ละคร Club Friday The Series 12 รักซ่อนเร้น ตอน รักในแรงแค้น
ดู 5,544 ครั้ง /
แชร์
ละครออกอากาศ | วันเสาร์ | |||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ช่องที่ออกอากาศ | ละครช่อง GMM 25 | |||||||||
เริ่มออกอากาศ | 24 ตุลาคม 2563 | |||||||||
เวลาออกอากาศ | 20:15 - 21:00 น. |
|||||||||
กำกับโดย | ศุทธสิทธิ์ เดชอินทรนารักษ์ | |||||||||
ประพันธ์โดย | ธัญลักษณ์ จุลพงศ์ | |||||||||
นำแสดงโดย | ||||||||||
|
||||||||||
ผู้สร้าง | บริษัท เช้นจ์2561 จำกัด |
ภาพนิ่งจากละคร
เรื่องย่อ Club Friday The Series 12 รักซ่อนเร้น ตอน รักในแรงแค้น
เรื่องราวของ นัน (ซอนย่า คูลลิ่ง) หญิงสาวสวย เรียบร้อยมีช่วยพ่อแม่ดูแลกิจการร้านอาหาร จนกระทั่งพ่อแม่เกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตทั้งคู่ ทำให้ชีวิตเธอเคว้งคว้าง ต้องดูแลกิจการเพียงลำพัง จนกระทั่งเจอ เมฆ (วิลลี่ แมคอินทอช) ซึ่งเป็นนักข่าวที่มาขอถ่ายรูปร้านของเธอไปลงข่าว เมฆ สัมภาษณ์เรื่องราวชีวิตของ นัน ทำให้เขารู้ว่าเธอเพิ่งสูญเสียพ่อแม่ เธออยู่ตัวคนเดียว ทำให้เขาเห็นใจ และจากการที่เขาเป็นนักข่าวทำให้เขามีช่องทางเพื่อช่วยประชาสัมพันธ์กิจการของ นัน เธอรู้สึกซึ้งน้ำใจของ เมฆ ที่ช่วยเหลือในยามที่เธอไม่เหลือใคร ดังนั้นไม่นานเธอก็รักเขาและตัดสินใจแต่งงานกัน โดย เมฆ บอกว่าเขาเป็นนักข่าวธรรมดา ไม่มีเงินเก็บมากมาย จึงขอแต่งงานเล็กๆ นัน ไม่ติดขัดเพราะเธอขอแค่ จดทะเบียนสมรสให้ถูกต้องก็พอแล้ว โดยในงานแต่งเล็กๆ มีเพียงญาติของ นัน แต่ไม่มีพ่อแม่หรือญาติของ เมฆ เลย เมฆ บอกเขาตัวคนเดียว พ่อแม่เสีย ไม่มีญาติพี่น้อง นัน เชื่อ เมฆ หมด พอแต่งงานแล้ว นัน ก็ให้ เมฆ ช่วยดูแลเรื่องกิจการร้านอาหาร แต่เพราะ เมฆ เป็นนักข่าวจึงไม่ค่อยมีเวลาเพราะต้องเดินทางบ่อยเพื่อติดต่องาน จนกระทั่ง นัน ท้องในช่วงนั้น เมฆ บอกกับ นัน ว่าเขาต้องออกกองสัมภาษณ์มีเหตุผลในการค้างคืน ไม่กลับบ้านบ่อยๆ ปล่อย นัน ต้องอยู่บ้านเพียงลำพัง จนกระทั่งวันคลอด
ในวันที่ นัน จะคลอดลูก นัน ได้โทรหา เมฆ แต่ก็ได้รับคำตอบกลับมาจาก เมฆ เหมือนเช่นเคยว่ายังติดธุระเรื่องสัมภาษณ์งานสำคัญอยู่ นัน แอบนึกน้อยใจแต่ก็เก็บไว้อยู่เพียงคนเดียวว่า เมฆ ห่วงงานมากกว่ามาเห็นหน้าลูกหรือไง และก็มีผู้หญิงชื่อ ปูน (รุจิรา ช่วยเกื้อ) ซึ่งเป็นระดับอาจารย์ ผู้บริหารของมหาวิทยาลัยที่มีเกียรติ มาพา นัน ไปที่โรงพยาบาลแทน พร้อมกับประกาศตัวกับ นัน ว่าตัวเอง คือ ภรรยาอีกคนหนึ่งของสามีเธอมานานแล้ว และ ครอบครัวของเขาก็รับรู้ นัน อึ้งเพราะ เมฆ บอกว่าเขาไม่มีพ่อแม่และญาติ แต่ ปูน ได้ยื่นการ์ดแต่งงานระหว่างเธอกับ เมฆ ให้ นัน นัน เสียใจมากที่ เมฆ โกหกเธอมาตลอด นัน ยอมอดทนที่จะไม่ถาม เมฆ เพราะไม่อยากทำลายครอบครัวตัวเอง พร้อมยังคิดว่าเมื่อเขาได้เห็นหน้าลูก เมฆ คงเปลี่ยนใจกลับใจมารักและดูแลลูกกลับมาเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์อีกครั้ง นัน พาลูกกลับบ้านจากโรงพยาบาลตามลำพังโดย เมฆ ไม่ติดต่ออะไรมาเลย นัน เปิดดูสมุดบัญชีแล้วต้องอึ้ง เมื่อเงินเก็บถูก เมฆ โอนถ่ายไปเกือบหมด เขาเหลือเงินไว้ให้เธอไม่ถึงแสน ทำให้ นัน ตาสว่างว่าที่ผ่านมา เมฆ ไม่ได้ช่วยเธอเพราะรัก แต่เขาหลอกให้เธอรัก และหลอกเอาเงินจากผู้หญิงชาวสวนอย่างเธอ เขามั่นใจว่าเธอซื่อ ไม่มีความรู้เอาเรื่องเขาได้ นัน ไม่รู้จะพึ่งใคร เธอได้แต่ร้องไห้กับลูก จนกระทั่งเสียงร้องของลูกทำให้เธอมีสติว่าเธอต้องมีชีวิตสู้ต่อเพื่อลูก
นัน เริ่มตั้งสติหันหน้าพึ่งพระธรรมและเริ่มอ่านกฎหมายเกี่ยวกับครอบครัวว่าเธอสามารถจัดการอะไรกับสามีของเธอได้บ้าง หลังจากนั้นไม่นาน เมฆ ก็กลับมาหาเธอกับลูกเขาแสดงออกว่าคิดถึงและรักลูกมาก นัน หวังว่าลูกจะทำให้เขาเปลี่ยนใจจากทุกอย่างกลับมาอยู่กับเธอและลูก แต่ความหวังเธอพังเมื่อเขาบอกจุดประสงค์ที่เขาเพื่อขอให้เธอเซ็นใบหย่าให้เขา นัน อยากกรีดร้องและทำร้าย เมฆ ด้วยความเสียใจ แต่เพราะเธอพึ่งธรรมะจึงมีสติว่าการใช้ความรุนแรงไม่ใช่ทางออก และการศึกษากฎหมายมาระยะนึงทำให้ นัน คิดได้ว่า เมฆ ยังไม่เซ็นเอกสารรับรองลูก เธอจึงยื่นข้อเสนอว่าเธอจะเซ็นใบหย่า แต่ เมฆ ต้องเซ็นเอกสารรับรองลูกให้ถูกต้องตามกฏหมายก่อน เมฆ อยากหย่าและรักลูก จึงยอมเซ็นเอกสารรับรองลูกอีกทั้ง นัน ยังเรียกร้องค่าเลี้ยงดูลูกเพราะ เมฆ ขโมยเงินเก็บของ นัน ไปทำให้นันต้องการเงินจาก เมฆ มาเลี้ยงดูลูกตามกฎหมาย เมฆ ยอมทำตาม นัน จึงเซ็นใบหย่าให้เขา เพราะรู้ว่าหัวใจเขาไม่เหมือนเดิม นัน ขอค่าเลี้ยงดูลูกทุกเดือน ไม่ได้อยากได้เงิน แต่แค่อยากเหนี่ยวรั้งความสัมพันธ์เอาไว้ เพราะเธอกับลูกไม่ผิด หลังจากการหย่าเรียบร้อย ปูน ก็กลับมาปรากฏตัว เพื่อเอารูปถ่ายวันแต่งงานของ ปูนกับเมฆ ที่จัดใหญ่โตในโรงแรมหรูกลางกรุงเทพให้ นัน ดูให้เธอรู้ว่าความจริงแล้ว เมฆ หย่ากับ นัน เพื่อไปแต่งงานกับ ปูน นั่นเอง จากนี้เรื่องระหว่าง นัน กับ เมฆ จบแล้ว อย่าพยายามเอาลูกดึง เมฆ กลับมา เพราะอีกไม่นาน ปูน ก็จะมีลูกคนใหม่ให้ เมฆ นัน โกรธแค้นและอยากลุกขึ้นอาละวาด แต่สิ่งที่เธอทำจริงๆ ก็คือ สงบนิ่ง และจมอยู่กับความแค้นสิ่งที่ นัน คิดก็คือทำไมฉันต้องเป็นนางร้าย ในเมื่อฉันเป็นฝ่ายถูก ฉันโดนกระทำ ฉันควรเป็นนางเอก
โดย นัน คิดว่าสังคมควรรู้ว่าผู้หญิงที่ทำตัวเป็นนางเอกอย่าง ปูน แท้จริงคือตัวร้าย เธอไปสืบหาข้อมูลของปูน ตั้งใจอยากประจานให้โลกรู้แต่ นัน กลับเปลี่ยนใจ เพราะถ้าทำอย่างนั้นเธอก็จะได้แค่ความสะใจ และเธอจะเป็นนางร้าย ตามระรานผู้หญิงคนใหม่ ในสายตาผู้ชายเธอต้องเป็นนางเอก นัน จึงเปลี่ยนมาตั้งใจเลี้ยงลูกอย่างดี ศึกษาการส่งออกส้มไปขายต่างประเทศ โดยปรึกษาเกษตรจังหวัดอย่างเป็นรูปธรรม นัน ต้องการทำให้ เมฆ เห็นว่าชีวิตเธอกำลังจะดีกว่าที่เขาคิด และเธอเริ่มเรียนรู้ศึกษาโซเชียล จนมีเฟซบุ๊กของตัวเอง และเป็นเฟรนด์กับ เมฆ เพื่อสืบหาเรื่องราวของ เมฆกับปูนที่โพสรูปอวดทุกเรื่องราวผ่านโซเชียลตลอดเวลาจากนั้น นัน ยังใช้การที่สามีต้องส่งเงินให้เธอและลูกทุกเดือนเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดปัญหารบกวนจิตใจที่ทำให้ผู้หญิงที่ได้สามีของคนอื่นไปอย่าง ปูน ต้องไม่สบายใจกับความหวาดระแวง นัน โพสต์รูปลูก และเรื่องราวของลูกบนเฟซบุ๊ก เพราะรู้ว่า เมฆ ต้องเห็น และ เมฆ กดไลก์ทำให้เธอมั่นใจว่าเขาติดตามชีวิตเธอกับลูกผ่านโซเชียลเช่นกัน แล้วไม่นานนันก็เห็นรูปที่ ปูน แท็กมาว่าอยู่โรงพยาบาลเพื่อตรวจสุขภาพเตรียมมีลูกทำให้ นัน รู้ว่า ปูนพยายามมีลูก แต่กรรมมีจริง ขนาดหาหมอ ปูน ก็ยังมีลูกไม่ได้ นัน จึงยิ่งส่งความน่ารักของลูกให้ เมฆ เห็นและเธอคิดว่า เมฆ ควรจะได้รับการรบกวนจิตใจจากการเห็นพัฒนาการของลูกแต่แตะต้องลูกไม่ได้
ปูน คงดูรูปชีวิต นัน ผ่านเฟซบุ๊กของ เมฆ และไม่ยอมแพ้ จึงหาความสุขอื่นมาทดแทนให้ เมฆ โดยการซื้อรถที่เขาอยากได้ และพากันไปเที่ยวพร้อมกับแท็กรูปมาบนหน้าเฟซบุ๊กของ เมฆ เพื่อให้ นัน ได้เห็น มันเป็นสงครามประสาทที่ผู้หญิงสองคนต่อสู้กัน นัน ตัดสินใจพาลูกไปกรุงเทพ และพาไปแถวมหาวิทยาลัยที่ ปูน สอน เพราะหวังจะดักเจอ เมฆ ให้ เมฆ ได้เห็นลูกแต่ นัน ไม่เจอทั้ง ปูนและเมฆ โดยนันถามอาจารย์ในมหาวิทยาลัยจึงรู้ว่าปูนสอบชิงทุนเรียนต่อได้ที่ญี่ปุ่น เมฆ จึงย้ายไปอยู่ญี่ปุ่นกับ ปูน นัน ใจหายและกอดลูกร้องไห้อีกครั้งเป็นการตอกย้ำว่า เมฆ ทิ้งเธอกับลูกจริงๆ นัน พาลูกกลับบ้านสวน เมฆ โทรมาบอกว่าเขายังส่งเงินค่าเลี้ยงดูผ่านการโอนเหมือนเดิม เยื่อใยสุดท้ายของ เมฆ ยิ่งทำให้ นัน เจ็บปวด ยิ่งมองเห็นลูกและสงสารลูก ทำให้เธอร้องไห้ด้วยความเสียใจและยังอยากเห็นจุดจบของผู้หญิงที่ทำลายครอบครัวของเธอ และความรักในสามีที่เธอยังคงมีอยู่ เธอจึงหันหน้าเข้าวัด สวดมนต์ ตั้งจิต อยากเห็นจุดจบของ ปูน สิ่งที่ นัน ทำทุกอย่างจึงเป็นตั้งใจทำความดี ทำสิ่งดีเพื่อตัวเอง เพื่อลูก และรอวันได้เห็นจุดจบของผู้หญิงที่แย่งสามีเธอ
ในวันที่ นัน จะคลอดลูก นัน ได้โทรหา เมฆ แต่ก็ได้รับคำตอบกลับมาจาก เมฆ เหมือนเช่นเคยว่ายังติดธุระเรื่องสัมภาษณ์งานสำคัญอยู่ นัน แอบนึกน้อยใจแต่ก็เก็บไว้อยู่เพียงคนเดียวว่า เมฆ ห่วงงานมากกว่ามาเห็นหน้าลูกหรือไง และก็มีผู้หญิงชื่อ ปูน (รุจิรา ช่วยเกื้อ) ซึ่งเป็นระดับอาจารย์ ผู้บริหารของมหาวิทยาลัยที่มีเกียรติ มาพา นัน ไปที่โรงพยาบาลแทน พร้อมกับประกาศตัวกับ นัน ว่าตัวเอง คือ ภรรยาอีกคนหนึ่งของสามีเธอมานานแล้ว และ ครอบครัวของเขาก็รับรู้ นัน อึ้งเพราะ เมฆ บอกว่าเขาไม่มีพ่อแม่และญาติ แต่ ปูน ได้ยื่นการ์ดแต่งงานระหว่างเธอกับ เมฆ ให้ นัน นัน เสียใจมากที่ เมฆ โกหกเธอมาตลอด นัน ยอมอดทนที่จะไม่ถาม เมฆ เพราะไม่อยากทำลายครอบครัวตัวเอง พร้อมยังคิดว่าเมื่อเขาได้เห็นหน้าลูก เมฆ คงเปลี่ยนใจกลับใจมารักและดูแลลูกกลับมาเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์อีกครั้ง นัน พาลูกกลับบ้านจากโรงพยาบาลตามลำพังโดย เมฆ ไม่ติดต่ออะไรมาเลย นัน เปิดดูสมุดบัญชีแล้วต้องอึ้ง เมื่อเงินเก็บถูก เมฆ โอนถ่ายไปเกือบหมด เขาเหลือเงินไว้ให้เธอไม่ถึงแสน ทำให้ นัน ตาสว่างว่าที่ผ่านมา เมฆ ไม่ได้ช่วยเธอเพราะรัก แต่เขาหลอกให้เธอรัก และหลอกเอาเงินจากผู้หญิงชาวสวนอย่างเธอ เขามั่นใจว่าเธอซื่อ ไม่มีความรู้เอาเรื่องเขาได้ นัน ไม่รู้จะพึ่งใคร เธอได้แต่ร้องไห้กับลูก จนกระทั่งเสียงร้องของลูกทำให้เธอมีสติว่าเธอต้องมีชีวิตสู้ต่อเพื่อลูก
นัน เริ่มตั้งสติหันหน้าพึ่งพระธรรมและเริ่มอ่านกฎหมายเกี่ยวกับครอบครัวว่าเธอสามารถจัดการอะไรกับสามีของเธอได้บ้าง หลังจากนั้นไม่นาน เมฆ ก็กลับมาหาเธอกับลูกเขาแสดงออกว่าคิดถึงและรักลูกมาก นัน หวังว่าลูกจะทำให้เขาเปลี่ยนใจจากทุกอย่างกลับมาอยู่กับเธอและลูก แต่ความหวังเธอพังเมื่อเขาบอกจุดประสงค์ที่เขาเพื่อขอให้เธอเซ็นใบหย่าให้เขา นัน อยากกรีดร้องและทำร้าย เมฆ ด้วยความเสียใจ แต่เพราะเธอพึ่งธรรมะจึงมีสติว่าการใช้ความรุนแรงไม่ใช่ทางออก และการศึกษากฎหมายมาระยะนึงทำให้ นัน คิดได้ว่า เมฆ ยังไม่เซ็นเอกสารรับรองลูก เธอจึงยื่นข้อเสนอว่าเธอจะเซ็นใบหย่า แต่ เมฆ ต้องเซ็นเอกสารรับรองลูกให้ถูกต้องตามกฏหมายก่อน เมฆ อยากหย่าและรักลูก จึงยอมเซ็นเอกสารรับรองลูกอีกทั้ง นัน ยังเรียกร้องค่าเลี้ยงดูลูกเพราะ เมฆ ขโมยเงินเก็บของ นัน ไปทำให้นันต้องการเงินจาก เมฆ มาเลี้ยงดูลูกตามกฎหมาย เมฆ ยอมทำตาม นัน จึงเซ็นใบหย่าให้เขา เพราะรู้ว่าหัวใจเขาไม่เหมือนเดิม นัน ขอค่าเลี้ยงดูลูกทุกเดือน ไม่ได้อยากได้เงิน แต่แค่อยากเหนี่ยวรั้งความสัมพันธ์เอาไว้ เพราะเธอกับลูกไม่ผิด หลังจากการหย่าเรียบร้อย ปูน ก็กลับมาปรากฏตัว เพื่อเอารูปถ่ายวันแต่งงานของ ปูนกับเมฆ ที่จัดใหญ่โตในโรงแรมหรูกลางกรุงเทพให้ นัน ดูให้เธอรู้ว่าความจริงแล้ว เมฆ หย่ากับ นัน เพื่อไปแต่งงานกับ ปูน นั่นเอง จากนี้เรื่องระหว่าง นัน กับ เมฆ จบแล้ว อย่าพยายามเอาลูกดึง เมฆ กลับมา เพราะอีกไม่นาน ปูน ก็จะมีลูกคนใหม่ให้ เมฆ นัน โกรธแค้นและอยากลุกขึ้นอาละวาด แต่สิ่งที่เธอทำจริงๆ ก็คือ สงบนิ่ง และจมอยู่กับความแค้นสิ่งที่ นัน คิดก็คือทำไมฉันต้องเป็นนางร้าย ในเมื่อฉันเป็นฝ่ายถูก ฉันโดนกระทำ ฉันควรเป็นนางเอก
โดย นัน คิดว่าสังคมควรรู้ว่าผู้หญิงที่ทำตัวเป็นนางเอกอย่าง ปูน แท้จริงคือตัวร้าย เธอไปสืบหาข้อมูลของปูน ตั้งใจอยากประจานให้โลกรู้แต่ นัน กลับเปลี่ยนใจ เพราะถ้าทำอย่างนั้นเธอก็จะได้แค่ความสะใจ และเธอจะเป็นนางร้าย ตามระรานผู้หญิงคนใหม่ ในสายตาผู้ชายเธอต้องเป็นนางเอก นัน จึงเปลี่ยนมาตั้งใจเลี้ยงลูกอย่างดี ศึกษาการส่งออกส้มไปขายต่างประเทศ โดยปรึกษาเกษตรจังหวัดอย่างเป็นรูปธรรม นัน ต้องการทำให้ เมฆ เห็นว่าชีวิตเธอกำลังจะดีกว่าที่เขาคิด และเธอเริ่มเรียนรู้ศึกษาโซเชียล จนมีเฟซบุ๊กของตัวเอง และเป็นเฟรนด์กับ เมฆ เพื่อสืบหาเรื่องราวของ เมฆกับปูนที่โพสรูปอวดทุกเรื่องราวผ่านโซเชียลตลอดเวลาจากนั้น นัน ยังใช้การที่สามีต้องส่งเงินให้เธอและลูกทุกเดือนเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดปัญหารบกวนจิตใจที่ทำให้ผู้หญิงที่ได้สามีของคนอื่นไปอย่าง ปูน ต้องไม่สบายใจกับความหวาดระแวง นัน โพสต์รูปลูก และเรื่องราวของลูกบนเฟซบุ๊ก เพราะรู้ว่า เมฆ ต้องเห็น และ เมฆ กดไลก์ทำให้เธอมั่นใจว่าเขาติดตามชีวิตเธอกับลูกผ่านโซเชียลเช่นกัน แล้วไม่นานนันก็เห็นรูปที่ ปูน แท็กมาว่าอยู่โรงพยาบาลเพื่อตรวจสุขภาพเตรียมมีลูกทำให้ นัน รู้ว่า ปูนพยายามมีลูก แต่กรรมมีจริง ขนาดหาหมอ ปูน ก็ยังมีลูกไม่ได้ นัน จึงยิ่งส่งความน่ารักของลูกให้ เมฆ เห็นและเธอคิดว่า เมฆ ควรจะได้รับการรบกวนจิตใจจากการเห็นพัฒนาการของลูกแต่แตะต้องลูกไม่ได้
ปูน คงดูรูปชีวิต นัน ผ่านเฟซบุ๊กของ เมฆ และไม่ยอมแพ้ จึงหาความสุขอื่นมาทดแทนให้ เมฆ โดยการซื้อรถที่เขาอยากได้ และพากันไปเที่ยวพร้อมกับแท็กรูปมาบนหน้าเฟซบุ๊กของ เมฆ เพื่อให้ นัน ได้เห็น มันเป็นสงครามประสาทที่ผู้หญิงสองคนต่อสู้กัน นัน ตัดสินใจพาลูกไปกรุงเทพ และพาไปแถวมหาวิทยาลัยที่ ปูน สอน เพราะหวังจะดักเจอ เมฆ ให้ เมฆ ได้เห็นลูกแต่ นัน ไม่เจอทั้ง ปูนและเมฆ โดยนันถามอาจารย์ในมหาวิทยาลัยจึงรู้ว่าปูนสอบชิงทุนเรียนต่อได้ที่ญี่ปุ่น เมฆ จึงย้ายไปอยู่ญี่ปุ่นกับ ปูน นัน ใจหายและกอดลูกร้องไห้อีกครั้งเป็นการตอกย้ำว่า เมฆ ทิ้งเธอกับลูกจริงๆ นัน พาลูกกลับบ้านสวน เมฆ โทรมาบอกว่าเขายังส่งเงินค่าเลี้ยงดูผ่านการโอนเหมือนเดิม เยื่อใยสุดท้ายของ เมฆ ยิ่งทำให้ นัน เจ็บปวด ยิ่งมองเห็นลูกและสงสารลูก ทำให้เธอร้องไห้ด้วยความเสียใจและยังอยากเห็นจุดจบของผู้หญิงที่ทำลายครอบครัวของเธอ และความรักในสามีที่เธอยังคงมีอยู่ เธอจึงหันหน้าเข้าวัด สวดมนต์ ตั้งจิต อยากเห็นจุดจบของ ปูน สิ่งที่ นัน ทำทุกอย่างจึงเป็นตั้งใจทำความดี ทำสิ่งดีเพื่อตัวเอง เพื่อลูก และรอวันได้เห็นจุดจบของผู้หญิงที่แย่งสามีเธอ