ละคร นางบาป
ดู 3,203 ครั้ง /
แชร์
ละครออกอากาศ | วันพุธ วันพฤหัส | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ช่องที่ออกอากาศ | ละครช่อง 3 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เริ่มออกอากาศ | 9 สิงหาคม 2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เวลาออกอากาศ | 20:20 - 22:45 น. |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
กำกับโดย | วีระชัย รุ่งเรือง | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ประพันธ์โดย | บทประพันธ์ กิ่งฉัตร, บทโทรทัศน์ จันมณี, ชื่นใจมาลี, ภัณฑ์ณัฐ วงศ์วัชรกมล | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
นำแสดงโดย | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ผู้สร้าง | บริษัท ดวงมาลีมณีจันทร์ จำกัด |
ภาพนิ่งจากละคร
เรื่องย่อ นางบาป
บริษัทของ วิษณุ (นาวิน เยาวพลกุล) ผู้กำกับสารคดีมือรางวัลได้รับงานตัดต่อ รายการ เล่าเรื่องตึกเก่า ซึ่งมี ปาล (จรณ โสรัตน์) สถาปนิกหนุ่ม ทำหน้าที่เป็นพิธีกร โดยเทปรายการเทปนี้เป็นการเล่าเรื่องตึกเก่าของเรือนพระวนาเทพที่ตั้งอยู่ ณ อำเภอนางบาป ซึ่งว่ากันว่าเดิมทีอำเภอนี้ชื่อว่าอำเภอบางบาป แต่ที่เพี้ยนมาเป็นชื่ออำเภอนางบาปก็เพราะ วีรกรรมของ นางหยาด (นันทนัช โล่ห์สุวรรณ) ทาสใจบาปในตำนาน ซึ่งหลงรัก พระวนาเทพ (นาวิน เยาวพลกุล) ข้าราชการหนุ่มที่มาดูแลกิจการค้าซุงที่บางบาปและตัดสินใจตั้งรกรากแต่งงานกับ คุณกำไล (วรรณปิยะ ออมสินนพกุล) โดยมีนางหยาดทาสรับใช้คนโปรดของคุณกำไลตามมารับใช้ด้วย
คุณกำไลแต่งงานกับพระวนาเทพ จนมีบุตรสาว 2 คน นางหยาดได้โอกาสยั่วยวนพระวนาเทพจนได้กลายเป็นเมียทาสในที่สุด นางหยาดเที่ยวไปชูคอว่าพระวนาเทพจะแต่งตั้งให้ขึ้นมาเสมอคุณกำไล แต่สุดท้ายกำไลก็ตั้งท้องลูกคนที่ 3 ทำให้นางหยาดแค้นใจมาก จึงคิดวางยาคุณกำไลที่ตั้งท้องอ่อนลูกชายอยู่ รวมถึงลูกสาวอีกสองคนจนถึงแก่ชีวิต เหล่าบรรดาทาสเมื่อรู้เรื่อง ก็โกรธแค้นและรักตัวกลัวความผิดจะสาดทอดมาถึงตัวเอง จึงรวมหัวกันนำร่างของนางหยาดไปแขวนคอที่ใต้ต้นไม้ในเรือนวนาเทพ ความโหดร้ายของนางหยาด กลายเป็นตำนานที่ถูกเล่า ทั่วไปในหมู่บ้านบางบาป จนทำให้ชื่อหมู่บ้านเพี้ยนมาเป็น นางบาปอย่างทุกวันนี้ และตั้งแต่ที่บริษัทเบญจกายแปลงรับงาน ตัดต่อเทปนี้มา วิษณุก็เริ่มฝันเห็นผู้หญิงในชุดสไบสีม่วง และเรื่องราวตามตำนานเป็นฉากๆ
คืนประกาศรับรางวัลนาฏราช ที่เต็มไปด้วยกองทัพนักแสดง บุคคลในวงการบันเทิง และ นักข่าวมากมาย ต้น ธนัตถ์ (วัทธิกร เพิ่มทรัพย์หิรัญ) และ กิฟท์ ภาพิมล (วรรณปิยะ ออมสินนพกุล) นักแสดงที่มาแรงที่สุดของเมืองไทยตอนนั้น ได้ขึ้นรับรางวัลร่วมกัน ในฐานนะนักแสดงนำชายและนำหญิง ส่วนวิษณุได้ขึ้นรับรางวัลสารคดียอดเยี่ยม จากสารคดีแนวประวัติศาสตร์งานถนัดของเขา โดยได้กล่าวขอบคุณ เรืองริน (ปรียากานต์ ใจกันทะ) ที่ชื่นชมในตัวเขามาตั้งแต่ตอนที่เขาเคยไปเป็นอาจารย์พิเศษที่คณะ จนขอตามมาฝึกงานและทำงานกับเขามาตลอดตั้งแต่นั้น และในงานนี้เองวิษณุก็ไปร่วมงานด้วย
หลังงานรับรางวัลเลิก ขณะวิษณุขับรถกลับ วิษณุก็มองเห็นผู้หญิงในชุดสไบสีม่วง ผูกคอตายที่ริมต้นไม้ข้างทาง แต่รินที่นั่งมาด้วย กลับมองไม่เห็นภาพนั้น และเมื่อกลับ มาถึงที่บริษัท ก็เห็นภาพของผู้หญิงในชุดสไบม่วงคนเดียวกับที่เห็นข้างทาง ผูกคอตายใต้ต้นไม้ในตำนานนั้น แต่ครั้งนี้มีเสียงผู้หญิงเพรียกหา เรียกเขาว่าคุณพระและขอให้เขาเดินทางมาหาเธอที่ต้นไม้แห่งนี้ วิษณุประหลาดใจมาก เพราะที่แท้แล้วนางบาป ก็คือบ้านเกิดของเขานั่นเอง วิษณุจึงตัดสินใจเดินทางไปที่อำเภอ นางบาปในวันรุ่งขึ้น
เมื่อเดินทางไปถึงที่อำเภอนางบาป วิษณุขอตัวไปดูรอบๆ และให้รินไปติดต่อเจ้าของเรือนวนาเทพ ที่ได้ดัดแปลงสถานที่มาเป็นรีสอร์ตบ้านชายน้ำ ทำให้รินได้เจอกับปาลที่บนเรือน และเข้าใจผิดว่าปาลเป็นเจ้าของเรือนวนาเทพ ปาลแกล้งสวมรอยก่อนสุดท้ายจะเฉลยว่า เขาเป็นแค่พิธีกรที่เคยมาถ่ายรายการที่นี่ ปาลก็คือรุ่นน้องที่สถาปัตย์ของวิษณุ ส่วนวิษณุที่ยืนมองต้นไม้ในตำนานอยู่ ก็เหมือนตกอยู่ในมนต์สะกดใต้ต้นไม้ในตำนานต้นนั้น เขาสัมผัสต้นไม้ และรู้สึกถึงเลือดสีแดงฉาน ที่ไหลออกมาจากลำต้นอาบรดมือเขา ก่อนจะปรากฏร่างของหญิงสาวในชุดสไบม่วงให้เขาเห็นเต็มๆ ตา และขอร้องเขาอีกครั้งว่าให้กลับมาปิดตำนานนางบาปเสียที เมื่อกลับจากการเดินทาง วิษณุจึงตัดสินใจจะทำเรื่องราวเกี่ยวกับตำนานนางบาปเป็นละคร
วิษณุสามารถทาบทามต้น พระเอกชื่อ ดังให้ข้ามช่องมาเล่นเป็นพระวนาเทพได้ ขอกิฟท์นางเอกหมายเลขหนึ่งของช่องมารับบทเป็นคุณกำไล ส่วนบทบาทของ นางหยาด รับโดย พายภัคตรา (สุทธิกานต์ หวังเจริญทวีกุล) นางร้ายนิสัยดี ที่ถูกชะตากับปาลตั้งแต่เจอกันวันคัดเลือกนักแสดง รินถูกกดดันหนัก จากการเป็นผู้จัดหน้าใหม่ ถูกทีมงานต่อว่าลับหลัง แม้กระทั่งพีอาร์กอง เธอยังต้องนำ เดือน น้องสาวของ ฝน แฟนเก่าของเขา มารับหน้าที่ประชาสัมพันธ์กองแทน เดือน (วิรากานต์ เสณีตันติกุล) น้องสาวของแฟนเก่าวิษณุก็ไม่พอใจที่รินสนิทสนมกับวิษณุเช่นกัน กิฟท์ ที่ไม่พอใจ ทั้งธนัตถ์และปาล ให้ความสนใจในตัวรินเป็นพิเศษ
รินกลายเป็นศัตรูของทั้งเดือน กิฟท์ ทั้งที่ไม่ได้ทำอะไร มีแต่ พาไล (พริมรตา เดชอุดม) ผู้จัดการสาวมาดนิ่งของต้น ที่คอยให้กำลังใจริน เรื่องราวมีปัญหาไปจนถึงคนเขียนบท จนทำให้วิษณุ ต้องเขียนบทเองด้วยความช่วยเหลืออย่างลับๆ จากผีหยาดที่คอยมาช่วยพิมพ์บท โดยที่วิษณุเองก็ไม่รู้ตัว จนเมื่อได้เห็นบทที่เขาเขียนเองกับมือ ชื่อหยาดกลับกลายเป็นชื่อหยดและหญิงสาวในชุดสไบสีม่วงยังบอกเขาว่า ช่วยปลดปล่อยเธอกับพี่หยดที ทำให้วิษณุเริ่มสงสัยว่าชื่อหยดมาจากไหน และเริ่มเปิดกล้องถ่ายทำโดยไปถ่ายทำที่เรือนวนาเทพ
คืนนั้นเองก็เป็นครั้งแรกที่วิษณุฝันถึงผู้หญิงในชุดสไบสีแดงที่ชื่อ หยด (มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล) โดยเห็นตัวเองเป็นพระวนาเทพเข้าไปช่วยเหลืออีหยดที่ถูกชายฉกรรจ์ฉุดและได้เอาผ้าเช็ดหน้าเช็ดเนื้อตัวมอมแมมของหยด ก่อนมอบไว้ให้หยอด ซึ่งหยดก็สัญญามั่นว่าจะนำผ้าผืนนี้ไปคืนไม่ว่าวิษณุจะอยู่แห่งหนใด ส่วนหยดเมื่อวิษณุจำมันได้แล้ว วิญญาณของมันเลยได้รับการปลดปล่อยออกจากมีดที่ปักหลังและเชือกที่รัดมันไว้ให้ออกจากห้องเก็บของและเพ่นพ่านไปมาบนเรือนนี้ได้ รินออกไปตลาดนางบาป มีคนบอกว่าจริงๆ แล้วนางหยาดไม่ได้ร้ายตามตำนานและไม่ใช่คนฆ่ากำไล แต่ก็ไม่มีใครบอกได้ว่าแล้วใครทำ
วิษณุเริ่มคิวแรกด้วยการถ่ายทำฉากนางหยาดถูกแขวนคอ แต่เมื่อถึงฉากที่พายต้องขึ้นนั่งร้านเพื่อถ่ายทำฉากแขวนคอ พายเกิดกลัวขึ้นมา จนการถ่ายทำสะดุด รินจึงตัดสินใจเป็นตัวแสดงแทนพาย แต่แล้วกลับเกิดอุบัติเหตุหนักกลางกอง เมื่อเชือกที่รินห้อยกลับขาดลงมา รินร่วงจากนั่งร้านตกลงที่พื้น ปาลรีบพารินไปโรงพยาบาล ที่วิษณุระเบิดลงกลางกอง แต่ก็หาตัวคนผิดไม่ได้ กิฟท์เมื่อว่างจากตารางถ่าย ก็นึกพิเรนทร์ชวนทีมงานเล่นผีถ้วยแก้ว ผีหยดปรากฏตัวขึ้นกลางวงและประกาศกร้าวว่าข้าจะกลับมาเอาคืนในสิ่งที่ควรเป็นของข้า ไม่ว่าอ้ายอีหน้าไหนขวางหน้า ข้าจะฆ่าให้หมด แล้วผีหยดก็ตามประกบกิฟท์ขณะเข้าฉากจนกิฟท์ไม่เป็นอันทำการแสดง
วิษณุเครียด กับปัญหาทุกอย่าง จึงหลบไปสงบใจที่วัดบางบาป แล้วเขาก็ได้คุยกับหลวงพ่อ ที่วัดบางบาป จนระลึกได้ว่าชาติที่แล้วเขาคือพระวนาเทพ และ กิฟท์ก็คือคุณกำไลนั่นเอง และยิ่งกว่านั้น ทาสที่รับใช้กำไลมีสองคน คือหยาด และ อีกคนก็คือ หยด วิษณุ จึงกลับไปเล่าเรื่องทุกอย่างให้รินฟัง อีหยดพยายามจะเข้าสิงร่างริน แต่ก็ถูกขัดขวางโดยนางหยาดทุกครั้ง อีหยดแค้นใจนางหยาดเป็นอย่างมาก แต่ไม่เท่าที่รู้สึกน้อยใจในตัววิษณุ ที่รักรินอย่างเหลือเกิน เพราะในอดีตเธอก็เคยพลาดหวังมาแล้ว เมื่อรู้ว่าพระวนาเทพจะมาแต่งงานกับคุณกำไล ซึ่งนางเยื้อนเห็นว่านิสัยของหยดจะนำพาแต่ปัญหาจึงสั่งให้หยดทำงานอยู่แค่เรือนครัวเท่านั้น และส่งหยาดไปรับใช้คุณกำไล วันแต่งงานและเข้าหอของพระวนาเทพ นางเยื้อนจับหยดกักขังไว้ในห้องเก็บของบรรยากาศ หยดร้องไห้น้ำตาไหลเป็นสายเลือดด้วยความเสียใจ ปัจจุบันหยดยังแค้นใจและคิดจะสิงร่างของรินให้ได้
ยิ่งนับวันปาลก็เริ่มชอบในตัวรินมากขึ้นมากและขอรินเป็น แฟนตรงๆ แต่รินกลับขอเวลาพิสูจน์ปาล ฝั่งอีหยด เมื่อเห็นว่ารินไม่ได้สวมพระเพราะพระไปอยู่ที่พายแล้วตามแผนที่มันวางไว้ มันก็สามารถเข้าสิงร่างรินได้อย่างง่ายดาย หลังจากวันนั้นรินก็มีอาการแปลกไปหาเรื่องกิฟท์อยู่ตลอดเวลา อีกทั้งยังยั่วยวนวิษณุตลอดเวลาจนปาลเริ่มไม่ชอบใจ ในอดีตหลังจากที่พระวนาเทพแต่งงานกับกำไลแล้วก็ยังแอบมาหาหยดอยู่เช่นเดิม แล้ววิษณุก็เห็นภาพในอดีตอีก ทำให้รู้ว่ากำไลและหยด มีสามีคนเดียวกันคือพระวนาเทพ กำไลคลอดลูกสาวออกมา รู้สึกเจ็บช้ำน้ำใจเรื่องที่หยดมายุ่งเกี่ยวกับสามีตนจนไม่ยอมเลี้ยงลูก ทำให้หยาดมาเลี้ยงดูลูกของกำไลแทน จนถึงลูกคนที่สองของกำไล พระวนาเทพเริ่มเห็นความรัก ความซื่อสัตย์ที่หยาดมีต่อกำไล จึงอยากได้หยาดไปเป็นเมียอีกคน แต่หยาดไม่ยอม พระวนาเทพจึงไปขอกับกำไลตรงๆ
คุณกำไลเจ็บช้ำ แต่ก็สั่งให้หยาดไปเป็นเมียพระวนาเทพทั้งน้ำตา จากนั้นก็ไม่เคยยอมให้หยาดรับใช้ข้างกายอีกเลย ตัดกลับมาปัจจุบัน วิษณุมองต้นไม้ที่หยาดถูกแขวนคอแล้วน้ำตารื้น ที่หยาดถูกใส่ร้าย จึงคิดจะปรับบทละครอีกครั้ง ระหว่างพักกอง ปาลมีโอกาสได้ใกล้ชิดกับรินมากขึ้น ความสัมพันธ์ของทั้งคู่พัฒนาขึ้น อย่างรวดเร็ว แต่รินยังเกรงใจพาย ที่คอยโทรหาปาลเป็นระยะๆ และรู้ว่าถ้าเธอเปิดเผยความสัมพันธ์นี้ อาจจะทำให้กองมีปัญหาอีกก็ได้ รินจึงไม่กล้าเทใจให้ปาลมากนัก วิษณุต้องเร่งกลับมาถ่ายทำละครอีกครั้ง หลังจากที่ผู้อำนวยการช่องไม่ยอมให้เลื่อนการถ่ายทำออกไปอีก เขาถ่ายทำด้วยความฝืนใจที่ทุกครั้งหยาดต้องเล่นบทเป็นผีร้ายในละครที่เขากำกับ
เขาเข้าใจแล้วทำไมตอนนั้นบทของเขาจึงถูกเปลี่ยนกลายเป็นชื่อหยดโดยที่เขาไม่รู้ตัว หยาดต้องการมาบอกให้เขาได้รู้บาปกรรมในอดีตที่เคยกระทำลงไป และการถ่ายทำละครก็เดินทางมาถึงตอนที่หยาดเริ่มคิดจะวางยาพิษกำไล ภาพในละครที่วิษณุกำกับคือหยาดเริ่มกร่าง แต่เมื่อตัดเข้าไปภาพในอดีตของจริง คนที่กร่างจริงๆ คืออีหยด ยิ่งเมื่อหยดรู้ว่าพระวนาเทพปรารถนาในตัวหยาด จึงหาทางกลั่นแกล้งหยาดทุกรูปแบบ หยดท้องในที่สุด พระวนาเทพสัญญาว่าถ้าเป็นลูกชายจริงจะให้หยดได้ขึ้นไปอยู่เรือนใหญ่ไม่ต้องเป็นลูกทาสอีกต่อไป แต่แล้วคุณกำไลก็ท้องอีก ส่วนหยดสะดุดบันไดแท้งลูก เธอสั่งหมอไม่ให้บอกความจริงแก่พระวนาเทพและสั่งให้คนไปฆ่าหมออีกด้วยเพื่อปิดทุกอย่างเป็นความลับ
แล้วหยดก็หลอกให้หยาดเอายาพิษไปให้กำไลกินจนกำไลเริ่มป่วย หยาดถูกหยดใส่ร้ายว่าจะฆ่ากำไลและลูก จนหยาดถูกแขวนคอบนต้นไม้ขาดใจตาย ท่ามกลางรอยยิ้มสะใจของหยด กับเสียงร้องไห้ของนางเยื้อนที่รู้ว่าหยดทำร้ายทุกคนและหลอกอีกว่ายังท้องอยู่ เยื้อนทนไม่ไหวใช้มีดแทงหยดคามือ บอกว่าถ้ามีใครสักคนต้องหยุด หยดขอให้เป็นแม่เองและเอ็งอย่าไปสร้างเวรสร้างกรรมที่ไหนอีก แม่ขอสาปแช่งหยด "ขอให้เอ็งต้องอยู่ชดใช้กรรมที่บ้านหลังนี้ ไม่ต้องไปผุดไปเกิดสร้างเวรที่ไหนอีก ขอให้เอ็งติดอยู่ที่นี่ ดูทุกสิ่งที่เอ็งต้องการแต่ไม่มีวันได้มาครอบครอง ติดให้นานนานเทียบเท่ากับทุกหยดน้ำตาของแม่
กำไลที่กำลังจะตายเอ่ยปากบอกพระวนาเทพว่าเรื่องทั้งหมดมันเกิดจากความมักมาก หลายใจไม่รู้จักพอของชายเพียงคนเดียว กำไลใช้แรงเฮือกสุดท้ายสาปพระวนาเทพเอ่ยตัดคำสัญญาต่อกัน ขอให้ความสัมพันธ์ผัวเมียสิ้นสุดกันในชาตินี้ ในเมื่อชาตินี้พี่ผิดคำสัญญารัก ยกย่องใครคนอื่นมากกว่า ฉันชาติหน้าขอให้พี่ รักหญิงใดไม่ได้อีกเลย จากนั้นก็สิ้นใจต่อหน้าพระวนาเทพโดยมือยังกุมลูกในท้องไว้ กิฟท์เมื่อเห็นท่าทีของรินที่สนิทกับปาล ก็ไปคุยกับเดือนเรื่องที่พาไลกับปาลเคยมีอะไรกัน ผีหยดในร่างเดือนนึกสนุก ต้องการทำลายคนอื่น เลยปล่อยข่าวเรื่องนี้ให้ถึงหูริน ทำให้ความสัมพันธ์ของรินกับปาลที่กำลังจะพัฒนาต้องสะดุดลงไปอีก
รินเข้าใจสาเหตุที่ดาราอย่างต้นยอมข้ามช่องมาเล่นละครเรื่องนี้ เพราะต้นชอบวิษณุนั่นเอง ส่วนผีหยดเองก็เริ่มเปลี่ยนเป้าหมายจากรินหันไปปองร้ายต้น ด้วยเหตุการณ์ลึกลับต่างๆ นานา วิษณุอัญเชิญหลวงพ่อมาทำพิธี ด้วยการไหว้ขอขมาหยดกันแบบลับๆ แต่นางหยดกลับไม่ยอมอภัยให้ รินเอาพระไปให้ต้นสวมเมื่อไม่สามารถทำลายต้นได้ ผีหยดจึงออกอาละวาดหลอกกองถ่ายทั้งทีม แม้ผีหยาดจะคอยปรามพี่สาวตัวเอง แต่ก็ไม่สามารถต้านทานแรงอาฆาตนั้นได้ หยาดปรากฏกายให้กิฟท์เห็น และมาขอโทษเรื่องในอดีตที่ผ่านมา ทำให้กิฟท์ตกใจมาก แต่กิฟท์ก็ไปเล่าเรื่องทุกอย่างให้วิษณุฟังว่าเธอคือคุณกำไล และวิษณุคือคุณวนาเทพ
หน้ากระดานผีถ้วยแก้ว ปาล ริน กิฟท์ ช่วยกันทำพิธีส่งวิญญาณหยาดและหยดกลับ ที่ผีหยาดปรากฏตัวขึ้นอำลาทุกคน พอตอนจะเชิญผีหยดกลับ วิษณุกล่าวขอโทษหยดถึงความผิดในอดีตของเขา และขอให้หยดอโหสิกรรม และหากจะมีสักคนที่หยดอยากจะทำร้ายก็ควรเป็นเขา ไม่ใช่ต้นหรือริน เพราะเขาคือต้นเหตุเรื่องทั้งหมด ผีหยดยืนฟังคำขอโทษของวิษณุน้ำตาอาบหน้า ขณะที่แก้วเคลื่อนเหมือนจะไปที่จุดทางออก พอเกือบถึงช่องนั้นแก้วกลับแตกกระจายและบาดวิษณุจนเลือดอาบแล้วภาพก็ดับวูบไป
ทีมงานเตรียมถ่ายทำซ่อมฉากสุดท้ายคือฉากแขวนคอ ถ่ายทำฉากแขวนคอครั้งนี้ผ่านไปด้วยดี โดยที่พายขอแก้มือด้วยการแสดงเอง วิษณุสั่งปิดกล้อง ทีมงานทุกคนเฮลั่น งานเลี้ยงปิดกล้อง เสียงเพลงดังลั่น สื่อมากันหมด รวมทั้งผู้จัดการของต้นและกิฟท์ กิฟท์หาทางจะมาพูดคุยกับต้น ปาลขึ้นไปร้องเพลงบอกรักริน และเปิดตัวอย่างเป็นทางการต่อหน้าการทำข่าวปิดกล้องของสื่อ ผีหยดในร่างเดือนคอยจ้องต้นตลอดเวลา พาไลเห็นเดือนที่จ้องต้นอยู่ก็มีท่าทีไม่พอใจ แล้วกิฟท์ก็ถูกมีดปาดเข้าที่คอ โดยไม่เห็นหน้าคนร้าย เดือนเข้ามาในห้องพักต้น มองไปรอบๆ เตรียมมีดไว้ในมือ แล้วเดือนก็เดินเข้ามาในห้องอีกคน
พาไล (พริมรตา เดชอุดม) แสดงธาตุแท้ออกมา พาไลไม่ได้รู้เลยว่าเดือนต้องการปองร้ายต้นต่างหาก ส่วนมันเองก็ฆ่าผิดคน จริงๆ ต้นอาจไม่ได้รักวิษณุ แต่รักพาไลหรือเปล่า วิษณุ ปาล ริน รีบวิ่งตามไปเสียงนั้นทันที เมื่อเปิดประตูห้องต้นเข้าไป ทุกคนก็ตกใจกับภาพเดือนที่เลือดอาบคามีดในมือของพาไล ต้นวิ่งตามมาพร้อมกิฟท์ เมื่อพาไลเห็นต้นก็พร่ำเพ้อ ความน้อยใจที่เกิดจากความหึงหวงทันที ที่รินกับปาลรีบพาร่างของเดือนขึ้นไปส่งโรงพยาบาล ร่างของเดือนถูกระโยงระยางด้วยสายยางเต็มไปหมด ผีหยดในร่างเดือนระส่ำระสาย และไม่แน่ใจว่าจะอาศัยร่างนี้ต่อไปได้หรือไม่
เมื่อน้า ยุพดี (พิมพ์พรรณ ชลายนคุปต์) แม่ของเดือนปรากฏตัวเยี่ยม ผีหยดก็ต้องอึดอัดแทบหายใจไม่ออก เพราะที่แท้แม่ของเดือนคือ นางเยื้อน (พิมพ์พรรณ ชลายนคุปต์) แม่ของนางหยดและนางหยาดในชาติที่แล้วที่ร่างของเดือน เมื่อน้ำตาของแม่หยดลงบนร่าง คำสาปก็ถูกปลุก วิญญาณของหยดต้องกลับไปสิงสถิตอยู่ที่ห้องเก็บของในบ้านชายน้ำ เห็นภาพนางหยด ในสภาพที่น่าสงสารอย่างที่สุด มันเอามือประคองท้องของมันที่เต็มไปด้วยเลือด และมีดที่ปักกลางตัวมันไว้ ส่วนกิฟท์กับต้นตกลงเป็นแฟนกันเพื่อผลประโยชน์ สื่อออกข่าวคู่ขวัญครึกโครม รินกลับมาที่บ้านชายน้ำ ปาลตามมาช่วยดูแลและรินรับรักปาล และที่เรือนวนาเทพทุกครั้งที่มีคนไปเยี่ยมชมเรือนและเดินผ่านห้องเก็บของก็ยังคงได้ยินเสียงกรีดร้องของวิญญาณหยดที่ถูกขังไว้ในทุกค่ำคืนดังหลอกหลอนอยู่อย่างนั้น
คุณกำไลแต่งงานกับพระวนาเทพ จนมีบุตรสาว 2 คน นางหยาดได้โอกาสยั่วยวนพระวนาเทพจนได้กลายเป็นเมียทาสในที่สุด นางหยาดเที่ยวไปชูคอว่าพระวนาเทพจะแต่งตั้งให้ขึ้นมาเสมอคุณกำไล แต่สุดท้ายกำไลก็ตั้งท้องลูกคนที่ 3 ทำให้นางหยาดแค้นใจมาก จึงคิดวางยาคุณกำไลที่ตั้งท้องอ่อนลูกชายอยู่ รวมถึงลูกสาวอีกสองคนจนถึงแก่ชีวิต เหล่าบรรดาทาสเมื่อรู้เรื่อง ก็โกรธแค้นและรักตัวกลัวความผิดจะสาดทอดมาถึงตัวเอง จึงรวมหัวกันนำร่างของนางหยาดไปแขวนคอที่ใต้ต้นไม้ในเรือนวนาเทพ ความโหดร้ายของนางหยาด กลายเป็นตำนานที่ถูกเล่า ทั่วไปในหมู่บ้านบางบาป จนทำให้ชื่อหมู่บ้านเพี้ยนมาเป็น นางบาปอย่างทุกวันนี้ และตั้งแต่ที่บริษัทเบญจกายแปลงรับงาน ตัดต่อเทปนี้มา วิษณุก็เริ่มฝันเห็นผู้หญิงในชุดสไบสีม่วง และเรื่องราวตามตำนานเป็นฉากๆ
คืนประกาศรับรางวัลนาฏราช ที่เต็มไปด้วยกองทัพนักแสดง บุคคลในวงการบันเทิง และ นักข่าวมากมาย ต้น ธนัตถ์ (วัทธิกร เพิ่มทรัพย์หิรัญ) และ กิฟท์ ภาพิมล (วรรณปิยะ ออมสินนพกุล) นักแสดงที่มาแรงที่สุดของเมืองไทยตอนนั้น ได้ขึ้นรับรางวัลร่วมกัน ในฐานนะนักแสดงนำชายและนำหญิง ส่วนวิษณุได้ขึ้นรับรางวัลสารคดียอดเยี่ยม จากสารคดีแนวประวัติศาสตร์งานถนัดของเขา โดยได้กล่าวขอบคุณ เรืองริน (ปรียากานต์ ใจกันทะ) ที่ชื่นชมในตัวเขามาตั้งแต่ตอนที่เขาเคยไปเป็นอาจารย์พิเศษที่คณะ จนขอตามมาฝึกงานและทำงานกับเขามาตลอดตั้งแต่นั้น และในงานนี้เองวิษณุก็ไปร่วมงานด้วย
หลังงานรับรางวัลเลิก ขณะวิษณุขับรถกลับ วิษณุก็มองเห็นผู้หญิงในชุดสไบสีม่วง ผูกคอตายที่ริมต้นไม้ข้างทาง แต่รินที่นั่งมาด้วย กลับมองไม่เห็นภาพนั้น และเมื่อกลับ มาถึงที่บริษัท ก็เห็นภาพของผู้หญิงในชุดสไบม่วงคนเดียวกับที่เห็นข้างทาง ผูกคอตายใต้ต้นไม้ในตำนานนั้น แต่ครั้งนี้มีเสียงผู้หญิงเพรียกหา เรียกเขาว่าคุณพระและขอให้เขาเดินทางมาหาเธอที่ต้นไม้แห่งนี้ วิษณุประหลาดใจมาก เพราะที่แท้แล้วนางบาป ก็คือบ้านเกิดของเขานั่นเอง วิษณุจึงตัดสินใจเดินทางไปที่อำเภอ นางบาปในวันรุ่งขึ้น
เมื่อเดินทางไปถึงที่อำเภอนางบาป วิษณุขอตัวไปดูรอบๆ และให้รินไปติดต่อเจ้าของเรือนวนาเทพ ที่ได้ดัดแปลงสถานที่มาเป็นรีสอร์ตบ้านชายน้ำ ทำให้รินได้เจอกับปาลที่บนเรือน และเข้าใจผิดว่าปาลเป็นเจ้าของเรือนวนาเทพ ปาลแกล้งสวมรอยก่อนสุดท้ายจะเฉลยว่า เขาเป็นแค่พิธีกรที่เคยมาถ่ายรายการที่นี่ ปาลก็คือรุ่นน้องที่สถาปัตย์ของวิษณุ ส่วนวิษณุที่ยืนมองต้นไม้ในตำนานอยู่ ก็เหมือนตกอยู่ในมนต์สะกดใต้ต้นไม้ในตำนานต้นนั้น เขาสัมผัสต้นไม้ และรู้สึกถึงเลือดสีแดงฉาน ที่ไหลออกมาจากลำต้นอาบรดมือเขา ก่อนจะปรากฏร่างของหญิงสาวในชุดสไบม่วงให้เขาเห็นเต็มๆ ตา และขอร้องเขาอีกครั้งว่าให้กลับมาปิดตำนานนางบาปเสียที เมื่อกลับจากการเดินทาง วิษณุจึงตัดสินใจจะทำเรื่องราวเกี่ยวกับตำนานนางบาปเป็นละคร
วิษณุสามารถทาบทามต้น พระเอกชื่อ ดังให้ข้ามช่องมาเล่นเป็นพระวนาเทพได้ ขอกิฟท์นางเอกหมายเลขหนึ่งของช่องมารับบทเป็นคุณกำไล ส่วนบทบาทของ นางหยาด รับโดย พายภัคตรา (สุทธิกานต์ หวังเจริญทวีกุล) นางร้ายนิสัยดี ที่ถูกชะตากับปาลตั้งแต่เจอกันวันคัดเลือกนักแสดง รินถูกกดดันหนัก จากการเป็นผู้จัดหน้าใหม่ ถูกทีมงานต่อว่าลับหลัง แม้กระทั่งพีอาร์กอง เธอยังต้องนำ เดือน น้องสาวของ ฝน แฟนเก่าของเขา มารับหน้าที่ประชาสัมพันธ์กองแทน เดือน (วิรากานต์ เสณีตันติกุล) น้องสาวของแฟนเก่าวิษณุก็ไม่พอใจที่รินสนิทสนมกับวิษณุเช่นกัน กิฟท์ ที่ไม่พอใจ ทั้งธนัตถ์และปาล ให้ความสนใจในตัวรินเป็นพิเศษ
รินกลายเป็นศัตรูของทั้งเดือน กิฟท์ ทั้งที่ไม่ได้ทำอะไร มีแต่ พาไล (พริมรตา เดชอุดม) ผู้จัดการสาวมาดนิ่งของต้น ที่คอยให้กำลังใจริน เรื่องราวมีปัญหาไปจนถึงคนเขียนบท จนทำให้วิษณุ ต้องเขียนบทเองด้วยความช่วยเหลืออย่างลับๆ จากผีหยาดที่คอยมาช่วยพิมพ์บท โดยที่วิษณุเองก็ไม่รู้ตัว จนเมื่อได้เห็นบทที่เขาเขียนเองกับมือ ชื่อหยาดกลับกลายเป็นชื่อหยดและหญิงสาวในชุดสไบสีม่วงยังบอกเขาว่า ช่วยปลดปล่อยเธอกับพี่หยดที ทำให้วิษณุเริ่มสงสัยว่าชื่อหยดมาจากไหน และเริ่มเปิดกล้องถ่ายทำโดยไปถ่ายทำที่เรือนวนาเทพ
คืนนั้นเองก็เป็นครั้งแรกที่วิษณุฝันถึงผู้หญิงในชุดสไบสีแดงที่ชื่อ หยด (มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล) โดยเห็นตัวเองเป็นพระวนาเทพเข้าไปช่วยเหลืออีหยดที่ถูกชายฉกรรจ์ฉุดและได้เอาผ้าเช็ดหน้าเช็ดเนื้อตัวมอมแมมของหยด ก่อนมอบไว้ให้หยอด ซึ่งหยดก็สัญญามั่นว่าจะนำผ้าผืนนี้ไปคืนไม่ว่าวิษณุจะอยู่แห่งหนใด ส่วนหยดเมื่อวิษณุจำมันได้แล้ว วิญญาณของมันเลยได้รับการปลดปล่อยออกจากมีดที่ปักหลังและเชือกที่รัดมันไว้ให้ออกจากห้องเก็บของและเพ่นพ่านไปมาบนเรือนนี้ได้ รินออกไปตลาดนางบาป มีคนบอกว่าจริงๆ แล้วนางหยาดไม่ได้ร้ายตามตำนานและไม่ใช่คนฆ่ากำไล แต่ก็ไม่มีใครบอกได้ว่าแล้วใครทำ
วิษณุเริ่มคิวแรกด้วยการถ่ายทำฉากนางหยาดถูกแขวนคอ แต่เมื่อถึงฉากที่พายต้องขึ้นนั่งร้านเพื่อถ่ายทำฉากแขวนคอ พายเกิดกลัวขึ้นมา จนการถ่ายทำสะดุด รินจึงตัดสินใจเป็นตัวแสดงแทนพาย แต่แล้วกลับเกิดอุบัติเหตุหนักกลางกอง เมื่อเชือกที่รินห้อยกลับขาดลงมา รินร่วงจากนั่งร้านตกลงที่พื้น ปาลรีบพารินไปโรงพยาบาล ที่วิษณุระเบิดลงกลางกอง แต่ก็หาตัวคนผิดไม่ได้ กิฟท์เมื่อว่างจากตารางถ่าย ก็นึกพิเรนทร์ชวนทีมงานเล่นผีถ้วยแก้ว ผีหยดปรากฏตัวขึ้นกลางวงและประกาศกร้าวว่าข้าจะกลับมาเอาคืนในสิ่งที่ควรเป็นของข้า ไม่ว่าอ้ายอีหน้าไหนขวางหน้า ข้าจะฆ่าให้หมด แล้วผีหยดก็ตามประกบกิฟท์ขณะเข้าฉากจนกิฟท์ไม่เป็นอันทำการแสดง
วิษณุเครียด กับปัญหาทุกอย่าง จึงหลบไปสงบใจที่วัดบางบาป แล้วเขาก็ได้คุยกับหลวงพ่อ ที่วัดบางบาป จนระลึกได้ว่าชาติที่แล้วเขาคือพระวนาเทพ และ กิฟท์ก็คือคุณกำไลนั่นเอง และยิ่งกว่านั้น ทาสที่รับใช้กำไลมีสองคน คือหยาด และ อีกคนก็คือ หยด วิษณุ จึงกลับไปเล่าเรื่องทุกอย่างให้รินฟัง อีหยดพยายามจะเข้าสิงร่างริน แต่ก็ถูกขัดขวางโดยนางหยาดทุกครั้ง อีหยดแค้นใจนางหยาดเป็นอย่างมาก แต่ไม่เท่าที่รู้สึกน้อยใจในตัววิษณุ ที่รักรินอย่างเหลือเกิน เพราะในอดีตเธอก็เคยพลาดหวังมาแล้ว เมื่อรู้ว่าพระวนาเทพจะมาแต่งงานกับคุณกำไล ซึ่งนางเยื้อนเห็นว่านิสัยของหยดจะนำพาแต่ปัญหาจึงสั่งให้หยดทำงานอยู่แค่เรือนครัวเท่านั้น และส่งหยาดไปรับใช้คุณกำไล วันแต่งงานและเข้าหอของพระวนาเทพ นางเยื้อนจับหยดกักขังไว้ในห้องเก็บของบรรยากาศ หยดร้องไห้น้ำตาไหลเป็นสายเลือดด้วยความเสียใจ ปัจจุบันหยดยังแค้นใจและคิดจะสิงร่างของรินให้ได้
ยิ่งนับวันปาลก็เริ่มชอบในตัวรินมากขึ้นมากและขอรินเป็น แฟนตรงๆ แต่รินกลับขอเวลาพิสูจน์ปาล ฝั่งอีหยด เมื่อเห็นว่ารินไม่ได้สวมพระเพราะพระไปอยู่ที่พายแล้วตามแผนที่มันวางไว้ มันก็สามารถเข้าสิงร่างรินได้อย่างง่ายดาย หลังจากวันนั้นรินก็มีอาการแปลกไปหาเรื่องกิฟท์อยู่ตลอดเวลา อีกทั้งยังยั่วยวนวิษณุตลอดเวลาจนปาลเริ่มไม่ชอบใจ ในอดีตหลังจากที่พระวนาเทพแต่งงานกับกำไลแล้วก็ยังแอบมาหาหยดอยู่เช่นเดิม แล้ววิษณุก็เห็นภาพในอดีตอีก ทำให้รู้ว่ากำไลและหยด มีสามีคนเดียวกันคือพระวนาเทพ กำไลคลอดลูกสาวออกมา รู้สึกเจ็บช้ำน้ำใจเรื่องที่หยดมายุ่งเกี่ยวกับสามีตนจนไม่ยอมเลี้ยงลูก ทำให้หยาดมาเลี้ยงดูลูกของกำไลแทน จนถึงลูกคนที่สองของกำไล พระวนาเทพเริ่มเห็นความรัก ความซื่อสัตย์ที่หยาดมีต่อกำไล จึงอยากได้หยาดไปเป็นเมียอีกคน แต่หยาดไม่ยอม พระวนาเทพจึงไปขอกับกำไลตรงๆ
คุณกำไลเจ็บช้ำ แต่ก็สั่งให้หยาดไปเป็นเมียพระวนาเทพทั้งน้ำตา จากนั้นก็ไม่เคยยอมให้หยาดรับใช้ข้างกายอีกเลย ตัดกลับมาปัจจุบัน วิษณุมองต้นไม้ที่หยาดถูกแขวนคอแล้วน้ำตารื้น ที่หยาดถูกใส่ร้าย จึงคิดจะปรับบทละครอีกครั้ง ระหว่างพักกอง ปาลมีโอกาสได้ใกล้ชิดกับรินมากขึ้น ความสัมพันธ์ของทั้งคู่พัฒนาขึ้น อย่างรวดเร็ว แต่รินยังเกรงใจพาย ที่คอยโทรหาปาลเป็นระยะๆ และรู้ว่าถ้าเธอเปิดเผยความสัมพันธ์นี้ อาจจะทำให้กองมีปัญหาอีกก็ได้ รินจึงไม่กล้าเทใจให้ปาลมากนัก วิษณุต้องเร่งกลับมาถ่ายทำละครอีกครั้ง หลังจากที่ผู้อำนวยการช่องไม่ยอมให้เลื่อนการถ่ายทำออกไปอีก เขาถ่ายทำด้วยความฝืนใจที่ทุกครั้งหยาดต้องเล่นบทเป็นผีร้ายในละครที่เขากำกับ
เขาเข้าใจแล้วทำไมตอนนั้นบทของเขาจึงถูกเปลี่ยนกลายเป็นชื่อหยดโดยที่เขาไม่รู้ตัว หยาดต้องการมาบอกให้เขาได้รู้บาปกรรมในอดีตที่เคยกระทำลงไป และการถ่ายทำละครก็เดินทางมาถึงตอนที่หยาดเริ่มคิดจะวางยาพิษกำไล ภาพในละครที่วิษณุกำกับคือหยาดเริ่มกร่าง แต่เมื่อตัดเข้าไปภาพในอดีตของจริง คนที่กร่างจริงๆ คืออีหยด ยิ่งเมื่อหยดรู้ว่าพระวนาเทพปรารถนาในตัวหยาด จึงหาทางกลั่นแกล้งหยาดทุกรูปแบบ หยดท้องในที่สุด พระวนาเทพสัญญาว่าถ้าเป็นลูกชายจริงจะให้หยดได้ขึ้นไปอยู่เรือนใหญ่ไม่ต้องเป็นลูกทาสอีกต่อไป แต่แล้วคุณกำไลก็ท้องอีก ส่วนหยดสะดุดบันไดแท้งลูก เธอสั่งหมอไม่ให้บอกความจริงแก่พระวนาเทพและสั่งให้คนไปฆ่าหมออีกด้วยเพื่อปิดทุกอย่างเป็นความลับ
แล้วหยดก็หลอกให้หยาดเอายาพิษไปให้กำไลกินจนกำไลเริ่มป่วย หยาดถูกหยดใส่ร้ายว่าจะฆ่ากำไลและลูก จนหยาดถูกแขวนคอบนต้นไม้ขาดใจตาย ท่ามกลางรอยยิ้มสะใจของหยด กับเสียงร้องไห้ของนางเยื้อนที่รู้ว่าหยดทำร้ายทุกคนและหลอกอีกว่ายังท้องอยู่ เยื้อนทนไม่ไหวใช้มีดแทงหยดคามือ บอกว่าถ้ามีใครสักคนต้องหยุด หยดขอให้เป็นแม่เองและเอ็งอย่าไปสร้างเวรสร้างกรรมที่ไหนอีก แม่ขอสาปแช่งหยด "ขอให้เอ็งต้องอยู่ชดใช้กรรมที่บ้านหลังนี้ ไม่ต้องไปผุดไปเกิดสร้างเวรที่ไหนอีก ขอให้เอ็งติดอยู่ที่นี่ ดูทุกสิ่งที่เอ็งต้องการแต่ไม่มีวันได้มาครอบครอง ติดให้นานนานเทียบเท่ากับทุกหยดน้ำตาของแม่
กำไลที่กำลังจะตายเอ่ยปากบอกพระวนาเทพว่าเรื่องทั้งหมดมันเกิดจากความมักมาก หลายใจไม่รู้จักพอของชายเพียงคนเดียว กำไลใช้แรงเฮือกสุดท้ายสาปพระวนาเทพเอ่ยตัดคำสัญญาต่อกัน ขอให้ความสัมพันธ์ผัวเมียสิ้นสุดกันในชาตินี้ ในเมื่อชาตินี้พี่ผิดคำสัญญารัก ยกย่องใครคนอื่นมากกว่า ฉันชาติหน้าขอให้พี่ รักหญิงใดไม่ได้อีกเลย จากนั้นก็สิ้นใจต่อหน้าพระวนาเทพโดยมือยังกุมลูกในท้องไว้ กิฟท์เมื่อเห็นท่าทีของรินที่สนิทกับปาล ก็ไปคุยกับเดือนเรื่องที่พาไลกับปาลเคยมีอะไรกัน ผีหยดในร่างเดือนนึกสนุก ต้องการทำลายคนอื่น เลยปล่อยข่าวเรื่องนี้ให้ถึงหูริน ทำให้ความสัมพันธ์ของรินกับปาลที่กำลังจะพัฒนาต้องสะดุดลงไปอีก
รินเข้าใจสาเหตุที่ดาราอย่างต้นยอมข้ามช่องมาเล่นละครเรื่องนี้ เพราะต้นชอบวิษณุนั่นเอง ส่วนผีหยดเองก็เริ่มเปลี่ยนเป้าหมายจากรินหันไปปองร้ายต้น ด้วยเหตุการณ์ลึกลับต่างๆ นานา วิษณุอัญเชิญหลวงพ่อมาทำพิธี ด้วยการไหว้ขอขมาหยดกันแบบลับๆ แต่นางหยดกลับไม่ยอมอภัยให้ รินเอาพระไปให้ต้นสวมเมื่อไม่สามารถทำลายต้นได้ ผีหยดจึงออกอาละวาดหลอกกองถ่ายทั้งทีม แม้ผีหยาดจะคอยปรามพี่สาวตัวเอง แต่ก็ไม่สามารถต้านทานแรงอาฆาตนั้นได้ หยาดปรากฏกายให้กิฟท์เห็น และมาขอโทษเรื่องในอดีตที่ผ่านมา ทำให้กิฟท์ตกใจมาก แต่กิฟท์ก็ไปเล่าเรื่องทุกอย่างให้วิษณุฟังว่าเธอคือคุณกำไล และวิษณุคือคุณวนาเทพ
หน้ากระดานผีถ้วยแก้ว ปาล ริน กิฟท์ ช่วยกันทำพิธีส่งวิญญาณหยาดและหยดกลับ ที่ผีหยาดปรากฏตัวขึ้นอำลาทุกคน พอตอนจะเชิญผีหยดกลับ วิษณุกล่าวขอโทษหยดถึงความผิดในอดีตของเขา และขอให้หยดอโหสิกรรม และหากจะมีสักคนที่หยดอยากจะทำร้ายก็ควรเป็นเขา ไม่ใช่ต้นหรือริน เพราะเขาคือต้นเหตุเรื่องทั้งหมด ผีหยดยืนฟังคำขอโทษของวิษณุน้ำตาอาบหน้า ขณะที่แก้วเคลื่อนเหมือนจะไปที่จุดทางออก พอเกือบถึงช่องนั้นแก้วกลับแตกกระจายและบาดวิษณุจนเลือดอาบแล้วภาพก็ดับวูบไป
ทีมงานเตรียมถ่ายทำซ่อมฉากสุดท้ายคือฉากแขวนคอ ถ่ายทำฉากแขวนคอครั้งนี้ผ่านไปด้วยดี โดยที่พายขอแก้มือด้วยการแสดงเอง วิษณุสั่งปิดกล้อง ทีมงานทุกคนเฮลั่น งานเลี้ยงปิดกล้อง เสียงเพลงดังลั่น สื่อมากันหมด รวมทั้งผู้จัดการของต้นและกิฟท์ กิฟท์หาทางจะมาพูดคุยกับต้น ปาลขึ้นไปร้องเพลงบอกรักริน และเปิดตัวอย่างเป็นทางการต่อหน้าการทำข่าวปิดกล้องของสื่อ ผีหยดในร่างเดือนคอยจ้องต้นตลอดเวลา พาไลเห็นเดือนที่จ้องต้นอยู่ก็มีท่าทีไม่พอใจ แล้วกิฟท์ก็ถูกมีดปาดเข้าที่คอ โดยไม่เห็นหน้าคนร้าย เดือนเข้ามาในห้องพักต้น มองไปรอบๆ เตรียมมีดไว้ในมือ แล้วเดือนก็เดินเข้ามาในห้องอีกคน
พาไล (พริมรตา เดชอุดม) แสดงธาตุแท้ออกมา พาไลไม่ได้รู้เลยว่าเดือนต้องการปองร้ายต้นต่างหาก ส่วนมันเองก็ฆ่าผิดคน จริงๆ ต้นอาจไม่ได้รักวิษณุ แต่รักพาไลหรือเปล่า วิษณุ ปาล ริน รีบวิ่งตามไปเสียงนั้นทันที เมื่อเปิดประตูห้องต้นเข้าไป ทุกคนก็ตกใจกับภาพเดือนที่เลือดอาบคามีดในมือของพาไล ต้นวิ่งตามมาพร้อมกิฟท์ เมื่อพาไลเห็นต้นก็พร่ำเพ้อ ความน้อยใจที่เกิดจากความหึงหวงทันที ที่รินกับปาลรีบพาร่างของเดือนขึ้นไปส่งโรงพยาบาล ร่างของเดือนถูกระโยงระยางด้วยสายยางเต็มไปหมด ผีหยดในร่างเดือนระส่ำระสาย และไม่แน่ใจว่าจะอาศัยร่างนี้ต่อไปได้หรือไม่
เมื่อน้า ยุพดี (พิมพ์พรรณ ชลายนคุปต์) แม่ของเดือนปรากฏตัวเยี่ยม ผีหยดก็ต้องอึดอัดแทบหายใจไม่ออก เพราะที่แท้แม่ของเดือนคือ นางเยื้อน (พิมพ์พรรณ ชลายนคุปต์) แม่ของนางหยดและนางหยาดในชาติที่แล้วที่ร่างของเดือน เมื่อน้ำตาของแม่หยดลงบนร่าง คำสาปก็ถูกปลุก วิญญาณของหยดต้องกลับไปสิงสถิตอยู่ที่ห้องเก็บของในบ้านชายน้ำ เห็นภาพนางหยด ในสภาพที่น่าสงสารอย่างที่สุด มันเอามือประคองท้องของมันที่เต็มไปด้วยเลือด และมีดที่ปักกลางตัวมันไว้ ส่วนกิฟท์กับต้นตกลงเป็นแฟนกันเพื่อผลประโยชน์ สื่อออกข่าวคู่ขวัญครึกโครม รินกลับมาที่บ้านชายน้ำ ปาลตามมาช่วยดูแลและรินรับรักปาล และที่เรือนวนาเทพทุกครั้งที่มีคนไปเยี่ยมชมเรือนและเดินผ่านห้องเก็บของก็ยังคงได้ยินเสียงกรีดร้องของวิญญาณหยดที่ถูกขังไว้ในทุกค่ำคืนดังหลอกหลอนอยู่อย่างนั้น