ละคร พิรุณพร่ำรัก

ชามินต์ (อามีนา กูล) เป็นเด็กกำพร้าที่ได้รับการอุปการะทุนการศึกษานักเรียนแพทย์จากตระกูลชาน ซึ่งเป็นหนึ่งในสิบตระกูลใหญ่แห่งเกาะฮ่องกง พอเรียนจบเธอก็เข้าทำงานเป็นแพทย์ในโรงพยาบาลของตระกูลชาน ทุกๆ วันหลังเลิกงาน ชามินต์จะเดินจากโรงพยาบาลเพื่อกลับที่พักซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก วันหนึ่งหญิงสาวได้พบชายแปลกหน้านอนสลบเนื้อตัวเปียกปอนอยู่ในตรอกข้างทาง เธอตัดสินใจพาเขากลับไปที่ห้องพัก เมื่อตรวจดูอาการก็พบว่าตามร่างกายของเขามีรอยฟกช้ำจากการถูกทำร้ายและมีอาการไข้ขึ้นสูง เธอจึงดูแลจนเขาหายไข้ เมื่อชายคนนั้นฟื้นขึ้นมากลับพบว่าเขาจำอะไรไม่ได้เลย ชามินต์ตั้งชื่อให้เขาว่า โลแกน (ธนิน มนูญศิลป์) โลแกนเป็นชายหนุ่มที่ร่าเริงสดใส ขี้เล่น ซึ่งแตกต่างกับชามินต์อย่างสิ้นเชิง ชามินต์พยายามซักถามถึงที่มาของโลแกนเพื่อหาทางพาเขากลับไปส่งบ้าน แต่โลแกนก็จำอะไรไม่ได้สักอย่าง มีเพียงอย่างเดียวที่เขารู้สึกก็คือเขาไม่ชอบโรงพยาบาล โดยไม่รู้เหตุผลว่าทำไม ดังนั้นเมื่อชามินต์ต้องการให้เขาไปตรวจที่โรงพยาบาล โลแกนจึงปฏิเสธหัวชนฝาจนชามินต์ยอมแพ้ และให้เขาพักอยู่กับเธอในช่วงแรกไปก่อน จนกว่าจะจำอะไรได้

แม้ชามินต์จะเป็นคนไว้ตัวและดูเย็นชา แต่ความเอาใจใส่ที่เธอมีต่อโลแกนทำให้เขาประทับใจ โลแกนจึงพยายามที่จะตอบแทนเธอด้วยการทำอาหารเช้าและเย็นให้ คอยปลุกเธอให้ตื่นไปทำงาน ทำตัวเป็นหมาหงอยในยามที่เธอหงุดหงิดและอารมณ์เสีย แถมวันไหนกรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์ว่าจะมีฝนตก โลแกนก็จะกางร่มเดินไปรอรับที่หน้าโรงพยาบาลทุกครั้ง ชามินต์สร้างกำแพงไม่สนใจผู้ชายคนไหนนอกจาก เดนนิส (วฤษฎิ์ ศิริสันธนะ) นายแพทย์หนุ่มลูกชายเจ้าของโรงพยาบาลที่เธอทำงานเท่านั้น แต่ชามินต์ก็รู้ดีว่าคนอย่างเธอต่ำต้อยเกินกว่าที่หนุ่มหล่อพ่อรวยอย่างเขาจะหันมามอง เมื่อโลแกนก้าวเข้ามาในชีวิตของชามินต์ เธอจึงรู้สึกเหมือนได้รับการเติมเต็มช่องว่างที่ขาดหายไป ชามินต์พบว่าชีวิตของเธอเริ่มมีความหมายและมีความสำคัญกับใครบางคน ทุกวันที่มีโลแกนอยู่ข้างๆ ทำให้เธอมีความสุขและสดชื่น หนุ่มบ๊องสมองเสื่อมคอยทำให้เธอหวั่นไหวใจสั่นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เช่นเดียวกับโลแกนที่ไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าได้รักเธอ หลายครั้งที่ชามินต์พยายามหักห้ามใจตัวเองไม่ให้สนใจเขามากไปกว่าที่ควรจะเป็น เพราะกลัวว่าสักวันเมื่อเขาจำอะไรได้ เขาจะจากเธอไป

และแล้ววันที่ชามินต์กลัวก็มาถึง หญิงสาวนัดหมายจะพาโลแกนไปทานมื้อค่ำด้วยกันที่ร้านอาหารหลังเลิกงาน โลแกนสัญญาว่าจะมารับที่หน้าโรงพยาบาลเหมือนทุกครั้ง แต่เธอกลับต้องรอเก้อเพราะอยู่ๆ โลแกนก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย แท้จริงแล้วโลแกนถูกลูกน้องของเดนนิสพาตัวไป เดนนิส เป็นเพื่อนรักกับโลแกน เขาให้คนออกตามหาตัวโลแกนตั้งแต่วันแรกที่หายตัวไป แต่ไม่มีใครพบร่องรอยหรือได้ข่าว จนกระทั่งวันหนึ่งเดนนิสนั่งรถผ่านถนนใกล้โรงพยาบาล เขาเห็นโลแกนเดินอยู่ข้างทาง จึงจอดรถและวิ่งไล่ตาม แต่โลแกนก็หายตัวไป จากนั้นเดนนิสจึงส่งลูกน้องมาดักรอ ด้วยหวังว่าจะเจอโลแกนอีกครั้ง และในที่สุดลูกน้องก็พบตัวโลแกนในขณะที่กำลังเดินเหม่อมองท้องฟ้าอยู่ริมถนน ลูกน้องจึงเข้าแสดงตัว แต่โลแกนจำใครไม่ได้และคิดจะหนี ลูกน้องจึงต้องเล่นงานเขาจนสลบและพาตัวกลับไปให้เดนนิส ชามินต์ออกตามหาโลแกนในทุกๆ ที่ที่คิดว่าเขาจะไป แต่ก็ไม่พบ หญิงสาวกลับไปที่ห้องด้วยความปวดร้าว เธอไม่รู้ว่าเขาจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร ชามินต์เศร้าใจมาก แม้ เหม่ยหง (คัคกิ่งรักส์ คิคคิคสะระณัง) เพื่อนพยาบาล และ หมอโจ (โฆษวิส ปิยะสกุลแก้ว) จะเค้นถามเท่าไร เธอก็ไม่ได้เล่าเรื่องโลแกนให้ใครฟัง

โลแกนของชามินต์ แท้จริงคือ โลแกน ลู หรือ มิสเตอร์ลู (ธนิน มนูญศิลป์) เศรษฐีนักธุรกิจอันดับหนึ่งของฮ่องกง หลังจากที่บิดามารดาเสียชีวิตไป โลแกนก็ต้องดูแล ไลลา ลู (ชนิดาภา พงศ์ศิลป์พิพัฒน์) น้องสาวคนเดียวที่กำลังเรียนดนตรีปีสุดท้ายในมหาวิทยาลัย แต่ด้วยภาระทางบริษัทและกิจการมากมายที่พ่อแม่ทิ้งไว้ให้ ทำให้โลแกนต้องทำงานหนักและไม่มีเวลาเอาใจใส่เธอมากนัก จนกระทั่งไลลาเดินมาบอกให้เขารู้ว่าเธอตั้งท้อง แต่ไม่ยอมบอกว่าใครคือพ่อของเด็ก แม้ว่าโลแกนจะโกรธที่น้องสาวทำตัวเหลวแหลก แต่เขาก็ต้องทำใจยอมรับเรื่องที่เกิดขึ้น และรับเลี้ยง เด็กชายคอลินน์ ลู (ปัณณทัต เจียมศิริกาญจน์) มาเป็นลูกของตัวเอง หลังจากที่คลอดคอลินน์ได้ไม่นาน ไลลาก็เสียชีวิตอย่างไม่รู้สาเหตุ และทิ้งปริศนามากมายไว้เบื้องหลัง โลแกนจึงพยายามสืบหาความจริงด้วยตัวเอง และพบว่าการตายของน้องสาวเกี่ยวพันกับ เหว่ยซาน (อนันต์ บุนนาค) ซึ่งเป็นบิดาของ นีล่า เหว่ย (อริศรา โรเซ็นดาห์ล) คู่หมั้นของเขา การสืบหานั้นทำให้โลแกนถูกทำร้ายจนสลบ จนได้รับความช่วยเหลือจากชามินต์ในที่สุด

เมื่อโลแกนถูกพาตัวกลับมายังบ้านของตัวเอง เขาได้รับการรักษาและกลับมาจำเรื่องทุกอย่างได้อีกครั้ง แต่สิ่งที่จำไม่ได้ก็คือเรื่องราวที่ไปสืบก่อนที่เขาจะสูญเสียความทรงจำ รวมทั้งเรื่องของเหว่ยซาน และจำไม่ได้ว่าตัวเองหายไปไหนมา แน่นอนว่าความทรงจำช่วงที่อยู่กับชามินต์ก็หายไปเช่นเดียวกัน คอลินน์ ลูเป็นเด็กน้อยจอมแสบแสนซนที่สวนทางกับสุขภาพ เด็กชายวัยห้าขวบเป็นโรคภูมิแพ้ จึงจำเป็นต้องมีหมอประจำตัวมาดูแล และเนื่องจากหมอคนเก่าเพิ่งเกษียณไป เดนนิสจึงขอให้ชามินต์มาช่วยดูแลคอลินน์ซึ่งเป็นลูกชายของเพื่อนรักอาทิตย์ละสองครั้ง หญิงสาวตอบรับอย่างเต็มใจ ชามินต์ตกใจสุดขีดเมื่อพบว่าโลแกนคือเศรษฐีตระกูลลู และเขาจำเธอไม่ได้เลยแม้แต่น้อย หญิงสาวไม่คิดจะปริปากพูดหรือซักถามอะไรโลแกนถึงความสัมพันธ์ที่เธอกับเขาเคยมีต่อกันในช่วงเวลาที่ผ่านมา เธอทำท่าเย่อหยิ่งเย็นชากับเขา จนโลแกนแปลกใจในท่าทียโสของเธอ และทำให้เขาไม่ค่อยชอบขี้หน้าเธอนัก แต่หนูน้อยคอลินน์กลับติดเธอแจ และเรียกร้องอยากให้ชามินต์ทำหน้าที่เป็นแม่คนใหม่

ชามินต์พยายามหลีกเลี่ยงที่จะพบกับโลแกน เพราะเธอรู้ดีว่าในหัวใจเธอยังมีเขาอยู่ตลอดเวลา แต่วันนี้เขาไม่ใช่โลแกนหนุ่มสมองเสื่อมที่มีแต่รอยยิ้มและความจริงใจให้กับเธอ เขาเป็นมหาเศรษฐีผู้มีอิทธิพล พ่วงสถานะพ่อหม้ายลูกติด แถมมีคู่หมั้นสาวสวยรวยโก้เก๋ที่กำลังจะแต่งงานด้วย มีชีวิตที่แตกต่างกับเธอราวฟ้ากับเหว ชามินต์ได้รู้จักกับนีล่าคู่หมั้นของโลแกน นีล่าถูกชะตากับชามินต์และมักชวนเธอไปกินข้าวอยู่บ่อยๆ จนนีล่ากล้าเล่าความในใจเกี่ยวกับคนที่เธอรักให้ชามินต์ฟัง นั่นยิ่งตอกย้ำความเจ็บปวดในหัวใจของแพทย์สาว ทุกครั้งที่ชามินต์มาดูแลคอลินน์ เธอจะต้องได้เจอกับโลแกนและต้องปะทะฝีปากกับเขาอยู่บ่อยๆ จนโลแกนนึกสนุกและชอบแกล้งเธอ เพราะรู้สึกคุ้นเคยกับเธอเหมือนรู้จักกันมาก่อน และเริ่มให้ความสนใจเธอมากขึ้น จนกระทั่ง คลากค์ คูเกอร์ (นัฐฐพนธ์ ลียะวณิช) มาเฟียหนุ่มหล่อท่าทางร้ายกาจเข้ามาตีสนิทกับชามินต์ ทำให้โลแกนเริ่มรู้ตัวว่าเขาชอบเธอจริงจัง โลแกนเริ่มใกล้ชิดและแสดงตัวเป็นเจ้าของชามินต์มากขึ้น เขามักจะสั่งให้เธอไปไหนมาไหนกับเขาอยู่บ่อยครั้ง จนชามินต์กลัวว่านีล่าจะเข้าใจผิด แต่โลแกนก็อ้างว่าทำเพื่อคอลินน์

คลากค์เป็นเจ้าพ่อที่เป็นศัตรูทางธุรกิจกับโลแกน คลากค์เข้ามาตีสนิทกับชามินต์ แสดงตัวให้รู้ว่าเขาสนใจเธอ และต้องการแย่งเธอจากโลแกน การเข้ามาของคลากค์ทำให้โลแกนไม่พอใจ และบอกให้ชามินต์รู้ว่าเขาไม่ชอบขี้หน้าหมอนี่ และบอกให้เธออยู่ห่างจากคลากค์ไว้ แต่ผู้หญิงอย่างชามินต์หรือจะเชื่อใครง่ายๆ เธอยอมรับนัดทานข้าว และไปไหนมาไหนกับคลากค์เพื่อยั่วให้โลแกนโกรธ เหนือสิ่งอื่นใดคือเธอสงสัยว่าการที่คลากค์เข้ามาใกล้ชิดเธอนั้น เขามีจุดประสงค์อื่นมากกว่าความสนใจในตัวเธอ และเธอจะต้องรู้ให้ได้ว่ามันคือเรื่องอะไรกันแน่ ขณะเดียวกันเหว่ยซานพยายามเร่งรัดให้โลแกนกับนีล่าแต่งงานกัน แต่นีล่ารู้ดีว่าจะไม่มีการแต่งงานเกิดขึ้น เพราะโลแกนไม่ได้รักเธอ ที่เขายอมหมั้นกับเธอเพียงเพราะเป็นข้อตกลงของบรรพบุรุษทั้งสองตระกูล และตัวนีล่าเองก็ไม่ได้รักโลแกนเช่นกัน เธอมีคนที่แอบชอบอยู่แล้วคือเดนนิส คุณหมอผู้ซึ่งยิ้มและใจดีกับทุกคนยกเว้นเธอ เดนนิสมักจะตีหน้าขรึมและทำดุใส่อยู่บ่อยๆ จนนีล่าน้อยใจ แต่แกล้งทำประชดแสดงออกในทิศทางตรงกันข้ามเพื่อให้เห็นว่าเธอไม่ได้สนใจเขา

นีล่าชอบเอาเรื่องของเดนนิสมาปรับทุกข์ให้ชามินต์ฟังแต่ไม่ได้เอ่ยชื่อ ทำให้ชามินต์เข้าใจว่านีล่าหมายถึงโลแกน ชามินต์จึงพยายามที่จะตีตัวออกห่างจากโลแกน เพราะกลัวนีล่าจะรู้ความจริงในใจที่เธอมีต่อโลแกน และบอกให้โลแกนหันมาสนใจนีล่ามากขึ้น โลแกนไม่ได้ใส่ใจกับคำพูดของชามินต์ เพราะเขารู้ดีว่านีล่าแอบชอบเดนนิสมาตั้งแต่สมัยเด็กที่พวกเขาสามคนเป็นเพื่อนกัน ย้อนไปในอดีตตระกูลลูเคยเป็นตระกูลเจ้าพ่อผู้ยิ่งใหญ่ และเป็นพี่ใหญ่สุดในการทำธุรกิจมืดมากับตระกูลเหว่ยและตระกูลชาน แต่ตระกูลลูและตระกูลชานคิดล้างมือจากธุรกิจมืดในสมัยปู่ของโลแกน หลังจากนั้นมาทั้งสองตระกูลก็เดินหน้าทำแต่ธุรกิจที่ขาวสะอาดและตรวจสอบได้ ทำให้เหลือเพียงตระกูลเหว่ยที่ยังพัวพันกับธุรกิจนอกกฎหมาย แม้จะเดินคนละเส้นทาง แต่ทั้งสามตระกูลก็ยังเป็นเพื่อนกันต่อมาในรุ่นลูกและหลาน รวมถึงมีพันธะสัญญาจากรุ่นบรรพบุรุษว่าคนในตระกูลลูและตระกูลเหว่ยจะต้องแต่งงานกัน เหว่ยซานสั่งให้ลูกน้องคอยจับตาความเคลื่อนไหวของโลแกน ลูกน้องรายงานว่าโลแกนให้ความสนิทสนมกับชามินต์เกินเหตุ

เหว่ยซานไม่พอใจในความสนิทสนมของทั้งคู่ เพราะกลัวว่าโลแกนจะไม่แต่งงานกับนีล่า หากเป็นเช่นนั้นธุรกิจผิดกฎหมายของเขาอาจจะต้องปิดฉากลง เหว่ยซานต้องการอิทธิพลของตระกูลลูเพื่อคุ้มครองและส่งเสริมธุรกิจมืดของตน เพราะแม้ว่าตระกูลลูจะแสดงตัวว่าไม่ยุ่งเกี่ยวกับขบวนการนอกกฎหมาย แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าตระกูลลูยังมีอำนาจและอิทธิพลสูงในฮ่องกง เหว่ยซานจึงเป็นคนวางแผนฆ่าพ่อแม่ของโลแกน เพราะพ่อของโลแกนไม่ต้องการให้ตระกูลลูหวนกลับคืนสู่วงการดำมืด และสั่งฆ่าไลลาน้องสาวของโลแกน เพราะเธอบังเอิญรู้แผนที่เขาวางไว้ ที่เหว่ยซานต้องทำทุกอย่างเช่นนี้เพราะเขากลัวว่าหากวันหนึ่งข้างหน้าเมื่อเขาตายไป นีล่าซึ่งเป็นทายาทเพียงคนเดียวจะพาธุรกิจไปไม่รอด เขาจึงต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกสาวได้แต่งงานกับเจ้าพ่อตระกูลลู เหว่ยซานจึงส่งคนให้ไปตามเก็บชามินต์ เพื่อเขี่ยเธอออกไปจากชีวิตของโลแกน แต่ลูกน้องกลับทำพลาด ชามินต์แค่ถูกยิงบาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น

ทั้งๆ ที่โลแกนเกลียดโรงพยาบาล เพราะกลัวว่าจะได้รับข่าวร้ายเหมือนครั้งที่เขาต้องสูญเสียน้องสาวไป แต่ชายหนุ่มกลับรีบมาหาชามินต์ที่โรงพยาบาลด้วยความตกใจ ความห่วงใยของโลแกนที่มีต่อชามินต์ตกอยู่ในสายตาของเดนนิสและนีล่า ทั้งสองรับรู้ได้ทันทีว่าวันนี้โลแกนมีชามินต์อยู่ในหัวใจแล้ว เดนนิสตามมาปลอบใจนีล่า เพราะคิดว่าเธอคงเสียใจเรื่องโลแกน แต่นีล่ากลับบอกว่าเธอดีใจ และบอกให้รู้ว่าเธอชอบเดนนิส ไม่ใช่โลแกนอย่างที่ทุกคนคิด หลังจากนั้นโลแกนก็แสดงความเป็นห่วงและคอยดูแลชามินต์ไม่ให้คลาดสายตา เขาเปิดใจให้เธอรู้ว่าเขาชอบเธอ ไม่ใช่นีล่า และเล่าเรื่องความเป็นมาของตระกูลให้เธอฟัง รวมถึงเรื่องของไลลาผู้เป็นน้องสาว ปริศนาการตายของไลลาและพ่อแม่ ชามินต์ได้เจอกับคลากค์และเริ่มสงสัยในตัวคลากค์ จนกระทั่งสืบรู้ว่าแท้จริงแล้วคลากค์คือผู้ชายที่ทำให้ไลลาท้อง และเขาคือพ่อของคอลินน์ แต่เธอไม่ได้บอกเรื่องนี้ให้ใครรู้แม้กระทั่งโลแกน

คลากค์เล่าความสัมพันธ์ของเขากับไลลาให้ชามินต์ฟัง เขาไม่เคยรู้ว่าไลลาเป็นน้องสาวของโลแกน ทั้งสองรักกันโดยที่ไม่รู้พื้นเพครอบครัวของกันและกัน จนกระทั่งไลลารู้ว่าเขาเป็นลูกมาเฟียตระกูลคูเกอร์ เธอโกรธมากที่เขาไม่บอกความจริง ไลลาจึงหลบหน้าและพยายามหลีกเลี่ยงที่จะพบเขา เพราะเธอรู้ดีว่าโลแกนไม่ต้องการให้ครอบครัวพัวพันกับพวกนอกกฎหมายอีกต่อไป คลากค์พยายามตามหาไลลาแต่ไม่พบ และรู้ข่าวอีกครั้งเมื่อเธอเสียชีวิตลง เขาไม่รู้ว่าเธอท้อง จนกระทั่งมีข่าวว่าโลแกนมีลูกชาย เขาจึงได้แต่แอบสงสัยว่าคอลินน์อาจจะเป็นลูกชายของเขาที่เกิดกับไลลา จึงพยายามมาสนิทด้วย ด้านโลแกนก็มักจะฝันถึงเหตุการณ์ที่ตัวเองเคยอยู่กับชามินต์ที่ห้องพัก แต่ในความฝันเขาไม่รู้ว่าเธอคือใคร เมื่อโลแกนมาหาชามินต์บ่อยๆ ก็สัมผัสได้ถึงความคุ้นเคย และพบว่าเขามีกุญแจห้องสำรองของห้องพักเธอ โลแกนเก็บความสงสัยนี้ไว้ในใจและเริ่มลอบสังเกตพฤติกรรมของชามินต์ที่มีต่อเขา จนกระทั่งวันหนึ่งที่ชามินต์ไม่สบายหนัก ชามินต์เพ้อตัดพ้อถึงสัญญาที่เขาให้ไว้ว่าจะมารับเธอในวันฝนตก แต่เขาไม่กลับมา โลแกนจึงได้รู้ว่าความทรงจำที่ขาดหายไปนั้นอยู่ที่ชามินต์นั่นเอง

และแล้วเรื่องราวในความทรงจำที่หายไปก็พรั่งพรูออกมา ในที่สุดโลแกนก็จำได้ว่าในคืนนั้นก่อนที่เขาจะได้รับบาดเจ็บจนสูญเสียความทรงจำ เขาได้ติดตามสืบเรื่องเกี่ยวกับการตายของพ่อแม่และน้องสาว จนรู้ความจริงว่าเหว่ยซานคือผู้ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมด เหว่ยซานเริ่มไหวตัวทันและมั่นใจว่าโลแกนจะไม่แต่งงานกับนีล่าแน่ เขาจึงตัดสินใจสั่งฆ่าโลแกน แต่บังเอิญนีล่าได้ยินแผนของพ่อ นีล่ารีบไปบอกโลแกนให้ระวังตัว โลแกนจึงคิดซ้อนแผนหาทางจัดการกับเหว่ยซาน แต่เขาไม่ต้องการฆ่าใคร เขาจึงวางแผนที่จะจับเหว่ยซาน โดยให้เดนนิสขอชามินต์แต่งงานท่ามกลางสายตาคนมากมาย เพื่อทำให้เหว่ยซานเชื่อ นีล่าตกใจมาก เพราะความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเดนนิสกำลังไปได้สวย เธอไม่คิดว่าเขาและชามินต์จะหักหลังเธอ แต่คุณหนูลูกสาวเจ้าพ่ออย่างเธอไม่ใช่ผู้หญิงคร่ำครวญ เธอจึงเชิดหน้ามางานแต่งของทั้งสอง ภายใต้ความเจ็บปวดที่ถูกซ่อนไว้ในใจ

พิธีแต่งงานถูกจัดอย่างอลังการในโบสถ์ โลแกนจงใจยืนขึ้นคัดค้านงานแต่งเพื่อให้ตัวเองตกเป็นเป้า แต่เป้าหมายของเหว่ยซานไม่ได้มีแค่โลแกน เหว่ยซานตั้งใจที่จะฆ่าทั้งโลแกนและคอลินน์ผู้เป็นทายาท นีล่าเอาตัวเองเข้ามาขวางทางปืนเพื่อช่วยชีวิตคอลินน์ ทำให้นีล่าได้รับบาดเจ็บ คลากค์ตามเข้ามาในงานพร้อมกับตำรวจอย่างทันเวลา เหว่ยซานยอมมอบตัวแต่โดยดีและสำนึกผิดในสิ่งที่ทำ โชคดีที่นีล่าปลอดภัย เหว่ยซานยอมสารภาพและรับผิดในทุกสิ่งที่ทำลงไป พร้อมฝากให้เดนนิสช่วยดูแลนีล่า คลากค์ยอมรับสารภาพกับโลแกนว่าเขาคือพ่อของคอลินน์ โลแกนทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าต่อยหน้าคลากค์ไปสามหมัดเพื่อระบายความแค้นในใจ ส่วนคอลินน์ก็ยอมรับคลากค์เป็นพ่อเพิ่มอีกหนึ่งคนนอกเหนือจากโลแกน โลแกนขอชามินต์แต่งงานต่อหน้าหลุมศพของพ่อแม่ สัญญาว่าจะรักและดูแลเธอตลอดไป ชามินต์ขอบคุณที่เขาทำให้โลกของเธอเปลี่ยนสี และอดีตอันเจ็บปวดถูกลบเลือน เธอมั่นใจว่าจากนี้ชีวิตเธอจะไม่โดดเดี่ยวและอ้างว้างไปตลอดกาล