ละคร ฟ้ามีตะวันหัวใจฉันมีเธอ
ดู 1,407 ครั้ง /
แชร์
ละครออกอากาศ | วันจันทร์ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ช่องที่ออกอากาศ | ละครช่อง 7 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เริ่มออกอากาศ | 28 สิงหาคม 2550 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เวลาออกอากาศ | 20:30 - 22:00 น. |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
กำกับโดย | เอกภพ ตันหยงมาศกุล | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ประพันธ์โดย | ชูวงศ์ ฉายะจินดา | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
นำแสดงโดย | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
ภาพนิ่งจากละคร
เรื่องย่อ ฟ้ามีตะวันหัวใจฉันมีเธอ
คุณหญิงดารา สุริยกานต์ หอบลูกชายเพียงคนเดียว คือ ด.ช.ปรมี สุริยกานต์ ไปอยู่ออสเตรเลีย โดยความช่วยเหลือของ นายสุทธิ์ ผู้เป็นสหายรักของสามี เนื่องจากความอดทนที่มีมานานสิ้นสุดลงเมื่อ ม.ล.ปารมี สุริยกานต์ ไปคว้าเอา เฉลา สาววัยรุ่นกำพร้าที่เธอนำมาเลี้ยงดูไว้ใช้สอยใกล้ตัว เป็นภรรยาน้อยอีกคนหนึ่ง ความเป็นสาววัยรุ่นกำดัด ทำให้ ม.ล.ปารมี หลงใหลจนเฉลากล้ากำแหงถึงกับเข้ามายุ่มย่ามก้าวก่ายข้าวของที่เป็นของใช้ส่วนตัวของเธอไม่เว้นแม้เครื่องประดับ อันเป็นมรดกตกทอด ซึ่งหากจะทำขึ้นใหม่ก็ย่อมได้ เพราะ ม.ล.ปารมีเป็นเจ้าของบริษัทรับออกแบบและจำหน่ายอัญมณีอันใหญ่โตและมีชื่อเสียงคือ บริษัท คราวน์ ไดม่อน การถูกหักหาญน้ำใจในครั้งนี้คุณหญิงดาราถือเป็นการสิ้นสุดความสัมพันธ์ฉันท์สามีภรรยา ไม่มีใครในบ้านสุริยกานต์ได้พบเห็นสองแม่ลูกคู่นี้อีกเลยนับตั้งแต่บัดนั้น นอกจากนายสุทธิ์เพียงผู้เดียวที่คุณหญิงดารายังคงติดต่อสม่ำเสมอโดยขอให้เขาช่วยปลอมแปลงเอกสารการหย่าส่งไปให้ เพื่อใช้ประกอบการขออนุญาตทำการสมรสใหม่กับมหาเศรษฐีออสเตรีเลียนามว่า เดสมันต์ แอริงตัน
เฉลาได้ขึ้นมาเป็นใหญ่ในบ้านสุริยกานต์ แต่ไม่มีทายาทไว้สืบสกุล จึงขอ ด.ญ.นัยน์นภา หรือ แนน หลานสาวของ นางสาคู อดีตพี่เลี้ยงเก่าแก่ของคุณหญิงดารามาเป็นบุตรบุญธรรม เพราะความหมั่นไส้ที่สามีรักและเอ็นดูเด็กหญิงกำพร้าจนออกนอกหน้า จวบจน ม.ล.ปารมีถึงแก่อนิจกรรม เมื่อเวลาผ่านไปได้สิบปี ด.ช.ปรมี สุริยกานต์ ซึ่งบัดนี้เติบโตเป็นหนุ่มน้อยหน้าตาสะสวยได้เข้ามาร่วมงานศพของบิดาอย่างเงียบเชียบด้วยความช่วยเหลือของสุทธิ์ เพื่อนรักของบิดา โดยไม่มีผู้ใดสามารถจะล่วงรู้ได้เลยว่าทายาทคนเดียวของสุริยกานต์ได้นั่งปะปนอยู่กับแขกในศาลาที่ตั้งศพ
วันเวลาล่วงผ่านไปอีกนับสิบปี ปรมีได้กลับมาประเทศไทยอีกครั้งในฐานะนักธุรกิจหนุ่มใหญ่ ผู้มีนามว่า พอล แอริงตัน โดยมีจุดมุ่งหมาย ทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้สิ่งที่ควรจะเป็นของเขาและมารดากลับคืนมาจากเฉลาหรือนามปัจจุบันเนตรเสลา สาวใหญ่ผู้คุมบังเหียนคราวน์ ไดม่อน บริษัทผลิตเครื่องประดับที่ทำจากอัญมณีล้ำค่า ชายหนุ่มเห็นช่องทางในการแก้แค้น เมื่อเปิดอินเทอร์เน็ตพบข้อความชักชวนผู้สนใจมาร่วมลงทุนกับคราวน์ ไดม่อน ทำให้เดาได้ถึงสภาวะการเงินอันย่ำแย่ของบริษัท อันเนื่องมาจากการที่ เนตรเสลาซึ่งนั่งเก้าอี้ประธานบอร์ดได้ยักยอกไปเล่นการพนันจนสูญเงินไปนับสิบล้านบาท โอกาสอันงามนี้ ทำให้ปรมีต้องเจรจาขอยืมเงินจากมิสเตอร์เดสมันต์ บิดาเลี้ยงเพื่อจะได้เข้าไปเป็นหนึ่งในบรรดาหุ้นส่วนของคราวน์ ไดม่อน
ครั้งแรกที่ได้พบกับ พอล แอริงตัน เนตรเสลาก็หลงใหลในความหล่อเหลาของชายหนุ่ม ถึงกับอยากได้เขามาเป็นหุ้นส่วนชีวิตแทนที่จะเป็นเพียงหุ้นส่วนทางธุรกิจ จนทำให้ สิงขร หนุ่มใหญ่ผู้มีตำแหน่งเลขานุการและมีความสัมพันธ์กับสาวใหญ่อย่างลับๆ เกิดความไม่พอใจ เมื่อเนตรเสลาเริ่มทำให้เขารู้ตัวว่ากำลังจะถูกเขี่ยทิ้ง ปรมีได้พบนัยน์นภาขณะเดินแฟชั่นในงานโชว์เครื่องเพชรสุดอลังการของคราวน์ ไดม่อน ปรมีแนะนำตัวว่าเขาคือหุ้นส่วนคนใหม่และประหลาดใจเมื่อเห็นนามบัตรของหญิงสาวยังคงใช้นามสกุลเดินแทนสุริยกานต์ ตามสิทธทางกฎหมายที่พึงมี ชายหนุ่มขอติดรถนัยน์นภาไปที่บ้านสุริยกานต์ เพื่อไปรับประทานอาหารเย็นตามคำเชิญของเนตรเสลา
เมื่อมี พอล แอริงตัน ซึ่งหนุ่มกว่า หล่อกว่า แถมยังมีทรัพย์สมบัติของพ่อเลี้ยงติดตัวอีกตั้งมากมายมาเป็นที่หมายคนใหม่ คุณเนตรเสลาจึงอยากยุติความสัมพันธ์ที่มีต่อกันมาเนิ่นกับสิงขร จึงออกปากยกลูกเลี้ยงสาวให้สิงขร และกำชับให้รีบรวบรัดเอาเป็นเมียเสีย
ปรมีได้รับอนุญาตให้มาเรียนรู้การทำงานเกี่ยวกับอัญมณี โดยขอมาฝึกงานกับนัยน์นภา แม้ไม่เต็มใจ แต่ก็ไม่กล้าขัดคุณเนตรเสลา ปรมีจึงมาหานัยน์นภาแต่เช้า หญิงสาวเองก็ไม่ใช่เด็กๆ ไร้เดียงสาพอที่จะไม่รู้ว่ามิสเตอร์พอล หุ้นส่วนคนใหม่คิดอย่างไรกับหล่อน แม้จะพยายามหลีกเลี่ยงที่จะไม่ไปไหนมาไหนกับเขาสองต่อสอง ซึ่งเวลานั้น สุธี เดินเข้ามาในร้าน และถลาเข้ามาหาอย่างดีใจเมื่อมองเห็นนัยน์นภานั่งอยู่ในร้าน ขณะที่หญิงสาวอึดอัดใจ เพราะสุธีคือเพื่อนชายที่สนิทสนมกับหล่อนมากที่สุดจนเกือบเรียกได้ว่าเป็นคนรัก แต่หลังจากเขาได้ทราบความจริงจากคุณเนตรเสลาว่าหล่อนเป็นเพียงเด็กกำพร้าที่เขาเลี้ยงเอาไว้ใช้สอยหาใช่ทายาทสุริยกานต์ที่แท้จริงไม่ สุธีก็หายหน้าหายตาไปจากชีวิตหล่อน เรื่องราวนั้นทำให้นัยน์นภาเสียใจอยู่พักหนึ่ง
คเชนทร์ หนุ่มลูกจีนร้อยเปอร์เซ็นต์ และ แดเนียล หนุ่มลูกครึ่งไทย-ออสเตรเลีย ผู้เป็นเพื่อนของปรมี บินตามมาสมทบที่เมืองไทย โดย เจสสิก้า สาวฝรั่งผมทองภรรยาของคเชนทร์จะตามมาภายหลัง ทั้งหมดร่วมกันวางแผนที่จะถ่ายเทเงินจากกระเป๋าเนตรเสลา โดยเช่าคอนโดหรูหราไว้เพื่อจัดงานเลี้ยงสังสรรค์นักเรียนเก่าออสเตรเลียโดยห้องหนึ่งถูกจัดไว้สำหรับเล่นการพนันโดยเฉพาะ ปรมีจัดการจ้างเซียนพนันจากต่างประเทศเพื่องานนี้ ทุกอย่างถูกเตรียมการไว้อย่างเรียบร้อยก่อนที่เนตรเสลาจะหลงกลรับปากมาร่วมงานเลี้ยง หล่อนถึงกับลงทุนตัดชุดราตรียาวใหม่เอี่ยม บรรทุกเครื่องเพชรเต็มตัว จนตกเป็นเป้าโจมตีเยาะเย้ยของปูเป้ สาวเซอร์สุดๆ และ ออดี้ กระเทยปากจัด เกือบสว่างแล้วที่สาวใหญ่กลับออกมาจากห้องนั้นด้วยใบหน้าแจ่มใส พร้อมกับเงินสดเกือบหนึ่งล้านบาท แผนอ่อยเหยื่อได้เริ่มขึ้นแล้ว
สุธีตามไปพบนัยน์นภาถึงสถานออกกำลังกายเพื่อเสนอขายพลอยย้อมสี คุณเนตรเสลา สิงขรก็มาพบเข้าพอดีจึงรับเอาพลอยไปให้คุณเนตรเสลาดู ซึ่งหากเนตรเสลาเกิดสนใจและสั่งซื้อพลอยล็อตนี้จากสุธี มหกรรมการย้อมแมวขายระดับโลกจะต้องตามมาอย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของประเทศไทยอย่างมหาศาล นัยน์นภาจึงตัดสินใจเล่าเรื่องนี้ให้พอล แอริงตันฟังหวังให้เขาใช้ความเป็นหุ้นส่วนของคราวน์ ไดม่อน ยับยั้งคุณเนตรเสลาไม่ให้ซื้อพลอยเหล่านั้น แต่พอลกลับมีแผนการที่จะใช้ประโยชน์จากเรื่องที่รับรู้เพื่อกำจัดเนตรเสลาให้พ้นไปจากคราวน์ ไดม่อน โดยเร็ววันขึ้น
เมื่อ พอล โทรศัพท์มาบอกว่ามีเอเย่นต์ทางออสเตรเลียสนใจจะสั่งซื้ออัญมณีจากคราวน์ ไดม่อน โดยเฉพาะทับทิมกับไพลินล้อมเพชร ทั้งสองมองเห็นลู่ท่างที่จะทำกำไรมหาศาลกับพลอยย้อมสีหนึ่งพันเม็ดที่ซื้อมาจากสุธี โดยนายสุทธิ์ที่ห้ามซื้อพลอยนี้ตั้งแต่แรกได้กลับใจและให้ความร่วมมือโดยแนะนำว่าให้ทำสองล็อต โดยใช้ใบอินวอยซ์เดียวกัน คนทั้งสองมัวแต่ปลื้มกับผลประโยชน์ที่จะได้ จนลืมไปว่าเหตุใดนายสุทธิ์ผู้ตงฉินจึงกลับใจมาช่วยพวกเขาทำสิ่งที่ผิดกฎหมาย
นัยน์นภาสงสัยว่า พอล แอริงตัน จะเป็นคนคนเดียวกับ ปรมี สุริยกานต์ เนื่องจากหล่อนนำแหวนทองคำลงยาประดับเพชรพลอยรูปพวงองุ่นซึ่งเป็นชิ้นหนึ่งในชุดเครื่องประดับอันเป็นมรดกตกทอดมาถึงคุณหญิงดาราและถูกเนตรเสลาใช้มารยาจนได้ครอบครองเครื่องประดับชุดนี้ทั้งชุด ก่อนที่คุณหญิงดาราจะพาบุตรชายหายสาบสูญไป เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาคุณเนตรเสลาได้ให้นัยน์นภานำแหวนวงนี้ไปตัดต่อเพื่อจะมอบให้สิงขร หญิงสาวเกิดความเสียดายเพราะเป็นของเก่าอยากจะเก็บไว้ให้เจ้าของเดิมหรือทายาท บังเอิญรถที่ขับประสบอุบัติเหตุ แหวนวงนี้ร่วงออกจากกระเป๋ากลิ้งเข้าไปใต้เบาะ จึงพ้นจากสายตาพลเมืองดีที่กรูกันเข้ามาช่วยก่อนจะควักกระเป๋าถือของหล่อนไปเป็นของชำร่วย นัยน์นภาจึงเก็บแหวนวงนี้ซ่อนไว้ จวบจนหล่อนถูกเดินชนจนกระเป๋าถือหลุดจากไหล่ แหวนทองลงยารูปพวงองุ่นกลิ้งออกมาต่อหน้าต่อตาพอล ทำให้ชายหนุ่มผู้ได้เห็นแหวนเพียงแวบเดียวอยากสั่งทำแหวนแบบนี้สักวง พร้อมคำจารึกว่า To dara with love ซึ่งเป็นคนจารึกเดียวกับที่อยู่ในแหวนต้นแบบ ด้วยเวลาเพียงเสี้ยววินาทีที่เขาได้เห็นไม่มีทางเป็นไปได้ที่พอลจะทันอ่านคำจารึกที่อยู่ด้านในของแหวน สิ่งที่ยืนยันความมั่นใจอีกอย่างก็คือรอยแผลเป็นเล็กๆ ที่หางคิ้วขวาอันเคยเป็นตำแหน่งที่ตั้งของไฝเม็ดเขื่องตามรูปที่หล่อนเคยเห็นอยู่ในอัลบั้มเก่าเก็บเพียงแต่ พอล แอริงตัน ไม่ได้สวมแว่นสายตาหนาเตอะเหมือน ปรมี สุริยกานต์ นัยน์นภา ลืมนึกถึงวิวัฒนาการของเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ทำได้มากกว่า คอนแทคเลนส์
คุณหญิงอรอุษา ลูกค้าคนสำคัญของคราวน์ ไดม่อน สั่งให้เนตรเสลาช่วยหาเครื่องประดับที่ทำจากมรกตรัสเซีย โดยจะสู้ราคาไม่อั้น ปรมีรับทราบข่าวนี้ด้วยความลิงโลด แผนที่สามได้เริ่มขึ้นในสมองโดยคุณสุทธิ์ได้ไปหาข้อมูลและภาพถ่ายสร้อยอุบะล้ำค่าซึ่งมีลวดลายวิจิตรพิสดาร ตรงกลางเป็นมรกตน้ำงามรูปลูกแพ น้ำหนักถึง 47 กะรัต ซึ่งเดิมเคยประดับบนยอดมงกุฎเพชรของ ซารินา อเล็กซานดรา แห่งราชวงศ์โรมานอฟ ปรมีขอให้คุณสุทธิ์หามรกตที่มีขนาดและน้ำหนักเท่าหรือใกล้เคียงกัน เพื่อมาทำเช็ทติ้งให้เหมือนต้นแบบในภาพ ก่อนที่จะนำไปหลอกขายให้กับเนตรเสลา ความจะแตกว่าเป็นของทำเทียมก็เมื่อของถึงมือคุณหญิงอรอุษาแล้ว
ปรมีได้รับเชิญจากเนตรเสลาให้มาร่วมงานในวันเกิดนัยน์นภาซึ่งคุณเนตรเสลาได้จัดเลี้ยงเป็นการภายในเฉพาะสี่คนที่ผับหรูชั้นใต้ดินของอาคารที่บริษัทคราวน์ ไดม่อนเปิดทำการอยู่ สาวใหญ่พยายามพูดเป็นนัยให้ปรมีรู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างสิงขรและนัยน์นภา ขากลับปรมีขอร้องให้นัยน์นภาไปส่งเขาที่คอนโดเพราะเขาเตรียมของขวัญไว้ให้หล่อน ที่นั่น ตลอดทางที่นั่งรถกลับชายหนุ่มคิดหาทางที่จะให้หญิงสาวยินยอมขึ้นไปบนที่พักของเขาแต่โดยดี ทีแรกนัยน์นภาปฏิสเธ แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าอาจพบหลักฐานบางอย่างที่แสดงว่า พอล คือ ปรมี สุริยกานต์ หญิงสาวจึงยอมตามเขาขึ้นไปบนเพนท์เฮ้าส์ซึ่งอยู่ชั้นบนสูงสุดและมีลิฟท์เป็นส่วนตัว เมื่อลิฟท์เปิดออกนัยน์นภาก็ต้องตะลึงกับกุหลาบแดงจำนวนมากมายที่ประดับตั้งแต่หน้าลิฟท์จนถึงในห้อง โดยเฉพาะของขวัญวันเกิดที่หลอ่นหมายตาไว้ว่ากำลังเก็บเงินจะซื้อมาเป็นสมบัติของตัวเอง คือ สร้อยคอทองคำขาวห้อยจี้เพชรเล็กๆ รูปดาว ถูกบรรจงสวมลงบนคอ บรรยากาศที่ตลบไปด้วยไอรักปลุกเร้าให้ปรมีเกิดความต้องการตามธรรมชาติโดยที่นัยน์นภาเองก็ไม่อาจขัดขืน เนื่องจากเคลิบเคลิ้มตื่นตะลึงไปกับรสสัมผัสจวบจนแผ่นหลังกระทบกับที่นอนหญิงสาวจึงรู้สึกตัวและต่อต้าน แต่ภาพถ่ายที่ตั้งอยู่บนโต๊ะเล็กข้างเตียงกลับทำให้หญิงสาวตัวชา จนหยุดการเคลื่อนไหวไปชั่วขณะ ภาพในกรอบเป็นภาพของ พอล แอริงตัน ในวัยรุ่น ยืนขนาบบิดาเลี้ยงชาวต่างประเทศ อีกด้านหนึ่งเป็นสุภาพสตรีชาวไทย หน้าตาคมคาย นัยน์ภาจำได้แม่นยำว่าเธอคือคุณหญิงดารา ภรรยาเอกของ ม.ล.ปารมี ผู้ล่วงลับ อาการนิ่งขึงของหญิงสาวทำให้ปรมีรู้สึกตัว นัยน์นภาตื่นจากภวังค์ขณะปรมีกำลังติดกระดุมเสื้อที่ถูกปลดออกหญิงสาวกรีดร้องผงะหนีมือนั้น ถลาวิ่งไปที่ลิฟต์กดปุ่มให้เลื่อนลงอย่างรวดเร็ว โดยลืมนึกถึงสภาพตัวเองอย่างสิ้นเชิง
เมื่อสร้อยมรกตเส้นที่ทำเทียมจาก อาย ออฟ โรมานอฟ เสร็จเรียบร้อย คเชนทร์จึงปลอมตัวเป็นนักธุรกิจชาวสิงคโปร์ไปเสนอขายสร้อยให้คุณเนตรเสลา โดยมีเอกสารยืนยันจากศูนย์อัญมณีโลก สิงขรเตือนให้นึกถึงกำไรอีกเท่าตัวหากนำไปปล่อยให้คุณหญิงอรอุษา ซึ่งประกาศจะสู้ราคาไม่อั้น เนตรเสลาจึงขอให้คุณหญิงอรอุษาช่วยพูดกับสามี ที่ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่งให้ช่วยปล่อยโอดีฉุกเฉิน คเชนทร์และพวกจึงกลับออกมาจากคราวน์ ไดม่อน พร้อมด้วยเงินสดๆ สามสิบล้านบาท เงินจำนวนนี้สามารถทำให้จำนวนหุ้นของคราวน์ ไดม่อน ที่ปรมีถืออยู่ในมือเพิ่มขึ้นเป็น 52% มากพอที่จะเขี่ยเนตรเสลาลงจากตำแหน่งประธานบอร์ดอย่างง่ายดาย
คุณหญิงอรอุษาส่งคนมารับสร้อยไปทันทีเพื่อนำไปตรวจสอบก่อนจะโอนเงินที่เหลืออีกหกสิบล้านบาทตามราคาที่คุณเนตรเสลาบอกขาย แต่คนทั้งสองก็กระหยิ่มใจได้เพียงชั่วข้ามคืน เพราะเช้าวันรุ่งขึ้นคุณหญิงอรอุษาก็ให้คนนำสร้อยมาคืนพร้อมเอกสารจากศูนย์วิจัยอัญมณี แถมด้วยจดหมายที่เขียนมาด่าอย่างสุภาพอีกหนึ่งฉบับ นัยน์นภาถูกเรียกตัวมาซักถามว่าได้พูดให้ใครฟังถึงเรื่องที่คุณหญิงอรอุษาสั่งให้หามรกตรัสเซียบ้างหรือไม่ หญิงสาวปฏิเสธ
คุณเนตรเสลาเริ่มมีอารมณ์แปรปรวนจากการที่ต้องสูญเงินไปหลายสิบล้านบาท ชายหนุ่มที่หมายมั่นจะจับให้อยู่มือก็หายหน้าไปตั้งแต่คราวเกิดเรื่องในวันเกิดนัยน์นภา สาวใหญ่จึงตกลงใจจะไปอเมริกากับคณะของท่านผู้หญิง พิศมร ซึ่งกำลังจะเดินทางไปประชุมสภาสตรีแห่งโลกที่ลอสแองเจลิส เป้าหมายของเนตรเสลาคือนำสร้อยมรกตไปปล่อยให้เพื่อนชาวยิว และถือโอกาสทำศัลยกรรมเสียด้วยเลย หลังจากคุณเนตรเสลาเดินทางไปอเมริกาแล้ว คราวน์ ไดม่อน จึงได้รับจดหมายจากทางออสเตรเลียว่าสินค้าที่ส่งไปล๊อตที่สองเป็นพลอยย้อมสี เขาจะอายัดของไว้ทั้งหมดโดยไม่ยอมจ่ายเงิน สิงขรรีบโทรศัพท์ทางไกลข้ามทวีปไปหาเนตรเสลาซึ่งกำลังอยู่ในระยะพักฟื้น หลังการผ่าตัดเนื่องจากเห็นภาพข่าวทางโทรทัศน์เสนอข่าวเรื่องคราวน์ ไดม่อน กำลังมีปัญหากับสินค้าที่ส่งไปต่างประเทศ และถูกอายัดสินค้าไว้ทั้งหมด เป็นผลให้ราคาหุ้นของบริษัทปรับตัวลดลง เนตรเสลาแทบเป็นลมคาโทรศัพท์เมื่อสิงขรโทรไปบอก แต่ความมั่นใจในรูปลักษณ์ใหม่ของตนเอง ว่าจะสามารถมัดหัวใจของพอล แอริงตันสำเร็จ ทำให้สาวใหญ่คลายความวิตกกังวลลงไปได้บ้าง
หากไม่ได้ยินเสียงปรมีก็คงจำไม่ได้ว่าสาวน้อยรูปร่างอ้อนแอ้นเอวบางตรงหน้าคือคุณเนตรเสลา อดีตสาวเจ้าเนื้อ หลังจากความตื่นตะลึงผ่านพ้นไป ความสังเวชแกมขบขันก็เข้ามาแทนที่ ยังไม่ทันได้นั่งโต๊ะคุณเนตรเสลาก็เจอะกับคู่ปรับเจ้าเก่าเพื่อนนักเรียนออสเตรเลียของพอล แอริงตัน คือ ปูเป้ กับกระเทยออดี้ วาจาเชือดเฉือนอย่างไม่บันยะบันยังของออดี้ ทำให้สาวใหญ่ในร่างสาวน้อยโกรธจนพูดไม่ออก แต่ก็ยังไม่วายปล่อยหมัดเด็ดเมื่อกล่าวว่าสิงขรและนัยน์นภากำลังจะมีข่าวดี เนื่องจากทั้งคู่ได้เกินเลยคำว่าคนรักไปเสียแล้ว เมื่อกลับมาถึงบ้านพัก คุณเนตรเสลาจึงยื่นคำขาดว่าหากสิงขรไม่รีบรวบรัดจัดการนัยน์นภา หล่อนจะยกลูกเลี้ยงสาวให้สุธีไปเสียเลย
นัยน์นภานึกประหลาดใจ เมื่อมารดาเลี้ยงบอกให้จัดของสำหรับไปปิกนิดบนเรือยอร์ชกับพอล แต่โทรศัพท์เมื่อตอนห้าทุ่มชวนไปเที่ยวเกาะ เป็นไปได้อย่างไรในเมื่อปรมีคุยโทรทัศน์กับหล่อนอยู่จนค่อนคืน จึงได้วางสายไป แต่กระนั้นหญิงสาวก็เตรียมอาหารสำหรับสี่คนเอาลงไปไว้ในเรือ เมื่อถึงเวลานัดหมายแล้วพอลยังไม่ปรากฏตัว เนตรเสลาจึงทำทีเป็นโทรศัพท์ไปถามได้ความว่าชายหนุ่มยังอยู่ในเมือง จึงสั่งให้สิงขรไปลงเรือกับนัยน์นภาล่วงหน้าไปคอยที่สุสานหอย ซึ่งเธอจะขับรถไปรับชายหนุ่มไปลงเรือที่นั่น สิงขรสารภาพว่าทุกสิ่งที่เขากำลังจะทำต่อจากนี้ก็เพราะเป็นคำสั่งของเนตรเสลาทั้งสิ้น ชายหนุ่มทอดสมอใกล้เกาะแห่งหนึ่ง แต่นัยน์นภาคราวนี้มาในมาดที่พร้อมจะต่อสู้เพื่อปกป้องตัวเอง หากสิงขรข่มเหงน้ำใจหล่อนเมื่อใดก็ต้องฆ่าหล่อนให้ตายเมื่อนั้น มิเช่นนั้นหล่อนจะให้การเป็นพยานในศาลคดีที่สิงขรทำฆาตกรรม มล.ปารมี สุริยกานต์ เมื่อสิบปีที่แล้ว
เนตรเสลามาหาพอลที่โรงแรมที่พัก พยายามใช้ชั้นเชิงไก่แก่แม่ปลาช่อน ต้อนให้ชายหนุ่มตกหลุมเสน่ห์แต่ปรมีไม่หลงกล สาวใหญ่จึงทิ้งไพ่ใบสุดท้ายในมือลงด้วยการนำสร้อยคอทองคำขาวห้อยจี้รูปดาวที่หล่อนบอกว่าเด็กรับใช้พบถูกทิ้งอยู่ในถังขยะในห้องของนัยน์นภามาคืนให้ชายหนุ่มสะใจที่เห็นใบหน้าหล่อเหลาคมคายถอดสี แต่เพียงชั่วครู่ปรมีก็ซาบซึ้งในเจตนาใส่ไฟลูกเลี้ยงของสาวใหญ่
เนตรเสลาได้รับการติดต่อจากสิงขรว่านัยน์นภาล่วงรู้ความลับการตายของอดีตสามี นัยน์นภายื่นเงื่อนไขหากสิงขรยอมพาเธอกลับเข้าฝั่งแต่โดยดี เธอก็จะลืมเรื่องราวทั้งหมด หญิงสาวแอบหยิบปืนยิงปลาแล้วขังตัวเองไว้ในแคบิน ขณะสิงขรพูดโทรศัพท์กับมารดาเลี้ยง นัยน์นภาโทรศัพท์หาปรมีได้อีกครั้งเดียว แบตเตอรี่ของโทรศัพท์มือถือปรมีก็หมดลง
กว่ารถที่บรรทุกบัลลูนจะมาถึงก็เกือบค่ำ ปรมีแทบจะขาดใจตายด้วยความห่วงใยสาวคนรักและกว่าที่บอลลูนจะพร้อมบินได้ ก็ล่วงเข้าไปเกือบ 4 ทุ่ม เคราะห์ดีที่เป็นคืนเดือนหงาย และลมไม่เปลี่ยนทิศ ไม่นานนัก คนทั้งหดมก็เห็นเรือยอร์ชสีขาวจอดทอดสมออยู่ใกล้เกาะค้างคาว จอมพลผู้จัดการบริษัทบอลลูนสาขาพังงาซึ่งทำหน้าที่กัปตันได้พาบอลลูนร่อนลงทางด้านหลังเกาะเพื่อไม่ให้เรดาร์ในเรือจับได้ และไม่เป็นที่สังเกตของคนบนเรือ ปรมีลัดเลาะไปบนโขดหินจนลงไปในเรือลำนั้นได้อย่างง่ายดาย แอบดูช่องหน้าต่างเห็นแต่สิงขรฟุบหลับอยู่ที่โต๊ะมีขวดเหล้าและแก้วเหล้าวางอยู่ใกล้มือ เมื่อย่องไปถึงหน้าต่างเคบิน จึงเห็นนัยน์นภานั่งตัวตรงหันกระบอกปืนยิงปลาไปที่ประตูท่าทางบอกให้รู้ว่าเธอจะยิงทุกคนที่ล่วงล้ำประตูบานนั้นเข้ามา หญิงสาวได้รับการช่วยเหลือจนปลอดภัยก่อนที่สิงขรจะตื่นขึ้นมาพบและถูกรรมเก่าตามสนองโดยถูกคานใบเรือฟาดเข้ากลางหลังจนสลบ
เช้าวันที่มีการประชุมบอร์ด เนตรเสลาถูกปูเป้และออดี้ แกล้งถ่วงเวลาไว้จนเข้าประชุมช้าไปถึงครึ่งชั่วโมงเมื่อไปถึงจึงพบว่าที่ประชุมได้ลงมติเลือกประธานคนใหม่เรียบร้อยแล้ว เขาผู้นั้นคือ ปรมี สุริยกานต์ หรือ พอล แอริงตัน สาวใหญ่เพิ่งรู้ตัวว่าชายหนุ่มเป็นผู้อยู่เบื้องหลังแผนการหลอกลวงให้หล่อนต้องสูญเสียเงินหลายสิบล้าน เพราะจำคเชนทร์และแดเนียลได้ นัยน์นภาก็กลับมาอย่างไม่มีร่องรอย ส่วนสิงขรถูกจับพร้อมซัดทอดว่าเธอเป็นผู้บงการให้สังหาร ม.ล.ปารมี ความผิดหวัง เสียใจถาโถมเข้ามาแบบไม่รู้ตัวทำให้สาวใหญ่ตกอยู่ในอาการวิกลจริต ส่งเสียงกรีดร้องไปตลอดทางที่ถูกตำรวจคุมตัวออกไป
สิงขรถูกศาลพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต ในขณะที่เนตรเสลาได้รับการรอลงอาญาไว้ก่อนจนกว่าจะหายจากอาการทางจิต สุธีถูกจับในข้อหาหลอกลวงต้มตุ๋น คเชนทร์และแดเนียลกลับออสเตรเลียเพื่อดำเนินธุรกิจซันไรซ์ บอลลูน เอนเตอร์ไพร์ต่อไป ส่วนปรมีและนัยน์นภาแต่งงานกันในอีกสองสามเดือนต่อมา และช่วยกันกับคุณสุทธิ์บริหารงานคราวน์ไดม่อนให้เจริญรุ่งเรืองสืบต่อไป ... จบบริบูรณ์...
เฉลาได้ขึ้นมาเป็นใหญ่ในบ้านสุริยกานต์ แต่ไม่มีทายาทไว้สืบสกุล จึงขอ ด.ญ.นัยน์นภา หรือ แนน หลานสาวของ นางสาคู อดีตพี่เลี้ยงเก่าแก่ของคุณหญิงดารามาเป็นบุตรบุญธรรม เพราะความหมั่นไส้ที่สามีรักและเอ็นดูเด็กหญิงกำพร้าจนออกนอกหน้า จวบจน ม.ล.ปารมีถึงแก่อนิจกรรม เมื่อเวลาผ่านไปได้สิบปี ด.ช.ปรมี สุริยกานต์ ซึ่งบัดนี้เติบโตเป็นหนุ่มน้อยหน้าตาสะสวยได้เข้ามาร่วมงานศพของบิดาอย่างเงียบเชียบด้วยความช่วยเหลือของสุทธิ์ เพื่อนรักของบิดา โดยไม่มีผู้ใดสามารถจะล่วงรู้ได้เลยว่าทายาทคนเดียวของสุริยกานต์ได้นั่งปะปนอยู่กับแขกในศาลาที่ตั้งศพ
วันเวลาล่วงผ่านไปอีกนับสิบปี ปรมีได้กลับมาประเทศไทยอีกครั้งในฐานะนักธุรกิจหนุ่มใหญ่ ผู้มีนามว่า พอล แอริงตัน โดยมีจุดมุ่งหมาย ทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้สิ่งที่ควรจะเป็นของเขาและมารดากลับคืนมาจากเฉลาหรือนามปัจจุบันเนตรเสลา สาวใหญ่ผู้คุมบังเหียนคราวน์ ไดม่อน บริษัทผลิตเครื่องประดับที่ทำจากอัญมณีล้ำค่า ชายหนุ่มเห็นช่องทางในการแก้แค้น เมื่อเปิดอินเทอร์เน็ตพบข้อความชักชวนผู้สนใจมาร่วมลงทุนกับคราวน์ ไดม่อน ทำให้เดาได้ถึงสภาวะการเงินอันย่ำแย่ของบริษัท อันเนื่องมาจากการที่ เนตรเสลาซึ่งนั่งเก้าอี้ประธานบอร์ดได้ยักยอกไปเล่นการพนันจนสูญเงินไปนับสิบล้านบาท โอกาสอันงามนี้ ทำให้ปรมีต้องเจรจาขอยืมเงินจากมิสเตอร์เดสมันต์ บิดาเลี้ยงเพื่อจะได้เข้าไปเป็นหนึ่งในบรรดาหุ้นส่วนของคราวน์ ไดม่อน
ครั้งแรกที่ได้พบกับ พอล แอริงตัน เนตรเสลาก็หลงใหลในความหล่อเหลาของชายหนุ่ม ถึงกับอยากได้เขามาเป็นหุ้นส่วนชีวิตแทนที่จะเป็นเพียงหุ้นส่วนทางธุรกิจ จนทำให้ สิงขร หนุ่มใหญ่ผู้มีตำแหน่งเลขานุการและมีความสัมพันธ์กับสาวใหญ่อย่างลับๆ เกิดความไม่พอใจ เมื่อเนตรเสลาเริ่มทำให้เขารู้ตัวว่ากำลังจะถูกเขี่ยทิ้ง ปรมีได้พบนัยน์นภาขณะเดินแฟชั่นในงานโชว์เครื่องเพชรสุดอลังการของคราวน์ ไดม่อน ปรมีแนะนำตัวว่าเขาคือหุ้นส่วนคนใหม่และประหลาดใจเมื่อเห็นนามบัตรของหญิงสาวยังคงใช้นามสกุลเดินแทนสุริยกานต์ ตามสิทธทางกฎหมายที่พึงมี ชายหนุ่มขอติดรถนัยน์นภาไปที่บ้านสุริยกานต์ เพื่อไปรับประทานอาหารเย็นตามคำเชิญของเนตรเสลา
เมื่อมี พอล แอริงตัน ซึ่งหนุ่มกว่า หล่อกว่า แถมยังมีทรัพย์สมบัติของพ่อเลี้ยงติดตัวอีกตั้งมากมายมาเป็นที่หมายคนใหม่ คุณเนตรเสลาจึงอยากยุติความสัมพันธ์ที่มีต่อกันมาเนิ่นกับสิงขร จึงออกปากยกลูกเลี้ยงสาวให้สิงขร และกำชับให้รีบรวบรัดเอาเป็นเมียเสีย
ปรมีได้รับอนุญาตให้มาเรียนรู้การทำงานเกี่ยวกับอัญมณี โดยขอมาฝึกงานกับนัยน์นภา แม้ไม่เต็มใจ แต่ก็ไม่กล้าขัดคุณเนตรเสลา ปรมีจึงมาหานัยน์นภาแต่เช้า หญิงสาวเองก็ไม่ใช่เด็กๆ ไร้เดียงสาพอที่จะไม่รู้ว่ามิสเตอร์พอล หุ้นส่วนคนใหม่คิดอย่างไรกับหล่อน แม้จะพยายามหลีกเลี่ยงที่จะไม่ไปไหนมาไหนกับเขาสองต่อสอง ซึ่งเวลานั้น สุธี เดินเข้ามาในร้าน และถลาเข้ามาหาอย่างดีใจเมื่อมองเห็นนัยน์นภานั่งอยู่ในร้าน ขณะที่หญิงสาวอึดอัดใจ เพราะสุธีคือเพื่อนชายที่สนิทสนมกับหล่อนมากที่สุดจนเกือบเรียกได้ว่าเป็นคนรัก แต่หลังจากเขาได้ทราบความจริงจากคุณเนตรเสลาว่าหล่อนเป็นเพียงเด็กกำพร้าที่เขาเลี้ยงเอาไว้ใช้สอยหาใช่ทายาทสุริยกานต์ที่แท้จริงไม่ สุธีก็หายหน้าหายตาไปจากชีวิตหล่อน เรื่องราวนั้นทำให้นัยน์นภาเสียใจอยู่พักหนึ่ง
คเชนทร์ หนุ่มลูกจีนร้อยเปอร์เซ็นต์ และ แดเนียล หนุ่มลูกครึ่งไทย-ออสเตรเลีย ผู้เป็นเพื่อนของปรมี บินตามมาสมทบที่เมืองไทย โดย เจสสิก้า สาวฝรั่งผมทองภรรยาของคเชนทร์จะตามมาภายหลัง ทั้งหมดร่วมกันวางแผนที่จะถ่ายเทเงินจากกระเป๋าเนตรเสลา โดยเช่าคอนโดหรูหราไว้เพื่อจัดงานเลี้ยงสังสรรค์นักเรียนเก่าออสเตรเลียโดยห้องหนึ่งถูกจัดไว้สำหรับเล่นการพนันโดยเฉพาะ ปรมีจัดการจ้างเซียนพนันจากต่างประเทศเพื่องานนี้ ทุกอย่างถูกเตรียมการไว้อย่างเรียบร้อยก่อนที่เนตรเสลาจะหลงกลรับปากมาร่วมงานเลี้ยง หล่อนถึงกับลงทุนตัดชุดราตรียาวใหม่เอี่ยม บรรทุกเครื่องเพชรเต็มตัว จนตกเป็นเป้าโจมตีเยาะเย้ยของปูเป้ สาวเซอร์สุดๆ และ ออดี้ กระเทยปากจัด เกือบสว่างแล้วที่สาวใหญ่กลับออกมาจากห้องนั้นด้วยใบหน้าแจ่มใส พร้อมกับเงินสดเกือบหนึ่งล้านบาท แผนอ่อยเหยื่อได้เริ่มขึ้นแล้ว
สุธีตามไปพบนัยน์นภาถึงสถานออกกำลังกายเพื่อเสนอขายพลอยย้อมสี คุณเนตรเสลา สิงขรก็มาพบเข้าพอดีจึงรับเอาพลอยไปให้คุณเนตรเสลาดู ซึ่งหากเนตรเสลาเกิดสนใจและสั่งซื้อพลอยล็อตนี้จากสุธี มหกรรมการย้อมแมวขายระดับโลกจะต้องตามมาอย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของประเทศไทยอย่างมหาศาล นัยน์นภาจึงตัดสินใจเล่าเรื่องนี้ให้พอล แอริงตันฟังหวังให้เขาใช้ความเป็นหุ้นส่วนของคราวน์ ไดม่อน ยับยั้งคุณเนตรเสลาไม่ให้ซื้อพลอยเหล่านั้น แต่พอลกลับมีแผนการที่จะใช้ประโยชน์จากเรื่องที่รับรู้เพื่อกำจัดเนตรเสลาให้พ้นไปจากคราวน์ ไดม่อน โดยเร็ววันขึ้น
เมื่อ พอล โทรศัพท์มาบอกว่ามีเอเย่นต์ทางออสเตรเลียสนใจจะสั่งซื้ออัญมณีจากคราวน์ ไดม่อน โดยเฉพาะทับทิมกับไพลินล้อมเพชร ทั้งสองมองเห็นลู่ท่างที่จะทำกำไรมหาศาลกับพลอยย้อมสีหนึ่งพันเม็ดที่ซื้อมาจากสุธี โดยนายสุทธิ์ที่ห้ามซื้อพลอยนี้ตั้งแต่แรกได้กลับใจและให้ความร่วมมือโดยแนะนำว่าให้ทำสองล็อต โดยใช้ใบอินวอยซ์เดียวกัน คนทั้งสองมัวแต่ปลื้มกับผลประโยชน์ที่จะได้ จนลืมไปว่าเหตุใดนายสุทธิ์ผู้ตงฉินจึงกลับใจมาช่วยพวกเขาทำสิ่งที่ผิดกฎหมาย
นัยน์นภาสงสัยว่า พอล แอริงตัน จะเป็นคนคนเดียวกับ ปรมี สุริยกานต์ เนื่องจากหล่อนนำแหวนทองคำลงยาประดับเพชรพลอยรูปพวงองุ่นซึ่งเป็นชิ้นหนึ่งในชุดเครื่องประดับอันเป็นมรดกตกทอดมาถึงคุณหญิงดาราและถูกเนตรเสลาใช้มารยาจนได้ครอบครองเครื่องประดับชุดนี้ทั้งชุด ก่อนที่คุณหญิงดาราจะพาบุตรชายหายสาบสูญไป เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาคุณเนตรเสลาได้ให้นัยน์นภานำแหวนวงนี้ไปตัดต่อเพื่อจะมอบให้สิงขร หญิงสาวเกิดความเสียดายเพราะเป็นของเก่าอยากจะเก็บไว้ให้เจ้าของเดิมหรือทายาท บังเอิญรถที่ขับประสบอุบัติเหตุ แหวนวงนี้ร่วงออกจากกระเป๋ากลิ้งเข้าไปใต้เบาะ จึงพ้นจากสายตาพลเมืองดีที่กรูกันเข้ามาช่วยก่อนจะควักกระเป๋าถือของหล่อนไปเป็นของชำร่วย นัยน์นภาจึงเก็บแหวนวงนี้ซ่อนไว้ จวบจนหล่อนถูกเดินชนจนกระเป๋าถือหลุดจากไหล่ แหวนทองลงยารูปพวงองุ่นกลิ้งออกมาต่อหน้าต่อตาพอล ทำให้ชายหนุ่มผู้ได้เห็นแหวนเพียงแวบเดียวอยากสั่งทำแหวนแบบนี้สักวง พร้อมคำจารึกว่า To dara with love ซึ่งเป็นคนจารึกเดียวกับที่อยู่ในแหวนต้นแบบ ด้วยเวลาเพียงเสี้ยววินาทีที่เขาได้เห็นไม่มีทางเป็นไปได้ที่พอลจะทันอ่านคำจารึกที่อยู่ด้านในของแหวน สิ่งที่ยืนยันความมั่นใจอีกอย่างก็คือรอยแผลเป็นเล็กๆ ที่หางคิ้วขวาอันเคยเป็นตำแหน่งที่ตั้งของไฝเม็ดเขื่องตามรูปที่หล่อนเคยเห็นอยู่ในอัลบั้มเก่าเก็บเพียงแต่ พอล แอริงตัน ไม่ได้สวมแว่นสายตาหนาเตอะเหมือน ปรมี สุริยกานต์ นัยน์นภา ลืมนึกถึงวิวัฒนาการของเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ทำได้มากกว่า คอนแทคเลนส์
คุณหญิงอรอุษา ลูกค้าคนสำคัญของคราวน์ ไดม่อน สั่งให้เนตรเสลาช่วยหาเครื่องประดับที่ทำจากมรกตรัสเซีย โดยจะสู้ราคาไม่อั้น ปรมีรับทราบข่าวนี้ด้วยความลิงโลด แผนที่สามได้เริ่มขึ้นในสมองโดยคุณสุทธิ์ได้ไปหาข้อมูลและภาพถ่ายสร้อยอุบะล้ำค่าซึ่งมีลวดลายวิจิตรพิสดาร ตรงกลางเป็นมรกตน้ำงามรูปลูกแพ น้ำหนักถึง 47 กะรัต ซึ่งเดิมเคยประดับบนยอดมงกุฎเพชรของ ซารินา อเล็กซานดรา แห่งราชวงศ์โรมานอฟ ปรมีขอให้คุณสุทธิ์หามรกตที่มีขนาดและน้ำหนักเท่าหรือใกล้เคียงกัน เพื่อมาทำเช็ทติ้งให้เหมือนต้นแบบในภาพ ก่อนที่จะนำไปหลอกขายให้กับเนตรเสลา ความจะแตกว่าเป็นของทำเทียมก็เมื่อของถึงมือคุณหญิงอรอุษาแล้ว
ปรมีได้รับเชิญจากเนตรเสลาให้มาร่วมงานในวันเกิดนัยน์นภาซึ่งคุณเนตรเสลาได้จัดเลี้ยงเป็นการภายในเฉพาะสี่คนที่ผับหรูชั้นใต้ดินของอาคารที่บริษัทคราวน์ ไดม่อนเปิดทำการอยู่ สาวใหญ่พยายามพูดเป็นนัยให้ปรมีรู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างสิงขรและนัยน์นภา ขากลับปรมีขอร้องให้นัยน์นภาไปส่งเขาที่คอนโดเพราะเขาเตรียมของขวัญไว้ให้หล่อน ที่นั่น ตลอดทางที่นั่งรถกลับชายหนุ่มคิดหาทางที่จะให้หญิงสาวยินยอมขึ้นไปบนที่พักของเขาแต่โดยดี ทีแรกนัยน์นภาปฏิสเธ แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าอาจพบหลักฐานบางอย่างที่แสดงว่า พอล คือ ปรมี สุริยกานต์ หญิงสาวจึงยอมตามเขาขึ้นไปบนเพนท์เฮ้าส์ซึ่งอยู่ชั้นบนสูงสุดและมีลิฟท์เป็นส่วนตัว เมื่อลิฟท์เปิดออกนัยน์นภาก็ต้องตะลึงกับกุหลาบแดงจำนวนมากมายที่ประดับตั้งแต่หน้าลิฟท์จนถึงในห้อง โดยเฉพาะของขวัญวันเกิดที่หลอ่นหมายตาไว้ว่ากำลังเก็บเงินจะซื้อมาเป็นสมบัติของตัวเอง คือ สร้อยคอทองคำขาวห้อยจี้เพชรเล็กๆ รูปดาว ถูกบรรจงสวมลงบนคอ บรรยากาศที่ตลบไปด้วยไอรักปลุกเร้าให้ปรมีเกิดความต้องการตามธรรมชาติโดยที่นัยน์นภาเองก็ไม่อาจขัดขืน เนื่องจากเคลิบเคลิ้มตื่นตะลึงไปกับรสสัมผัสจวบจนแผ่นหลังกระทบกับที่นอนหญิงสาวจึงรู้สึกตัวและต่อต้าน แต่ภาพถ่ายที่ตั้งอยู่บนโต๊ะเล็กข้างเตียงกลับทำให้หญิงสาวตัวชา จนหยุดการเคลื่อนไหวไปชั่วขณะ ภาพในกรอบเป็นภาพของ พอล แอริงตัน ในวัยรุ่น ยืนขนาบบิดาเลี้ยงชาวต่างประเทศ อีกด้านหนึ่งเป็นสุภาพสตรีชาวไทย หน้าตาคมคาย นัยน์ภาจำได้แม่นยำว่าเธอคือคุณหญิงดารา ภรรยาเอกของ ม.ล.ปารมี ผู้ล่วงลับ อาการนิ่งขึงของหญิงสาวทำให้ปรมีรู้สึกตัว นัยน์นภาตื่นจากภวังค์ขณะปรมีกำลังติดกระดุมเสื้อที่ถูกปลดออกหญิงสาวกรีดร้องผงะหนีมือนั้น ถลาวิ่งไปที่ลิฟต์กดปุ่มให้เลื่อนลงอย่างรวดเร็ว โดยลืมนึกถึงสภาพตัวเองอย่างสิ้นเชิง
เมื่อสร้อยมรกตเส้นที่ทำเทียมจาก อาย ออฟ โรมานอฟ เสร็จเรียบร้อย คเชนทร์จึงปลอมตัวเป็นนักธุรกิจชาวสิงคโปร์ไปเสนอขายสร้อยให้คุณเนตรเสลา โดยมีเอกสารยืนยันจากศูนย์อัญมณีโลก สิงขรเตือนให้นึกถึงกำไรอีกเท่าตัวหากนำไปปล่อยให้คุณหญิงอรอุษา ซึ่งประกาศจะสู้ราคาไม่อั้น เนตรเสลาจึงขอให้คุณหญิงอรอุษาช่วยพูดกับสามี ที่ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่งให้ช่วยปล่อยโอดีฉุกเฉิน คเชนทร์และพวกจึงกลับออกมาจากคราวน์ ไดม่อน พร้อมด้วยเงินสดๆ สามสิบล้านบาท เงินจำนวนนี้สามารถทำให้จำนวนหุ้นของคราวน์ ไดม่อน ที่ปรมีถืออยู่ในมือเพิ่มขึ้นเป็น 52% มากพอที่จะเขี่ยเนตรเสลาลงจากตำแหน่งประธานบอร์ดอย่างง่ายดาย
คุณหญิงอรอุษาส่งคนมารับสร้อยไปทันทีเพื่อนำไปตรวจสอบก่อนจะโอนเงินที่เหลืออีกหกสิบล้านบาทตามราคาที่คุณเนตรเสลาบอกขาย แต่คนทั้งสองก็กระหยิ่มใจได้เพียงชั่วข้ามคืน เพราะเช้าวันรุ่งขึ้นคุณหญิงอรอุษาก็ให้คนนำสร้อยมาคืนพร้อมเอกสารจากศูนย์วิจัยอัญมณี แถมด้วยจดหมายที่เขียนมาด่าอย่างสุภาพอีกหนึ่งฉบับ นัยน์นภาถูกเรียกตัวมาซักถามว่าได้พูดให้ใครฟังถึงเรื่องที่คุณหญิงอรอุษาสั่งให้หามรกตรัสเซียบ้างหรือไม่ หญิงสาวปฏิเสธ
คุณเนตรเสลาเริ่มมีอารมณ์แปรปรวนจากการที่ต้องสูญเงินไปหลายสิบล้านบาท ชายหนุ่มที่หมายมั่นจะจับให้อยู่มือก็หายหน้าไปตั้งแต่คราวเกิดเรื่องในวันเกิดนัยน์นภา สาวใหญ่จึงตกลงใจจะไปอเมริกากับคณะของท่านผู้หญิง พิศมร ซึ่งกำลังจะเดินทางไปประชุมสภาสตรีแห่งโลกที่ลอสแองเจลิส เป้าหมายของเนตรเสลาคือนำสร้อยมรกตไปปล่อยให้เพื่อนชาวยิว และถือโอกาสทำศัลยกรรมเสียด้วยเลย หลังจากคุณเนตรเสลาเดินทางไปอเมริกาแล้ว คราวน์ ไดม่อน จึงได้รับจดหมายจากทางออสเตรเลียว่าสินค้าที่ส่งไปล๊อตที่สองเป็นพลอยย้อมสี เขาจะอายัดของไว้ทั้งหมดโดยไม่ยอมจ่ายเงิน สิงขรรีบโทรศัพท์ทางไกลข้ามทวีปไปหาเนตรเสลาซึ่งกำลังอยู่ในระยะพักฟื้น หลังการผ่าตัดเนื่องจากเห็นภาพข่าวทางโทรทัศน์เสนอข่าวเรื่องคราวน์ ไดม่อน กำลังมีปัญหากับสินค้าที่ส่งไปต่างประเทศ และถูกอายัดสินค้าไว้ทั้งหมด เป็นผลให้ราคาหุ้นของบริษัทปรับตัวลดลง เนตรเสลาแทบเป็นลมคาโทรศัพท์เมื่อสิงขรโทรไปบอก แต่ความมั่นใจในรูปลักษณ์ใหม่ของตนเอง ว่าจะสามารถมัดหัวใจของพอล แอริงตันสำเร็จ ทำให้สาวใหญ่คลายความวิตกกังวลลงไปได้บ้าง
หากไม่ได้ยินเสียงปรมีก็คงจำไม่ได้ว่าสาวน้อยรูปร่างอ้อนแอ้นเอวบางตรงหน้าคือคุณเนตรเสลา อดีตสาวเจ้าเนื้อ หลังจากความตื่นตะลึงผ่านพ้นไป ความสังเวชแกมขบขันก็เข้ามาแทนที่ ยังไม่ทันได้นั่งโต๊ะคุณเนตรเสลาก็เจอะกับคู่ปรับเจ้าเก่าเพื่อนนักเรียนออสเตรเลียของพอล แอริงตัน คือ ปูเป้ กับกระเทยออดี้ วาจาเชือดเฉือนอย่างไม่บันยะบันยังของออดี้ ทำให้สาวใหญ่ในร่างสาวน้อยโกรธจนพูดไม่ออก แต่ก็ยังไม่วายปล่อยหมัดเด็ดเมื่อกล่าวว่าสิงขรและนัยน์นภากำลังจะมีข่าวดี เนื่องจากทั้งคู่ได้เกินเลยคำว่าคนรักไปเสียแล้ว เมื่อกลับมาถึงบ้านพัก คุณเนตรเสลาจึงยื่นคำขาดว่าหากสิงขรไม่รีบรวบรัดจัดการนัยน์นภา หล่อนจะยกลูกเลี้ยงสาวให้สุธีไปเสียเลย
นัยน์นภานึกประหลาดใจ เมื่อมารดาเลี้ยงบอกให้จัดของสำหรับไปปิกนิดบนเรือยอร์ชกับพอล แต่โทรศัพท์เมื่อตอนห้าทุ่มชวนไปเที่ยวเกาะ เป็นไปได้อย่างไรในเมื่อปรมีคุยโทรทัศน์กับหล่อนอยู่จนค่อนคืน จึงได้วางสายไป แต่กระนั้นหญิงสาวก็เตรียมอาหารสำหรับสี่คนเอาลงไปไว้ในเรือ เมื่อถึงเวลานัดหมายแล้วพอลยังไม่ปรากฏตัว เนตรเสลาจึงทำทีเป็นโทรศัพท์ไปถามได้ความว่าชายหนุ่มยังอยู่ในเมือง จึงสั่งให้สิงขรไปลงเรือกับนัยน์นภาล่วงหน้าไปคอยที่สุสานหอย ซึ่งเธอจะขับรถไปรับชายหนุ่มไปลงเรือที่นั่น สิงขรสารภาพว่าทุกสิ่งที่เขากำลังจะทำต่อจากนี้ก็เพราะเป็นคำสั่งของเนตรเสลาทั้งสิ้น ชายหนุ่มทอดสมอใกล้เกาะแห่งหนึ่ง แต่นัยน์นภาคราวนี้มาในมาดที่พร้อมจะต่อสู้เพื่อปกป้องตัวเอง หากสิงขรข่มเหงน้ำใจหล่อนเมื่อใดก็ต้องฆ่าหล่อนให้ตายเมื่อนั้น มิเช่นนั้นหล่อนจะให้การเป็นพยานในศาลคดีที่สิงขรทำฆาตกรรม มล.ปารมี สุริยกานต์ เมื่อสิบปีที่แล้ว
เนตรเสลามาหาพอลที่โรงแรมที่พัก พยายามใช้ชั้นเชิงไก่แก่แม่ปลาช่อน ต้อนให้ชายหนุ่มตกหลุมเสน่ห์แต่ปรมีไม่หลงกล สาวใหญ่จึงทิ้งไพ่ใบสุดท้ายในมือลงด้วยการนำสร้อยคอทองคำขาวห้อยจี้รูปดาวที่หล่อนบอกว่าเด็กรับใช้พบถูกทิ้งอยู่ในถังขยะในห้องของนัยน์นภามาคืนให้ชายหนุ่มสะใจที่เห็นใบหน้าหล่อเหลาคมคายถอดสี แต่เพียงชั่วครู่ปรมีก็ซาบซึ้งในเจตนาใส่ไฟลูกเลี้ยงของสาวใหญ่
เนตรเสลาได้รับการติดต่อจากสิงขรว่านัยน์นภาล่วงรู้ความลับการตายของอดีตสามี นัยน์นภายื่นเงื่อนไขหากสิงขรยอมพาเธอกลับเข้าฝั่งแต่โดยดี เธอก็จะลืมเรื่องราวทั้งหมด หญิงสาวแอบหยิบปืนยิงปลาแล้วขังตัวเองไว้ในแคบิน ขณะสิงขรพูดโทรศัพท์กับมารดาเลี้ยง นัยน์นภาโทรศัพท์หาปรมีได้อีกครั้งเดียว แบตเตอรี่ของโทรศัพท์มือถือปรมีก็หมดลง
กว่ารถที่บรรทุกบัลลูนจะมาถึงก็เกือบค่ำ ปรมีแทบจะขาดใจตายด้วยความห่วงใยสาวคนรักและกว่าที่บอลลูนจะพร้อมบินได้ ก็ล่วงเข้าไปเกือบ 4 ทุ่ม เคราะห์ดีที่เป็นคืนเดือนหงาย และลมไม่เปลี่ยนทิศ ไม่นานนัก คนทั้งหดมก็เห็นเรือยอร์ชสีขาวจอดทอดสมออยู่ใกล้เกาะค้างคาว จอมพลผู้จัดการบริษัทบอลลูนสาขาพังงาซึ่งทำหน้าที่กัปตันได้พาบอลลูนร่อนลงทางด้านหลังเกาะเพื่อไม่ให้เรดาร์ในเรือจับได้ และไม่เป็นที่สังเกตของคนบนเรือ ปรมีลัดเลาะไปบนโขดหินจนลงไปในเรือลำนั้นได้อย่างง่ายดาย แอบดูช่องหน้าต่างเห็นแต่สิงขรฟุบหลับอยู่ที่โต๊ะมีขวดเหล้าและแก้วเหล้าวางอยู่ใกล้มือ เมื่อย่องไปถึงหน้าต่างเคบิน จึงเห็นนัยน์นภานั่งตัวตรงหันกระบอกปืนยิงปลาไปที่ประตูท่าทางบอกให้รู้ว่าเธอจะยิงทุกคนที่ล่วงล้ำประตูบานนั้นเข้ามา หญิงสาวได้รับการช่วยเหลือจนปลอดภัยก่อนที่สิงขรจะตื่นขึ้นมาพบและถูกรรมเก่าตามสนองโดยถูกคานใบเรือฟาดเข้ากลางหลังจนสลบ
เช้าวันที่มีการประชุมบอร์ด เนตรเสลาถูกปูเป้และออดี้ แกล้งถ่วงเวลาไว้จนเข้าประชุมช้าไปถึงครึ่งชั่วโมงเมื่อไปถึงจึงพบว่าที่ประชุมได้ลงมติเลือกประธานคนใหม่เรียบร้อยแล้ว เขาผู้นั้นคือ ปรมี สุริยกานต์ หรือ พอล แอริงตัน สาวใหญ่เพิ่งรู้ตัวว่าชายหนุ่มเป็นผู้อยู่เบื้องหลังแผนการหลอกลวงให้หล่อนต้องสูญเสียเงินหลายสิบล้าน เพราะจำคเชนทร์และแดเนียลได้ นัยน์นภาก็กลับมาอย่างไม่มีร่องรอย ส่วนสิงขรถูกจับพร้อมซัดทอดว่าเธอเป็นผู้บงการให้สังหาร ม.ล.ปารมี ความผิดหวัง เสียใจถาโถมเข้ามาแบบไม่รู้ตัวทำให้สาวใหญ่ตกอยู่ในอาการวิกลจริต ส่งเสียงกรีดร้องไปตลอดทางที่ถูกตำรวจคุมตัวออกไป
สิงขรถูกศาลพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต ในขณะที่เนตรเสลาได้รับการรอลงอาญาไว้ก่อนจนกว่าจะหายจากอาการทางจิต สุธีถูกจับในข้อหาหลอกลวงต้มตุ๋น คเชนทร์และแดเนียลกลับออสเตรเลียเพื่อดำเนินธุรกิจซันไรซ์ บอลลูน เอนเตอร์ไพร์ต่อไป ส่วนปรมีและนัยน์นภาแต่งงานกันในอีกสองสามเดือนต่อมา และช่วยกันกับคุณสุทธิ์บริหารงานคราวน์ไดม่อนให้เจริญรุ่งเรืองสืบต่อไป ... จบบริบูรณ์...