ละคร เจาะเวลาหาโก๊ะ

ดู 15,363 ครั้ง / แชร์
ละครออกอากาศ วันจันทร์ วันพุธ วันพฤหัส วันศุกร์ วันเสาร์ วันอาทิตย์
ช่องที่ออกอากาศ ละครช่อง 7
เริ่มออกอากาศ 21 กุมภาพันธ์ 2551
เวลาออกอากาศ 18:45 - 19:30 น.
  
กำกับโดย ทองก้อน ศรีทับทิม
ประพันธ์โดย วรการ
นำแสดงโดย
อัษฎาวุธ เหลืองสุนทร ... โก๊ะ
อรวรรษา ฐานวิเศษ ... บุญหลาย
ยิ่งยง ยอดบัวงาม ... ดอกรัก
กีรติ เทพธัญญ์ ... โอสถ
จิลล์ โรเจอร์ ... จอมขวัญ
ราชัน บุญชูวงศ์ ... จัตวา
มาเจตตรา วิเศษสมบัติ ... ดาวเรือน
อาภาพร นครสวรรค์ ... รานี
ชุมพร เทพพิทักษ์ ... เฒ่าหอม
ศรีหนุ่ม เชิญยิ้ม ... เล่าหยาง
ชูศรี เชิญยิ้ม ... เล่าอู
ค่อม ชวนชื่น ... จอระแน
ลุงยุ้ย ลุยสวน ... เม็งรายอ
โยกเยก เชิญยิ้ม ... ชะลูด
พลาธิป น้ำค้าง ... บุญชู (ลูกโก๊ะ)

ภาพนิ่งจากละคร

เรื่องย่อ เจาะเวลาหาโก๊ะ

หลังจากที่นักศึกษาชายหญิงทุกคน สามารถเดินทางผ่านเวลากลับจากโลกอดีตในสมัยเสียกรุงศรีอยุธยา ครั้งที่ 2 กลับมาสู่ในโลกปัจจุบันได้ แต่พรานโก๊ะกลับขอใช้ชีวิตต่อไปอยู่ที่บ้านแพ ซึ่งเป็นหมู่บ้านชายแดนเมืองกาญจนบุรีแห่งนั้น เพราะนอกจากจะมีเลือกรักชาติรักแผ่นดินอันเข้มข้นแล้ว ที่สำคัญคือความรักที่โก๊ะมีต่อ บุญหลาย ลูกสาวของ เฒ่าหอม ซึ่งเป็นจอมใจของเขา โก๊ะจึงตัดสินใจอยู่ใช้ชีวิตคู่กับบุญหลายและช่วยชาวบ้านปกป้องหมู่บ้านท่าแพให้อยู่รอดปลอดภัยจากข้าศึก

ส่วนนักศึกษาที่กลับมาไม่สามารถที่จะเล่าเรื่องที่พวกตนไปผจญภัยให้กับใครฟังได้ เพราะอยากที่จะมีคนเชื่อนอกจากคิดว่าเป็นเรื่องเพ้อฝันเหลวไหล หรือพวกเขาเพ้อเจ้อกันไปเองเพราะพิษไข้ป่า เรื่องราวของพรานโก๊ะกับชาวท่าแพจึงเป็นแค่ความทรงจำอันงดงามและอยู่ในความคิดถึงของทุกคนเท่านั้น ยกเว้น โอสถ ที่ความทรงจำของตัวเองเจือความเจ็บปวดจากความผิดหวังเพราะเมื่อกลับมาไม่นาน จำนรรจ์ ก็ลาออกจากมหาวิทยาลัยและไปเรียนต่อที่อเมริกา

ไม่นานนักก็มีนักข่าวว่าเธอมีคนรู้ใจใหม่ ทิ้งให้โอสถเศร้าซึมอยู่เดียวดาย และทางแก้ไขด้วยการเล่าเรื่องการต่อสู้ของตนเองกับทหารข้าศึกให้เป็นที่สนุกสนานกับพวกนักศึกษารุ่นน้อง แต่ก็มักจะถูกมองว่าพูดโม้หรือเพ้อเจ้อ โดยเฉพาะนักศึกษาปีหนึ่งที่ชื่อ จอมขวัญ หรือ จ๋อม ที่มักจะคอยขัดคออยู่เสมอโดยไม่เกรงกลัวรุ่นพี่ เธอมีดีกรีเป็นนักแม่นปืนระดับแชมป์แถมยังมี เอกสิทธิ์นักศึกษาหนุ่มรูปหล่อพ่อรวยมาคอยติดพัน

หนึ่งเทอมผ่านไป เมื่อนักศึกษาสอบเสร็จและใกล้จะปิดภาคการศึกษา ในวันหนึ่งก็มีเสียงโฟนเรียกหาโอสถไปพบญาติที่ตึกอำนวยการในมหาวิทยาลัยทำให้โอสถแปลกใจคิดว่าใครอำเล่น เพราะตัวเองเป็นเด็กกำพร้าอาศัยวัดอยู่ ไม่มีญาติที่ไหน และพอหันมาโอสถก็ต้องตกใจและดีใจตื่นเต้นสลับกันไป เพราะชายคนนั้นคือ โก๊ะ หรือ พรานโก๊ะของทุกคนนั่นเอง โอสถดีใจที่ได้พบกับโก๊ะ แต่ก็ต้องแปลกใจที่ดูเหมือนโก๊ะจะเปลี่ยนแปลงไปเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น

โก๊ะบอกว่า เป็นเพราะเวลาได้ผ่านไปเกือบสิบปี เขาเองยังไม่หวังว่าจะพบกับโอสถหรือเพื่อนๆ ของโอสถที่มหาวิทยาลัยนี้ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะไปตามหาที่ไหนจึงลองเสี่ยงมาหา แต่โอสถยืนยันว่าพวกตนเพิ่งกลับมาได้แค่สี่เดือนเท่านั้น ทั้งสองเถียงกันเรื่องเวลาเพราะโก๊ะก็ยืนยันว่า บุญชู ลูกชายของตนกับบุญหลายอายุได้ 9 ขวบแล้ว นั่นแสดงว่า เวลาของโลกอดีตกับปัจจุบันมีความเคลื่อนไปไม่ตรงกัน

โก๊ะเล่าให้ฟังว่า หลังจากที่พวกนักศึกษากลับไป เหตุการณ์ทางชายแดนค่อนข้างสงบลง แต่ก็ยังมีข้าศึกเข้ามาบ้างประปราย เฒ่าหอมจึงผูกข้อมือแต่งงานให้โก๊ะกับบุญหลาย บุญหลาย ขอให้โก๊ะรับดาวเรืองเป็นเมียอยู่ร่วมเรือนอีกคนด้วยความสงสาร และเห็นว่าดาวเรืองก็เคยปลื้มโก๊ะมาก่อน ดอกรักทนทรมานด้วยความผิดหวังแต่ไม่ยอมมีเมียหรือสนใจผู้หญิงคนไหน และลั่นคำพูดไว้ว่า ถ้าโก๊ะกับบุญหลายมีลูกสาวเมื่อไหร่ จะทนรอเพื่อจีบเอามาเป็นเมียของตนให้ได้ แต่ ดอกรักก็ต้องผิดหวังอีกหนเพราะบุญหลายคลอดลูกออกมาเป็นผู้ชาย

ซึ่งโก๊ะตั้งชื่อว่า บุญชู พอ บุญชูเติบโตขึ้นมาก็มีนิสัยขี้โม้และอีกหลายๆ อย่างไม่ต่างจากโก๊ะผู้เป็นพ่อซักเท่าไหร่ แต่ที่มากกว่าคือ การเอาตัวรอด เล่ห์เหลี่ยมและซุกซนจนเป็นหัวใจของเด็กๆ ในหมู่บ้าน และไม่เกรงกลัวใครแม้แต่ดอกรักที่ยังตัดใจจากบุญหลายไม่ได้ จึงมักจะคอยยุให้ดาวเรืองพยายามชิงโก๊ะจากบุญหลายเพื่อให้ชีวิตคู่ของทั้งสองมีปัญหา แต่ดาวเรืองไม่ยอมเล่นด้วย จนกระทั่งในเวลาต่อมาก็เริ่มมีข้าศึกเข้ามารุกราน โก๊ะกับดอกรักและพวกชาวบ้านก็ยังต่อสู้ขัดขวางและขับไล่พวกข้าศึกออกไปได้ด้วยความสามัคคี แต่ก็เริ่มมีปัญหาเมื่อดินปืนร่อยหรอลง โก๊ะจึงไปเก็บขี้ค้างคาวในถ้ำเพื่อเอามาทำดินปืนตามตำราที่กำจัดเขียนให้ไว้ ดาวเรืองตามไปคอยช่วยเหลือแต่ทนกลิ่นเหม็นอับในถ้ำไม่ไหว โก๊ะจึงให้ออกไปตักน้ำข้างนอก ทันใดนั้นก็เกิดแผ่นดินไหว และประตูเวลาเปิดออก ดึงเอาโก๊ะกลับมายังโลกปัจจุบัน

ดาวเรืองตกใจเมื่อโก๊หายไปจึงพยายามตามหา และกลับมาเล่าให้ทุกคนรู้ บุญหลายกับบุญชูเข้ามาตามในถ้ำแต่ก็ไม่พบอะไร ดอกรักดีใจและพยายามบอกกับบุญหลายว่า ไม่มีวันที่โก๊ะจะกลับมาได้อีกเพราะโก๊ะไม่ใช่คนของที่นี่ แต่บุญหลายกับบุญชูไม่ยอมเชื่อ และคอยภาวนาให้โก๊ะกลับมา แม้ว่าดอกรักจะใช้ความพยายามอย่างไร บุญหลายก็ไม่ใจอ่อนแถมยังถูกขัดขวางจากดาวเรืองและบุญชูอยู่ตลอดเวลา

ส่วนโก๊ะเมื่อรู้สึกตัวขึ้นมาก็ออกมานอกถ้ำแต่กลับได้พบกับโจรสองพ่อลูกคือ เล่าหยาง กับ เล่าอู ที่หนี การคุมขังของเจ้าหน้าที่ออกมาได้ ทำให้โก๊ะรู้ว่าตนเองกลับมาสู่เวลาในโลกปัจจุบัน โก๊ะหนีพวกโจรเข้าไปในถ้ำเพื่อรอให้เกิดแผ่นดินไหว และตนจะได้ย้อนเวลากลับไป แต่ก็ไม่เกิดซักทีจนนึกถึงครั้งทีกำจัดและนักศึกษาสามารถทำระเบิดและทำให้เกิดแผ่นดินไหวได้ จึงตัดสินใจออกจากถ้ำกลับเข้าเขตแดนไทยพบกับทองใบและเดินทางเข้ากรุงเทพเพื่อตามหาบรรดานักศึกษา และได้มาพบกับโอสถที่มหาวิทยาลัยนี่

โอสถพาโก๊ะไปพักที่วัดที่เขาอาศัยอยู่ โก๊ะได้กราบหลวงตามิ่งที่ซึ่งอวยพรให้โก๊ะประสบความสำเร็จและสวัสดีมีชัย วันรุ่งขึ้น โอสถพยายามนัดพวกเพื่อนๆ และรุ่นน้องให้มาพบกับ โก๊ะ แต่กลับไม่มีใครมาเพราะติดธุระหรือภาระของตนเอง จะมีก็แต่จัตวาและน้ำผึ้งเท่านั้นที่มาหาโก๊ะ รวมทั้งนักศึกษาปี 1 เช่น จอมขวัญ และเพื่อนๆ ได้แก่ ยิหวา ลักษมี อนุชา กำจร ซึ่งเป็นน้องชายของกำจัดและกำจัดบอกว่า มีความสามารถไม่แพ้ตนเอง และเอกสิทธิ์ที่ตามจอมขวัญมาด้วย กำจรยินดีช่วยโก๊ะถ้าเขาสามารถทำได้

บรรดานักศึกษาทุกคนสนใจที่จะตามไปดูการส่งตัวโก๊ะกลับเพื่อพิสูจน์ความจริงอันเหลือเชื่อ จอมขวัญยังพา จู้จี้ น้องสาวของตัวเองที่เป็นแค่เด็กหญิงตัวเล็กๆ ไปด้วยแม้จะถูกทัดทานจากทุกคนว่าอาจจะลำบากและมีอันตราย แต่จู้จี้ก็ดื้อตามมาจนได้ เอกสิทธิ์แม้จะไม่อยากมาเท่าไหร่แต่เมื่อจอมขวัญไม่เปลี่ยนใจจึงจำใจต้องตามมาด้วย

ทุกคนมาถึงท่าแพและพบกับทองใบ ทองใบไม่อยากให้จู้จี้ไปด้วย แต่โอสถสงสารจู้จี้จึงบอกกับทางทองใบว่าจะดูแลจู้จี้เอง ทำให้จู้จี้รู้สึกดีกับโอสถมากกว่าใครๆ แต่โอสถกับจอมขวัญก็ยังมีปัญหาเข้ากันไม่ได้ และมักจะกระทบกระทั่งกันด้วยคำพูดตลอดเวลาอยู่ดี เพราะจอมขวัญมักจะแซวโอสถเรื่องของจำนรรค์ โดยไม่รู้ตัวว่าเป็นเพราะอะไรนอกจากรู้สึกหมั่นไส้ และก็ถูกโอสถย้อนให้เจ็บๆ เพราะเป็นคนปากไวไม่ยอมแพ้ใครง่ายๆ โก๊ะรู้สึกห่วงเมียและลูกว่าจะเป็นอย่างไร เพราะรู้ว่าเวลาจะผ่านไปไว

ทางด้านในอดีต จอระแน นายกองคนใหม่ที่เป็นน้องชายฝาแฝดของนายกองคนเดิมที่ติดคุกเพราะพ่ายแพ้แก่พวกชาวบ้าน ได้อาสายกไพร่พลมาปราบชาวบ้านท่าแพเป็นการแก้ตัวให้กับพี่ชาย โดยมีเมืองประทุน หัวหมู่ทหารคนเดิมนำทางมาและ เม็งรายอ หัวหมู่คนใหม่ยกไพร่พลเดินทางมา ดอกรักพาพวกชาวบ้านเข้าซุ่มโจมตีแต่ต้องถอยหนีแตกพ่าย เพราะมีกำลังน้อยกว่า เมื่อจอระแนยกกำลังมาถึงหน้าหมู่บ้านก็วางแผนการณ์เข้าโจมตีโดยไม่ใช้กำลังให้เสียเลือดเนื้อแบบเดียวกับแผนการณ์ของสุกี้พระนายกองที่ใช้ศึกต่อสู้กับชาวบ้านบางระจันนั่นก็คือ ใช้ปืนใหญ่ระดมยิงเข้าไป จนชาวบ้านพากันได้รับบาดเจ็บล้มตาย และระส่ำระสายไปตามๆ กัน ดอกรักจึงคิดจะพาพวกชาวบ้านเข้าตีค่ายข้าศึกที่วางกับดักรอไว้อยู่แล้ว

ในวันรุ่งขึ้น โก๊ะก็พาทองใบและพวกนักศึกษาเข้าป่าเพื่อเดินทางไปยังถ้ำที่เป็นประตูแห่งกาลเวลา และด้วยธรรมชาติของพรานใหญ่อย่างโก๊ะก็พาทุกคนหลงทางและวิ่งหนีเสือกันกระเจิดกระเจิงอีกจนได้ ขณะที่โก๊ะออกมาปรึกษาโอสถและทองใบ เล่าหยางกับเล่าอูก็มาพบกับนักศึกษาจึงใช้ปืนขู่และจับพวกผู้ชายมัดไว้ ส่วนผู้หญิงจะพาไปบังคับขืนใจเป็นเมียของพวกตน แต่จู้จี้วิ่งหนีพ้นไปได้ และตามพวกโก๊ะมาช่วยไว้ทันท่วงที ทุกคนจึงจับเล่าหยางกับเล่าอูมัดติดกันไว้บ้าง และทิ้งไว้ในป่าจนพบกับเสือตัวใหญ่ ทำให้สองโจรพ่อลูกต้องเอาตัวรอดกันอย่างทุลักทุเลเต็มที

ส่วนโก๊ะพาทุกคนมาถึงถ้ำจนได้ พวกนักศึกษาขอตามเข้าไปในถ้ำเพื่อพิสูจน์ว่าโก๊ะหายไปต่อหน้าต่อตาจริงๆ กำจรกำลังจะทดลองวางระเบิดเพื่อให้ถ้ำเกิดความสั่นสะเทือนแต่ปรากฏว่าเกิดแผ่นดินไหวจริง และทุกคนก็ถูกดูดเข้าอุโมงแห่งกาลเวลา เมื่อทุกคนรู้สึกตัวว่าได้เดินทางมาสู่เวลาใหม่ก็ตกใจ โดยเฉพาะเอกสิทธิ์ที่โวยวายจะกลับไป จัตวากับน้ำผึ้งไม่กลัวอะไรมากนักเพราะตนเองเคยผ่านเหตุการณ์นี้มาแล้ว ทองใบก็ดีใจที่ได้มา เพราะคิดว่าวิชามวยไทยของตนเองอาจจะมีประโยชน์อะไรกับโก๊ะและชาวบ้านบ้าง โอสถไม่ตื่นเต้น เพราะคิดตั้งแต่แรกแล้วว่าจะตามมา และตนเองไม่มีห่วงอะไรในโลกปัจจุบันอีกต่อไป

ส่วนพวกจอมขวัญ ยิหวา ลักษมี อนุชา และกำจร แม้จะตื่นเต้นและกังวลบ้างแต่ก็พอระงับอารมณ์ได้ และยังมีหวังว่ากำจรจะพาทุกคนกลับได้เช่นกัน จู้จี้ร้องไห้ตกใจตามประสาเด็กแต่โอสถคอยปลอบให้กำลังใจ จอมขวัญรู้สึกดีกับโอสถขึ้นบ้างแต่พอถูกโอสถถากถางก็กลับหมั่นไส้ใหม่ ทุกคนตัดสินใจตามโก๊ะออกจากถ้ำ โก๊ะเริ่มกังวลและไม่ค่อยสบายใจเมื่อเห็นนอกถ้ำมีความเปลี่ยนแปลงไป เพราะหน้าถ้ำไม่เหมือนกับหน้าถ้ำสมัยที่เขาอยู่ในหมู่บ้านท่าแพ และทุกคนก็รู้ว่าถูกจับตามองอยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งโก๊ะตัดสินใจยิงปืนขู่ก็ได้ยินเสียงร้องของผู้หญิงและเสียงวิ่งเกรียวกราวหนีไป

โก๊ะพาทุกคนเข้ามาที่หมู่บ้านและเห็นความแตกต่างของสิ่งก่อสร้างหลายอย่าง ไม่ทันที่จะตั้งตัวก็มีทหารหญิงกรูเข้ามาใช้หอกและดาบควบคุมพวกโก๊ะไว้ พวกผู้หญิงพาพวกโก๊ะไปหานายบ้านซึ่งเป็นหญิงชื่อ รานี ทุกคนจึงรู้ว่าที่นี่เป็นเหมือนเมืองลับแลที่อยู่ในความปกครองของผู้หญิง และผู้ชายเป็นได้แค่ทาสกับบริวารเท่านั้น เอกสิทธิ์โวยวายแต่ถูกทหารหญิงตบจนเงียบเสียงไป

รานีรู้สึกพอใจในตัวโก๊ะจึงจะรับไว้เป็นทาสรักแต่โก๊ะไม่ตกลง รานีจึงคิดจะยกพวกนักศึกษาหญิงให้กับองครักษ์ของตนที่ไม่มีใครยอมเป็นคู่ด้วย พวกผู้ชายไม่ยอม รานีบอกว่า ถ้าเช่นนั้นต้องต่อสู้กับองครักษ์ของตนที่ชื่อว่า จิ๋ว หลายคนอาสาแต่พอจิ๋วก้าวเข้ามาก็ต้องตกใจเพราะจิ๋วเป็นชายร่างยักษ์สูงกว่ามนุษย์ธรรมดาทั่วไป จิ๋วชี้จะเอาจอมขวัญไปเป็นเมีย ทุกคนมองเอกสิทธิ์ที่ถอดใจไม่กล้าสู้ จอมขวัญบอกว่ายอมตายดีกว่าและทำท่าล้วงเป้เพื่อหยิบอะไรบางอย่าง จู้จี้ร้องไห้ โอสถตัดสินใจรับอาสาต่อสู้ จิ๋วว่าตัวแค่นี้ไม่ครณามือและท้าให้เข้ามาได้สองคน โก๊ะเข้าช่วยโอสถอีกคนและร่วมมือกันโค่นจิ๋วลงได้

จอมขวัญยิบชิ้นส่วนของปืนออกมาจากเป้และประกอบเป็นปืนยาวแล้วเข้าจี้ตัวรานี ขณะที่เหตุการณ์กำลังตึงเครียดก็มีพวกโจรป่าเข้ามาโจมตีหมู่บ้านหรือเมืองของรานี พวกโก๊ะตัดสินใจเข้าร่วมการต่อสู้และปราบพวกโจรลงได้ รานีจึงยอมปล่อยตัวทุกคนและเดินทางมาส่งที่ถ้ำด้วยความอาลัย กำจรทดลองวางระเบิดในถ้ำจนสั่นสะเทือนและเกิดแผ่นดินไหว ทุกคนถูกดูดเข้าสู่ห้วงเวลา และมารู้สึกตัวในถ้ำอีกหน แต่เป็นเวลาของบ้านท่าแพและเมื่อออกมาที่หน้าถ้ำ โก๊ะก็เห็นกระบอกน้ำที่ดาวเรืองทิ้งเอาไว้จึงรีบพาทุกคนเข้าไปในหมู่บ้าน แต่สิ่งที่พบก็คือ ซากปลักหักพังของกระท่อมและหมู่บ้านท่าแพที่ยับเยินด้วยปืนใหญ่และไฟไหม้ โก๊ะตกใจวิ่งร้องหาบุญชูและบุญหลายกับดาวเรือง

ในขณะที่กำลังจะหมดหวัง บุญชูก็โผล่เข้ามาทำให้โก๊ะดีใจมาก และบุญชูเล่าให้ทุกคนฟังว่า ทหารข้าศึกยิงปืนใหญ่เข้ามาทุกวันจนชาวบ้านบอบช้ำเต็มที่แล้วจึงเข้าโจมตี ดอกรักต้านไม่ไหวจึงตัดสินใจพาทุกคนถอยหนีไปอยู่ที่หมู่บ้านท่าสร้างและอาศัยอยู่ที่นั่น แต่ก็เกิดปัญหาเมื่อ หาญ นายบ้านหนุ่มใหญ่เกิดความพอใจในตัวของบุญหลายและดาวเรือง แต่ทั้งสองไม่ยินยอมพร้อมใจ ดอกรักเองก็คอยขัดขวางเกิดการปะทะกัน พอดีจอระแนยกกำลังตามไปและเกิดการต่อสู้ ส่วนบุญชูหนีมาเพราะยังแอบหวังว่าโก๊ะจะกลับมาหาและได้พบกับโก๊ะจริงๆ

โก๊ะจึงพาทุกคนเดินทางไปที่ท่าสร้างทันที และหาทางฝ่าทัพของจอระแนเข้าไปในหมู่บ้านในขณะที่หาญกำลังทำความตกลงกับดอกรักได้ด้วยการยกบุญหลายให้ดอกรักและตนเองยอมรับดาวเรืองคนเดียว แต่พวกโก๊ะเข้ามา ทั้งสองก็ต้องผิดหวัง เพราะบุญหลายกับดาวเรืองต่างโผเข้าหาโก๊ะทั้งคู่ หาญแสดงฝีมือขู่โก๊ะ แต่ทองใบแสดงฝีมือและชั้นเชิงมวยไทยจนปราบหาญกับดอกรักได้ ทองใบรับชาวบ้านเข้ามาเป็นศิษย์เพื่อฝึกสอนมวยไทยไว้ต่อสู้กับข้าศึก ส่วนพวกนักศึกษาก็เตรียมอุปกรณ์ต่างๆ ที่ตนเองมีมา กำจรมีดินปืนจำนวนมากสำหรับทำระเบิด จัตวา และอนุชาก็มีปืนของเล่าหยางกับเล่าอู โอสถมีเครื่องมือช่าง ส่วนพวกจอมขวัญมีเสบียงอาหารและยารักษาโรคกับเครื่องเวชภัณฑ์ ทำให้โก๊ะสงสัยว่าทุกคนตั้งใจจะตามเขามาที่นี่

จู้จี้ เริ่มบ่นตามประสาเด็กหญิงที่เคยชินกับความสะดวกสบาย และชักคิดถึงบ้าน เลยถูกบุญชูคอยยั่วแหย่ให้โมโหหุนหัน แต่ก็ทำให้หายเหงาไปได้ เอกสิทธิ์พยายามประกาศตัวว่าเป็นแฟนกับจอมขวัญจนทุกคนหมั่นไส้เพราะไม่ค่อยช่วยทำอะไร และจอมขวัญก็อึดอัดใจ โอสถพาชาวบ้านตัดไม้สร้างเป็นรั้วหรือป้อมค่ายล้อมหมู่บ้านเอาไว้ พวกนักศึกษาชายช่วยกันทำระเบิดบั้งไฟ หาญท้วงว่าอานุภาพอาจสู้ปืนใหญ่จริงๆ ไม่ได้ อนุชาเสนอให้เปลี่ยนจากรับเป็นรุกดูก่อนและทำสงครามกองโจรกับข้าศึกเพื่อทำลายขวัญและกำลังใจ และอาสาเป็นทัพหน้าไปกับโอสถ เพราะถูกต่อว่าจากพวกผู้หญิง

โดยเฉพาะจอมขวัญแต่พอโอสถจะไปจริงๆ จอมขวัญก็เกิดเป็นห่วงขึ้นมาและภาวนาให้โอสถกลับมาด้วยความปลอดภัย แต่พอแสดงความเป็นห่วงเมื่ออยู่กันตามลำพัง ก็ถูกโอสถเย้าแหย่จนอดโมโหอีกไม่ได้ ยิหวาสงสัยว่าเพื่อนจะมีใจให้โอสถ แต่จอมขวัญคิดว่าในใจของโอสถมีแต่จำนรรค์เท่านั้น และมีเอกสิทธิ์เป็นเจ้าของหัวใจอยู่แล้ว

เอกสิทธิ์รู้สึกดีใจลึกๆ ที่โอสถไปเสี่ยงอันตราย และอดแช่งขออย่าให้โอสถกลับมา แต่เผลอพูดดังไปจนจู้จี้ได้ยิน จู้จี้ไม่พอใจจึงเข้ามาต่อว่าจนเอกสิทธิ์ไม่พอใจและเกิดการเถียงกับจู้จี้ที่รู้สึกว่าน่าจะภาวนาให้พวกเดียวกันปลอดภัย บุญชูมาได้ยินทำให้เห็นว่าจู้จี้เป็นเด็กที่มีความคิดและอะไรในตัวดีเหมือนกัน จึงคิดและเลิกแกล้งจู้จี้และทำดีด้วยแต่กลับถูกจู้จี้เล่นงานกลับคืนจนย่ำแย่

พวกโอสถเข้ามาในป่าเพื่อดักทัพของข้าศึก จอระแนสั่งให้เม็งรายอที่ชอบคุยทับถมเมืองประทุน เป็นกองหน้ายกพลล่วงหน้ามาก่อนเพื่อดูลาดเลา โอสถคิดจะดักซุ่มโจมตีแต่อนุชาเสนอแผนการที่ดีกว่านั้นคือ วิธีของพลายงามที่เสกใบมะขามเป็นผึ้งตัวต่อเล่นงานทัพของแสนตรีเพชรกล้าในวรรณคดีไทย และขอให้ชาวบ้านที่มีความสามารถในการจับผึ้งป่ามาขังไว้ในหม้อดินและปิดฝาขังไว้

เมื่อพวกของเม็งรายอเดินทางมาและเตะถูกเชือกที่ขึงดักอยู่ เชือกดึงหม้อดินตกลงมา ฝูงผึ้งป่าที่กำลังโกรธจัดเพราถูกจับขังก็กรูกันออกมาต่อยพวกเม็งรายออุตลุด จนเม็งรายอและทหารพากันแตกหนีไม่เป็นขบวน พวกชาวบ้านเลยพากันเข้าไปเก็บอาวุธที่ข้าศึกทิ้งไว้และขนกลับไปหมู่บ้านด้วยความดีใจ แต่ดอกรักบอกว่าแค่ข้าศึกที่เป็นกองหน้าแตกหนีไปเท่านั้น แถมยังไม่มีใครตาย อีกไม่ช้าก็คงจะมากันใหม่ และใช้วิธีสู้อย่างเก่าไมได้ อนุชากับกำจรและโอสถบอกพวกตนก็ยังไม่หมดมุขแค่นี้เหมือนกัน

เม็งรายอ และทหารหนีมาหน้าตาหัวหูบวมปูดไปตามๆ กัน จอระแนคิดว่าพวกชาวบ้านที่ท่าแพอาจจะมีวิชาอาคมเสกพวกสัตว์พิษได้ แต่ทุกคน ก็ต้องแปลกใจเมื่อเหล่าหยางกับเล่าอูเข้ามาหาและบอกว่าพวกตนเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างที่พวกนักศึกษาวางแผนกัน เมืองประทุนบอกกับจอระแนว่าเล่าอูเป็นใคร เล่าอูกับเล่าหยางเอาของขวัญแปลกๆ ให้และบอกว่าจะช่วยจอระแนจัดการกับนักศึกษาและชาวบ้านท่าสร้าง จอระแนจึงรับสองคนพ่อลูกไว้และตั้งให้เป็นที่ปรึกษา สั่งให้หมอยาช่วยกันพิษเหล็กในผึ้งให้พวกเม็งรายอและทหารกองหน้าก่อนที่จะเคลื่อนพลต่อมา

ขณะที่ทุกคนกำลังปรึกากัน รานีกับจิ๋วก็เข้ามาหา ชาวบ้านตกใจนึกว่ายักษ์หรือเปรตที่ไหน รานีบอกว่าเป็นห่วงโก๊ะจึงตามมา บุญหลายกับดาวเรืองชักไม่ชอบใจด้วยความหึงหวงและเกิดปะทะคารมกัน โก๊ะเลยหนีไป โจมตีข้าศึกด้วยความรำคาญใจ จิ๋วขอตามไปด้วย จอมขวัญกับยิหวาและลักษมีก็ขอตามไปสังเกตการณ์ เมืองประทุนส่งทหารออกมาหาข่าว ยิหวาแต่งชุดเชียร์ออกมาเต้นยั่วให้พวกทหารตามจนถูกพวกโก๊ะจับได้ และสอบถามจนรู้ว่าเมืองประทุนคุมกองหน้ามา

โก๊ะจำได้ว่าเมืองประทุนค่อนข้างขลาดและกลัวผี ยิหวา กับลักษมีจึงช่วยกันแต่งหน้าให้จิ๋วจนมองดูเหมือนผีเปรตตัวสูงใหญ่ ขณะที่เมืองประทุนกับทหารกำลังจะพักก็ต้องตกใจเมื่อเห็นจิ๋วบุกเข้ามา ทุกคนวิ่งหนีและถูกจอมขวัญกับโก๊ะสุ่มยิงจนล้มกลิ้งไปตามๆ กัน จอระแนชักหนักใจที่พวกโก๊ะมีฝีมือและวิชาอาคมแปลกๆ เหมือนกับขุนแผนเจ้าเมืองกาญจน์สมัยก่อน แต่เล่าหยางกับเล่าอูบอกว่าเรื่องคนตัวสูงไม่มีอะไรแปลกตรงไหนเพราะพวกตนเคยเห็น โยกเยก เชิญยิ้ม เป็นนักแสดงตลกรูปร่างสูงใหญ่มาแล้ว พวกโก๊ะอาจจะมีคนตัวสูงปลอมเป็นผีมาหลอกก็ได้ จอระแน จึงสั่งให้เล่าหยางกับเล่าอูลองเป็นศึกกองหน้าดูบ้าง

พวกชาวบ้านพากันดีใจที่ได้ชัยชนะข้าศึก โดยไม่เสียเลือดเนื้ออีก แต่ดอกรักกับหาญก็ค้านว่าพวกข้าศึกก็ไม่เสียเลือดเนื้อเช่นกัน และพวกมันคงไม่ยอมถอยไปง่ายๆ แค่นี้ และเมื่อกำลังข้าศึกใกล้เข้ามา หาญจึงอาสาหาคนของตนยกออกไปรับข้าศึกดูบ้าง เอกสิทธิ์รู้สึกเสียหน้าจึงขอตามไปด้วยเพราะคิดว่าคงไม่น่ากลัวซักเท่าไหร่ แต่พอจะปะทะกันจริงๆ และถูกพวก เล่าหยางซุ่มยิงใส่ เอกสิทธิ์ก็ถอดใจวิ่งหนีให้ชาวบ้านใจเสีย และพอเข้าปะทะกันจึงสู้พวกทหารไม่ได้ทำให้หาญได้รับบาดเจ็บ ต้องพ่ายกลับมาอย่างบอบช้ำยับเยิน จอระแนชื่นชมเล่าหยางกับเล่าอูจนเมืองประทุนและเม็งรายอไม่ค่อยพอใจ

หาญเห็นชาวบ้านเสียขวัญจึงประกาศสละตำแหน่งนายบ้านให้เลือกหัวหน้าใหม่ เฒ่าหอมขอสละสิทธิ์เพราะคิดว่าตนแก่เกินไป ดอกรักสนใจอยากได้ตำแหน่งนี้เพื่อจะได้ดูดีมีความหมาย โอสถเสนอให้ใช้วิธีเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยโดยใช้เสียข้างมาก มีคนเสนอให้โก๊ะรับตำแหน่งนายบ้านแข่งกับดอกรัก และเมื่อมีการเลือกตั้งคะแนนเสียงส่วนใหญ่ก็เป็นของโก๊ะทำให้โก๊ะได้เป็นนายบ้านคนใหม่แทนหาญ ดอกรักรู้สึกผิดหวังจนเตลิดออกจากหมู่บ้านอย่างคลุ้มคลั่ง และในที่สุดก็ถูกทหารของจอระแนจับตัวมาได้ จอระแนคิดจะฆ่าให้ตาย แต่เล่าอูคิดจะใช้ประโยชน์จากดอกรักจึงเข้ามาเกลี้ยกล่อมและเสนอผลประโยชน์จนดอกรักเริ่มหวั่นไหว

บุญชู พาลูกลิงแสนรู้ของตนเองไปเที่ยวในป่าและลิงหนีขึ้นต้นไม้ไม่ยอมลงมา บุญชูปีนตามขึ้นไปจึงรู้ว่าลิงหนีโขลงช้างป่าที่เข้ามาหากินใกล้ๆ บุญชูพาลิงกลับเข้าหมู่บ้านและมาเล่าให้โก๊ะฟัง โก๊ะจึงตัดสินใจออกไปล่อโขลงช้างป่าให้ตามมาและวิ่งเข้ากลางทัพข้าศึกจนจอระแนแทบจะถูกช้างป่าเหยียบตาย แต่พอตั้งหลักได้ก็ถูกพวกชาวบ้านมาตั้งค่ายบังเอาไว้

ทหารข้าศึกพยายามจะบุกเข้ามาให้ได้ แต่ถูกพวกโก๊ะและชาวบ้านยันเอาไว้อย่างเหนียวแน่น เล่าอูแอบมาพบกับดอกรักและเอายาเบื่อมาให้ดอกรักวางยาพวกโก๊ะและนักศึกษา แต่ทุกอย่างอยู่ในสายตาของบุญหลายกับดาวเรือง ดาวเรืองเสียใจแต่บุญหลายพูดปลอบว่าคนเราอาจจะผิดพลาดกันได้ ทั้งสองไปปรึกษากับโก๊ะเพื่อให้จับตัวดอกรักไว้ โก๊ะมาขอให้โอสถกับจัตวาช่วยแก้ปัญหา โอสถเล่าให้ทุกคนฟังถึงการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 1 ของไทยว่าเป็นเพราะความแตกความสามัคคีและมีไส้ศึกที่ทรยศต่อชาติต่อแผ่นดินเกิดของตนเอง โดยเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว และในที่สุดข้าศึกก็ไม่เคยคิดจะเลี้ยงคนทรยศไว้ ดอกรักเริ่มคิดหนักและเมื่อได้ยินบุญหลายกับดาวเรืองเล่าให้บุญชูและจู้จี้ฟังถึงวีรกรรมต่างๆ ของตนเอง และดาวเรืองก็บอกว่าภูมิใจในพี่ชายที่ชื่อดอกรักคนนี้

เล่าอูบอกกับจอระแนว่า ได้รับการนัดหมายจากดอกรักเรื่องวางยาพวกนักศึกษาและชาวบ้าน จอระแนไม่แน่ใจเพราะเคยได้รับการบอกเล่าจากพี่ชายจึงให้เม็งรายอพาทหารบุกเข้าไป เม็งรายอเห็นทุกคนนอนหลับก็คิดจะฆ่าฟัน แต่พวกโก๊ะลุกขึ้นมาเล่นงานทหารข้าศึกและเม็งรายอจนจับเยิน ชาวบ้านเริ่มระส่ำระส่าย พวกกำจรแก้เกมด้วยการตัดต้นตาลมาทาสีให้ดูเหมือนปืนใหญ่นับสิบกระบอกแล้วลากออกมาประจันหน้า แล้วยิงด้วยบั้งไฟจนทหารข้าศึกนึกว่าถูกระดมยิงจากปืนใหญ่จำนวนมาก

พอเห็นว่าข้าศึกเสียขวัญ พวกโก๊ะกับทุกคนก็เข้าประจัญบานทันที จอระแน เมืองประทุน และเม็งรายอ รวมทั้งทหารข้าศึกต่างบาดเจ็บล้มตายแตกพ่ายหนี แม้จะเป็นฝ่ายมีชัย แต่โก๊ะก็ต้องสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่เมื่อบุญหลายกับดาวเรืองเข้าป้องกันบุญชูและจู้จี้จนได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในอ้อมกอดของโก๊ะ ก่อนที่จะสัญญาว่าจะขอตามไปรักโก๊ะในทุกชาติไป

โก๊ะไม่สนใจรานีที่คิดว่าตนเองอาจจะมีหวังเมื่อโก๊ะกลับมาเป็นโสดอีกครั้ง ดอกรักปลอบใจและมองว่าตนเองกับรานีหัวอกเดียวกัน แต่หาญก็เข้ายืนยันว่าตนเองก็ผิดหวังเหมือนกัน และถามว่ารานีจะเลือกใคร
โก๊ะกับบุญชูพากันมาส่งพวกนักศึกษาที่ถ้ำขณะที่กำจรจะทำระเบิดก็เกิดแผ่นดินไหวทุกคนกลับสู่โลกปัจจุบัน ทันใดนั้นเล่าหยางกับเล่าอู ก็โผล่เข้ามาดูถูกพวกจอมขวัญ ยิหวา ลักษมีจับเอาไว้ได้ และช่วยกันมัดทั้งสองพ่อลูกไว้ ทุกคนออกจากถ้ำไปแต่ที่สวนเข้ามาคือเสือตัวใหญ่ที่ท่าทางหิวกระหาย ทำให้สองโจรถึงกับร้องลั่นอย่างหมดหวัง

พวกโก๊ะกลับมาพักที่บ้านของทองใบ โก๊ะกับบุญชูยังไม่หายโศกเศร้าในขณะที่มีเสียงขบวนแห่ขันหมากเข้ามา จู้จี้ชวนบุญชูออกไป ดูแต่พอเห็นเจ้าบ่าวบุญชูก็หน้าตื่นกลับเข้ามาเพราะเจ้าบ่าวหน้าตาเหมือนดอกรักราวกับพิมพ์เดียวกัน ทองใบมาส่งข่าวว่าเจ้าบ่ายชื่อ ดอกดิน กำลังจะแต่งงานกับเจ้าสาวชื่อ บุญเรือน โก๊ะรู้สึกสังหรณ์ใจ จึงวิ่งไปดูพร้อมกับบุญชู พอเจ้าสาวเห็นหน้าโก๊ะกับบุญชูก็ตกใจ เช่นเดียวกับบุญชูที่ร้องตะโกนเรียกแม่ เพราะเจ้าสาวหน้าเหมือนบุญหลายราวกับพิมพ์เดียวกัน แล้วเจ้าสาวหรือบุญเรือนก็ทิ้งทุกอย่างวิ่งเข้ามาหาและบอกว่า โก๊ะ กับ บุญชู คือ คนที่เธอฝันถึงตลอดมา ทำเอาเจ้าบ่าวหรือดอกดินแทบจะเป็นบ้าด้วยความเสียใจ แต่ดาวที่เป็นน้องสาวเข้ามาปลอบใจและชวนไปดูการแสดงของนักร้องลูกทุ่งที่ดอกดินติดใจคือ อาภาพร นครสวรรค์

จอมขวัญ ยังคงเถียงกับโอสถ แต่ทั้งคู่รู้ดีว่าเป็นการเถียงเพื่อได้ใกล้ชิดกัน ส่วนกำจรกับยิหวา และอนุชากับลักษมีก็ตัดสินใจว่าจะทดลองคบกันเพื่อศึกษา จู้จี้สัญญาว่าจะไม่ลืมเพื่อนที่ชื่อ บุญชู และทุกคนก็ร่ำลากันและเดินทางไปตามครรลองชีวิตของตน

สิบสามปีต่อมา มีกลุ่มนักศึกษามาเที่ยวป่าและพบกับพรานนำทางหนุ่มหน้าตาดีแต่พูดคล่องท่าทางกะล่อนเต็มที่ พร้อมกับแนะนำตัวว่าชื่อพรานโก๊ะ มีเสียงท้วงว่าพรานโก๊ะน่าจะแก่กว่านี้ พรานโก๊ะหนุ่มจึงบอกผมเป็นลูกชายชื่อ โก๊ะจูเนียร์ และสงสัยว่ามีคนรู้ได้อย่างไรว่าเขาไม่ใช่พรานโกะ นักศึกษาสาวสวยจึงบอกว่าเธอรู้ดีว่าเขาไม่ใช่และยังรู้ว่าชื่อจริงของเขาน่าจะชื่อ บุญชู ซะมากกว่า ทำให้โก๊ะจูเนียร์มองเด็กสาวอย่างพิจารณาก่อนจะร้องเรียกว่า ยายจู้จี้