ละคร ทหารหญิง หัวใจแหวว

ดู 7,243 ครั้ง / แชร์
ช่องที่ออกอากาศ ละครช่อง 7
เริ่มออกอากาศ 4 เมษายน 2551
เวลาออกอากาศ 18:45 - 19:30 น.
  
กำกับโดย ประยูร วงศ์ชื่น
ประพันธ์โดย อมรศรี เย็นสำราญ
นำแสดงโดย
รพีภัทร เอกพันธ์กุล ... ปกป้อง แดนไทย
ธัญยกันต์ ธนกิตติ์ธนานนท์ ... เคียงเดือน เจิดจ้า
ไพโรจน์ ใจสิงห์ ... พล.ท.เกรียงไกร แดนไทย
ดนัย ตันธนะศิริวงศ์ ... แสงสนิทฝังใจ
กนกวรรณ ธนันไชย ... สุนทรี อ่อนโยน
รัชชานนท์ ตั้งไพบูลย์ ... อัครเดช รุ่งเรือง
กชมาศ พรหมสาขา ณ สกลนคร ... รื่นรมย์ ยินดี
ธนพัฒน์ พัฒนภักดี ... อ่ำ อำทุกเรื่อง

ภาพนิ่งจากละคร

เรื่องย่อ ทหารหญิง หัวใจแหวว

สิบเอกศักดิ์ศรีตำแหน่งพลปืนกลเบา (เอ็ม 26) ประจำหน่วยลาดตระชายแดน โดยมี พันโทเกรียงไกร เป็นผู้บังคับกองพัน ความสัมพันธ์ระหว่างนายกับลูกน้องคู่นี้เหตุเกิดจากการสู้รบที่ชายแดน เมื่อผู้พันเกรียงไกรได้นำกำลังทหารเข้าทำการผลักดันกองกำลังต่างชาติที่ได้ล่วงล้ำเข้ามาในเขตแดนไทยออกไป แต่ผู้พันเกรียงไกรได้เพรี่ยงพร้ำแก่ข้าศึกตกอยู่ในวงล้อมของข้าศึก เหตุการณ์คับขันยากที่จะแก้ไขสถานการณ์ได้ ถ้าไม่ได้นักรบที่มีหัวใจบ้าบิ่นที่มีชื่อสิบเอกศักดิ์ศรี ซึ่งเป็นผู้บังคับหมู่พลปืนกลเบานำทหารตีฝ่าวงล้อมเข้าไปช่วยชีวิตนายออกมาได้อย่างปลอดภัย สร้างความประทับใจให้แก่ผู้บังคับกองพันอย่างพันโทเกรียงไกรอย่างไม่รู้ลืม

เมื่อพันโทเกรียงไกรได้ถูกย้ายเข้ามารับตำแหน่งเป็นผู้บังคับกองพันในกรุงเทพฯ จึงได้ทำเรื่องย้ายสิบเอกศักดิ์ศรีมาอยู่ด้วย หน้าที่และตำแหน่งของพันโทเกรียงไกรก้าวหน้าเป็นลำดับ เช่นเดียวกับหมู่ศักดิ์ศรีก็ได้รับตำแหน่งขึ้นเช่นเดียวกันกับนาย เพราะได้รับการสนับสนุนเต็มที่จากพันโทเกรียงไกร วิถีชีวิตเริ่มหักเหเมื่อผู้พันเกรียงไกรได้รับตำแหน่งเป็นผู้บังคับการต้องย้ายไปประจำการที่โรงเรียนนายร้อย หมู่ศักดิ์ศรีได้รับยศเป็นจ่ากองร้อยไม่สามารถย้ายตามไปได้ ความห่างเหินเริ่มห่างออกไปตามกาลเวลา ท่านผู้บังคับการมีตำแหน่งหน้าที่ก้าวไกลตามความสามารถ

ส่วนจ่าศักดิ์ศรีความก้าวหน้าเริ่มหยุดนิ่งตามอุปนิสัยที่แข็งไม่ยอมคน มีเรื่องความขัดแย้งต่างๆ ได้พยายามเอาไปปรึกษานายเก่าก็ไม่ได้รับความช่วยเหลือเหมือนอย่างที่ตั้งใจ เนื่องมาจากคุณนายของผู้การเกรียงไกรไม่ค่อยชอบหน้าจ่าศักดิ์ศรีเท่าใดนัก จ่าศักดิ์ศรีเริ่มท้อแท้หมดกำลังใจหันมาดื่มเหล้าปลอบใจชีวิตก็เริ่มตกต่ำ นายเก่าซึ่งได้รับตำแหน่งใหญ่โตขึ้นเป็นถึงพลโทแล้วได้เรียกเข้าไปตักเตือนหลายครั้งด้วยความหวังดี แต่ว่าจ่าศักดิ์ศรีกลับคิดว่านายเก่าเรียกไปดุด่าจึงมีความเสียใจมากขึ้น หันไปพึ่งยาเสพติด ถึงแม้เมียอันเป็นที่รักและลูกสาวจะเฝ้าอ้อนวอนขอร้องอย่างไรก็ไร้ผลไม่สามารถดึงจ่าศักดิ์ศรีขึ้นมาจากขุมนรกของยาบ้าได้ จนกระทั่งผู้บังคับบัญชาจับได้จึงให้ออกจากราชการ

ชีวิตของจ่าศักดิ์ศรีเริ่มตกต่ำยิ่งขึ้นเมื่อถูกออกจากราชการ แต่ด้วยหัวใจของคนที่เคยเป็นนักรบ บ้าบิ่นมาก่อน ประกอบกับกำลังใจที่เมียและลูกคอยให้กำลังใจมาตลอด จ่าศักดิ์ศรีจึงตัดใจหักดิบเลิกยาเสพติดอย่างเด็ดขาด จ่าศักดิ์ศรีจะตกระกำลำบากปานใดเขาไม่เคยบ่นสู้ทนขับแท็กซี่คู่ใจหาเลี้ยงครอบครัว หวังส่งเสียให้ลูกสาวได้เล่าเรียนสูงๆ เพื่อกอบกู้ความผิดของตนที่คิดพลาดไปอย่างไม่มีวันเรียกร้องคืนได้อีก ส่วนประนอมเมียของเขาก็ไม่เคยย่อท้อทำขนมขายเป็นการหารายได้เสริมให้ครอบครัวมีรายได้เพิ่มขึ้น

เคียงเดือน ลูกสาวคนเดียวของอดีตจ่าทหารนอกราชการที่ถูกปลดเพราะไปติดยาเสพติด มีความแค้นฝังใจกับพวกค้ายาเสพติดที่ทำให้ครอบครัวต้องลำบากจึงตัดสินใจไปสมัครเรียนเป็นนักศึกษาวิชาทหาร หวังว่าในอนาคตจะไปสมัครสอบเข้าทหารหรือตำรวจอาชีพ เพื่อหวังเข้าไปปราบปรามพวกค้ายาให้หมดไปจากประเทศให้ได้ เมื่อได้เข้าไปเรียนในศูนย์ฝึกกำลังสำรองแล้วได้พบเพื่อนที่มีอุดมการณ์เดียวกันอีกหลายคน

โรงเรียนฝึกกำลังสำรองได้นำนักศึกษาหญิงชั้นปีที่ 2 เดินทางไปสอบภาคปฏิบัติที่ศูนย์ฝึกกำลังสำรองที่เขาชนไก่ จังหวัดกาญจนบุรีเป็นครั้งแรก ขบวนรถนักศึกษาหญิงได้ร่วมขบวนสมทบกับนักศึกษาชายเดินทางไปถึงอนุสรณ์สถานประวัติศาสตร์สงคราม 9 ทัพ แห่งทุ่งลาดหญ้า คณะนายทหารได้นำนักเรียนชายหญิงเยี่ยมชมภายในอนุสรณ์สถานและให้นักเรียนได้ฟังวิทยากรบรรยายถึงดินแดนประวัติศาสตร์ ถึงเรื่องราวในครั้งที่พม่าได้ยกทัพเข้ามาทางด้านด่านเจดีย์สามองค์เป็นจำนวนแสนๆ คน พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ได้สั่งให้แม่ทัพของพระองค์นำกำลังเพียง 2 หมื่นนายไปยันข้าศึกเอาไว้ก่อน

เมื่อวิทยากรได้บรรยายมาถึงตอนนี้ทำให้เคียงเดือนกับเพื่อนที่นั่งฟังด้วยความสนใจเกิดมีความประทับใจไปกับวีรบุรษผู้กล้าหาญในอดีตทำให้เกิดจินตนาการเป็นภาพของนักรบไทยในอดีตที่ต่อสู้กับทหารพม่าบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก ปกป้องกับเพื่อนนักศึกษาชายได้ร่วมนั่งฟังบรรยายอยู่ด้วย ปกป้องได้จ้องหน้าเคียงเดือนที่นั่งเอามือปาดน้ำตาที่ไหลนองหน้า เคียงเดือนเหลือบมองปกป้องเห็นจ้องมองตนอยู่จึงหลบสายตาด้วยความเขินอาย

ช่วงการฝึกภาคสนามที่เขาชนไก่เป็นช่วงฤดูหนาว แต่อากาศที่ทุ่งลาดหญ้านั้นไม่ใช่เพียงแต่หนาวอย่างเดียว อุณหภูมิเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา กลางวันร้อนตับแทบแตก กลางคืนกลับหนาวกระดูกแทบร้าว บางวันฝนตกแทบไม่ลืมหูลืมตา นักศึกษาชายหญิงล้มป่วยเป็นไข้กันมากมาย รวมทั้งเคียงเดือนและปกป้องด้วย ทั้งสองได้มีโอกาสได้เจอกันอีกครั้งจึงได้ปรับทุกข์ถึงวิธีการฝึกของครูฝึกที่ค่อนข้างโหด ปกป้องในฐานะเป็นลูกชายนายทหารใหญ่เข้าใจยุทธวิธีการฝึกของครูฝึกเป็นอย่างดี

จึงอธิบายให้เคียงเดือนเข้าใจว่าครูไม่ใช่อยากจะลงโทษนักศึกษาที่ผิดระเบียบวินัยเพียงอย่างเดียว แต่ครูฝึกต้องการให้ลูกศิษย์รู้จักมีความเข้มแข็งในด้านจิตใจด้วย เมื่อต้องไปมีอาชีพการงานจะได้มีจิตใจเข้มแข็งรู้จักมีความอดทนอดกลั้นต่อไปในอนาคต เคียงเดือนจึงมีความสนิทสนมกับปกป้องมากเป็นพิเศษ พร้อมกลุ่มเพื่อนๆ นักศึกษาในกลุ่มของเคียงเดือนก็มีความสนิทสนมกับกลุ่มของเพื่อนๆ ปกป้องเช่นเดียวกัน

หลังจากการฝึกภาคปฏิบัติที่เขาชนไก่แล้ว ปกป้องและเคียงเดือนพร้อมกลุ่มเพื่อนๆ ต่างมีความสนิทสนมกันมากยิ่งขึ้น จนกลายเป็นความรักความเห็นใจ เมื่อปกป้องได้รู้ถึงความตั้งใจของเคียงเดือนที่มีความกดดันในเรื่องที่ต้องมาเรียน รด. เนื่องจากพ่อต้องถูกปลดจากราชการเพราะยาบ้าเป็นต้นเหตุ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมายามใดที่เคียงเดือนมีเรื่องทุกข์ใจหรือท้อแท้ ปกป้องจะคอยเป็นที่ปรึกษาให้กำลังใจตลอดเวลา

มีอยู่ช่วงหนึ่งที่นักศึกษาวิชาทหารหญิงต้องเข้าไปฝึกภาคสนามที่จังหวัดกาญจนบุรี ปกป้องกับเพื่อนๆ ได้เรียนวิชาทหารถึงปีสุดท้าย (ปี 5) ส่วนเคียงเดือนได้เรียนมาถึงปีที่ 4 ทั้ง 2 ชั้นเรียนได้ไปฝึกภาคสนามที่เขาชนไก่อีกครั้ง ฝึกวิชาดำรงตนอยู่ในป่า ไม่มีอาหารกินต้องช่วยเหลือตัวเองด้วยการหาอาหารป่า หรือจับสัตว์ที่จะพอหาได้มาปะทังชีวิตเพื่อให้อยู่รอด ต้องจับงูหรือแย้มาฆ่ากิน ด้วยความเป็นห่วงว่าเคียงเดือนจะลำบาก ปกป้องจึงแหกกฎปลอมตัวเป็นนักศึกษาหญิงเข้าไปในแดนของนักศึกษาหญิง เป็นช่วงที่ครูฝึกได้นำงูมาปล่อยเพื่อทดสอบใจนักศึกษาหญิง แต่งูได้เลื้อยไปหาปกป้อง ปกป้องตกใจวิ่งหนีกระเจิดกระเจิงจนครูฝึกจับได้ว่าเป็นผู้ชายปลอมตัวเข้ามาในแดนของนักศึกษาหญิง จึงทำโทษปกป้องภายหลังว่า ปกป้องยอมเสี่ยงเข้ามาเพื่อจะนำอาหารมาให้เคียงเดือนด้วยความเป็นห่วง ยิ่งสร้างความประทับใจให้กับเคียงเดือนที่มีกับปกป้องมากเป็นพิเศษ

ความสนิทสนมรักใคร่ระหว่าง ปกป้อง กับ เคียงเดือน ได้รู้ถึงจ่าศักดิ์ศรี จึงถูก จ่าศักดิ์ศรีขัดขวางความรักของคนทั้งสองอย่างหนัก เมื่อจ่าศักดิ์ได้รู้ว่าปกป้องเป็นลูกของเจ้านายเก่าของตน ซึ่งรู้ดีว่าความรักของคนทั้งสอง ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะแต่งงานกัน เนื่องจากคุณหญิงแม่ของปกป้องไม่ชอบคนจนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และยิ่งถ้าได้รู้ว่ามาชอบกับลูกสาวของคนซึ่งเป็นลูกน้องเก่าด้วยแล้ว ยิ่งไม่มีทางที่จะเป็นไปได้อย่างเด็ดขาด จ่าศักดิ์ศรีจึงจำเป็นต้องตัดความสัมพันธ์ของคนทั้งสองเสียก่อนที่จะสายเกินไป ทั้งปกป้องและเคียวเดือนไม่รู้สาเหตุที่แท้จริง ที่จ่าศักดิ์ศรีกีดกันความรักของเขาทั้งสอง เนื่องจากเหตุผลใด เพราะจ่าศักดิ์ศรีไม่เคยเล่าให้ลูกสาวได้ฟังเลย ส่วนประนอมก็ไม่กล้าที่จะเล่าความจริงให้ลูกสาวได้ฟัง เนื่องจากจ่าศักดิ์ศรีห้ามบอกความจริงในอดีตให้ลูกสาวรู้เด็ดขาด

ปกป้องเมื่อถูกฝ่ายพ่อของเคียงเดือนกีดกันหวงห้ามก็ยิ่งอยากจะเอาชนะ โดยมีเพื่อนๆ ของปกป้องและเพื่อนๆ ของเคียงเดือนเป็นฝ่ายสนับสนุนให้มีการพบกันมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะหลังจากการฝึก รด. จนมาถึงงานวันเกิดของปกป้อง ได้ชวนเคียงเดือนไปในงานวันเกิดและได้แนะนำให้รู้จักกับท่านนายพลและคุณหญิง แม่ของปกป้องได้ถามถึงครอบครัวของเคียงเดือน ซึ่งปกป้องได้บอกความจริงถึงชื่อพ่อแม่ของเคียงเดือนให้คุณหญิงฟัง คุณหญิงแสดงความไม่พอใจออกมาอย่างเห็นได้ชัด

หลังจากวันนั้น คุณหญิงได้ไปที่บ้านของเคียงเดือน เมื่อได้พบกับ จ่าศักดิ์ศรี ลูกน้องเก่าของสามี จึงได้ให้จ่าศักดิ์ศรีห้ามปรามลูกสาวว่า อย่าทะเยอทะยานคิดไปเป็นลูกสะใภ้ตนเลยชาตินี้คงรับไม่ได้ สร้างความโกรธแค้นให้กับจ่าศักดิ์ศรีเป็นอย่างมาก และได้โต้ตอบกลับไปกับคุณหญิงว่า ให้ห้ามลูกชายของตัวเองให้ได้อย่าคิดว่ามีเงินแล้วจะซื้อผู้หญิงจนๆ อย่างลูกสาวตนได้ ต่างคนต่างใช้อารมณ์โต้เถียงกันอย่างรุนแรงจนคุณหญิงระงับอารมณ์ไม่อยู่ กล่าวอาฆาตจ่าศักดิ์ศรีด้วยความแค้นแล้วกลับไปอย่างหัวเสีย

เมื่อเคียงเดือนกลับจากโรงเรียนได้ถูกพ่อต่อว่าอย่างรุนแรงและห้ามลูกสาวไปพบกับปกป้องอย่างเด็ดขาด เคียงเดือนเสียใจมากกล่าวหาว่าพ่อเอาแต่อารมณ์ไร้เหตุผล ประนอมพยายามห้ามปรามลูกสาวไม่ให้ต่อปากต่อคำกับพ่อ ทำให้เคียงเดือนน้อยเนื้อต่ำใจกล่าวหาทั้งพ่อและแม่ว่าไม่รักตนไม่ยอมเข้าใจตน ประนอมพยายามจะอธิบายถึงความจริงให้ลูกรู้แต่ก็ถูกจ่าศักดิ์ศรีห้ามไว้เสียก่อน

กำแพงความรักของปกป้องกับเคียงเดือนถูกฝ่ายผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายตั้งป้อมขัดขวางมากขึ้นเป็นทวีคูณ แต่ก็เหมือนยิ่งเพิ่มดีกรีความรักความเห็นใจมากยิ่งขึ้น ประกอบกับได้รับแรงเชียร์จากเพื่อนๆ ของทั้งสองฝ่ายยิ่งทำให้ปกป้องและเคียงเดือนมีความพยายามจะทลายกำแพงความรักที่พ่อและแม่ได้ตั้งขึ้นให้จงได้ตามปรารถนา โดยปกป้องจะมีฝ่ายท่านนายพลคอยให้ท้ายลูกชาย ส่วนเคียงเดือนก็จะมีประนอมผู้รักลูกดั่งดวงใจเป็นกำลังใจคอยเชียร์อย่างลับๆ ไม่ให้สามีรู้ ความรักของปกป้องและเคียงเดือนจึงเหมือนอมตะนิยายรักน้ำเน่าถูกรีไซเคิลกลับมาอีกครั้งด้วยกลยุทธ์ศึกรักศึกรบฝุ่นตลบไปทั้งคนรักและคนเชียร์

ช่วงที่ไปฝึกภาคสนามที่ศูนย์ฝึกเขาชนไก่ เคียงเดือนและกลุ่มเพื่อนๆ 4 คนพลัดหลงทางเข้าไปในป่าลึก จนเป็นเหตุให้ผู้บังคับบัญชาต้องสั่งให้ครูฝึกจำนวนหนึ่งออกค้นหา เมื่อข่าวการเดินทางหลงป่าของเคียงเดือนได้รู้ไปถึงปกป้องที่ไปฝึกภาคสนามอยู่ที่เขาชนไก่ในช่วงเวลาเดียวกัน ปกป้องกับเพื่อนๆ จึงขออาสาไปกับครูฝึกด้วย เพื่อออกค้นหาเคียงเดือนกับนักศึกษาหญิงที่หายไป

เคียงเดือนกับเพื่อนๆ อีก 4 คนได้พลัดหลงเข้าไปในดินแดนของกระเหรี่ยงที่เป็นแหล่งผลิตยาเสพติด และถูกกลุ่มคนร้ายจับตัวเอาไว้ โดยคนร้ายคิดว่าเป็นสายสืบเข้าไปสืบจับยาเสพติด เมื่อหัวหน้ากระเหรี่ยงได้สอบสวนแล้วจึงรู้ว่าเป็นนักศึกษาวิชาทหาร หัวหน้ายิ่งมีความวิตกกังวลมาก ถ้าปล่อยกลับไปเกรงว่าจะนำข่าวแหล่งผลิตยาไปเปิดเผยได้ จึงคิดที่จะฆ่าปิดปากเสีย แต่เคียงเดือนได้พยายามพูดให้เหตุผลว่าถึงฆ่าพวกเธอไป หัวหน้าก็ไม่สามารถอยู่อย่างสบายได้ ถึงยังไงทางตำรวจก็ต้องออกตามล่าจนเจอแหล่งผลิตยาที่นี่แน่นอน สู้ปล่อยให้พวกเธอไปดีกว่า แล้วจะช่วยปิดเรื่องราวทั้งหมดให้เป็นความลับ หัวหน้าเริ่มลังเลใจ จึงสั่งให้ลูกน้องเอาพวกนักศึกษาไปขังไว้ชั่วคราวก่อน

ในช่วงที่เคียงเดือนกับพรรคพวกถูกกักขังอยู่นั้น รื่นรมย์ หนึ่งในกลุ่มได้ใช้เล่ห์มารยาหญิงตีสนิทให้ผู้คุมหลงเชื่อ เธอหลอกล่อจนตายใจแล้วให้เพื่อนๆ ตีผู้คุมจนสลบ จากนั้นทั้งหมดจึงรีบหลบหนีมา แต่ด้วยขาดประสบการณ์ในการเดินป่าจึงทำให้ทั้งหมดหลงทาง ไม่สามารถออกจากป่าแห่งนี้ได้

ปกป้อง และเพื่อนนักศึกษาชาย ได้ติดตามมาพบ จึงได้ช่วยกันรีบพาออกไปอย่างเร่งด่วน แต่ก็ไม่ทันรอดพ้นไปจากป่าได้ ในเมื่อหัวหน้ากระเหรี่ยง ได้ติดตามไล่ล่ามาทันพอดี จึงได้เกิดการปะทะกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ระหว่างการปะทะกันอยู่นั้นครูฝึกได้นำกำลังเข้ามาสมทบจนกระทั่งพวกเหล่าร้ายถอยร่นเข้าป่าไป

เคียงเดือน และกลุ่มเพื่อน แจ้งครูฝึกว่า พวกผู้ร้ายกลุ่มนี้ได้ตั้งแหล่งผลิตยาเสพติดอยู่ที่ชายแดนป่าลึก ขอให้รีบตามเข้าไปทำลายล้างด่วน มิฉะนั้นพวกคนร้ายจะขนย้ายแหล่งผลิตหนี ทางด้านครูฝึกและกำลังสนับสนุนจึงตามล่ากลุ่มคนร้ายไปตามคำบอกเล่าของเคียงเดือน จนกระทั่งเข้าล้อมจับกุมกระเหรี่ยงที่ตั้งโรงงานผลิตยาเสพติดไว้ได้ทั้งหมด

ผู้บัญชาการกองกำลังสำรอง กรมการรักษาดินแดนได้จัดงานรับขวัญกลุ่มนักศึกษาที่ถูกจับ พร้อมกล่าวยกย่องต่อหน้าเพื่อนนักศึกษาที่สนามฝึกกำลังสำรองเขาชนไก่อย่างใหญ่โต สร้างความยินดีปรีดาให้กับเพื่อนและกลุ่มนักศึกษาทุกชั้นปีที่เข้ามาฝึกอยู่ที่นั้น และถือเป็นการปิดภาคการศึกษาในปีนั้นด้วย

หลังจากจบการศึกษา ปกป้อง และ เคียงเดือน ได้นำเรื่องความรักที่ทั้งสองมีต่อกันมาปรึกษาคุณพ่อคุณแม่ของตน ทั้งสองได้รับการปฏิเสธ พ่อของเคียงเดือนซึ่งไม่ชอบปกป้องอยู่แล้ว ประกาศห้ามลูกสาวคบกับปกป้องอย่างเด็ดขาด ส่วนคุณแม่ของปกป้อง ก็ประกาศห้ามคบกับเคียงเดือน เพราะเห็นว่าฐานะยากจน ไม่สมควรที่จะมาเป็นลูกสะใภ้ ปกป้องและเคียงเดือนผิดหวังจากการที่ถูกกีดกันความรัก เพื่อนๆ จึงวางแผนช่วยเหลือให้ทั้งสองสมหวังให้ได้ โดยการสร้างสถานการณ์ว่าทั้งสองไปกระโดดน้ำตายที่สะพานพระราม 8

เมื่อพ่อแม่ของทั้งสองฝ่ายรู้เข้าจึงเสียใจมาก สารภาพผิดกันทั้งสองฝ่ายว่าเป็นคนฆ่าลูกตัวเองเพราะความคิดผิดๆ แล้วพร่ำรำพันร้องให้เสียใจแทบขาดใจตาย ขอให้เทพผู้ศักดิ์สิทธิ์ประทานชีวิตให้ลูกกลับมาเถอะ ถ้าลูกมีชีวิตกลับมาได้จริงๆ ต่อไปจะไม่ขัดขวางทางรักของลูกทั้งสองอีกแล้ว ลูกต้องการอะไรจะให้ทุกอย่าง

สดใส ซึ่งนั่งเฝ้าดูอยู่นั้นได้พูดปลอบใจพ่อแม่ของเพื่อน แล้วย้ำคำพูดเดิมของพ่อแม่ว่าจริงนะ ถ้า ปกป้อง และ เคียงเดือน ไม่ตายจริงพ่อแม่จะไม่ขัดขวางทางรักของเขาอีกต่อไป ทั้งสองฝ่ายรับปากอย่างแข็งขัน สดใสจึงให้สัญญาณให้ปกป้อง และ เคียงเดือน เดินออกมาจากที่ซ่อนเข้ามาหาพ่อแม่ พ่อของเคียงเดือนโกรธมากที่ถูกหลอก แต่พ่อของปกป้องกับแม่ของเคียงเดือนห้ามไว้ว่าได้สัญญากับลูกแล้ว เป็นผู้ใหญ่ต้องไม่ผิดคำพูด พ่อของเคียงเดือนจึงยอมตกลงตามสัญญา เพื่อนของปกป้องและเคียงเดือนต่างเฮโล แสดงความดีใจที่แผนการสำเร็จตามเป้าหมาย