ละคร ภูตแม่น้ำโขง

ดู 16,367 ครั้ง / แชร์
ละครออกอากาศ วันศุกร์ วันเสาร์ วันอาทิตย์
ช่องที่ออกอากาศ ละครช่อง 7
เริ่มออกอากาศ 4 ตุลาคม 2551
เวลาออกอากาศ 20:30 - 22:30 น.
  
กำกับโดย สำรวย รักชาติ
ประพันธ์โดย บทประพันธ์ สิทธา เชตวัน, บทโทรทัศน์ เคียม สุขสวัสดิ์
นำแสดงโดย
ศุกลวัฒน์ คณารศ ... นายแพทย์อัคนี
วรัทยา นิลคูหา ... บัวผัน
มรกต กิตติสาระ ... เจ้าแม่ทอหูก
ภุชิสสะ ธนพัฒน์ ... เจ้าวรวงศ์
อุษณีย์ วัฒฐานะ ... เจ้านางโคมดำ
ผู้สร้าง บริษัท ดาราวีดีโอ จำกัด

ภาพนิ่งจากละคร

เรื่องย่อ ภูตแม่น้ำโขง

บัวผัน หญิงสาวชาวบ้านพบไข่ประหลาดฟองโตสีขาวนวลกลิ้งอยู่บนพืนทราย ริมแม่น้ำโขง จึงเก็บไข่ฟองนั้นกลับบ้าน โดยไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้กินไข่ประหลาดนั้น เมื่อทองมี เพื่อนรักแวะมาหาที่บ้านจึงชวนกินไข่ประหลาดด้วยกัน แต่ทองมีไม่กินเพราะกินข้าวมาแล้ว บัวผันจึงกินคนเดียวจนหมดฟอง และเกิดอาการท้องร้อนวูบวาบ บัวผันบอกทองมีว่าจะต้องไปดื่มน้ำในลำน้ำโขงจึงหาย ทองมีตกใจจึงตะโกนร้องให้คนช่วย

ทิดเคน หนุ่มชาวบ้านกระโดดล็อกตัวไว้แต่บัวผันก็สะบัดหลุดออกอย่างง่ายดาย ทุกคนลงความเห็นว่าผีเข้าบัวผันแน่ เฒ่าเชียงหล้า จึงรีบขอขมาผู้สิงร่างบัวผัน แต่ผู้สิงร่างไม่ยอมแล้วก็ลุยน้ำออกไปกลางลำน้ำโขง ทิดเคนกระโจนลงไปช่วย ทั้ง 2 จมลงไปใต้น้ำด้วยกัน ทันใดนั้นก็เกิดก้อนสีดำขนาดใหญ่ลอยมาและเปลี่ยนเป็นฝูงผีเสื้อนับล้านตัว ไม่พอเท่านั้นยังมีฝูงคางคกนับล้านตัวว่ายน้ำอยู่ในลำน้ำโขงจนมืดสนิท เหมือนจะเกิดอาเพศ ทองมีกรีดร้องด้วยความดีใจที่เห็นบัวผันโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำ และตะโกนเรียกให้กลับเข้าฝั่ง แต่บัวผันไม่กลับค่อยๆจมหายไป

อีกด้านหนึ่ง นายแพทย์อัคนี ผู้เชี่ยวชาญและศึกษาวิชาจิตเวชศาสตร์ กำลังนั่งขัดสมาธิบนเรือกลางลำน้ำโขง กับสมัย อ่อนสา เพื่อพิสูจน์สิ่งลี้ลับ แต่อยู่ๆสมัยก็หมดสติ ลุงจันดี คนพายเรือจึงตะโกนเรียกหมออัคนีแต่ก็นิ่งเฉยเหมือนไม่ได้ยิน แล้วลุงจันดีก็ร้องโวยวายออกมาด้วยความตกใจว่าเห็นผี และพยายามรีบพายเรือหนี แต่กลับเห็นเรือลำหนึ่งลอยมาใกล้ๆซึ่งในเรือมีหญิงสาวสวยชื่อบัวผัน ชวนให้ลุงจันดีลงเรือของเธอ เมื่อแกถูกตัวบัวผันก็รู้สึกถึงความเยียบเย็นแล้วร่างบัวผันก็กลายเป็นโครงกระดูก ซึ่งเป็นภาพนิมิตรของเจ้าแม่ทอหูก ลุงจันดีจึงรีบกราบขอขมาลาโทษที่ได้ล่วงเกินและขอให้เจ้าแม่ไว้ชีวิต

ส่วนบัวผันที่จมน้ำได้ 9 วันแต่ยังไม่พบศพ นางบุญเรือน ผู้เป็นแม่และชาวบ้านและจึงให้คนทรงตรวจดู ซึ่งหมออัคนีก็มาร่วมพิธีด้วย คนทรงบอกว่าอีก 3 วันบัวผันจะกลับมา นายแพทย์อุ่นเงิน เพื่อนรักของหมออัคนีแต่งงานกับเจ้านางโคมคำ ซึ่งเดิมเป็นคู่หมั้นของหมออัคนี มาขอพบหมออัคนีแต่หมออัคนีไม่อยากพบ เพราะไม่อยากเจอเจ้านางโคมคำ ซึ่งอุ่นเงินไม่ได้พามาด้วยแต่กลับพาเจ้าวรวงศ์ พี่ชายของเจ้านางมาแทน อุ่นเงินบอกกับหมออัคนีว่าพระธาตุขุนหลวงซึ่งเป็นพระธาตุประจำตระกูลของหมออัคนีพังแล้ว

หมออัคนีจึงให้บูรณะปฏิสังขรณ์พระธาตุขึ้นใหม่ ซึ่งภายในพระธาตุมีของมีค่ามากโดยเฉพาะบุษบกทองคำประดับเพชรและผอบซ้อนกัน 5 ชั้นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ หมออัคนีตัดสินใจเดินทางไปดู แต่ระหว่างการเดินทางถูกลอบวางยาพิษจากอุ่นเงินและเจ้าวรวงศ์ แต่หมออัคนีไหวตัวทันอมรางจืดยาแก้พิษเอาไว้ ทั้งสองคนไม่รู้ นำร่างหมออัคนีใส่กระสอบถ่วงน้ำ หมออัคนีใช้มีดพับตัดกระสอบและว่ายฝ่าสายน้ำที่เย็นขึ้นสู่ผิวน้ำ แต่น้ำก็พัดจมลงอีก คราวนี้หมออัคนีไปพบกับพญาจันหัวจระเข้ ที่เป็นบริวารของเจ้าแม่ทอหูก จึงถูกนำตัวไปขังไว้ในคุกพญาหนองหารหลวง ล่วงรู้เข้าจึงสั่งให้ อสุรกายนฤจักษ์ กับ นางมลินมุขี เข้าไปชิงตัวหมออัคนีมา ทั้ง 2 แปลงร่างเป็นพายุลมดำ หอบหมออัคนีไปให้พญาหนองหารหลวง แล้วสั่งต้มหมออัคนี หมออัคนีไม่เห็นทางรอดจึงกำหนดปณิธาณขอให้ดวงจิตสะอาดบริสุทธิ์ พอจบคำอธิฐานลมหนาวแห่งความตายก็พัดมา ก็เกิดแสงสว่างสีทองพันรอบตัวแล้วดึงลอยไปในอากาศ

มารู้สึกตัวอีกครั้งว่าตัวเองกำลังว่ายน้ำอยู่ในความมืด แต่ชั่วแวบเดียวก็ต้องสะดุ้งเมื่อเห็นสาวงามแต่งกายชุดสาวพื้นเมืองเดินเข้ามาหาและชวนให้ไปพักผ่อนที่บ้าน หมออัคนีปฏิเสธ เธอบอกว่าชื่อบัวผัน ทำให้นึกถึงหญิงสาวที่จมแม่น้ำโขงหายไปหลังจากนั้นก็มุ่งหน้าเดินเข้าไปในเมือง ระหว่างทางก็เจอกับผีโครงกระดูกและสุนัขผีดำ แต่ก็รอดมาได้ ในที่สุดก็มาถึงที่พัก นางบุญเรือนยังโศกเศร้าคิดถึงบัวผันและยิ่งเศร้าเมื่อหลวงพ่อจูม อดีตสามีไปออกธุดงค์โดยไม่บอก

แต่แล้วในที่สุดบัวผันก็กลับมา แต่ก็มีนางปีศาจตามมาส่งและมาหลอกหลอนเข้าสิงชาวบ้าน หมออัคนีรู้เรื่องบัวผันกลับมา จึงไปหาเพราะมั่นใจว่าบัวผันคือคนที่ช่วยชีวิตจากการจมน้ำ แต่บัวผันจำอัคนีไม่ได้ ไม่ทันทีที่จะถามต่อลุงเสาร์ก็วิ่งมาถามหา บอกว่าบัวผันเป็นคนฆ่าลุงงึมตาย และจะนำตัวไปเผาไฟ ซึ่งหมออัคนีพยายามที่จะช่วย โดยการขอตรวจศพลุงงึมก่อน

ทันใดนั้นก็มีแมวดำกระโดดข้ามศพของลุงงึม จนฟื้นขึ้นมา กำนันเล้ง กับเวียนแล ตั้งใจจะมางานศพลุงงึมแต่มาเจอหมออัคนี จึงตกใจมากนึกว่าโดนผีหลอก เพราะเจ้าวรวงศ์บอกว่าหมออัคนีตายแล้ว กำนันเล้งข้องใจจึงเรียกสารวัตรกองตามาปรึกษา แล้วรีบแจ้งข่าวกับเจ้าวรวงศ์และหมออุ่นเงินทั้ง 2 ตกใจกลัวความผิด กำนันเล้งจึงรับปากจะไม่บอกว่าอุ่นเงินกับเจ้าวรวงศ์ระเบิดพระธาตุขุนหลวงเพราะก็กลัวความผิดที่ตนเองร่วมมือด้วย หมออัคนีต้องการพิสูจน์ว่าบัวผันเป็นตัวจริงหรือเปล่า เลยตามไปในหมู่บ้านลับแลและก็ได้พูดคุยกัน มารู้สึกตัวอีกครั้งก็พบว่าตนเองอยู่ในป่าช้า จึงเดินทางกลับไปที่โรงแรมและได้รับจดหมายจากเจ้านางโคมคำฝากไว้เพื่อขอพบ

หมออัคนีไปเจอเจ้านางโคมคำเพื่อที่จะสอบถามรายละเอียดต่างๆ หลังจากนั้นหนานหล้า เอาจดหมายที่มีข้อควมสั้นๆ จากสัปเหร่อหนูที่มีข่าวด่วนให้มาพบที่ป่าช้า หมออัคนีสงสัยว่าเจ้าแม่ทอหูกมีปัญหาอะไรกับเขา เจ้าแม่ทอหูกไปจับตัวเจ้านางโคมคำมาเป็นตัวประกัน และสั่งให้หนานหล้าไปบอกหมออัคนีให้มาพบ ไม่งั้นเจ้านางโคมคำตาย หนานหล้าพาไหมสี ไปหาหมออัคนี เพื่อบอกความจริงทั้งหมด แล้วก็ขอร้องให้บัวผันช่วยพาไปหาเจ้าแม่ทอหูก ซึ่งเจ้าแม่ทอหูกสิงร่างบัวผันอยู่แล้วสบโอกาสจึงพาลงไปเมืองบาดาล แล้วมาพบกับพ่อปู่ฤษี

พ่อปู่ให้หมออัคนีถอดแหวนปะการังออก แต่หมออัคนีไม่ถอดเพราะพระภิกษุให้สวมไว้ที่นิ้วกลางข้างซ้ายตลอดชีวิต เจ้าแม่ทอหูกในร่างบัวผันก็ช่วยเสริมแกมบังคับ หมออัคนีจึงยอมถอดและโยนทิ้งลงไปในสระน้ำไฟจึงลุกขึ้น พ่อปู่โกรธมากที่มาทำลายบ่อเพลิงกรดศักดิ์สิทธิ์ พ่อปู่จึงสั่งให้เจ้าแม่ทอหูกโยนหมออัคนีลงสระไฟกรด หมออัคนีรู้ทันทีว่านี่ไม่ใช่บัวผัน จึงดิ้นสุดแรงทำให้เจ้าแม่ทอหูกพลัดตกลงไปในสระไฟกรดแทน ซึ่งจริงๆ แล้วคนที่ตายก็คือบัวผันนั่นเอง ต้องมาคอยลุ้นกันต่อไปว่าบัวผันจะฟื้นคืนชีพขึ้นมาหรือไม่ แล้วเจ้าแม่ทอหูกมีความแค้นอะไรที่จะต้องสะสางกับหมออัคนี และหมออัคนีจะช่วยเจ้านางโคมคำได้หรือไม่