ละคร เรือมนุษย์
ดู 3,146 ครั้ง /
แชร์
ละครออกอากาศ | วันพุธ วันพฤหัส | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ช่องที่ออกอากาศ | ละครช่อง 7 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เริ่มออกอากาศ | 9 พฤษภาคม 2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เวลาออกอากาศ | 20:30 - 22:40 น. |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
กำกับโดย | ธีระศักดิ์ พรหมเงิน | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ประพันธ์โดย | บทประพันธ์ กฤษณา อโศกสิน, บทโทรทัศน์ ภาคย์รพี | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
นำแสดงโดย | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ผู้สร้าง | บริษัท กันตนา มูฟวี่ ทาวน์ (2002) จำกัด |
ภาพนิ่งจากละคร
เรื่องย่อ เรือมนุษย์
มธุรส (นุสบา ปุณณกันต์) นักสังคมสงเคราะห์ผู้ช่วยเหลือสังคมและใส่ใจเรื่องราวนอกบ้านมากกว่าทำหน้าที่แม่และเมีย ทำให้ เพลา (สันติสุข พรหมศิริ) สามีอยู่กับลูกวัยรุ่นสามคน พิมพ์รส (รัญดภา มันตะลัมพะ) พจนา (ปวรพัฒน์ จารุศักดิ์วีรกุล) และมาลาทิพย์ (ภัณฑิรา พิพิธยากร) โดยมี นิธิมา(กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า) น้องสาวของสามี ทำหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยภายในบ้าน มธุรสชอบอวดฐานะความเป็นอยู่และชาติตระกูลในวงสังคม แต่ด้วยทรัพย์สินที่จะใช้จ่ายในแต่ละเดือนขึ้นอยู่กับเงินเดือนของสามีกับเงินเก็บเพียงบางส่วน ทำให้มธุรสต้องปิดบังความจริงไว้
มธุรสมีเพื่อนสนิทที่เรียนมัธยมที่รู้เบื้องหลังกันดี ได้แก่ สิรินทร์ (กชกร นิมากรณ์) ภริยามหาเศรษฐีเจ้าของโรงแรมระดับห้าดาว และ เฟื่องทอง (มัณฑนา หิมะทองคำ) ผู้มีอาชีพนายหน้าค้าขายทุกอย่างแม้กระทั่งส่งผู้หญิงไปบำเรอกามนักธุรกิจ ด้วยการเงินที่อัตคัดแต่ต้องใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย ทำให้มธุรสหงุดหงิดกับทุกคนในบ้าน คนรับใช้จึงอยู่ไม่ทน เธอจึงจ้างเด็ก เกียว (คารีสา สปริงเก็ตต์) ลูกนาง ไส (อภิรดี ภวภูตานนท์) ชาวบ้านในสลัมหลังหมู่บ้านทำงานบ้านแบบเช้าเย็นกลับ เรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นเมื่อพิมพ์รสตั้งครรภ์ได้สองเดือน เธอปรึกษานิธิมาให้พาไปทำแท้งแต่นิธิมาไม่เห็นด้วย นิธิมาจึงไปบอกเพลาและมธุรส ทั้งคู่โกรธมากแต่เมื่อรู้ว่าพิมพ์รสท้องกับ ชัยพร (ชานนท์ อักขระชาตะ) บุตรชายของ เดช (นภัสกร มิตรธีรโรจน์) มหาเศรษฐีผู้โด่งดัง มธุรสเปลี่ยนใจให้พิมพ์รสเก็บลูกไว้เพื่อต่อรอง แต่ขณะนั้นเดชเดินทางไปต่างประเทศ ดัมพ์ (อรรคพันธ์ นะมาตร์) น้องชายของเดชจึงทำหน้าที่แทนโดยร่วมมือปรึกษากับนิธิมา และกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์อันดีของทั้งสองคน
เฟื่องทองไม่พอใจที่รู้ข่าวเรื่องพิมพ์รสกับชัยพร เพราะตนเคยนำ ชุดา (ภัทรานิษฐ์ คำกำพุด) หลานสาวไปให้แก่เดช เดชหลงชุดาจนยอมรับให้เข้าไปอยู่ในคฤหาสน์ และเฟื่องทองก็มีแผนที่จะนำ ฟ้าทอง (สิริลภัส กองตระการ) น้องสาวของตนไปเป็นคู่หมายของดัมพ์ด้วย ชุดารู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างนิธิมากับดัมพ์ ทำให้เธอไม่พอใจ เพราะลึกๆ แล้วเธอหลงรักดัมพ์ แม้จะพยายามใกล้ชิดแต่ดัมพ์ก็ไม่สนใจ ชุดาจึงบอกเดชเรื่องความสัมพันธ์ของดัมพ์และนิธิมา เดชยื่นคำขาดว่าห้ามดัมพ์ยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงของตน เพราะเดชมีใจให้นิธิมา ดัมพ์จำใจออกจากบ้านไปอยู่คอนโดที่ตนซื้อไว้ และเตือนนิธิมาให้อยู่ห่างๆ เดช เดชรุกนิธิมามากยิ่งขึ้น เขาซื้อแหวนเพชรให้นิธิมาวงหนึ่ง
แต่ดัมพ์แนะนำให้นำไปคืน เฟื่องทองแอบมาเยี่ยมมธุรสและเห็นความใกล้ชิดของเกียวกับเพลา จึงขยายเรื่องให้มธุรสอับอายคนว่าสามีกับลูกจ้างในบ้านเป็นชู้กัน มธุรสหาเรื่องตบตีเกียว และ มีปากเสียงกับเพลา จนเพลาประกาศเลิกกับมธุรสและพาเกียวมาเช่าอพาร์ทเมนต์อยู่ เฟื่องทองยุยงว่าให้รับเกียวเข้ามาอยู่ในบ้าน อย่างน้อยก็ให้เพลาได้กลับมา มธุรสจึงทำตาม ทำให้เกียวกับนางไสมีบทบาทในบ้านมากยิ่งขึ้น
พิมพ์รสคลอดลูกสาว ส่วนเกียวก็คลอดลูกเช่นกันแต่ ลูกของเกียวพิการทั้งเกียวและนางไสจึงไม่ใส่ใจ วันหนึ่งเกียวแกล้งอุ้มลูกสาวของพิมพ์รสแล้วทำตก เด็กชักและแน่นิ่งไป รีบนำตัวส่งแพทย์ มธุรสแทบคลั่งอยากจะฆ่าเกียวแต่เกียวหนีเตลิดไป พร้อมเงินก้อนหนึ่งของเพลา ครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ กลับกลายเป็นความแตกแยกที่ยากจะประสาน นิธิมาและดัมพ์ จะยอมจำนนต่อโชคชะตา หรือต่อสู้เพื่อพบความสุขที่แท้จริง
มธุรสมีเพื่อนสนิทที่เรียนมัธยมที่รู้เบื้องหลังกันดี ได้แก่ สิรินทร์ (กชกร นิมากรณ์) ภริยามหาเศรษฐีเจ้าของโรงแรมระดับห้าดาว และ เฟื่องทอง (มัณฑนา หิมะทองคำ) ผู้มีอาชีพนายหน้าค้าขายทุกอย่างแม้กระทั่งส่งผู้หญิงไปบำเรอกามนักธุรกิจ ด้วยการเงินที่อัตคัดแต่ต้องใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย ทำให้มธุรสหงุดหงิดกับทุกคนในบ้าน คนรับใช้จึงอยู่ไม่ทน เธอจึงจ้างเด็ก เกียว (คารีสา สปริงเก็ตต์) ลูกนาง ไส (อภิรดี ภวภูตานนท์) ชาวบ้านในสลัมหลังหมู่บ้านทำงานบ้านแบบเช้าเย็นกลับ เรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นเมื่อพิมพ์รสตั้งครรภ์ได้สองเดือน เธอปรึกษานิธิมาให้พาไปทำแท้งแต่นิธิมาไม่เห็นด้วย นิธิมาจึงไปบอกเพลาและมธุรส ทั้งคู่โกรธมากแต่เมื่อรู้ว่าพิมพ์รสท้องกับ ชัยพร (ชานนท์ อักขระชาตะ) บุตรชายของ เดช (นภัสกร มิตรธีรโรจน์) มหาเศรษฐีผู้โด่งดัง มธุรสเปลี่ยนใจให้พิมพ์รสเก็บลูกไว้เพื่อต่อรอง แต่ขณะนั้นเดชเดินทางไปต่างประเทศ ดัมพ์ (อรรคพันธ์ นะมาตร์) น้องชายของเดชจึงทำหน้าที่แทนโดยร่วมมือปรึกษากับนิธิมา และกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์อันดีของทั้งสองคน
เฟื่องทองไม่พอใจที่รู้ข่าวเรื่องพิมพ์รสกับชัยพร เพราะตนเคยนำ ชุดา (ภัทรานิษฐ์ คำกำพุด) หลานสาวไปให้แก่เดช เดชหลงชุดาจนยอมรับให้เข้าไปอยู่ในคฤหาสน์ และเฟื่องทองก็มีแผนที่จะนำ ฟ้าทอง (สิริลภัส กองตระการ) น้องสาวของตนไปเป็นคู่หมายของดัมพ์ด้วย ชุดารู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างนิธิมากับดัมพ์ ทำให้เธอไม่พอใจ เพราะลึกๆ แล้วเธอหลงรักดัมพ์ แม้จะพยายามใกล้ชิดแต่ดัมพ์ก็ไม่สนใจ ชุดาจึงบอกเดชเรื่องความสัมพันธ์ของดัมพ์และนิธิมา เดชยื่นคำขาดว่าห้ามดัมพ์ยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงของตน เพราะเดชมีใจให้นิธิมา ดัมพ์จำใจออกจากบ้านไปอยู่คอนโดที่ตนซื้อไว้ และเตือนนิธิมาให้อยู่ห่างๆ เดช เดชรุกนิธิมามากยิ่งขึ้น เขาซื้อแหวนเพชรให้นิธิมาวงหนึ่ง
แต่ดัมพ์แนะนำให้นำไปคืน เฟื่องทองแอบมาเยี่ยมมธุรสและเห็นความใกล้ชิดของเกียวกับเพลา จึงขยายเรื่องให้มธุรสอับอายคนว่าสามีกับลูกจ้างในบ้านเป็นชู้กัน มธุรสหาเรื่องตบตีเกียว และ มีปากเสียงกับเพลา จนเพลาประกาศเลิกกับมธุรสและพาเกียวมาเช่าอพาร์ทเมนต์อยู่ เฟื่องทองยุยงว่าให้รับเกียวเข้ามาอยู่ในบ้าน อย่างน้อยก็ให้เพลาได้กลับมา มธุรสจึงทำตาม ทำให้เกียวกับนางไสมีบทบาทในบ้านมากยิ่งขึ้น
พิมพ์รสคลอดลูกสาว ส่วนเกียวก็คลอดลูกเช่นกันแต่ ลูกของเกียวพิการทั้งเกียวและนางไสจึงไม่ใส่ใจ วันหนึ่งเกียวแกล้งอุ้มลูกสาวของพิมพ์รสแล้วทำตก เด็กชักและแน่นิ่งไป รีบนำตัวส่งแพทย์ มธุรสแทบคลั่งอยากจะฆ่าเกียวแต่เกียวหนีเตลิดไป พร้อมเงินก้อนหนึ่งของเพลา ครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ กลับกลายเป็นความแตกแยกที่ยากจะประสาน นิธิมาและดัมพ์ จะยอมจำนนต่อโชคชะตา หรือต่อสู้เพื่อพบความสุขที่แท้จริง