ละคร คุณชายตำระเบิด

ดู 2,367 ครั้ง / แชร์
ละครออกอากาศ วันจันทร์ วันอังคาร วันพุธ วันพฤหัส วันศุกร์
ช่องที่ออกอากาศ ละครช่อง 7
เริ่มออกอากาศ 3 เมษายน 2563
เวลาออกอากาศ 18:50 - 20:00 น.
  
กำกับโดย รติพงษ์ ภู่มาลี
ประพันธ์โดย ภาคินัย
นำแสดงโดย
ธนากร ศรีบรรจง ... เผือก
พรชดา เครือคช ... จิ้งหรีด
กฤษฎา สุภาพพร้อม ... ปราณ
บุศรินทร์ วงศ์ลีลนนท์ ... ต้นหอม
นคินธร ภาษยวรรณ์ ... เฉิ่ม
พรภัสร์ชนก มิตรชัย ... ผึ้ง
สุพศิน แสงรัตนทองคำ ... สารวัตรเชิงชาย
กัญญกร พินิจ ... นวล
ปิติพน พรตรีสัตย์ ... ชัชชัย
ภัทรานิษฐ์ คำกำพุด ... ลิลลี่
นิธิศ วงศ์เหรียญไทย ... นับหนึ่ง
ปภัสรา เตชะไพบูลย์ ... คุณหญิงสายสมร
ธนายง ว่องตระกูล ... ทองมี
ปนัดดา โกมารทัต ... ยายอิ่ม
ปัทมา ปานทอง ... คุณนายพิศเพลิน
ปิยะดา เพ็ญจินดา ... วรรณ
ชนิตา สุภาพันธุ์ ... รำจวญ
เมตตา รุ่งรัตน์ ... ดวง
จุ๊บจิ๊บ เชิญยิ้ม ... ชะมด
ศมลภัท นาคอุไร ... หวาน
ภูษณิศา โชติกิตติมาศ ... รดา
ตูมตาม เชิญยิ้ม ... ตาดุด
สายใย อุดมพร ... สร้อย
ผู้สร้าง บริษัท ดีด้า วิดีโอ โปรดักชั่น จำกัด

ภาพนิ่งจากละคร

เรื่องย่อ คุณชายตำระเบิด

ณ หมู่บ้านอันห่างไกลความเจริญแห่งหนึ่งในภาคอีสานที่เพิงหมาแหงนริมถนนนั้น เป็นที่เลื่องชื่อของรสมือการตำส้มตำรสแซ่บหลาย ถูกใจชาวบ้านชาวช่องเป็นนักหนา ที่น่าแปลกกว่านั้นคือผู้ลง มือเป็นชายหนุ่มร่างกายกำยำล่ำสัน ที่มีชื่อว่า ไอ้เผือก (ธนากร ศรีบรรจง) ฝีมือระดับเซียนที่หาคนมาเทียบเทียมได้ยาก ทั้งลาบหมู น้ำตก ต้มแซ่บ ไก่ย่าง ล้วนแต่อร่อยจนแทบไม่เหลือให้หมาที่ทำตาละห้อยแถวนั้นได้กินเลยสักวัน แต่ที่ต้องยกให้เป็นสุดยอดซุปเปอร์เมนูต้องเป็น ตำระเบิด เท่านั้น ส้มตำสูตรพิเศษรสแซ่บถึงเครื่องไม่มีหวงเครื่องปรุงให้เสียอารมณ์ ยิ่งกินกับขนมจีนด้วยแล้วละก็หลายต่อหลายคนยอมนั่งรถจากในตัวเมืองมาลองลิ้มชิมรสตำระเบิดของเผือกกันอย่างถ้วนหน้า อันที่จริงเผือกน่าจะรวยเป็นมหาเศรษฐีไปแล้ว แต่เพราะ ทองมี (ธนายง ว่องตระกูล) พ่อของเผือกนั้นติดเหล้าอย่างหนักชอบไถเงินลูกชายไปให้ร้านเหล้ายาดองในตัวอำเภอตลอด พอไม่ให้ก็ตบตี เผือกจำใจต้องยอมให้พ่อเพราะไม่อยากได้ขึ้นชื่อว่าเป็นลูกอกตัญญู เขาไม่ได้หวงเงินพ่อแต่ไม่อยากให้พ่อเมาหัวราน้ำมากกว่า เท่านั้นยังไม่พอ รำจวญ (ชนิตา สุภาพันธุ์) ผู้เป็นแม่ก็ติดเล่นไพ่ งานการไม่ทำ วันๆ ขลุกอยู่แต่ในบ่อน คงไม่ต้องบอกว่าเงินที่เอาไปเล่นไพ่แทงหวยทุกวันนั้นมาจากใคร ถ้าไม่ใช่ เผือก ดีที่ยังมี ยายดวง (เมตตา รุ่งรัตน์) กับ ผึ้ง (พรภัสร์ชนก มิตรชัย) สองยายหลานที่คอยเป็นกำลังใจให้เผือกสู้กับชีวิต ยายดวงเองไม่อยากเป็นภาระของหลานอยากมาช่วยเผือกขายส้มตำแต่ก็ฝืนสังขารตัวเองไม่ไหว ทำได้แค่ช่วยเตรียมข้าวของให้

ส่วนผึ้งนั้นเรียนอยู่ชั้น ม.6 หญิงสาวมาช่วยพี่ชายขายส้มตำหลังจากเลิกเรียน และวันเสาร์อาทิตย์ผึ้งเองตั้งใจว่าถ้าจบ ม.6 แล้ว จะไม่เรียนต่อเพราะสงสารเผือกที่ต้องทำงานหาเลี้ยงครอบครัวคนเดียว แต่เผือกไม่ยอม ไม่ว่าเขาจะทำงานเหนื่อยหรือหนักแค่ไหน เขาก็อยากให้น้องสาวคนเดียวของเขาได้เรียนสูงๆ เท่าที่จะทำได้เพื่อทดแทนความฝันของเขาที่อยากเรียนแต่ไม่มีเงินเรียนจึงจบมาแค่วุฒิ ม.6 เท่านั้น วันหนึ่ง มีชายแปลกหน้ามาขายล็อตเตอรี่ที่หมู่บ้าน แต่ไม่มีใครสนใจซื้อ ต่างก็เอาเงินไปเล่นหวยใต้ดินของ เจ๊ ในตัวอำเภอมากกว่า ชายคนนั้นหิวจนหน้ามืดเป็นลมตรงหน้าร้านส้มตำของเผือก เผือกจึงช่วยปฐมพยาบาลไว้และให้กินอาหารในร้านฟรี เพราะชายคนนั้นบอกว่าไม่มีเงิน โดยเผือกไม่เคยรู้เลยว่าแค่คำว่า ไม่เป็นไรพี่ มีกินก็แบ่งๆ กัน จะทำให้เขารวยเป็นเศรษฐีร้อยล้านเพราะชายคนนั้นมอบล็อตเตอรี่ใบหนึ่งให้กับเผือก ซึ่งมันถูกแจ๊กพอตรางวัลที่หนึ่งในงวดนั้นนั่นเอง จาก ไอ้เผือก กลายเป็น คุณชายเผือก ในบัดดล ด้วยความที่ไม่เคยมีเงินเยอะขนาดนี้มาก่อนในชีวิต ทำเอาทุกคนในครอบครัวตื่นเต้นต่างวาดฝันกันไปต่างๆ นานาว่าจะซื้อนั่นซื้อนี่ แต่ยังไม่ทันจะได้ทำตามใจอยากพวก ญาติที่ไม่รู้จัก ก็พากันมาเยี่ยมที่บ้านโดยไม่ได้นัดหมาย มีหลายคนที่เผือกไม่เคยเห็นหน้ามาตลอดชีวิตก็เข้ามากอดอย่างรักใคร่ แน่นอนว่าทุกคนที่มาไม่ได้หวังแค่จะมาเยี่ยมแต่หวังที่จะมาเอาส่วนแบ่งไปด้วย เห็นท่าจะไม่ได้การแล้วทุกคนในบ้านจึงจัดการวางแผน อพยพ ไปในที่ที่ห่างไกลและคิดว่าจะไม่มีใครตามมาเจอนั่นคือกรุงเทพฯ

บ้านนอกเข้ากรุงก็งานนี้แหละทั้งห้าคนตื่นเต้นราวกับเพิ่งได้มาเห็นเมืองที่มีตึกสูงและรถไฟฟ้าครั้งแรกชีวิตเริ่มต้นด้วยการหาบ้านสักหลังเป็นที่พำนักอาศัย ในที่สุดเผือกได้บ้านสุดหรูในหมู่บ้านไฮโซฯ มาพักอาศัย บ้านที่ใหญ่กว่ากระต๊อบหลังเดิมไม่รู้กี่เท่า ทองมีกับรำจวญดี๊ด๊าจะได้เป็นไฮโซพากันแย่งขอเงินลูกชายไปประเดิมใช้ในกรุงเทพเมื่อเผือกขัดก็ถูกต่อว่า สุดท้ายเลยต้องให้ไปตามระเบียบ ที่ข้างบ้านของเผือกนั้นเป็นบ้านของ คุณหญิงสายสมร (ปภัสรา เตชะไพบูลย์) ที่ค่อนข้างเย่อหยิ่งและเก็บตัวไม่สุงสิงกับผู้ใด ด้วยความที่คนในครอบครัวของเผือกมาจากบ้านนอก จึงพากันส่งเสียงโวยวายลั่น จนคุณหญิงสายสมรไม่พอใจส่ง จิ้งหรีด (พรชดา เครือคช) สาวใช้ที่เพิ่งเข้ามาทำงานใหม่ไปต่อว่าและเมื่อเธอได้พบกับเผือกนั้นก็นึกว่าเผือกเป็นคนใช้ของบ้าน จึงได้ต่อว่าอย่างรุนแรงและดูถูกต่างๆ นานา จิ้งหรีดทำเชิดบอกว่าตัวเองเป็นลูกสาวเจ้าของบ้านเพื่อข่มเผือก เผือกเองก็ใช่คนที่ยอมคนซะเมื่อไหร่เขาจึงตอกกลับ สงครามน้ำลายข้ามรั้วจึงกำเนิดขึ้น ผึ้งเองได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดัง ด้วยความที่เป็นเด็กบ้านนอก จึงตามความทันสมัยของเพื่อนๆไม่ทัน แต่ด้วยความที่ผึ้งเป็นคนสวยทำให้มีหนุ่มๆมาติดมากมาย หนึ่งในนั้นคือ นับหนึ่ง รุ่นพี่ที่คณะสุดป๊อบ ยิ่งพอรู้ว่าผึ้งเป็นเศรษฐีมือใหม่ยิ่งทำให้เขาสนใจในเงินของผึ้งมากขึ้น นั่นทำให้ รดา (ภูษณิศา โชติกิตติมาศ) หญิงสาวสุดเริ่ดของคณะที่หมายตานับหนึ่งไว้เช่นกันไม่พอใจ หาเรื่องกลั่นแกล้งเธอตลอดเวลา ดีที่มี เฉิ่ม (นคินธร ภาษยวรรณ์) ชายหนุ่มหน้าซื่อคอยช่วยเหลือผึ้งตลอดแต่เพราะความศิวิไลซ์และความหลงในรูป รส กลิ่น เสียง ของเมืองหลวง ทำให้ผึ้งเริ่มจะมองคนที่เปลือกนอกและวัตถุแพงๆ แล้ว โดยลืมที่จะคบคนที่จิตใจเหมือนตอนที่อยู่บ้านนอก ความบ้านนอกของบ้านเผือกนั้นทำเอาคุณหญิงสายสมรแทบคลั่ง

ทั้งเสียงคาราโอเกะเพลงอีสาน กลิ่นน้ำต้มปลาร้าที่ลอยโชยข้ามรั้วเข้ามา หรือเสียงด่าทอหยาบๆ คายๆ ของทองมีกับรำจวญยามทะเลาะกัน ในที่สุดคุณหญิงสายสมรก็หมดความอดทน ตัดสินใจจะไปพักผ่อนที่นิวยอร์กกับญาติที่นั่น โดยชวน ต้นหอม (บุศรินทร์ วงศ์ลีลนนท์) ลูกสาวคนเดียวไปด้วยแต่ต้นหอมปฏิเสธ เธอยังอยากอยู่ดูแลกิจการโรงแรมของคุณหญิงสายสมรต่อ คุณหญิงสายสมรไม่อยากขัดใจจึงยอมให้ลูกสาวอยู่ดูแลบ้านและโรงแรมทางนี้ ส่วนตัวเองบินไปเที่ยวเพื่อหลีกหนีความ บ้านนอก ของคนข้างบ้าน วันหนึ่ง ยายดวงออกมาเดินเล่นที่หน้าบ้าน ได้มาเจอกับ ยายอิ่ม (ปนัดดา โกมารทัต) ที่กลับมาจากตลาดพอดี ทั้งสองเจอกันก็จำกันได้ว่าเป็นคนบ้านเดียวกัน ต่างไถ่ถามสารทุกข์สุขดิบจนได้รู้ว่าแท้ที่จริงแล้วทั้งคู่ไม่ใช่คนอื่นคนไกลเลย ยายอิ่ม เป็นหัวหน้าแม่บ้านอยู่บ้านของคุณหญิงสายสมรที่อยู่ริมรั้วบ้านของยายดวงนั่นเอง ทั้งคู่ดีใจที่ได้เจอเพื่อนเก่า ยายอิ่มเองก็อดตื่นเต้นไม่ได้ที่รู้ว่ายายดวงเพิ่งเป็นเศรษฐีใหม่ ของเมืองไทย เรื่องราวอันน่าตื่นเต้นที่ถูกนำไปเล่าในบ้านของคุณหญิงสายสมร จิ้งหรีดได้ยินดังนั้นก็ตาโต เมื่อรู้ว่าคนที่เธอใช้หางตามองและด่าทอกันจนแทบจะฆ่ากันตายนั้นเป็นเจ้าของคฤหาสน์หลังงาม และรวยมีเงินเป็นร้อยล้าน ตายละวา ไหงเรื่องกลับตาลปัตร แล้วถ้าไอ้หมอนั่นมารู้ว่าแท้ที่จริงแล้วเธอเป็นแค่คนใช้ ไม่ใช่ลูกสาวบ้านนี้จริงๆ จะทำอย่างไร มีหวังได้ซุกแผ่นดินหนีแน่ๆ เผือกเริ่มรู้สึกว่าผึ้งเปลี่ยนไป หญิงสาวเริ่มแข็งกร้าวขึ้น ใช้เงินเก่งเตือนอะไรก็เถียง ไม่เชื่อฟังแบบตอนอยู่ที่บ้านนอก เขาเริ่มเป็นห่วงน้องสาวกลัวว่าจะหลงแสงสีไปตามคนเมืองจึงตามไปดูที่มหาวิทยาลัย ก็พบว่าผึ้งกำลังจู๋จี๋กับนับหนึ่งจนออกหน้าออกตา ชายหนุ่มเข้าไปห้ามแต่ผึ้งแกล้งทำเป็นไม่รู้จักพี่ชายของตัวเองเพราะเผือกแต่งตัวบ้านนอกเหมือนตอนอยู่ต่างจังหวัด เธออายเพื่อนไม่อยากให้ใครรู้ว่ามีพี่ชายที่มีสภาพเป็นแบบนี้ ทั้งเรื่องพ่อเรื่องแม่ และเรื่องน้องสาวทำเอาเผือกกลุ้มใจไม่น้อย ชายหนุ่มตัดสินใจไปทำบุญที่วัดเพื่อให้จิตใจดีขึ้น

ที่นั่นเองเขาได้พบกับต้นหอมที่มาเลี้ยงข้าวกลางวันเด็กกำพร้าที่มูลนิธิใกล้ๆวัด เธอสวยและจิตใจดีจนเผือกอดที่จะแอบมองไม่ได้ เหมือนฟ้าเป็นใจเมื่อรถของต้นหอมเสียเผือกจึงอาสาไปส่ง ทั้งคู่คุยกันถูกคอที่สำคัญต้นหอมไม่มีทีท่ารังเกียจชายหนุ่มเลยแม้แต่น้อยนั่นทำให้เผือกยิ่งประทับใจในตัวต้นหอมมาก แล้วเรื่องเซอร์ไพร์สก็เกิดขึ้น เมื่อต้นหอมคือเพื่อนบ้านของเผือกนั่นเอง โลกช่างกลมเสียจริง เผือกแอบชอบต้นหอมมาก แต่ก็รู้ตัวเองว่าเขาช่างเชยและบ้านนอกขนาดนี้ จึงตัดสินใจจ้าง เจ๊ลิลลี่ (ภัทรานิษฐ์ คำกำพุด) มือโปรมาเนรมิตตัวเขาเองให้เป็นคุณชายเหมาะสมกับต้นหอม จากชายหนุ่มบ้านนอกคอกนากลายเป็นคุณชายสุดหล่อ จนจิ้งหรีดถึงกับตกตะลึงชอบชายหนุ่มขึ้นมาซะอย่างนั้น ด้วยหวังว่าจะได้ถีบตัวเองหลุดจากอาชีพคนใช้อันต่ำต้อยเสียทีหากได้เผือกเป็นแฟน แต่หญิงสาวยังกังวลใจไม่หายว่าถ้าเผือกรู้ว่าตัวเธอเป็นแค่คนใช้เขาไม่มีวันชอบเธอแน่ๆ จึงไปสารภาพความจริงกับต้นหอม ต้นหอมนึกสนุกเลยตกลงจะอุปโลกน์ให้จิ้งหรีดเป็นน้องสาวไฮโซของตัวเองเพื่อเป็นแม่สื่อแม่ชักให้กับ สาวใช้ เธอเชื่อว่าคนเราจะรักกันต้องเดินข้ามเรื่องชาติกำเนิดและเงินทองโดยต้นหอมไม่เคยรู้เลยว่าเผือกนั้นแอบชอบต้นหอมไม่ใช่ชอบจิ้งหรีด ที่สำคัญจิ้งหรีดเองชอบที่ เงิน ของชายหนุ่มมากกว่าจิตใจ เผือกที่หลงรักต้นหอมมาก แต่ไม่รู้จะเข้าใกล้หญิงสาวได้อย่างไร จึงหวังที่จะเข้าใกล้ต้นหอมด้วยการมาทำดีกับจิ้งหรีด ที่เขาคิดว่าเป็นน้องสาวของต้นหอม เพราะความดีของเผือกทำเอาจิ้งหรีดยิ่งชอบเขามากขึ้นโดยไม่รู้เลยว่าเผือกมาทำดีนั้นเพราะอยากจีบต้นหอมมากกว่า วันหนึ่งเป็นวันเกิดของเผือก เขาจึงจัดงานเล็กๆ ขึ้นที่บ้าน โดยการชวนต้นหอมและจิ้งหรีดมาร่วมงานด้วย แม้เผือกจะพยายามจัดงานให้หรูเลิศตามที่เจ๊ลิลลี่สั่งแล้วก็ตาม แต่พ่อแม่และยายของเขากลับทำให้งานเสียด้วยการตั้งโต๊ะตำส้มตำ ทำลาบ จกปลาร้ากันต่อหน้าต้นหอมและจิ้งหรีด ยายดวงบอกให้เผือกลองตำระเบิดโชว์ และสาธยายถึงความโด่งดังของส้มตำสูตรนี้ให้ต้นหอมกับจิ้งหรีดฟัง ทำให้ทั้งคู่อยากลองชิมมาก สุดท้ายเผือกก็ตัดสินใจถอดสูทหันมาควงสากโชว์ส้มตำระเบิดให้ทั้งสองกิน ต้นหอมติดใจในรสชาติมากถึงกับอยากให้เผือกช่วยทำส้มตำระเบิดนี้ไปรับแขกชาวต่างชาติที่โรงแรม เผือกตอบตกลงเพราะอยากทำคะแนนให้ต้นหอมรัก ชื่อเสียงของเผือกดังกระฉ่อนทันทีที่ได้ออกงานแรก หลายต่อหลายคนออร์เดอร์มาเป็นร้อยๆ ครกเพื่อนำไปจัดเลี้ยงสร้างชื่อให้โรงแรมของต้นหอม ต้นหอมจึงทาบทามให้เผือกมาทำงานที่โรงแรมเพื่อเป็นหัวหน้าเชฟในการตำส้มตำโดยเฉพาะ เผือกตอบตกลงมาทำงานที่โรงแรมเพื่อจะได้ใกล้ชิดต้นหอม โดยจิ้งหรีดก็มาด้วยตามแผนของต้นหอม

วันหนึ่งเผือกจะไปสารภาพรักต้นหอม แต่กลับพบว่าหญิงสาวมีแฟนเป็นนักธุรกิจชื่อดังอยู่แล้ว เผือกเสียใจมากอยากจะลาออกจากงาน แต่จิ้งหรีดห้ามไว้และให้กำลังใจชายหนุ่ม แม้จะรู้สึกเสียใจบ้างที่รู้ว่าเผือกไม่เคยมีใจให้เธอเลยแต่กลับมีใจให้กับต้นหอมผู้เป็นนายแทน จากที่เคยคิดว่าจะชอบเขาเพียงเพราะเงิน จิ้งหรีดกลับตกหลุมรักในความดีงามในจิตใจของชายหนุ่มเข้าให้แล้ว ความใกล้ชิดของจิ้งหรีดกับเผือกเริ่มรู้ใจกันมากขึ้น ชายหนุ่มเริ่มเห็นด้านดีของหญิงสาว ความใสซื่อและดวงตาที่ดูเหมือนมีความนัยคู่นั้นทำให้เผือกอดรู้สึกแปลกๆด้วยไม่ได้ทั้งๆ ที่ในใจกลับตะโกนบอกว่าคนที่เขาต้องการนั้นคือต้นหอมคนเดียว แต่เพราะความดีของจิ้งหรีดทำให้เผือกปฏิเสธตัวเองไม่ได้ว่ารักหญิงสาวเข้าให้แล้วเช่นกันนั่นทำให้จิ้งหรีดเริ่มรู้สึกผิดและกลัว กลัวว่าถ้าเผือกรู้ว่าตัวเองเป็นแค่คนใช้เขาจะรับไม่ได้ ที่สำคัญเผือกจะต้องโกรธมากที่รู้ว่าเธอหลอกลวงเขามาตลอดว่าเป็นคุณหนู ตำระเบิดของเผือกนั้นโด่งดังไปจนทั่วสารทิศ วันๆ หนึ่งเขาต้องตำส้มตำระเบิดไม่น้อยกว่าสามร้อยครก ทำให้ต้นหอมเริ่มตัดสินใจสั่งซื้อมะละกอจากสวนย่านชานเมืองมาและนั่นทำให้จิ้งหรีดได้เจอกับ นวล (กัญญกร พินิจ) แม่ค้าขายส่งมะละกอพันธุ์ดี ซึ่งมีศักดิ์เป็นแม่เลี้ยงของจิ้งหรีดอีกด้วย จิ้งหรีดพยายามหลบหน้าหลบตานวลเพราะกลัวนวลจะรู้ว่าเธอมาเป็นคนใช้อันต่ำต้อย ที่สำคัญเธอกลัวว่านวลจะเปิดโปงความลับว่าตัวของจิ้งหรีดเองนั้นไม่ได้เป็นคนในครอบครัวของคุณหญิงสายสมรเจ้าของโรงแรมแต่อย่างใด

เมื่อหลายปีก่อนจิ้งหรีดใช้ชีวิตเป็นสาวชาวสวนมะละกออยู่อย่างมีความสุข แม้ทางครอบครัวจะไม่ได้ร่ำรวยมาก แต่ก็พอมีพอกิน คม พ่อของจิ้งหรีดเป็นคนรักครอบครัวมาก เขาไม่เคยนอกใจ วรรณ (ปิยะดา เพ็ญจินดา ) เมียสุดที่รักเลยแต่แล้วเรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อวรรณประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตคมเสียใจมาก ดื่มเหล้าเมายาไม่ยอมทำสวนมะละกอต่อ ภาระหนักจึงตกมาอยู่ที่จิ้งหรีดที่ต้องดูแลทุกอย่างเอง วันหนึ่งคมได้พานวลกลับมาจากคลับในเมืองนั่นทำให้จิ้งหรีดไม่พอใจที่พ่อของตัวเองกำลังจะมีเมียใหม่ทั้งคู่มีปากเสียงกันแต่สุดท้ายจิ้งหรีดก็ต้องยอมให้พ่อพานวลเข้ามาอยู่ในไร่ ในฐานะเมียใหม่ของพ่อแรกๆ นั้น นวลก็ทำดีกับจิ้งหรีดเพื่อให้เธอตายใจแต่สุดท้ายความชั่วร้ายก็ออกลาย นวลพยายามจะเอาทุกอย่างของคมไปเป็นเจ้าของโดยใช้มารยาหญิงหลอกให้คมเซ็นโอนไร่มะละกอทั้งหมดให้กับเธอ จิ้งหรีดไม่พอใจมากไปต่อว่าพ่อ แต่ก็โดนตบกลับมา ทำให้หญิงสาวน้อยใจว่าพ่อไม่ใช่พ่อคนเดิมที่เธอเคยรู้จัก มิหนำซ้ำจิ้งหรีดยังไปรู้ความลับมาว่านวลนั้นแอบมีความสัมพันธ์ลับๆ กับคนงานในสวน เธอจะไปฟ้องพ่อแต่นวลรู้ตัวเสียก่อนทั้งคู่ตบตีกันแต่นวลสร้างภาพว่าถูกจิ้งหรีดรังแกก่อน พ่อลูกจึงไม่มองหน้ากันอีกนับตั้งแต่วันนั้น วันหนึ่งข่าวร้ายก็มาเยือนจิ้งหรีดเมื่อได้รู้ว่าผู้เป็นพ่อขับรถตกเหวเสียชีวิตเหมือนเสาหลักในชีวิตของจิ้งหรีดล้มไปเสียแล้ว หญิงสาวถูกนวลไล่ออกจากบ้านเพราะเธอไม่มีสิทธิ์อะไรในสมบัติของพ่อเลย จิ้งหรีดไม่มีที่ไปจึงเสี่ยงโชคชะตามาในเมืองหลวง หวังว่าจะมาหางานทำเพื่อประทังชีวิต แต่ทุกอย่างไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ หญิงสาวถูกหลอกไปขายตัวในซ่องแต่ก็เอาตัวรอดหนีออกมาได้เคราะห์ซ้ำกรรมซัดดันไปถูกรถของต้นหอมชนเข้าดีที่จิ้งหรีดไม่เป็นอะไรมากต้นหอมจึงรับจิ้งหรีดเข้ามาทำงานในบ้านด้วยความสงสาร หลังจากนั้นชีวิตของเธอก็ถูกเรียกว่า คนรับใช้ ตลอดมา

นวลเหมือนว่าจะเห็นจิ้งหรีดแวบๆ จึงตามไปสุดท้ายจึงรู้ว่าจิ้งหรีดอยู่ที่โรงแรมแห่งนี้และยิ่งแปลกใจเมื่อเผือกแนะนำว่าจิ้งหรีดคือน้องสาวของต้นหอมเจ้าของโรงแรมแห่งนี้ นวลแอบหมายตาเผือกไว้คิดจะเปิดโปงความจริงว่าจิ้งหรีดไม่ใช่คนในครอบครัวของต้นหอม แต่ต้นหอมรู้ทันเสียก่อน จึงยื่นข้อเสนอว่าถ้าปิดเรื่องนี้เป็นความลับ เธอจะเป็นลูกค้ามะละกอของนวลตลอดไป และจะติดต่อโรงแรมของเพื่อนๆ ที่รู้จักให้ด้วย นวลตกลงแต่ยังไม่เลิกหมายตาเผือก เพราะถูกตาต้องใจเหลือเกินความลับเรื่องของจิ้งหรีดดำเนินต่อไป พร้อมกับความรักของคนทั้งคู่ ช่วงนี้ยายดวงเจ็บออดๆ แอดๆ เผือกให้ไปตรวจร่างกายก็ไม่ยอมไป ตัวเขาเองก็ยุ่งอยู่ที่โรงแรม ผึ้งเองก็กลับบ้านดึกๆ ดื่นๆ อ้างว่าติดกิจกรรมของทางมหาวิทยาลัย ส่วนรำจวญกับทองมีไม่ต้องพูดถึง วันๆ มุดหัวอยู่แต่ในบ่อนถ้าเงินไม่หมดไม่กลับมาบ้าน บ่อยครั้งที่ยายดวงต้องอยู่บ้านเพียงลำพัง หญิงชราเริ่มไม่ชอบความมั่งมีที่ได้มาเสียแล้วหากการมีเงินแล้วต้องเหงาแบบนี้ เธอขอกลับไปจนแล้วอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันอย่างเดิมเสียดีกว่า หลังจากได้ติดต่อกับเผือกที่โรงแรมบ่อยครั้ง นวลเริ่มสืบเสาะหาที่อยู่ของเผือก เธอมักเอาของกำนัลมาฝากเผือกอยู่บ่อย ๆ ซึ่งทำให้จิ้งหรีดไม่พอใจเป็นอย่างมาก ทั้งคู่มีปากเสียงกันทุกครั้งที่ได้เจอหน้าจนเผือกเริ่มจะสงสัยว่าทั้งคู่ว่าน่าจะเคยรู้จักกันมาก่อน แต่จิ้งหรีดก็ยังปิดบังความลับเรื่องระหว่างเธอกับนวลไว้ วันหนึ่งมีแก๊งมาเฟียโทรมาหาเผือกบอกให้เอาเงินสิบล้านไปไถ่ตัวทองมีกับรำจวญที่ไปเสียไฮโลที่ชายแดน ชายหนุ่มจำเป็นต้องเบิกเงินที่ร่อยหรอไปช่วยพ่อและแม่ เขาเริ่มจะเครียดแล้วเพราะเงินที่ได้จากการถูกล็อตเตอรี่ครั้งนั้นใกล้หมดลงทุกทีเนื่องจากคนในบ้านต่างใช้เงินราวกับเป็นเศษกระดาษ

เรื่องราวระหว่างนวลกับจิ้งหรีดเริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้น ทั้งสองมีปากเสียงกันในขณะที่เผือกแอบฟังอยู่ จึงได้รู้ว่าแท้ที่จริงแล้วนวลเป็นแม่เลี้ยงของจิ้งหรีดนั่นเอง นั่นทำให้ชายหนุ่มงงว่าในเมื่อจิ้งหรีดเป็นน้องสาวของต้นหอมแล้วทำไมมีแม่เลี้ยงเป็นนวล หรือสามีของคุณหญิงสายสมรจะไปแต่งงานใหม่ และแล้วความลับทั้งหมดก็ถูกเปิดเผยเมื่อคุณหญิงสายสมรกลับมาเมืองไทย แล้วเห็นนวลกับจิ้งหรีดกำลังทะเลาะกันอยู่หน้าบ้านจึงเข้าไปต่อว่าความลับที่ว่าจิ้งหรีดไม่ใช่ลูกสาวคุณหญิงสายสมรและมีหน้าที่เป็นเพียงคนรับใช้จึงถูกเปิดโปงขึ้นนั่นทำให้เผือกโกรธหญิงสาวมากไม่ยอมพูดด้วยเพราะเขาเกลียดการโกหกที่สุด ส่วนจิ้งหรีดเองกลับคิดว่าที่เผือกโกรธเธอนั้นเพราะรู้ว่าเธอเป็นแค่คนรับใช้ ไม่ได้ร่ำรวยเหมือนที่ได้สร้างภาพมา เผือกอาจไม่ได้รักเธอเพราะจิตใจแต่เป็นเพราะที่ความหรูหราและความมีเกียรติมากกว่า ผึ้งขออนุญาตไปเที่ยวทะเลกับเพื่อนๆ ที่คณะ ซึ่งรดากับเพื่อนๆ วางแผนไว้แล้วว่าจะทำให้ผึ้งเสียคนก็คราวนี้ ด้วยการวางแผนให้ผู้ชายในคณะจัดการพาผึ้งไปรุมโทรม เฉิ่มรู้เรื่องเข้าก็ไปเตือนผึ้งแต่ถูกผึ้งตอกหน้ากลับมาว่าไม่หวังดี เฉิ่มเองอดเป็นห่วงผึ้งไม่ได้จึงลงทะเบียนไปเที่ยวในครั้งนี้ด้วยแล้วก็เป็นจริงดังที่เขาได้ยินมาเมื่อผึ้งจะถูกผู้ชายสามคนจะพาไปข่มขืน แม้นับหนึ่งเองจะอยู่บริเวณนั้นแต่กลับหนีเอาตัวรอด เฉิ่มแสดงความรักด้วยการสู้สุดชีวิตจนตัวเองสะบักสะบอม ในที่สุดตำรวจก็มาจับคนร้ายได้แล้วซักทอดไปถึงรดา ทำให้รดาถูกตำรวจจับไปด้วย ข่าวออกทีวีครึกโครมในขณะที่เผือกกับยายดวงกำลังนั่งดูอยู่ ทั้งคู่ตกใจมากโดยเฉพาะยายดวงถึงขั้นเป็นลมหมดสติไป เผือกรีบนำตัวยายดวงส่งโรงพยาบาล หมอบอกว่ายายดวงเป็นโรคหัวใจตีบต้องรีบผ่าตัดด่วน เผือกจึงยอมให้หมอผ่าตัดยายดวง ผึ้งเองรู้เรื่องก็ให้เฉิ่มรีบพากลับมา เช่นเดียวกับทองมีและรำจวญที่ยอมทิ้งไพ่มาดูใจแม่ หมอบอกให้ทำใจไว้เพราะโอกาสรอดมีแค่ 50 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ที่สำคัญค่าใช้จ่ายสูงมาก เงินที่เผือกเหลือเก็บตอนนี้มีไม่พอ ท้ายสุดแล้วชายหนุ่มตัดสินใจเอาบ้านไปจำนองไว้กับธนาคารเพื่อนำเงินก้อนสุดท้ายมารักษาผู้เป็นยาย ทั้งหมดเพิ่งเข้าใจว่าไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าคนในครอบครัวอีกแล้ว...

เมื่อผ่านเรื่องราวของ คนมีเงิน มามากมายทำให้ทุกคนรู้ว่าชีวิตมันไม่ได้สวยงามอย่างที่คิดเอาเสียเลย แม้จะชอบความหรูหราของคนมีเงิน แต่พวกเขากลับรักที่จะอยู่กันอย่างอบอุ่นแบบเดิมมากกว่า ผึ้งได้เรียนรู้ว่าชีวิตที่ฟุ้งเฟ้อฟู่ฟ่าของสังคมเมืองหลวงนั้นไม่ได้ดีไปเสียทุกอย่าง การมองคนเพียงแค่หน้าตากลับทำให้เธอเกือบเอาชีวิตไม่รอด มองคนต้องมองที่จิตใจเหมือนที่เธอเคยเรียนรู้มาก่อนที่จะย้ายมาอยู่ที่กรุงเทพ ทองมีกับรำจวญที่ก่อหนี้ก่อสินไว้มากมายก็เริ่มสำนึก เผือกเอาเงินที่เหลือไปใช้หนี้ให้พ่อกับแม่ทั้งหมด ทั้งสองขอโทษลูกชายที่ทำตัวไม่ดีมาตลอด และสัญญาว่าจะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้น ยายดวงปลอดภัย แต่ยังต้องกินยารักษาตัวอีกเดือนละหลายแสนบาท เผือกตัดสินใจขายบ้าน รถ และทรัพย์สินทุกอย่างเพื่อเก็บเงินไว้ใช้ยามจำเป็น ทั้งห้าตกลงกันแล้วว่าชีวิตในเมืองหลวงช่างไม่เหมาะกับคนบ้านนอกอย่างพวกเขาจึงจะกลับไปตั้งต้นชีวิตใหม่ที่บ้านนอกที่เคยจากมา แม้ที่บ้านนอกจะไม่หรูหราไม่ศิวิไลซ์เหมือนในเมืองหลวง แต่ที่นั่นทำให้เขาได้รู้สึกถึงคำว่า ครอบครัว อย่างเต็มที่ ผึ้งไปกล่าวลาเฉิ่มว่าอาจไม่เจอกันอีกแล้วชาตินี้เพราะเธอจะกลับไปเรียนต่อที่บ้านนอก เฉิ่มเองก็เสียใจแต่ก็ยอมให้หญิงสาวไป เพราะเคารพการตัดสินใจของผึ้ง จิ้งหรีดรู้ข่าวจากยายดวงว่ากำลังจะย้ายกลับบ้านนอกกันทั้งครอบครัวก็ใจหาย ใจหนึ่งก็อยากจะขอโทษเผือก แต่อีกใจมันก็มีอคติ เลยทำปากแข็งว่าไม่รู้สึกอะไรกับการจากไปของชายหนุ่มเช่นเดียวกับเผือกเอง เขาก็อยากบอกลาจิ้งหรีดเป็นครั้งสุดท้าย แต่เห็นว่าหญิงสาวทำเฉยชา จึงตัดสินใจจากไปโดยไม่มีการปรับความเข้าใจกัน ทั้งหมดกลับมาตั้งหลักที่บ้าน เผือกเจียดเงินมาทำร้านอาหารอีสานเล็กๆ ทำมาหากินเพื่อประทังชีวิตโดยมีรำจวญคอยช่วยลูกชาย ส่วนผึ้งได้โอนหน่วยกิตมาเรียนต่อราชภัฏในตัวเมือง ทางด้านทองมีก็ทำสวนทำไร่เล็กๆ น้อยๆ และมีหน้าที่คอยดูแลยายดวงในฐานะลูกเขยที่ดีที่เขาไม่เคยได้ทำมาเลยตลอดชีวิต

วันหนึ่งผึ้งไปเจอกับ เฉิ่ม (นคินธร ภาษยวรรณ์) โดยบังเอิญ โชคชะตาเหมือนเป็นใจเพราะเฉิ่มกลับมาเยี่ยมบ้าน ซึ่งอยู่จังหวัดเดียวกันกับผึ้ง บ้านของเฉิ่มนั้นเป็นร้านค้าส่งปุ๋ยและค้าข้าวรายใหญ่ของจังหวัด ชายหนุ่มไม่ได้จนอย่างที่ผึ้งคิดไว้เลย เพียงแต่เฉิ่มเป็นคนไม่ฟุ้งเฟ้อ ไม่เคยหลงไปกับเงินทองมากมาย นั่นทำให้ผึ้งละอายใจมาก แต่เฉิ่มก็ให้อภัยทั้งคู่ตัดสินใจคบกันโดยให้พ่อแม่ของแต่ละฝ่ายมาผูกมิตรกันไว้ แม่ของเฉิ่มนั้นเป็นลูกค้าประจำร้านตำระเบิดของเผือกมานานก็ปลื้มใจ ไม่ได้รังเกียจในความจนของครอบครัวของผึ้งแต่กลับชื่นชมในความขยันขันแข็งซะอีก จึงขอหมั้นหมายผึ้งให้เฉิ่มไว้ ถ้าทั้งคู่เรียนจบจะให้แต่งงานกัน ทางด้านเผือกเองแม้จะทำใจให้ลืมจิ้งหรีด แต่เขาก็ทำไม่ได้ เช่นเดียวกับจิ้งหรีดที่ยังคงเหม่อลอยคิดถึงเผือกเสมอ หญิงสาวรู้ตัวแล้วว่าผิดและไม่ควรถือตัวทำปากแข็งไม่ยอมขอโทษชายหนุ่มแต่กว่าจะคิดได้ก็สายไปเสียแล้ว เธอไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน ยายอิ่มรู้ทันทีจึงเอาที่อยู่บ้านของยายดวงให้จิ้งหรีด เธอขอไว้ก่อนที่ยายดวงจะกลับไปบ้านนอก เผื่อมีเวลาจะได้ไปเยี่ยมเยียน จิ้งหรีดตัดสินใจขึ้นรถไปหาเผือกทันที หญิงสาวได้เจอเผือกที่ร้านตำระเบิดทั้งคู่ต่างปรับความเข้าใจกัน และสารภาพความในใจของกันและกันทั้งหมด จิ้งหรีดอาสาจะอยู่ที่นี่ช่วยเผือกดูแลร้าน เผือกบอกกับเธอว่าเขาไม่ได้มั่งมีเหมือนเมื่อก่อน ถ้าจิ้งหรีดอยู่ด้วยจะลำบากแต่จิ้งหรีดไม่กลัว เธอพร้อมที่จะอยู่เคียงข้างชายหนุ่มคนที่เป็นเจ้าของหัวใจเธอตลอดไปต่อให้รวยล้นฟ้าแค่ไหน ถ้าไม่มีความสุขเธอก็ไม่เอา ขอแค่มีความรักและความอบอุ่นเท่านั้นก็ พอเพียงแล้วสำหรับชีวิตนี้