ละคร โบตั๋นกลีบสุดท้าย
ดู 2,307 ครั้ง /
แชร์
ละครออกอากาศ | วันจันทร์ | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ช่องที่ออกอากาศ | ละครช่อง 3 | ||||||||||||||||||
เริ่มออกอากาศ | 22 กันยายน 2551 | ||||||||||||||||||
เวลาออกอากาศ | 20:30 - 22:30 น. |
||||||||||||||||||
กำกับโดย | ชนะ คราประยูร | ||||||||||||||||||
ประพันธ์โดย | บทประพันธ์ กานติมา, บทโทรทัศน์ เอกลิขิต | ||||||||||||||||||
นำแสดงโดย | |||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||
ผู้สร้าง | บริษัท ทีวีซีน จำกัด |
ภาพนิ่งจากละคร
เรื่องย่อ โบตั๋นกลีบสุดท้าย
ณ งานประกาศรางวัลงานเขียนยอดเยี่ยมที่จัดเป็นประจำทุกปี นวนิยายเรื่อง "โบตั๋นกลีบสุดท้าย" จากผู้เขียนที่ใช้นามปากกา "สำเภาทอง" ได้รับรางวัลนวนิยายยอดเยี่ยม ในขณะที่นวนิยายเรื่อง "ปีกมัจจุราช" ของ มนชนก ซึ่งในนามปากกาว่า "แก้วพรรณราย" ต้องพลาดรางวัลไปอย่างพลิกล็อค เพราะมนชนกไม่คิดว่าสำเภาทองซึ่งเธอไม่เคยรู้จักว่าเขาเป็นใครจะเปลี่ยนแนวการเขียนจากแนวเมโลดรามา มาเป็นแนวสะท้อนปัญหาครอบครัว
ไม่เคยมีใครรู้ว่า "สำเภาทอง" มีรูปร่างหน้าตาอย่างไร รู้แต่เพียงว่าเขาคือชายหนุ่มเชื้อสายจีนที่มีลีลาการเขียนนวนิยายที่พลิ้วไหว ระดับแนวหน้าของเมืองไทย โดยมี ดนัย เลขาส่วนตัว ส่งต้นฉบับให้สำนักพิมพ์ต่างๆ และเป็นผู้ติดต่อและประสานงานทั้งหมด
แท้ที่จริงสำเภาทองคือ ธีรเดช หรือ อาจู ลูกชายคนสุดท้องของอาเซงกับเหมยหลิง สองสามีชาวจีนขายข้าวมันไก่ เป็ดพะโล้จนสามารถส่งเสียลูกชายทั้ง 3 คนก็คือ ธีรชัย หรืออาโจว ธีรชาติ หรือ อาจิว และธีรเดช หรือ อาจู จนจบปริญญาตรี ในสายตาของอาเชง อาจูมักเป็นลูกชัง ส่วนอาโจวและอาจิวนั้นเป็นลูกรัก อาโจวเข้าทำงานกับบริษัทอสังหาริมทรัพย์และแต่งงาน
กับจรัสศรี ลูกข้าราชการใหญ่ อาจิวเข้าทำงานธนาคาร
ส่วนอาจูนั้นรักการเขียนจึงตัดสินใจรับงานเขียนประเภทนวนิยายนิตยสาร และเมื่ออาจูรู้ว่าพ่อมักจะใช้เวลาว่างในการอ่านนิตยสาร "ระเบียงบึง" อาจูจึงตัดสินใจที่จะใช้งานเขียนของตน โดยที่พ่อไม่เคยรู้ว่า "สำเภาทอง" คือนามปากกาของตน เป็นสื่อกลางในการให้แง่คิดและเปลี่ยนทัศนคติของผู้เป็นพ่อ
เรื่องราวของครอบครัวชาวจีนที่มีแต่ลูกสาวไม่มีลูกชายเป็นผู้สืบสกุลคืองานเขียนที่อาจูจะใช้เป็นยาทิพย์ชโลมใจผู้เป็นพ่อ อาจูตัดสินใจเลือกครอบครัวคณะงิ้ว "ฉางซิน" เป็นแหล่งข้อมูลในการเขียนนวนิยายเรื่องใหม่ เขาตัดสินใจไปสมัครงานเพื่อล้วงลึกสายสัมพันธ์ ตันหยง บุตรสาวคนเล็กของนายฉางและนางซิน ซึ่งไม่เชื่อว่าอาจูด้อยการศึกษาและตกงาน เธอคิดว่าอาจูเป็นหนอนบ่อนไส้ ทำให้ทั้งสองเป็นไม้เบื่อไม้เมากันอยู่ตลอด อาฉางและอาซินมีลูกสาว 3 คน ที่มีความงดงามและนิสัยใจคอต่างกัน
ดาหลา บุตรสาวคนโตอยากเรียนพยาบาลแต่พ่อไม่สนับสนุน เป็นคนสวย อ่อนหวาน เธอมักจะได้แสดงงิ้วในบทนางร้ายเสมอ ดาหลาได้แต่งงานกับพงษ์เลิศ ลูกชายคนเดียวของเจ้าสัวกำธรและมาดามเหลียว มีลูก 2 คนคือหยกกับหงษ์
ปาหนัน บุตรสาวคนกลาง เจ้าอารมณ์เอาแต่ใจตัวเอง เธอเกิดมาพร้อมพรสวรรค์ในการแสดงงิ้ว เธอจึงมักจะได้เป็นนางเอกเสมอ เธอให้ความสนใจชายหนุ่มเป็นพิเศษอยู่ 3 คน คือ เดชา เสี่ยหนุ่มใหญ่เจ้าของกิจการร้านทอง อติเทพ ผู้กำกับละครชื่อดังและ แอนดี้ เพล์บอยหนุ่มนักเรียนนอก
ส่วนลูกสาวคนสุดท้อง ตันหยง เธอใฝ่ฝันที่จะเปิดอู่รถ มีนิสัยห้าวหาญเยี่ยงชายฉกรรจ์ มักได้แสดงเป็นดาวร้ายฝ่ายชายเสมอ ด้านอาหลง เด็กชายกำพร้าที่อาฉางและอาซินรับเลี้ยงไว้ จึงทำทุกอย่างเพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณ มักได้รับบทเป็นพระเอกอยู่เสมอ เขาหลงรักปาหนัน โดยที่อาซุ่นพ่อบ้านของคณะรู้มาโดยตลอด อาจูได้ฟังเรื่องราวจากอาซุ่น เห็นความน่าสนใจของตระกูลฉางจึงตั้งชื่อนวนิยายว่า โบตั๋นกลีบสุดท้าย
ร้านข้าวมันไก่อาเซงต้องปิดชั่วคราวเพราะล้มป่วยด้วยโรคไต โดยไม่รู้ว่าค่าใช้จ่ายทั้งหมดนั้นอาจูเป็นคนรับผิดชอบ อาเซงคิดว่าอาโจวและอาจิวช่วยกันออกค่ารักษา แต่ทั้งคู่ไม่เคยมาเยี่ยมอาเซงเลย ช่วงที่อาเซงอยู่ที่โรงพยาบาลยามว่างเขาจึงอ่านนิตยสาร "ระเบียงบึง" และครั้งแรกที่เขาอ่านไม่มีนวนิยายเรื่องใดที่เขาจะติดตามอ่านนอกจาก "โบตั๋นกลีบสุดท้าย" มันทำให้ความคิดเริ่มเปลี่ยนไป อาเซงได้ฝากอาจูชมนักเขียนที่ชื่อ "สำเภาทอง" ว่าน่าสนใจและน่าติดตาม เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผู้พ่อเห็นคุณค่าในตัวเขาแม้จะไม่รู้ว่าแท้จริงก็คือบุตรชายตนเอง
งิ้วเรื่องกระบี่มารได้กลับมาปัดฝุ่นอีกครั้ง แต่ขาดเงินลงทุน เดชาจึงยื่นข้อเสนอให้ยืมเงินโดยไม่ต้องคืนแต่ต้องแลกกับตัวปาหนัน เมื่อทุกคนในบ้านรับรู้จึงช่วยกันหาทางแก้ไขปัญหา อาจูประทับใจที่ทุกคนไม่ทิ้งกันโดยเฉพาะลูกสาวทั้งสามและอาซินต่างซึ่งจากครอบครัวของเขา ตันหยงได้ระบายความอัดอั้นทั้งหมดกับอาจู คำพูดและคำปลอบของอาจูทำให้ ตันหยงสงสัยในตัวเขามากขึ้น เธอแอบเข้าไปค้นห้องอาจู วันรุ่งขึ้นอาจูถูกเรียกพบ อาฉางเห็นบทนวนิยายที่เขาทิ้งลงขยะ อาจูแก้ตัวว่าเป็นนวนิยายที่เขาเขียนชิงรางวัล
อาฉางเห็นความตั้งใจจึงให้อาจูลองแต่งงิ้วเรื่องใหม่ชื่อ "ศึกรักบัลลังก็เลือด" ด้านอาเซงอาการดีขึ้น อาจูพาไปพักรักษาตัวที่บ้านริมน้ำ โดยอาจูจะส่งนิตยสาร "ระเบียงบึง" ให้เขาอ่านทุกฉบับ ส่วนอาฉางเริ่มให้ทุกคนซ้อมงิ้วเรื่องใหม่ ดาหลาใจลอยไม่ตั้งใจซ้อมเลยถูกอาฉางตำหนิ ตันหยงคะยั้นคะยอถามพี่สาวจึงรู้ปัญหาว่าพงษ์เลิศเป็นเกย์ และดาหลาได้ขอให้ปิดเรื่องนี้เป็นความลับ
หลังการซ้อมอาจูเห็นตันหยงออกไปข้างนอกจึงแอบตามไป เห็นตันหยงมีเรื่องกับกลุ่มอันธพาล อาจูจึงเขาไปช่วยและได้รับบาดเจ็บ ตันหยงเลยช่วยทำบาดแผลและมองเขาในทางที่ดีขึ้น และได้ปรึกษาปัญหาของดาหลากับอาจู อาจูแนะนำให้ดาหลาเป็นผู้ตัดสินใจเอง
ส่วนปาหนันได้ออกไปเที่ยวกับแอนดี้ โดยลืมไปว่าเธอนัดฉลองวันเกิดกับอาหลงทำให้อาหลงเสียใจ ดื่มเหล้าเมามายจนมีเรื่อง อาจูและตันหยงออกมาช่วยแต่อาหลงแขนหักไม่สามารถแสดงงิ้วได้ อาฉางรับสมัครพระเอกงิ้วคนใหม่แต่ไม่มีใครที่มีฝีมือเท่าอาหลง จนทำให้อาฉางเลือกอาจูมาเป็นพระเอกแทน ด้านดาหลาตัดสินใจหย่าขาดกับพงษ์เลิศ ขอเป็นฝ่ายเลี้ยงลูกทั้งสองเอง ทำให้อาฉางล้มป่วย อาซุ่นช่วยดูแลการซ้อมแทนอาฉาง ส่วนตันหยงยังคอยแกล้งอาจูเสมอแต่ภายในใจกลับมีความรู้สึกที่ประหลาดขึ้น เธอสุขใจและอบอุ่นที่ใกล้ชิดเขา
อาจูก็มีความรู้สึกไม่ต่างจากเธอ แต่ด้วยทิฐิเธอจึงปิดกั้นความรู้สึกเอาไว้ แต่ไม่รอดพ้นจากสายตาของปาหนัน วันหนึ่งปาหนันชวนอาจูไปเที่ยวทำให้เดชาไม่พอใจจึงให้ลูกน้องมาทำร้ายอาจูจนได้รับบาดเจ็บ ตันหยงรู้จึงไปเยี่ยมและหลงกลปาหนันจนเผลอบอกรักอาจู เรื่องราวความเข้มข้นยังไม่ยุติเพียงเท่านี้ ความสัมพันธ์ของทั้งหมดจะลงเอยอย่างไร ต้องติดตามชม
"โบตั๋นกลับสุดท้าย"
ไม่เคยมีใครรู้ว่า "สำเภาทอง" มีรูปร่างหน้าตาอย่างไร รู้แต่เพียงว่าเขาคือชายหนุ่มเชื้อสายจีนที่มีลีลาการเขียนนวนิยายที่พลิ้วไหว ระดับแนวหน้าของเมืองไทย โดยมี ดนัย เลขาส่วนตัว ส่งต้นฉบับให้สำนักพิมพ์ต่างๆ และเป็นผู้ติดต่อและประสานงานทั้งหมด
แท้ที่จริงสำเภาทองคือ ธีรเดช หรือ อาจู ลูกชายคนสุดท้องของอาเซงกับเหมยหลิง สองสามีชาวจีนขายข้าวมันไก่ เป็ดพะโล้จนสามารถส่งเสียลูกชายทั้ง 3 คนก็คือ ธีรชัย หรืออาโจว ธีรชาติ หรือ อาจิว และธีรเดช หรือ อาจู จนจบปริญญาตรี ในสายตาของอาเชง อาจูมักเป็นลูกชัง ส่วนอาโจวและอาจิวนั้นเป็นลูกรัก อาโจวเข้าทำงานกับบริษัทอสังหาริมทรัพย์และแต่งงาน
กับจรัสศรี ลูกข้าราชการใหญ่ อาจิวเข้าทำงานธนาคาร
ส่วนอาจูนั้นรักการเขียนจึงตัดสินใจรับงานเขียนประเภทนวนิยายนิตยสาร และเมื่ออาจูรู้ว่าพ่อมักจะใช้เวลาว่างในการอ่านนิตยสาร "ระเบียงบึง" อาจูจึงตัดสินใจที่จะใช้งานเขียนของตน โดยที่พ่อไม่เคยรู้ว่า "สำเภาทอง" คือนามปากกาของตน เป็นสื่อกลางในการให้แง่คิดและเปลี่ยนทัศนคติของผู้เป็นพ่อ
เรื่องราวของครอบครัวชาวจีนที่มีแต่ลูกสาวไม่มีลูกชายเป็นผู้สืบสกุลคืองานเขียนที่อาจูจะใช้เป็นยาทิพย์ชโลมใจผู้เป็นพ่อ อาจูตัดสินใจเลือกครอบครัวคณะงิ้ว "ฉางซิน" เป็นแหล่งข้อมูลในการเขียนนวนิยายเรื่องใหม่ เขาตัดสินใจไปสมัครงานเพื่อล้วงลึกสายสัมพันธ์ ตันหยง บุตรสาวคนเล็กของนายฉางและนางซิน ซึ่งไม่เชื่อว่าอาจูด้อยการศึกษาและตกงาน เธอคิดว่าอาจูเป็นหนอนบ่อนไส้ ทำให้ทั้งสองเป็นไม้เบื่อไม้เมากันอยู่ตลอด อาฉางและอาซินมีลูกสาว 3 คน ที่มีความงดงามและนิสัยใจคอต่างกัน
ดาหลา บุตรสาวคนโตอยากเรียนพยาบาลแต่พ่อไม่สนับสนุน เป็นคนสวย อ่อนหวาน เธอมักจะได้แสดงงิ้วในบทนางร้ายเสมอ ดาหลาได้แต่งงานกับพงษ์เลิศ ลูกชายคนเดียวของเจ้าสัวกำธรและมาดามเหลียว มีลูก 2 คนคือหยกกับหงษ์
ปาหนัน บุตรสาวคนกลาง เจ้าอารมณ์เอาแต่ใจตัวเอง เธอเกิดมาพร้อมพรสวรรค์ในการแสดงงิ้ว เธอจึงมักจะได้เป็นนางเอกเสมอ เธอให้ความสนใจชายหนุ่มเป็นพิเศษอยู่ 3 คน คือ เดชา เสี่ยหนุ่มใหญ่เจ้าของกิจการร้านทอง อติเทพ ผู้กำกับละครชื่อดังและ แอนดี้ เพล์บอยหนุ่มนักเรียนนอก
ส่วนลูกสาวคนสุดท้อง ตันหยง เธอใฝ่ฝันที่จะเปิดอู่รถ มีนิสัยห้าวหาญเยี่ยงชายฉกรรจ์ มักได้แสดงเป็นดาวร้ายฝ่ายชายเสมอ ด้านอาหลง เด็กชายกำพร้าที่อาฉางและอาซินรับเลี้ยงไว้ จึงทำทุกอย่างเพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณ มักได้รับบทเป็นพระเอกอยู่เสมอ เขาหลงรักปาหนัน โดยที่อาซุ่นพ่อบ้านของคณะรู้มาโดยตลอด อาจูได้ฟังเรื่องราวจากอาซุ่น เห็นความน่าสนใจของตระกูลฉางจึงตั้งชื่อนวนิยายว่า โบตั๋นกลีบสุดท้าย
ร้านข้าวมันไก่อาเซงต้องปิดชั่วคราวเพราะล้มป่วยด้วยโรคไต โดยไม่รู้ว่าค่าใช้จ่ายทั้งหมดนั้นอาจูเป็นคนรับผิดชอบ อาเซงคิดว่าอาโจวและอาจิวช่วยกันออกค่ารักษา แต่ทั้งคู่ไม่เคยมาเยี่ยมอาเซงเลย ช่วงที่อาเซงอยู่ที่โรงพยาบาลยามว่างเขาจึงอ่านนิตยสาร "ระเบียงบึง" และครั้งแรกที่เขาอ่านไม่มีนวนิยายเรื่องใดที่เขาจะติดตามอ่านนอกจาก "โบตั๋นกลีบสุดท้าย" มันทำให้ความคิดเริ่มเปลี่ยนไป อาเซงได้ฝากอาจูชมนักเขียนที่ชื่อ "สำเภาทอง" ว่าน่าสนใจและน่าติดตาม เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผู้พ่อเห็นคุณค่าในตัวเขาแม้จะไม่รู้ว่าแท้จริงก็คือบุตรชายตนเอง
งิ้วเรื่องกระบี่มารได้กลับมาปัดฝุ่นอีกครั้ง แต่ขาดเงินลงทุน เดชาจึงยื่นข้อเสนอให้ยืมเงินโดยไม่ต้องคืนแต่ต้องแลกกับตัวปาหนัน เมื่อทุกคนในบ้านรับรู้จึงช่วยกันหาทางแก้ไขปัญหา อาจูประทับใจที่ทุกคนไม่ทิ้งกันโดยเฉพาะลูกสาวทั้งสามและอาซินต่างซึ่งจากครอบครัวของเขา ตันหยงได้ระบายความอัดอั้นทั้งหมดกับอาจู คำพูดและคำปลอบของอาจูทำให้ ตันหยงสงสัยในตัวเขามากขึ้น เธอแอบเข้าไปค้นห้องอาจู วันรุ่งขึ้นอาจูถูกเรียกพบ อาฉางเห็นบทนวนิยายที่เขาทิ้งลงขยะ อาจูแก้ตัวว่าเป็นนวนิยายที่เขาเขียนชิงรางวัล
อาฉางเห็นความตั้งใจจึงให้อาจูลองแต่งงิ้วเรื่องใหม่ชื่อ "ศึกรักบัลลังก็เลือด" ด้านอาเซงอาการดีขึ้น อาจูพาไปพักรักษาตัวที่บ้านริมน้ำ โดยอาจูจะส่งนิตยสาร "ระเบียงบึง" ให้เขาอ่านทุกฉบับ ส่วนอาฉางเริ่มให้ทุกคนซ้อมงิ้วเรื่องใหม่ ดาหลาใจลอยไม่ตั้งใจซ้อมเลยถูกอาฉางตำหนิ ตันหยงคะยั้นคะยอถามพี่สาวจึงรู้ปัญหาว่าพงษ์เลิศเป็นเกย์ และดาหลาได้ขอให้ปิดเรื่องนี้เป็นความลับ
หลังการซ้อมอาจูเห็นตันหยงออกไปข้างนอกจึงแอบตามไป เห็นตันหยงมีเรื่องกับกลุ่มอันธพาล อาจูจึงเขาไปช่วยและได้รับบาดเจ็บ ตันหยงเลยช่วยทำบาดแผลและมองเขาในทางที่ดีขึ้น และได้ปรึกษาปัญหาของดาหลากับอาจู อาจูแนะนำให้ดาหลาเป็นผู้ตัดสินใจเอง
ส่วนปาหนันได้ออกไปเที่ยวกับแอนดี้ โดยลืมไปว่าเธอนัดฉลองวันเกิดกับอาหลงทำให้อาหลงเสียใจ ดื่มเหล้าเมามายจนมีเรื่อง อาจูและตันหยงออกมาช่วยแต่อาหลงแขนหักไม่สามารถแสดงงิ้วได้ อาฉางรับสมัครพระเอกงิ้วคนใหม่แต่ไม่มีใครที่มีฝีมือเท่าอาหลง จนทำให้อาฉางเลือกอาจูมาเป็นพระเอกแทน ด้านดาหลาตัดสินใจหย่าขาดกับพงษ์เลิศ ขอเป็นฝ่ายเลี้ยงลูกทั้งสองเอง ทำให้อาฉางล้มป่วย อาซุ่นช่วยดูแลการซ้อมแทนอาฉาง ส่วนตันหยงยังคอยแกล้งอาจูเสมอแต่ภายในใจกลับมีความรู้สึกที่ประหลาดขึ้น เธอสุขใจและอบอุ่นที่ใกล้ชิดเขา
อาจูก็มีความรู้สึกไม่ต่างจากเธอ แต่ด้วยทิฐิเธอจึงปิดกั้นความรู้สึกเอาไว้ แต่ไม่รอดพ้นจากสายตาของปาหนัน วันหนึ่งปาหนันชวนอาจูไปเที่ยวทำให้เดชาไม่พอใจจึงให้ลูกน้องมาทำร้ายอาจูจนได้รับบาดเจ็บ ตันหยงรู้จึงไปเยี่ยมและหลงกลปาหนันจนเผลอบอกรักอาจู เรื่องราวความเข้มข้นยังไม่ยุติเพียงเท่านี้ ความสัมพันธ์ของทั้งหมดจะลงเอยอย่างไร ต้องติดตามชม
"โบตั๋นกลับสุดท้าย"