ละคร บ่วงหงส์
ดู 6,514 ครั้ง /
แชร์
ละครออกอากาศ | วันจันทร์ วันอังคาร | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ช่องที่ออกอากาศ | ละครช่อง 3 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เริ่มออกอากาศ | 14 มีนาคม 2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เวลาออกอากาศ | 20:20 - 22:50 น. |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
กำกับโดย | ยุทธนา ลอพันธุ์ไพบูลย์ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ประพันธ์โดย | กิ่งฉัตร | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
นำแสดงโดย | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ผู้สร้าง | บริษัท ถนัดละคร จำกัด |
ภาพนิ่งจากละคร
เรื่องย่อ บ่วงหงส์
พิมพ์ลภัส (คิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส) ลูกสาวคนเดียวของ ตรัย (ทูน หิรัญทรัพย์) นักธุรกิจที่ล้มละลายและฆ่าตัวตายเพื่อหนีหนี้ ความที่เป็นลูกสาวคนเดียว เกิดมาบนกองเงินกองทอง และกำพร้าแม่ตั้งแต่ยังเล็ก ทำให้ถูกตามใจจนเหลิง ใช้ชีวิตอย่างหรูหรามีคนรับใช้มากมาย สุขสบายมาตั้งแต่เด็ก ถึงจะเคยไปเรียนเมืองนอกมาหลายประเทศ แต่เธอก็เรียนไม่จบสักที่
พิมพ์ลภัสเป็นคนเจ้าอารมณ์ และเอาแต่ใจตัวเอง แต่เนื่องจากพิมพ์ลภัสเป็นคนที่สวยสมบูรณ์แบบ จนใครเห็นต้องเหลียวหลัง จึงทำให้นิตยสารชื่อดังมากมายชวนเธอไปถ่ายแบบ และเดินแบบ จนในที่สุดเธอก็ยึดอาชีพนางแบบเป็นอาชีพหลัก แต่ด้วยความที่เธอเป็นลูกคนรวย และเอาแต่ใจตัวเอง พิมพ์ลภัสจึงไม่ตั้งใจทำงาน ไม่ตรงต่อเวลา และวีนเหวี่ยงใส่ทีมงาน จนใครๆ ก็รู้ถึงกิตติศัพท์ของเธอ
แล้ววันหนึ่งเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นกับชีวิตของเธอ ตรัยกินยาตายเพื่อหนีหนี้ ความตายของพ่อ ทำให้ชีวิตของพิมพ์ลภัสต้องพลิกผันจากหน้ามือเป็นหลังมือ ชีวิตหรูหรา คฤหาสน์ รถสปอร์ต ทรัพย์สินเงินทองหายวับไปกับตา เหลือไว้แค่รถบีเอ็มดับบลิวเก่าๆ หนึ่งคัน เงินอีกนิดหน่อย และเข็มกลัดหงส์เพชรที่ตรัยมักเปรียบเปรยลูกสาวสุดที่รักว่าเป็นเหมือนนางหงส์แสนสวย
แม้ตรัยจะไม่ค่อยเหลือสมบัติอะไรให้ลูกสาวแท้ของตน แต่คนที่ได้เงินทองจากตรัยไปมากที่สุดกลับเป็นมาธวี (น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์) แม่เลี้ยงของพิมพ์ลภัส อดีตนางแบบตกอับที่พ่อของเธอรับมาชุบเลี้ยงออกหน้าออกตา มาธวีแก่กว่าพิมพ์ลภัสเพียงไม่กี่ปี ยังไม่ทันสิ้นงานศพของพ่อ พิมพ์ลภัสก็ถูกยึดบ้าน รถหรู ยึดทรัพย์สมบัติทุกสิ่ง ทำให้เธอต้องมาเช่าคอนโดอยู่ แถมยังถูกยศพล (เมธัส ตรีรัตนวารีสิน) คู่หมั้น ลูกผู้ดีจากตระกูลเก่า ถอนหมั้นกะทันหัน
ตรงกันข้ามกับมาธวีที่ได้เสวยสุข เพราะชิงหย่ากับตรัยก่อนหน้านี้ และเรียกร้องค่าเลี้ยงดูอย่างมหาศาล แถมถีบตัวขึ้นมาจนมีชื่อเสียงในสังคม ด้วยการเปิดห้องเสื้อมาธวี รับตัดเสื้อให้ไฮโซ คุณหญิงคุณนาย มาธวีมีคนสนิท 2 คน คือ กะเทยปากร้ายชื่อ อิศราวดี หรือ หนูดี (วสันต์ อุตตมะโยธิน) และหญิงแท้ชื่อ เป็ด (ปิยะ เศวตพิกุล) ทั้งสองเป็นเหมือนคอหอยกับลูกกระเดือกของเจ้านาย
ถึงแม้ชีวิตจะตกต่ำลง แต่พิมพ์ลภัสก็ยังมีนิสัยเสียชนิดที่แก้ไม่หาย งานเดินแบบที่เคยทำจึงค่อยๆ หดหายไป ไม่มีใครอยากจ้าง เพราะถึงแม้จะสวยจัดอย่างไร แต่ทุกคนต่างเอือมระอากับการผิดนัด โทษโน่นโทษนี่ของเธอโดยไม่เคยมองข้อเสียของตัวเองเลย ถึงกระนั้นพิมพ์ลภัสก็ยังหยิ่งไม่ง้อใคร ยิ่งนานวันทรัพย์สินเงินทองก็ร่อยหรอลงทุกที หากแต่มีสิ่งเดียวที่เธอไม่ยอมขายกินซึ่งก็คือ เข็มกลัดประดับเพชรรูปหงส์ที่เตรียมจะโผบินขึ้นฟ้า เข็มกลัดนี้พ่อได้มอบให้เป็นของขวัญครั้งพิมพ์ลภัสย่างเข้าอายุ 15
เจ้าของคอนโดที่พิมพ์ลภัสเช่าอยู่ชื่อ กิตติชัย (กรุณพล เทียนสุวรรณ) ทั้งกิตติชัยและอรอุษา (นฤมล พงษ์สุภาพ) อดีตดาราเก่า ผู้เป็นภรรยา ต่างมีนิสัยเจ้าเล่ห์ และมีประวัติที่ไม่ค่อยจะสู้ดี ทั้งสองเฝ้าสังเกตพิมพ์ลภัสมาตลอด จนกระทั่งเห็นว่าเธอกำลังจนตรอก จึงเสนองานที่มีค่าตอบแทนสูง พร้อมทั้งค่าตอบแทน คือการได้พักคอนในคอนโดหรูแห่งนี้ฟรี เป็นเวลา 1 ปี ซึ่งงานนั่นคือการไปขโมย และทำลายเทปลับกับจดหมาย ที่เกี่ยวข้องกับอรอุษาจาก รเมศ (จิรายุ ตั้งศรีสุข) เจ้าของโรงแรมเชียงรายจารวี สองสามีภรรยาสร้างเรื่องว่า อรอุษาหลงผิดไปมีความสัมพันธ์ กับรเมศอย่างลับๆ
รเมศได้อัดเทป และเก็บจดหมายรัก ซึ่งอรอุษาเขียนติดต่อไป ไว้เพื่อใส่ร้ายคนทั้งสอง เพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจการซื้อขายที่ดิน ครั้งแรกพิมพ์ลภัสก็ไม่ยอมทำ แต่อรอุษามาร้องไห้วิงวอนร้องขอให้พิมพ์ลภัสเห็นใจหัวอกลูกผู้หญิงด้วยกัน ซึ่งพิมพ์ลภัสก็ยังลังเล จนกระทั่งได้อ่านข่าวสังคมว่ามาธวีกำลังจะไปจัดแฟชั่นโชว์ที่โรงแรมเชียงรายจารวี เธอจึงตัดสินใจรับงาน เพราะเชื่อมั่นว่ารเมศต้องเป็นคนเลวแน่ จึงสามารถคบหากับมาธวีได้ พิมพ์ลภัสเดินทางมาถึงโรงแรมเชียงรายจารวี โดยกิตติชัยอ้างว่าจะรับรองความปลอดภัยหากรเมศจับได้ อีกทั้งยังสัญญาว่าจะออกค่าใช้จ่ายทุกอย่าง ระหว่างที่พักอยู่โรงแรมนั้นด้วย
รเมศเป็นหนุ่มหล่อ หน้าสวยสำอาง ที่ประสบความสำเร็จทางธุรกิจตั้งแต่ยังหนุ่ม เพราะมีที่บ้านช่วยปูพื้นมาให้ เขามีเพื่อนรักคือสีหนาท หรือที่ลูกน้องเรียกว่า นายสิงห์ เป็นหุ้นส่วนในทุกธุรกิจอยู่ครึ่งหนึ่ง ทั้งธุรกิจโรงแรมและไร่ แต่นายสิงห์มักจะชอบอยู่ดูแลไร่มากกว่าที่จะออกมาดูงานในโรงแรม ทำให้หลายๆ คนจึงไม่รู้ว่า โรงแรมนี้ยังมีเจ้าของอีกคนคือนายสิงห์
สีหนาทมีคู่หมั้นชื่อนารา หรือ หนูนา (นิษฐา จิรยั่งยืน) หลานสาวคนเดียวของนายธนาคารใหญ่ มหาเศรษฐีที่มีหน้ามีตาในวงสังคม เธอกำลังจะจบโท และจะบินกลับมาแต่งงานกับนายสิงห์ในไม่ช้า ทั้งคู่รักกันมาก เพราะเคยผ่านเรื่องราวต่างๆ มาด้วยกันมากมาย ซึ่งพ่อแท้ๆ ของหนูนา คือ น้าราม มือขวาของนายสิงห์ ซึ่งเมื่อเลิกรากับแม่ของหนูนาไปแล้ว ก็มาได้ภรรยาสาวเป็นน้องสาวของนายสิงห์ชื่อ ขนิษฐา (เดียร์น่า ฟลีโป) หรือที่รเมศมักเรียกว่า คุณน้อง ซึ่งเธอก็เป็นอีกคนที่รเมศวางใจ ให้มาช่วยแบ่งเบาภาระงานต่างๆ ในโรงแรม
ที่เชียงรายจารวี พิมพ์ลภัสกลายเป็นจุดสนใจของทุกคนรวมทั้งรเมศ ด้วยความที่เป็นคนสวยมาก รเมศจึงเข้ามาทำความรู้จัก ซึ่งเธอก็ให้ความสนิทสนมตามแผนทันที รเมศดูจะหลงรักพิมพ์ลภัสขึ้นทุกวัน ทั้งยังบอกว่าจะให้เธอเดินแบบกับห้องเสื้อมาธวีด้วย เขาตามใจเธอ และเอาอกเอาใจทุกอย่าง ความที่พิมพ์ลภัสเอาแต่ใจตัว เย่อหยิ่ง ดูถูกคนอื่น ทำให้เธอสร้างศัตรูในโรงแรมไว้หลายคน โดยเฉพาะกับบรรดาพนักงานต้อนรับ และพนักงานเสริ์ฟ
รเมศพาพิมพ์ลภัสเที่ยวดูงานในโรงแรม และพาไปท่องเที่ยวที่สถานที่ต่างๆ ในเชียงราย รเมศเป็นคนที่เชื่อในสัญชาตญาณแรก และปิ๊งพิมพ์ลภัสตั้งแต่แรกเห็น เขาทุ่มเทใจให้เธอมากมาย ในขณะที่พิมพ์ลภัสกลับจ้องแต่จะหาจังหวะขโมยเทป และจดหมายอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่เพราะเธอไม่ใช่มืออาชีพ พิมพ์ลภัสจึงเผลอทำพิรุธให้รเมศสงสัย และเผลอใช้โทรศัพท์ในห้องของโรงแรมโทรหากิตติชัย
แม้รเมศจะภาวนาขออย่าให้สิ่งที่เขาสังหรณ์เป็นความจริง แต่ในที่สุดรเมศก็จับได้คาหนังคาเขา ขณะที่พิมพ์ลภัสเข้ามาขโมยเทปกับจดหมายจากตู้เซฟในห้องทำงานของตน พิมพ์ลภัสตกใจมากที่ถูกจับได้ แต่ก็ไม่วายเถียงว่ารเมศเป็นคนไม่ดี เป็นชู้กับเมียคนอื่นแถมยังเก็บหลักฐานไว้หักหลัง รเมศจึงเปิดเทปให้เธอได้ฟังความจริง และยังให้อ่านจดหมาย เพื่อให้รู้ถึงความเลวของกิตติชัย ที่เอาชื่อของคนใหญ่คนโตไปแอบอ้าง ข่มขู่ชาวบ้านเพื่อบีบบังคับให้พวกชาวบ้านขายที่ดินให้กับตน
เมื่อพิมพ์ลภัสรู้ความจริง ก็รู้สึกอับอายมาก แต่ก็ยังไม่มากเท่ากับความเสียใจที่รเมศมาหมางเมินกับเธอ อย่างไรก็ตามพิมพ์ลภัสก็คือพิมพ์ลภัส ที่โทษคนอื่นมากกว่าตัวเอง เธอโทรบอกกิตติชัยให้ส่งเงินมาจ่ายค่าที่พัก และค่าใช้จ่ายในโรงแรม แต่กิตติชัยไม่ยอม โดยอ้างว่าเธอทำงานไม่สำเร็จ ทำให้เธอทั้งร้อนใจและตกใจมาก
สำหรับรเมศ เขาทั้งผิดหวังและเสียใจที่มองพิมพ์ลภัสผิดไป รเมศรักพิมพ์ลภัสเข้าจริงๆ เขาจึงรู้สึกเหมือนถูกหลอก ถูกทรยศ ดังนั้นเมื่อพิมพ์ลภัสไม่มีเงินจ่ายค่าโรงแรม เขาจึงให้เธอทำงานชดใช้ โดยให้เป็นพนักงานเสิร์ฟ และขู่ว่าถ้าพิมพ์ลภัสไม่ยอม จะพาเธอไปส่งตำรวจ ทีแรกพิมพ์ลภัสจะขายเข็มกลัดหงส์เพื่อเอาเงินมาใช้หนี้ แต่ด้วยความเสียดาย และหวงแหนสมบัติชิ้นสุดท้ายที่ประหนึ่งเป็นตัวแทนของพ่อผู้ล่วงลับ เธอจึงตัดสินใจรับงาน
พิมพ์ลภัสต้องแต่งเครื่องแบบพนักงานเสริ์ฟ ซึ่งเป็นชุดพื้นเมืองที่เธอเคยดูถูก ต้องย้ายออกจากห้องพักหรูหรามาอยู่ห้องพักของพนักงาน ซึ่งต้องอยู่ร่วมกันห้องละสองคน ที่ทั้งแคบและไม่มีแอร์ ซ้ำร้ายเพื่อนร่วมห้องของเธอก็คือ กานดา (กัญญ์กุลณัช ปัญญากิตตินันท์) พนักงานเสิร์ฟที่เธอเคยวีนใส่
นับจากนั้นพิมพ์ลภัสก็มีสภาพไม่ต่างอะไรกับนางหงส์ปีกหัก เธอเห็นทุกคนเป็นศัตรูไปหมด งานหลายๆ อย่างในชีวิตที่ไม่เคยทำก็ต้องทำโดยเฉพาะงานบริการ แต่เธอก็ยังเอาตัวรอดได้ และยังสามารถทุ่นแรงการซักผ้า ทำความสะอาดห้องพักของตน ด้วยการยกเสื้อผ้ารองเท้าแบรนด์เนมที่เธอใช้แล้วให้กานดา แลกกับค่าเหนื่อย
ตลอดเวลาที่พิมพ์ลภัสทำงานอยู่ที่ห้องอาหารจารวี รเมศเฝ้าจับตาดูอยู่ด้วยความสะใจ แต่บางครั้งก็อดใจอ่อนไม่ได้ ฤทธิ์เดชของพิมพ์ลภัสเป็นที่เลื่องลือไปทั่ว เธอมีเรื่องกับทุกคนไม่ว่าจะเป็นเพื่อนพนักงานเสริ์ฟด้วยกัน ลูกค้า หรือแม้กระทั่งพัชรี (วราพรรณ หงุ่ยตระกูล) ผู้จัดการของห้องอาหาร ความเย่อหยิ่ง และเอาแต่ใจตัวทำให้ทุกคนไม่ชอบพิมพ์ลภัส หลายๆ คนถึงกับนินทา บ้างก็เยาะเย้ยซึ่งๆ หน้า
ด้วยความที่พิมพ์ลภัสเป็นคนหยิ่งทนงไม่ยอมแพ้ และมีเลือดนักสู้ เธอจึงค่อยๆ ปรับตัว และก้มหน้าก้มตาตั้งใจทำงานเพื่อเงิน และพยายามสะสมเงินเพื่อไถ่ตัวเองสู่ความเป็นอิสระ ด้วยพื้นฐาน และต้นทุนชีวิตที่ดีกว่าพนักงานเสิร์ฟคนอื่นๆ และความดีในจิตใจที่ยังมีอยู่พอควร เมื่อจินตนา (สาธิดา ปิ่นสินชัย) เพื่อนร่วมงานซึ่งมีปมในชีวิตเรื่องแม่เลี้ยงลูกเลี้ยงเหมือนกับเธอ โดนลวนลามจากลูกค้าฝรั่งบ้ากาม พิมพ์ลภัสจึงออกไปไล่ตะเพิดและปกป้องทุกคนจากฝรั่งบ้ากามคนนั้น ทำให้ความรู้สึกของเพื่อนร่วมงานที่มีกับพิมพ์ลภัส ค่อยๆ ดีขึ้น
มิตรภาพระหว่างเธอและเพื่อนร่วมงาน โดยเฉพาะกับกานดาและจินตนาก็ยิ่งทวีความแน่นแฟ้น จนเรียกได้ว่าทั้งคู่กลายมาเป็นทั้งองค์รักษ์ และเพื่อนสนิทของเธอในที่สุด การได้ทำงานร่วมทุกข์ร่วมสุขกันนานวันเข้า ประกอบกับความไม่สะดวกสบายทั้งหลายแหล่ ทำให้พิมพ์ลภัสเริ่มเห็นสัจธรรมของชีวิต และพยายามทำใจยอมรับถึงแม้จะไม่ทั้งหมดก็ตาม
และแล้ววันงานแฟชั่นโชว์การกุศลก็มาถึง เมื่อมาธวีได้เห็นสภาพของพิมพ์ลภัสกับตาตัวเอง เธอรู้สึกสะใจที่ได้เห็นลูกเลี้ยงตกต่ำ และไม่รีรอที่จะเยาะเย้ยซ้ำเติม ซึ่งขณะเดียวกันมาธวีก็พยายามที่จะจับรเมศให้ได้ จนสุดท้ายหนูดี และเป็ด ลูกน้องของมาธวีก็สืบรู้ว่าสาเหตุที่พิมพ์ลภัสต้องกลายมาเป็นเด็กเสิร์ฟ ก็เพราะไม่มีเงินจ่ายค่าห้อง มาธวีจึงคิดไปว่าพิมพ์ลภัสคงจะมีแผนการที่จะมาจับคนรวยอย่างรเมศเช่นกัน
แต่ด้วยความช่างสังเกต เธอจึงพอจะรู้ได้ว่ารเมศก็มีใจให้พิมพ์ลภัส เธอจึงคอยสร้างเรื่องให้ทั้งสองเข้าใจผิดกัน แถมยังแกล้งใส่ร้ายพิมพ์ลภัสให้ต้องกล้ำกลืนฝืนทน ในที่สุดมาธวีก็คิดจะกันพิมพ์นภัสให้ห่างจากรเมศโดยเด็ดขาด เธอจึงโทรศัพท์ติดต่อเสี่ยสมาน (ประกาศิต โบสุวรรณ) ให้ได้มาเจอกับพิมพ์ลภัสที่โรงแรมเชียงรายจารวี
เสี่ยสมานซี่งหลงรักพิมพ์ลภัสมานาน และอยากที่จะรับเลี้ยงดูพิมพ์ลภัส เสี่ยดีใจมากจึงรีบหนีเมียขึ้นมาเชียงรายเพื่อมาเจรจากับพิมพ์ลภัส และยื่นข้อเสนอจะเลี้ยงดูพิมพ์ลภัสอย่างดี แต่ก็โดนพิมพ์ลภัสตอกหน้ากลับอย่างไม่เกรงใจ เสี่ยรู้สึกท้อและถอดใจ แต่มาธวีจึงให้กำลังใจ และบอกแผนการณ์ที่จะทำให้พิมพ์ลภัสยอมตกเป็นของเสี่ย ถึงแม้เสี่ยจะยังลังเล กลัวว่าพิมพ์ลภัสจะไปบอกเมียของเขา แต่ความต้องการอยากได้นางหงส์แสนสวยมาครอบครอง เสี่ยจึงยอมทำตามแผน โดยเข้าไปดักรอพิมพ์ลภัสในห้องมาธวี
มาธวีวางแผนแต่งเรื่องบอกรเมศว่าเธออยากจะใช้เงินแทนพิมพ์ลภัส เพื่อเห็นแก่สายสัมพันธ์ที่เคยเป็นแม่เลี้ยงลูกเลี้ยงกันมา แต่ก็กลัวพิมพ์ลภัสจะไม่ยอมรับ ดังนั้นเธอจึงขอร้องให้รเมศช่วยเป็นคนนัดให้พิมพ์ลภัสมาพบเธอบนห้อง เพื่อจะได้ปรับความเข้าใจกัน เธออ้างว่าถ้าเธอเป็นคนนัด พิมพ์ลภัสคงไม่ยอมขึ้นมา รเมศหลงเชื่อจึงสั่งให้คนไปบอกพิมพ์ลภัสว่าให้ขึ้นไปพบเขาที่ห้องพักบนโรงแรม ซึ่งจะมีมาธวีรออยู่เพื่อที่จะปรับความเข้าใจ
เมื่อพิมพ์ลภัสขึ้นไป กลับพบเสี่ยสมานรอที่จะปลุกปล้ำเธออยู่ในมุมมืด ทุกอย่างเข้าแผนการณ์ของมาธวี แต่โชคดีของพิมพ์ลภัส ที่เสี่ยสมานทำไม่สำเร็จ พิมพ์ลภัสเอาตัวรอดด้วยการเอาโทรศัพท์ฟาดหัวเสี่ย และวิ่งหนีออกมาจนผมเผ้าหลุดกระเซิง จนไม่มีใครสังเกตได้ว่าดอกกล้วยไม้ ที่ประดับอยู่บนผมของเธอหลุดร่วงอยู่ในที่เกิดเหตุ พิมพ์ลภัสเจ็บใจ และแค้นใจมาก ด้วยนึกว่ารเมศหลอกเธอมาให้เสี่ยสมาน จึงไปตัดพ้อต่อว่าด้วยถ้อยคำรุนแรง
รเมศตกใจ เพราะไม่รู้ถึงแผนชั่วของมาธวี เมื่อรเมศขึ้นไปเอาเรื่องมาธวีถึงที่ห้อง เธอก็ได้แต่ร้องห่มร้องไห้ปฏิเสธ และแก้ตัวจนรเมศเกือบที่จะเชื่อ แต่โชคดีที่รเมศได้พบหลักฐานชิ้นสำคัญ คือดอกกล้วยไม้จากผมพิมพ์ลภัสที่ร่วงอยู่ โทรศัพท์ที่พัง และสายหลุด จากการใช้เป็นอุปกรณ์ป้องกันตัวของพิมพ์ลภัส รเมศไล่มาธวีออกจากโรงแรมทันที
มาธวีจำนนต่อหลักฐาน ได้แต่พยายามอ้อนวอน รเมศโกรธมาก ไม่ยอมเห็นใจ และบอกให้มาธวีไปขอโทษพิมพ์ลภัส ซ้ำยังให้เธอกราบขอโทษพิมพ์ลภัสด้วย ส่วนพิมพ์ลภัสก็ได้ถ่ายรูปภาพประวัติศาสตร์นั้น เก็บไว้ดูด้วยความสะใจ รเมศหวังว่าจะทำความเข้าใจกับพิมพ์ลภัสได้ เพราะหลังจากมีเรื่อง เขาได้ขอโทษเธอ และยอมรับผิดทุกอย่าง มาธวีโกรธแค้นด่าว่ารเมศ แต่ก่อนไปเธอได้คายพิษครั้งสุดท้าย เพื่อต้องการที่จะให้พิมพ์ลภัสเจ็บช้ำ เธอบอกกับพิมพ์ลภัสว่ารเมศมีคู่หมั้นแล้วชื่อ นารา หรือหนูนา ซึ่งพิมพ์ลภัสก็เคยเห็นความสนิทสนมของคนทั้งสองอยู่บ่อยๆ ทำให้พิมพ์ลภัสปักใจเชื่อ และเสียใจมาก
ส่วนรเมศนั้น ก่อนที่จะไล่เสี่ยสมานออกไป ได้เรียกค่าทำขวัญไว้ให้พิมพ์ลภัส เสี่ยจำใจให้เพราะกลัวเรื่องจะอื้อฉาวทำให้ครอบครัวเสื่อมเสีย และถูกเมียเอาเรื่อง เงินจำนวนนั้นมากพอสมควร แต่รเมศไม่ได้ให้พิมพ์ลภัสในทันที เพราะเกรงว่าเธอจะมีเงินใช้หนี้ และหนีเขากลับกรุงเทพฯ ไป
ถึงแม้นางหงส์อย่างพิมพ์ลภัสจะอยากเป็นอิสระจากการทำงานที่เชียงรายจารวี แต่จริงๆ แล้วหัวใจของเธอได้ติดบ่วงนายพรานอย่างรเมศเข้าแล้ว เธอเสียใจมากกับเรื่องราวที่ได้ยินจากมาธวี เธอตัดสินใจที่จะไปจากเชียงรายจารวีโดยเร็วที่สุด และไปให้พ้นจากรเมศ พิมพ์ลภัสปลงได้ว่าจริงๆ แล้วตอนนี้เธอไม่ใช่นางหงส์แสนสวยอีกต่อไป สัญลักษณ์ราคาแพงที่ปักอยู่บนอกเสื้อ แสดงความเป็นตัวตนของเธอจึงไร้ความหมาย
เธอยอมตัดใจขายเข็มกลัดหงส์เพชร ถึงแม้จะเสียดายใจแทบขาด แต่เพื่อจะได้พ้นจากโรงแรมแห่งนี้ พ้นจากผู้ชายหลอกลวง เพราะเธอเข้าใจว่ารเมศมีคู่หมั้นแล้ว แต่ก็ยังมาหลอกเธอด้วยการทำท่าทีเหมือนมีใจด้วย ก่อนไปพิมพ์ลภัสได้มอบของที่ระลึกให้เพื่อนๆ พนักงานเสิร์ฟ เธอมอบชุดกระโปรงตัวโปรดให้กับกานดา และเงินจำนวนหนึ่งให้จินตนาได้ไปลงเรียนต่อ เพื่อสานต่อความฝัน เพราะทุกคนต่างได้ให้บทเรียนอันมีค่ากับเธอ ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังได้ค้นพบความจริงใจ และคำว่าเพื่อนที่พวกเขาเหล่านั้นมีให้กับเธอ
เมื่อพิมพ์ลภัสเอาเงินมาใช้หนี้ รเมศรู้สึกใจหาย แต่ในเมื่อเธอยืนยันจะไปก็ไม่สามารถขัดขวางได้ รเมศยังได้มอบเงินค่าทำขวัญของเสี่ยสมานให้เธอด้วย ทำให้พิมพ์ลภัสยิ่งโกรธมาก เพราะเข้าใจผิดว่าเขาเก็บเงินจำนวนนั้นไว้ ไม่ยอมบอกเธอ ตั้งใจจะแกล้งกักตัวเธอไว้ให้ทำงานต่อ หลังจากพิมพ์ลภัสจากไปแล้ว รเมศเสียใจมากจนซึมเศร้าไม่เป็นอันทำงาน จนทุกคนเป็นห่วง
เมื่อพิมพ์ลภัสมาถึงกรุงเทพฯ เธอได้รับบทเรียนเรื่องการมีชีวิตพอเพียงจากการใช้ชีวิตที่เชียงรายจารวี เธอจึงไปเช่าอพาร์ตเมนท์เล็กๆ ขายข้าวของแบรนด์เนม เนื่องจากมันไม่มีความสำคัญกับชีวิตของเธออีกต่อไป และใช้ชีวิตกินอยู่อย่างประหยัด ติดดิน หลังจากนั้นก็เริ่มต้นชีวิตใหม่อย่างไม่ท้อถอย ถึงแม้ในใจก็ยังคงรู้สึกเสียใจกับเรื่องที่ผ่านมา และยังคิดถึงรเมศอยู่
เธอเริ่มต้นด้วยการพยายามออกหางานเดินแบบ ติดต่อทุกตัวแทนบริษัทที่เคยร่วมงานด้วย แต่ทุกแห่งก็ปฏิเสธหมด เพราะมาธวีใช้อิทธิพล และความสนิทสนมส่วนตัวกับบรรดาตัวแทน พูดให้ร้ายพิมพ์ลภัส และบอกให้ทุกที่ปฏิเสธเธอ ซึ่งพิมพ์ลภัสเองก็รู้ตัว เพราะเข้าใจว่าการที่ทุกคนปฏิเสธเธอ เป็นเพราะยามที่เคยรุ่งเรืองเธอทั้งเบี้ยวงาน เหวี่ยงวีน และไปสายมากๆ เป็นประจำ ในที่สุดเธอจึงตัดใจ และตั้งใจหางานอื่นทำ แต่มันก็ยากเต็มที เพราะพิมพ์ลภัสเรียนไม่จบที่ไหนสักแห่ง หรือถ้าที่ไหนรับ เธอก็จะได้เจอกับเจ้านายหัวงู มาลวนลามเธอ เป็นอันให้เธอต้องลาออก และตกงาน
ความทุกข์ยากหลายเดือนที่ผ่านมาสอนให้พิมพ์ลภัสไม่ท้อ เธอจึงลองเอาความสามารถด้านอื่นๆ ของเธอไปแลกกับเงิน ซึ่งนั่นก็คือการสอนภาษา เพราะเมื่อสมัยที่เธอยังเรียนอยู่เมืองนอก เธอได้เรียนคอร์สสั้นๆ ตามประเทศในยุโรปหลายประเทศ และอยู่ที่นั่นประเทศละหลายปี ทำให้เธอพูดได้ถึง 3 ภาษา และมีทักษะทางภาษาที่ดี ทั้งการพูดการเขียน แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่มีสถาบันสอนภาษาที่ไหนรับเธอ เพราะด้วยกฎระเบียบ ที่ต้องใช้วุฒิการศึกษาในการสมัคร
จนกระทั่งวันหนึ่งพิมพ์ลภัสได้พบกับหนูนาโดยบังเอิญ ซึ่งหนูนาก็มากับนายสิงห์คู่หมั้น และเป็นหุ้นส่วนของรเมศ แต่พิมพ์ลภัสก็ยังไม่รุ้ และเข้าใจผิดอยู่เหมือนเดิม หนูนาพยายามจะให้ความช่วยเหลือ แต่พิมพ์ลภัสปฏิเสธ หนูนาจึงให้เบอร์โทรศัพท์ติดต่อไว้ พิมพ์ลภัสไม่สามารถหางานได้ เงินก็ร่อยหรอลงทุกที สุดท้ายเธอจึงตัดสินใจโทรไปหาหนูนา หนูนาแนะนำให้พิมพ์ลภัสไปทำงานกับรจนา (พรรษชล สุปรีย์) ซึ่งกำลังหาครูสอนพิเศษภาษาอังกฤษให้ลูกสาว กับลูกชายเล็กๆ ที่บ้าน
พิมพ์ลภัส ถึงแม้จะเรียนไม่จบปริญญา แต่ก็มีทักษะด้านภาษาอังกฤษที่ดีมาก ด้วยเพราะเป็นนักเรียนนอก รจนาดูจะดีใจ และเอ็นดูพิมพ์ลภัสเป็นพิเศษ ขณะเดียวกันพิมพ์ลภัสก็รู้สึกว่าหน้าของรจนาคุ้นๆ หลังจากสนิทสนมกันพอสมควร จนกระทั่งพิมพ์ลภัสเล่าเรื่องความรักอกหักของเธอ ให้รจนาฟัง ซึ่งพิมพ์ลภัสหารู้ไม่ว่ารจนาเป็นพี่สาวคนรองของรเมศ เมื่อรจนารู้ความจริง เธอจึงแน่ใจว่าพิมพ์ลภัสก็รักน้องชายของเธอ เธอดีใจมาก จึงรีบวางแผนนัดรเมศให้มาพบกับพิมพ์ลภัสที่บ้านของตน
พิมพ์ลภัสตกใจมากที่ได้พบรเมศที่บ้านของรจนา รเมศเล่าความจริงว่ารจนาเป็นพี่สาวของตน และเล่าเรื่องของหนูนากับนายสิงห์ให้พิมพ์ลภัสฟัง ทำให้ทั้งสองเข้าใจกันในที่สุด และเปิดเผยความรู้สึกดีๆ ที่มีต่อกัน ด้วยความที่โลกกลมและสังคมเศรษฐีไฮโซมักจะรู้จักกัน รเมศได้รับคำเชิญให้ไปงานแต่งงานของยศพล และว่าที่เจ้าสาวลูกเจ้าของร้านเพชรชื่อดัง แต่พิมพ์ลภัสกลับปฏิเสธที่จะไปออกงานกับรเมศ เพราะไม่ต้องการไปหักหน้าหรือป่าวประกาศให้ใครรู้ และอยากอยู่อย่างสงบหลังจากที่เจอมรสุมชีวิตมามากมาย รเมศได้รู้มาว่ากิจการร้านเพชรของบ้านเจ้าสาวกำลังแย่ และต่างฝ่ายต่างจ้องที่จะแต่งงานกันเพื่อหวังผลประโยชน์ ซึ่งฝ่ายหญิงก็หารู้ไม่ว่าตระกูลเก่าของยศพลก็มีแต่เปลือกเช่นกัน
ส่วนมาธวีก็ถูกกรรมตามสนอง เพราะเมื่อรจนารู้ถึงความชั่วร้ายของมาธวี ที่กลั่นแกล้งพิมพ์ลภัสจนหมดอนาคต รจนากลัวว่ามาธวีจะกลั่นแกล้งพิมพ์ลภัสไม่เลิก เธอจึงส่งทั้งรูป และคำขอโทษของมาธวี เมื่อครั้งถูกจับได้ว่า มาธวีหลอกพิมพ์ลภัสไปให้เสี่ยสมานปล้ำ และการที่มาธวีโกหกสังคม ปอกลอกตรัยพ่อของพิมพ์ลภัสจนมีอันเป็นไป ลงประกาศในหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ เมื่อความจริงเปิดเผย จึงไม่มีใครในวงการคบหาสมาคมกับมาธวีอีก และทำให้กิจการเจ๊งไปในที่สุด
เมื่อเรื่องเลวร้ายทุกอย่างสิ้นสุดลง พิมพ์ลภัสได้รับการยอมรับจากสังคม และกลับมารับงานนางแบบเช่นเดิม ทั้งรเมศและพิมพ์ลภัสกลายเป็นคู่รักที่ใครๆ อิจฉา พิมพ์ลภัสรู้สึกมีความสุขเสียจนอยากจะบิน แต่คงไม่ไปไหนไกลหรอก เพราะเธอ ติดบ่วงของคนข้างตัวเข้าอีกแล้ว และกับบ่วงนี้ เธอยินดีและเต็มใจที่จะผูกพันตัวเองไว้ชั่วนิรันดร์
พิมพ์ลภัสเป็นคนเจ้าอารมณ์ และเอาแต่ใจตัวเอง แต่เนื่องจากพิมพ์ลภัสเป็นคนที่สวยสมบูรณ์แบบ จนใครเห็นต้องเหลียวหลัง จึงทำให้นิตยสารชื่อดังมากมายชวนเธอไปถ่ายแบบ และเดินแบบ จนในที่สุดเธอก็ยึดอาชีพนางแบบเป็นอาชีพหลัก แต่ด้วยความที่เธอเป็นลูกคนรวย และเอาแต่ใจตัวเอง พิมพ์ลภัสจึงไม่ตั้งใจทำงาน ไม่ตรงต่อเวลา และวีนเหวี่ยงใส่ทีมงาน จนใครๆ ก็รู้ถึงกิตติศัพท์ของเธอ
แล้ววันหนึ่งเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นกับชีวิตของเธอ ตรัยกินยาตายเพื่อหนีหนี้ ความตายของพ่อ ทำให้ชีวิตของพิมพ์ลภัสต้องพลิกผันจากหน้ามือเป็นหลังมือ ชีวิตหรูหรา คฤหาสน์ รถสปอร์ต ทรัพย์สินเงินทองหายวับไปกับตา เหลือไว้แค่รถบีเอ็มดับบลิวเก่าๆ หนึ่งคัน เงินอีกนิดหน่อย และเข็มกลัดหงส์เพชรที่ตรัยมักเปรียบเปรยลูกสาวสุดที่รักว่าเป็นเหมือนนางหงส์แสนสวย
แม้ตรัยจะไม่ค่อยเหลือสมบัติอะไรให้ลูกสาวแท้ของตน แต่คนที่ได้เงินทองจากตรัยไปมากที่สุดกลับเป็นมาธวี (น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์) แม่เลี้ยงของพิมพ์ลภัส อดีตนางแบบตกอับที่พ่อของเธอรับมาชุบเลี้ยงออกหน้าออกตา มาธวีแก่กว่าพิมพ์ลภัสเพียงไม่กี่ปี ยังไม่ทันสิ้นงานศพของพ่อ พิมพ์ลภัสก็ถูกยึดบ้าน รถหรู ยึดทรัพย์สมบัติทุกสิ่ง ทำให้เธอต้องมาเช่าคอนโดอยู่ แถมยังถูกยศพล (เมธัส ตรีรัตนวารีสิน) คู่หมั้น ลูกผู้ดีจากตระกูลเก่า ถอนหมั้นกะทันหัน
ตรงกันข้ามกับมาธวีที่ได้เสวยสุข เพราะชิงหย่ากับตรัยก่อนหน้านี้ และเรียกร้องค่าเลี้ยงดูอย่างมหาศาล แถมถีบตัวขึ้นมาจนมีชื่อเสียงในสังคม ด้วยการเปิดห้องเสื้อมาธวี รับตัดเสื้อให้ไฮโซ คุณหญิงคุณนาย มาธวีมีคนสนิท 2 คน คือ กะเทยปากร้ายชื่อ อิศราวดี หรือ หนูดี (วสันต์ อุตตมะโยธิน) และหญิงแท้ชื่อ เป็ด (ปิยะ เศวตพิกุล) ทั้งสองเป็นเหมือนคอหอยกับลูกกระเดือกของเจ้านาย
ถึงแม้ชีวิตจะตกต่ำลง แต่พิมพ์ลภัสก็ยังมีนิสัยเสียชนิดที่แก้ไม่หาย งานเดินแบบที่เคยทำจึงค่อยๆ หดหายไป ไม่มีใครอยากจ้าง เพราะถึงแม้จะสวยจัดอย่างไร แต่ทุกคนต่างเอือมระอากับการผิดนัด โทษโน่นโทษนี่ของเธอโดยไม่เคยมองข้อเสียของตัวเองเลย ถึงกระนั้นพิมพ์ลภัสก็ยังหยิ่งไม่ง้อใคร ยิ่งนานวันทรัพย์สินเงินทองก็ร่อยหรอลงทุกที หากแต่มีสิ่งเดียวที่เธอไม่ยอมขายกินซึ่งก็คือ เข็มกลัดประดับเพชรรูปหงส์ที่เตรียมจะโผบินขึ้นฟ้า เข็มกลัดนี้พ่อได้มอบให้เป็นของขวัญครั้งพิมพ์ลภัสย่างเข้าอายุ 15
เจ้าของคอนโดที่พิมพ์ลภัสเช่าอยู่ชื่อ กิตติชัย (กรุณพล เทียนสุวรรณ) ทั้งกิตติชัยและอรอุษา (นฤมล พงษ์สุภาพ) อดีตดาราเก่า ผู้เป็นภรรยา ต่างมีนิสัยเจ้าเล่ห์ และมีประวัติที่ไม่ค่อยจะสู้ดี ทั้งสองเฝ้าสังเกตพิมพ์ลภัสมาตลอด จนกระทั่งเห็นว่าเธอกำลังจนตรอก จึงเสนองานที่มีค่าตอบแทนสูง พร้อมทั้งค่าตอบแทน คือการได้พักคอนในคอนโดหรูแห่งนี้ฟรี เป็นเวลา 1 ปี ซึ่งงานนั่นคือการไปขโมย และทำลายเทปลับกับจดหมาย ที่เกี่ยวข้องกับอรอุษาจาก รเมศ (จิรายุ ตั้งศรีสุข) เจ้าของโรงแรมเชียงรายจารวี สองสามีภรรยาสร้างเรื่องว่า อรอุษาหลงผิดไปมีความสัมพันธ์ กับรเมศอย่างลับๆ
รเมศได้อัดเทป และเก็บจดหมายรัก ซึ่งอรอุษาเขียนติดต่อไป ไว้เพื่อใส่ร้ายคนทั้งสอง เพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจการซื้อขายที่ดิน ครั้งแรกพิมพ์ลภัสก็ไม่ยอมทำ แต่อรอุษามาร้องไห้วิงวอนร้องขอให้พิมพ์ลภัสเห็นใจหัวอกลูกผู้หญิงด้วยกัน ซึ่งพิมพ์ลภัสก็ยังลังเล จนกระทั่งได้อ่านข่าวสังคมว่ามาธวีกำลังจะไปจัดแฟชั่นโชว์ที่โรงแรมเชียงรายจารวี เธอจึงตัดสินใจรับงาน เพราะเชื่อมั่นว่ารเมศต้องเป็นคนเลวแน่ จึงสามารถคบหากับมาธวีได้ พิมพ์ลภัสเดินทางมาถึงโรงแรมเชียงรายจารวี โดยกิตติชัยอ้างว่าจะรับรองความปลอดภัยหากรเมศจับได้ อีกทั้งยังสัญญาว่าจะออกค่าใช้จ่ายทุกอย่าง ระหว่างที่พักอยู่โรงแรมนั้นด้วย
รเมศเป็นหนุ่มหล่อ หน้าสวยสำอาง ที่ประสบความสำเร็จทางธุรกิจตั้งแต่ยังหนุ่ม เพราะมีที่บ้านช่วยปูพื้นมาให้ เขามีเพื่อนรักคือสีหนาท หรือที่ลูกน้องเรียกว่า นายสิงห์ เป็นหุ้นส่วนในทุกธุรกิจอยู่ครึ่งหนึ่ง ทั้งธุรกิจโรงแรมและไร่ แต่นายสิงห์มักจะชอบอยู่ดูแลไร่มากกว่าที่จะออกมาดูงานในโรงแรม ทำให้หลายๆ คนจึงไม่รู้ว่า โรงแรมนี้ยังมีเจ้าของอีกคนคือนายสิงห์
สีหนาทมีคู่หมั้นชื่อนารา หรือ หนูนา (นิษฐา จิรยั่งยืน) หลานสาวคนเดียวของนายธนาคารใหญ่ มหาเศรษฐีที่มีหน้ามีตาในวงสังคม เธอกำลังจะจบโท และจะบินกลับมาแต่งงานกับนายสิงห์ในไม่ช้า ทั้งคู่รักกันมาก เพราะเคยผ่านเรื่องราวต่างๆ มาด้วยกันมากมาย ซึ่งพ่อแท้ๆ ของหนูนา คือ น้าราม มือขวาของนายสิงห์ ซึ่งเมื่อเลิกรากับแม่ของหนูนาไปแล้ว ก็มาได้ภรรยาสาวเป็นน้องสาวของนายสิงห์ชื่อ ขนิษฐา (เดียร์น่า ฟลีโป) หรือที่รเมศมักเรียกว่า คุณน้อง ซึ่งเธอก็เป็นอีกคนที่รเมศวางใจ ให้มาช่วยแบ่งเบาภาระงานต่างๆ ในโรงแรม
ที่เชียงรายจารวี พิมพ์ลภัสกลายเป็นจุดสนใจของทุกคนรวมทั้งรเมศ ด้วยความที่เป็นคนสวยมาก รเมศจึงเข้ามาทำความรู้จัก ซึ่งเธอก็ให้ความสนิทสนมตามแผนทันที รเมศดูจะหลงรักพิมพ์ลภัสขึ้นทุกวัน ทั้งยังบอกว่าจะให้เธอเดินแบบกับห้องเสื้อมาธวีด้วย เขาตามใจเธอ และเอาอกเอาใจทุกอย่าง ความที่พิมพ์ลภัสเอาแต่ใจตัว เย่อหยิ่ง ดูถูกคนอื่น ทำให้เธอสร้างศัตรูในโรงแรมไว้หลายคน โดยเฉพาะกับบรรดาพนักงานต้อนรับ และพนักงานเสริ์ฟ
รเมศพาพิมพ์ลภัสเที่ยวดูงานในโรงแรม และพาไปท่องเที่ยวที่สถานที่ต่างๆ ในเชียงราย รเมศเป็นคนที่เชื่อในสัญชาตญาณแรก และปิ๊งพิมพ์ลภัสตั้งแต่แรกเห็น เขาทุ่มเทใจให้เธอมากมาย ในขณะที่พิมพ์ลภัสกลับจ้องแต่จะหาจังหวะขโมยเทป และจดหมายอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่เพราะเธอไม่ใช่มืออาชีพ พิมพ์ลภัสจึงเผลอทำพิรุธให้รเมศสงสัย และเผลอใช้โทรศัพท์ในห้องของโรงแรมโทรหากิตติชัย
แม้รเมศจะภาวนาขออย่าให้สิ่งที่เขาสังหรณ์เป็นความจริง แต่ในที่สุดรเมศก็จับได้คาหนังคาเขา ขณะที่พิมพ์ลภัสเข้ามาขโมยเทปกับจดหมายจากตู้เซฟในห้องทำงานของตน พิมพ์ลภัสตกใจมากที่ถูกจับได้ แต่ก็ไม่วายเถียงว่ารเมศเป็นคนไม่ดี เป็นชู้กับเมียคนอื่นแถมยังเก็บหลักฐานไว้หักหลัง รเมศจึงเปิดเทปให้เธอได้ฟังความจริง และยังให้อ่านจดหมาย เพื่อให้รู้ถึงความเลวของกิตติชัย ที่เอาชื่อของคนใหญ่คนโตไปแอบอ้าง ข่มขู่ชาวบ้านเพื่อบีบบังคับให้พวกชาวบ้านขายที่ดินให้กับตน
เมื่อพิมพ์ลภัสรู้ความจริง ก็รู้สึกอับอายมาก แต่ก็ยังไม่มากเท่ากับความเสียใจที่รเมศมาหมางเมินกับเธอ อย่างไรก็ตามพิมพ์ลภัสก็คือพิมพ์ลภัส ที่โทษคนอื่นมากกว่าตัวเอง เธอโทรบอกกิตติชัยให้ส่งเงินมาจ่ายค่าที่พัก และค่าใช้จ่ายในโรงแรม แต่กิตติชัยไม่ยอม โดยอ้างว่าเธอทำงานไม่สำเร็จ ทำให้เธอทั้งร้อนใจและตกใจมาก
สำหรับรเมศ เขาทั้งผิดหวังและเสียใจที่มองพิมพ์ลภัสผิดไป รเมศรักพิมพ์ลภัสเข้าจริงๆ เขาจึงรู้สึกเหมือนถูกหลอก ถูกทรยศ ดังนั้นเมื่อพิมพ์ลภัสไม่มีเงินจ่ายค่าโรงแรม เขาจึงให้เธอทำงานชดใช้ โดยให้เป็นพนักงานเสิร์ฟ และขู่ว่าถ้าพิมพ์ลภัสไม่ยอม จะพาเธอไปส่งตำรวจ ทีแรกพิมพ์ลภัสจะขายเข็มกลัดหงส์เพื่อเอาเงินมาใช้หนี้ แต่ด้วยความเสียดาย และหวงแหนสมบัติชิ้นสุดท้ายที่ประหนึ่งเป็นตัวแทนของพ่อผู้ล่วงลับ เธอจึงตัดสินใจรับงาน
พิมพ์ลภัสต้องแต่งเครื่องแบบพนักงานเสริ์ฟ ซึ่งเป็นชุดพื้นเมืองที่เธอเคยดูถูก ต้องย้ายออกจากห้องพักหรูหรามาอยู่ห้องพักของพนักงาน ซึ่งต้องอยู่ร่วมกันห้องละสองคน ที่ทั้งแคบและไม่มีแอร์ ซ้ำร้ายเพื่อนร่วมห้องของเธอก็คือ กานดา (กัญญ์กุลณัช ปัญญากิตตินันท์) พนักงานเสิร์ฟที่เธอเคยวีนใส่
นับจากนั้นพิมพ์ลภัสก็มีสภาพไม่ต่างอะไรกับนางหงส์ปีกหัก เธอเห็นทุกคนเป็นศัตรูไปหมด งานหลายๆ อย่างในชีวิตที่ไม่เคยทำก็ต้องทำโดยเฉพาะงานบริการ แต่เธอก็ยังเอาตัวรอดได้ และยังสามารถทุ่นแรงการซักผ้า ทำความสะอาดห้องพักของตน ด้วยการยกเสื้อผ้ารองเท้าแบรนด์เนมที่เธอใช้แล้วให้กานดา แลกกับค่าเหนื่อย
ตลอดเวลาที่พิมพ์ลภัสทำงานอยู่ที่ห้องอาหารจารวี รเมศเฝ้าจับตาดูอยู่ด้วยความสะใจ แต่บางครั้งก็อดใจอ่อนไม่ได้ ฤทธิ์เดชของพิมพ์ลภัสเป็นที่เลื่องลือไปทั่ว เธอมีเรื่องกับทุกคนไม่ว่าจะเป็นเพื่อนพนักงานเสริ์ฟด้วยกัน ลูกค้า หรือแม้กระทั่งพัชรี (วราพรรณ หงุ่ยตระกูล) ผู้จัดการของห้องอาหาร ความเย่อหยิ่ง และเอาแต่ใจตัวทำให้ทุกคนไม่ชอบพิมพ์ลภัส หลายๆ คนถึงกับนินทา บ้างก็เยาะเย้ยซึ่งๆ หน้า
ด้วยความที่พิมพ์ลภัสเป็นคนหยิ่งทนงไม่ยอมแพ้ และมีเลือดนักสู้ เธอจึงค่อยๆ ปรับตัว และก้มหน้าก้มตาตั้งใจทำงานเพื่อเงิน และพยายามสะสมเงินเพื่อไถ่ตัวเองสู่ความเป็นอิสระ ด้วยพื้นฐาน และต้นทุนชีวิตที่ดีกว่าพนักงานเสิร์ฟคนอื่นๆ และความดีในจิตใจที่ยังมีอยู่พอควร เมื่อจินตนา (สาธิดา ปิ่นสินชัย) เพื่อนร่วมงานซึ่งมีปมในชีวิตเรื่องแม่เลี้ยงลูกเลี้ยงเหมือนกับเธอ โดนลวนลามจากลูกค้าฝรั่งบ้ากาม พิมพ์ลภัสจึงออกไปไล่ตะเพิดและปกป้องทุกคนจากฝรั่งบ้ากามคนนั้น ทำให้ความรู้สึกของเพื่อนร่วมงานที่มีกับพิมพ์ลภัส ค่อยๆ ดีขึ้น
มิตรภาพระหว่างเธอและเพื่อนร่วมงาน โดยเฉพาะกับกานดาและจินตนาก็ยิ่งทวีความแน่นแฟ้น จนเรียกได้ว่าทั้งคู่กลายมาเป็นทั้งองค์รักษ์ และเพื่อนสนิทของเธอในที่สุด การได้ทำงานร่วมทุกข์ร่วมสุขกันนานวันเข้า ประกอบกับความไม่สะดวกสบายทั้งหลายแหล่ ทำให้พิมพ์ลภัสเริ่มเห็นสัจธรรมของชีวิต และพยายามทำใจยอมรับถึงแม้จะไม่ทั้งหมดก็ตาม
และแล้ววันงานแฟชั่นโชว์การกุศลก็มาถึง เมื่อมาธวีได้เห็นสภาพของพิมพ์ลภัสกับตาตัวเอง เธอรู้สึกสะใจที่ได้เห็นลูกเลี้ยงตกต่ำ และไม่รีรอที่จะเยาะเย้ยซ้ำเติม ซึ่งขณะเดียวกันมาธวีก็พยายามที่จะจับรเมศให้ได้ จนสุดท้ายหนูดี และเป็ด ลูกน้องของมาธวีก็สืบรู้ว่าสาเหตุที่พิมพ์ลภัสต้องกลายมาเป็นเด็กเสิร์ฟ ก็เพราะไม่มีเงินจ่ายค่าห้อง มาธวีจึงคิดไปว่าพิมพ์ลภัสคงจะมีแผนการที่จะมาจับคนรวยอย่างรเมศเช่นกัน
แต่ด้วยความช่างสังเกต เธอจึงพอจะรู้ได้ว่ารเมศก็มีใจให้พิมพ์ลภัส เธอจึงคอยสร้างเรื่องให้ทั้งสองเข้าใจผิดกัน แถมยังแกล้งใส่ร้ายพิมพ์ลภัสให้ต้องกล้ำกลืนฝืนทน ในที่สุดมาธวีก็คิดจะกันพิมพ์นภัสให้ห่างจากรเมศโดยเด็ดขาด เธอจึงโทรศัพท์ติดต่อเสี่ยสมาน (ประกาศิต โบสุวรรณ) ให้ได้มาเจอกับพิมพ์ลภัสที่โรงแรมเชียงรายจารวี
เสี่ยสมานซี่งหลงรักพิมพ์ลภัสมานาน และอยากที่จะรับเลี้ยงดูพิมพ์ลภัส เสี่ยดีใจมากจึงรีบหนีเมียขึ้นมาเชียงรายเพื่อมาเจรจากับพิมพ์ลภัส และยื่นข้อเสนอจะเลี้ยงดูพิมพ์ลภัสอย่างดี แต่ก็โดนพิมพ์ลภัสตอกหน้ากลับอย่างไม่เกรงใจ เสี่ยรู้สึกท้อและถอดใจ แต่มาธวีจึงให้กำลังใจ และบอกแผนการณ์ที่จะทำให้พิมพ์ลภัสยอมตกเป็นของเสี่ย ถึงแม้เสี่ยจะยังลังเล กลัวว่าพิมพ์ลภัสจะไปบอกเมียของเขา แต่ความต้องการอยากได้นางหงส์แสนสวยมาครอบครอง เสี่ยจึงยอมทำตามแผน โดยเข้าไปดักรอพิมพ์ลภัสในห้องมาธวี
มาธวีวางแผนแต่งเรื่องบอกรเมศว่าเธออยากจะใช้เงินแทนพิมพ์ลภัส เพื่อเห็นแก่สายสัมพันธ์ที่เคยเป็นแม่เลี้ยงลูกเลี้ยงกันมา แต่ก็กลัวพิมพ์ลภัสจะไม่ยอมรับ ดังนั้นเธอจึงขอร้องให้รเมศช่วยเป็นคนนัดให้พิมพ์ลภัสมาพบเธอบนห้อง เพื่อจะได้ปรับความเข้าใจกัน เธออ้างว่าถ้าเธอเป็นคนนัด พิมพ์ลภัสคงไม่ยอมขึ้นมา รเมศหลงเชื่อจึงสั่งให้คนไปบอกพิมพ์ลภัสว่าให้ขึ้นไปพบเขาที่ห้องพักบนโรงแรม ซึ่งจะมีมาธวีรออยู่เพื่อที่จะปรับความเข้าใจ
เมื่อพิมพ์ลภัสขึ้นไป กลับพบเสี่ยสมานรอที่จะปลุกปล้ำเธออยู่ในมุมมืด ทุกอย่างเข้าแผนการณ์ของมาธวี แต่โชคดีของพิมพ์ลภัส ที่เสี่ยสมานทำไม่สำเร็จ พิมพ์ลภัสเอาตัวรอดด้วยการเอาโทรศัพท์ฟาดหัวเสี่ย และวิ่งหนีออกมาจนผมเผ้าหลุดกระเซิง จนไม่มีใครสังเกตได้ว่าดอกกล้วยไม้ ที่ประดับอยู่บนผมของเธอหลุดร่วงอยู่ในที่เกิดเหตุ พิมพ์ลภัสเจ็บใจ และแค้นใจมาก ด้วยนึกว่ารเมศหลอกเธอมาให้เสี่ยสมาน จึงไปตัดพ้อต่อว่าด้วยถ้อยคำรุนแรง
รเมศตกใจ เพราะไม่รู้ถึงแผนชั่วของมาธวี เมื่อรเมศขึ้นไปเอาเรื่องมาธวีถึงที่ห้อง เธอก็ได้แต่ร้องห่มร้องไห้ปฏิเสธ และแก้ตัวจนรเมศเกือบที่จะเชื่อ แต่โชคดีที่รเมศได้พบหลักฐานชิ้นสำคัญ คือดอกกล้วยไม้จากผมพิมพ์ลภัสที่ร่วงอยู่ โทรศัพท์ที่พัง และสายหลุด จากการใช้เป็นอุปกรณ์ป้องกันตัวของพิมพ์ลภัส รเมศไล่มาธวีออกจากโรงแรมทันที
มาธวีจำนนต่อหลักฐาน ได้แต่พยายามอ้อนวอน รเมศโกรธมาก ไม่ยอมเห็นใจ และบอกให้มาธวีไปขอโทษพิมพ์ลภัส ซ้ำยังให้เธอกราบขอโทษพิมพ์ลภัสด้วย ส่วนพิมพ์ลภัสก็ได้ถ่ายรูปภาพประวัติศาสตร์นั้น เก็บไว้ดูด้วยความสะใจ รเมศหวังว่าจะทำความเข้าใจกับพิมพ์ลภัสได้ เพราะหลังจากมีเรื่อง เขาได้ขอโทษเธอ และยอมรับผิดทุกอย่าง มาธวีโกรธแค้นด่าว่ารเมศ แต่ก่อนไปเธอได้คายพิษครั้งสุดท้าย เพื่อต้องการที่จะให้พิมพ์ลภัสเจ็บช้ำ เธอบอกกับพิมพ์ลภัสว่ารเมศมีคู่หมั้นแล้วชื่อ นารา หรือหนูนา ซึ่งพิมพ์ลภัสก็เคยเห็นความสนิทสนมของคนทั้งสองอยู่บ่อยๆ ทำให้พิมพ์ลภัสปักใจเชื่อ และเสียใจมาก
ส่วนรเมศนั้น ก่อนที่จะไล่เสี่ยสมานออกไป ได้เรียกค่าทำขวัญไว้ให้พิมพ์ลภัส เสี่ยจำใจให้เพราะกลัวเรื่องจะอื้อฉาวทำให้ครอบครัวเสื่อมเสีย และถูกเมียเอาเรื่อง เงินจำนวนนั้นมากพอสมควร แต่รเมศไม่ได้ให้พิมพ์ลภัสในทันที เพราะเกรงว่าเธอจะมีเงินใช้หนี้ และหนีเขากลับกรุงเทพฯ ไป
ถึงแม้นางหงส์อย่างพิมพ์ลภัสจะอยากเป็นอิสระจากการทำงานที่เชียงรายจารวี แต่จริงๆ แล้วหัวใจของเธอได้ติดบ่วงนายพรานอย่างรเมศเข้าแล้ว เธอเสียใจมากกับเรื่องราวที่ได้ยินจากมาธวี เธอตัดสินใจที่จะไปจากเชียงรายจารวีโดยเร็วที่สุด และไปให้พ้นจากรเมศ พิมพ์ลภัสปลงได้ว่าจริงๆ แล้วตอนนี้เธอไม่ใช่นางหงส์แสนสวยอีกต่อไป สัญลักษณ์ราคาแพงที่ปักอยู่บนอกเสื้อ แสดงความเป็นตัวตนของเธอจึงไร้ความหมาย
เธอยอมตัดใจขายเข็มกลัดหงส์เพชร ถึงแม้จะเสียดายใจแทบขาด แต่เพื่อจะได้พ้นจากโรงแรมแห่งนี้ พ้นจากผู้ชายหลอกลวง เพราะเธอเข้าใจว่ารเมศมีคู่หมั้นแล้ว แต่ก็ยังมาหลอกเธอด้วยการทำท่าทีเหมือนมีใจด้วย ก่อนไปพิมพ์ลภัสได้มอบของที่ระลึกให้เพื่อนๆ พนักงานเสิร์ฟ เธอมอบชุดกระโปรงตัวโปรดให้กับกานดา และเงินจำนวนหนึ่งให้จินตนาได้ไปลงเรียนต่อ เพื่อสานต่อความฝัน เพราะทุกคนต่างได้ให้บทเรียนอันมีค่ากับเธอ ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังได้ค้นพบความจริงใจ และคำว่าเพื่อนที่พวกเขาเหล่านั้นมีให้กับเธอ
เมื่อพิมพ์ลภัสเอาเงินมาใช้หนี้ รเมศรู้สึกใจหาย แต่ในเมื่อเธอยืนยันจะไปก็ไม่สามารถขัดขวางได้ รเมศยังได้มอบเงินค่าทำขวัญของเสี่ยสมานให้เธอด้วย ทำให้พิมพ์ลภัสยิ่งโกรธมาก เพราะเข้าใจผิดว่าเขาเก็บเงินจำนวนนั้นไว้ ไม่ยอมบอกเธอ ตั้งใจจะแกล้งกักตัวเธอไว้ให้ทำงานต่อ หลังจากพิมพ์ลภัสจากไปแล้ว รเมศเสียใจมากจนซึมเศร้าไม่เป็นอันทำงาน จนทุกคนเป็นห่วง
เมื่อพิมพ์ลภัสมาถึงกรุงเทพฯ เธอได้รับบทเรียนเรื่องการมีชีวิตพอเพียงจากการใช้ชีวิตที่เชียงรายจารวี เธอจึงไปเช่าอพาร์ตเมนท์เล็กๆ ขายข้าวของแบรนด์เนม เนื่องจากมันไม่มีความสำคัญกับชีวิตของเธออีกต่อไป และใช้ชีวิตกินอยู่อย่างประหยัด ติดดิน หลังจากนั้นก็เริ่มต้นชีวิตใหม่อย่างไม่ท้อถอย ถึงแม้ในใจก็ยังคงรู้สึกเสียใจกับเรื่องที่ผ่านมา และยังคิดถึงรเมศอยู่
เธอเริ่มต้นด้วยการพยายามออกหางานเดินแบบ ติดต่อทุกตัวแทนบริษัทที่เคยร่วมงานด้วย แต่ทุกแห่งก็ปฏิเสธหมด เพราะมาธวีใช้อิทธิพล และความสนิทสนมส่วนตัวกับบรรดาตัวแทน พูดให้ร้ายพิมพ์ลภัส และบอกให้ทุกที่ปฏิเสธเธอ ซึ่งพิมพ์ลภัสเองก็รู้ตัว เพราะเข้าใจว่าการที่ทุกคนปฏิเสธเธอ เป็นเพราะยามที่เคยรุ่งเรืองเธอทั้งเบี้ยวงาน เหวี่ยงวีน และไปสายมากๆ เป็นประจำ ในที่สุดเธอจึงตัดใจ และตั้งใจหางานอื่นทำ แต่มันก็ยากเต็มที เพราะพิมพ์ลภัสเรียนไม่จบที่ไหนสักแห่ง หรือถ้าที่ไหนรับ เธอก็จะได้เจอกับเจ้านายหัวงู มาลวนลามเธอ เป็นอันให้เธอต้องลาออก และตกงาน
ความทุกข์ยากหลายเดือนที่ผ่านมาสอนให้พิมพ์ลภัสไม่ท้อ เธอจึงลองเอาความสามารถด้านอื่นๆ ของเธอไปแลกกับเงิน ซึ่งนั่นก็คือการสอนภาษา เพราะเมื่อสมัยที่เธอยังเรียนอยู่เมืองนอก เธอได้เรียนคอร์สสั้นๆ ตามประเทศในยุโรปหลายประเทศ และอยู่ที่นั่นประเทศละหลายปี ทำให้เธอพูดได้ถึง 3 ภาษา และมีทักษะทางภาษาที่ดี ทั้งการพูดการเขียน แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่มีสถาบันสอนภาษาที่ไหนรับเธอ เพราะด้วยกฎระเบียบ ที่ต้องใช้วุฒิการศึกษาในการสมัคร
จนกระทั่งวันหนึ่งพิมพ์ลภัสได้พบกับหนูนาโดยบังเอิญ ซึ่งหนูนาก็มากับนายสิงห์คู่หมั้น และเป็นหุ้นส่วนของรเมศ แต่พิมพ์ลภัสก็ยังไม่รุ้ และเข้าใจผิดอยู่เหมือนเดิม หนูนาพยายามจะให้ความช่วยเหลือ แต่พิมพ์ลภัสปฏิเสธ หนูนาจึงให้เบอร์โทรศัพท์ติดต่อไว้ พิมพ์ลภัสไม่สามารถหางานได้ เงินก็ร่อยหรอลงทุกที สุดท้ายเธอจึงตัดสินใจโทรไปหาหนูนา หนูนาแนะนำให้พิมพ์ลภัสไปทำงานกับรจนา (พรรษชล สุปรีย์) ซึ่งกำลังหาครูสอนพิเศษภาษาอังกฤษให้ลูกสาว กับลูกชายเล็กๆ ที่บ้าน
พิมพ์ลภัส ถึงแม้จะเรียนไม่จบปริญญา แต่ก็มีทักษะด้านภาษาอังกฤษที่ดีมาก ด้วยเพราะเป็นนักเรียนนอก รจนาดูจะดีใจ และเอ็นดูพิมพ์ลภัสเป็นพิเศษ ขณะเดียวกันพิมพ์ลภัสก็รู้สึกว่าหน้าของรจนาคุ้นๆ หลังจากสนิทสนมกันพอสมควร จนกระทั่งพิมพ์ลภัสเล่าเรื่องความรักอกหักของเธอ ให้รจนาฟัง ซึ่งพิมพ์ลภัสหารู้ไม่ว่ารจนาเป็นพี่สาวคนรองของรเมศ เมื่อรจนารู้ความจริง เธอจึงแน่ใจว่าพิมพ์ลภัสก็รักน้องชายของเธอ เธอดีใจมาก จึงรีบวางแผนนัดรเมศให้มาพบกับพิมพ์ลภัสที่บ้านของตน
พิมพ์ลภัสตกใจมากที่ได้พบรเมศที่บ้านของรจนา รเมศเล่าความจริงว่ารจนาเป็นพี่สาวของตน และเล่าเรื่องของหนูนากับนายสิงห์ให้พิมพ์ลภัสฟัง ทำให้ทั้งสองเข้าใจกันในที่สุด และเปิดเผยความรู้สึกดีๆ ที่มีต่อกัน ด้วยความที่โลกกลมและสังคมเศรษฐีไฮโซมักจะรู้จักกัน รเมศได้รับคำเชิญให้ไปงานแต่งงานของยศพล และว่าที่เจ้าสาวลูกเจ้าของร้านเพชรชื่อดัง แต่พิมพ์ลภัสกลับปฏิเสธที่จะไปออกงานกับรเมศ เพราะไม่ต้องการไปหักหน้าหรือป่าวประกาศให้ใครรู้ และอยากอยู่อย่างสงบหลังจากที่เจอมรสุมชีวิตมามากมาย รเมศได้รู้มาว่ากิจการร้านเพชรของบ้านเจ้าสาวกำลังแย่ และต่างฝ่ายต่างจ้องที่จะแต่งงานกันเพื่อหวังผลประโยชน์ ซึ่งฝ่ายหญิงก็หารู้ไม่ว่าตระกูลเก่าของยศพลก็มีแต่เปลือกเช่นกัน
ส่วนมาธวีก็ถูกกรรมตามสนอง เพราะเมื่อรจนารู้ถึงความชั่วร้ายของมาธวี ที่กลั่นแกล้งพิมพ์ลภัสจนหมดอนาคต รจนากลัวว่ามาธวีจะกลั่นแกล้งพิมพ์ลภัสไม่เลิก เธอจึงส่งทั้งรูป และคำขอโทษของมาธวี เมื่อครั้งถูกจับได้ว่า มาธวีหลอกพิมพ์ลภัสไปให้เสี่ยสมานปล้ำ และการที่มาธวีโกหกสังคม ปอกลอกตรัยพ่อของพิมพ์ลภัสจนมีอันเป็นไป ลงประกาศในหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ เมื่อความจริงเปิดเผย จึงไม่มีใครในวงการคบหาสมาคมกับมาธวีอีก และทำให้กิจการเจ๊งไปในที่สุด
เมื่อเรื่องเลวร้ายทุกอย่างสิ้นสุดลง พิมพ์ลภัสได้รับการยอมรับจากสังคม และกลับมารับงานนางแบบเช่นเดิม ทั้งรเมศและพิมพ์ลภัสกลายเป็นคู่รักที่ใครๆ อิจฉา พิมพ์ลภัสรู้สึกมีความสุขเสียจนอยากจะบิน แต่คงไม่ไปไหนไกลหรอก เพราะเธอ ติดบ่วงของคนข้างตัวเข้าอีกแล้ว และกับบ่วงนี้ เธอยินดีและเต็มใจที่จะผูกพันตัวเองไว้ชั่วนิรันดร์