ละคร ชะชะช่า ท้ารัก
ดู 4,090 ครั้ง /
แชร์
ละครออกอากาศ | วันจันทร์ วันอังคาร วันพุธ วันพฤหัส วันศุกร์ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ช่องที่ออกอากาศ | ละครช่อง 7 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เริ่มออกอากาศ | 21 กันยายน 2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เวลาออกอากาศ | 18:45 - 19:50 น. |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
กำกับโดย | ประทุม มิตรภักดี | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ประพันธ์โดย | บทประพันธ์ เพ็ญศิริ, บทโทรทัศน์ วรพันธ์ รวี | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
นำแสดงโดย | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ผู้สร้าง | บริษัท ดีด้า วิดีโอ โปรดักชั่น จำกัด |
ภาพนิ่งจากละคร
เรื่องย่อ ชะชะช่า ท้ารัก
การะเกด (ปาณิชดา แสงสุวรรณ) กำพร้าแม่มาตั้งแต่สองขวบเนื่องจากถูกน้าสาวคือ ปานใจ (อรศศิพัชร์ มามีเกตุรัตน์) ซึ่งแอบอิจฉาเกลียดชังพี่สาว ปานจิต ผู้เป็นแม่ของการะเกดมาตั้งแต่ยังสาว มีสาเหตุมาจากรักผู้ชายคนเดียวกันคือ เกริกศักดิ์ (คมสัน สุริยา) พ่อของการะเกด แต่เกริกศักดิ์รักและแต่งงานกับ ปานจิต (สายใย อุดมพร) ความแค้นสะสมมากขึ้นจนกระทั่งปานใจหาทางฆ่าปานจิตผู้อ่อนแอถึงตายในที่สุด ปานใจใช้เล่ห์มารยาว่าเป็นน้าที่แสนดีและรับใช้เกริกศักดิ์จนเกริกศักดิ์ใจอ่อนแต่งงานด้วย แต่การแต่งงานไม่ได้ทำให้ปานใจลดความอิจฉาลงได้ เพราะเกริกศักดิ์ทุ่มเทความรักให้การะเกดมากมาย และแม้แต่ กำไลทอง (ชนารดี อุ่นทะศรี) ลูกสาวของปานใจเกริกศักดิ์ก็ไม่รักเท่าการะเกด
มิหนำซ้ำ นคร (สมิท ธนโชติ) ข้าราชการรุ่นพี่กับ นวลน้อย (กชกร นิมากรณ์) ภรรยา ยังพา สดุดี (ธนากร ศรีบรรจง) ลูกชาย นวลปรางค์ (กชกร ส่งแสงเติม) ลูกสาว และ พิทยา (พลพจน์ พูลนิล) เพื่อนสนิทของสดุดี มาพบปะกัน กินข้าวเพื่อให้สดุดีและการะเกดได้รู้จักกันไว้แต่เล็ก ทั้งยังเมตตาการะเกดด้วยการจับจองตัวไว้เป็นคู่หมั้นของสดุดีอีกด้วย ปรากฏว่าถูกปานใจกีดกันเอาไว้ตลอดเวลา สดุดีซ่อนความแปลกใจไว้ในใจไม่ได้บอกใคร ส่วนกำไลติดเชื้ออิจฉาจากแม่จำแม่มาบอกกับสดุดี นวลปรางค์ และพิทยาว่าการะเกดไม่กล้าออกมาเจอผู้คนเพราะติดโรคร้ายจากแม่ ต่อหน้าเกริก ปานใจทำดีกับการะเกดแต่ลับหลังทารุณโหดร้ายทุบตีการเกด
ครูมาลา (ปิยะนุช นาคคง) ที่บ้านอยู่ใกล้กัน ซึ่งเป็นครูของปานจิต ปานใจ มาตั้งแต่สมัยยังสาว สงสารการะเกด จนต้องคอยแอบมาดูแลสอนวิชาร้องเพลงเต้นรำให้กับการะเกด โดยมี อ่ำ (จักรกฤษณ์ คชรัตน์) เด็กชายรุ่นพี่ที่ได้รับความช่วยเหลือจากปานจิตสมัยยังไม่ได้แต่งงานกับเกริกให้มาเป็นเด็กในปกครองของครูมาลาคอยติดตามปกป้องการะเกดเหมือนทาสผู้ซื่อสัตย์ เวลาผ่านไป สดุดีกลับมาจากเมืองนอกจบวิชาอาชญาวิทยากลับมาและได้พากันมาที่บ้านของเกริก ทั้งครอบครัวรวมทั้งพิทยาเพื่อนสนิทของสดุดีด้วย เพราะหลังจากเรียนจบมาทั้งสองก็ทำงานที่เดียวกัน และในขณะที่สดุดีไปเรียนต่อที่เมืองนอกพิทยาก็คอยดูแลเอาใจนวลปรางค์แทนสดุดีจนทั้งสองคนมีใจให้กัน แต่นวลปรางค์จะไม่ยอมให้พิทยาเอาใจผู้หญิงคนอื่นเลยนอกจากตน
นวลปรางค์ห่วงพิทยามากเพราะพิทยาเอาใจนวลปรางค์มาตั้งแต่เล็กๆ และยอมนวลปรางค์ทุกอย่าง ปานใจบอกทุกคนว่าการะเกดหนีไปเที่ยวกับอ่ำ แต่สดุดีสงสัยจึงออกไปเดินเล่นและได้ยินเสียงเพลงมาจากท้ายคลองจึงพายเรือออกไปพบการะเกดแต่ไม่รู้ว่าเป็นการะเกดทั้งสองมีปากเสียงกันจนเรือล่ม ทั้งสองต่างว่ายน้ำมาขึ้นฝั่งที่มุมหนึ่งในสวนบ้านเกริก ทับทิม (อรุโณทัย จิตรีขันธ์) คนเก่าแก่ของปานใจเห็นเหตุการณ์รีบไปบอกปานใจมาจัดการ ขณะที่สดุดีพยายามขอโทษและสอบถามว่าเธอคือใคร ปานใจก็เข้ามาและตบหน้าไล่การะเกดโชว์ให้สดุดีเข้าใจผิดว่าเป็นเด็กสาวจากที่อื่นมาบุกรุก การะเกดจึงหนีไปบ้านครูมาลา
สดุดีเก็บความสงสัยแปลกใจไว้เงียบๆ ต่อมาความหวาดกลัวว่าสดุดีจะพบกับการะเกดมีมากขึ้นทุกทีทำให้ปานใจและทับทิมช่วยกันทารุณทุบตีการะเกดหนักข้อจนถึงขั้นป่วยและขังเอาไว้ การะเกดจึงหนีออกจากบ้านโดยมีอ่ำเข้าไปช่วย อ่ำพาการะเกดนั่งเรือหนีไปขึ้นที่ท่าน้ำวัดแถวบางปะอินซึ่งมีงานวัดพอดี อ่ำไปชกมวยหาเงิน การะเกดถูกวัยรุ่นไล่จับตัวจึงวิ่งหนีไปชนกลุ่มของ สมหมาย (บริพันธ์ ชัยภูมิ) และ แสงจันทร์ (พรภัสร์ชนก มิตรชัย) ซึ่งเป็นคู่แข่งของวงลูกทุ่ง นายประทีป (พิเชษฐ ศรีราชา) และ นางสิน (แสงดาว วนิชพันธุ์) แสงจันทร์เมื่อเห็นพ่อสนใจการะเกดจึงให้นึกไม่ชอบขี้หน้าและไล่การะเกดไปทำให้สมหมายเสียดายในความสวยของการะเกดเป็นอย่างมาก
การะเกดหนีพวกกลุ่มวัยรุ่นที่ไล่จับไปถึงเวทีวงลูกทุ่งของนายประทีปและนางสิน พวกหางเครื่องเข้าใจผิดว่าการเกดเป็นนักร้องที่มีคนส่งมาให้ประทีปและสินจึงผลักการะเกดออกมาร้องเพลง การะเกดจึงร้องเพลงด้วยความจำใจ ซึ่งถูกใจคนดูมากแต่เป็นที่ขัดใจของแสงจันทร์ สมหมายเมื่อเห็นการะเกดบนเวทีก็จำได้ ส่วนแสงจันทร์ให้นึกอิจฉาในความสวยและความสามารถของการะเกดจึงชวนพ่อกลับบ้านอย่างไม่สบอารมณ์ การเกดร้องต่อไปเรื่อยๆ พอร้องเสร็จการะเกดจะหนีออกมาจากคณะดนตรีแต่กลุ่มวัยรุ่นกลุ่มเดิมดักรอเล่นงานอีกจึงหนีออกไปนอกถนนพบกับสดุดีที่มางานวันเกิดเพื่อนที่บางปะอินกำลังขับรถกลับบ้านพบเหตุการณ์ลงมาช่วยเหลือ การะเกดพบว่าผู้ที่มาช่วยเหลือคือสดุดีซึ่งเป็นที่ต้องห้ามจึงวิ่งหนีกลับมาที่วงลูกทุ่งอีกครั้งพบอ่ำและประทีปและสินกับคณะทุกคนเห็นสดุดีตามมาจึงช่วยกันทุบตีสดุดีแล้วพากันขึ้นรถกลับ
เกริกกลับจากราชการมาถึงบ้านได้รับข่าวว่าการะเกดหนีตามอ่ำไปจึงเสียใจและไม่เชื่อ ต่อมาปานใจพยายามหาหลักฐานมาบอกว่าการะเกดตายแล้ว เกริกก็ไม่เชื่อยังรอคอยการกลับมาของเกดและพยายามติดตามหาเกดต่อไป ส่วนทางสดุดีได้รับคำบอกเล่าแบบนี้เช่นกันทางด้านเกดมาอยู่กับประทีปและสิน กลายเป็นนักร้องนำของวง สองคนรักและรับเกดเป็นลูกและบอกกับทุกคนว่าเกดคือลูกในไส้ ทำให้พวกหางเครื่องสี่คน คือ เดือนแรม (วรัญภรณ์ ณ พัทลุง) แจ่มตา (ฑรัญภัค เศรษฐีธร) จำปา (กัญจน์อมล เคล้าจิตพูลสุข) และ สายสร้อย (ธนภัทร ดิษฐไชยวงศ์) ไม่พอใจอิจฉาแอบกลั่นแกล้งเกดบ่อยๆ
ด้านปานใจพยายามยัดเยียดให้กำไลทองได้เป็นคู่หมั้นของสดุดีแทนเกดซึ่งนวลปรางค์ก็ยอมรับ แต่กำไลนิสัยไม่ดีและชอบแอบหนีเที่ยวกลางคืนไปตามผับดื่มเหล้ามากอีกด้วย วันหนึ่งมีงานแสงสีเสียงที่อยุธยามี นายอำเภอสมศักดิ์ เป็นผู้ประสานงาน สดุดีพา ฟรานซิส (คริสเตียน เอเกิล) มาร่วมงานด้วย ครูมาลาเป็นผู้ทำรายการแสงสีเสียงและยังส่งลูกศิษย์ไปร่วมกับคณะลูกทุ่งของประทีปสินจัดรำวงลูกทุ่งหาเงินเข้าการกุศล สดุดีได้ยินเพลงเดิมที่การะเกดร้องอีกจึงจำได้รีบไปที่จุดรำวงพบว่าเป็นการะเกดจึงสอบถามได้ความว่าชื่อ แก้วตา (ปาณิชดา แสงสุวรรณ) เป็นลูกของนายประทีปและนางสิน
ฟรานซิสเองเมื่อเห็นเกดก็ติดใจในหน้าตาและเสียงร้องของเกด ครูมาลามาอีกคนจำเกดได้แต่ก็ได้รับคำตอบว่านั่นคือแก้วตาเช่นกัน ส่วนอ่ำรีบซ่อนหน้าไม่ให้ครูเห็น ครูมาลาเข้าใจดีว่านั่นคือเกดแต่แกล้งทำเป็นยอมรับและเอ่ยปากฝากฝังประทีปกับสินให้ดูแลเกดให้ดีและจะหางานให้ สดุดีไปพบครูมาลาเค้นเอาความจริงทั้งสองตกลงกันลับๆว่าจะแอบช่วยเหลือเกดให้ได้ดี ดังนั้นแผนการช่วยเหลือเกดจึงเริ่มต้นขึ้น สดุดีแกล้งไปที่บ้านเกริกถามหาเกดและรับกำไลไปเที่ยว ส่วนฟรานซิสก็พยายามช่วยลุ้นเกดให้มีชื่อเสียงให้ฝึกร้องเพลงดีๆ โดยให้เจนนิเฟอร์ เพื่อนสาวฝรั่งแต่ร้องเพลงไทยได้เพราะแม่เป็นคนไทยมาช่วยฝึกเกด จนมีงานแสดงศิลปวัฒนะธรรมไทยมีเกริกและนครเป็นผู้จัดงาน
สดุดีและครูมาลาจงใจให้เกดรำเบิกโรงอวยพร เกริกซึ่งนั่งดูกับปานใจกำไลถึงกับตลึงแต่เมื่อสอบถามได้ความว่าชื่อแก้วตา ด้านเกริกยังไม่อยากจะเชื่อถึงกับแอบไปพบเกดแต่เกดไม่ยอมรับ ปานใจคิดว่าเกดต้องปลอมตัวมากลั่นแกล้งจึงหาทางกำจัดเกดทุกวิถีทาง โดยให้กล้วย กับทับทิมแอบไปที่บ้านนายสินเพื่อสืบเรื่อง อ่ำกลัวทุกคนรู้ความจริงจึงปลอมตัวทำเป็นคนพิการขาเป๋มือแปปากเบี้ยวและเปลี่ยนทรงผมจนทุกคนจำไม่ได้ วันหนึ่ง มีการประกวดดนตรีลูกทุ่ง ซึ่งนอกจากคณะของประทีป สิน แล้ว ยังมีคณะของสมหมาย และ แสงจันทร์ เข้าร่วมประกวดด้วย ทั้งสองคณะเขม่นกันตั้งแต่ยังไม่ได้ขึ้นประกวด
กล้วยและทับทิมให้สี่สาววางยาสลบเกด แต่คนที่รับเคราะห์คือแสงจันทร์เพราะแสงจันทร์ไปดื่มน้ำที่ใส่ยาสลบพอขึ้นร้องเพลงก็ทำให้หลับกลางเวที ส่วนเกดไม่ได้ดื่มน้ำที่วางยาสลบจึงไม่เป็นอะไรแต่ แสงจันทร์กลับมองว่าเกดกลั่นแกล้งตน เมื่อประกาศผลเกดได้รางวัลรองชนะเลิศ ทำให้แสงจันทร์ยิ่งเจ็บใจเป็นอย่างมากว่าเป็นเพราะเกดทำให้ตนเป็นฝ่ายแพ้ มีคนสนใจเกดให้ไปเป็นนักร้องในค่ายกันหลายค่ายโดยการแอบลุ้นของสดุดีซึ่งเกดไม่ยอมพูดจาดีด้วย แต่เกดก็แปลกใจเสมอว่ามักมีคนมาช่วยอยู่เบื้องหลังหลายเรื่อง เกดทำท่าจะชอบพอกับฟรานซิส กำไลมาบอกเกดว่าอย่าคิดมาแย่งสดุดีเด็ดขาดถึงแม้เกดจะไม่ยอมรับว่าเป็นเกดแต่ทั้งปานใจและกำไลมั่นใจว่าเป็นเกดแน่และพยายามกีดกันไม่ให้เกริกพบเกด เกริกตรอมใจเสียใจเรื่องเกดจนล้มป่วย
ประทีปและสินเห็นแก่อนาคตของเกดอ้อนวอนให้เกดไปเข้าค่ายเพลง ในที่สุดเกดและแสงจันทร์ก็ได้เป็นนักร้องในค่ายเดียวกัน และเริ่มเป็นที่รู้จักบ้างในฐานะนักร้องคนใหม่ของวงการ ในขณะที่กำลังเริ่มทำเพลงคณะของสินและประทีปกลับย่ำแย่เพราะขาดนักร้องนำอย่างเกด และสุขภาพก็เริ่มไม่ดี การเงินจึงขาดแคลนเมื่อเกดรู้ข่าวจึงอยากมาช่วยแต่ถูกทัดทาน เกดคิดหนักระหว่างบุญคุณกับชื่อเสียงส่วนตัว กำไลเสเพลเที่ยวจนท้องกับ โป้ง เพื่อนในกลุ่มที่เที่ยวด้วยกัน แต่โป้งไม่ยอมรับทำให้กำไลเสียใจมาก ปานใจเมื่อรู้ว่ากำไลท้องจึงพยายามจัดงานหมั้นให้กำไลกับสดุดีให้เร็วที่สุด
เกดก็ยึด ฟรานซิสไว้เป็นที่พึ่งทำเหมือนว่าเป็นแฟนกัน เกดกลับมาเยี่ยมวงดนตรีของประทีปสินถึงแม้ถูกสั่งห้ามมาร้องเพลงตามวงเร่แบบนี้อีกเกดก็ทำ เกดเมื่อรู้ว่ากำไลท้องก็โกรธสดุดีมาก ไม่ฟังเหตุผลและบอกให้สดุดีไปแต่งงานกับกำไลซะ เพราะว่ายังไงกำไลก็เป็นน้องสาวของต้น ในที่สุดสดุดีก็หมั้นกับกำไล ต่อมาปานใจพยายามจัดการให้สดุดีแต่งงานกับกำไลให้เร็วที่สุดเพราะกำไลเริ่มท้องโต แต่ในขณะกำลังจะแต่งงานกันกำไลก็ยังแอบหนีเที่ยว สดุดีจับได้และรู้ว่ากำไลท้องจึงปฏิเสธบ่ายเบี่ยง กำไลก็ออกเที่ยวและกินเหล้าเมาจนในที่สุดรถชนและแท้งลูก โป้งเมื่อรู้ว่ากำไลแท้งลูกจึงสำนึกผิดมาง้อกำไลทำให้กำไลใจอ่อนเพราะในใจลึกๆ ของกำไลก็ยังรักโป้งอยู่
สดุดีให้พิทยาช่วยสืบความจริงเรื่องเกดและเหตุผลนี้เองพิทยาก็บอกนวลปรางค์ไม่ได้ ทำให้ทั้งคู่ทะเลาะกันบ่อยด้วยความที่นวลปรางค์หึงพิทยามาก และไม่อยากให้พิทยาเข้าใกล้ผู้หญิงคนไหน พิทยาสืบรู้มาว่าวงของเกดกำลังแย่ สดุดีจึงแอบช่วยเหลืออีก เกริกป่วยอยู่ก็เพราะถูกปานใจแอบวางยาเพราะเกริกออกปากว่าจะยกมรดกให้การะเกดเป็นส่วนใหญ่ให้กำไลนิดหน่อย และหวังว่าเกดต้องกลับมารับมรดกสักวัน เกริกป่วยหนักเพ้อหาแต่เกด สดุดีไปบังคับเอาตัวเกดไปเยี่ยมเกริกที่โรงพยาบาลจนได้ เกดรู้ว่าพ่อป่วยมากกำลังจะตายจึงบอกความจริงว่าเธอคือการะเกด เกริกดีใจและเสียชีวิตในอ้อมแขนของเกด เมื่อความจริงปรากฏว่าแก้วตาคือการะเกด ปานใจกับกำไลแค้นมาก
นครกับนวลน้อยดีใจจะจัดงานหมั้นให้ เกดอนุญาตให้ปานใจและกำไลพักอยู่ที่บ้านเดิม ส่วนตัวเองจะออกไปช่วยวงลูกทุ่งของประทีปและสินต่อไป ฟรานซิสเมื่อรู้ความจริงว่าที่แท้ทั้งสดุดี และเกด เป็นคู่หมั้นกันและรักกัน ฟรานซิสจึงตัดใจจากเกด และหันไปสนใจแสงจันทร์แทน ส่วนประทีปตายลงเหลือแต่สิน สินจึงไปบอกให้ครูมาลาขอร้องเกดให้ยุบวงและกลับไปหาค่ายเพลงที่ติดต่อกลับมาใหม่อีกครั้ง และจะโปรโมทเรื่องราวชีวิตของเกดว่าเป็นนักร้องกตัญญู ในที่สุดเกดจึงตัดสินใจกลับไปเป็นนักร้องเข้าค่ายเพลงอีกครั้งและเลี้ยงดูสินในฐานะแม่ต่อไป ปานใจกับกำไลยังไม่หายแค้นทำลายชื่อเสียงของเกดต่อไปปล่อยข่าวว่าเกดเป็นเมียเช่าฟรานซิส ฟรานซิสต้องไปแก้ข่าวให้ แต่แทนที่จะทำให้เกดดับกลับทำให้เกดดังมากขึ้น
เมื่อออกแสดงคอนเสิร์ตงานแรกเกดก็ไดรับการต้อนรับล้นหลามด้วยเพลงนำที่ชื่อว่า ชะชะช่า ท้ารัก ที่แม่เกดเคยร้องได้รับการปรับปรุงใหม่ดังระเบิดไปทั่ว ด้านกำไลเมื่อกลับไปคบกับโป้ง โป้งก็สอนให้กำไลรู้จักอภัยและอย่าคิดแค้นเคืองใครอีก กำไลลึกๆ ก็ยังไม่หายโกรธเกดเพราะแม่ปลูกฝังแต่เล็กว่าพ่อรักเกดมากกว่าแต่กำไลก็ทำใจไม่ให้ทำร้ายเกดอีก และไปเรียนต่อที่เมืองนอกกับโป้ง หลังเวทีคอนเสิร์ตครูมาลามารอพบเกดบอกความจริงว่าผู้ที่คอยลุ้นอยู่เบื้องหลังตลอดมาคือสดุดีเพราะเขาสืบจนรู้ว่าเกดคือคู่หมั้น เกดตกใจและดีใจ เกดจะเดินทางไปขอโทษสดุดีแต่ถูกปานใจส่งคนติดตามฆ่า แต่เกดก็เอาตัวรอดมาได้เพราะสดุดีรู้เช่นกัน ปานใจถูกจับเข้าคุกฐานฆ่าปานจิตและลอบวางยาพิษใส่ให้เกริก และพยายามฆ่าเกด เกดดังไปทั่ว โดยมีสดุดีเป็นกำลังใจให้
มิหนำซ้ำ นคร (สมิท ธนโชติ) ข้าราชการรุ่นพี่กับ นวลน้อย (กชกร นิมากรณ์) ภรรยา ยังพา สดุดี (ธนากร ศรีบรรจง) ลูกชาย นวลปรางค์ (กชกร ส่งแสงเติม) ลูกสาว และ พิทยา (พลพจน์ พูลนิล) เพื่อนสนิทของสดุดี มาพบปะกัน กินข้าวเพื่อให้สดุดีและการะเกดได้รู้จักกันไว้แต่เล็ก ทั้งยังเมตตาการะเกดด้วยการจับจองตัวไว้เป็นคู่หมั้นของสดุดีอีกด้วย ปรากฏว่าถูกปานใจกีดกันเอาไว้ตลอดเวลา สดุดีซ่อนความแปลกใจไว้ในใจไม่ได้บอกใคร ส่วนกำไลติดเชื้ออิจฉาจากแม่จำแม่มาบอกกับสดุดี นวลปรางค์ และพิทยาว่าการะเกดไม่กล้าออกมาเจอผู้คนเพราะติดโรคร้ายจากแม่ ต่อหน้าเกริก ปานใจทำดีกับการะเกดแต่ลับหลังทารุณโหดร้ายทุบตีการเกด
ครูมาลา (ปิยะนุช นาคคง) ที่บ้านอยู่ใกล้กัน ซึ่งเป็นครูของปานจิต ปานใจ มาตั้งแต่สมัยยังสาว สงสารการะเกด จนต้องคอยแอบมาดูแลสอนวิชาร้องเพลงเต้นรำให้กับการะเกด โดยมี อ่ำ (จักรกฤษณ์ คชรัตน์) เด็กชายรุ่นพี่ที่ได้รับความช่วยเหลือจากปานจิตสมัยยังไม่ได้แต่งงานกับเกริกให้มาเป็นเด็กในปกครองของครูมาลาคอยติดตามปกป้องการะเกดเหมือนทาสผู้ซื่อสัตย์ เวลาผ่านไป สดุดีกลับมาจากเมืองนอกจบวิชาอาชญาวิทยากลับมาและได้พากันมาที่บ้านของเกริก ทั้งครอบครัวรวมทั้งพิทยาเพื่อนสนิทของสดุดีด้วย เพราะหลังจากเรียนจบมาทั้งสองก็ทำงานที่เดียวกัน และในขณะที่สดุดีไปเรียนต่อที่เมืองนอกพิทยาก็คอยดูแลเอาใจนวลปรางค์แทนสดุดีจนทั้งสองคนมีใจให้กัน แต่นวลปรางค์จะไม่ยอมให้พิทยาเอาใจผู้หญิงคนอื่นเลยนอกจากตน
นวลปรางค์ห่วงพิทยามากเพราะพิทยาเอาใจนวลปรางค์มาตั้งแต่เล็กๆ และยอมนวลปรางค์ทุกอย่าง ปานใจบอกทุกคนว่าการะเกดหนีไปเที่ยวกับอ่ำ แต่สดุดีสงสัยจึงออกไปเดินเล่นและได้ยินเสียงเพลงมาจากท้ายคลองจึงพายเรือออกไปพบการะเกดแต่ไม่รู้ว่าเป็นการะเกดทั้งสองมีปากเสียงกันจนเรือล่ม ทั้งสองต่างว่ายน้ำมาขึ้นฝั่งที่มุมหนึ่งในสวนบ้านเกริก ทับทิม (อรุโณทัย จิตรีขันธ์) คนเก่าแก่ของปานใจเห็นเหตุการณ์รีบไปบอกปานใจมาจัดการ ขณะที่สดุดีพยายามขอโทษและสอบถามว่าเธอคือใคร ปานใจก็เข้ามาและตบหน้าไล่การะเกดโชว์ให้สดุดีเข้าใจผิดว่าเป็นเด็กสาวจากที่อื่นมาบุกรุก การะเกดจึงหนีไปบ้านครูมาลา
สดุดีเก็บความสงสัยแปลกใจไว้เงียบๆ ต่อมาความหวาดกลัวว่าสดุดีจะพบกับการะเกดมีมากขึ้นทุกทีทำให้ปานใจและทับทิมช่วยกันทารุณทุบตีการะเกดหนักข้อจนถึงขั้นป่วยและขังเอาไว้ การะเกดจึงหนีออกจากบ้านโดยมีอ่ำเข้าไปช่วย อ่ำพาการะเกดนั่งเรือหนีไปขึ้นที่ท่าน้ำวัดแถวบางปะอินซึ่งมีงานวัดพอดี อ่ำไปชกมวยหาเงิน การะเกดถูกวัยรุ่นไล่จับตัวจึงวิ่งหนีไปชนกลุ่มของ สมหมาย (บริพันธ์ ชัยภูมิ) และ แสงจันทร์ (พรภัสร์ชนก มิตรชัย) ซึ่งเป็นคู่แข่งของวงลูกทุ่ง นายประทีป (พิเชษฐ ศรีราชา) และ นางสิน (แสงดาว วนิชพันธุ์) แสงจันทร์เมื่อเห็นพ่อสนใจการะเกดจึงให้นึกไม่ชอบขี้หน้าและไล่การะเกดไปทำให้สมหมายเสียดายในความสวยของการะเกดเป็นอย่างมาก
การะเกดหนีพวกกลุ่มวัยรุ่นที่ไล่จับไปถึงเวทีวงลูกทุ่งของนายประทีปและนางสิน พวกหางเครื่องเข้าใจผิดว่าการเกดเป็นนักร้องที่มีคนส่งมาให้ประทีปและสินจึงผลักการะเกดออกมาร้องเพลง การะเกดจึงร้องเพลงด้วยความจำใจ ซึ่งถูกใจคนดูมากแต่เป็นที่ขัดใจของแสงจันทร์ สมหมายเมื่อเห็นการะเกดบนเวทีก็จำได้ ส่วนแสงจันทร์ให้นึกอิจฉาในความสวยและความสามารถของการะเกดจึงชวนพ่อกลับบ้านอย่างไม่สบอารมณ์ การเกดร้องต่อไปเรื่อยๆ พอร้องเสร็จการะเกดจะหนีออกมาจากคณะดนตรีแต่กลุ่มวัยรุ่นกลุ่มเดิมดักรอเล่นงานอีกจึงหนีออกไปนอกถนนพบกับสดุดีที่มางานวันเกิดเพื่อนที่บางปะอินกำลังขับรถกลับบ้านพบเหตุการณ์ลงมาช่วยเหลือ การะเกดพบว่าผู้ที่มาช่วยเหลือคือสดุดีซึ่งเป็นที่ต้องห้ามจึงวิ่งหนีกลับมาที่วงลูกทุ่งอีกครั้งพบอ่ำและประทีปและสินกับคณะทุกคนเห็นสดุดีตามมาจึงช่วยกันทุบตีสดุดีแล้วพากันขึ้นรถกลับ
เกริกกลับจากราชการมาถึงบ้านได้รับข่าวว่าการะเกดหนีตามอ่ำไปจึงเสียใจและไม่เชื่อ ต่อมาปานใจพยายามหาหลักฐานมาบอกว่าการะเกดตายแล้ว เกริกก็ไม่เชื่อยังรอคอยการกลับมาของเกดและพยายามติดตามหาเกดต่อไป ส่วนทางสดุดีได้รับคำบอกเล่าแบบนี้เช่นกันทางด้านเกดมาอยู่กับประทีปและสิน กลายเป็นนักร้องนำของวง สองคนรักและรับเกดเป็นลูกและบอกกับทุกคนว่าเกดคือลูกในไส้ ทำให้พวกหางเครื่องสี่คน คือ เดือนแรม (วรัญภรณ์ ณ พัทลุง) แจ่มตา (ฑรัญภัค เศรษฐีธร) จำปา (กัญจน์อมล เคล้าจิตพูลสุข) และ สายสร้อย (ธนภัทร ดิษฐไชยวงศ์) ไม่พอใจอิจฉาแอบกลั่นแกล้งเกดบ่อยๆ
ด้านปานใจพยายามยัดเยียดให้กำไลทองได้เป็นคู่หมั้นของสดุดีแทนเกดซึ่งนวลปรางค์ก็ยอมรับ แต่กำไลนิสัยไม่ดีและชอบแอบหนีเที่ยวกลางคืนไปตามผับดื่มเหล้ามากอีกด้วย วันหนึ่งมีงานแสงสีเสียงที่อยุธยามี นายอำเภอสมศักดิ์ เป็นผู้ประสานงาน สดุดีพา ฟรานซิส (คริสเตียน เอเกิล) มาร่วมงานด้วย ครูมาลาเป็นผู้ทำรายการแสงสีเสียงและยังส่งลูกศิษย์ไปร่วมกับคณะลูกทุ่งของประทีปสินจัดรำวงลูกทุ่งหาเงินเข้าการกุศล สดุดีได้ยินเพลงเดิมที่การะเกดร้องอีกจึงจำได้รีบไปที่จุดรำวงพบว่าเป็นการะเกดจึงสอบถามได้ความว่าชื่อ แก้วตา (ปาณิชดา แสงสุวรรณ) เป็นลูกของนายประทีปและนางสิน
ฟรานซิสเองเมื่อเห็นเกดก็ติดใจในหน้าตาและเสียงร้องของเกด ครูมาลามาอีกคนจำเกดได้แต่ก็ได้รับคำตอบว่านั่นคือแก้วตาเช่นกัน ส่วนอ่ำรีบซ่อนหน้าไม่ให้ครูเห็น ครูมาลาเข้าใจดีว่านั่นคือเกดแต่แกล้งทำเป็นยอมรับและเอ่ยปากฝากฝังประทีปกับสินให้ดูแลเกดให้ดีและจะหางานให้ สดุดีไปพบครูมาลาเค้นเอาความจริงทั้งสองตกลงกันลับๆว่าจะแอบช่วยเหลือเกดให้ได้ดี ดังนั้นแผนการช่วยเหลือเกดจึงเริ่มต้นขึ้น สดุดีแกล้งไปที่บ้านเกริกถามหาเกดและรับกำไลไปเที่ยว ส่วนฟรานซิสก็พยายามช่วยลุ้นเกดให้มีชื่อเสียงให้ฝึกร้องเพลงดีๆ โดยให้เจนนิเฟอร์ เพื่อนสาวฝรั่งแต่ร้องเพลงไทยได้เพราะแม่เป็นคนไทยมาช่วยฝึกเกด จนมีงานแสดงศิลปวัฒนะธรรมไทยมีเกริกและนครเป็นผู้จัดงาน
สดุดีและครูมาลาจงใจให้เกดรำเบิกโรงอวยพร เกริกซึ่งนั่งดูกับปานใจกำไลถึงกับตลึงแต่เมื่อสอบถามได้ความว่าชื่อแก้วตา ด้านเกริกยังไม่อยากจะเชื่อถึงกับแอบไปพบเกดแต่เกดไม่ยอมรับ ปานใจคิดว่าเกดต้องปลอมตัวมากลั่นแกล้งจึงหาทางกำจัดเกดทุกวิถีทาง โดยให้กล้วย กับทับทิมแอบไปที่บ้านนายสินเพื่อสืบเรื่อง อ่ำกลัวทุกคนรู้ความจริงจึงปลอมตัวทำเป็นคนพิการขาเป๋มือแปปากเบี้ยวและเปลี่ยนทรงผมจนทุกคนจำไม่ได้ วันหนึ่ง มีการประกวดดนตรีลูกทุ่ง ซึ่งนอกจากคณะของประทีป สิน แล้ว ยังมีคณะของสมหมาย และ แสงจันทร์ เข้าร่วมประกวดด้วย ทั้งสองคณะเขม่นกันตั้งแต่ยังไม่ได้ขึ้นประกวด
กล้วยและทับทิมให้สี่สาววางยาสลบเกด แต่คนที่รับเคราะห์คือแสงจันทร์เพราะแสงจันทร์ไปดื่มน้ำที่ใส่ยาสลบพอขึ้นร้องเพลงก็ทำให้หลับกลางเวที ส่วนเกดไม่ได้ดื่มน้ำที่วางยาสลบจึงไม่เป็นอะไรแต่ แสงจันทร์กลับมองว่าเกดกลั่นแกล้งตน เมื่อประกาศผลเกดได้รางวัลรองชนะเลิศ ทำให้แสงจันทร์ยิ่งเจ็บใจเป็นอย่างมากว่าเป็นเพราะเกดทำให้ตนเป็นฝ่ายแพ้ มีคนสนใจเกดให้ไปเป็นนักร้องในค่ายกันหลายค่ายโดยการแอบลุ้นของสดุดีซึ่งเกดไม่ยอมพูดจาดีด้วย แต่เกดก็แปลกใจเสมอว่ามักมีคนมาช่วยอยู่เบื้องหลังหลายเรื่อง เกดทำท่าจะชอบพอกับฟรานซิส กำไลมาบอกเกดว่าอย่าคิดมาแย่งสดุดีเด็ดขาดถึงแม้เกดจะไม่ยอมรับว่าเป็นเกดแต่ทั้งปานใจและกำไลมั่นใจว่าเป็นเกดแน่และพยายามกีดกันไม่ให้เกริกพบเกด เกริกตรอมใจเสียใจเรื่องเกดจนล้มป่วย
ประทีปและสินเห็นแก่อนาคตของเกดอ้อนวอนให้เกดไปเข้าค่ายเพลง ในที่สุดเกดและแสงจันทร์ก็ได้เป็นนักร้องในค่ายเดียวกัน และเริ่มเป็นที่รู้จักบ้างในฐานะนักร้องคนใหม่ของวงการ ในขณะที่กำลังเริ่มทำเพลงคณะของสินและประทีปกลับย่ำแย่เพราะขาดนักร้องนำอย่างเกด และสุขภาพก็เริ่มไม่ดี การเงินจึงขาดแคลนเมื่อเกดรู้ข่าวจึงอยากมาช่วยแต่ถูกทัดทาน เกดคิดหนักระหว่างบุญคุณกับชื่อเสียงส่วนตัว กำไลเสเพลเที่ยวจนท้องกับ โป้ง เพื่อนในกลุ่มที่เที่ยวด้วยกัน แต่โป้งไม่ยอมรับทำให้กำไลเสียใจมาก ปานใจเมื่อรู้ว่ากำไลท้องจึงพยายามจัดงานหมั้นให้กำไลกับสดุดีให้เร็วที่สุด
เกดก็ยึด ฟรานซิสไว้เป็นที่พึ่งทำเหมือนว่าเป็นแฟนกัน เกดกลับมาเยี่ยมวงดนตรีของประทีปสินถึงแม้ถูกสั่งห้ามมาร้องเพลงตามวงเร่แบบนี้อีกเกดก็ทำ เกดเมื่อรู้ว่ากำไลท้องก็โกรธสดุดีมาก ไม่ฟังเหตุผลและบอกให้สดุดีไปแต่งงานกับกำไลซะ เพราะว่ายังไงกำไลก็เป็นน้องสาวของต้น ในที่สุดสดุดีก็หมั้นกับกำไล ต่อมาปานใจพยายามจัดการให้สดุดีแต่งงานกับกำไลให้เร็วที่สุดเพราะกำไลเริ่มท้องโต แต่ในขณะกำลังจะแต่งงานกันกำไลก็ยังแอบหนีเที่ยว สดุดีจับได้และรู้ว่ากำไลท้องจึงปฏิเสธบ่ายเบี่ยง กำไลก็ออกเที่ยวและกินเหล้าเมาจนในที่สุดรถชนและแท้งลูก โป้งเมื่อรู้ว่ากำไลแท้งลูกจึงสำนึกผิดมาง้อกำไลทำให้กำไลใจอ่อนเพราะในใจลึกๆ ของกำไลก็ยังรักโป้งอยู่
สดุดีให้พิทยาช่วยสืบความจริงเรื่องเกดและเหตุผลนี้เองพิทยาก็บอกนวลปรางค์ไม่ได้ ทำให้ทั้งคู่ทะเลาะกันบ่อยด้วยความที่นวลปรางค์หึงพิทยามาก และไม่อยากให้พิทยาเข้าใกล้ผู้หญิงคนไหน พิทยาสืบรู้มาว่าวงของเกดกำลังแย่ สดุดีจึงแอบช่วยเหลืออีก เกริกป่วยอยู่ก็เพราะถูกปานใจแอบวางยาเพราะเกริกออกปากว่าจะยกมรดกให้การะเกดเป็นส่วนใหญ่ให้กำไลนิดหน่อย และหวังว่าเกดต้องกลับมารับมรดกสักวัน เกริกป่วยหนักเพ้อหาแต่เกด สดุดีไปบังคับเอาตัวเกดไปเยี่ยมเกริกที่โรงพยาบาลจนได้ เกดรู้ว่าพ่อป่วยมากกำลังจะตายจึงบอกความจริงว่าเธอคือการะเกด เกริกดีใจและเสียชีวิตในอ้อมแขนของเกด เมื่อความจริงปรากฏว่าแก้วตาคือการะเกด ปานใจกับกำไลแค้นมาก
นครกับนวลน้อยดีใจจะจัดงานหมั้นให้ เกดอนุญาตให้ปานใจและกำไลพักอยู่ที่บ้านเดิม ส่วนตัวเองจะออกไปช่วยวงลูกทุ่งของประทีปและสินต่อไป ฟรานซิสเมื่อรู้ความจริงว่าที่แท้ทั้งสดุดี และเกด เป็นคู่หมั้นกันและรักกัน ฟรานซิสจึงตัดใจจากเกด และหันไปสนใจแสงจันทร์แทน ส่วนประทีปตายลงเหลือแต่สิน สินจึงไปบอกให้ครูมาลาขอร้องเกดให้ยุบวงและกลับไปหาค่ายเพลงที่ติดต่อกลับมาใหม่อีกครั้ง และจะโปรโมทเรื่องราวชีวิตของเกดว่าเป็นนักร้องกตัญญู ในที่สุดเกดจึงตัดสินใจกลับไปเป็นนักร้องเข้าค่ายเพลงอีกครั้งและเลี้ยงดูสินในฐานะแม่ต่อไป ปานใจกับกำไลยังไม่หายแค้นทำลายชื่อเสียงของเกดต่อไปปล่อยข่าวว่าเกดเป็นเมียเช่าฟรานซิส ฟรานซิสต้องไปแก้ข่าวให้ แต่แทนที่จะทำให้เกดดับกลับทำให้เกดดังมากขึ้น
เมื่อออกแสดงคอนเสิร์ตงานแรกเกดก็ไดรับการต้อนรับล้นหลามด้วยเพลงนำที่ชื่อว่า ชะชะช่า ท้ารัก ที่แม่เกดเคยร้องได้รับการปรับปรุงใหม่ดังระเบิดไปทั่ว ด้านกำไลเมื่อกลับไปคบกับโป้ง โป้งก็สอนให้กำไลรู้จักอภัยและอย่าคิดแค้นเคืองใครอีก กำไลลึกๆ ก็ยังไม่หายโกรธเกดเพราะแม่ปลูกฝังแต่เล็กว่าพ่อรักเกดมากกว่าแต่กำไลก็ทำใจไม่ให้ทำร้ายเกดอีก และไปเรียนต่อที่เมืองนอกกับโป้ง หลังเวทีคอนเสิร์ตครูมาลามารอพบเกดบอกความจริงว่าผู้ที่คอยลุ้นอยู่เบื้องหลังตลอดมาคือสดุดีเพราะเขาสืบจนรู้ว่าเกดคือคู่หมั้น เกดตกใจและดีใจ เกดจะเดินทางไปขอโทษสดุดีแต่ถูกปานใจส่งคนติดตามฆ่า แต่เกดก็เอาตัวรอดมาได้เพราะสดุดีรู้เช่นกัน ปานใจถูกจับเข้าคุกฐานฆ่าปานจิตและลอบวางยาพิษใส่ให้เกริก และพยายามฆ่าเกด เกดดังไปทั่ว โดยมีสดุดีเป็นกำลังใจให้