ละคร ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เดอะซีรีส์ ภาค องค์ประกันหงสา
ดู 3,903 ครั้ง /
แชร์
ละครออกอากาศ | วันจันทร์ วันอังคาร | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ช่องที่ออกอากาศ | ละครช่อง Mono 29 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เริ่มออกอากาศ | 9 มกราคม 2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เวลาออกอากาศ | 20:30 - 22:00 น. |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
กำกับโดย | ม.ร.ว.เฉลิมชาตรี ยุคล | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ประพันธ์โดย | บทประพันธ์โดย พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ ยุคล, ม.จ. ชาตรีเฉลิม ยุคล, บทโทรทัศน์โดย วรยุทธ พิชัยศรทัต, ม.ร.ว. เฉลิมชาตรี ยุคล | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
นำแสดงโดย | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ผู้สร้าง | บริษัท โมโน บรอดคาซท์ จำกัด |
ภาพนิ่งจากละคร
เรื่องย่อ ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เดอะซีรีส์ ภาค องค์ประกันหงสา
พุทธศักราช ๒๑๐๖ พระเจ้าหงสาวดี บุเรงนอง (ปรเมศร์ น้อยอ่ำ) ทรงกรีฑาทัพเข้าตีราชอาณาจักรอยุธยา โดยได้เข้ายึดครองหัวเมืองฝ่ายเหนืออันมีเมืองพิษณุโลกเป็นราชธานีได้เป็นผลสำเร็จ ครั้งนั้นสมเด็จพระมหาธรรมราชา (อธิวัฒน์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา) เจ้าแผ่นดินครองเมืองพิษณุโลก - พระราชบิดาของสมเด็จพระนเรศวร หรือ พระองค์ดำ (ณัฐชนน บุญศิริ) จำต้องยอมอ่อนน้อมต่อพระเจ้าบุเรงนอง เพื่อรักษาไว้ซึ่งชีวิตอาณาประชาราษฎร์มิให้ต้องมีภัยอันตราย และจำต้องยอมร่วมกระบวนทัพพม่าเข้าตีกรุงศรีอยุธยา
ศึกครั้งนั้นสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ (ศุกล ศศิจุลกะ) เจ้าแผ่นดินอยุธยา ทรงยอมเจรจาหย่าศึกกับพม่ารามัญ และ ถวายช้างเผือก ๔ เชือก ทั้งให้สมเด็จพระราเมศวร (อภิปราชญ์ ต่างใจ) ราชโอรส เสด็จไปประทับยังนครหงสาวดีตามพระประสงค์ของกษัตริย์พม่า ข้างสมเด็จพระมหาธรรมราชา ก็จำต้องถวายตัวสมเด็จพระนเรศวร ราชโอรสองค์โต ซึ่งมีพระชนมายุได้เพียง ๙ ชันษา ไปเป็นองค์ประกัน ประทับยังหงสาประเทศเช่นกัน
ด้วยพระปรีชาสามารถด้านพิชัยยุทธ ทั้งยังองอาจกล้าหาญ สมเด็จพระนเรศวรจึงทรงเป็นที่รักใคร่ของพระเจ้าหงสาวดี บุเรงนอง ประดุจพระราชบุตรร่วมสายสันตติวงศ์ แลทรงมีสายพระเนตรยาวไกลเห็นว่า สืบไปเบื้องหน้าสมเด็จพระนเรศวรจะได้ขึ้นเป็นใหญ่ในอุษาคเนย์ประเทศ จึงทรงปลูกฝังให้สมเด็จพระนเรศวรผูกพระทัยรักแผ่นดินหงสา เพื่อจะได้อาศัยเป็นผู้สืบอำนาจอุปถัมภ์ค้ำชูราชอาณาจักร ซึ่งพระองค์ทรงสถาปนาขึ้นด้วยความยากลำบาก แลหาได้วางพระทัยในพระราชโอรส พระเจ้านันทบุเรง (กษาปณ์ จำปาดิบ) และพระราชนัดดา มังกยอชวา (กรภัทร์ เกิดพันธุ์) ด้วยทรงเล็งเห็นว่าราชนิกุลทั้งสองพระองค์นั้น หาได้เป็นผู้ทรงคุณธรรม เหตุนี้จึงเป็นชนวนให้พระเจ้านันทบุเรง และราชโอรสมังกยอชวา ขัดพระทัยทั้งผูกจิตริษยาสมเด็จพระนเรศวรตลอดมา
นับแต่เริ่มเข้าประทับในหงสานคร พระเจ้าบุเรงนองทรงโปรดให้พระมหาเถรคันฉ่อง (สรพงษ์ ชาตรี) พระรามัญผู้มากด้วยวิทยาคุณและเจนจบในตำราพิชัยสงคราม เป็นพระอาจารย์ถ่ายทอดศิลปะวิทยาการแก่สมเด็จพระนเรศวร ยังผลให้ยุพราชอยุธยาเชี่ยวชาญการยุทธ กลช้าง กลม้า กลศึก ทั้งข้างอยุธยาและข้างพม่ารามัญหาผู้เสมอเหมือน
พุทธศักราช ๒๑๑๒ (๖ ปีต่อมา) สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ เจ้าแผ่นดินอยุธยาเสด็จออกผนวช แลสถาปนาสมเด็จพระมหินทร์ (เลอวิทย์ สังข์สิทธิ์) ราชโอรสองค์รอง ขึ้นเสวยราชสมบัติสืบแทน สมเด็จพระมหินทร์ทรงคลางแคลงพระทัยในความจงรักภักดีของ สมเด็จพระมหาธรรมราชามาแต่ครั้งสงครามชิงช้างเผือก เมื่อ ๖ ปีก่อน ขณะที่เจ้าแผ่นดินพิษณุโลกก็หาได้ยำเกรงสมเด็จพระมหินทร์เช่นสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ
กษัติร์ย์อยุธยาพระองค์ใหม่ จึงหันไปสมคบกับสมเด็จพระไชยเชษฐาธิราช พระเจ้ากรุงศรีสัตนาคนหุตล้านช้างร่มขาว ร่วมกันเข้าตีเมืองพิษณุโลก แต่กระทำการมิสำเร็จ พระเจ้าหงสาวดีบุเรงนองเห็นเชิงสบโอกาส จึงยกทัพใหญ่เข้าตีกรุงศรีอยุธยาอีกคำรบ ครั้งนั้น สมเด็จพระนเรศวร ร่วมโดยเสด็จมากับทัพหงสา แลทรงประทับอยู่เพียงเมืองพิษณุโลก มีเพียงสมเด็จพระมหาธรรมราชา โดยเสด็จกษัตริย์หงสาลงมากรุงศรีอยุธยา ด้วยตั้งพระทัยจะเกลี้ยกล่อมให้ สมเด็จพระมหินทร์ยอมสวามิภักดิ์พระเจ้าบุเรงนอง เพราะเล็งเห็นว่าอยุธยายากจะต่อรบเอาชัย แม้ศึกครั้งนั้นสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ ทรงลาผนวชมาบัญชาการรบด้วยพระองค์เอง แต่อยู่ได้มิช้านานก็เสด็จสวรรคตระหว่างศึก กรุงศรีอยุธยาก็เสียแก่พระเจ้าหงสาวดีบุเรงนอง
ข้างสมเด็จพระนเรศวร ซึ่งประทับอยู่ยั้งยังนครพิษณุโลกแต่ต้นศึก ทรงรู้ซึ้งว่าสมเด็จพระมหาธรรมราชา พระราชบิดามิได้คิดคดเป็นกบฏต่อแผ่นดิน แต่ก็หาได้เห็นด้วยกับการอ่อนข้อสวามิภักดิ์พม่ารามัญ น้ำพระทัยอันมั่นคง เด็ดเดี่ยวนั้น ถึงแม้จะมิได้แพร่งพราย แต่ก็ประจักษ์อยู่ในหมู่ข้าราชบริพารใกล้ชิดผู้รักและหวงแหนในเอกราชของแผ่นดิน จึงพากันนิยมในน้ำพระทัย แลพร้อมใจถวายความจงรักภักดีแต่นั้นมา
ครั้นเสร็จศึกอยุธยาพุทธศักราช ๒๑๑๒ สมเด็จพระมหาธรรมราชา ทรงถวาย พระสุพรรณกัลยา (พชรณมน นนทภา) พระพี่นางสมเด็จพระนเรศวร แก่พระเจ้าหงสาวดีบุเรงนอง และสมเด็จพระมหาธรรมราชาได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นกษัตริย์ครองกรุงศรีอยุธยา ครั้นลุปีพุทธศักราช ๒๑๑๔ พระสุพรรณกัลยา แลขอตัวสมเด็จพระนเรศวร จากพระเจ้าหงสาวดีบุเรงนอง เสด็จกลับยังเมืองพิษณุโลก เพื่อช่วยราชการข้างอยุธยา และโปรดให้สมเด็จพระนเรศวรเสวยราชย์ครองเมืองพิษณุโลก เป็นใหญ่เหนือหัวเมืองเหนือทั้งปวง
ศึกครั้งนั้นสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ (ศุกล ศศิจุลกะ) เจ้าแผ่นดินอยุธยา ทรงยอมเจรจาหย่าศึกกับพม่ารามัญ และ ถวายช้างเผือก ๔ เชือก ทั้งให้สมเด็จพระราเมศวร (อภิปราชญ์ ต่างใจ) ราชโอรส เสด็จไปประทับยังนครหงสาวดีตามพระประสงค์ของกษัตริย์พม่า ข้างสมเด็จพระมหาธรรมราชา ก็จำต้องถวายตัวสมเด็จพระนเรศวร ราชโอรสองค์โต ซึ่งมีพระชนมายุได้เพียง ๙ ชันษา ไปเป็นองค์ประกัน ประทับยังหงสาประเทศเช่นกัน
ด้วยพระปรีชาสามารถด้านพิชัยยุทธ ทั้งยังองอาจกล้าหาญ สมเด็จพระนเรศวรจึงทรงเป็นที่รักใคร่ของพระเจ้าหงสาวดี บุเรงนอง ประดุจพระราชบุตรร่วมสายสันตติวงศ์ แลทรงมีสายพระเนตรยาวไกลเห็นว่า สืบไปเบื้องหน้าสมเด็จพระนเรศวรจะได้ขึ้นเป็นใหญ่ในอุษาคเนย์ประเทศ จึงทรงปลูกฝังให้สมเด็จพระนเรศวรผูกพระทัยรักแผ่นดินหงสา เพื่อจะได้อาศัยเป็นผู้สืบอำนาจอุปถัมภ์ค้ำชูราชอาณาจักร ซึ่งพระองค์ทรงสถาปนาขึ้นด้วยความยากลำบาก แลหาได้วางพระทัยในพระราชโอรส พระเจ้านันทบุเรง (กษาปณ์ จำปาดิบ) และพระราชนัดดา มังกยอชวา (กรภัทร์ เกิดพันธุ์) ด้วยทรงเล็งเห็นว่าราชนิกุลทั้งสองพระองค์นั้น หาได้เป็นผู้ทรงคุณธรรม เหตุนี้จึงเป็นชนวนให้พระเจ้านันทบุเรง และราชโอรสมังกยอชวา ขัดพระทัยทั้งผูกจิตริษยาสมเด็จพระนเรศวรตลอดมา
นับแต่เริ่มเข้าประทับในหงสานคร พระเจ้าบุเรงนองทรงโปรดให้พระมหาเถรคันฉ่อง (สรพงษ์ ชาตรี) พระรามัญผู้มากด้วยวิทยาคุณและเจนจบในตำราพิชัยสงคราม เป็นพระอาจารย์ถ่ายทอดศิลปะวิทยาการแก่สมเด็จพระนเรศวร ยังผลให้ยุพราชอยุธยาเชี่ยวชาญการยุทธ กลช้าง กลม้า กลศึก ทั้งข้างอยุธยาและข้างพม่ารามัญหาผู้เสมอเหมือน
พุทธศักราช ๒๑๑๒ (๖ ปีต่อมา) สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ เจ้าแผ่นดินอยุธยาเสด็จออกผนวช แลสถาปนาสมเด็จพระมหินทร์ (เลอวิทย์ สังข์สิทธิ์) ราชโอรสองค์รอง ขึ้นเสวยราชสมบัติสืบแทน สมเด็จพระมหินทร์ทรงคลางแคลงพระทัยในความจงรักภักดีของ สมเด็จพระมหาธรรมราชามาแต่ครั้งสงครามชิงช้างเผือก เมื่อ ๖ ปีก่อน ขณะที่เจ้าแผ่นดินพิษณุโลกก็หาได้ยำเกรงสมเด็จพระมหินทร์เช่นสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ
กษัติร์ย์อยุธยาพระองค์ใหม่ จึงหันไปสมคบกับสมเด็จพระไชยเชษฐาธิราช พระเจ้ากรุงศรีสัตนาคนหุตล้านช้างร่มขาว ร่วมกันเข้าตีเมืองพิษณุโลก แต่กระทำการมิสำเร็จ พระเจ้าหงสาวดีบุเรงนองเห็นเชิงสบโอกาส จึงยกทัพใหญ่เข้าตีกรุงศรีอยุธยาอีกคำรบ ครั้งนั้น สมเด็จพระนเรศวร ร่วมโดยเสด็จมากับทัพหงสา แลทรงประทับอยู่เพียงเมืองพิษณุโลก มีเพียงสมเด็จพระมหาธรรมราชา โดยเสด็จกษัตริย์หงสาลงมากรุงศรีอยุธยา ด้วยตั้งพระทัยจะเกลี้ยกล่อมให้ สมเด็จพระมหินทร์ยอมสวามิภักดิ์พระเจ้าบุเรงนอง เพราะเล็งเห็นว่าอยุธยายากจะต่อรบเอาชัย แม้ศึกครั้งนั้นสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ ทรงลาผนวชมาบัญชาการรบด้วยพระองค์เอง แต่อยู่ได้มิช้านานก็เสด็จสวรรคตระหว่างศึก กรุงศรีอยุธยาก็เสียแก่พระเจ้าหงสาวดีบุเรงนอง
ข้างสมเด็จพระนเรศวร ซึ่งประทับอยู่ยั้งยังนครพิษณุโลกแต่ต้นศึก ทรงรู้ซึ้งว่าสมเด็จพระมหาธรรมราชา พระราชบิดามิได้คิดคดเป็นกบฏต่อแผ่นดิน แต่ก็หาได้เห็นด้วยกับการอ่อนข้อสวามิภักดิ์พม่ารามัญ น้ำพระทัยอันมั่นคง เด็ดเดี่ยวนั้น ถึงแม้จะมิได้แพร่งพราย แต่ก็ประจักษ์อยู่ในหมู่ข้าราชบริพารใกล้ชิดผู้รักและหวงแหนในเอกราชของแผ่นดิน จึงพากันนิยมในน้ำพระทัย แลพร้อมใจถวายความจงรักภักดีแต่นั้นมา
ครั้นเสร็จศึกอยุธยาพุทธศักราช ๒๑๑๒ สมเด็จพระมหาธรรมราชา ทรงถวาย พระสุพรรณกัลยา (พชรณมน นนทภา) พระพี่นางสมเด็จพระนเรศวร แก่พระเจ้าหงสาวดีบุเรงนอง และสมเด็จพระมหาธรรมราชาได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นกษัตริย์ครองกรุงศรีอยุธยา ครั้นลุปีพุทธศักราช ๒๑๑๔ พระสุพรรณกัลยา แลขอตัวสมเด็จพระนเรศวร จากพระเจ้าหงสาวดีบุเรงนอง เสด็จกลับยังเมืองพิษณุโลก เพื่อช่วยราชการข้างอยุธยา และโปรดให้สมเด็จพระนเรศวรเสวยราชย์ครองเมืองพิษณุโลก เป็นใหญ่เหนือหัวเมืองเหนือทั้งปวง