ละคร รักจังเอย
ดู 3,840 ครั้ง /
แชร์
ละครออกอากาศ | วันพุธ วันพฤหัส | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ช่องที่ออกอากาศ | ละครช่อง 3 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เริ่มออกอากาศ | 21 มีนาคม 2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เวลาออกอากาศ | 20:20 - 22:50 น. |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
กำกับโดย | ฉัตรชัย เปล่งพานิช | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ประพันธ์โดย | ณพุทธ สุศรีฯ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
นำแสดงโดย | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ผู้สร้าง | บริษัท มหานิยมชมชอบ จำกัด |
ภาพนิ่งจากละคร
เรื่องย่อ รักจังเอย
ความฝันของ ไพลิน หรือ หมอเอย (ณฐพร เตมีรักษ์) นิสิตแพทย์สาวต้องพังทลาย เมื่อ ทิวา (รังสิต ศิรนานนท์) แฟนหนุ่มของเธอไปปันใจให้กับ ขวัญตา (ชาเคอลีน มึ้นช์) เพื่อนรักที่จงใจหักเหลี่ยม ด้วยความหุนหันต้องการประชดรักไพลินจึงสมัครไปทำงานใช้ทุนหลวงที่หมู่บ้านห่างไกลความเจริญที่ชื่อท่าสำเริง การเดินทางเป็นไปอย่างทุลักทุเล เพราะนอกจากจะต้องผจญกับพวกมิจฉาชีพบนรถตู้แล้ว เธอยังต้องเจอโจทก์เก่าอย่าง ดำรง (ฉันทวิชช์ ธนะเสวี) ผู้ใหญ่บ้านปากร้าย เหตุเพราะทั้งสองเคยมีเรื่องปะทะคารมกันมาก่อนเมื่ออยู่กรุงเทพฯ จึงทำ ให้เกลียดขี้หน้ากันเข้าไส้ ไพลินไม่ชอบดำรง เพราะเป็นคนหัวรั้น บ้าอุดมการณ์ บ้าทฤษฎี แต่ทำอะไรไม่เคยประสบความสำเร็จ ส่วนดำรงก็ไม่ชอบไพลินเช่นกัน เพราะเขาไม่เชื่อว่าเธอจะรักษาคนได้
คืนแรกที่ไพลินมาถึง เธอได้ดื่มเหล้าป่าที่ชาวบ้านเอามาเลี้ยงต้อนรับจนเมา และแสดงกริยาโลดโผน ดำรงวางแผนที่จะไล่ไพลินไปจากหมู่บ้าน เพื่อที่ทางอำเภอจะได้ส่งแพทย์คนใหม่มาแทน แต่แผนการณ์ของดำรงก็ไม่เคยประสบผลสำเร็จ เพราะไพลินเป็นคนหัวดื้อ ยิ่งดำรงต่อต้านหญิงสาวก็ยิ่งฮึดสู้ ความไม่ลงรอยกันระหว่างไพลินกับดำรงทำให้เริ่มมีการแบ่งพรรคแบ่งฝ่ายกันในหมู่บ้าน ผู้ที่อยู่ฝ่ายดำรงประกอบไปด้วย กิมลั้ง (ปารีณา บุศยศิริ) ลูกสาว เจ๊เฮี๊ยบ (ดารณีนุช ปสุตนาวิน) เจ้าของร้านกาแฟ ที่แอบปลื้มดำรงมาตั้งแต่สมัยเรียนประถม กับ คเชนทร์ (ศุภชัย สุวรรณอ่อน) คนขับรถสองแถว และ ละไม (อรรณพ ทองบริสุทธิ์) โฆษกประจำหมู่บ้านที่เป็นทั้งเพื่อนและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านของดำรง
ส่วนฝ่ายหมอไพลินนั้นก็มี สันติ (สรวิชญ์ สุบุญ) คุณครูหนุ่ม และ สมาน (เกรียงไกร อุณหะนันท์) พ่อของดำรงที่เอ็นดูไพลินมาก รวมไปถึง มะลิ (พริมา พันธุ์เจริญ) น้องสาวของดำรง ที่เทิดทูนไพลินเป็นต้นแบบถึงขั้นไปสมัครเป็นพยาบาลอาสาเพื่อมาช่วยงานไพลิน
ปัญหาในสถานีอนามัยทำให้ไพลินเกือบถอดใจอยู่หลายครั้ง เพราะนอกจากสถานที่จะทรุดโทรมยังขาดแคลนอุปกรณ์การแพทย์ที่จำเป็นหลายอย่าง และชาวบ้านก็งมงายเชื่อเรื่องผีสางนางไม้มากกว่าเชื่อฟังหมอ ดำรงฉวยโอกาสนี้ร่วมมือกับเพื่อนๆ ปลอมตัวเป็นผีมาหลอกไพลิน แต่ไพลินจับได้จึงรวมหัวกับมะลิแกล้งทำเป็นถูกผีเข้า เพื่อหลอกให้ดำรงทำพิธีขอขมา
ดำรงโกรธมากที่ถูกไพลินหลอกให้เสียหน้า เขาจึงระเบิดอารมณ์ต่อว่าเรื่องที่เธอไม่มีคุณสมบัติความเป็นหมออย่างรุนแรง ในเวลาไล่เลี่ยกัน เสี่ยอำนาจ (ศานติ สันติเวชชกุล) ผู้มีอิทธิพลรายใหญ่ ซึ่งต้องการกว้านซื้อที่ของชาวบ้านก็ได้พยายามผูกมิตรกับหมอไพลิน เพื่อให้มาช่วยเหลืองานของตน ทำให้ดำรงยิ่งเข้าใจผิดไพลินมากขึ้นไปอีก แต่ระหว่างนั้นเองไพลินก็มีโอกาสช่วยเหลือเจ๊เฮี๊ยบเอาไว้จากอาการป่วย เธอแสดงฝีมือผ่าตัดช่วยคนไข้ให้รอดตายได้อย่างฉิวเฉียด วีรกรรมของหมอไพลินเป็นที่ประทับใจของทุกคนในหมู่บ้าน แต่ตัวเธอกลับต้องล้มป่วยเพราะตรากตรำกับการดูแลคนไข้
ดำรงจึงยอมสงบศึกกับไพลินเป็นการชั่วคราว เขาคอยดูแลเธอเป็นอย่างดีในช่วงที่เธอไม่สบาย ขณะที่ชาวบ้านก็ส่งตัวแทนมาขอบใจ ทำให้ไพลินเริ่มซาบซึ้งในวิชาชีพหมอ และเริ่มละอายในเป้าหมายของตัวเองที่เคยเหลวไหล ด้านเสี่ยอำนาจก็ไม่พอใจที่ไพลินไม่ยอมร่วมมือกับตน จึงวางแผนใส่ร้ายด้วยการส่งคนไปสลับยาในสถานีอนามัย จนทำให้มีชาวบ้านล้มป่วย และเมื่อมีคนไข้รายหนึ่งเสียชีวิตลงในขณะที่ไพลินยังไม่ทันได้รักษา เสี่ยอำนาจก็รีบให้ลูกน้องประโคมข่าวว่าหมอไพลินเป็นต้นเหตุ
แผนการดังกล่าวทำให้ไพลินเกือบถูกย้ายออกจากหมู่บ้าน แต่ดำรงกับเพื่อนๆ เกิดสงสัย จึงแอบขโมยศพของคนไข้ให้มะลิกับครูสันตินำไปชัณสูตรที่โรงพยาบาลในตัวเมืองจนพิสูจน์ได้ว่าคนไข้ไม่ได้ตายเพราะหมอไพลิน กิมลั้งที่หลงชอบดำรงเริ่มไม่พอใจที่ดำรงปกป้องหมอไพลิน จึงหาทางกลั่นแกล้งใส่ร้ายต่างๆ นานา หมอไพลินเลยแสร้งทำเป็นอ่อยดำรง ทำให้กิมลั้งหึงหวง ขณะที่ดำรงก็รู้สึกหวั่นไหวกับเสน่ห์ของไพลิน กิมลั้งร่วมมือกับ โตมร (สุรินทร คารวุตม์) ลูกน้องคนสนิทของเสี่ยอำนาจให้ฉุดไพลินมาข่มขืน แต่โชคดีที่ดำรงตามไปช่วยไว้ได้ทัน
ไพลินกับดำรงเริ่มรู้สึกดีๆ ต่อกันมากขึ้น ความผูกพันที่ไพลินกับดำรงมีต่อกันทำให้ชุมชนท่าสำเริงยิ่งแข็งแกร่ง สาธารณสุขของท่าสำเริงเริ่มเข้าที่เข้าทางไม่ขาดแคลนอุปกรณ์และยาเหมือนเมื่อก่อน ชาวบ้านอยู่ดีกินดีจึงไม่คิดขายที่ เพื่ออพยพไปอยู่ที่อื่นอีกต่อไป ทว่าเสี่ยอำนาจกลับต้องสูญเสียผลประโยชน์ เพราะเบื้องหลังการกว้านซื้อที่ดิน มีนักธุรกิจต่างชาติหนุนหลังอยู่ เนื่องจากสืบทราบว่ามีบ่อน้ำมันดิบจำนวนมหาศาลอยู่ใต้ธรณีของบ้านท่าสำเริง
เสี่ยอำนาจจึงใช้วิธีทวงหนี้จากชาวบ้าน ซึ่งส่วนใหญ่เคยกู้เงินจากเสี่ยอำนาจมาแล้วทั้งสิ้น ดำรงกับไพลินไม่ต้องการให้ชาวบ้านขายที่ จึงหาวิธีปลดหนี้ให้ชาวบ้านด้วยการจัดทำวงกลองยาวเฉพาะกิจเข้าไปประกวดในอำเภอจนได้รางวัลกลับมา ด้วยความแค้นเสี่ยอำนาจจึงส่งมือปืนไปเก็บดำรงและไพลินระหว่างเดินทางกลับหมู่บ้าน ทำให้ทั้งคู่ต้องหลบหนีไปกบดานด้วยกัน ส่งผลให้ความสัมพันธ์ยิ่งใกล้ชิดสนิทกันมากขึ้น
เมื่อเสี่ยอำนาจเห็นว่าแผนไม่สำเร็จ จึงสร้างสถานการณ์ขึ้นอีกครั้งด้วยการให้โตมรกับพวกปลอมตัวเป็นโจรไปปล้นชาวบ้าน หวังจะให้ชาวบ้านหวาดกลัวจนย้ายถิ่นฐานออกไป แต่ดำรงกับหมอไพลินและพวกชาวบ้านก็หาวิธีรับมือกับโจร ด้วยความสามัคคีผสมภูมิปัญญาท้องถิ่น ทำให้พวกของเสี่ยอำนาจต้องพ่ายแพ้กลับไป ผลจากการต่อสู้กับพวกโจรนอกจากจะทำให้ชาวบ้านสามัคคีกันมากขึ้นแล้ว ยังทำให้มะลิกับครูสันติได้กลายเป็นคู่รักกันอีกด้วย
เสี่ยอำนาจเจ็บใจที่ตกเป็นฝ่ายแพ้ จึงอาศัยกิมลั้งให้ช่วยสร้างสถานการณ์อีกครั้ง โดยยักยอกเงินจากสหกรณ์ของชาวบ้านที่หมอไพลินดูแลอยู่ เพื่อหลอกให้ทุกคนเข้าใจว่าที่หมอไพลินช่วยเหลือชาวบ้านมาตลอดนั้นก็เพราะหวังเงิน ชาวบ้านจึงกดดันดำรงให้ขับไล่หมอไพลินออกไป ประกอบกับทิวาที่ทราบข่าวได้เดินทางมาเยี่ยมหมอไพลิน กิมลั้งจึงเป่าหูดำรงให้หึงหวงไพลินจนทะเลาะกัน
ไพลินตัดสินใจย้ายออกจากบ้านท่าสำเริงเพื่อยุติปัญหา ทิวาเลิกรากับขวัญตาแล้ว จึงคิดจะกลับมาหาไพลินอีกครั้งแต่ไพลินไม่ได้รักทิวาแล้ว ไพลินปฏิเสธทิวาอย่างไร้เยื่อใย เพราะเธอได้ตระหนักแล้วว่าที่ผ่านมาเธอรักทิวาเพราะความหล่อและความรวยเท่านั้น
แม้คนในหมู่บ้านจะเริ่มตาสว่างว่าหมอไพลินถูกใส่ร้าย และเกลี้ยกล่อมให้ดำรงไปตามหมอไพลินกลับมา แต่ดำรงก็ยังอิดออดไม่ยอมไปง่ายๆ เพราะคิดว่าตนทำผิดต่อไพลินมากจนยากที่อีกฝ่ายจะให้อภัย เสี่ยอำนาจฉวยโอกาสนั้นส่งคนไปเผาสถานีอนามัยบ้านท่าสำเริง เพื่อปิดทางไม่ให้ไพลินกลับมาได้อีก ดำรงจับโตมรที่เป็นคนวางเพลิงได้สำเร็จ แต่ขื่อไม้อันใหญ่ก็ได้ร่วงมาทับที่ศรีษะของดำรง
เสี่ยอำนาจก็ถูกตำรวจจับ เพราะถูกโตมรให้การซักทอดว่าเป็นคนจ้างวาน ส่วนดำรงก็ถูกครูสันติส่งตัวไปรักษาที่อำเภอ ผลปรากฏว่าเส้นสมองที่ถูกกระเทือนทำให้ดำรงสูญเสียความทรงจำ หมอไพลินรีบเดินทางมาดูอาการของดำรงทันทีที่รู้เรื่อง เธอพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้ความจำของดำรงกลับมาแต่ก็ไม่สำเร็จ สุดท้ายเธอจึงพาเขาไปยังศาลเพียงตาของเจ้าพ่อที่เธอเคยแกล้งถูกผีเข้า สถานที่ที่ดำรงเคยบอกรักและสาบานว่าจะเป็นสามีที่ดีของเธอในอนาคต ไพลินก้มลงกราบอธิษฐานและสาบานว่าจะเป็นภรรยาที่ดีของดำรงไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ แม้ว่าเขาจะจำอะไรไม่ได้ก็ตาม และแล้วปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้น เมื่อดำรงเรียกชื่อหมอไพลินออกมาอย่างน่าอัศจรรย์
สองปีต่อมา บ้านท่าสำเริงได้รับรางวัลจากภาครัฐยกย่องให้เป็นชุมชนดีเด่นแห่งปี ดำรงได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นกำนัน และภารกิจแรกของเขาก็คือนำชาวบ้านท่าสำเริงกว่าร้อยชีวิต ยกขบวนขันหมากไปสู่ขอไพลินที่กรุงเทพฯ
คืนแรกที่ไพลินมาถึง เธอได้ดื่มเหล้าป่าที่ชาวบ้านเอามาเลี้ยงต้อนรับจนเมา และแสดงกริยาโลดโผน ดำรงวางแผนที่จะไล่ไพลินไปจากหมู่บ้าน เพื่อที่ทางอำเภอจะได้ส่งแพทย์คนใหม่มาแทน แต่แผนการณ์ของดำรงก็ไม่เคยประสบผลสำเร็จ เพราะไพลินเป็นคนหัวดื้อ ยิ่งดำรงต่อต้านหญิงสาวก็ยิ่งฮึดสู้ ความไม่ลงรอยกันระหว่างไพลินกับดำรงทำให้เริ่มมีการแบ่งพรรคแบ่งฝ่ายกันในหมู่บ้าน ผู้ที่อยู่ฝ่ายดำรงประกอบไปด้วย กิมลั้ง (ปารีณา บุศยศิริ) ลูกสาว เจ๊เฮี๊ยบ (ดารณีนุช ปสุตนาวิน) เจ้าของร้านกาแฟ ที่แอบปลื้มดำรงมาตั้งแต่สมัยเรียนประถม กับ คเชนทร์ (ศุภชัย สุวรรณอ่อน) คนขับรถสองแถว และ ละไม (อรรณพ ทองบริสุทธิ์) โฆษกประจำหมู่บ้านที่เป็นทั้งเพื่อนและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านของดำรง
ส่วนฝ่ายหมอไพลินนั้นก็มี สันติ (สรวิชญ์ สุบุญ) คุณครูหนุ่ม และ สมาน (เกรียงไกร อุณหะนันท์) พ่อของดำรงที่เอ็นดูไพลินมาก รวมไปถึง มะลิ (พริมา พันธุ์เจริญ) น้องสาวของดำรง ที่เทิดทูนไพลินเป็นต้นแบบถึงขั้นไปสมัครเป็นพยาบาลอาสาเพื่อมาช่วยงานไพลิน
ปัญหาในสถานีอนามัยทำให้ไพลินเกือบถอดใจอยู่หลายครั้ง เพราะนอกจากสถานที่จะทรุดโทรมยังขาดแคลนอุปกรณ์การแพทย์ที่จำเป็นหลายอย่าง และชาวบ้านก็งมงายเชื่อเรื่องผีสางนางไม้มากกว่าเชื่อฟังหมอ ดำรงฉวยโอกาสนี้ร่วมมือกับเพื่อนๆ ปลอมตัวเป็นผีมาหลอกไพลิน แต่ไพลินจับได้จึงรวมหัวกับมะลิแกล้งทำเป็นถูกผีเข้า เพื่อหลอกให้ดำรงทำพิธีขอขมา
ดำรงโกรธมากที่ถูกไพลินหลอกให้เสียหน้า เขาจึงระเบิดอารมณ์ต่อว่าเรื่องที่เธอไม่มีคุณสมบัติความเป็นหมออย่างรุนแรง ในเวลาไล่เลี่ยกัน เสี่ยอำนาจ (ศานติ สันติเวชชกุล) ผู้มีอิทธิพลรายใหญ่ ซึ่งต้องการกว้านซื้อที่ของชาวบ้านก็ได้พยายามผูกมิตรกับหมอไพลิน เพื่อให้มาช่วยเหลืองานของตน ทำให้ดำรงยิ่งเข้าใจผิดไพลินมากขึ้นไปอีก แต่ระหว่างนั้นเองไพลินก็มีโอกาสช่วยเหลือเจ๊เฮี๊ยบเอาไว้จากอาการป่วย เธอแสดงฝีมือผ่าตัดช่วยคนไข้ให้รอดตายได้อย่างฉิวเฉียด วีรกรรมของหมอไพลินเป็นที่ประทับใจของทุกคนในหมู่บ้าน แต่ตัวเธอกลับต้องล้มป่วยเพราะตรากตรำกับการดูแลคนไข้
ดำรงจึงยอมสงบศึกกับไพลินเป็นการชั่วคราว เขาคอยดูแลเธอเป็นอย่างดีในช่วงที่เธอไม่สบาย ขณะที่ชาวบ้านก็ส่งตัวแทนมาขอบใจ ทำให้ไพลินเริ่มซาบซึ้งในวิชาชีพหมอ และเริ่มละอายในเป้าหมายของตัวเองที่เคยเหลวไหล ด้านเสี่ยอำนาจก็ไม่พอใจที่ไพลินไม่ยอมร่วมมือกับตน จึงวางแผนใส่ร้ายด้วยการส่งคนไปสลับยาในสถานีอนามัย จนทำให้มีชาวบ้านล้มป่วย และเมื่อมีคนไข้รายหนึ่งเสียชีวิตลงในขณะที่ไพลินยังไม่ทันได้รักษา เสี่ยอำนาจก็รีบให้ลูกน้องประโคมข่าวว่าหมอไพลินเป็นต้นเหตุ
แผนการดังกล่าวทำให้ไพลินเกือบถูกย้ายออกจากหมู่บ้าน แต่ดำรงกับเพื่อนๆ เกิดสงสัย จึงแอบขโมยศพของคนไข้ให้มะลิกับครูสันตินำไปชัณสูตรที่โรงพยาบาลในตัวเมืองจนพิสูจน์ได้ว่าคนไข้ไม่ได้ตายเพราะหมอไพลิน กิมลั้งที่หลงชอบดำรงเริ่มไม่พอใจที่ดำรงปกป้องหมอไพลิน จึงหาทางกลั่นแกล้งใส่ร้ายต่างๆ นานา หมอไพลินเลยแสร้งทำเป็นอ่อยดำรง ทำให้กิมลั้งหึงหวง ขณะที่ดำรงก็รู้สึกหวั่นไหวกับเสน่ห์ของไพลิน กิมลั้งร่วมมือกับ โตมร (สุรินทร คารวุตม์) ลูกน้องคนสนิทของเสี่ยอำนาจให้ฉุดไพลินมาข่มขืน แต่โชคดีที่ดำรงตามไปช่วยไว้ได้ทัน
ไพลินกับดำรงเริ่มรู้สึกดีๆ ต่อกันมากขึ้น ความผูกพันที่ไพลินกับดำรงมีต่อกันทำให้ชุมชนท่าสำเริงยิ่งแข็งแกร่ง สาธารณสุขของท่าสำเริงเริ่มเข้าที่เข้าทางไม่ขาดแคลนอุปกรณ์และยาเหมือนเมื่อก่อน ชาวบ้านอยู่ดีกินดีจึงไม่คิดขายที่ เพื่ออพยพไปอยู่ที่อื่นอีกต่อไป ทว่าเสี่ยอำนาจกลับต้องสูญเสียผลประโยชน์ เพราะเบื้องหลังการกว้านซื้อที่ดิน มีนักธุรกิจต่างชาติหนุนหลังอยู่ เนื่องจากสืบทราบว่ามีบ่อน้ำมันดิบจำนวนมหาศาลอยู่ใต้ธรณีของบ้านท่าสำเริง
เสี่ยอำนาจจึงใช้วิธีทวงหนี้จากชาวบ้าน ซึ่งส่วนใหญ่เคยกู้เงินจากเสี่ยอำนาจมาแล้วทั้งสิ้น ดำรงกับไพลินไม่ต้องการให้ชาวบ้านขายที่ จึงหาวิธีปลดหนี้ให้ชาวบ้านด้วยการจัดทำวงกลองยาวเฉพาะกิจเข้าไปประกวดในอำเภอจนได้รางวัลกลับมา ด้วยความแค้นเสี่ยอำนาจจึงส่งมือปืนไปเก็บดำรงและไพลินระหว่างเดินทางกลับหมู่บ้าน ทำให้ทั้งคู่ต้องหลบหนีไปกบดานด้วยกัน ส่งผลให้ความสัมพันธ์ยิ่งใกล้ชิดสนิทกันมากขึ้น
เมื่อเสี่ยอำนาจเห็นว่าแผนไม่สำเร็จ จึงสร้างสถานการณ์ขึ้นอีกครั้งด้วยการให้โตมรกับพวกปลอมตัวเป็นโจรไปปล้นชาวบ้าน หวังจะให้ชาวบ้านหวาดกลัวจนย้ายถิ่นฐานออกไป แต่ดำรงกับหมอไพลินและพวกชาวบ้านก็หาวิธีรับมือกับโจร ด้วยความสามัคคีผสมภูมิปัญญาท้องถิ่น ทำให้พวกของเสี่ยอำนาจต้องพ่ายแพ้กลับไป ผลจากการต่อสู้กับพวกโจรนอกจากจะทำให้ชาวบ้านสามัคคีกันมากขึ้นแล้ว ยังทำให้มะลิกับครูสันติได้กลายเป็นคู่รักกันอีกด้วย
เสี่ยอำนาจเจ็บใจที่ตกเป็นฝ่ายแพ้ จึงอาศัยกิมลั้งให้ช่วยสร้างสถานการณ์อีกครั้ง โดยยักยอกเงินจากสหกรณ์ของชาวบ้านที่หมอไพลินดูแลอยู่ เพื่อหลอกให้ทุกคนเข้าใจว่าที่หมอไพลินช่วยเหลือชาวบ้านมาตลอดนั้นก็เพราะหวังเงิน ชาวบ้านจึงกดดันดำรงให้ขับไล่หมอไพลินออกไป ประกอบกับทิวาที่ทราบข่าวได้เดินทางมาเยี่ยมหมอไพลิน กิมลั้งจึงเป่าหูดำรงให้หึงหวงไพลินจนทะเลาะกัน
ไพลินตัดสินใจย้ายออกจากบ้านท่าสำเริงเพื่อยุติปัญหา ทิวาเลิกรากับขวัญตาแล้ว จึงคิดจะกลับมาหาไพลินอีกครั้งแต่ไพลินไม่ได้รักทิวาแล้ว ไพลินปฏิเสธทิวาอย่างไร้เยื่อใย เพราะเธอได้ตระหนักแล้วว่าที่ผ่านมาเธอรักทิวาเพราะความหล่อและความรวยเท่านั้น
แม้คนในหมู่บ้านจะเริ่มตาสว่างว่าหมอไพลินถูกใส่ร้าย และเกลี้ยกล่อมให้ดำรงไปตามหมอไพลินกลับมา แต่ดำรงก็ยังอิดออดไม่ยอมไปง่ายๆ เพราะคิดว่าตนทำผิดต่อไพลินมากจนยากที่อีกฝ่ายจะให้อภัย เสี่ยอำนาจฉวยโอกาสนั้นส่งคนไปเผาสถานีอนามัยบ้านท่าสำเริง เพื่อปิดทางไม่ให้ไพลินกลับมาได้อีก ดำรงจับโตมรที่เป็นคนวางเพลิงได้สำเร็จ แต่ขื่อไม้อันใหญ่ก็ได้ร่วงมาทับที่ศรีษะของดำรง
เสี่ยอำนาจก็ถูกตำรวจจับ เพราะถูกโตมรให้การซักทอดว่าเป็นคนจ้างวาน ส่วนดำรงก็ถูกครูสันติส่งตัวไปรักษาที่อำเภอ ผลปรากฏว่าเส้นสมองที่ถูกกระเทือนทำให้ดำรงสูญเสียความทรงจำ หมอไพลินรีบเดินทางมาดูอาการของดำรงทันทีที่รู้เรื่อง เธอพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้ความจำของดำรงกลับมาแต่ก็ไม่สำเร็จ สุดท้ายเธอจึงพาเขาไปยังศาลเพียงตาของเจ้าพ่อที่เธอเคยแกล้งถูกผีเข้า สถานที่ที่ดำรงเคยบอกรักและสาบานว่าจะเป็นสามีที่ดีของเธอในอนาคต ไพลินก้มลงกราบอธิษฐานและสาบานว่าจะเป็นภรรยาที่ดีของดำรงไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ แม้ว่าเขาจะจำอะไรไม่ได้ก็ตาม และแล้วปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้น เมื่อดำรงเรียกชื่อหมอไพลินออกมาอย่างน่าอัศจรรย์
สองปีต่อมา บ้านท่าสำเริงได้รับรางวัลจากภาครัฐยกย่องให้เป็นชุมชนดีเด่นแห่งปี ดำรงได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นกำนัน และภารกิจแรกของเขาก็คือนำชาวบ้านท่าสำเริงกว่าร้อยชีวิต ยกขบวนขันหมากไปสู่ขอไพลินที่กรุงเทพฯ