ละคร เสน่ห์รักนางซิน
ดู 4,132 ครั้ง /
แชร์
ละครออกอากาศ | วันศุกร์ วันเสาร์ วันอาทิตย์ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ช่องที่ออกอากาศ | ละครช่อง 3 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เริ่มออกอากาศ | 28 เมษายน 2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เวลาออกอากาศ | 20:15 - 22:45 น. |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
กำกับโดย | รัฐกิตติ์ กิตติรัฐธนะโภคิน | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ประพันธ์โดย | บทประพันธ์ จันทริกา, บทโทรทัศน์ ณัฐฐา | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
นำแสดงโดย | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ผู้สร้าง | บริษัท กู๊ด ฟีลลิ่ง จำกัด |
ภาพนิ่งจากละคร
เรื่องย่อ เสน่ห์รักนางซิน
พริม (รณิดา เตชสิทธิ์) อาศัยอยู่กับแม่ตั้งแต่เกิด แม่หาเลี้ยงพริมด้วยอาชีพช่างเย็บรองเท้า ครอบครัวของแม่ทำอาชีพนี้มาตั้งแต่สมัยรุ่นปู่ย่าตายาย แม่จึงเป็นช่างเย็บรองเท้าที่มีฝีมือมากแต่พวกเขาไม่มีโอกาสที่ดี พาพร (เปียเช่อร์ คริสเตนเซ่น) จึงเป็นได้แค่เจ้าของร้านเย็บรองเท้าริมถนน แต่มันก็เป็นช่วงเวลาที่พริมใช้ชีวิตกับแม่อย่างมีความสุขเหลือเกิน เมื่อแม่จากไปตอนพริมอายุแค่สิบขวบ พริมย้ายไปอาศัยอยู่กับ ลุงฟัก (จตุรงค์ โพธาราม) และ ป้ารำไพ (เจเน็ต เขียว) ญาติแท้ๆ ที่จังหวัดภูเก็ต จนกระทั่งเข้ามหาวิทยาลัย พริมกลับเข้ามาเรียนมหาวิทยาลัยในกรุงเทพ พริมเรียนไปด้วยทำงานไปด้วย พริมไม่เคยเกี่ยงงานขอให้ เป็นงานที่สุจริตและเกี่ยวกับรองเท้าพริมทำได้หมด พริมเก็บเงินส่วนหนึ่งไว้สำหรับลงเรียนออกแบบ เพื่อทำความฝันของตัวเองให้เป็นจริงและตอนนี้พริมได้มาทำงานเป็น พนักงานขายรองเท้าอยู่ที่ห้างดังกลางกรุง
วันหนึ่งพริมทะเลาะกับ แองจี้ (สุทธาทิพย์ วุฒิชัยประดิษฐ์) เพื่อนร่วมงานตัวแสบ เหตุเพราะนางมัวแต่ก้มเล่นมือถือ จึงไม่ได้ดูแลลูกค้าที่มายืนรอนานแล้ว พริมก็เลยเข้าไปช่วยให้คำแนะนำแทนจนลูกค้า พอใจสั่งซื้อรองเท้ากับพริมไปหลายคู่ แองจี้หาว่าพริมตั้งใจแย่งลูกค้าก็เลยเรียกก๊วนเพื่อนมารุมพริม งานนี้ร้อนถึง บุสกร (ฑาริกา อินสุวรรณ์) และ ปริตา (ลลินา ชูเอ็ทท์) เพื่อนสนิทของพริมที่อยู่แผนกกีฬากับแผนกเสื้อผ้า สตรีต้องรีบมาช่วยเสริมทัพให้พริมทั้งสองฝ่ายทะเลาะตบตีกันจนวุ่นวายไปทั้งห้าง แต่พวกพริมกลับถูกหัวหน้าแผนกไล่ออกตามคำสั่งของ พัชรา (สรวงสุดา ลาวัณย์ประเสริฐ) เจ้าของห้างและภรรยาของ บารมี (ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี)
พริมรู้สึกได้ตั้งแต่มาทำงานแรกๆ ว่าพัชราไม่ชอบขี้หน้าเธอ แต่พริมก็ไม่เคยรู้ตัวว่าเธอ ไปทำอะไรให้พัชราซึ่งพัชราเองก็ไม่มีเหตุผลเหมือนกันว่าทำไมถึงไม่ชอบหน้าเด็กชื่อพริมตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นหน้า อาจเป็นเพราะว่าหน้าตาของพริมมีส่วนละม้ายคล้ายใครบางคนที่เธอเกลียดฝังใจ ทว่าความวุ่นวายของชีวิตพริมยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เพราะอยู่ๆ ลุงฟักโทรมาตามให้พริม รีบลงไปที่ภูเก็ต เพื่อช่วยเกลี่ยกล่อมให้ ป้ารำไพยอมลงจากต้นไม้สาวๆ อาศัยช่วงว่างงานลงไปภูเก็ตกันด้วย
เมื่อไปถึงสามสาวจึงรู้ว่าสาเหตุที่ป้ารำไพทำเช่นนั้นก็เพราะอยากจะประท้วงให้ลุงฟักหยุดพูดเรื่องไปเที่ยวยุโรป ที่ก่อนหน้านั้นลุงฟักดันเป็นผู้โชคดีที่ได้รางวัลไปทัวร์ยุโรปจากการส่งชิงโชคนานกว่าสองอาทิตย์เป็นจำนวน 2 ที่ แต่ป้ารำไพยืนกรานไม่ยอมไป เพราะต้องทำหน้าที่คุณแม่บ้านดูแลคฤหาสน์ให้ คุณปรีชา (อนันต์ บุนนาค) เศรษฐีอารมณ์ดีที่ชอบเดินทางท่องเที่ยวไปทั่วโลก แต่พริมไม่อยากให้ลุงกับป้าเสียโอกาสดีๆ ไป พริมกับเพื่อนอาสาจะดูแลคฤหาสน์ให้เอง ป้ารำไพถึงได้ยอม
การได้เข้าไปอยู่ในคฤหาสน์เป็นเสมือนความฝันของพริมและเพื่อนๆ บุสกรตื่นเต้นกับห้องออกกำลังกายที่มีเครื่องออกกำลังกายครบครัน ตามประสาสาวห้าวรักกีฬาเป็นชีวิตจิตใจ บุสกรใฝ่ฝันอยากให้น้องๆ ในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าที่เธอเติบโตมามีสุขภาพที่ดี และห้องเสื้อผ้าที่มีตู้เสื้อผ้าอลังการดาวล้านดวงก็สร้างความตื่นเต้นให้กับปริตา สาวอ่อนหวานที่รักเรื่องเสื้อผ้าเพราะแม่ของเธอก็เป็นช่างตัดเสื้อผ้าอยู่ในสลัม แต่สิ่งที่ทำให้พริมตื่นเต้นได้มากที่สุดก็คือ การ์ดเชิญถึงคุณปรีชาให้ไปร่วมงานเลี้ยงแสดงความยินดีที่ พีพอล บริษัทผลิตรองเท้าชื่อดังจากฝรั่งเศสจะจับมือกับบริษัทสิ่งทอของประเทศไทยผลิตรองเท้าเพื่อคนไทย ซึ่งงานนี้จะจัดขึ้น ที่โรงแรมมุกทะเลโรงแรมระดับห้าดาวที่อยู่ไม่ไกลจากคฤหาสน์
สาเหตุที่พริมตื่นเต้นเพราะบริษัทนี้มีนโยบายสนับสนุนนักออกแบบรุ่นใหม่ให้ออกแบบรองเท้าให้กับบริษัทและมีนักออกแบบหน้าใหม่แจ้งเกิดเพราะพีพอลมาแล้วนับไม่ถ้วน พริมฝันไปไกลว่าอยากให้รองเท้าที่เธอออกแบบไว้ได้รับการสนับสนุนจากพีพอล ดังนั้นสิ่งแรกที่พริมต้องทำคือทำให้เจ้าของพีพอลเห็นผลงานออกแบบรองเท้าของเธอให้ได้ และแล้วแผนไปร่วมงานเลี้ยงในฐานะหลานสาวกำมะลอของคุณปรีชาจึงเกิดขึ้น โดยที่พริมไม่รู้ว่าลูกชายตัวจริงของคุณปรีชาเป็นคนสำคัญของงานเลี้ยงนั้น เขาคือ ภูรี (ธีรเดช เมธาวรายุทธ) ชายหนุ่มรูปหล่อบาดใจ ภูรีไม่ได้มีดีแค่ความหล่อแต่เขายังมีดีที่สมอง ทุกอย่างต้องดีต้องเรียบร้อย ถึงแม้ว่าครอบครัวของเขาที่ฝรั่งเศสจะร่ำรวยระดับเศรษฐี แต่ภูรีก็ไม่เคยหยุดที่จะทำอะไรด้วยตัวเองด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ ซึ่งธุรกิจที่ภูรีเป็นเจ้าของก็คือรองเท้ายี่ห้อพีพอลนั่นเอง
ภูรีร่วมธุรกิจผลิตรองเท้ากับบริษัทสิ่งทอซึ่งเป็นของครอบครัว อินทัช (ณวัสน์ ภู่พันธัชสีห์) เพื่อนสนิท รวมถึงโรงแรมมุกทะเลที่จะเป็นสถานที่จัดงานก็เป็นของ ภควัต (พชร จิราธิวัฒน์) หนุ่มเพลย์บอยเพื่อนสนิท อีกคนของเขา ภูรีจงใจจัดงานที่ภูเก็ตเพราะเขาอยากจะเชิญปรีชาพ่อของเขามาร่วมงาน ภูรีตั้งใจ จะสร้างความประหลาดใจให้พ่อเห็นว่าพ่อไม่เคยมีอิทธิพลกับชีวิตของเขาแม้แต่น้อย ถึงไม่มีพ่อดูแลชีวิตเขาก็ดีได้ แต่วันงานผู้ที่มาร่วมงานแทนพ่อกลับเป็นผู้หญิงสามคนที่บอกว่าตัวเองเป็นหลานสาวของพ่อ
ภูรีมั่นใจว่าพวกเธอโกหกเพราะพ่อของเขาไม่เคยมีหลาน ภูรีจึงสั่งให้การ์ดไล่พวกเธอออกไปจากงานอย่างไร้เหตุผล แต่พริมไม่ยอมแพ้ ยังไงคืนนี้เธอก็จะต้องอวดผลงานตัวเองให้เจ้าของพีพอลดูให้ได้ เธอหาทางเข้าไปในงานจนกระทั่งไปพบกับภควัตเจ้าของโรงแรม ภควัตมีท่าทีสนใจในตัวพริม พริมมั่นใจว่าภควัตจะช่วยพาเธอเข้าไปในงานได้แน่ เธอจึงจำใจต้องใช้มารยาหญิงกับภควัตด้วยวิธีการต่างๆ นานา ทำให้ภูรีเข้าใจผิดไปว่าพริมเป็นพวกผู้หญิงที่ชอบตะกายดาวจับคนรวย
เมื่อแผนการอ่อยภควัตไม่สำเร็จ เพราะภควัตต้องรีบไปทำธุระ พริมหงุดหงิดมากจึงเดินออกมายังชายหาด แล้วเธอก็พบว่าอินทัชกำลังร้องไห้ตะโกนบอกท้องฟ้าถึงความโชคร้ายเรื่องความรัก ก่อนที่อินทัชจะก็เดินลงไปทะเล พริมเข้าใจผิดคิดว่าอินทัชจะฆ่าตัวตายจึงลงไปช่วยอย่างไม่คิดชีวิตทั้งที่ความจริงแล้วอินทัชจะลงไปงมหาแหวนของอดีตคนรัก เพราะเกิดเสียดายขึ้นมาอย่างกะทันหัน อินทัชยังไม่ทันได้บอกความจริงกับพริม พริมก็ถาโถมถ้อยคำให้กำลังใจอินทัชชุดใหญ่ ทำให้เขารู้สึกดีกับพริมมาก อินชัยจึงยกตำแหน่งว่าที่แม่ของลูกคนใหม่ให้กับพริม
อาการคลั่งไคล้พริมที่อินทัชแสดงให้ภูรีเห็นนั้น ยิ่งทำให้ภูรียิ่งมั่นใจว่าพริมเป็นผู้หญิง ตะกายดาวที่จ้องจะจับผู้ชายรวยๆ ภูรีเป็นห่วงกลัวว่าปรีชาพ่อของเขาจะตกเป็นเหยื่ออีกคน ภูรีอยากรู้ว่าพริมกับเพื่อนๆ เป็นใครกันแน่จึงวางแผนให้ภควัตไปโกหกสาวๆ ว่า ภูรี กับ อินทัช ซึ่งเป็นลูกน้องของเขากำลังถูกมาเฟียประจำถิ่นเล่นงาน เพราะเขาสองคนตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าไปรู้เห็นเรื่องธุรกิจเถื่อนของพวกมันจนต้องหาที่หลบซ่อนตัวชั่วคราว ระหว่างนี้ ภูรีกับอินทัชยังหาที่อยู่ใหม่ไม่ได้ พวกเขาขอหลบไปพักที่บ้านของสาวๆ ก่อนสักระยะหนึ่ง
ตอนแรกพริมลังเลเพราะไม่ไว้ใจ แต่เมื่อทบทวนว่าเธอมีบุสกรที่มีดีกรีแชมป์เทควันโด้สายดำ อีกอย่างภควัตก็เป็นคนมีชื่อเสียง เขาคงจะไม่กล้าทำเรื่องไม่ดีกับพวกเธอและอีกเหตุผลที่สำคัญเลยคือ ภควัตรู้จักกับเจ้าของพีพอล ถ้าเธอมีน้ำใจกับลูกน้องของภควัต เขาก็อาจจะช่วยให้เธอได้พบกับผู้บริหารพีพอล
ดังนั้นพริมจึงยอมให้หนุ่มๆ ไปอยู่ที่คฤหาสน์หรูที่ไร้เงาคนใช้ พริมโกหกว่าพ่อกับแม่ที่อยู่ปารีสต้องการขัดเกลานิสัยเธอกับเพื่อนๆ ที่ชอบใช้ชีวิตสบายจนเคยตัว จึงสั่งไล่คนใช้ ออกให้หมด เพื่อให้พวกเธอเรียนรู้ที่จะอยู่ด้วยตัวเองแล้วกลับไปบริหารธุรกิจพันล้าน การอยู่ร่วมกันระหว่างหลานสาวเจ้าของคฤหาสน์ตัวปลอมกับลูกชายเจ้าของคฤหาสน์ตัวจริงจึงสร้างความชุลมุนอย่างหนักหน่วง
พริมกับเพื่อนๆ ต้องวางท่าเป็นคุณหนูตบตาภูรีกับอินทัช ซึ่งเป็นเรื่องที่ทรมานของสาวทั้งสามมาก แต่พริมมักจะเห็นว่าภูรีคอยจ้องเดินตามเธอ และชอบถามเรื่องส่วนตัวเธอ ทำให้พริมคิดไปว่าภูรีตามจีบเธอเพราะหวังจะเป็นหนูตกถังข้าวสาร พริมจึงไม่ชอบขี้หน้าภูรีเอาซะเลย เหมือนที่ภูรีก็ตามสืบประวัติของพริมจนรู้ว่าเธอเป็นหลานสาวของลุงฟักกับป้ารำไพ คนเฝ้าบ้านของพ่อ ตอนนี้พริมยังเรียนอยู่ภูรีคิดไปเองว่าพริมจะต้องเป็นเมียเด็กของพ่อจอม เจ้าชู้ของเขาแน่ๆ แต่การที่พริมก็มักจะถามถึงเจ้าของ พีพอล จากภควัต แล้วทุกครั้งที่พริมถาม ดวงตาของหญิงสาวจะเป็นประกายวิบวับ และเธอก็จะต้องตื่นเต้นทุกครั้งที่ภควัต แกล้งพูดว่าเจ้าของพีพอลจะไปปรากฏตัวที่ใด
ภูรีเคยแอบติดตามสาวๆ ไป และพบว่าพวกเธอตามไปหาเจ้าของพีพอล ตามที่ภควัตโกหกจริงๆ ภูรีจึงเข้าใจไปว่าพริมอยากจับเจ้าของพีพอลนั่นเอง นั่นหมายความว่าพริมกำลังมาหลอกสวมเขาให้พ่อในระหว่างที่พ่อไม่อยู่ ดังนั้นความสัมพันธ์ระหว่างพริมกับภูรีจึงไม่ค่อยจะดีนัก เจอหน้ากันทีไรต้องกัดจิกทะลุเนื้อกันทุกที วันหนึ่งพริมได้พบกับ พงศกร (จักริน ภูริพัฒน์) หนุ่มหน้าใสวัย 20 ปีโดยบังเอิญ พงศกรติดใจความ สวยของพริม ถึงพริมจะอายุมากกว่าแต่พงศกรไม่แคร์เพราะเขาเป็นพวกชอบทำอะไรตามใจ ตัวเอง พงศกรโกหกพริมว่าเขาเพิ่งกลับมาจากเมืองนอกจึงมาเที่ยวพักผ่อน แต่ความจริงคือเขากลับมาเพื่อหลบซ่อนตัวตามคำสั่งของพัชราแม่ของเขา เนื่องจากพงศกรไปทำ วีรี (ภัชธร ธนวัฒน์) สาวน้อย โลกสวยวัย 16 ปีตั้งท้อง
ครอบครัวของวีรีจะเอาเรื่องพงศกร และถ้าเรื่องนี้ถึงทางการเมื่อไร พงศกรจะต้องเจอโทษหนักตามกฎหมายคุ้มครองเด็กอายุไม่ถึง 18 ปี ของประเทศอเมริกา พัชรา กับ วิกกี้ (พิชชาภา พันธุมจินดา) พี่สาวจึงต้องรีบบินไปเคลียร์ปัญหาให้ ซึ่งก็จบปัญหาด้วยการยัดเงินไปหลายล้านบาท พงศกรเข้าหาพริมในมาดของผู้ชายแสนดี แถมยังแวะเวียนไปตามติดเพื่อจีบพริมให้ได้ แต่พอภูรีเห็นหน้าพงศกร เขาก็ต้องรีบชิ่งหนีหลบทันที เพราะวิกกี้พี่สาวของพงศกรเป็นคู่หมั้นคู่หมายของภูรีตามที่ผู้ใหญ่จัดการ ทั้งๆ ที่ภูรีไม่คิดอะไรและเห็นวิกกี้เป็นแค่น้องสาวเท่านั้น
ภูรีต้องคอยปลอมตัวต่างๆ นานา เพื่อปกปิดตัวตนไม่ให้พงศกรเห็น บ่อยครั้งที่เกือบเอา ตัวไม่รอด แต่ก็ได้อินทัชคอยช่วยลุกลามไปจนถึงทะเลาะเบาะแว้งกัน เพราะอินทัชหมั่นไส้ที่ พงศกรมาจีบพริมที่ตนหมายมั่นปั้นมืออยู่ ทว่าพริมไม่เคยรู้เลยว่าอินทัชมีใจให้เธอ มีเพียงปริตาที่รู้เพราะเธอสนิทกับอินทัช เนื่อง จากปริตาตกหลุมรักภควัตอยู่ แต่ปริตาไม่กล้าเผยความในใจเพราะรู้ตัวเองดีว่า ตัวเองเป็นแค่ลูกช่างตัดเย็บเสื้อผ้าจน ๆ ปริตาไม่เคยบอกเรื่องนี้ให้เพื่อนรู้เพราะบุสกรเกลียดขี้หน้าภควัต ส่วนพริมก็หมกมุ่นอยู่แต่กับเรื่องออกแบบรองเท้า ปริตาจึงมีแค่อินทัชเป็นคนคอยให้คำปรึกษา
วันหนึ่งพงศกรแอบได้ยินพริมคุยกับปริตาเรื่องอยากเจอเจ้าของพีพอล เขาจึงออกอุบายชวนพริมไปปาร์ตี้ที่เกาะส่วนตัว โดยโกหกว่าปาร์ตี้แห่งนี้มีเจ้าของพีพอลไปร่วมด้วย พริมหลงกลยอมไปปาร์ตี้กับพงศกร โดยไม่รู้ว่าพงศกรพาไปมอมยาเพื่อหวังรวบหัวรวบหางพริม แต่เคราะห์พริมยังดีอยู่เพราะภูรีไปช่วยไว้ได้ทัน แต่ระหว่างหนีภูรีและพริมกลับต้องลอยคออยู่ กลางทะเลก่อนจะได้ชาวประมงช่วยไว้ ทั้งสองจึงต้องใช้ชีวิตด้วยกันระหว่างที่รอให้มีคนมาช่วย การใช้ชีวิตบนเกาะไม่ได้สร้างความลำบากให้กับคุณหนูกำมะลออย่างพริมเท่าใดนัก เพราะชีวิตจริงของพริมต้องผ่านความลำบากมาอย่างมากมาย พริมแก้ปัญหาต่างๆ ได้อย่างน่าทึ่ง ต่างจากภูรีที่แสนจะลำบากเพราะชีวิตเขามีชีวิตที่สุขสบายมาโดยตลอดการพยายามแสร้งทำในสิ่งที่ไม่ใช่ตัวเองจึงเป็นปัญหามาก แต่ทั้งสองก็ได้ช่วยเหลือและเรียนรู้ซึ่งกันและกัน
ภูรีถามพริมเรื่องทำไมเธอต้องตามหาเจ้าของ พีพอล พริมตัดสินใจเล่าให้ภูรีฟังเรื่อง ความฝันที่จะสานฝันสร้างรองเท้าของแม่ เพราะแบบรองเท้าเป็นแบบที่พ่อเคยวาดไว้ให้แม่ก่อนที่พ่อจะทิ้งแม่ไป ซึ่งตอนนี้พ่ออาจจะตายไปแล้วก็ได้ แต่พริมก็อยากทำเพื่อพ่อ ภูรีแปลกใจที่พริมไม่มีความรู้สึกโกรธเกลียดพ่อเลยแม้แต่นิดเดียว พริมบอกว่า ทุกคนมีเหตุผลของตัวเอง อย่าเพิ่งไปโกรธเกลียดใครถ้ายังไม่รู้เหตุผลที่แท้จริงของเขา ภูรีจึงเข้าใจพริมมากขึ้น แล้วความรักก็ก่อเกิดขึ้นมาอย่างเงียบๆ
ทะเลแสนเค็มกำลังจะกลายเป็นทะเลแสนหวานสำหรับหัวใจของคนทั้งสอง แต่ทุกอย่างก็ต้องจบลงเมื่อเรือของเพื่อนๆ ที่มาช่วยพวกเขามีวิกกี้คู่หมั้นของภูรีมาด้วย เพราะก่อนหน้านั้นบุสกรตามไปเอาเรื่องพงศกรที่คอนโด ขณะเดียวกันวิกกี้ก็ตามมาหาภูรีที่ภูเก็ต บุสกรและปริตาจึงรู้ความลับของหนุ่มๆ แล้ววิกกี้ก็ขอตามมาช่วยพี่ภูด้วยวิกกี้โผเข้าสวมกอด ภูรีทันทีที่เห็นหน้ามันบาดเข้าไปในใจของพริม ยิ่งเธอรู้เรื่องจากบุสกรว่าความจริงแล้วภูรีเป็น ลูกชายของนายหัวปรีชาเจ้าของคฤหาสน์ นั่นยิ่งสร้างความเสียใจและอับอายให้กับพริมเป็นอย่างมาก
พริมหนีกลับไปกรุงเทพพร้อมกับบุสกรและปริตา โดยที่เธอก็ยังไม่รู้เรื่องที่ภูรีเป็นเจ้าของพีพอล ภูรีก็เสียใจไม่น้อยที่พริมโกหกเขา ภูรีจึงไม่คิดจะตามง้อพริมทั้งที่ใจของเขาร่ำร้องหาเธอเสียเหลือเกิน พริมกับเพื่อนๆ กลับมาเริ่มต้นชีวิตใหม่กรุงเทพ สามสาวตัดขาดจากหนุ่มๆ ทางด้านปริตาเองก็โกรธอินทัชที่อุตส่าห์ไว้ใจเขาถึงยอมเล่าทุกอย่างให้ฟัง ปริตากลายเป็นตัวตลกของเขา ขณะเดียวกันอินทัชก็แปลกใจตัวเอง ที่เขาเกิดความรู้สึกว่าอยากปรับความเข้าใจกับ ปริตามากกว่าพริม อินทัชยังไม่รู้ใจตัวเองว่าชอบปริตา เขาคิดแต่เพียงว่าอาจเป็นเพราะปริตา เป็นเพื่อนคุยที่ดีของเขา อินทัชไปง้อปริตาพร้อมกับภควัต ทำให้ปริตาใจอ่อนยอมคืนดี แต่ก็ยัง ไม่ยอมบอกว่าพริมอยู่ที่ไหน
ทางด้านพริมได้ไปสมัครงานกับมอส แล้วได้ไปจัดงานที่ห้างของบารมี ในงานเกิดเหตุการณ์วุ่นวายขึ้นจากการที่พงศกรตามมาราวีพริม เพราะถึงพริมจะไม่ได้รวยจริงแต่เขาเกิดความรักพริมจริงๆ ขึ้นมา เมื่ออยู่กับพริมเขาเกิดความ อบอุ่นในหัวใจอย่างประหลาด อาจเป็นเพราะว่าพริมเป็นคนเดียวที่กล้าดุด่าตักเตือนเขาไม่ใช่ตามใจเขาทุกอย่างเหมือนที่ครอบครัวเขาทำและความวุ่นวายจากการตามง้อพริมของพงศกร ทำให้พริมได้บาดเจ็บ บารมีในฐานะเจ้าของห้างและเป็นพ่อของพงศกรก็แสดงความรับผิดชอบด้วยการพาพริมไปส่งโรงพยาบาลและพาไปส่งที่บ้านพัก ทำให้บารมีได้เห็นรูปวาดรองเท้าที่เขาเคยวาดไว้ เมื่อครั้งยังรักกับพาพร..ผู้หญิงที่เขารักหมดหัวใจ บารมีจึงรู้ความจริงว่าพริมคือลูกของพาพร เท่ากับว่าพริมเป็นลูกสาวของเขานั่นเอง
แต่บารมีไม่สามารถเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงกับพริมได้เพราะเขารู้จักพัชราดี ถ้าพัชรารู้เรื่องเข้าชีวิตของพริมจะไม่สงบสุขอีกเลยเหมือนที่เคยเกิดขึ้นกับชีวิตของพาพร ตอนนั้นบารมีถูกจับให้แต่งงานกับพัชราเพราะครอบครัวทั้งสองร่ำรวยเหมือนกันแต่บารมีไม่ได้รักพัชราเลย เขารักพาพรหญิงสาวจิตใจดีแต่เธอเป็นแค่พนักงานในห้างของเขา ความรักของพวกเขาจึงถูกขัดขวางจากครอบครัวและพัชราผู้ไม่เคยยอมแพ้ใคร และบารมีก็ไม่ได้เข้มแข็งมากพอที่จะปกป้องคนรัก เขาเลือกที่จะทิ้งพาพรให้ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่โดยไม่รู้ว่าพาพรกำลังมีลูก
หลังจากที่บารมีรู้ว่าพริมคือลูกของเขา บารมีก็แอบให้ความช่วยเหลือพริมมาโดยตลอด บารมีไปขอความช่วยเหลือจากภูรีเรื่องทำฝันของพริมให้เป็นจริง บารมีขอร้องภูรีว่าทุกอย่างต้องเป็นความลับ ภูรียินดีช่วยเพราะใจจริงเขาเองก็ชอบแนวคิดในเรื่องออกแบบรองเท้าของพริมมาตั้งแต่ที่อยู่ภูเก็ต แต่ภูรีไม่เข้าใจว่าทำไมบารมีจะต้องช่วยเหลือพริมมากขนาดนี้ พริมดีใจที่สุดในชีวิตที่พีพอลติดต่อให้เธอนำผลงานไปเสนอ อินทัชและภควัตรู้ดีว่า ใครคือเจ้าของพีพอลแต่ไม่เคยมีใครบอกให้สาวๆ รู้ตามคำขอของภูรี อินทัชอาสา ช่วยสอนพริมใช้คอมพิวเตอร์ออกแบบภาพแทนที่จะเป็นแค่วาดรูป
บุสกรสาวห้าวมีงานเสริมอีกอย่าง ที่ภควัตไม่เคยคาดคิดคือเป็นเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิ วันหนึ่งบุสกรได้รับแจ้งให้ไปช่วยเก็บศพอุบัติเหตุที่อยู่ใกล้เคียง บุสกรกระชากกุญแจรถของภควัตแล้วจะขับออกไป ภควัตกระโดดขึ้นตามไปด้วยอารมณ์ตกใจ ภควัตก็เลยตกกระไดพลอยโจนได้ไปช่วยบุสกรเก็บศพ แต่แค่เห็นเลือดภควัตก็สลบเหมือด หลังจากนั้นมาบุสกรจึงเรียกภควัตว่าใจตุ๊ด ภควัตต้องหาโอกาสลบคำสบประมาทนี้ เขายอมไปช่วยบุสกรเก็บศพบ่อยๆ จนทำให้ภควัตได้รู้จักกับความสุขกับการเสียสละเพื่อคนอื่น แล้วความใกล้ชิดก็ทำให้ภควัตกับบุสกรเริ่มรู้สึกดีต่อกันจนกลายเป็นความรัก
แล้ววันสำคัญของพริมก็มาถึงคือเข้าไปพรีเซนต์รองเท้าที่บริษัท พีพอล โดยที่ภูรีไม่ เข้าไปและคอยหลบหน้าพริม แต่โชคร้ายที่วิกกี้มาหาภูรีเข้าพอดี ทำให้พริมรู้ความจริงว่าเจ้าของพีพอลคือภูรี ภูรีโกหกเธออีกแล้ว ภูรีตามมาขอโทษพริมจนเขาเผลอพูดออกมาว่าบารมีให้เขาช่วยพริม พริมสงสัยว่าทำไมบารมีต้องทำแบบนี้ จึงร่วมมือกับบุสกรและปริตาหาทางสืบ แล้วก็ได้รู้ความจริงจากป้ารำไพ ที่เห็นรูปของบารมี ว่าบารมีเป็นพ่อของเธอ และวิกกี้กับพงศกรก็เป็นน้องต่างมารดาของเธอ พริมเคยคิดว่าที่พงศกรเคยบอกว่า รู้สึกอบอุ่นเวลาอยู่ใกล้พริมคงจะไม่ได้เป็นแค่คำหวานเลื่อนลอย แต่เป็นสิ่งที่เกิดจากสายใยสายสัมพันธ์พี่น้องนั่นเอง พริมรู้สึกแปลกๆ อย่างบอกไม่ถูกเพราะเกิดมาเธอก็ไม่เคยมีพี่น้องเหมือนคนอื่น
ขณะเดียวกันพัชราก็สงสัยว่าบารมีจะเอาพริมเป็นเมียน้อยจึงหาเรื่องวีนบารมีอยู่เสมอ จนบารมีรำคาญหนีไปอยู่ที่คอนโด ทำให้พัชรายิ่งเข้าใจผิดคิดว่าบารมีไปขลุกอยู่กับเมียน้อยพัชรา สั่งให้นักสืบสืบประวัติของพริม พัชราจึงรู้ว่าพริมเป็นลูกสาวของพาพรมารหัวใจของเธอ พัชราก็สั่งให้บารมีเลือกระหว่างครอบครัวและนังลูกที่เกิดจากชู้ บารมีกลับเลือกพัชราเพราะบารมีไม่อยากให้พริมเดือดร้อน แต่พริมไม่เข้าใจความรักที่เคยมีต่อพ่อสลายหายไป พริมกลายเป็นคนเกลียดพ่อไม่อยากแม้จะได้ยินชื่อของเขา พริมนำแฟ้มพรีเซนต์รองเท้าของ ตัวเอง โยนทิ้งและหยุดความฝันทั้งหมดไว้ให้ตายไปกับศรัทธาในตัวพ่อที่หมดไป
ภูรีสงสารพริมจับใจจึงพยายามจะเข้าไปให้กำลังใจพริม ไม่อยากให้พริมล้มเลิกสิ่งที่ตั้งใจ แต่ยิ่งพริมกับภูรีใกล้ชิดกันมากเท่าไร วิกกี้ก็ยิ่งเสียใจและอาการก็แย่ลงมากขึ้น พัชราก็เข้ามาวุ่นวายในชีวิตพริมจนถึงขั้นขู่จะฆ่า และคิดจะกำจัดพริมที่เป็นมารหัวใจของวิกกี้ เหมือนกับที่ตนเคยกำจัดพาพรมารหัวใจออกไปจากชีวิตของบารมีได้สำเร็จ แม้บารมีจะไม่เคย มีหัวใจรักเธอเลย แต่เธอก็ยังได้ครอบครองบารมีเอาไว้อย่างผู้ชนะ ชีวิตของพริมกำลังตกอยู่ในอันตราย แถมความฝันเรื่องรองเท้าก็ยังมืดมน ความรักก็ยัง สับสนยุ่งเหยิง ชีวิตของนางซินคนนี้จะจบอย่างไร ทั้งเรื่องหัวใจและความฝันจะพาเธอเดินไป ถึงจุดหมายที่หวังไว้ได้หรือไม่
วันหนึ่งพริมทะเลาะกับ แองจี้ (สุทธาทิพย์ วุฒิชัยประดิษฐ์) เพื่อนร่วมงานตัวแสบ เหตุเพราะนางมัวแต่ก้มเล่นมือถือ จึงไม่ได้ดูแลลูกค้าที่มายืนรอนานแล้ว พริมก็เลยเข้าไปช่วยให้คำแนะนำแทนจนลูกค้า พอใจสั่งซื้อรองเท้ากับพริมไปหลายคู่ แองจี้หาว่าพริมตั้งใจแย่งลูกค้าก็เลยเรียกก๊วนเพื่อนมารุมพริม งานนี้ร้อนถึง บุสกร (ฑาริกา อินสุวรรณ์) และ ปริตา (ลลินา ชูเอ็ทท์) เพื่อนสนิทของพริมที่อยู่แผนกกีฬากับแผนกเสื้อผ้า สตรีต้องรีบมาช่วยเสริมทัพให้พริมทั้งสองฝ่ายทะเลาะตบตีกันจนวุ่นวายไปทั้งห้าง แต่พวกพริมกลับถูกหัวหน้าแผนกไล่ออกตามคำสั่งของ พัชรา (สรวงสุดา ลาวัณย์ประเสริฐ) เจ้าของห้างและภรรยาของ บารมี (ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี)
พริมรู้สึกได้ตั้งแต่มาทำงานแรกๆ ว่าพัชราไม่ชอบขี้หน้าเธอ แต่พริมก็ไม่เคยรู้ตัวว่าเธอ ไปทำอะไรให้พัชราซึ่งพัชราเองก็ไม่มีเหตุผลเหมือนกันว่าทำไมถึงไม่ชอบหน้าเด็กชื่อพริมตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นหน้า อาจเป็นเพราะว่าหน้าตาของพริมมีส่วนละม้ายคล้ายใครบางคนที่เธอเกลียดฝังใจ ทว่าความวุ่นวายของชีวิตพริมยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เพราะอยู่ๆ ลุงฟักโทรมาตามให้พริม รีบลงไปที่ภูเก็ต เพื่อช่วยเกลี่ยกล่อมให้ ป้ารำไพยอมลงจากต้นไม้สาวๆ อาศัยช่วงว่างงานลงไปภูเก็ตกันด้วย
เมื่อไปถึงสามสาวจึงรู้ว่าสาเหตุที่ป้ารำไพทำเช่นนั้นก็เพราะอยากจะประท้วงให้ลุงฟักหยุดพูดเรื่องไปเที่ยวยุโรป ที่ก่อนหน้านั้นลุงฟักดันเป็นผู้โชคดีที่ได้รางวัลไปทัวร์ยุโรปจากการส่งชิงโชคนานกว่าสองอาทิตย์เป็นจำนวน 2 ที่ แต่ป้ารำไพยืนกรานไม่ยอมไป เพราะต้องทำหน้าที่คุณแม่บ้านดูแลคฤหาสน์ให้ คุณปรีชา (อนันต์ บุนนาค) เศรษฐีอารมณ์ดีที่ชอบเดินทางท่องเที่ยวไปทั่วโลก แต่พริมไม่อยากให้ลุงกับป้าเสียโอกาสดีๆ ไป พริมกับเพื่อนอาสาจะดูแลคฤหาสน์ให้เอง ป้ารำไพถึงได้ยอม
การได้เข้าไปอยู่ในคฤหาสน์เป็นเสมือนความฝันของพริมและเพื่อนๆ บุสกรตื่นเต้นกับห้องออกกำลังกายที่มีเครื่องออกกำลังกายครบครัน ตามประสาสาวห้าวรักกีฬาเป็นชีวิตจิตใจ บุสกรใฝ่ฝันอยากให้น้องๆ ในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าที่เธอเติบโตมามีสุขภาพที่ดี และห้องเสื้อผ้าที่มีตู้เสื้อผ้าอลังการดาวล้านดวงก็สร้างความตื่นเต้นให้กับปริตา สาวอ่อนหวานที่รักเรื่องเสื้อผ้าเพราะแม่ของเธอก็เป็นช่างตัดเสื้อผ้าอยู่ในสลัม แต่สิ่งที่ทำให้พริมตื่นเต้นได้มากที่สุดก็คือ การ์ดเชิญถึงคุณปรีชาให้ไปร่วมงานเลี้ยงแสดงความยินดีที่ พีพอล บริษัทผลิตรองเท้าชื่อดังจากฝรั่งเศสจะจับมือกับบริษัทสิ่งทอของประเทศไทยผลิตรองเท้าเพื่อคนไทย ซึ่งงานนี้จะจัดขึ้น ที่โรงแรมมุกทะเลโรงแรมระดับห้าดาวที่อยู่ไม่ไกลจากคฤหาสน์
สาเหตุที่พริมตื่นเต้นเพราะบริษัทนี้มีนโยบายสนับสนุนนักออกแบบรุ่นใหม่ให้ออกแบบรองเท้าให้กับบริษัทและมีนักออกแบบหน้าใหม่แจ้งเกิดเพราะพีพอลมาแล้วนับไม่ถ้วน พริมฝันไปไกลว่าอยากให้รองเท้าที่เธอออกแบบไว้ได้รับการสนับสนุนจากพีพอล ดังนั้นสิ่งแรกที่พริมต้องทำคือทำให้เจ้าของพีพอลเห็นผลงานออกแบบรองเท้าของเธอให้ได้ และแล้วแผนไปร่วมงานเลี้ยงในฐานะหลานสาวกำมะลอของคุณปรีชาจึงเกิดขึ้น โดยที่พริมไม่รู้ว่าลูกชายตัวจริงของคุณปรีชาเป็นคนสำคัญของงานเลี้ยงนั้น เขาคือ ภูรี (ธีรเดช เมธาวรายุทธ) ชายหนุ่มรูปหล่อบาดใจ ภูรีไม่ได้มีดีแค่ความหล่อแต่เขายังมีดีที่สมอง ทุกอย่างต้องดีต้องเรียบร้อย ถึงแม้ว่าครอบครัวของเขาที่ฝรั่งเศสจะร่ำรวยระดับเศรษฐี แต่ภูรีก็ไม่เคยหยุดที่จะทำอะไรด้วยตัวเองด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ ซึ่งธุรกิจที่ภูรีเป็นเจ้าของก็คือรองเท้ายี่ห้อพีพอลนั่นเอง
ภูรีร่วมธุรกิจผลิตรองเท้ากับบริษัทสิ่งทอซึ่งเป็นของครอบครัว อินทัช (ณวัสน์ ภู่พันธัชสีห์) เพื่อนสนิท รวมถึงโรงแรมมุกทะเลที่จะเป็นสถานที่จัดงานก็เป็นของ ภควัต (พชร จิราธิวัฒน์) หนุ่มเพลย์บอยเพื่อนสนิท อีกคนของเขา ภูรีจงใจจัดงานที่ภูเก็ตเพราะเขาอยากจะเชิญปรีชาพ่อของเขามาร่วมงาน ภูรีตั้งใจ จะสร้างความประหลาดใจให้พ่อเห็นว่าพ่อไม่เคยมีอิทธิพลกับชีวิตของเขาแม้แต่น้อย ถึงไม่มีพ่อดูแลชีวิตเขาก็ดีได้ แต่วันงานผู้ที่มาร่วมงานแทนพ่อกลับเป็นผู้หญิงสามคนที่บอกว่าตัวเองเป็นหลานสาวของพ่อ
ภูรีมั่นใจว่าพวกเธอโกหกเพราะพ่อของเขาไม่เคยมีหลาน ภูรีจึงสั่งให้การ์ดไล่พวกเธอออกไปจากงานอย่างไร้เหตุผล แต่พริมไม่ยอมแพ้ ยังไงคืนนี้เธอก็จะต้องอวดผลงานตัวเองให้เจ้าของพีพอลดูให้ได้ เธอหาทางเข้าไปในงานจนกระทั่งไปพบกับภควัตเจ้าของโรงแรม ภควัตมีท่าทีสนใจในตัวพริม พริมมั่นใจว่าภควัตจะช่วยพาเธอเข้าไปในงานได้แน่ เธอจึงจำใจต้องใช้มารยาหญิงกับภควัตด้วยวิธีการต่างๆ นานา ทำให้ภูรีเข้าใจผิดไปว่าพริมเป็นพวกผู้หญิงที่ชอบตะกายดาวจับคนรวย
เมื่อแผนการอ่อยภควัตไม่สำเร็จ เพราะภควัตต้องรีบไปทำธุระ พริมหงุดหงิดมากจึงเดินออกมายังชายหาด แล้วเธอก็พบว่าอินทัชกำลังร้องไห้ตะโกนบอกท้องฟ้าถึงความโชคร้ายเรื่องความรัก ก่อนที่อินทัชจะก็เดินลงไปทะเล พริมเข้าใจผิดคิดว่าอินทัชจะฆ่าตัวตายจึงลงไปช่วยอย่างไม่คิดชีวิตทั้งที่ความจริงแล้วอินทัชจะลงไปงมหาแหวนของอดีตคนรัก เพราะเกิดเสียดายขึ้นมาอย่างกะทันหัน อินทัชยังไม่ทันได้บอกความจริงกับพริม พริมก็ถาโถมถ้อยคำให้กำลังใจอินทัชชุดใหญ่ ทำให้เขารู้สึกดีกับพริมมาก อินชัยจึงยกตำแหน่งว่าที่แม่ของลูกคนใหม่ให้กับพริม
อาการคลั่งไคล้พริมที่อินทัชแสดงให้ภูรีเห็นนั้น ยิ่งทำให้ภูรียิ่งมั่นใจว่าพริมเป็นผู้หญิง ตะกายดาวที่จ้องจะจับผู้ชายรวยๆ ภูรีเป็นห่วงกลัวว่าปรีชาพ่อของเขาจะตกเป็นเหยื่ออีกคน ภูรีอยากรู้ว่าพริมกับเพื่อนๆ เป็นใครกันแน่จึงวางแผนให้ภควัตไปโกหกสาวๆ ว่า ภูรี กับ อินทัช ซึ่งเป็นลูกน้องของเขากำลังถูกมาเฟียประจำถิ่นเล่นงาน เพราะเขาสองคนตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าไปรู้เห็นเรื่องธุรกิจเถื่อนของพวกมันจนต้องหาที่หลบซ่อนตัวชั่วคราว ระหว่างนี้ ภูรีกับอินทัชยังหาที่อยู่ใหม่ไม่ได้ พวกเขาขอหลบไปพักที่บ้านของสาวๆ ก่อนสักระยะหนึ่ง
ตอนแรกพริมลังเลเพราะไม่ไว้ใจ แต่เมื่อทบทวนว่าเธอมีบุสกรที่มีดีกรีแชมป์เทควันโด้สายดำ อีกอย่างภควัตก็เป็นคนมีชื่อเสียง เขาคงจะไม่กล้าทำเรื่องไม่ดีกับพวกเธอและอีกเหตุผลที่สำคัญเลยคือ ภควัตรู้จักกับเจ้าของพีพอล ถ้าเธอมีน้ำใจกับลูกน้องของภควัต เขาก็อาจจะช่วยให้เธอได้พบกับผู้บริหารพีพอล
ดังนั้นพริมจึงยอมให้หนุ่มๆ ไปอยู่ที่คฤหาสน์หรูที่ไร้เงาคนใช้ พริมโกหกว่าพ่อกับแม่ที่อยู่ปารีสต้องการขัดเกลานิสัยเธอกับเพื่อนๆ ที่ชอบใช้ชีวิตสบายจนเคยตัว จึงสั่งไล่คนใช้ ออกให้หมด เพื่อให้พวกเธอเรียนรู้ที่จะอยู่ด้วยตัวเองแล้วกลับไปบริหารธุรกิจพันล้าน การอยู่ร่วมกันระหว่างหลานสาวเจ้าของคฤหาสน์ตัวปลอมกับลูกชายเจ้าของคฤหาสน์ตัวจริงจึงสร้างความชุลมุนอย่างหนักหน่วง
พริมกับเพื่อนๆ ต้องวางท่าเป็นคุณหนูตบตาภูรีกับอินทัช ซึ่งเป็นเรื่องที่ทรมานของสาวทั้งสามมาก แต่พริมมักจะเห็นว่าภูรีคอยจ้องเดินตามเธอ และชอบถามเรื่องส่วนตัวเธอ ทำให้พริมคิดไปว่าภูรีตามจีบเธอเพราะหวังจะเป็นหนูตกถังข้าวสาร พริมจึงไม่ชอบขี้หน้าภูรีเอาซะเลย เหมือนที่ภูรีก็ตามสืบประวัติของพริมจนรู้ว่าเธอเป็นหลานสาวของลุงฟักกับป้ารำไพ คนเฝ้าบ้านของพ่อ ตอนนี้พริมยังเรียนอยู่ภูรีคิดไปเองว่าพริมจะต้องเป็นเมียเด็กของพ่อจอม เจ้าชู้ของเขาแน่ๆ แต่การที่พริมก็มักจะถามถึงเจ้าของ พีพอล จากภควัต แล้วทุกครั้งที่พริมถาม ดวงตาของหญิงสาวจะเป็นประกายวิบวับ และเธอก็จะต้องตื่นเต้นทุกครั้งที่ภควัต แกล้งพูดว่าเจ้าของพีพอลจะไปปรากฏตัวที่ใด
ภูรีเคยแอบติดตามสาวๆ ไป และพบว่าพวกเธอตามไปหาเจ้าของพีพอล ตามที่ภควัตโกหกจริงๆ ภูรีจึงเข้าใจไปว่าพริมอยากจับเจ้าของพีพอลนั่นเอง นั่นหมายความว่าพริมกำลังมาหลอกสวมเขาให้พ่อในระหว่างที่พ่อไม่อยู่ ดังนั้นความสัมพันธ์ระหว่างพริมกับภูรีจึงไม่ค่อยจะดีนัก เจอหน้ากันทีไรต้องกัดจิกทะลุเนื้อกันทุกที วันหนึ่งพริมได้พบกับ พงศกร (จักริน ภูริพัฒน์) หนุ่มหน้าใสวัย 20 ปีโดยบังเอิญ พงศกรติดใจความ สวยของพริม ถึงพริมจะอายุมากกว่าแต่พงศกรไม่แคร์เพราะเขาเป็นพวกชอบทำอะไรตามใจ ตัวเอง พงศกรโกหกพริมว่าเขาเพิ่งกลับมาจากเมืองนอกจึงมาเที่ยวพักผ่อน แต่ความจริงคือเขากลับมาเพื่อหลบซ่อนตัวตามคำสั่งของพัชราแม่ของเขา เนื่องจากพงศกรไปทำ วีรี (ภัชธร ธนวัฒน์) สาวน้อย โลกสวยวัย 16 ปีตั้งท้อง
ครอบครัวของวีรีจะเอาเรื่องพงศกร และถ้าเรื่องนี้ถึงทางการเมื่อไร พงศกรจะต้องเจอโทษหนักตามกฎหมายคุ้มครองเด็กอายุไม่ถึง 18 ปี ของประเทศอเมริกา พัชรา กับ วิกกี้ (พิชชาภา พันธุมจินดา) พี่สาวจึงต้องรีบบินไปเคลียร์ปัญหาให้ ซึ่งก็จบปัญหาด้วยการยัดเงินไปหลายล้านบาท พงศกรเข้าหาพริมในมาดของผู้ชายแสนดี แถมยังแวะเวียนไปตามติดเพื่อจีบพริมให้ได้ แต่พอภูรีเห็นหน้าพงศกร เขาก็ต้องรีบชิ่งหนีหลบทันที เพราะวิกกี้พี่สาวของพงศกรเป็นคู่หมั้นคู่หมายของภูรีตามที่ผู้ใหญ่จัดการ ทั้งๆ ที่ภูรีไม่คิดอะไรและเห็นวิกกี้เป็นแค่น้องสาวเท่านั้น
ภูรีต้องคอยปลอมตัวต่างๆ นานา เพื่อปกปิดตัวตนไม่ให้พงศกรเห็น บ่อยครั้งที่เกือบเอา ตัวไม่รอด แต่ก็ได้อินทัชคอยช่วยลุกลามไปจนถึงทะเลาะเบาะแว้งกัน เพราะอินทัชหมั่นไส้ที่ พงศกรมาจีบพริมที่ตนหมายมั่นปั้นมืออยู่ ทว่าพริมไม่เคยรู้เลยว่าอินทัชมีใจให้เธอ มีเพียงปริตาที่รู้เพราะเธอสนิทกับอินทัช เนื่อง จากปริตาตกหลุมรักภควัตอยู่ แต่ปริตาไม่กล้าเผยความในใจเพราะรู้ตัวเองดีว่า ตัวเองเป็นแค่ลูกช่างตัดเย็บเสื้อผ้าจน ๆ ปริตาไม่เคยบอกเรื่องนี้ให้เพื่อนรู้เพราะบุสกรเกลียดขี้หน้าภควัต ส่วนพริมก็หมกมุ่นอยู่แต่กับเรื่องออกแบบรองเท้า ปริตาจึงมีแค่อินทัชเป็นคนคอยให้คำปรึกษา
วันหนึ่งพงศกรแอบได้ยินพริมคุยกับปริตาเรื่องอยากเจอเจ้าของพีพอล เขาจึงออกอุบายชวนพริมไปปาร์ตี้ที่เกาะส่วนตัว โดยโกหกว่าปาร์ตี้แห่งนี้มีเจ้าของพีพอลไปร่วมด้วย พริมหลงกลยอมไปปาร์ตี้กับพงศกร โดยไม่รู้ว่าพงศกรพาไปมอมยาเพื่อหวังรวบหัวรวบหางพริม แต่เคราะห์พริมยังดีอยู่เพราะภูรีไปช่วยไว้ได้ทัน แต่ระหว่างหนีภูรีและพริมกลับต้องลอยคออยู่ กลางทะเลก่อนจะได้ชาวประมงช่วยไว้ ทั้งสองจึงต้องใช้ชีวิตด้วยกันระหว่างที่รอให้มีคนมาช่วย การใช้ชีวิตบนเกาะไม่ได้สร้างความลำบากให้กับคุณหนูกำมะลออย่างพริมเท่าใดนัก เพราะชีวิตจริงของพริมต้องผ่านความลำบากมาอย่างมากมาย พริมแก้ปัญหาต่างๆ ได้อย่างน่าทึ่ง ต่างจากภูรีที่แสนจะลำบากเพราะชีวิตเขามีชีวิตที่สุขสบายมาโดยตลอดการพยายามแสร้งทำในสิ่งที่ไม่ใช่ตัวเองจึงเป็นปัญหามาก แต่ทั้งสองก็ได้ช่วยเหลือและเรียนรู้ซึ่งกันและกัน
ภูรีถามพริมเรื่องทำไมเธอต้องตามหาเจ้าของ พีพอล พริมตัดสินใจเล่าให้ภูรีฟังเรื่อง ความฝันที่จะสานฝันสร้างรองเท้าของแม่ เพราะแบบรองเท้าเป็นแบบที่พ่อเคยวาดไว้ให้แม่ก่อนที่พ่อจะทิ้งแม่ไป ซึ่งตอนนี้พ่ออาจจะตายไปแล้วก็ได้ แต่พริมก็อยากทำเพื่อพ่อ ภูรีแปลกใจที่พริมไม่มีความรู้สึกโกรธเกลียดพ่อเลยแม้แต่นิดเดียว พริมบอกว่า ทุกคนมีเหตุผลของตัวเอง อย่าเพิ่งไปโกรธเกลียดใครถ้ายังไม่รู้เหตุผลที่แท้จริงของเขา ภูรีจึงเข้าใจพริมมากขึ้น แล้วความรักก็ก่อเกิดขึ้นมาอย่างเงียบๆ
ทะเลแสนเค็มกำลังจะกลายเป็นทะเลแสนหวานสำหรับหัวใจของคนทั้งสอง แต่ทุกอย่างก็ต้องจบลงเมื่อเรือของเพื่อนๆ ที่มาช่วยพวกเขามีวิกกี้คู่หมั้นของภูรีมาด้วย เพราะก่อนหน้านั้นบุสกรตามไปเอาเรื่องพงศกรที่คอนโด ขณะเดียวกันวิกกี้ก็ตามมาหาภูรีที่ภูเก็ต บุสกรและปริตาจึงรู้ความลับของหนุ่มๆ แล้ววิกกี้ก็ขอตามมาช่วยพี่ภูด้วยวิกกี้โผเข้าสวมกอด ภูรีทันทีที่เห็นหน้ามันบาดเข้าไปในใจของพริม ยิ่งเธอรู้เรื่องจากบุสกรว่าความจริงแล้วภูรีเป็น ลูกชายของนายหัวปรีชาเจ้าของคฤหาสน์ นั่นยิ่งสร้างความเสียใจและอับอายให้กับพริมเป็นอย่างมาก
พริมหนีกลับไปกรุงเทพพร้อมกับบุสกรและปริตา โดยที่เธอก็ยังไม่รู้เรื่องที่ภูรีเป็นเจ้าของพีพอล ภูรีก็เสียใจไม่น้อยที่พริมโกหกเขา ภูรีจึงไม่คิดจะตามง้อพริมทั้งที่ใจของเขาร่ำร้องหาเธอเสียเหลือเกิน พริมกับเพื่อนๆ กลับมาเริ่มต้นชีวิตใหม่กรุงเทพ สามสาวตัดขาดจากหนุ่มๆ ทางด้านปริตาเองก็โกรธอินทัชที่อุตส่าห์ไว้ใจเขาถึงยอมเล่าทุกอย่างให้ฟัง ปริตากลายเป็นตัวตลกของเขา ขณะเดียวกันอินทัชก็แปลกใจตัวเอง ที่เขาเกิดความรู้สึกว่าอยากปรับความเข้าใจกับ ปริตามากกว่าพริม อินทัชยังไม่รู้ใจตัวเองว่าชอบปริตา เขาคิดแต่เพียงว่าอาจเป็นเพราะปริตา เป็นเพื่อนคุยที่ดีของเขา อินทัชไปง้อปริตาพร้อมกับภควัต ทำให้ปริตาใจอ่อนยอมคืนดี แต่ก็ยัง ไม่ยอมบอกว่าพริมอยู่ที่ไหน
ทางด้านพริมได้ไปสมัครงานกับมอส แล้วได้ไปจัดงานที่ห้างของบารมี ในงานเกิดเหตุการณ์วุ่นวายขึ้นจากการที่พงศกรตามมาราวีพริม เพราะถึงพริมจะไม่ได้รวยจริงแต่เขาเกิดความรักพริมจริงๆ ขึ้นมา เมื่ออยู่กับพริมเขาเกิดความ อบอุ่นในหัวใจอย่างประหลาด อาจเป็นเพราะว่าพริมเป็นคนเดียวที่กล้าดุด่าตักเตือนเขาไม่ใช่ตามใจเขาทุกอย่างเหมือนที่ครอบครัวเขาทำและความวุ่นวายจากการตามง้อพริมของพงศกร ทำให้พริมได้บาดเจ็บ บารมีในฐานะเจ้าของห้างและเป็นพ่อของพงศกรก็แสดงความรับผิดชอบด้วยการพาพริมไปส่งโรงพยาบาลและพาไปส่งที่บ้านพัก ทำให้บารมีได้เห็นรูปวาดรองเท้าที่เขาเคยวาดไว้ เมื่อครั้งยังรักกับพาพร..ผู้หญิงที่เขารักหมดหัวใจ บารมีจึงรู้ความจริงว่าพริมคือลูกของพาพร เท่ากับว่าพริมเป็นลูกสาวของเขานั่นเอง
แต่บารมีไม่สามารถเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงกับพริมได้เพราะเขารู้จักพัชราดี ถ้าพัชรารู้เรื่องเข้าชีวิตของพริมจะไม่สงบสุขอีกเลยเหมือนที่เคยเกิดขึ้นกับชีวิตของพาพร ตอนนั้นบารมีถูกจับให้แต่งงานกับพัชราเพราะครอบครัวทั้งสองร่ำรวยเหมือนกันแต่บารมีไม่ได้รักพัชราเลย เขารักพาพรหญิงสาวจิตใจดีแต่เธอเป็นแค่พนักงานในห้างของเขา ความรักของพวกเขาจึงถูกขัดขวางจากครอบครัวและพัชราผู้ไม่เคยยอมแพ้ใคร และบารมีก็ไม่ได้เข้มแข็งมากพอที่จะปกป้องคนรัก เขาเลือกที่จะทิ้งพาพรให้ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่โดยไม่รู้ว่าพาพรกำลังมีลูก
หลังจากที่บารมีรู้ว่าพริมคือลูกของเขา บารมีก็แอบให้ความช่วยเหลือพริมมาโดยตลอด บารมีไปขอความช่วยเหลือจากภูรีเรื่องทำฝันของพริมให้เป็นจริง บารมีขอร้องภูรีว่าทุกอย่างต้องเป็นความลับ ภูรียินดีช่วยเพราะใจจริงเขาเองก็ชอบแนวคิดในเรื่องออกแบบรองเท้าของพริมมาตั้งแต่ที่อยู่ภูเก็ต แต่ภูรีไม่เข้าใจว่าทำไมบารมีจะต้องช่วยเหลือพริมมากขนาดนี้ พริมดีใจที่สุดในชีวิตที่พีพอลติดต่อให้เธอนำผลงานไปเสนอ อินทัชและภควัตรู้ดีว่า ใครคือเจ้าของพีพอลแต่ไม่เคยมีใครบอกให้สาวๆ รู้ตามคำขอของภูรี อินทัชอาสา ช่วยสอนพริมใช้คอมพิวเตอร์ออกแบบภาพแทนที่จะเป็นแค่วาดรูป
บุสกรสาวห้าวมีงานเสริมอีกอย่าง ที่ภควัตไม่เคยคาดคิดคือเป็นเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิ วันหนึ่งบุสกรได้รับแจ้งให้ไปช่วยเก็บศพอุบัติเหตุที่อยู่ใกล้เคียง บุสกรกระชากกุญแจรถของภควัตแล้วจะขับออกไป ภควัตกระโดดขึ้นตามไปด้วยอารมณ์ตกใจ ภควัตก็เลยตกกระไดพลอยโจนได้ไปช่วยบุสกรเก็บศพ แต่แค่เห็นเลือดภควัตก็สลบเหมือด หลังจากนั้นมาบุสกรจึงเรียกภควัตว่าใจตุ๊ด ภควัตต้องหาโอกาสลบคำสบประมาทนี้ เขายอมไปช่วยบุสกรเก็บศพบ่อยๆ จนทำให้ภควัตได้รู้จักกับความสุขกับการเสียสละเพื่อคนอื่น แล้วความใกล้ชิดก็ทำให้ภควัตกับบุสกรเริ่มรู้สึกดีต่อกันจนกลายเป็นความรัก
แล้ววันสำคัญของพริมก็มาถึงคือเข้าไปพรีเซนต์รองเท้าที่บริษัท พีพอล โดยที่ภูรีไม่ เข้าไปและคอยหลบหน้าพริม แต่โชคร้ายที่วิกกี้มาหาภูรีเข้าพอดี ทำให้พริมรู้ความจริงว่าเจ้าของพีพอลคือภูรี ภูรีโกหกเธออีกแล้ว ภูรีตามมาขอโทษพริมจนเขาเผลอพูดออกมาว่าบารมีให้เขาช่วยพริม พริมสงสัยว่าทำไมบารมีต้องทำแบบนี้ จึงร่วมมือกับบุสกรและปริตาหาทางสืบ แล้วก็ได้รู้ความจริงจากป้ารำไพ ที่เห็นรูปของบารมี ว่าบารมีเป็นพ่อของเธอ และวิกกี้กับพงศกรก็เป็นน้องต่างมารดาของเธอ พริมเคยคิดว่าที่พงศกรเคยบอกว่า รู้สึกอบอุ่นเวลาอยู่ใกล้พริมคงจะไม่ได้เป็นแค่คำหวานเลื่อนลอย แต่เป็นสิ่งที่เกิดจากสายใยสายสัมพันธ์พี่น้องนั่นเอง พริมรู้สึกแปลกๆ อย่างบอกไม่ถูกเพราะเกิดมาเธอก็ไม่เคยมีพี่น้องเหมือนคนอื่น
ขณะเดียวกันพัชราก็สงสัยว่าบารมีจะเอาพริมเป็นเมียน้อยจึงหาเรื่องวีนบารมีอยู่เสมอ จนบารมีรำคาญหนีไปอยู่ที่คอนโด ทำให้พัชรายิ่งเข้าใจผิดคิดว่าบารมีไปขลุกอยู่กับเมียน้อยพัชรา สั่งให้นักสืบสืบประวัติของพริม พัชราจึงรู้ว่าพริมเป็นลูกสาวของพาพรมารหัวใจของเธอ พัชราก็สั่งให้บารมีเลือกระหว่างครอบครัวและนังลูกที่เกิดจากชู้ บารมีกลับเลือกพัชราเพราะบารมีไม่อยากให้พริมเดือดร้อน แต่พริมไม่เข้าใจความรักที่เคยมีต่อพ่อสลายหายไป พริมกลายเป็นคนเกลียดพ่อไม่อยากแม้จะได้ยินชื่อของเขา พริมนำแฟ้มพรีเซนต์รองเท้าของ ตัวเอง โยนทิ้งและหยุดความฝันทั้งหมดไว้ให้ตายไปกับศรัทธาในตัวพ่อที่หมดไป
ภูรีสงสารพริมจับใจจึงพยายามจะเข้าไปให้กำลังใจพริม ไม่อยากให้พริมล้มเลิกสิ่งที่ตั้งใจ แต่ยิ่งพริมกับภูรีใกล้ชิดกันมากเท่าไร วิกกี้ก็ยิ่งเสียใจและอาการก็แย่ลงมากขึ้น พัชราก็เข้ามาวุ่นวายในชีวิตพริมจนถึงขั้นขู่จะฆ่า และคิดจะกำจัดพริมที่เป็นมารหัวใจของวิกกี้ เหมือนกับที่ตนเคยกำจัดพาพรมารหัวใจออกไปจากชีวิตของบารมีได้สำเร็จ แม้บารมีจะไม่เคย มีหัวใจรักเธอเลย แต่เธอก็ยังได้ครอบครองบารมีเอาไว้อย่างผู้ชนะ ชีวิตของพริมกำลังตกอยู่ในอันตราย แถมความฝันเรื่องรองเท้าก็ยังมืดมน ความรักก็ยัง สับสนยุ่งเหยิง ชีวิตของนางซินคนนี้จะจบอย่างไร ทั้งเรื่องหัวใจและความฝันจะพาเธอเดินไป ถึงจุดหมายที่หวังไว้ได้หรือไม่