมศ ไม่นานนักโกเมศก็เดินออกมาพร้อม อลัน (ปราปต์ปฎล สุวรรณบาง) กับ นีน่า (กมลรัตน์ ทานนท์) ผู้คุ้มกัน และ จีรเดช (อิทธิกร สาธุธรรม) ทนายใหญ่มือระดับพระกาฬ พร้อมกับ อลิส (ณัฐฌา บุญปอง) ผู้คุมครองสาวสวย มือขวาของจีรเดช ผลการพิจารณาคดีปรากฏว่าหลักฐานไม่เพียงพอ ศาลยกฟ้อง โกเมศรอดและยังมีชีวิตอย่างมีความสุข ผู้กองโรมรัน จ่าทิว (ไพศาล ขุนหนู) หมวดหมาน (ธนายง ว่องตระกูล) และทีมปราบปรามยาเสพติด ไม่มีใครรู้ข่าวเลยว่าจะมีการแลกเปลี่ยนซื้อ-ขายยาเสพติด แต่ผู้กองศิวะรู้เรื่องนี้ในทางลับ เขาไม่บอกใครว่ารู้ได้อย่างไร และแหล่งข่าวคือใคร มาจากไหน
ผู้กองศิวะบอกว่าเขามีสายข่าวคนใหม่ที่ยังเปิดเผยไม่ได้ เพราะมันเกี่ยวกับความปลอดภัยของสายข่าวคนนั้น มีการประชุมกันเกี่ยวกับการหาหลักฐานเพื่อจับกุมโกเมศ และสันติ ผู้กองโรมรันบอกว่าควรจะหาทางกำจัดสันติก่อน เพราะน่าจะง่ายกว่าโกเมศ เพราะคิดว่าในช่วงนี้โกเมศต้องระวังตัว เพราะเพิ่งหลุดจากคดีต่างๆ รองศิวะเห็นด้วย งานนี้ทางหน่วยเหนือส่ง หมวดมุทิตา (ญาณิศา ธีราธร) จากพิสูจน์หลักฐานมาช่วยงาน เพราะรองศิวะต้องการตรวจหลักฐานที่ได้อย่างทันท่วงที ไม่ว่าจะเป็นเขม่าดินปืน รอยนิ้วมือ ฯลฯ สันติกบดานอยู่ที่ไหนสักแห่งโดยไม่มีใครรู้ สุรสีห์ (พีรวัศ กุลนันท์วัฒน์) มือขวาของเขา ก็ยังดำเนินธุรกิจด้านค้ายาต่อไป โดยใช้ฉากหน้าเป็นนักธุรกิจด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งตอนนี้เขากำลังสร้างรีสอร์ตหรูแถวเขื่อนเขาแหลม เป็นเวลาประจวบเหมาะที่เขาได้มาใกล้ชิดกับ แนน เจ้าของธุรกิจและอัญมณี ที่มีบ่อพลอยอยู่แถวนั้น ซึ่งเป็นลูกสาวคนเดียวของ นายแพทย์ผดุงศักดิ์ (ดร.ปิยะวัชร์ บุญยืนยงสกุล) นายแพทย์ที่มีชื่อเสียงด้านสมองและการผ่าตัด แม้ว่าจะมีคนมาติดพันแนนมากมายทั้งคนไทยและชาวต่างประเทศ เธอกลับเลือกที่จะให้สุรสีห์คบหากับเธอ โดยที่หมอผดุงศักดิ์ก็เห็นดีด้วย
วันหนึ่งที่โรงพยาบาลจิตเวช อนันต์ ผู้ป่วยทางสมอง พ่อของอลิส หายออกไปจากโรงพยาบาล อลิสออกตามหาและไปแจ้งความคนหาย อลิสได้เจอกับผู้กองโรมรัน ผู้กองโรมรันจำได้ว่าอลิสเป็นหนึ่งในทีมทนายของจีรเดช ที่ว่าความให้โกเมศ จึงเข้าไปตีสนิทและช่วยเหลือ ทำให้อลิสไว้ใจ อลิสให้ดูภาพถ่ายของอนันต์ ภาพของอนัต์ดูโทรม ผมยาวไม่เป็นทรง มีหนวดเครา แทบมองไม่เห็นใบหน้าที่แท้จริง แต่มันคลับคล้ายคลับคลาว่ามีใบหน้าเหมือนใครคนหนึ่งที่โรมรันรู้จัก แต่เขานึกไม่ออก จากเหตุการณ์นี้ทำให้อลิสสนิทกับโรมรันและไว้ใจเขา สำหรับโรมรันในเบื้องต้นคิดเพียงว่าต้องการสนิทสนมกับอลิสเพื่อหาข่าวโกเมศ อำพลพยายามหาทางเข้าถึงตัวสุรสีห์ โดยการไปหาเอเย่นต์ยาเสพติดรายย่อยๆ แล้วปล่อยข่าวว่าเขาต้องการซื้อยาเสพติดจำนวนมาก ข่าวนี้ไปเข้าหูสุรสีห์และสันติ สันติรู้สึกสนใจจึงนัดมาเจรจา อำพลได้เข้าไปพบสุรสีห์ แต่ไม่พบสันติ เพราะสันตินั่งอยู่ในรถ แต่เหตุการณ์ผิดคาด มีตำรวจบุกเข้ามา ผู้กองโรมรันกับทีมนั่นเองที่เป็นคนนำกำลังมาจับกุม การต่อสู้เกิดขึ้นอย่างดุเดือด
อำพลแปลกใจว่าทำไมตำรวจถึงรู้เรื่องนี้ทุกครั้ง อย่างไรก็ดี เขากับธนาหนีออกมาได้ โรมรันบุกถึงรถสันติ แล้วยิงสันติบาดเจ็บสาหัส ซึ่งโรมรันคิดว่าตายสนิทแล้ว สุรสีห์รีบพาสันติไปที่โรงพยาบาล หมอผดุงศักดิ์พยายามรักษาอย่างเต็มที่ แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตของสันติไว้ได้ สันติเสียชีวิตในเวลาต่อมา หมวดมุและทีมเข้ามาพิสูจน์ และพบว่าเป็นสันติตัวจริง เพราะมีดีเอ็นเอที่รถและที่อื่นๆ ตรงกัน ข่าวการถูกวิสามัญของสันติกระจายไปอย่างรวดเร็ว คนที่ดีใจที่สุดเห็นจะได้แก่โกเมศ เพราะตอนนี้เขาไม่มีคู่แข่งอีกแล้ว แต่ก็มีข่าวร้ายหลังจากสันติเสียชีวิตไป หมอผดุงศักดิ์ก็เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุอย่างมีเงื่อนงำ แนนรู้สึกสงสัย จึงขอให้ตำรวจมาช่วยดูคดีให้ละเอียด ผู้กองโรมรันสั่งให้จ่าทิวกับหมวดมุไปดูเรื่องนี้ และจากการสืบสวนและรวมทั้งหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์มีเหตุให้เชื่อได้ว่า นายแพทย์ผดุงศักดิ์ตายอย่างผิดธรรมชาติ อาจเป็นการฆาตกรรม
แนนขอให้สุรสีห์ช่วยจัดการสืบหาด้วย สุรสีห์รับปาก ซึ่งตอนนี้ความสัมพันธ์ของคนทั้งสองดำเนินไปอย่างราบรื่น แต่จ่าทิวผู้มีความจริงใจก็เข้ามาสนิทสนมกับแนนเพื่อแจ้งความคืบหน้าทางคดีให้แนนทราบเป็นระยะ ทำให้แนนรู้สึกว่าจ่าทิวเป็นคนน่ารักและน่าคบคนหนึ่ง ยิ่งนานวันจ่าทิวก็เริ่มเข้ามาอยู่ในหัวใจของแนนขึ้นทุกวัน จนสุรสีห์เริ่มมองเห็นความชัดเจนของเรื่องนี้ เขาเก็บมันไว้ในใจด้วยความแค้น อนันต์ปรากฏตัวขึ้นที่ข้างถนนแห่งหนึ่ง เขากำลังจะถูกรถชน แต่อำพลบังเอิญผ่านมาแล้วช่วยเอาไว้ได้ อำพลไม่รู้จักอนันต์ แต่เห็นชุดโรงพยาบาลที่อนันต์สวมใส่ เขาจึงพาไปส่งที่โรงพยาบาล และจากจุดเริ่มต้นนี้เองเขาเริ่มสนิทกับอลิส เพราะช่วยชีวิตและสามารถตามพ่อของเธอกลับมา หลังจากที่อนันต์กลับมาที่โรงพยาบาล แพทย์ที่ดูแลอาการของเขาบอกว่าอนันต์มีอาการดีขึ้น หรือเทียบได้ว่าเท่ากับคนปกติ แต่เขายังนิ่งและพูดได้ช้า อีกทั้งจำใครไม่ได้ อลิสนำอนันต์มาพักที่บ้านกับเธอ และสัญญาว่าจะดูแลอนันต์อย่างดีที่สุดให้สมกับที่เธอทอดทิ้งเขามานาน
ซึ่งตอนนี้อำพลกลายเป็นเงาตามตัวอลิสทันที โรมรันรับรู้ เขาเคยบอกอลิสว่าอำพลไม่ใช่คนดีและพัวพันกับแก๊งยาเสพติด อลิสบอกว่าถ้าผิดก็จับไป โรมรันบอกว่าหลักฐานไม่พอ อลิสยิ้มพอใจแล้วบอกว่านั่นแสดงว่าเขาไม่ใช่คนร้าย แต่เรื่องที่โรมรันขอร้องให้หาข้อมูลเกี่ยวกับโกเมศนั้น อลิสบอกว่าเธอทำได้บางส่วนที่ไม่ให้กระทบจรรยาบรรณของวิชาชีพเธอ ในด้านความลับของลูกค้าโรมรันเข้าใจ แต่ฝากไว้กับอลิส ว่าระหว่างจรรยาบรรณกับการบ่อนทำลายชาติ อลิสก็คิดเหมือนกัน