ละคร ปลาบู่ทอง

ดู 5,925 ครั้ง / แชร์
ละครออกอากาศ วันเสาร์ วันอาทิตย์
ช่องที่ออกอากาศ ละครช่อง Thai TV
เริ่มออกอากาศ 21 พฤษภาคม 2559
เวลาออกอากาศ 07:00 - 08:00 น.
  
กำกับโดย วลงกรณ์ จับใจ
นำแสดงโดย
ไชยวัฒน์ ผายสุวรรณ ... พระเจ้าพรหมทัต
ปุณฐิภาภัคร์ สุวรรณราช ... เอื้อย/อ้าย
อภิสรา รักชาติ ... นางขนิษฐา
สารดา เอ็งสิรภัส ... นางขนิษฐี
ณัฐพล รัตนิพนธ์ ... เศรษฐีทารก
รุ่งรดิศ รุ่งอมรวานิช ... เจ้าชายอัครา
เพชรชรา วงศ์เทวัญ ... ท้าววิไลวัลย์
เกตน์ศิรณี บุญมา ... เทพฑิฆัมพร
บุญรุ่ง เต๋งจงดี ... องค์อัมรินทร์
รภัทร เอกนิธิเศรษฐ์ ... พระธิดามรกต
ตรินธร สมนาม ... หญิงกิ่ง
กฤตธน การะเกตุ ... ท้าวทรงกลด
ประภัสสร ตั้งอุดมรัตนกุล ... องค์หญิงดารารัตน์
ปุณณดา เมธาฤทธิไกร ... สารภี
รวีกานต์ บุญเกิด ... เพลินพิศ
พรชนก กุหลาบซ้อน ... ชิดชบา
ฑัคสินาภรฐ์ มหาสินานนท์ ... นางกำนัล บุษบง
นพวรรธน์ อภิภัสร์เดชากุล ... ทอง
จักรพงศ์ จันทร์ศิริ ... ขุนจักพงษ์
คิณนพัทธ แก้วดี ... ขุนพิทักษ์
ศิริขวัญ จันทร์ศิริ ... อี่
ณัทชัย ปัญญา ... หัวหมู่เกล้า
ชานน ชูศิลป์ ... ต้น
ทองเอก เพ็ชรมีค่า ... พระเจ้าพรหมฑัตตอนเด็ก
ภัคพิดา ประสพเนตร ... อ้ายตอนเด็ก
วรินทร์ทิรา สุขุมเจริญจิต ... เอื้อยตอนเด็ก
ติณณภพ สร้อยทอง ... เจ้าชายอัคราตอนเด็ก
อัศท์เดช ศิริพันธ์ ... ทองตอนเด็ก
ณัฐพิสุทธิ์ เตมานุวัตร์ ... กิ่งตอนเด็ก
ผู้สร้าง บริษัท ไอพีเอ็ม โปรดักชั่น จำกัด

ภาพนิ่งจากละคร

เรื่องย่อ ปลาบู่ทอง

เศรษฐีทารก (ณัฐพล รัตนิพนธ์) ผู้มีอาชีพจับปลา มีภรรยา 2 คน คนแรกชื่อ ขนิษฐา (อภิสรา รักชาติ) มีลูกสาวชื่อ เอื้อย (ปุณฐิภาภัคร์ สุวรรณราช) ส่วนคนที่สองชื่อ ขนิษฐี (สารดา เอ็งสิรภัส) มีลูกสาวชื่อ อ้าย (ปุณฐิภาภัคร์ สุวรรณราช) และ อี่ (ศิริขวัญ จันทร์ศิริ) วันหนึ่งเศรษฐีทารกพาขนิษฐาไปจับปลาในคลอง ไม่ว่าจะเหวี่ยงแหไปกี่ครั้งก็ได้มาเพียงปลาบู่ทองที่ตั้งท้องตัวเดียวเท่านั้น จนกระทั่งพลบค่ำเศรษฐีทารกพาก็ตัดสินใจที่จะเอาปลาบู่ทองที่จับได้เพียงตัวเดียวกลับบ้าน ทว่าขนิษฐาผู้เป็นภรรยาเกิดความสงสารปลาบู่ ขอให้เศรษฐีทารกปล่อยปลาไป เศรษฐีทารกเกิดบันดาลโทสะจึงฟาดนางขนิษฐาจนตาย และทิ้งศพลงคลอง เมื่อกลับถึงบ้านเอื้อยก็ถามหาแม่ เศรษฐีทารกจึงตอบไปว่าแม่ของเอื้อยได้หนีตามผู้ชายไป และจะไม่กลับมาบ้านอีกแล้ว นับตั้งแต่วันนั้นขนิษฐีผู้เป็นแม่เลี้ยงของเอื้อย และอี่กับอ้ายน้องสาวทั้งสองก็กลั่นแกล้งใช้งานเอื้อยเป็นประจำ โดยที่เศรษฐีทารกไม่รับรู้และไม่สนใจ

เอื้อยคิดถึงแม่มากจึงมักไปนั่งร้องไห้อยู่ริมท่าน้ำ และได้พบกับปลาบู่ทอง ซึ่งเป็นนางขนิษฐากลับชาติมาเกิด เมื่อเอื้อยรู้ว่าปลาบู่ทองเป็นแม่ก็ได้นำข้าวสวยมาโปรยให้ปลาบู่ทองกิน และมาปรับทุกข์ให้ปลาบู่ทองฟังทุกวัน นางขนิษฐีและลูกสาวเห็นเอื้อยมีความสุขขึ้น เมื่อถูกกลั่นแกล้งก็อดทนไม่ปริปากบ่น จึงสืบจนพบว่านางขนิษฐาได้มาเกิดเป็นปลาบู่ทอง และได้พบกับเอื้อยทุกวัน ดังนั้นเมื่อเอื้อยกำลังทำงานนางขนิษฐีก็จับปลาบู่ทองมาทำอาหารและขอดเกล็ดทิ้งไว้ในครัว เอื้อยได้พบเกล็ดปลาบู่ทองก็เศร้าใจเป็นอย่างมาก นำเกล็ดไปฝังดินและอธิษฐานขอให้แม่มาเกิดเป็นต้นมะเขือ เอื้อยมารดน้ำให้ต้นมะเขือทุกวันจนงอกงาม เมื่อขนิษฐีทราบเรื่องเข้าก็โค่นต้นมะเขือ และนำลูกมะเขือไปจิ้มน้ำพริกกิน เอื้อยเก็บเมล็ดมะเขือที่เหลือไปฝังดินและอธิษฐานให้แม่ไปเกิดเป็นต้นโพธิ์เงินโพธิ์ทองในป่า และไม่ให้ผู้ใดสามารถโค่น ทำลาย หรือเคลื่อนย้ายต้นโพธิ์เงินโพธิ์ทองได้

วันหนึ่ง พระเจ้าพรหมทัต (ไชยวัฒน์ ผายสุวรรณ) เสด็จประพาสป่าได้พบกับต้นโพธิ์เงินโพธิ์ทอง โปรดให้นำเข้าไปปลูกในวัง แต่ไม่มีผู้ใดสามารถเคลื่อนย้ายต้นโพธิ์เงินโพธิ์ทองได้ พระเจ้าพรหมทัตจึงประกาศว่าผู้ใดที่เคลื่อนย้ายต้นโพธิ์เงินโพธิ์ทองได้จะให้รางวัลอย่างงาม ขนิษฐีและอ้ายกับอี่เข้าร่วมลองถอนต้นโพธิ์เงินโพธิ์ทองด้วยแต่ไม่สำเร็จ เอื้อยขอลองบ้างและอธิษฐานจิตบอกแม่ว่าขอย้ายแม่เข้าไปปลูกในวัง เอื้อยจึงถอนต้นโพธิ์เงินโพธิ์ทองได้สำเร็จ พระเจ้าพรหมทัตถูกชะตาเอื้อยจึงชวนเข้าไปอยู่ในวังและแต่งตั้งให้เอื้อยเป็นพระมเหสี ฝ่ายขนิษฐีและลูกสาวอิจฉาเอื้อยจึงส่งจดหมายไปบอกเอื้อยว่าเศรษฐีทารกป่วยหนักขอให้เอื้อยกลับมาเยี่ยมที่บ้าน เมื่อเอื้อยกลับมาบ้านนางขนิษฐีก็ได้แกล้งนำกระทะน้ำเดือดไปวางไว้ใต้ไม้กระดานเรือน และทำกระดานกลไว้ เมื่อเอื้อยเหยียบกระดานกลก็ตกลงในหม้าน้ำเดือดจนถึงแก่ความตาย ขนิษฐีให้อ้ายปลอมตัวเป็นเอื้อยและเดินทางกลับไปยังวังของพระเจ้าพรหมทัต

เอื้อยได้ไปเกิดใหม่เป็นนกแขกเต้า เมื่อเกิดใหม่แล้วก็บินกลับเข้าไปในพระราชวัง พระเจ้าพรหมทัตเห็นนกแขกเต้าแสนรู้ ไม่รู้ว่าเป็นเอื้อยกลับชาติมาเกิดก็เลี้ยงไว้ใกล้ตัว อ้ายเห็นดังนั้นก็ไม่พอใจ สั่งคนครัวให้นำนกแขกเต้าไปถอนขนและต้มกิน แม่ครัวถอนขนนกแขกเต้าและวางทิ้งไว้บนโต๊ะ นกแขกเต้าจึงกระเสือกกระสนหลบหนีเข้าไปอยู่ในรูหนู มีหนูช่วยดูและจนขนขึ้นเป็นปกติ แล้วเอื้อยก็บินเข้าป่าไปจนเจอกับพระฤๅษี พระฤๅษีตรวจดูด้วยญาณพบว่านกแขกเต้าคือเอื้อยกลับชาติมาเกิด จึงเสกให้เป็นคนตามเดิม และวาดรูปเด็กเสกให้มีชีวิตเพื่อให้เป็นลูกของเอื้อย เมื่อเด็กนั้นโตขึ้นก็ขอเอื้อยเดินทางไปหาบิดา เอื้อยจึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้บุตรชายฟัง ร้อยพวงมาลัยเพื่อให้บุตรชายนำไปให้พระเจ้าพรหมทัต เมื่อพระเจ้าพรหมทัตได้พบกับบุตรชายของเอื้อยและพวงมาลัย ก็ขอให้เด็กชายเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังว่าได้มาลัยมาอย่างไร เด็กชายก็เล่าตามที่เอื้อยเล่าให้ฟัง เมื่อทราบเรื่องทั้งหมดแล้วพระเจ้าพรหมทัตก็สั่งประหารชีวิตอ้าย อี่ และขนิษฐี และไปรับเอื้อยเพื่อให้กลับมาครองบัลลังก์ร่วมกันอีกครั้ง