ละคร คู่ซ่า รสแซ่บ
ดู 6,614 ครั้ง /
แชร์
ละครออกอากาศ | วันจันทร์ วันอังคาร | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ช่องที่ออกอากาศ | ละครช่อง 7 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เริ่มออกอากาศ | 20 กุมภาพันธ์ 2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เวลาออกอากาศ | 20:30 - 22:30 น. |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
กำกับโดย | เอกภพ ตันหยงมาศกุล | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ประพันธ์โดย | บทประพันธ์ ชยุต รัตนกรี, บทโทรทัศน์ พิง ลำพระเพลิง | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
นำแสดงโดย | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ผู้สร้าง | บริษัท มุมใหม่ จำกัด |
ภาพนิ่งจากละคร
เรื่องย่อ คู่ซ่า รสแซ่บ
หลังจากเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ในรอบสิบปี โรงงานทำปลาร้าแปรรูปแม่ศรีไทยแลนด์ ต้องกลายเป็นโรงงานร้าง เนื่องจากตัวโรงงาน เครื่องจักรในการผลิต ตลอดจนวัตถุดิบอันเป็นส่วนประกอบสำคัญของโรงงานเสียหาย จนไม่อาจนำกลับมาใช้งานได้ หายนะที่เกิดขึ้นครั้งนี้ทำให้เรือนแก้ว (มณีนุช เสมรสุต) ผู้เป็นเจ้าของถึงกับล้มป่วยเข้าโรงพยาบาล เดือดร้อนถึงรสริน (พีชญา วัฒนามนตรี) ลูกสาวคนเดียว ที่ต้องรับภาระในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับโรงงาน รวมทั้งฟื้นฟูสภาพจิตใจมารดา ทั้งที่ความจริงแล้วรสรินเองก็น้ำตาตกในไม่ต่างจากเรือนแก้วเท่าไรนัก โชคดีที่สองแม่ลูกยังมีสายบัว (ศิรินุช เพ็ชรอุไร) พี่สาวคนเดียวของเรือนแก้วคอยเตือนสติให้กำลังใจ กระทั่งเรือนแก้วมีอาการดีขึ้น
หลังออกจากโรงพยาบาล เรือนแก้ว สายบัว และรสริน เริ่มต้นปรึกษาหาทางออกให้กับธุรกิจของครอบครัว ที่เวลานี้แทบมองไม่เห็นหนทางในการฟื้นฟูกิจการให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ เนื่องจากขาดเงินทุนหมุนเวียน รสรินบอกให้แม่ไปยืมเงินจากญาติทางพ่อซึ่งมีฐานะเข้าขั้นเศรษฐี แต่เรือนแก้วรู้อยู่แก่ใจดีว่าญาติของอรรณพ ไม่เคยยอมรับเธอในฐานะสะใภ้ และหลังจากอรรณพจบชีวิตลงด้วยโรคร้าย สองแม่ลูกจึงกลายเป็นคนอื่น แม้แต่นามสกุล เรือนแก้วกับลูกสาวยังต้องเปลี่ยนมาใช้นามสกุล เนินสูงชัน ตามเดิม
เรือนแก้วนึกได้ว่าอรรณพมีเพื่อนรักอยู่คนหนึ่งชื่อ ศักดิ์สกุล (ทูน หิรัญทรัพย์) ประสบความสำเร็จร่ำรวยจากการทำธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ เขาได้ให้นามบัตรไว้กับเรือนแก้วพร้อมกับย้ำว่า หากเธอมีเรื่องเดือดร้อนให้ติดต่อเขาได้ทุกเวลา เรือนแก้วจึงตัดสินใจโทรศัพท์เล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับโรงงานให้ศักดิ์สกุลฟัง พร้อมทั้งเอ่ยปากขอกู้เงินจำนวนหนึ่งเพื่อนำมาปรับปรุงโรงงานและซื้อเครื่องจักร ศักดิ์สกุลรีบเดินทางมาพบเรือนแก้วกับรสริน พร้อมนำเช็คเงินสดสามสิบล้านบาทมามอบให้สองแม่ลูกโดยไม่มีสัญญาเงินกู้ เรือนแก้วกับรสรินจึงลังเลที่จะรับความช่วยเหลือ
เมื่อสองแม่ลูกถามความเห็นของสายบัว ซึ่งเป็นคนมองโลกในแง่ร้ายอยู่แล้ว ก็ได้รับคำตอบว่า ขืนรับความช่วยเหลือครั้งนี้ ดีไม่ดีโรงงานแม่ศรีไทยแลนด์อาจตกเป็นของศักดิ์สกุลในอนาคตก็เป็นได้ เรือนแก้วจำต้องปฏิเสธความช่วยเหลือจากศักดิ์สกุล ศักดิ์สกุลดูเหมือนจะรู้เท่าทันความคิดของสามสาวตระกูลเนินสูงชัน เขาจึงขอคุยกับเรือนแก้วเป็นการส่วนตัว ศักดิ์สกุลจึงเล่าถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างเขากับอรรณพที่ผ่านมาให้เรือนแก้วฟัง ก่อนจะตบท้ายด้วยการเล่าถึงปัญหาที่เกิดขึ้น
ศักดิ์สกุลไม่ต้องการให้กรพงศ์ (ศุกลวัฒน์ คณารศ) ลูกชายคนโตแต่งงานกับ อรอาภา (ธัญกันต์ ธนกิตต์ธนานนท์) ลูกสาวคนเดียวของรัฐมนตรี วีระ (กฤตย์ อัทธเสรี) นอกจากนั้นเขายังต้องการดัดนิสัยเจ้าชู้ เอาแต่ใจของลูกชาย ที่วันๆ ไม่ยอมทำงานทำการ เวลานี้เขามองไม่เห็นใครที่มีความสามารถมากพอที่จะช่วยลูกชายให้รอดพ้นจากเงื้อมือของอรอาภาได้ นอกจากรสรินเพียงคนเดียวเท่านั้น และเขาเชื่อว่าผู้หญิงอย่างรสรินนี่ละที่จะปราบพยศลูกชายได้ ถ้าเรือนแก้วคิดจะตอบแทนความช่วยเหลือของเขา ก็ต้องยอมให้รสรินแต่งงานจดทะเบียนกับกรพงศ์ซึ่งจะทำกันแต่เพียงในนามเท่านั้น
หลังจากเรือนแก้วนำเงินมาใช้คืนรสรินก็จะเป็นอิสระทันที เรือนแก้วจึงเรียกรสรินมาพูดคุยถึงข้อเสนอของศักดิ์สกุล รสรินตอบปฎิเสธทันทีโดยไม่ต้องคิดให้เสียเวลา เรือนแก้วจนใจไม่รู้จะหาเหตุผลใดมาจูงใจลูกสาวให้ร่วมมือกับภารกิจครั้งนี้ สายบัวซึ่งนั่งฟังเรื่องราวตั้งแต่ต้นจนจบจึงเป็นคนชี้หนทางสว่างให้หลานสาว ด้วยการอ้างถึงความเดือดร้อนของคนงานหลายสิบชีวิตที่ต้องตกงาน
หลังจากรับฟังเหตุผลยาวเหยียดจากป้าสายบัว ในที่สุดรสรินจึงตอบตกลงรับข้อเสนอของศักดิ์สกุล ศักดิ์สกุลที่พอรู้ข่าวก็วางแผนปรึกษากับ พิมพ์เพทาย (ณัฐชา นวลแจ่ม) ลูกสาวคนเล็กของเขา ที่ไม่ต้องการให้พี่ชายตกเป็นเหยื่อนางแบบสาวที่สวยแต่รูปอย่างอรอาภา และหลังจากสองพ่อลูกคิดแผนการเพื่อรับมือกรพงศ์กับดวงกมล (เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์) ได้แล้ว ศักดิ์สกุลจึงเริ่มดำเนินการตามแผนทันที
กรพงศ์ถึงกับร้องลั่น เมื่อศักดิ์สกุลบอกเรื่องที่เขาต้องแต่งกับลูกสาวเจ้าของโรงงานทำปลาร้า ไม่ว่าหัวเด็ดตีนขาดยังไง เขาก็ไม่ยอมทำตามคำสั่งของพ่อเป็นอันขาด ศักดิ์สกุลจึงยื่นคำขาดว่า จะยกเลิกบัตรเครดิตทุกใบที่กรพงศ์ครอบครอง รวมทั้งเงินรายเดือน เมื่อได้ฟังคำพูดของบิดาชายหนุ่มถึงกับคอตก สุดท้ายจึงยอมรับข้อเสนอนั้นแต่โดยดี หลังจากนั้นกรพงศ์และอรอาภาได้มาแอบดูหน้าว่าที่เจ้าสาวก่อนที่บ้านเกิดรสริน ก็เกิดตกใจเพราะเข้าใจผิดว่าจิ้งหรีด (ปรัชญานันท์ สุวรรณมณี) ลูกสาวคนงาน คือ รสริน ยิ่งสร้างความไม่พอใจให้กรพงศ์คิดจะล้มงานวิวาห์ให้ได้
ศักดิ์สกุลได้พากรพงศ์มาที่ขอนแก่นอีกครั้ง กรพงศ์จึงแอบหนีออกมาเที่ยวในเมือง ได้มาเจอกับรสรินซึ่งก็เกิดชอบในหน้าตา และนิสัยของหญิงสาว แต่รสรินไม่ยอมบอกความจริงว่าตัวเองเป็นใคร ทำให้กรพงศ์ยิ่งอยากค้นหาและสุดท้ายก็ตกหลุมรักเธอและอยากพาหนีไปอยู่ด้วยกัน ในระหว่างที่ทั้งคู่ไปเที่ยวที่ต่าง ๆ กรพงศ์มักจะพูดจาให้ร้ายว่าที่เจ้าสาวว่าเป็นคนไม่สวย หวังแต่จะเกาะครอบครัวตนกิน ทำให้รสรินคิดแผนดัดหลังจนกว่าจะถึงวันแต่งงาน
งานแต่งงานระหว่างกรพงศ์กับรสรินจึงเกิดขึ้นท่ามกลางความแปลกใจของแขกเหรื่อที่มาร่วมงาน และบรรดาหญิงสาวที่เคยควงคู่กับกรพงศ์มาก่อน มีเพียงอรอาภาคนเดียวเท่านั้นที่รู้ถึงความจำเป็นในการตัดสินใจแต่งงานกะทันหันของชายหนุ่มที่เธอหมายปองในครั้งนี้ เพราะก่อนหน้านั้นดวงกมลยังคงยืนยันว่าต้องการให้เธอเข้ามาเป็นสะใภ้ของศาสตราบุรินทร์เหมือนเดิม อรอาภาจึงขนบรรดาเหล่าเพื่อนนางแบบมาเฉิดฉายในงานแต่งของกรพงศ์กับรสริน และจัดการลักหาตัวจิ้งหรีดที่นึกว่าเป็นรสรินไปทำให้เสียโฉมเพิ่มความอับอายหวังล้มงานวิวาห์ แต่สุดท้ายเมื่อทุกคนมาเห็นรสรินตัวจริง กรพงศ์เกิดอาการตะลึงและโมโหที่ตัวเองโดนหลอก อรอาภารู้สึกเสียหน้าที่เห็นหน้ารสรินที่ทั้งสวย หุ่นดี บุคลิกกลักษณะไม่มีเค้าบ้านนอกอย่างที่เธอวาดไว้
อรอาภาต่อว่ากรพงศ์ที่หลอกเธอเรื่องรสริน เพราะอรอาภารู้ดีว่า ถึงกรพงศ์ไม่เต็มใจแต่งงาน แต่พ่อปลาไหลจอมเจ้าชู้อย่างเขามีหรือจะไม่เนื้อเต้น ที่ได้แต่งงานกับสาวสวยหุ่นดี ถึงจะเป็นทายาทโรงงานปลาร้า กรพงศ์ยังคงยืนยันหนักแน่นว่าเขากับรสรินแต่งงานกันเพียงในนามเท่านั้น แถมยังหยอดคำหวานว่าทันทีที่เขาหย่าขาดกับรสริน เขาจะรีบแต่งงานกับอรอาภากันที ชายหนุ่มทั้งแค้นและอยากเอาคืนรสริน ซึ่งเหตุการณ์ทุกอย่างล้วนตกอยู่ในสายตาของรสรินที่เริ่มเก็บข้อมูลเกี่ยวกับตัวเขา เพื่อจะได้วางแผนรับมือกับการทำหน้าที่ภรรยาพ่อปลาไหล และลูกสะใภ้ตระกูลศาสตราบุรินทร์ในครั้งนี้
ข่าวการแต่งงานของรสรินสร้างความเสียใจให้กับพลวัฒน์ (ธนากร ศรีบรรจง) เพื่อนชายคนสนิทที่แอบหลงรักรสรินมานาน แต่เธอก็ยืนยันว่าเธอรู้สึกกับเขาแค่เพื่อนเท่านั้น และเธอรู้ดีว่านวลพรรณ (วรางคนาง วุฑฒยากร) เพื่อนรักของเธอรู้สึกอย่างไรกับพลวัฒน์ เมื่อรสรินแต่งงานกับกรพงศ์แล้ว เธอคิดว่าอีกไม่นานพลวัฒน์คงตัดใจจากเธอได้ แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับความสามารถของนวลพรรณด้วยเช่นกัน
หลังจากรสรินก้าวเข้ามาเป็นสะใภ้ของศาสตราบุรินทร์ หญิงสาวต้องย้ายจากต่างจังหวัดมาอยู่ในบ้านศักดิ์สกุลที่กรุงเทพฯ พร้อมกับเริ่มต้นศึกษาธุรกิจบ้านจัดสรรที่ศักดิ์สกุลเพิ่งเริ่มดำเนินโครงการได้เพียงไม่นาน พร้อมๆ กับการทำหน้าที่ภรรยาของกรพงศ์ ด้วยการประกาศตัวกับสาวๆ ทุกคนที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับสามีตามกฎหมาย นอกจากนั้นเธอต้องดึงชายหนุ่มเข้ามาทำงานที่บริษัท กรพงศ์ต่อต้านทุกอย่างที่รสรินสั่งให้เขาทำ ก่อนแต่งงานเคยทำตัวอย่างไรเขาก็ทำอย่างนั้น
รสรินเริ่มถอดใจในการทำหน้าที่ภรรยาของกรพงศ์ เธอคิดจะกลับบ้านไปช่วยเรือนแก้วบริหารโรงงาน เมื่อใช้หนี้หมดแล้วเธอค่อยหย่าขาดจากชายหนุ่ม เวลานี้นอกจากจิ้งหรีดที่เรือนแก้วส่งให้มาอยู่เป็นเพื่อนเธอแล้ว เธอก็แทบไม่มีใครที่สามารถพูดคุยปรับทุกข์ด้วยได้ ขณะที่รสรินเกิดความท้อแท้ โรงงานแม่ศรีไทยแลนด์ก็เริ่มกลับเข้าสู้ภาวะปกติ ยอดสั่งซื้อสินค้าจากบริษัทคู่ค้ามีจำนวนเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว ส่งผลให้บริษัทมีกำไรเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว
ตรงกันข้ามกับโครงการบ้านจัดสรรของศักดิ์สกุลที่เริ่มประสบปัญหา เนื่องจากถูกมือดีปล่อยข่าวเรื่องการก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน กระทั่งทางเขตได้ส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ แม้ผลการตรวจสอบจะเป็นไปด้วยดี แต่ข่าวที่ออกไปกลับส่งผลกระทบต่อยอดสั่งจอง รสรินรับรู้ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับโครงการบ้านจัดสรร เธอจึงโทรไปปรึกษากับนวลพรรณหญิงสาว แนะนำให้รสรินไปขอความช่วยเหลือจากพลวัฒน์ ที่เวลานี้ทำงานอยู่สำนักพิมพ์บ้านแสนสุขซึ่งจัดพิมพ์นิตยสารเกี่ยวกับการตกแต่งบ้าน รสรินตอบตกลงทันทีเพื่อพลิกวิกฤตที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ให้เป็นประโยชน์กับบริษัท รสรินจึงเริ่มต้นภารกิจกอบกู้ชื่อเสียงของบริษัท
เมื่อเหตุการณ์ภายในบริษัทเริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดี รสรินได้รับการยอมรับจากศักดิ์สกุลมากขึ้น ถึงขนาดต้องการให้หญิงสาวกับลูกชายมีความสัมพันธ์กันอย่างจริงจัง แต่อรอาภายังคงเกาะติดกรพงศ์ รสรินเริ่มลุกขึ้นมาตอบโต้ กรพงศ์เริ่มเห็นใจรสริน เพราะนอกจากหญิงสาวจะต้องเป็นฝ่ายรับมือดวงกมลกับอรอาภาแล้ว เธอยังต้องช่วยทำงานในบริษัท ไหนจะต้องคอยดูแลปรนนิบัติเขาในฐานะภรรยา ทั้งเรื่องอาหารการกิน เสื้อผ้า จะยกเว้นเพียงเรื่องเดียวคือเรื่องบนเตียง
กรพงศ์ไม่รู้เลยว่า ทุกเรื่องที่รสรินทำให้เขานั้น นอกเหนือจากต้องการตอบแทนบุญคุณของศักดิ์สกุลแล้ว ยังมีอีกเหตุผลหนึ่งที่รสรินเก็บไว้ในใจก็คือ เธอต้องการเอาชนะกรพงศ์ให้หันมาสนใจเธอ จากที่เคยตั้งแง่รังเกียจรสริน กรพงศ์เริ่มมีความรู้สึกดีๆ ให้หญิงสาว เขาพยายามหัดกินอาหารที่มีส่วนผสมของปลาร้าที่หญิงสาวทำขึ้นโต๊ะ นอกจากนั้นกรพงศ์ยังหันมาศึกษาธุรกิจของครอบครัว เขาเริ่มเข้าไปทำงานในบริษัท พฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของชายหนุ่ม สร้างความแปลกใจให้กับทุกคนในครอบครัว
อานนท์น้องชายสุดหล่อของรสรินเรียนจบกับมาจากเมืองนอก รสรินเข้าใจว่าน้องชายไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้น เพราะเธอสั่งไม่ให้ใครบอกน้อง กลัวน้องจะเรียนไม่จบ แต่สายบัวกลับส่งข่าวบอกเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับรสรินทั้งหมดให้อานนท์ทราบ ทำให้อานนท์ไม่พอใจครอบครัวของกรพงศ์ และอานนท์ก็เอาความผิดทั้งหมดที่เกิดขึ้นไปโยนให้กับพิมพ์เพทาย น้องสาวของกรพงศ์นั่นเอง
รสรินเริ่มเห็นตัวตนอีกด้านของกรพงศ์ ที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความรับผิดชอบ ความมีน้ำใจ ซึ่งแต่ละเรื่องล้วนเป็นสิ่งที่สร้างความรู้สึกดีให้กับเธอ แต่หญิงสาวพยายามหักห้ามใจตัวเองไม่ให้คิดเกินเลยกับชายหนุ่ม เพราะรู้ดีว่าหลังจากเรือนแก้วนำเงินมาคืนศักดิ์สกุลครบตามจำนวนที่ยืมไปเสร็จเรียบร้อย เธอก็ต้องหย่าขาดจากกรพงศ์อยู่ดี อานนท์แสดงความไม่พอใจบ้านศาสตราบุรินทร์ทั้งบ้าน ไม่เว้นแม้แต่ศักดิ์สกุลกับพิมพ์เพทาย จนถูกพิมพ์เพทายตอกหน้ากลับไป อานนท์ขอร้องให้รสรินเลิกกับกรพงศ์แล้วกลับบ้าน แต่รสรินปฏิเสธอ้างว่าต้องทำตามสัญญา ทางด้านแม่ศรีไทยแลนด์ กิจการโรงงานปลาร้าดีขึ้นตามลำดับ พอรู้ข่าวเรื่องศาสตราบุรินทร์ก็กระวนกระวาย
อานนท์เห็นพิมพ์เพทายถูกโจมตีในเฟซบุ๊กก็เริ่มสงสาร อดไม่ได้ที่จะเข้าไปสู้กับพวกเกรียนคีย์บอร์ด จนถูกเอาไปลือว่าเป็นผัวพิมพ์เพทาย แต่แล้วอรอาภาต้องพบกับความผิดหวัง เมื่อศักดิ์สกุลกับกรพงศ์ปฏิเสธการช่วยเหลือครั้งนี้อย่างไม่ใยดี แถมสองพ่อลูกยังบอกอีกว่า เหตุการณ์วุ่นวายที่เกิดขึ้นครั้งนี้ เป็นเพราะแผนการชั่วร้ายของอรอาภา
เมื่อเหตุการณ์กลับตาลปัตร อรอาภาจึงเชิดหน้ากลับไปอย่างไม่เหลือเยื่อใย เพราะคิดว่าอีกไม่ช้ากรพงศ์กับครอบครัวจะต้องกลายเป็นคนสิ้นเนื้อประดาตัว ในขณะที่เธอได้เงินมาฟรีๆ ถึงสามสิบล้านบาท อานนท์คิดเข้าทางอรอาภาเพื่อหาวิธีเอาเงินสามสิบล้านมาคืน อรอาภาหลงคารมอานนท์ จนยอมเลิกกับหนุ่มไฮโซคนใหม่ที่เพิ่งคบแล้วเผยไต๋เรื่องความลับต่างๆ ออกมาจนหมด อานนท์เอาหลักฐานอันนี้ไปข่มขู่รัฐมนตรี วีระ ให้คืนเงินสามสิบล้านบาท พร้อมกับให้แก้ข่าวให้ศาสตราบุรินทร์ รัฐมนตรี วีระ จำใจทำตามทั้งที่ยังแค้น แต่ทำอะไรไม่ได้
พิมพ์เพทายขอบคุณ และเผลอกอดเขา ทั้งคู่เริ่มรู้ใจตัวเองว่าเริ่มชอบกันแล้ว แต่ยังคงวางท่ากันอยู่ ขณะที่เหตุการณ์ภายในครอบครัวกำลังคลี่คลายไปในทางที่ดี กรพงศ์กลับกำลังรับรู้ถึงความสูญเสียที่กำลังจะเกิดขึ้น เพราะเขารู้ดีว่าขณะนี้ครอบครัวเขาต่างหาก ที่มีหนี้สินติดค้างกับครอบครัวรสรินดังนั้น คงถึงเวลาที่เขาต้องหย่าขาดกับหญิงสาว ตามที่ศักดิ์สกุลได้บอกไว้ เพื่อไม่เป็นการเอาเปรียบหญิงสาว เขาจึงเป็นฝ่ายเอ่ยปากขอหย่ากับรสรินทันที รสรินเข้าใจว่ากรพงศ์ต้องการหย่าเพื่อกลับไปหาอรอาภา หญิงสาวจึงรีบทำตามความต้องการของชายหนุ่มทันที เมื่อต่างฝ่ายต่างเป็นอิสระแล้ว รสรินได้เข้าไปลาศักดิ์สกุล ดวงกมล พิมพ์เพทาย ก่อนออกเดินทางกลับบ้านต่างจังหวัดทันที
ในวันที่รสรินเดินทางกลับบ้านต่างจังหวัด พลวัฒน์ได้ขับรถมารับเธอที่บ้าน เมื่อกรพงศ์เห็นลักษณะท่าทางสนิทสนมที่สองหนุ่มสาวแสดงออกต่อกัน ทำให้เขาเริ่มตระหนักถึงความรู้สึกผูกพันที่มีต่อรสริน หลังจากวันที่หญิงสาวจากไป กรพงศ์เอาแต่เก็บตัวไม่พูดไม่จากับใคร อาการซึมเศร้าของชายหนุ่มหาได้รอดพ้นจากสายตาคนในบ้าน เช่นเดียวกับรสริน หลังจากเป็นอิสระและกลับมาใช้ชีวิตที่บ้านเกิดตามเดิม หญิงสาวได้แต่ทุ่มเทให้กับการทำงานในโรงงานวันๆ แทบไม่พูดไม่จากับใคร
เรือนแก้วกับสายบัวต่างเฝ้ามองพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปเป็นคนละคนของรสริน ด้วยความรู้สึกไม่สบายใจ เรือนแก้วจึงโทรศัพท์ไปเล่าเรื่องราวการเปลี่ยนแปลงของลูกสาวให้ศักดิ์สกุลฟัง ถึงได้รู้ว่ากรพงศ์ก็มีอาการเดียวกับรสริน ทั้งสองฝ่ายจึงสรุปว่าสองหนุ่มสาวนั้นรักกัน และจำเป็นต้องขอความร่วมมือจากทุกคนที่เกี่ยวข้อง และแล้วแผนการพิสูจน์รักของกรพงศ์กับรสรินจึงเริ่มต้นขึ้น ในวันที่กรพงศ์ได้รับบัตรเชิญงานแต่งงานระหว่างพลวัฒน์กับรสริน ชายหนุ่มถึงกับพูดไม่ออก ศักดิ์สกุลกับดวงกมลเห็นอาการของลูกชายจึงรีบใส่ไฟว่า รสรินจำเป็นต้องแต่งงานกับพลวัฒน์เพื่อจะได้ลืมกรพงศ์ พร้อมทั้งกู้ชื่อเสียงของวงศ์ตระกูล เพราะไม่อยากเป็นแม่หม้ายตั้งแต่ยังสาว กรพงศ์เริ่มคิดได้ว่ารสรินต้องมีใจให้เขาอย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้นคงไม่รีบแต่งงานเพื่อจะได้ลืมเขาตามที่ศักดิ์สกุลกับดวงกมลบอก คิดได้อย่างนั้นแล้ว กรพงศ์จึงรีบขับรถมุ่งหน้าไปหารสรินเพื่อขัดขวางงานแต่งงานที่จะมีขึ้น
เมื่อเดินทางไปถึงที่หมาย กรพงศ์รีบบุกขึ้นไปหารสรินถึงห้องนอนของหญิงสาว รสรินซึ่งกำลังแต่งตัวเพื่อเป็นเพื่อนเจ้าสาวให้นวลพรรณ ถึงกับตกใจและแปลกใจ เมื่อกรพงศ์ตรงเข้ากอดเธอพร้อมทั้งสารภาพความรู้สึกที่มีต่อเธอ ก่อนจะขอร้องให้เธอยกเลิกงานแต่งงานกับพลวัฒน์ และกลับไปเป็นภรรยาเขาตามเดิม ด้านอานนท์ก็อ้อมแอ้มขอจีบพิมพ์เพทาย พิมพ์เพทายขอดูความประพฤติก่อนว่าจะไม่เป็นอย่างพี่ชายเธอ อานนท์เลยบอกว่าจะพิสูจน์ให้ดู
รสรินดีใจที่ได้ฟังคำสารภาพรักจากกรพงศ์ หญิงสาวตัดสินใจบอกความรู้สึกที่มีต่อชายหนุ่มพร้อมทั้งย้ำว่างานแต่งงานในวันนี้ เป็นงานแต่งของพลวัฒน์กับนวลพรรณ ส่วนเธอเป็นแค่เพื่อนเจ้าสาวให้นวลพรรณแค่นั้น กรพงศ์ได้ฟังจึงหยิบการ์ดที่มีชื่อของรสรินกับพลวัฒน์ให้รสรินดู เมื่อเห็นการ์ดงานแต่งงานนั้นแล้ว รสรินรู้ได้ทันทีว่าเป็นแผนการของเรือนแก้วกับศักดิ์สกุลอย่างแน่นอน
หลังจากกรพงศ์ได้ปรับความเข้าใจกับรสรินเสร็จเรียบร้อย สองหนุ่มสาวจึงพากันออกมานอกห้องและได้พบว่าผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย พร้อมทั้งคู่บ่าวสาวตัวจริงของงานได้ออกมายืนรอต้อนรับ ต่างพากันส่งเสียงโห่ร้องแสดงความยินดี ที่แม่ปลาร้ากับพ่อปลาไหลได้กลับมาคืนดีกันอีกครั้ง ด้วยความรักความเข้าใจที่มีให้กันตลอดไป
หลังออกจากโรงพยาบาล เรือนแก้ว สายบัว และรสริน เริ่มต้นปรึกษาหาทางออกให้กับธุรกิจของครอบครัว ที่เวลานี้แทบมองไม่เห็นหนทางในการฟื้นฟูกิจการให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ เนื่องจากขาดเงินทุนหมุนเวียน รสรินบอกให้แม่ไปยืมเงินจากญาติทางพ่อซึ่งมีฐานะเข้าขั้นเศรษฐี แต่เรือนแก้วรู้อยู่แก่ใจดีว่าญาติของอรรณพ ไม่เคยยอมรับเธอในฐานะสะใภ้ และหลังจากอรรณพจบชีวิตลงด้วยโรคร้าย สองแม่ลูกจึงกลายเป็นคนอื่น แม้แต่นามสกุล เรือนแก้วกับลูกสาวยังต้องเปลี่ยนมาใช้นามสกุล เนินสูงชัน ตามเดิม
เรือนแก้วนึกได้ว่าอรรณพมีเพื่อนรักอยู่คนหนึ่งชื่อ ศักดิ์สกุล (ทูน หิรัญทรัพย์) ประสบความสำเร็จร่ำรวยจากการทำธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ เขาได้ให้นามบัตรไว้กับเรือนแก้วพร้อมกับย้ำว่า หากเธอมีเรื่องเดือดร้อนให้ติดต่อเขาได้ทุกเวลา เรือนแก้วจึงตัดสินใจโทรศัพท์เล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับโรงงานให้ศักดิ์สกุลฟัง พร้อมทั้งเอ่ยปากขอกู้เงินจำนวนหนึ่งเพื่อนำมาปรับปรุงโรงงานและซื้อเครื่องจักร ศักดิ์สกุลรีบเดินทางมาพบเรือนแก้วกับรสริน พร้อมนำเช็คเงินสดสามสิบล้านบาทมามอบให้สองแม่ลูกโดยไม่มีสัญญาเงินกู้ เรือนแก้วกับรสรินจึงลังเลที่จะรับความช่วยเหลือ
เมื่อสองแม่ลูกถามความเห็นของสายบัว ซึ่งเป็นคนมองโลกในแง่ร้ายอยู่แล้ว ก็ได้รับคำตอบว่า ขืนรับความช่วยเหลือครั้งนี้ ดีไม่ดีโรงงานแม่ศรีไทยแลนด์อาจตกเป็นของศักดิ์สกุลในอนาคตก็เป็นได้ เรือนแก้วจำต้องปฏิเสธความช่วยเหลือจากศักดิ์สกุล ศักดิ์สกุลดูเหมือนจะรู้เท่าทันความคิดของสามสาวตระกูลเนินสูงชัน เขาจึงขอคุยกับเรือนแก้วเป็นการส่วนตัว ศักดิ์สกุลจึงเล่าถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างเขากับอรรณพที่ผ่านมาให้เรือนแก้วฟัง ก่อนจะตบท้ายด้วยการเล่าถึงปัญหาที่เกิดขึ้น
ศักดิ์สกุลไม่ต้องการให้กรพงศ์ (ศุกลวัฒน์ คณารศ) ลูกชายคนโตแต่งงานกับ อรอาภา (ธัญกันต์ ธนกิตต์ธนานนท์) ลูกสาวคนเดียวของรัฐมนตรี วีระ (กฤตย์ อัทธเสรี) นอกจากนั้นเขายังต้องการดัดนิสัยเจ้าชู้ เอาแต่ใจของลูกชาย ที่วันๆ ไม่ยอมทำงานทำการ เวลานี้เขามองไม่เห็นใครที่มีความสามารถมากพอที่จะช่วยลูกชายให้รอดพ้นจากเงื้อมือของอรอาภาได้ นอกจากรสรินเพียงคนเดียวเท่านั้น และเขาเชื่อว่าผู้หญิงอย่างรสรินนี่ละที่จะปราบพยศลูกชายได้ ถ้าเรือนแก้วคิดจะตอบแทนความช่วยเหลือของเขา ก็ต้องยอมให้รสรินแต่งงานจดทะเบียนกับกรพงศ์ซึ่งจะทำกันแต่เพียงในนามเท่านั้น
หลังจากเรือนแก้วนำเงินมาใช้คืนรสรินก็จะเป็นอิสระทันที เรือนแก้วจึงเรียกรสรินมาพูดคุยถึงข้อเสนอของศักดิ์สกุล รสรินตอบปฎิเสธทันทีโดยไม่ต้องคิดให้เสียเวลา เรือนแก้วจนใจไม่รู้จะหาเหตุผลใดมาจูงใจลูกสาวให้ร่วมมือกับภารกิจครั้งนี้ สายบัวซึ่งนั่งฟังเรื่องราวตั้งแต่ต้นจนจบจึงเป็นคนชี้หนทางสว่างให้หลานสาว ด้วยการอ้างถึงความเดือดร้อนของคนงานหลายสิบชีวิตที่ต้องตกงาน
หลังจากรับฟังเหตุผลยาวเหยียดจากป้าสายบัว ในที่สุดรสรินจึงตอบตกลงรับข้อเสนอของศักดิ์สกุล ศักดิ์สกุลที่พอรู้ข่าวก็วางแผนปรึกษากับ พิมพ์เพทาย (ณัฐชา นวลแจ่ม) ลูกสาวคนเล็กของเขา ที่ไม่ต้องการให้พี่ชายตกเป็นเหยื่อนางแบบสาวที่สวยแต่รูปอย่างอรอาภา และหลังจากสองพ่อลูกคิดแผนการเพื่อรับมือกรพงศ์กับดวงกมล (เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์) ได้แล้ว ศักดิ์สกุลจึงเริ่มดำเนินการตามแผนทันที
กรพงศ์ถึงกับร้องลั่น เมื่อศักดิ์สกุลบอกเรื่องที่เขาต้องแต่งกับลูกสาวเจ้าของโรงงานทำปลาร้า ไม่ว่าหัวเด็ดตีนขาดยังไง เขาก็ไม่ยอมทำตามคำสั่งของพ่อเป็นอันขาด ศักดิ์สกุลจึงยื่นคำขาดว่า จะยกเลิกบัตรเครดิตทุกใบที่กรพงศ์ครอบครอง รวมทั้งเงินรายเดือน เมื่อได้ฟังคำพูดของบิดาชายหนุ่มถึงกับคอตก สุดท้ายจึงยอมรับข้อเสนอนั้นแต่โดยดี หลังจากนั้นกรพงศ์และอรอาภาได้มาแอบดูหน้าว่าที่เจ้าสาวก่อนที่บ้านเกิดรสริน ก็เกิดตกใจเพราะเข้าใจผิดว่าจิ้งหรีด (ปรัชญานันท์ สุวรรณมณี) ลูกสาวคนงาน คือ รสริน ยิ่งสร้างความไม่พอใจให้กรพงศ์คิดจะล้มงานวิวาห์ให้ได้
ศักดิ์สกุลได้พากรพงศ์มาที่ขอนแก่นอีกครั้ง กรพงศ์จึงแอบหนีออกมาเที่ยวในเมือง ได้มาเจอกับรสรินซึ่งก็เกิดชอบในหน้าตา และนิสัยของหญิงสาว แต่รสรินไม่ยอมบอกความจริงว่าตัวเองเป็นใคร ทำให้กรพงศ์ยิ่งอยากค้นหาและสุดท้ายก็ตกหลุมรักเธอและอยากพาหนีไปอยู่ด้วยกัน ในระหว่างที่ทั้งคู่ไปเที่ยวที่ต่าง ๆ กรพงศ์มักจะพูดจาให้ร้ายว่าที่เจ้าสาวว่าเป็นคนไม่สวย หวังแต่จะเกาะครอบครัวตนกิน ทำให้รสรินคิดแผนดัดหลังจนกว่าจะถึงวันแต่งงาน
งานแต่งงานระหว่างกรพงศ์กับรสรินจึงเกิดขึ้นท่ามกลางความแปลกใจของแขกเหรื่อที่มาร่วมงาน และบรรดาหญิงสาวที่เคยควงคู่กับกรพงศ์มาก่อน มีเพียงอรอาภาคนเดียวเท่านั้นที่รู้ถึงความจำเป็นในการตัดสินใจแต่งงานกะทันหันของชายหนุ่มที่เธอหมายปองในครั้งนี้ เพราะก่อนหน้านั้นดวงกมลยังคงยืนยันว่าต้องการให้เธอเข้ามาเป็นสะใภ้ของศาสตราบุรินทร์เหมือนเดิม อรอาภาจึงขนบรรดาเหล่าเพื่อนนางแบบมาเฉิดฉายในงานแต่งของกรพงศ์กับรสริน และจัดการลักหาตัวจิ้งหรีดที่นึกว่าเป็นรสรินไปทำให้เสียโฉมเพิ่มความอับอายหวังล้มงานวิวาห์ แต่สุดท้ายเมื่อทุกคนมาเห็นรสรินตัวจริง กรพงศ์เกิดอาการตะลึงและโมโหที่ตัวเองโดนหลอก อรอาภารู้สึกเสียหน้าที่เห็นหน้ารสรินที่ทั้งสวย หุ่นดี บุคลิกกลักษณะไม่มีเค้าบ้านนอกอย่างที่เธอวาดไว้
อรอาภาต่อว่ากรพงศ์ที่หลอกเธอเรื่องรสริน เพราะอรอาภารู้ดีว่า ถึงกรพงศ์ไม่เต็มใจแต่งงาน แต่พ่อปลาไหลจอมเจ้าชู้อย่างเขามีหรือจะไม่เนื้อเต้น ที่ได้แต่งงานกับสาวสวยหุ่นดี ถึงจะเป็นทายาทโรงงานปลาร้า กรพงศ์ยังคงยืนยันหนักแน่นว่าเขากับรสรินแต่งงานกันเพียงในนามเท่านั้น แถมยังหยอดคำหวานว่าทันทีที่เขาหย่าขาดกับรสริน เขาจะรีบแต่งงานกับอรอาภากันที ชายหนุ่มทั้งแค้นและอยากเอาคืนรสริน ซึ่งเหตุการณ์ทุกอย่างล้วนตกอยู่ในสายตาของรสรินที่เริ่มเก็บข้อมูลเกี่ยวกับตัวเขา เพื่อจะได้วางแผนรับมือกับการทำหน้าที่ภรรยาพ่อปลาไหล และลูกสะใภ้ตระกูลศาสตราบุรินทร์ในครั้งนี้
ข่าวการแต่งงานของรสรินสร้างความเสียใจให้กับพลวัฒน์ (ธนากร ศรีบรรจง) เพื่อนชายคนสนิทที่แอบหลงรักรสรินมานาน แต่เธอก็ยืนยันว่าเธอรู้สึกกับเขาแค่เพื่อนเท่านั้น และเธอรู้ดีว่านวลพรรณ (วรางคนาง วุฑฒยากร) เพื่อนรักของเธอรู้สึกอย่างไรกับพลวัฒน์ เมื่อรสรินแต่งงานกับกรพงศ์แล้ว เธอคิดว่าอีกไม่นานพลวัฒน์คงตัดใจจากเธอได้ แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับความสามารถของนวลพรรณด้วยเช่นกัน
หลังจากรสรินก้าวเข้ามาเป็นสะใภ้ของศาสตราบุรินทร์ หญิงสาวต้องย้ายจากต่างจังหวัดมาอยู่ในบ้านศักดิ์สกุลที่กรุงเทพฯ พร้อมกับเริ่มต้นศึกษาธุรกิจบ้านจัดสรรที่ศักดิ์สกุลเพิ่งเริ่มดำเนินโครงการได้เพียงไม่นาน พร้อมๆ กับการทำหน้าที่ภรรยาของกรพงศ์ ด้วยการประกาศตัวกับสาวๆ ทุกคนที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับสามีตามกฎหมาย นอกจากนั้นเธอต้องดึงชายหนุ่มเข้ามาทำงานที่บริษัท กรพงศ์ต่อต้านทุกอย่างที่รสรินสั่งให้เขาทำ ก่อนแต่งงานเคยทำตัวอย่างไรเขาก็ทำอย่างนั้น
รสรินเริ่มถอดใจในการทำหน้าที่ภรรยาของกรพงศ์ เธอคิดจะกลับบ้านไปช่วยเรือนแก้วบริหารโรงงาน เมื่อใช้หนี้หมดแล้วเธอค่อยหย่าขาดจากชายหนุ่ม เวลานี้นอกจากจิ้งหรีดที่เรือนแก้วส่งให้มาอยู่เป็นเพื่อนเธอแล้ว เธอก็แทบไม่มีใครที่สามารถพูดคุยปรับทุกข์ด้วยได้ ขณะที่รสรินเกิดความท้อแท้ โรงงานแม่ศรีไทยแลนด์ก็เริ่มกลับเข้าสู้ภาวะปกติ ยอดสั่งซื้อสินค้าจากบริษัทคู่ค้ามีจำนวนเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว ส่งผลให้บริษัทมีกำไรเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว
ตรงกันข้ามกับโครงการบ้านจัดสรรของศักดิ์สกุลที่เริ่มประสบปัญหา เนื่องจากถูกมือดีปล่อยข่าวเรื่องการก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน กระทั่งทางเขตได้ส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ แม้ผลการตรวจสอบจะเป็นไปด้วยดี แต่ข่าวที่ออกไปกลับส่งผลกระทบต่อยอดสั่งจอง รสรินรับรู้ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับโครงการบ้านจัดสรร เธอจึงโทรไปปรึกษากับนวลพรรณหญิงสาว แนะนำให้รสรินไปขอความช่วยเหลือจากพลวัฒน์ ที่เวลานี้ทำงานอยู่สำนักพิมพ์บ้านแสนสุขซึ่งจัดพิมพ์นิตยสารเกี่ยวกับการตกแต่งบ้าน รสรินตอบตกลงทันทีเพื่อพลิกวิกฤตที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ให้เป็นประโยชน์กับบริษัท รสรินจึงเริ่มต้นภารกิจกอบกู้ชื่อเสียงของบริษัท
เมื่อเหตุการณ์ภายในบริษัทเริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดี รสรินได้รับการยอมรับจากศักดิ์สกุลมากขึ้น ถึงขนาดต้องการให้หญิงสาวกับลูกชายมีความสัมพันธ์กันอย่างจริงจัง แต่อรอาภายังคงเกาะติดกรพงศ์ รสรินเริ่มลุกขึ้นมาตอบโต้ กรพงศ์เริ่มเห็นใจรสริน เพราะนอกจากหญิงสาวจะต้องเป็นฝ่ายรับมือดวงกมลกับอรอาภาแล้ว เธอยังต้องช่วยทำงานในบริษัท ไหนจะต้องคอยดูแลปรนนิบัติเขาในฐานะภรรยา ทั้งเรื่องอาหารการกิน เสื้อผ้า จะยกเว้นเพียงเรื่องเดียวคือเรื่องบนเตียง
กรพงศ์ไม่รู้เลยว่า ทุกเรื่องที่รสรินทำให้เขานั้น นอกเหนือจากต้องการตอบแทนบุญคุณของศักดิ์สกุลแล้ว ยังมีอีกเหตุผลหนึ่งที่รสรินเก็บไว้ในใจก็คือ เธอต้องการเอาชนะกรพงศ์ให้หันมาสนใจเธอ จากที่เคยตั้งแง่รังเกียจรสริน กรพงศ์เริ่มมีความรู้สึกดีๆ ให้หญิงสาว เขาพยายามหัดกินอาหารที่มีส่วนผสมของปลาร้าที่หญิงสาวทำขึ้นโต๊ะ นอกจากนั้นกรพงศ์ยังหันมาศึกษาธุรกิจของครอบครัว เขาเริ่มเข้าไปทำงานในบริษัท พฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของชายหนุ่ม สร้างความแปลกใจให้กับทุกคนในครอบครัว
อานนท์น้องชายสุดหล่อของรสรินเรียนจบกับมาจากเมืองนอก รสรินเข้าใจว่าน้องชายไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้น เพราะเธอสั่งไม่ให้ใครบอกน้อง กลัวน้องจะเรียนไม่จบ แต่สายบัวกลับส่งข่าวบอกเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับรสรินทั้งหมดให้อานนท์ทราบ ทำให้อานนท์ไม่พอใจครอบครัวของกรพงศ์ และอานนท์ก็เอาความผิดทั้งหมดที่เกิดขึ้นไปโยนให้กับพิมพ์เพทาย น้องสาวของกรพงศ์นั่นเอง
รสรินเริ่มเห็นตัวตนอีกด้านของกรพงศ์ ที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความรับผิดชอบ ความมีน้ำใจ ซึ่งแต่ละเรื่องล้วนเป็นสิ่งที่สร้างความรู้สึกดีให้กับเธอ แต่หญิงสาวพยายามหักห้ามใจตัวเองไม่ให้คิดเกินเลยกับชายหนุ่ม เพราะรู้ดีว่าหลังจากเรือนแก้วนำเงินมาคืนศักดิ์สกุลครบตามจำนวนที่ยืมไปเสร็จเรียบร้อย เธอก็ต้องหย่าขาดจากกรพงศ์อยู่ดี อานนท์แสดงความไม่พอใจบ้านศาสตราบุรินทร์ทั้งบ้าน ไม่เว้นแม้แต่ศักดิ์สกุลกับพิมพ์เพทาย จนถูกพิมพ์เพทายตอกหน้ากลับไป อานนท์ขอร้องให้รสรินเลิกกับกรพงศ์แล้วกลับบ้าน แต่รสรินปฏิเสธอ้างว่าต้องทำตามสัญญา ทางด้านแม่ศรีไทยแลนด์ กิจการโรงงานปลาร้าดีขึ้นตามลำดับ พอรู้ข่าวเรื่องศาสตราบุรินทร์ก็กระวนกระวาย
อานนท์เห็นพิมพ์เพทายถูกโจมตีในเฟซบุ๊กก็เริ่มสงสาร อดไม่ได้ที่จะเข้าไปสู้กับพวกเกรียนคีย์บอร์ด จนถูกเอาไปลือว่าเป็นผัวพิมพ์เพทาย แต่แล้วอรอาภาต้องพบกับความผิดหวัง เมื่อศักดิ์สกุลกับกรพงศ์ปฏิเสธการช่วยเหลือครั้งนี้อย่างไม่ใยดี แถมสองพ่อลูกยังบอกอีกว่า เหตุการณ์วุ่นวายที่เกิดขึ้นครั้งนี้ เป็นเพราะแผนการชั่วร้ายของอรอาภา
เมื่อเหตุการณ์กลับตาลปัตร อรอาภาจึงเชิดหน้ากลับไปอย่างไม่เหลือเยื่อใย เพราะคิดว่าอีกไม่ช้ากรพงศ์กับครอบครัวจะต้องกลายเป็นคนสิ้นเนื้อประดาตัว ในขณะที่เธอได้เงินมาฟรีๆ ถึงสามสิบล้านบาท อานนท์คิดเข้าทางอรอาภาเพื่อหาวิธีเอาเงินสามสิบล้านมาคืน อรอาภาหลงคารมอานนท์ จนยอมเลิกกับหนุ่มไฮโซคนใหม่ที่เพิ่งคบแล้วเผยไต๋เรื่องความลับต่างๆ ออกมาจนหมด อานนท์เอาหลักฐานอันนี้ไปข่มขู่รัฐมนตรี วีระ ให้คืนเงินสามสิบล้านบาท พร้อมกับให้แก้ข่าวให้ศาสตราบุรินทร์ รัฐมนตรี วีระ จำใจทำตามทั้งที่ยังแค้น แต่ทำอะไรไม่ได้
พิมพ์เพทายขอบคุณ และเผลอกอดเขา ทั้งคู่เริ่มรู้ใจตัวเองว่าเริ่มชอบกันแล้ว แต่ยังคงวางท่ากันอยู่ ขณะที่เหตุการณ์ภายในครอบครัวกำลังคลี่คลายไปในทางที่ดี กรพงศ์กลับกำลังรับรู้ถึงความสูญเสียที่กำลังจะเกิดขึ้น เพราะเขารู้ดีว่าขณะนี้ครอบครัวเขาต่างหาก ที่มีหนี้สินติดค้างกับครอบครัวรสรินดังนั้น คงถึงเวลาที่เขาต้องหย่าขาดกับหญิงสาว ตามที่ศักดิ์สกุลได้บอกไว้ เพื่อไม่เป็นการเอาเปรียบหญิงสาว เขาจึงเป็นฝ่ายเอ่ยปากขอหย่ากับรสรินทันที รสรินเข้าใจว่ากรพงศ์ต้องการหย่าเพื่อกลับไปหาอรอาภา หญิงสาวจึงรีบทำตามความต้องการของชายหนุ่มทันที เมื่อต่างฝ่ายต่างเป็นอิสระแล้ว รสรินได้เข้าไปลาศักดิ์สกุล ดวงกมล พิมพ์เพทาย ก่อนออกเดินทางกลับบ้านต่างจังหวัดทันที
ในวันที่รสรินเดินทางกลับบ้านต่างจังหวัด พลวัฒน์ได้ขับรถมารับเธอที่บ้าน เมื่อกรพงศ์เห็นลักษณะท่าทางสนิทสนมที่สองหนุ่มสาวแสดงออกต่อกัน ทำให้เขาเริ่มตระหนักถึงความรู้สึกผูกพันที่มีต่อรสริน หลังจากวันที่หญิงสาวจากไป กรพงศ์เอาแต่เก็บตัวไม่พูดไม่จากับใคร อาการซึมเศร้าของชายหนุ่มหาได้รอดพ้นจากสายตาคนในบ้าน เช่นเดียวกับรสริน หลังจากเป็นอิสระและกลับมาใช้ชีวิตที่บ้านเกิดตามเดิม หญิงสาวได้แต่ทุ่มเทให้กับการทำงานในโรงงานวันๆ แทบไม่พูดไม่จากับใคร
เรือนแก้วกับสายบัวต่างเฝ้ามองพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปเป็นคนละคนของรสริน ด้วยความรู้สึกไม่สบายใจ เรือนแก้วจึงโทรศัพท์ไปเล่าเรื่องราวการเปลี่ยนแปลงของลูกสาวให้ศักดิ์สกุลฟัง ถึงได้รู้ว่ากรพงศ์ก็มีอาการเดียวกับรสริน ทั้งสองฝ่ายจึงสรุปว่าสองหนุ่มสาวนั้นรักกัน และจำเป็นต้องขอความร่วมมือจากทุกคนที่เกี่ยวข้อง และแล้วแผนการพิสูจน์รักของกรพงศ์กับรสรินจึงเริ่มต้นขึ้น ในวันที่กรพงศ์ได้รับบัตรเชิญงานแต่งงานระหว่างพลวัฒน์กับรสริน ชายหนุ่มถึงกับพูดไม่ออก ศักดิ์สกุลกับดวงกมลเห็นอาการของลูกชายจึงรีบใส่ไฟว่า รสรินจำเป็นต้องแต่งงานกับพลวัฒน์เพื่อจะได้ลืมกรพงศ์ พร้อมทั้งกู้ชื่อเสียงของวงศ์ตระกูล เพราะไม่อยากเป็นแม่หม้ายตั้งแต่ยังสาว กรพงศ์เริ่มคิดได้ว่ารสรินต้องมีใจให้เขาอย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้นคงไม่รีบแต่งงานเพื่อจะได้ลืมเขาตามที่ศักดิ์สกุลกับดวงกมลบอก คิดได้อย่างนั้นแล้ว กรพงศ์จึงรีบขับรถมุ่งหน้าไปหารสรินเพื่อขัดขวางงานแต่งงานที่จะมีขึ้น
เมื่อเดินทางไปถึงที่หมาย กรพงศ์รีบบุกขึ้นไปหารสรินถึงห้องนอนของหญิงสาว รสรินซึ่งกำลังแต่งตัวเพื่อเป็นเพื่อนเจ้าสาวให้นวลพรรณ ถึงกับตกใจและแปลกใจ เมื่อกรพงศ์ตรงเข้ากอดเธอพร้อมทั้งสารภาพความรู้สึกที่มีต่อเธอ ก่อนจะขอร้องให้เธอยกเลิกงานแต่งงานกับพลวัฒน์ และกลับไปเป็นภรรยาเขาตามเดิม ด้านอานนท์ก็อ้อมแอ้มขอจีบพิมพ์เพทาย พิมพ์เพทายขอดูความประพฤติก่อนว่าจะไม่เป็นอย่างพี่ชายเธอ อานนท์เลยบอกว่าจะพิสูจน์ให้ดู
รสรินดีใจที่ได้ฟังคำสารภาพรักจากกรพงศ์ หญิงสาวตัดสินใจบอกความรู้สึกที่มีต่อชายหนุ่มพร้อมทั้งย้ำว่างานแต่งงานในวันนี้ เป็นงานแต่งของพลวัฒน์กับนวลพรรณ ส่วนเธอเป็นแค่เพื่อนเจ้าสาวให้นวลพรรณแค่นั้น กรพงศ์ได้ฟังจึงหยิบการ์ดที่มีชื่อของรสรินกับพลวัฒน์ให้รสรินดู เมื่อเห็นการ์ดงานแต่งงานนั้นแล้ว รสรินรู้ได้ทันทีว่าเป็นแผนการของเรือนแก้วกับศักดิ์สกุลอย่างแน่นอน
หลังจากกรพงศ์ได้ปรับความเข้าใจกับรสรินเสร็จเรียบร้อย สองหนุ่มสาวจึงพากันออกมานอกห้องและได้พบว่าผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย พร้อมทั้งคู่บ่าวสาวตัวจริงของงานได้ออกมายืนรอต้อนรับ ต่างพากันส่งเสียงโห่ร้องแสดงความยินดี ที่แม่ปลาร้ากับพ่อปลาไหลได้กลับมาคืนดีกันอีกครั้ง ด้วยความรักความเข้าใจที่มีให้กันตลอดไป