ละคร เพียงชายคนนี้ไม่ใช่ผู้วิเศษ

ดู 9,381 ครั้ง / แชร์
ละครออกอากาศ วันพุธ วันพฤหัส
ช่องที่ออกอากาศ ละครช่อง 3
เริ่มออกอากาศ 21 เมษายน 2559
เวลาออกอากาศ 20:20 - 22:50 น.
  
กำกับโดย กฤษฎา เตชะนิโลบล
ประพันธ์โดย กรุง ญ ฉัตร
นำแสดงโดย
เจมส์ มาร์ ... หมอศตวรรษ วินวิวัฒน์
คิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส ... อนุศนิยา วรเลิศลักษณ์/นุศ
ชีรณัฐ ยูสานนท์ ... โสมมิกา พรรณนาราย/โสม
ฐากูร การทิพย์ ... ชยากร
กมลเนตร เรืองศรี ... มิรันตี กิตติธร/มิ
มนตรี เจนอักษร ... นันทพล วรเลิศลักษณ์/เจ้าสัวพล
จินตหรา สุขพัฒน์ ... คุณนายเสาวรส วินวิวัฒน์
สันติสุข พรหมศิริ ... อุดมศักดิ์ พรรณาราย
ดารณีนุช ปสุตนาวิน ... นันทนา
ดารัณ ฐิตะกวิน ... นุดี วรเลิศลักษณ์
ไอริณ ศรีแกล้ว ... นนทิยา วรเลิศลักษณ์
ฝน ธนสุนทร ... นาวิกา วรเลิศลักษณ์
รัชนี ศิระเลิศ ... อังกาบ
จิตรภาณุ กลมแก้ว ... อนุกร วรเลิศลักษณ์/เล็ก
ศรีพรรณ ชื่นชมบูรณ์ ... ประภา
ธนัชพันธ์ บูรณาชีวาวิไล ... ใบเฟิร์น
ภัณฑิลา ฟูกลิ่น ... นิดา/จีน่า
โจโจ้ หลุยส์ ไมอ๊อคชิ ... บก. นพชัย
เฉลิมพล ทิฆัมพรธีรวงศ์ ... แอเซาะ
วิรากานต์ เสณีตันติกุล ... มาเรียม
สุเมธ องอาจ ... ประสงค์
บรมวุฒิ หิรัณยัษฐิติ ... หมอณัฐ
ธรรม์ธัช ธารินทร์ภิรมย์ ... ชาครีย์
เมธัส ตรีรัตนวารีสิน ... คริส
ขุนณรงค์ ประเทศรัตน์ ... ซุปตาร์
ชัยวัฒน์ ทองแสง ... แชป
คุณากร เกิดพันธุ์ ... พ่อของศตวรรษ
ชนาธิป พิสุทธิ์เสรีวงศ์ ... ปริ๊น
ธนวัฒน์ ประสิทธิสมพร ... ดีเจ 1
มารุต ชื่นชมบูรณ์ ... ดีเจ 2
ศิระ รัตนโภคาสถิต ... พิธีกรรายการ
แอนดี้ เขมพิมุก ... ชาติฉกาจ
ผู้สร้าง บริษัท ทองเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด

ภาพนิ่งจากละคร

เรื่องย่อ เพียงชายคนนี้ไม่ใช่ผู้วิเศษ

เมื่อพูดถึงหญิงสาวเลอค่าในแวดวงไฮโซเมืองไทย ทุกคนจะต้องนึกถึงสองคนดังที่เฉิดฉายข่มรัศมีกันไม่ลง หนึ่งในนั้นคือ อนุศนิยา วรเลิศลักษณ์ (คิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส) ผู้เป็นทายาทมหาเศรษฐีรายใหญ่ของไทยที่กำลังก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งว่าที่นักธุรกิจหญิงผู้ทรงอิทธิพลในยุคใหม่ ถ้าอนุศนิยาสูงส่งเปรียบได้กับเจ้าหญิงบนหอคอยงาช้าง โสมมิกา พรรณราย (ชีรณัฐ ยูสานนท์) ผู้เป็นทายาทพันล้านของผู้มีอิทธิพลชื่อดัง ก็ไม่ยอมน้อยหน้าไปกว่ากัน เธอฉีกตัวเองให้เป็นดาวดังในแวดวงคนดังในฐานะหญิงสาวทรงเสน่ห์ของเมืองไทย ที่ใครๆ ก็พากันตั้งฉายาให้แก่ความร้อนแรง ขี้เล่นของเธอว่าเป็น ปารีส ฮิลตันของเมืองไทยนั่นเอง ทั้งอนุศนิยาและโสมมิกาต่างเป็นเพื่อนร่วมรุ่นกันตั้งแต่อนุบาลยันมหาวิทยาลัย แม้จะไม่มีอะไรเหมือนกัน แต่ทั้งคู่ก็ถูกมองเป็นคู่แข่งกันอย่างช่วยไม่ได้ เมื่อไม่สามารถเปรียบได้ว่าใครเหนือกว่าใคร คำตอบสุดท้ายก็คงจะต้องตัดเชือกกันที่ผู้ชายที่สองสาวจะเลือกเป็นคู่ครองนั่นเอง แม้ว่าใครๆ จะมองสองสาวด้วยความอิจฉา แต่ดูเหมือนทั้งสองสาวจะรู้สึกว่าความร่ำรวยของเธอเหมือนจะเป็นคำสาปมากกว่า เพราะเงินและความร่ำรวยทำให้ทั้งคู่ห่างไกลจากคำว่ารักแท้

อนุศนิยากับโสมมิกาได้มาเจอกันอีกครั้งในงานเปิดตัวโรงแรมของไฮโซชื่อดังบนเกาะแถบอันดามัน ในงานนั้นเป็นงานที่อนุศนิยาได้มาเจอโสมมิกาควงกันมากับ ชยากร (ฐากูร การทิพย์) อาของเธอเอง ด้วยความหมั่นไส้ในความเชิดหยิ่งและถือตัวของอนุศนิยา ทำให้โสมมิกาคิดวางยาลงในแก้วเครื่องดื่มของอนุศนิยา เพื่อให้เธอหยุดเล่นตัวและเสร็จหนุ่มสักรายในงานนั้น ในตอนดึกระหว่างที่นั่งเรือสปีดโบทกลับไปยังโรงแรมบนฝั่ง อนุศนิยารู้สึกเมายามาก เธอไม่มีสติพอที่จะควบคุมตนเอง และเมื่อมีหนุ่มแปลกหน้าเริ่มฉวยโอกาส อนุศนิยาก็พยายามปัดป้อง จนกระทั่งเธอพลัดตกจากเรือลงไปในทะเล ชยากรโกรธจัดเมื่อรู้ว่าอนุศนิยากลับไม่ถึงโรงแรม เขาร้อนใจแทบคลั่ง สั่งให้คนออกตามหาหลานสาวทันที โดยไม่มีใครรู้ว่า มิรันตรี (กมลเนตร เรืองศรี) นักข่าวสาวที่ได้รับเชิญไปร่วมงานล่วงรู้ถึงเหตุการณ์ทั้งหมด มิรันตรีแอบจับตามองดูศึกของสองสาว และคิดว่านี่จะเป็นข่าวที่จะถูกพูดถึงกันอย่างโด่งดังแน่ๆ อนุศนิยาพลัดจากเรือลอยคว้างอยู่กลางทะเล ศตวรรษ (เจมส์ มาร์) สามารถช่วยเธอขึ้นมาไว้ได้ ศตวรรษพาอนุศนิยาไปที่บ้านพักชาวเลของตัวเองบนเกาะ เขาพยายามจะช่วยหญิงสาวแล้วพบว่าเธอยังอยู่ในอาการเมายา ศตวรรษเดาได้ว่าเธอน่าเป็นแขกในงานเลี้ยงฉลองของคนดังที่มักจะมามั่วยาตามเกาะ แต่เมื่ออนุศนิยาฟื้นขึ้นมาเธอก็เข้าใจว่าถูกศตวรรษฉวยโอกาส เธอแสดงท่าทีรังเกียจศตวรรษมากจนศตวรรษทนไม่ไหว ชยากรตามอนุศนิยามาจนเจอ เขาเห็นอนุศนิยาไม่พูดไม่จาก็เข้าใจผิดว่าศตวรรษล่วงเกินอนุศนิยา จึงมีเรื่องชกต่อยกับศตวรรษ จนศตวรรษเข้าใจว่าชยากรคือแฟนของอนุศนิยา

อนุศนิยารู้ทันว่าโสมมิกาต้องเป็นคนเล่นงานเธอเมื่อคืนแน่ๆ เธอจึงตั้งใจจะคิดบัญชีกับโสมมิกา ชยากรรับไม่ได้ที่โสมมิกาเล่นสกปรกกับอนุศนิยา เขาโทษตัวเองที่เป็นต้นเหตุให้อนุศนิยาต้องเจอเรื่องเลวร้าย เขาบอกเลิกโสมมิกาทันที โสมมิกาอึ้งที่ชยากรบอกเลิกเธอแบบฟ้าผ่า โสมมิกาทนไม่ได้ที่เธอพ่ายแพ้อนุศนิยา เธอเอาแต่ร้องไห้เสียใจจนไปเจอกับศตวรรษโดยบังเอิญ ศตวรรษเห็นโสมมิกากำลังผิดหวังในความรักก็กลัวว่าเธอจะคิดสั้น เขาถึงได้ไปช่วยโสมมิการะบายเรื่องที่เธอถูกอนุศนิยาแย่งแฟน จนทำให้ศตวรรษได้รู้ว่าที่แท้แล้วอนุศนิยาเป็นต้นเหตุทำลายความรักของโสมมิกา และที่ช็อกยิ่งกว่าก็คือ อนุศนิยากับชยากรไม่ใช่คู่รักกันอย่างที่เขาเข้าใจ แต่เป็นอาหลานกันแท้ๆ ด้วย ศตวรรษเห็นอาการของโสมมิกาแล้วก็นึกสงสาร ศตวรรษรู้สึกว่าผู้หญิงอย่างโสมมิกานั้นทำเป็นแกร่งแต่เพียงภายนอก โสมมิกาเมาและพักอยู่ที่กระท่อมบนเกาะของศตวรรษ เพราะไม่กล้ากลับไปสู้หน้าแขกที่มาร่วมงาน ต่อมาเธอจึงรู้ว่าที่จริงแล้วศตวรรษไม่ใช่ชาวประมงอย่างที่เธอเข้าใจ แต่เขาเป็นแพทย์ด้านไตที่มาลงพื้นที่ทำวิจัยที่เกาะนั้น ทำให้โสมมิกาทึ่งและหลงรักเขาทันที โสมมิกานึกเคลิ้มไปกับผู้ชายเท่ๆ อย่างศตวรรษ เธอจึงขอกลับกรุงเทพฯ ไปพร้อมกับเขา และสัญญากับตัวเองว่าจะไม่ปล่อยผู้ชายคนนี้หลุดมือไปเด็ดขาด ข่าวรักร้าวของชยากรกับโสมมิกากลายเป็นข่าวที่ถูกพูดถึงดังที่คาดไว้ โดยบอกว่าชนวนรักร้าวนั้นไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นหลานแท้ๆ อย่างอนุศนิยานั่นเอง ข่าวดังกล่าวทำให้ นันทพล (มนตรี เจนอักษร) พ่อของอนุศนิยาไม่พอใจอย่างมาก เพราะทำให้ครอบครัวของเขาเสื่อมเสีย ชยากรตามไปเอาเรื่องมิรันตรี อนุศนิยาจำได้ว่ามิรันตรีเป็นเพื่อนร่วมรุ่นกับเธอ เธอจึงได้เป็นคนกลางขอจัดการปัญหาเอง มิรันตรีลดอคติกับอนุศนิยาไปมากเมื่อเห็นว่าเธอไม่ได้คุกคามสื่ออย่างที่ชยากรทำ

นันทพลล้มป่วยเพราะตรอมใจเรื่องข่าวฉาวของครอบครัว แพทย์ตรวจพบว่านันทพลมีปัญหาเรื่องไต ศตวรรษในฐานะแพทย์เฉพาะทางมือหนึ่งถูกเรียกตัวมาให้มาดูแลเคสนี้อย่างเร่งด่วน อนุศนิยาช็อกมากเมื่อพบว่าที่แท้แล้วศตวรรษเป็นหมอไม่ใช่ชาวเลอย่างที่เธอเข้าใจ ที่สำคัญก็คือครอบครัวเขาเป็นลูกหนี้รายใหญ่ของครอบครัวเธอ ซึ่งนั่นทำให้อนุศนิยากลัวว่าศตวรรษจะเอาชีวิตพ่อของเธอเป็นประกัน โสมมิกาตามมาจีบศตวรรษที่โรงพยาบาล โสมมิกาเปิดตัวว่าเธอกำลังดูใจอยู่กับศตวรรษเพื่อเชิดใส่ชยากร โสมมิกาตามจีบศตวรรษแบบไม่ปิดบัง จนทำให้ศตวรรษที่ไม่เคยโดนผู้หญิงรุกแบบนี้มาก่อนถึงกับอึ้ง แต่เมื่อเทียบกันแล้วเขากลับรู้สึกประทับใจในความจริงใจตรงไปตรงมาของเธอ ผิดกับอนุศนิยาที่ดูอ่านยากและซับซ้อนกว่าจนทำให้เขาไม่ค่อยไว้ใจมาดนางพญาของอนุศนิยาเท่าไรนัก นันทพลจำเป็นต้องเปลี่ยนไตโดยเร่งด่วนทำให้เขาไม่สามารถเข้าไปบริหารบริษัทเฟอร์นิเจอร์ได้อีก เขาจึงฝากงานทั้งหมดให้ชยากรและอนุศนิยาร่วมกันดูแล บรรดาน้องสาวของนันทพลต่างกลัวว่าชยากรซึ่งเป็นเพียงลูกเมียน้อยจะฮุบอำนาจไว้คนเดียว น้องสาวของนันทพลทุกคนต่างมายุแยงให้อนุศนิยายึดอำนาจมาจากชยากรอีกทีทำให้อนุศนิยาปวดหัวกับคุณอาทั้งสี่มาก เพราะแต่ละนางต่างก็เชี่ยวชาญแต่เรื่องผลาญเงินกงสีแต่ไม่เคยช่วยทำมาหากิน ไม่ว่าจะเป็น นันทนา (ดารณีนุช ปสุตนาวิน) ม่ายสาวใจเปลี่ยวที่ได้ชื่อว่าเป็นมิสจุ้นจ้าน นุดี (ดารัณ ฐิตะกวิน) ภรรยาของนักธุรกิจที่คอยหาทางหนุนหลังธุรกิจ ประสงค์ (สุเมธ องอาจ) สามีนักธุรกิจของเธอตลอดเวลา นนทิยา (ไอริณ ศรีแกล้ว) สาวสวยที่วันๆ ต้องการเงินไปเสริมหน้าจนเมาโบท็อกซ์ทุกวัน จะมี นาวิกา (ฝน ธนสุนทร) ที่ดีหน่อย เพราะเอาแต่หันหน้าไปปฏิบัติธรรม แต่ก็ขนสมบัติไปถวายวัดตลอดเวลาเช่นกัน แม้ทุกคนจะเห็นแก่ตัวแต่ก็มีเรื่องหนึ่งที่สมานฉันท์กันได้นั่นก็คือเรื่องเกลียดชยากรนั่นเอง เพราะทุกคนเชื่อว่าชยากรนั้นเป็นมารหัวขนที่ อังกาบ (รัชนี ศิระเลิศ) เมียน้อยของเตี่ยเอามาสวมเขาให้เพราะเห็นว่าตระกูลกำลังต้องการทายาทผู้ชาย

นันทนา นุดี นนทยา และนาวิกา ต่างหาหลานเขยมานำเสนอเพื่อหวังว่าจะให้เขยในสังกัดของตนเข้ามาควบคุมอนุศนิยาอีกทอดหนึ่ง โดยเฉพาะกับนันทนานั้นกำลังตกที่นั่งลำบาก เพราะเธอเอาเงินกงสีไปปล่อยกู้ให้กับ เสาวรส (จินตหรา สุขพัฒน์) แม่ของศตวรรษกู้จนหนี้สูญไปกว่าหกสิบล้าน นันทนาไปเร่งรัดหนี้สินจากเสาวรส เสาวรสอวดอ้างกับทุกคนเรื่องที่ศตวรรษกำลังคบหากับไฮโซชื่อดังจนทำให้ อุดมศักดิ์ (สันติสุข พรหมศิริ) พ่อของโสมมิกาที่เป็นเจ้าพ่อไม่พอใจ พอเขารู้ว่าโสมมิกาทิ้งชยากรมาหาผู้ชายมีแต่ตัวแถมยังมีหนี้สินรุงรังอย่างศตวรรษก็ทำให้อุดมศักดิ์ออกโรงกีดกัน อนุศนิยาได้รู้จากนันทนาก็ทำให้เธอเข้าใจไปว่าศตวรรษนั้นกำลังคบโสมมิกาเพื่อหลอกเอาเงินมาใช้หนี้ อนุศนิยาจึงยิ่งนึกสมเพชชายหนุ่มขึ้นมาทันที เพราะคิดว่าเขาเป็นพวกที่ชอบจับแต่ผู้หญิงรวยๆ โสมมิกาควงศตวรรษเปิดตัวไปทั่ว มิรันตรียุให้อนุศนิยาทำให้โสมมิกาตาสว่างว่าถูกหลอกด้วยการขู่ฟ้องล้มละลายเสาวรส เสาวรสรีบแจ้นไปขอให้อุดมศักดิ์ช่วยเหลือเรื่องหนี้สิน แต่ถูกปฏิเสธ เสาวรสจึงแค้นและไม่อยากให้ศตวรรษคบหากับโสมมิกาอีก เสาวรสได้ยินข่าวที่นันทพลกำลังหาลูกเขย เสาวรสจึงเสนอตัวศตวรรษให้กับนันทนา โดยเสาวรสยื่นข้อเสนอว่าถ้าหากได้เป็นลูกเขยของนันทพลแล้วได้รับการยกหนี้ให้ เธอจะให้ศตวรรษกอบโกยเงินจากกงสีมาให้นันทนาเอง นันทนาได้ยินอย่างนั้นก็หูผึ่ง เพราะกำลังร้อนเงินเต็มที่ เธอรีบจับคู่ศตวรรษให้อนุศนิยาโดยไม่สนว่าศตวรรษจะคบหากับโสมมิกาอยู่ โสมมิกาแค้นที่อนุศนิยากำลังเปิดศึกแย่งผู้ชายไปจากเธอ

ชยากรรู้สึกทรมานที่ต้องเห็นอนุศนิยาไปเป็นของคนอื่น แต่เขาก็ไม่กล้าที่จะพิสูจน์ชาติกำเนิดของตนเพราะกลัวว่าจะเป็นการประจานแม่ผู้แสนดีของตนเอง เขาจึงต้องทนมีฐานะเป็นอาของผู้หญิงที่เขารักจนทำให้รักของเขานั้นไม่มีวันเป็นไปได้ อาการหวงก้างนั้นทำให้นันทพลไม่ค่อยพอใจ เพราะเขาดูออกว่าชยากรคิดเลยเถิดกับอนุศนิยา เพียงแต่อนุศนิยาไม่รู้ตัวและยังดื้อรั้นยืนยันที่จะครองตัวเป็นโสดประสาผู้หญิงเก่ง นันทพลเห็นด้วยที่จะดัดนิสัยผู้หญิงจอมมั่น และตัดไฟต้นลมไม่ให้ชยากรคิดเลยเถิด ด้วยการให้อนุศนิยาแต่งงาน นันทพลรักษาตัวอยู่กับศตวรรษและชื่นชมในความมีมนุษยธรรมของศตวรรษมาก ยิ่งเมื่อรู้ว่าหนี้หกสิบล้านนั้นเป็นหนี้ที่พ่อของศตวรรษกู้ไปเพื่อเปิดศูนย์แพทย์กลางทะเล และศตวรรษก็ยังต้องการจะสานฝันของพ่อ นันทพลก็ยิ่งอยากได้คนดีอย่างศตวรรษมาเป็นลูกเขย อนุศนิยารับไม่ได้ที่นันทนาพยายามแย่งศตวรรษมาให้เธอ เพราะเธอคิดว่าเขาเป็นผู้ชายหิวเงิน ศตวรรษเองก็รู้ว่าอนุศนิยารังเกียจและดูถูกเขา อนุศนิยาคิดว่าที่ทุกคนต้องการให้เธอแต่งงานก็เพราะระแวงเรื่องเธอกับชยากรจะทำอะไรผิดศีลธรรม อนุศนิยาจึงได้แสดงความบริสุทธิ์ใจ ชยากรสงสารที่อนุศนิยาถูกคลุมถุงชนกับศตวรรษซึ่งเป็นคนที่เธอรังเกียจ ชยากรตัดสินใจจะสารภาพความรู้สึกของตัวเองและชวนอนุศนิยาหนีไปใช้ชีวิตตามลำพัง อนุศนิยาตกใจเมื่อได้รู้ว่าชยากรหลงรักเธอ ชยากรพาอนุศนิยาเข้าโรงแรม อนุศนิยาช็อกและรับไม่ได้ เธอหนีออกมาจากโรงแรมตอนที่ศตวรรษกำลังมาตามหาพอดี ทำให้ศตวรรษยิ่งมั่นใจว่าอนุศนิยามีอะไรลึกซึ้งกับอาของตัวเองไปแล้ว

อนุศนิยาเสียใจที่รู้ว่าชยากรคิดกับเธอเกินกว่าหลาน เธอจึงคิดที่จะแต่งงานกับศตวรรษเพื่อให้ชยากรตัดใจ เพราะเธอยังรักและเคารพและยังอยากให้เขากลับมาทำงานในบริษัทได้ดังเดิม นันทพลเรียกศตวรรษและเสาวรสมาตกลงว่าถ้าหากเขายอมแต่งงานกับอนุศนิยาแล้ว นันทพลจะไม่ฟ้องล้มละลายและยกหนี้จำนวนหกสิบล้านให้ฟรีๆ แลกกับการแต่งงานอยู่กินกับอนุศนิยาเป็นเวลาสามปี ศตวรรษรู้สึกเสียศักดิ์ศรีที่จะต้องมาขายตัวล้างหนี้ เขาจึงปฏิเสธที่จะแต่งงานเพื่อล้างหนี้แต่ขอแค่แต่งงานเพื่อประวิงเวลาให้เขาได้ทยอยหาเงินมาชดใช้หนี้หกสิบล้านเพื่อไถ่อิสรภาพของตัวเองคืน นันทพลรู้สึกพอใจในคำตอบของศตวรรษ เขาจึงยอมรับข้อเสนอนี้และแถมโบนัสให้ว่าถ้าหากศตวรรษทำให้อนุศนิยามีทายาทให้เขาได้เมื่อไร เขาจะมอบเงินให้สามสิบล้านทันที ศตวรรษเข้าใจว่าที่นันทพลจำเป็นต้องทุ่มทุนขนาดนี้ก็เพื่อจะล้างคาวให้กับลูกสาวตัวเอง การแต่งงานจึงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วแบบตั้งตัวไม่ติด ทั้งชยากรและโสมมิกาต่างอกหักและทำใจไม่ได้ อนุศนิยาไม่ไว้ใจกลัวศตวรรษจะหัวหมอรีบปั๊มทายาทเพื่อจะเอาเงินสิบล้านจากพ่อ อนุศนิยาจึงตั้งเงื่อนไขกับศตวรรษว่าจะแต่งกับศตวรรษแค่ในนามเท่านั้น ชยากรกลับมาทำงานที่บริษัทแบบซังกะตาย เขาต้องพบอนุศนิยาทุกวัน แต่อนุศนิยาก็ยังไม่สนิทใจกับเขา แถมมีศตวรรษคอยกันท่าอยู่ด้วย นันทพลอยากจับคู่ชยากรกับมิรันตรีที่เขาเชื่อว่าจะคุมชยากรได้ นันทพลขอให้อนุศนิยาช่วย อนุศนิยาไม่แน่ใจเพราะเห็นว่ามิรันตรีนั้นเป็นคู่กัดของชยากร ซ้ำยังห่างไกลจากรสนิยมของเขามาก อนุศนิยาเป็นแม่สื่อให้ชยากรกับมิรันตรี แม้ชยากรจะไม่ชอบแต่เขาคิดว่านี่เป็นทางเดียวที่เขาจะได้กลับไปใกล้ชิดกับอนุศนิยาอีก มิรันตรีรู้ทั้งรู้ว่าชยากรแค่ใช้เธอบังหน้าเพื่อหาทางประสานรอยร้าวกับอนุศนิยา แต่เธอก็ยอมให้เขาหลอกใช้ ทั้งคู่ยอมตกลงคบหากันโดยที่มิรันตรีแอบหวังว่าวันหนึ่งชยากรจะลืมอนุศนิยาได้

โสมมิกายังทำใจไม่ได้ที่ต้องสูญเสียศตวรรษไปให้กับคู่แค้น เธอยังคอยมาสร้างความร้าวฉานให้กับชีวิตแต่งงานของอนุศนิยาอยู่เรื่อยๆ เพราะรู้ว่าศตวรรษจำใจแต่งงานเพื่อล้างหนี้แค่สามปี โสมมิกาให้สัญญาว่าเธอจะรอเขาอยู่ดี อนุศนิยาเห็นโสมมิกายังตอแยศตวรรษก็รู้สึกขวางหูขวางตา ยิ่งเห็นศตวรรษไปวิ่งรอกทำงานที่โรงพยาบาลเอกชนหลายแห่งเพื่อหวังจะหารายได้มาใช้หนี้ก็ยิ่งทำให้อนุศนิยาคิดว่าศตวรรษคงจะกำลังทำทุกทางเพื่อปลดหนี้ไปหาโสมมิกา โสมมิกาตอกย้ำให้อนุศนิยาเชื่อว่าเธอได้แต่ตัวศตวรรษแต่ไม่เคยได้ความรักของเขา ทำให้อนุศนิยารู้สึกน้อยใจตลอดเวลาที่ต้องใช้ชีวิตร่วมกับศตวรรษ อนุศนิยายังคงทำงานหนัก มิรันตรีพา ชาครีย์ (ธรรม์ธัช ธารินทร์ภิรมย์) เพื่อนนักออกแบบหนุ่มรูปหล่อมาช่วยงาน เพื่อหวังจะให้ชาครีย์เป็นหุ้นส่วนให้อนุศนิยา ทำให้ชยากรไม่ต้องมีข้ออ้างหาเรื่องใกล้ชิดอนุศนิยาอีก บรรดาอาๆ ของอนุศนิยาเห็นชยากรถูกแทนที่ก็วางแผนจะกำจัดชยากรให้หมดความสำคัญลงทันที แล้วดัน อนุกร (จิตรภาณุ กลมแก้ว) ให้ขึ้นมาเป็นผู้บริหารแทน เพราะเบื่ออนุศนิยาที่คุมเงินกงสีเข้มเกิน อนุศนิยาต้องเจอเรื่องปั่นป่วนในบริษัทและยังต้องคอยแก้ปัญหาที่เด็กเกรียนอย่างอนุกรเข้ามาสร้างไว้ ศตวรรษเห็นปัญหาที่อนุศนิยาต้องเผชิญจึงได้เข้าใจว่าทำไมเธอถึงได้ต้องทำเก่งวางมาดข่มคนอื่นอยู่เสมอ

อนุกรทำ จีน่า (ภัณฑิลา ฟูกลิ่น) พนักงานขายของบริษัทท้อง อนุศนิยาเข้ามาช่วยหาทางแก้ปัญหา ศตวรรษพาลเข้าใจไปว่าที่อนุศนิยามีลับลมคมในก็เพราะกำลังตั้งท้องลูกของชยากร นันทพลถึงต้องมาเร่ย้อมแมวขายเพื่อปิดข่าวฉาวของครอบครัว แม้ศตวรรษจะเข้าใจอนุศนิยาผิดแต่เขาก็ยินดีรับเป็นพ่อของเด็กเพื่อปกป้องชื่อเสียงให้ ซึ่งนั่นยิ่งทำให้อนุศนิยารู้สึกว่าศตวรรษไร้ศักดิ์ศรีจนยอมทำทุกอย่างได้เพื่อไถ่หนี้ เสาวรสตื่นเต้นเพราะนึกว่าจะได้เงินโบนัสจากการการที่มีทายาทจึงได้เอามาป่าวประกาศ จนทำให้ความแตกว่าอนุกรต่างหากที่กำลังจะมีลูกไม่ใช่อนุศนิยา ศตวรรษผิดหวังที่อนุศนิยาปล่อยให้เขาเข้าใจผิดตลอดมา เขาจึงหนีไปทำงานที่เกาะชั่วคราว อนุศนิยาเริ่มรู้ตัวว่าศตวรรษพยายามปกป้องเธอมาตลอด และเธอเองที่เป็นฝ่ายเหยียบย่ำน้ำใจของเขา อนุศนิยายอมไปง้อศตวรรษที่เกาะ โสมมิกากลัวว่าศตวรรษจะหลงรักอนุศนิยาจึงได้วางแผนให้คนจับอนุศนิยาไป ศตวรรษช่วยอนุศนิยาจากโจรได้ ทำให้อนุศนิยายิ่งซึ้งใจที่ศตวรรษยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อปกป้องเธอ อนุศนิยาอยู่ดูแลศตวรรษที่บาดเจ็บและสองคนก็ได้เริ่มต้นใช้ชีวิตสามีภรรยากันที่เกาะนั่นเอง หลังจากอนุศนิยากับศตวรรษกลับจากเกาะ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ดีขึ้นมากจนทำให้ชยากรรับไม่ได้ โสมมิกาจึงได้วางแผนกับชยากรที่จะทำลายความรักของทั้งคู่ โสมมิการู้ว่าเสาวรสกำลังร้อนเงินเพราะหนี้พนัน เธอจึงแกล้งเอาเงินมาล่อ เสาวรสกำลังเดือดร้อนมากจึงแกล้งหลอกให้ความหวังโสมมิกาว่าศตวรรษจะกลับมาหาหลังครบกำหนดการแต่งงาน ชยากรเห็นว่าครอบครัวของศตวรรษแอบกอบโกยเงินจากผู้หญิงทั้งสองทาง เขาจึงร่วมมือกับโสมมิกาเปิดโปงให้อนุศนิยารู้ธาตุแท้ของศตวรรษ ด้วยการยอมออกเงินให้โสมมิกาไปหลอกล่อเสาวรส มิรันตรีจับได้ว่าชยากรร่วมมือทำอะไรบางอย่างกับโสมมิกาทำให้เธอรับไม่ได้จึงขอเลิกกับเขา ชยากรยอมเลิกกับมิรันตรีไปอย่างไม่ใยดี มิรันตรีเสียใจมากที่ตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอไม่อาจเปลี่ยนใจของชยากรได้เลย

โสมมิกาตั้งใจจะแย่งศตวรรษคืนจากอนุศนิยาและแฉให้อนุศนิยาต้องอับอาย ชยากรทนไม่ได้ที่เห็นโสมมิกาพยายามทำลายชื่อเสียงของอนุศนิยาจึงได้หักหลังไม่ยอมออกเงินให้โสมมิกาตามที่ได้รับปาก โสมมิกาเจ็บใจมากที่ชยากรหักหลังในนาทีสุดท้าย จึงได้ขับรถไล่ล่าจนรถของชยากรพลิกคว่ำ ชยากรโคม่าอาการเป็นตายเท่ากัน ชยากรเคยบอกไว้ว่าเขาอยากจะสละไตเพื่อต่อชีวิตให้นันทพลเป็นการตอบแทนบุญคุณ ทุกคนจึงตั้งใจว่าถ้าหากชยากรเสียไปจะเปลี่ยนถ่ายไตให้กับนันทพล เมื่อตรวจไตของชยากรผลปรากฏว่าไตของชยากรเข้ากันได้กับนันทพล และยังเป็นการพิสูจน์ด้วยว่าชยากรเป็นน้องชายของนันทพลจริงๆ ทำให้บรรดาพี่สาวของเขาหน้าแตกยับและไม่สามารถหาเรื่องกีดกันอังกาบกับชยากรได้อีก เพราะชยากรก็มีสิทธิ์ในกงสีเท่าๆ กับที่ทุกคนมี รอยร้าวในครอบครัวที่เกิดจากการหวาดระแวงกันและกันก็หายไป ขณะที่ชยากรยังไม่ฟื้น โสมมิกายังคงเดินหน้าเปิดโปงให้อนุศนิยาเห็นว่าศตวรรษรับเงินจากเธอไปผ่อนหนี้ให้อนุศนิยา ทำให้อนุศนิยาเข้าใจผิดว่าตลอดเวลาศตวรรษแอบอยู่กินกับโสมมิกาเพื่อหลอกเอาเงินจากทางนั้นไปพร้อมๆ กันด้วย อนุศนิยาผิดหวังที่รู้ว่าศตวรรษเป็นผู้ชายเห็นแก่เงิน เธอออกปากขอหย่า ศตวรรษตกใจมากที่รู้ว่าแม่เป็นคนรับเงินจากโสมมิกา อุดมศักดิ์แค้นที่ศตวรรษมาหลอกลูกสาวเขา จึงได้จับตัวเสาวรสไปและขู่ให้ศตวรรษหย่าขาดกับอนุศนิยามาหาโสมมิกาเพื่อแลกกับชีวิตแม่ ในขณะที่ศตวรรษกำลังจะหย่าขาดกับอนุศนิยา โสมมิการู้ว่าอนุศนิยาตั้งครรภ์ ทำให้เธอคิดว่าอนุศนิยากำลังเอาเด็กมายื้อศตวรรษไว้ โสมมิกาแค้นจึงได้ขับรถพุ่งเข้าชนอนุศนิยา อนุศนิยาเจ็บหนักแต่ก็รอดมาได้ อนุศนิยายืนยันที่จะเลิกกับศตวรรษเพื่อไถ่ชีวิตสงบสุขในชีวิตของเธอคืนมา

ศตวรรษเข้าใจว่าเขาเป็นต้นเหตุที่ทำให้อนุศนิยาต้องสูญเสียลูกไป เขายอมหย่าตามที่อนุศนิยาขอเพื่อชดเชยกับที่เขาปกป้องครอบครัวไม่ได้ ตำรวจจับได้ว่าโสมมิกาเป็นคนขับรถชนอนุศนิยา อุดมศักดิ์ขมขู่ให้ศตวรรษมาเป็นพยานเวลาให้โสมมิกาพ้นผิดเพื่อแลกกับการปล่อยตัวเสาวรส ศตวรรษจำใจไปเป็นพยานในคดีเพื่อช่วยชีวิตแม่ ทำให้อนุศนิยาผิดหวังมากที่ศตวรรษเลือกปกป้องโสมมิกามากกว่าเธอ ชยากรฟื้นขึ้นมาและได้รู้ความจริงเรื่องที่เขาเป็นอาแท้ๆ ของอนุศนิยา ชยากรพบว่าระหว่างที่เขาสลบไปนั้นศตวรรษกำลังทำเรื่องหย่ากับอนุศนิยา ชยากรรู้ดีว่าศตวรรษแค่ตกเป็นเหยื่อของโสมมิกา ที่สำคัญก็คืออนุศนิยาไม่ได้แท้งลูกจริง แต่เธอแค่ต้องการจะกำจัดศตวรรษออกไปจากชีวิต จึงได้ร่วมมือกับนันทพลปกปิดเรื่องลูกที่ยังมีชีวิตอยู่เอาไว้ ชยากรรู้สึกผิดที่มีส่วนทำให้ชีวิตครอบครัวของอนุศนิยาพังลง ดังนั้นเมื่อเขาค้นพบว่าศตวรรษยอมหักหลังอุดมศักดิ์ด้วยการมอบหลักฐานให้ตำรวจใช้เอาผิดโสมมิกา ชยากรก็ยอมบอกความจริงกับศตวรรษเรื่องลูก เพื่อให้ศตวรรษได้มีโอกาสกลับมาแก้ตัวกับอนุศนิยาอีกครั้ง หลังจากที่ตำรวจออกหมายจับโสมมิกา ศตวรรษก็เปลี่ยนใจไม่ยอมเซ็นหย่าในนาทีสุดท้าย เพราะต้องการจะกลับมาเริ่มต้นชีวิตครอบครัวที่สมบูรณ์กับอนุศนิยาอีกครั้ง แต่อนุศนิยาคิดว่าศตวรรษยอมกลับมาเพราะหมดหนทางไปหลังจากที่โสมมิกากำลังถูกตำรวจไล่ล่า อนุศนิยาจึงไม่ยอมเสี่ยงที่จะกลับไปใช้ชีวิตร่วมกับคนเห็นแก่เงินอย่างเขาอีก ศตวรรษพยายามที่จะเปลี่ยนใจอนุศนิยาเพื่อเรียกความเชื่อมั่นคืนมา เขาขอเวลาสิบวันเพื่อพิสูจน์ว่าอนุศนิยาและลูกยังต้องการเขา ซึ่งถ้าหากครบสิบวันอนุศนิยายังไม่ใจอ่อน ศตวรรษก็พร้อมจะออกจากชีวิตอนุศนิยาและลูกไปทันที

ศตวรรษกลับมาใช้ชีวิตอยู่กับอนุศนิยา แต่อนุศนิยาใจแข็งเพราะตั้งใจไว้ว่าหนีไปใช้ชีวิตเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวที่เมืองนอกหลังจากหย่า ศตวรรษเข้าใจว่าที่อนุศนิยาพยายามตัดใจก็เพราะจะเอาชาครีย์มาแทนที่ ศตวรรษน้อยใจที่อนุศนิยาไม่ให้โอกาส แต่เขาก็พยายามใช้เวลาที่เหลือทุ่มเทเอาใจใส่อนุศนิยาอย่างดี ศตวรรษพยายามกล่อมให้อนุศนิยาเลิกบ้างานเพื่อทำหน้าที่แม่ให้เต็มที่ อนุศนิยาค่อยๆ ค้นพบว่าเธอไม่ได้ต้องการประสบความสำเร็จ เพราะแค่ได้เป็นแม่และเมียที่ดีให้กับผู้ชายธรรมดาสักคนก็ทำให้เธอมีความสุขมากพอแล้ว อนุศนิยาได้รู้จักรักแท้เพียงแต่ว่าเธอยังไม่อยากจะยอมรับว่าเธอตกหลุมรักผู้ชายที่ขายตัวแลกศักดิ์ศรีอย่างศตวรรษได้ เพราะกลัวจะต้องผิดหวังในวันข้างหน้าอีก ชยากรเห็นอนุศนิยากับศตวรรษกำลังไปด้วยกันได้ดี มีแต่เขาที่ไม่เหลือใคร เพราะแม้แต่มิรันตรีก็ให้อภัยเขาไม่ได้ ชยากรยอมเข้าผ่าตัดปลูกถ่ายไตให้นันทพลเพื่อตอบแทนบุญคุณครอบครัว และเดินหน้าง้อมิรันตรี มิรันตรียอมให้โอกาสชยากรอีกครั้ง เพียงแต่ขอเวลาดูใจไปให้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้เพื่อพิสูจน์ความจริงใจของเขา อุดมศักดิ์ต้องการล้างแค้นที่ศตวรรษทำให้โสมมิกาต้องหนีคดีหัวซุกหัวซุน เขาส่งคนมาเก็บศตวรรษจนศตวรรษบาดเจ็บปางตาย อนุศนิยาเพิ่งรู้ว่าศตวรรษถูกตามปองร้ายอยู่ตลอดเวลา และนั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ศตวรรษต้องการใช้เวลาสิบวันอยู่กับเธอให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ อนุศนิยารู้สึกเสียใจที่เธอไม่เคยเห็นความทุ่มเทของศตวรรษที่พยายามใช้เวลาที่เหลืออยู่ในสิบวันนั้นอย่างคุ้มค่า อนุศนิยาเพิ่งมาเรียนรู้ว่าเงินทองไม่สามารถปิดกั้นหัวใจไม่ให้พบรักแท้ อนุศนิยาหัดใช้ชีวิตแต่ละวันที่เหลือเพื่อสัมผัสกับสิ่งยิ่งใหญ่ที่มีค่ายิ่งกว่าเงินทองต่างๆ ที่เธอหามาได้ นั่นคือความสุขที่เกิดจากการได้รักผู้ชายธรรมดาที่ไม่ใช่ผู้วิเศษคนนี้ แม้ไม่อาจรู้ได้ว่าจะมีเวลาเหลืออยู่กับเขาได้อีกกี่วันก็ตาม