ละคร/ซีรีส์ ชุมแพ
ดู 3,403 ครั้ง /
แชร์
ละครออกอากาศ | วันจันทร์ วันอังคาร วันพุธ วันพฤหัส วันศุกร์ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ช่องที่ออกอากาศ | ละครช่อง 3 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เริ่มออกอากาศ | 7 มกราคม 2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เวลาออกอากาศ | 19:05 - 20:05 น. |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
กำกับโดย | วีระชัย รุ่งเรือง | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ประพันธ์โดย | ศักดิ์ สุริยา | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
นำแสดงโดย | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ผู้สร้าง | บริษัท สเต็ป เพาเวอร์ทรี จำกัด |
ภาพนิ่งจากละคร
เรื่องย่อ ชุมแพ
เพิก ชุมแพ (เด่นคุณ งามเนตร) ปรากฏตัวที่ท่ารถเมล์ชุมแพ หลังจากหายไป 10 ปี โพน ภูเวียง (กิตติธัช ประดับ) ด้วง เดชอุดม และ บุ้ง บางพลี สามนักเลงอันธพาลลูกน้อง จ่าบุญถม (ชาติชาย งามสรรพ์) รุมเล่นงานเพิกที่ท่ารถเมล์ แววดาว (ลักษณ์นารา เปี้ยทา) เจ้าของร้านเสริมสวยเคลื่อนที่ นั่งรถตู้ขนอุปกรณ์เสริมสวยมากับ เฉียบ (สราวุฒิ พุ่มทอง) ผู้ช่วยควบตำแหน่งคนขับรถของแววดาวมาเจอเหตุการณ์เข้าพอดี ชาวบ้านต่างมุงดูอยู่ห่างๆ ไม่มีใครกล้าเข้าไปห้ามหรือแจ้งตำรวจ
เพิกสั่งสอนโพน ด้วง บุ้งจนหมอบ โกก (ต๋อง ชวนชื่น) กระเป๋ารถเมล์ประจำท่ารถเมล์ตะโกนบอกว่ามีรถตำรวจมาเรื่องจึงยุติลง เพิกปัดฝุ่นตามตัวและคว้ากระเป๋าเดินไปนั่งสามล้อของ เหม็น (ชนินสิทธิ์ กิตติชัยศรีสกุล) อย่างใจเย็น แววดาวมองตามรถสามล้อที่เพิกนั่งไปอย่างนึกหมั่นไส้และประหลาดใจที่ชายคนนี้กล้าต่อกรกับคนของเจ้าพ่อชุมแพ เหม็นขับรถสามล้อมาส่งเพิกที่บ้าน ลุงพลอย (เดวิด อัศวนนท์) เฒ่าขี้เมาประจำอำเภอด้วยความตื่นเต้น ลุงพลอยแทบไม่เชื่อสายตาว่าจะได้พบหน้าเพิกอีกครั้ง เพิกกอดลุงพลอยผู้เปรียบเสมือนญาติเพียงคนเดียว
10 ปีที่แล้ว มีข่าวว่ากรมทางหลวงจะสร้างถนนสายหล่มสัก-ชุมแพเชื่อมต่อกับถนนมะลิวัลย์ เพื่อเปิดเส้นทางให้ภาคอีสานและภาคเหนือเดินทางสะดวกขึ้น พัน พ่อของเพิกเป็นผู้ได้รับสัมปทานเส้นทางเดินรถระหว่างชุมแพ-ขอนแก่น และเป็นเจ้าของที่ดินมากมายในชุมแพถูกยิงตายปริศนา ลุงพลอยเพื่อนสนิทของพันกับเหม็นช่วยกันแบกศพพันไปทำพิธีที่วัดศรีธาตุโดยไม่มีชาวบ้านมาร่วมงานศพเลย ในคืนเดียวกันนั้นบ้านพันถูกเผา เพิกเห็นตัวร้ายที่วางเพลิงจึงถูกตามฆ่าปิดปากแต่ลุงพลอยช่วยเพิกให้หนีรอดไปได้ ตำรวจไม่สามารถจับตัวคนร้ายที่ฆ่าพันและเผาบ้านพันได้ ไม่มีหลักฐานหรือพยานและไม่มีชาวบ้านคนใดให้เบาะแสของเรื่องนี้ เพราะทุกคนต่างเกรงกลัวอิทธิพลมืดที่ครอบงำชุมแพ
เมื่อเพิกหายตัวไปจากชุมแพ จ่าถมได้รับสัมปทานเส้นทางเดินรถแทนพัน และได้ครอบครองที่ดินไร่สวนของพันทั้งหมด เพิกบอกลุงพลอยกับเหม็นว่าเขาจะกลับมาทวงแค้นในอดีต มาตามหาตัวฆาตกรที่ฆ่าพ่อ และเอาทุกอย่างที่เป็นของเขากลับคืนมา เพิกมั่นใจว่าคนชั่วที่ฆ่าพ่อเขาคือจ่าถม ลุงพลอยบอกให้เพิกลืมความแค้นแล้วออกไปจากชุมแพก่อนที่จะตายแบบพัน เพิกยิ้มกริ่มในเมื่อกฎหมายทำอะไรคนชั่วไม่ได้ เขาก็จะใช้กฎโจรล้างโจร เพิกประกาศจะขึ้นมาเป็นใหญ่ในชุมแพเป็นเจ้าพ่อชุมแพแทนจ่าถม
ผู้กองไชโย วีรพล (ปวิช เวียงนนท์) สอบปากคำโพน ด้วง บุ้ง ด้วยตัวเอง ทั้งสามให้การตรงกันว่าเพิกเป็นนักเลงอันธพาลที่เคยก่อเรื่องไปทั่วชุมแพก่อนจะหนีคดีไปอยู่ที่อื่น เมื่อผู้กองสอบถามชาวบ้านในบริเวณนั้นเพื่อเป็นพยาน ชาวบ้านทุกคนพากันปฏิเสธไม่รู้ไม่เห็นสร้างความสงสัยให้ผู้กองเป็นอย่างมาก เพิกให้เหม็นพาไปเที่ยวที่ซ่องดังในเขตหัวหนอง ย่านค้ามนุษย์และค้าประเวณี เพื่อไปหา ลิ่ว (ปราบต์ปฎล สุวรรณบาง)ลูกน้องมือขวาของจ่าถม สามี เจ๊หงส์ (นุศรา ประวันณา) เจ้าของซ่องบัวบาน เพราะลิ่วคือคนเผาบ้านเพิกเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เจ๊หงส์ไม่ยอมบอกว่าลิ่วอยู่ที่ไหนและไล่เพิกออกไปจากซ่อง เพิกไม่ยอมกลับจนกว่าจะได้เจอลิ่ว แลง (ศรัณย์ แก้วจินดา) ลูกชายเจ๊หงส์อริเก่าของเพิกจึงพาลูกน้องมารุมจัดการเพิก ผู้กองไชโยได้รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาทที่ซ่อง ทันทีที่ผู้กองไชโยกับ จ่างึม (จาตุรงค์ โกลิมาศ) มาถึงที่เกิดเหตุก็เจอแลงกับลูกน้องโดนซ้อมสะบักสะบอม เพิกอาศัยความหล่อและปากหวานให้สาวๆ พาหนีออกทางด้านหลังซ่อง
ผู้กองไชโย เป็นตำรวจหนุ่มตงฉินย้ายมารับตำแหน่งผู้บังคับกองสถานีตำรวจภูธรชุมแพ เมืองศูนย์การค้าของป่าและพืชพันธุ์ธัญญาหาร ศูนย์กลางการเดินรถหลายสาย ทำให้เกิดการแก่งแย่งช่วงชิงจากคนบางกลุ่ม ผู้กองไชโยประกาศต่อสู้กับผู้มีอิทธิพลที่รีดไถชาวบ้าน รับสินบนจากเงินสัมปทานเดินรถ เงินเปิดบ่อนการพนัน เงินเปิดซ่อง ทำให้ชาวบ้านหลายคนแอบหวังว่าชุมแพจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น การปรากฏตัวของเพิกและก่อเหตุสองครั้งในเวลาไล่เลี่ยกันจึงทำให้ผู้กองไชโยคิดว่าเพิกคือนักเลงที่จะมาลูบคมเขาอีกคน
เพิกสั่งสอนโพน ด้วง บุ้งจนหมอบ โกก (ต๋อง ชวนชื่น) กระเป๋ารถเมล์ประจำท่ารถเมล์ตะโกนบอกว่ามีรถตำรวจมาเรื่องจึงยุติลง เพิกปัดฝุ่นตามตัวและคว้ากระเป๋าเดินไปนั่งสามล้อของ เหม็น (ชนินสิทธิ์ กิตติชัยศรีสกุล) อย่างใจเย็น แววดาวมองตามรถสามล้อที่เพิกนั่งไปอย่างนึกหมั่นไส้และประหลาดใจที่ชายคนนี้กล้าต่อกรกับคนของเจ้าพ่อชุมแพ เหม็นขับรถสามล้อมาส่งเพิกที่บ้าน ลุงพลอย (เดวิด อัศวนนท์) เฒ่าขี้เมาประจำอำเภอด้วยความตื่นเต้น ลุงพลอยแทบไม่เชื่อสายตาว่าจะได้พบหน้าเพิกอีกครั้ง เพิกกอดลุงพลอยผู้เปรียบเสมือนญาติเพียงคนเดียว
10 ปีที่แล้ว มีข่าวว่ากรมทางหลวงจะสร้างถนนสายหล่มสัก-ชุมแพเชื่อมต่อกับถนนมะลิวัลย์ เพื่อเปิดเส้นทางให้ภาคอีสานและภาคเหนือเดินทางสะดวกขึ้น พัน พ่อของเพิกเป็นผู้ได้รับสัมปทานเส้นทางเดินรถระหว่างชุมแพ-ขอนแก่น และเป็นเจ้าของที่ดินมากมายในชุมแพถูกยิงตายปริศนา ลุงพลอยเพื่อนสนิทของพันกับเหม็นช่วยกันแบกศพพันไปทำพิธีที่วัดศรีธาตุโดยไม่มีชาวบ้านมาร่วมงานศพเลย ในคืนเดียวกันนั้นบ้านพันถูกเผา เพิกเห็นตัวร้ายที่วางเพลิงจึงถูกตามฆ่าปิดปากแต่ลุงพลอยช่วยเพิกให้หนีรอดไปได้ ตำรวจไม่สามารถจับตัวคนร้ายที่ฆ่าพันและเผาบ้านพันได้ ไม่มีหลักฐานหรือพยานและไม่มีชาวบ้านคนใดให้เบาะแสของเรื่องนี้ เพราะทุกคนต่างเกรงกลัวอิทธิพลมืดที่ครอบงำชุมแพ
เมื่อเพิกหายตัวไปจากชุมแพ จ่าถมได้รับสัมปทานเส้นทางเดินรถแทนพัน และได้ครอบครองที่ดินไร่สวนของพันทั้งหมด เพิกบอกลุงพลอยกับเหม็นว่าเขาจะกลับมาทวงแค้นในอดีต มาตามหาตัวฆาตกรที่ฆ่าพ่อ และเอาทุกอย่างที่เป็นของเขากลับคืนมา เพิกมั่นใจว่าคนชั่วที่ฆ่าพ่อเขาคือจ่าถม ลุงพลอยบอกให้เพิกลืมความแค้นแล้วออกไปจากชุมแพก่อนที่จะตายแบบพัน เพิกยิ้มกริ่มในเมื่อกฎหมายทำอะไรคนชั่วไม่ได้ เขาก็จะใช้กฎโจรล้างโจร เพิกประกาศจะขึ้นมาเป็นใหญ่ในชุมแพเป็นเจ้าพ่อชุมแพแทนจ่าถม
ผู้กองไชโย วีรพล (ปวิช เวียงนนท์) สอบปากคำโพน ด้วง บุ้ง ด้วยตัวเอง ทั้งสามให้การตรงกันว่าเพิกเป็นนักเลงอันธพาลที่เคยก่อเรื่องไปทั่วชุมแพก่อนจะหนีคดีไปอยู่ที่อื่น เมื่อผู้กองสอบถามชาวบ้านในบริเวณนั้นเพื่อเป็นพยาน ชาวบ้านทุกคนพากันปฏิเสธไม่รู้ไม่เห็นสร้างความสงสัยให้ผู้กองเป็นอย่างมาก เพิกให้เหม็นพาไปเที่ยวที่ซ่องดังในเขตหัวหนอง ย่านค้ามนุษย์และค้าประเวณี เพื่อไปหา ลิ่ว (ปราบต์ปฎล สุวรรณบาง)ลูกน้องมือขวาของจ่าถม สามี เจ๊หงส์ (นุศรา ประวันณา) เจ้าของซ่องบัวบาน เพราะลิ่วคือคนเผาบ้านเพิกเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เจ๊หงส์ไม่ยอมบอกว่าลิ่วอยู่ที่ไหนและไล่เพิกออกไปจากซ่อง เพิกไม่ยอมกลับจนกว่าจะได้เจอลิ่ว แลง (ศรัณย์ แก้วจินดา) ลูกชายเจ๊หงส์อริเก่าของเพิกจึงพาลูกน้องมารุมจัดการเพิก ผู้กองไชโยได้รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาทที่ซ่อง ทันทีที่ผู้กองไชโยกับ จ่างึม (จาตุรงค์ โกลิมาศ) มาถึงที่เกิดเหตุก็เจอแลงกับลูกน้องโดนซ้อมสะบักสะบอม เพิกอาศัยความหล่อและปากหวานให้สาวๆ พาหนีออกทางด้านหลังซ่อง
ผู้กองไชโย เป็นตำรวจหนุ่มตงฉินย้ายมารับตำแหน่งผู้บังคับกองสถานีตำรวจภูธรชุมแพ เมืองศูนย์การค้าของป่าและพืชพันธุ์ธัญญาหาร ศูนย์กลางการเดินรถหลายสาย ทำให้เกิดการแก่งแย่งช่วงชิงจากคนบางกลุ่ม ผู้กองไชโยประกาศต่อสู้กับผู้มีอิทธิพลที่รีดไถชาวบ้าน รับสินบนจากเงินสัมปทานเดินรถ เงินเปิดบ่อนการพนัน เงินเปิดซ่อง ทำให้ชาวบ้านหลายคนแอบหวังว่าชุมแพจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น การปรากฏตัวของเพิกและก่อเหตุสองครั้งในเวลาไล่เลี่ยกันจึงทำให้ผู้กองไชโยคิดว่าเพิกคือนักเลงที่จะมาลูบคมเขาอีกคน