ละคร คนดีที่โลกรอ...หมอโฮจุน
ดู 3,083 ครั้ง /
แชร์
ละครออกอากาศ | วันเสาร์ วันอาทิตย์ | ||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ช่องที่ออกอากาศ | ละครช่อง 3 | ||||||||||||
นำแสดงโดย | |||||||||||||
|
ภาพนิ่งจากละคร
เรื่องย่อ คนดีที่โลกรอ...หมอโฮจุน
โฮจุน เป็นบุตรของเจ้าเมืองยองชอน แต่แม้ว่าโฮจุนจะเกิดมามีบิดาอยู่ในฐานะสูง โฮจุนกลับมีมารดาอยู่ในฐานะไพร่ จึงทำให้เขามีฐานะที่ต่ำต้อยไม่ต่างจากมารดา เขาต้องอดทนกับการปฏิบัติที่ถูกดูถูกเหยียดหยาม และการกีดกันชั้นวรรณะ จากความกดดันนี้เองทำให้เค้าปฏิบัติตัวเป็นนักเลงหัวไม้ ชอบต่อยตี เรื่อยไปจนกระทั่งถึงการค้าของเถื่อน และในช่วงเวลานี้เองที่โฮจุนได้พบกับ แดฮี หญิงสาวนางหนึ่งที่กำลังถูกตามจับกุมตัว เพราะพ่อของเธอถูกกล่าวหาว่าเป็นกบฏและตายในระหว่างหลบหนี ด้วยความสงสารโฮจุนจึงช่วยจัดงานศพให้แก่พ่อของนาง หลังจากนั้นไม่นานธุรกิจค้าของเถื่อนของโฮจุนก็ถูกทหารจับได้ แต่โฮจุนก็ได้รับความช่วยเหลือจากพ่อ ผู้ที่ไม่เคยไยดีและสนใจอะไรในตัวของโฮจุนเลย พ่อได้ช่วยให้โฮจุน, แดฮี และมารดาเดินทางออกจากเมืองเพื่อหลบหนีทหารไปที่เมืองซันยอง ในระหว่างการเดินทางนี้เองพ่อของแดฮีได้พ้นผิดจากการถูกกล่าวหาว่าเป็นกบฏ ทำให้นางได้รับฐานะคืน
ด้วยความแตกต่างของฐานะของทั้งสอง โฮจุนจึงตัดสินใจเดินทางต่อไปกับแม่เพียง 2 คน เมื่อถึงเมืองซันยองแม่ของโฮจุนล้มป่วยลง จากเหตุการณ์นี้เองทำให้โฮจุนได้พบกับ ยูอึยเท หมอเทวดาชื่อดังแห่งเมืองซันยอง โฮจุนเกิดความเลื่อมใสในตัวหมอจึงขอฝากตัวเองเป็นศิษย์ ระหว่างที่ศึกษาวิชาการแพทย์อยู่นี้โฮจุนได้ถูกคนงานภายในบ้านกลั่นแกล้งอยู่ตลอดเวลา เขาต้องใช้ความอดทนอดกลั้นอยู่ตลอดเวลา แต่ด้วยความขยันและความฉลาดของโฮจุน จึงทำให้เค้าสามารถเรียนรู้วิชาแพทย์ได้อย่างรวดเร็ว ในระหว่างนี้เองความสามารถของโฮจุนได้ดึงดูดความสนใจของ เยจิน บุตรสาวบุญธรรมของยูอึยเท โดยนางจะคอยให้ความช่วยเหลือและให้คำแนะนำแก่โฮจุนอยู่เสมอ ซึ่งสร้างความอิจฉาให้แก่ โดจิ บุตรชายคนเดียวของยูอึยเท ที่แอบหลงรักเยจินอยู่ ส่วนแดฮีหลังจากจัดการเรื่องคดีและย้ายศพพ่อเรียบร้อยแล้ว ก็มาที่เมืองซันยองเพื่อตามหาโฮจุน
เมื่อแม่ของโฮจุนรู้เข้าจึงกีดกัน เพราะคิดว่าความต่างของฐานะจะนำภัยมาสู้ตนเองและโฮจุน จึงทำให้แดฮีตัดสินใจจะกลับบ้านตนเอง แต่ทันทีที่โฮจุนรู้เข้าก็รีบมาตามหาและตัดสินใจแต่งงานกัน หลังจากศึกษาวิชาแพทย์ไปได้ระยะหนึ่งโฮจุนก็ได้มีโอกาสเข้าไปรักษาอาการป่วยของภรรยาของเสนาบดีฝ่ายขวาที่หมอหลายคนไม่สามารถรักษาได้ แต่โฮจุนกลับรักษาได้สำเร็จเขาจึงได้รับของตอบแทนมากมาย รวมถึงจดหมายแนะนำตัวโฮจุนต่อสำนักหมอหลวง แต่หมอยูอึยเทกลับไม่เห็นด้วยจึงเผาจดหมายนั้นทิ้ง และไล่โฮจุนออกจากสถานพยาบาล เมื่อจดหมายที่เป็นใบเบิกทางความเป็นหมอถูกเผา ประกอบกับเห็นแดฮีภรรยาผู้เป็นที่รักต้องทำงานหนักเพียงเพื่อให้โฮจุนได้เป็นหมออย่างที่ฝัน ก็ยิ่งทำให้โฮจุนตัดสินใจล้มเลิกความคิดที่จะเป็นหมอและไปทำงานอยู่ในเหมืองแทน นึกไม่ถึงว่าเหมืองกลับถล่มลงมาทำให้โฮจุนต้องไปรักษาผู้บาดเจ็บ แดฮีมาเห็นเข้าจึงขอร้องให้โฮจุนกลับไปเป็นหมอดังเดิม
โฮจุนขอร้องยูอึยเทให้ตนกลับไปทำงานที่สถานพยาบาลอีกครั้ง และหลังจากนั้นไม่นานโฮจุนก็ตัดสินใจไปเมืองฮันหยางเพื่อสอบคัดเลือกหมอหลวง โฮจุนและหมอคนอื่นๆ รวมถึงโดจิเดินทางไปยังเมืองฮันหยางเพื่อสอบเป็นหมอหลวง แต่ในระหว่างทางมีผู้ป่วยมาขอความช่วยเหลือ โดยหมอทั้งหมดต่างก็อ้างว่ามีสอบหมอหลวง โฮจุนทนไม่ได้จึงตัดสินใจอยู่ตรวจผู้ป่วยทำให้ไปสอบหมอหลวงไม่ทัน ในขณะที่โดจิสอบผ่าน หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้โฮจุนกลายเป็นหมอที่มีชื่อเสียง และโฮจุนก็คิดได้ว่าหมอที่แท้จริงนั้นคืออะไร หลังจากนั้นโฮจุนก็กลับไปอยู่ที่เมืองซันยอง ศึกษาวิชาแพทย์กับหมอยูอึยเทและตรวจชาวบ้านต่อไปต่อไป ไม่นานนักหมอยูอึยเทก็ล้มป่วยด้วยโรคร้ายแรงและจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน เมื่อรู้ดังนั้นยูอึยเทจึงชิงฆ่าตัวตายแล้วมอบร่างกายของตัวเองให้แก่โฮจุน ไว้สำหรับผ่าพิสูจน์เพื่อศึกษาอวัยวะต่าง ๆ ภายในร่างกายเพื่อเป็นประโยชน์ทางการแพทย์
และในเวลาเดียวกันโดจิก็กำลังสร้างชื่อเสียงให้แก่ตัวเองอยู่ที่สำนักหมอหลวง เวลาผ่านไปไม่นานก็ถึงเวลาสอบหมอหลวงอีกครั้ง ครั้งนี้โฮจุนพร้อมแม่และแดฮีออกเดินทางไปเมืองฮันหยางด้วยกัน ครั้งนี้โฮจุนสอบผ่านการเป็นหมอหลวง ในขณะที่โดจิก็ก้าวหน้าอยู่ในหวังหลวงได้เป็นหมอหลวงขั้น 7 และเยจินได้เป็นแพทย์ชุมชน ภายในสำนักหมอหลวงนี้โฮจุนได้พบกับ ยางเยโซ หมอใหญ่ประจำสำนักหมอหลวงผู้ที่เคยแข่งขันกับยูอึยเทในอดีตและได้พ่ายแพ้ไป เนื่องด้วยเหตุนี้เองทำให้เมื่อยางเยโซรู้ความสัมพันธ์ระหว่างโฮจุนกับยูอึยเท จึงจัดการให้โฮจุนไปเป็นหมอชุมชน และขัดขวางการทำงานภายในสำนักหมอหลวงอยู่เสมอ จนกระทั่งโฮจุนได้พิสูจน์ฝีมือโดยการรักษาผู้ป่วยซึ่งเป็นโรคปากบูดเบี้ยว โดยทีมแพทย์ของยางเยโซและโดจิสามารถรักษาพระอนุชาของพระมเหสีกงปินได้ภายใน 5 วัน ในขณะที่โฮจุนใช้เวลารักษาผู้ป่วยด้วยโรคเดียวกันเพียง 3 วันเท่านั้น ทำให้เจ้ากรมการแพทย์เกิดความสงสัยในตัวยางเยโซและโดจิ
ต่อมาอาการป่วยของพระอนุชาของพระมเหสีกงปินกำเริบขึ้นอีก ยางเยโซและโดจิหาสาเหตุของโรคที่แท้จริงไม่พบ เจ้ากรมการแพทย์จึงสั่งให้โฮจุนขึ้นถวายการรักษาแทน แต่กลับถูกยางเยโซและโดจิขัดขวางโชคดีที่ได้เยจินช่วยเหลือไว้ โฮจุนตรวจพบสาเหตุที่แท้จริงของโรคและได้กราบทูลพระราชาไป โดยโฮจุนให้คำมั่นว่าสามารถรักษาอาการป่วยนี้ได้ภายใน 5 วัน โฮจุนเพียรพยายามช่วยเหลือและทำทุกอย่างจนครบกำหนด 5 วัน ในขณะที่ยางเยโซกำลังจะลงโทษโฮจุนอยู่นั่นเอง ก็มีคนเข้ามารายงานว่าพระอนุชาของพระมเหสีหายเป็นปกติแล้ว ทำให้พระราชาทรงปูนบำเหน็จให้แก่โฮจุน ประกอบกับเห็นว่าโฮจุนทำความดีความชอบมากมายที่หมอชุมชน โฮจุนจึงได้รับการเลื่อนขั้นเป็นหมอหลวงขั้น 7 ส่วนโดจินั้นถูกจับได้ว่ามีสัมพันธ์กับหมอหญิงในวัง จึงถูกลดขั้นและถูกสั่งให้ไปเป็นหมอติดตามคณะทูตเดินทางไปเมืองจีน ต่อมาเรื่องในอดีตที่โฮจุนเคยเป็นนักโทษค้าของเถื่อนถูกเปิดเผยทำให้เขาได้รับโทษประหารชีวิต
แต่ด้วยผลงานมากมายของโฮจุนที่สามารถรักษาพระอาการของพระมเหสีกงปินและโอรสทั้งสองได้ ทำให้พระราชาได้พระราชทานอภัยโทษให้แก่โฮจุนท่ามกลางการคัดค้านของขุนนางทั้งหลาย ต่อมาไม่นานนักเกิดสงครามขึ้นระหว่างชอนโซและญี่ปุ่น เพื่อความปลอดภัยของพระราชาจึงได้มีการอพยพคนในวังหนี ส่วนโฮจุนกลับเป็นห่วงตำราแพทย์จึงตัดสินใจกลับไปนำตำราแพทย์ที่วังหลวง ซึ่งทำให้เขาพลัดพรากกับครอบครัว เมื่อตามไปถึงพระราชากลับทรงไม่เข้าใจด้วยความเกรงพระอาญาโฮจุนจึงหนีไปและได้ออกตามหาครอบครัว ในระหว่างนี้เองโดจิได้กลับมาอยู่กับสำนักหมอหลวงและถวายการรักษาองค์ชาย แต่ไม่สามารถรักษาได้ทำให้ได้รับโทษถูกขังอยู่ในคุก ภายหลังพระราชาประชวรจึงทำให้ต้องเรียกตัวโฮจุนกลับมาถวายการรักษา โฮจุนแสร้งทำเป็นแขนเจ็บไม่สามารถฝังเข็มได้จึงต้องให้โดจิฝังเข็มแทน จนกระทั่งสามารถรักษาพระราชาได้สำเร็จทำให้โดจิพ้นโทษ
ทางด้านโฮจุนก็ได้รับความดีความชอบมากมายจึงได้เลื่อนขั้นเป็นหมอหลวงขั้นที่หนึ่ง แต่ช่วงเวลาสงบมักอยู่ได้ไม่นาน วังหลวงเกิดศึกภายในขึ้นระหว่างองค์ชาย 2 พระองค์ กระทั่งวันหนึ่งองค์ชายทั้ง 2 ประชวรพร้อมกัน ทำให้โฮจุนตัดสินใจลำบากว่าจะไปรักษาพระองค์ใดก่อน เนื่องจากว่าสามารถดูแลองค์ชายได้เพียงพระองค์เดียว โฮจุนจึงเลือกที่จะรักษา องค์ชายกวางไห่จิน ต่อมาพระราชาทรงป่วยหนัก โฮจุนได้ถวายการรักษาแต่ไม่สามารถรักษาได้ทันและได้สวรรคตลง ทั้งที่ยังไม่ได้มีพระราชองค์การแต่งตั้งองค์รัชทายาทแต่อย่างใด จากการแย่งชิงอำนาจกันภายในประกอบกับการที่โฮจุนไม่ได้อยู่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอย่างชัดเจน ทำให้โฮจุนต้องโทษฐานไม่สามารถรักษาพระราชาได้จึงถูกเนรเทศไปแดนใต้ ระหว่างที่โฮจุนถูกเนรเทศนั้นมีชาวบ้านผู้ที่ได้ยินกิตติศัพท์โฮจุนเข้ามาขอรับการรักษา โฮจุนทนคำรบเร้าของชาวบ้านไม่ได้จึงออกรักษาชาวบ้านอีกครั้ง
โดยขอให้ชาวบ้านปิดเรื่องนี้เป็นความลับ พร้อมกันนี้โดจิก็ได้แอบส่งตำราแพทย์และข้อมูลต่างๆ มาให้แก่โฮจุน จนกระทั่งโฮจุนสามารถเขียนตำราแพทย์ได้สำเร็จ เมื่อพระราชาองค์ปัจจุบันได้ทอดพระเนตรเห็นตำราแพทย์ฉบับนี้ก็มีคำสั่งเรียกตัวโฮจุนคืนมา และมีพระบรมราชโองการงอภัยโทษแก่โฮจุน พร้อมกับเรียกตัวเข้าวังหลวง แต่โฮจุนกลับทูลปฏิเสธพระราชาและเดินทางกลับบ้านเกิดเพื่อรักษาชาวบ้านต่อไป ภายหลังเกิดโรคระบาดขึ้นหมอโฮจุนตรวจรักษาคนไข้โดยไม่คำนึงถึงชีวิตตัวเอง จนกระทั่งตนเองติดโรคระบาดนั้น แต่เขากลับนำยาทั้งหมดมารักษาคนไข้ จนในที่สุดร่างกายที่อ่อนล้าไม่สามารถทนไหว ในที่สุดหมอโฮจุนก็จบชีวิตลงท่ามกลางอ้อมกอดของภรรยา เหลือทิ้งไว้เพียงความอาลัยจากคนที่รัก และตำนานที่บันทึกถึง หมอใจ คนยาก ต้นตำรับตำราแพทย์อันลือชื่อของเกาหลีตำนานของคนดี คนดีที่โลกรอ...หมอโฮจุน
ด้วยความแตกต่างของฐานะของทั้งสอง โฮจุนจึงตัดสินใจเดินทางต่อไปกับแม่เพียง 2 คน เมื่อถึงเมืองซันยองแม่ของโฮจุนล้มป่วยลง จากเหตุการณ์นี้เองทำให้โฮจุนได้พบกับ ยูอึยเท หมอเทวดาชื่อดังแห่งเมืองซันยอง โฮจุนเกิดความเลื่อมใสในตัวหมอจึงขอฝากตัวเองเป็นศิษย์ ระหว่างที่ศึกษาวิชาการแพทย์อยู่นี้โฮจุนได้ถูกคนงานภายในบ้านกลั่นแกล้งอยู่ตลอดเวลา เขาต้องใช้ความอดทนอดกลั้นอยู่ตลอดเวลา แต่ด้วยความขยันและความฉลาดของโฮจุน จึงทำให้เค้าสามารถเรียนรู้วิชาแพทย์ได้อย่างรวดเร็ว ในระหว่างนี้เองความสามารถของโฮจุนได้ดึงดูดความสนใจของ เยจิน บุตรสาวบุญธรรมของยูอึยเท โดยนางจะคอยให้ความช่วยเหลือและให้คำแนะนำแก่โฮจุนอยู่เสมอ ซึ่งสร้างความอิจฉาให้แก่ โดจิ บุตรชายคนเดียวของยูอึยเท ที่แอบหลงรักเยจินอยู่ ส่วนแดฮีหลังจากจัดการเรื่องคดีและย้ายศพพ่อเรียบร้อยแล้ว ก็มาที่เมืองซันยองเพื่อตามหาโฮจุน
เมื่อแม่ของโฮจุนรู้เข้าจึงกีดกัน เพราะคิดว่าความต่างของฐานะจะนำภัยมาสู้ตนเองและโฮจุน จึงทำให้แดฮีตัดสินใจจะกลับบ้านตนเอง แต่ทันทีที่โฮจุนรู้เข้าก็รีบมาตามหาและตัดสินใจแต่งงานกัน หลังจากศึกษาวิชาแพทย์ไปได้ระยะหนึ่งโฮจุนก็ได้มีโอกาสเข้าไปรักษาอาการป่วยของภรรยาของเสนาบดีฝ่ายขวาที่หมอหลายคนไม่สามารถรักษาได้ แต่โฮจุนกลับรักษาได้สำเร็จเขาจึงได้รับของตอบแทนมากมาย รวมถึงจดหมายแนะนำตัวโฮจุนต่อสำนักหมอหลวง แต่หมอยูอึยเทกลับไม่เห็นด้วยจึงเผาจดหมายนั้นทิ้ง และไล่โฮจุนออกจากสถานพยาบาล เมื่อจดหมายที่เป็นใบเบิกทางความเป็นหมอถูกเผา ประกอบกับเห็นแดฮีภรรยาผู้เป็นที่รักต้องทำงานหนักเพียงเพื่อให้โฮจุนได้เป็นหมออย่างที่ฝัน ก็ยิ่งทำให้โฮจุนตัดสินใจล้มเลิกความคิดที่จะเป็นหมอและไปทำงานอยู่ในเหมืองแทน นึกไม่ถึงว่าเหมืองกลับถล่มลงมาทำให้โฮจุนต้องไปรักษาผู้บาดเจ็บ แดฮีมาเห็นเข้าจึงขอร้องให้โฮจุนกลับไปเป็นหมอดังเดิม
โฮจุนขอร้องยูอึยเทให้ตนกลับไปทำงานที่สถานพยาบาลอีกครั้ง และหลังจากนั้นไม่นานโฮจุนก็ตัดสินใจไปเมืองฮันหยางเพื่อสอบคัดเลือกหมอหลวง โฮจุนและหมอคนอื่นๆ รวมถึงโดจิเดินทางไปยังเมืองฮันหยางเพื่อสอบเป็นหมอหลวง แต่ในระหว่างทางมีผู้ป่วยมาขอความช่วยเหลือ โดยหมอทั้งหมดต่างก็อ้างว่ามีสอบหมอหลวง โฮจุนทนไม่ได้จึงตัดสินใจอยู่ตรวจผู้ป่วยทำให้ไปสอบหมอหลวงไม่ทัน ในขณะที่โดจิสอบผ่าน หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้โฮจุนกลายเป็นหมอที่มีชื่อเสียง และโฮจุนก็คิดได้ว่าหมอที่แท้จริงนั้นคืออะไร หลังจากนั้นโฮจุนก็กลับไปอยู่ที่เมืองซันยอง ศึกษาวิชาแพทย์กับหมอยูอึยเทและตรวจชาวบ้านต่อไปต่อไป ไม่นานนักหมอยูอึยเทก็ล้มป่วยด้วยโรคร้ายแรงและจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน เมื่อรู้ดังนั้นยูอึยเทจึงชิงฆ่าตัวตายแล้วมอบร่างกายของตัวเองให้แก่โฮจุน ไว้สำหรับผ่าพิสูจน์เพื่อศึกษาอวัยวะต่าง ๆ ภายในร่างกายเพื่อเป็นประโยชน์ทางการแพทย์
และในเวลาเดียวกันโดจิก็กำลังสร้างชื่อเสียงให้แก่ตัวเองอยู่ที่สำนักหมอหลวง เวลาผ่านไปไม่นานก็ถึงเวลาสอบหมอหลวงอีกครั้ง ครั้งนี้โฮจุนพร้อมแม่และแดฮีออกเดินทางไปเมืองฮันหยางด้วยกัน ครั้งนี้โฮจุนสอบผ่านการเป็นหมอหลวง ในขณะที่โดจิก็ก้าวหน้าอยู่ในหวังหลวงได้เป็นหมอหลวงขั้น 7 และเยจินได้เป็นแพทย์ชุมชน ภายในสำนักหมอหลวงนี้โฮจุนได้พบกับ ยางเยโซ หมอใหญ่ประจำสำนักหมอหลวงผู้ที่เคยแข่งขันกับยูอึยเทในอดีตและได้พ่ายแพ้ไป เนื่องด้วยเหตุนี้เองทำให้เมื่อยางเยโซรู้ความสัมพันธ์ระหว่างโฮจุนกับยูอึยเท จึงจัดการให้โฮจุนไปเป็นหมอชุมชน และขัดขวางการทำงานภายในสำนักหมอหลวงอยู่เสมอ จนกระทั่งโฮจุนได้พิสูจน์ฝีมือโดยการรักษาผู้ป่วยซึ่งเป็นโรคปากบูดเบี้ยว โดยทีมแพทย์ของยางเยโซและโดจิสามารถรักษาพระอนุชาของพระมเหสีกงปินได้ภายใน 5 วัน ในขณะที่โฮจุนใช้เวลารักษาผู้ป่วยด้วยโรคเดียวกันเพียง 3 วันเท่านั้น ทำให้เจ้ากรมการแพทย์เกิดความสงสัยในตัวยางเยโซและโดจิ
ต่อมาอาการป่วยของพระอนุชาของพระมเหสีกงปินกำเริบขึ้นอีก ยางเยโซและโดจิหาสาเหตุของโรคที่แท้จริงไม่พบ เจ้ากรมการแพทย์จึงสั่งให้โฮจุนขึ้นถวายการรักษาแทน แต่กลับถูกยางเยโซและโดจิขัดขวางโชคดีที่ได้เยจินช่วยเหลือไว้ โฮจุนตรวจพบสาเหตุที่แท้จริงของโรคและได้กราบทูลพระราชาไป โดยโฮจุนให้คำมั่นว่าสามารถรักษาอาการป่วยนี้ได้ภายใน 5 วัน โฮจุนเพียรพยายามช่วยเหลือและทำทุกอย่างจนครบกำหนด 5 วัน ในขณะที่ยางเยโซกำลังจะลงโทษโฮจุนอยู่นั่นเอง ก็มีคนเข้ามารายงานว่าพระอนุชาของพระมเหสีหายเป็นปกติแล้ว ทำให้พระราชาทรงปูนบำเหน็จให้แก่โฮจุน ประกอบกับเห็นว่าโฮจุนทำความดีความชอบมากมายที่หมอชุมชน โฮจุนจึงได้รับการเลื่อนขั้นเป็นหมอหลวงขั้น 7 ส่วนโดจินั้นถูกจับได้ว่ามีสัมพันธ์กับหมอหญิงในวัง จึงถูกลดขั้นและถูกสั่งให้ไปเป็นหมอติดตามคณะทูตเดินทางไปเมืองจีน ต่อมาเรื่องในอดีตที่โฮจุนเคยเป็นนักโทษค้าของเถื่อนถูกเปิดเผยทำให้เขาได้รับโทษประหารชีวิต
แต่ด้วยผลงานมากมายของโฮจุนที่สามารถรักษาพระอาการของพระมเหสีกงปินและโอรสทั้งสองได้ ทำให้พระราชาได้พระราชทานอภัยโทษให้แก่โฮจุนท่ามกลางการคัดค้านของขุนนางทั้งหลาย ต่อมาไม่นานนักเกิดสงครามขึ้นระหว่างชอนโซและญี่ปุ่น เพื่อความปลอดภัยของพระราชาจึงได้มีการอพยพคนในวังหนี ส่วนโฮจุนกลับเป็นห่วงตำราแพทย์จึงตัดสินใจกลับไปนำตำราแพทย์ที่วังหลวง ซึ่งทำให้เขาพลัดพรากกับครอบครัว เมื่อตามไปถึงพระราชากลับทรงไม่เข้าใจด้วยความเกรงพระอาญาโฮจุนจึงหนีไปและได้ออกตามหาครอบครัว ในระหว่างนี้เองโดจิได้กลับมาอยู่กับสำนักหมอหลวงและถวายการรักษาองค์ชาย แต่ไม่สามารถรักษาได้ทำให้ได้รับโทษถูกขังอยู่ในคุก ภายหลังพระราชาประชวรจึงทำให้ต้องเรียกตัวโฮจุนกลับมาถวายการรักษา โฮจุนแสร้งทำเป็นแขนเจ็บไม่สามารถฝังเข็มได้จึงต้องให้โดจิฝังเข็มแทน จนกระทั่งสามารถรักษาพระราชาได้สำเร็จทำให้โดจิพ้นโทษ
ทางด้านโฮจุนก็ได้รับความดีความชอบมากมายจึงได้เลื่อนขั้นเป็นหมอหลวงขั้นที่หนึ่ง แต่ช่วงเวลาสงบมักอยู่ได้ไม่นาน วังหลวงเกิดศึกภายในขึ้นระหว่างองค์ชาย 2 พระองค์ กระทั่งวันหนึ่งองค์ชายทั้ง 2 ประชวรพร้อมกัน ทำให้โฮจุนตัดสินใจลำบากว่าจะไปรักษาพระองค์ใดก่อน เนื่องจากว่าสามารถดูแลองค์ชายได้เพียงพระองค์เดียว โฮจุนจึงเลือกที่จะรักษา องค์ชายกวางไห่จิน ต่อมาพระราชาทรงป่วยหนัก โฮจุนได้ถวายการรักษาแต่ไม่สามารถรักษาได้ทันและได้สวรรคตลง ทั้งที่ยังไม่ได้มีพระราชองค์การแต่งตั้งองค์รัชทายาทแต่อย่างใด จากการแย่งชิงอำนาจกันภายในประกอบกับการที่โฮจุนไม่ได้อยู่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอย่างชัดเจน ทำให้โฮจุนต้องโทษฐานไม่สามารถรักษาพระราชาได้จึงถูกเนรเทศไปแดนใต้ ระหว่างที่โฮจุนถูกเนรเทศนั้นมีชาวบ้านผู้ที่ได้ยินกิตติศัพท์โฮจุนเข้ามาขอรับการรักษา โฮจุนทนคำรบเร้าของชาวบ้านไม่ได้จึงออกรักษาชาวบ้านอีกครั้ง
โดยขอให้ชาวบ้านปิดเรื่องนี้เป็นความลับ พร้อมกันนี้โดจิก็ได้แอบส่งตำราแพทย์และข้อมูลต่างๆ มาให้แก่โฮจุน จนกระทั่งโฮจุนสามารถเขียนตำราแพทย์ได้สำเร็จ เมื่อพระราชาองค์ปัจจุบันได้ทอดพระเนตรเห็นตำราแพทย์ฉบับนี้ก็มีคำสั่งเรียกตัวโฮจุนคืนมา และมีพระบรมราชโองการงอภัยโทษแก่โฮจุน พร้อมกับเรียกตัวเข้าวังหลวง แต่โฮจุนกลับทูลปฏิเสธพระราชาและเดินทางกลับบ้านเกิดเพื่อรักษาชาวบ้านต่อไป ภายหลังเกิดโรคระบาดขึ้นหมอโฮจุนตรวจรักษาคนไข้โดยไม่คำนึงถึงชีวิตตัวเอง จนกระทั่งตนเองติดโรคระบาดนั้น แต่เขากลับนำยาทั้งหมดมารักษาคนไข้ จนในที่สุดร่างกายที่อ่อนล้าไม่สามารถทนไหว ในที่สุดหมอโฮจุนก็จบชีวิตลงท่ามกลางอ้อมกอดของภรรยา เหลือทิ้งไว้เพียงความอาลัยจากคนที่รัก และตำนานที่บันทึกถึง หมอใจ คนยาก ต้นตำรับตำราแพทย์อันลือชื่อของเกาหลีตำนานของคนดี คนดีที่โลกรอ...หมอโฮจุน