ละคร วัยแสบสาแหรกขาด
ดู 3,832 ครั้ง /
แชร์
ละครออกอากาศ | วันศุกร์ วันเสาร์ วันอาทิตย์ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ช่องที่ออกอากาศ | ละครช่อง 3 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เริ่มออกอากาศ | 5 มีนาคม 2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เวลาออกอากาศ | 20:15 - 22:45 น. |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
กำกับโดย | ศุภฌา ครุฑนาค | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ประพันธ์โดย | บทประพันธ์ ณัฐิยา ศิรกรวิไล, บทโทรทัศน์ ณัฐิยา ศิรกรวิไล, กุศลิน เมฆวิภาต, ชญานิน, สายขิม, วาณี, กัลยาณมิตร | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
นำแสดงโดย | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ผู้สร้าง | บริษัท มาสเตอร์ วัน วีดีโอ โปรดักชั่น จำกัด |
ภาพนิ่งจากละคร
เรื่องย่อ วัยแสบสาแหรกขาด
ทรายทิพย์ หรือ แซนด์ (จิตตาภา แจ่มปฐม) นักจิตวิทยาให้การปรึกษาเกี่ยวกับเด็กและครอบครัว หนอนหนังสือบ้าตำรา ก้มหน้าก้มตาเรียนรวดเดียวตั้งแต่อนุบาลจนถึงปริญญาเอก ชีวิตไม่เคยทำอย่างอื่นนอกจากเรียน แซนด์หอบปริญญาทางด้านจิตวิทยากลับมาจากต่างประเทศ พร้อมกับไฟในการทำงานอันเต็มเปี่ยม แต่เมื่อมาเจอความเป็นจริงของสังคมไทย ความฝันของเธอถูกดับอย่างอนาท ไม่มีใครให้ความสำคัญกับการรับคำปรึกษาจากนักจิตวิทยา แซนด์กำลังจะสิ้นหวัง แต่แล้วเหมือนฟ้ามีตา เธอได้รับการติดต่อมาจาก เปรมมิกา หรือ ปาล์ม (ธนิดา กาญจนวัฒน์) เพื่อนสนิท ปาล์มทำงานอยู่ที่โรงเรียนเปี่ยมคุณศึกษา แซนด์พุ่งเข้าไปรับงานพร้อมความมั่นใจ โดยไม่รู้เลยว่างานนี้ไม่ได้หมูอย่างที่เธอคิด โรงเรียนเปี่ยมคุณศึกษา ก่อตั้งโดย นพลักษณ์ (ดวงตา ตุงคะมณี) ผู้ดีเก่า ผู้มากความสามารถ มั่นใจ แม้แต่ สมภพ (ทูน หิรัญทรัพย์) ผู้เป็นสามียังต้องขอเลิก และหนีไปทำนา เพราะทนต่อการโดนข่มไม่ไหว ภาระแห่งการต่อสู้เพื่อเอาชนะตนเองของนพลักษณ์จึงตกมาถึง ชวนากร หรือ กร (ธีรเดช เมธาวรายุทธ) ลูกชายคนเดียว ผู้ต้องสืบทอดกิจการโรงเรียนต่อไป หลายคนมองว่าเขาโชคดีมีแม่ปูทางธุรกิจไว้ให้อย่างเข้มแข็ง แต่ในความเป็นจริงกรต้องต่อสู้กับความเก่งของแม่ เขาพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้แม่ยอมรับ ในขณะเดียวกันต้องเร่งสร้างผลงานให้บรรดาครูใหญ่และครูน้อยในโรงเรียนเห็นว่าเขาไม่ใช่คุณหนูที่ทำอะไรไม่เป็น กรกดดันตัวเองจนกลายเป็นเจ้านายสุดเขี้ยว อารมณ์ร้ายเข้ากับใครไม่ค่อยได้ โดยเฉพาะ อำนาจ (ปรินทร์ วิกรานต์) ครูใหญ่ กรกับอำนาจมีเรื่องต้องขัดแข้ง ขัดขา ขัดใจ ปะทะคารมกันเป็นประจำ พนักงานเพียงคนเดียวที่พอคุยกับกรรู้เรื่องก็คือปาล์ม เลขาคนสนิท
ผลงานแรกที่กรหมายมั่นปั้นมือต้องทำให้สำเร็จคือ โครงการ เด็กดีไม่มีปัญหา (Sweet Broken Home) โครงการนี้เกิดขึ้นเพราะมีเด็กแสบสร้างปัญหาจนถึงขั้นต้องไล่ออกพร้อมกันถึง 5 คน อำนาจยืนยันว่าเด็กกลุ่มนี้เกินเยียวยาต้องไล่ออกเท่านั้น แต่หลังจากดูประวัติกรเห็นว่าเด็กทั้ง 5 คน มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือ พ่อแม่แยกทางกัน เด็กแต่ละคนมีครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์ กรจึงเกิดความคิดที่จะทำโครงการพิเศษนี้ขึ้น เพื่อแก้ปัญหาให้เด็กสามารถใช้ชีวิตกับคนอื่นได้ ไม่ใช่โยนเด็กที่มีปัญหาออกไปสู่สังคมภายนอกโดยไม่ทำอะไร ซึ่งความคิดนี้ตรงกันข้ามกับอำนาจอย่างสิ้นเชิง และนพลักษณ์ก็เลือกที่จะให้กรพิสูจน์ตัวเอง ทำให้อำนาจไม่พอใจอยู่ลึกๆ นพลักษณ์ยื่นคำขาด ถ้าโครงการนี้ลดความแสบของเด็กทั้ง 5 คน ลงได้ ถือว่ากรสอบผ่าน เด็กได้เรียนต่อและอาจจะมีโครงการนี้ต่อไป แต่ถ้าล้มเหลว เด็กทั้ง 5 คน ต้องโดนไล่ออก กรยอมรับการพิสูจน์ครั้งนี้ และสั่งให้ปาล์มตามหานักจิตวิทยาเฉพาะทางที่จะมาเป็นหัวหน้าโครงการโดยด่วน และคนคนนั้นก็คือทรายทิพย์นั่นเอง ในการพบกันครั้งแรกของทรายทิพย์และกรไม่ได้สวยหรูอย่างที่เธอคิดไว้ เขาไม่ได้ปลื้มกับใบปริญญาที่วางเรียงเป็นแผงและเกรดอันดีเยี่ยมของเธอแม้แต่น้อย แต่เขากลับไม่ไว้ใจเพราะเธอไม่เคยทำงานจริง และอายุก็ยังน้อย ทรายทิพย์เลยสวนกลับไปว่า "คุณกำลังตีค่าฉัน เหมือนกับที่ครูในโรงเรียนตีค่าคุณ พวกเขาคิดว่าคุณทำงานแทนแม่คุณไม่ได้ เพราะไม่มีประสบการณ์และอายุน้อย ถ้าคุณไม่พอใจที่คนอื่นตัดสินคุณด้วยเหตุผลนี้ คุณเองก็ไม่ควรตัดสินฉันด้วยเหตุผลนี้เช่นกัน" คำพูดของทรายจี้ใจดำกรอย่างแรง กรตัดสินใจยอมรับเธอเข้ามาทำงานในตำแหน่ง หัวหน้าโครงการเด็กดีไม่มีปัญหา
เมื่อนักจิตวิทยาบ้าตำรายังไม่เคยเจอของจริง ต้องมาทำงานกับคนจริงสุดเขี้ยว และยังต้องปะทะกับเด็กแสบอีก 5 คน ความปั่นป่วนชวนเวียนหัวจึงได้เกิดขึ้น ความผูกพันอันสวยงามของกรและทรายค่อยๆ ก่อตัวขึ้น พร้อมๆ ไปกับการทำงานที่ใกล้ชิดแบบตัวแทบจะติดกัน เด็กคนแรก ด.ญ.ญาทิป หรือ ปิ๊กปิ๊ก (ณพัศพร บุญธรรมรัตน์) อยู่ชั้น ป. 4 เด็กน้อยหน้าตาจิ้มลิ้ม แววตาใสซื่อ พ่อชื่อ จักรินทร์ (สราวุฒิ พุ่มทอง) เป็นนักธุรกิจใหญ่ ร่ำรวย เจ้าชู้ จนต้องแยกทางกับ แม่ ตรีทิพย์ (อัญชิสา เลี่ยวไพโรจน์) ที่มีฐานะร่ำรวยไม่แพ้กัน แต่ปิ๊กปิ๊กกลับมีพฤติกรรมชอบขโมย จนเพื่อนไม่อยากคบ แต่ปิ๊กปิ๊กกลับไม่รู้ร้อนรู้หนาว ไม่หยุดพฤติกรรมจอมฉก ปิ๊กปิ๊กจึงเป็นเด็กดีหมายเลข 1 ที่ท้าทายความสามารถของกรและทรายทิพย์ เด็กดีหมายเลข 2 เป็นเด็กชายอยู่ชั้น ป. 6 ชื่อ ด.ช. ดังใจ หรือ โชกุน (ณัฐพัชร์ นิมจิรวัฒน์) พ่อแม่แยกทางกัน ดุจฤทัย หรือ ดุจ (คัคกิ่งรักส์ คิคคิคสะระณัง) เป็นผู้หญิงเก่งที่ทุกอย่างต้องเป๊ะ จน ภูทอง หรือ ภู (โฆษวิส ปิยะสกุลแก้ว) สามีขอหย่า และหันไปเปิดผับเล็กๆ ในขณะที่ดุจฤทัยเป็นผู้บริหารระดับสูงของบริษัทข้ามชาติ ความเนี้ยบของดุจทำให้โชกุนมีปัญหา ไม่กล้าบอกความจริงและนำมาสู่การเป็นเด็กเลี้ยงแกะ จอมโกหกของโรงเรียน เด็กดีหมายเลข 3 เมษา หรือ ตังเม (ชาร์เลท วาศิตา แฮเมเนา) อยู่ชั้น ม. 3 มีปัญหาหมกหมุ่นกับการฆ่าตัวตาย พ่อตังเมชื่อ ชัยภูมิ หรือ ภูมิ (ณพสิทธิ์ เที่ยงธรรม) เป็นเจ้าของโรงงานขนาดใหญ่มีครอบครัวแล้ว นวลสราญ หรือ นวล (เพชรดา เทียมเพ็ชร) แม่ของเธอมีฐานะเป็นเมียน้อยอย่างไม่เต็มใจ นวลปล่อยตัวให้จมกับความทุกข์ ไม่ลุกขึ้นสู้กับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ทำให้ตังเมเป็นเด็กที่ไม่ได้รับความรัก การขู่ฆ่าตัวตายเพื่อเรียกร้องให้พ่อแม่หันมาสนใจ
เด็กดีหมายเลข 4 ที่สุดแสบ แสบทั้งแม่ทั้งลูก เรียกได้ว่าแสบสะท้านวงการ เพราะเธอเป็นลูกสาวของ พีรดา หรือ รดา (มยุริญ ผ่องผุดพันธ์) อดีตดาราชื่อดังที่กำลังอยู่ในช่วงขาลง มงกุฎแก้ว หรือ มินนี่ (ปฤสยา เจริญเนติศาสตร์) เป็นดาวโรงเรียน เป็นคนหลงตัวเองอย่างสุดขั้ว แม่ลูกคู่วีน เหวี่ยง เป็นจอมสร้างภาพอันดับต้นๆ ของประเทศไทย มินนี่วางตัวเป็นเจ้าแม่คอยควบคุมเพื่อน เผด็จการ เป็นตัวแทนของเด็กในยุค Gen Me อย่างแท้จริง ติดโซเชียลมีเดียจนถึงขั้นรับความจริงไม่ได้ พีรดาและมินนี่เธอรับไม่ได้ที่ตัวเองถูกส่งมารวมกับไอ้เด็กปัญหา อาละวาดจนแซนต์และกรต้องปวดหัว ความปวดหัวสุดท้ายคือเด็กคนที่ 5 ถวายชัย หรือ ลูกหวาย (ชาโนว์ แพมเบอร์เกอร์) เด็กชั้น ม. 6 หน้าตาดี ภายนอกดูสุภาพ เรียบร้อย พูดน้อย ทรายทิพย์แทบไม่อยากเชื่อเลยว่าหวายจะเป็นเด็กที่ชอบใช้ความรุนแรง มีเรื่องชกต่อยกับเพื่อนเป็นประจำ ไม่ให้ความร่วมมืออะไรทั้งสิ้น เธอรู้แค่ว่าพ่อของหวายชื่อ ยอดยุทธ (ศานติ สันติเวชกุล) เป็นเจ้าของโรงเหล็ก ส่วน เป็นสุข (สุปราณี เจริญผล) ผู้เป็นแม่ แยกทางกับพ่อได้สองสามปี หวายมีน้องสาวชื่อ ถวายพร หรือ ลูกหว้า (อภัสริญญา แพมเบอร์เกอร์) ที่อาศัยอยู่กับแม่ หลังจากได้รู้จักเด็กทั้ง 5 คน ทรายทิพย์เครียดสุดๆ เพราะแต่ละปัญหาไม่ได้ง่ายอย่างที่เธอคิด ซ้ำร้ายยังไม่มีใครให้ความร่วมมือแม้แต่คนเดียว ทั้งตัวเด็ก พ่อ แม่ แต่สิ่งที่ทั้งสองคนได้โดยไม่คาดคิดคือ การได้เรียนรู้กันและกัน ทั้งกรและทรายทิพย์ได้เก็บข้อมูลของกันและกันโดยไม่ตั้งใจ
ทรายทิพย์ได้รู้ถึงความกดดันที่ทำให้กรเป็นคนดุและจริงจังจนเกินไป กรเองก็ได้รู้ว่าปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทรายทิพย์เป็นผู้หญิงคิดบวก ไม่ท้อแท้ ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ เป็นเพราะเธอมีครอบครัวที่แสนดีเป็นกองหนุนสำคัญ กรเองก็แอบมาขอกำลังกำลังใจจากพ่อแม่ของเธอเป็นประจำ เขาคิดว่ากรเป็นลูกชายคนหนึ่งโดยไม่รู้ตัว แต่ถึงแม้ทรายทิพย์จะได้กำลังใจอย่างมากจากครอบครัว แต่ปัญหาสารพันที่รุมเร้าเข้ามา และฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้เธอสติขาดผึง เมื่อกรมาระบายความกดดันใส่ ด้วยการจิกเอาผลงาน การไล่บี้แบบไม่สนใจเหตุผลของกร ทำให้ทรายทิพย์ระเบิดอารมณ์อย่างกดดัน "ไม่ไหวแล้วเว้ยยยยยย ฉันขอลาออก" ทรายทิพย์เก็บของและเดินออกไป กรและปาล์มถึงกับอึ้ง การลาออกของทรายทิพย์ทำให้อำนาจสะใจอย่างแรง อำนาจสรุปเลยว่าโครงการเด็กดีไม่มีปัญหา ล้มเหลวไม่มีชิ้นดี ขณะนี้อำนาจหวังสูง เขาต้องการบีบขอซื้อหุ้นจากนพลักษณ์และยึดโรงเรียนมาเป็นของตัวเอง ต้องทำทุกอย่างเพื่อให้กรหมดความน่าเชื่อถือ กรเองเมื่อไม่มีทรายทิพย์ก็เริ่มรู้สึกเหมือนขาดคนรู้ใจ กรเร่งให้ปาล์มไปตามตัวทรายทิพย์กลับมา ทางด้านทรายทิพย์หลังจากลาออก เธอกลับรู้สึกว่างจนเหงา ด้วยทิฐิทรายทิพย์พยายามไม่ยอมรับความรู้สึกที่แท้จริง ยืนยันกับปาล์มว่าไม่กลับไปทำงานเด็ดขาด แต่แล้วความตั้งใจของเธอก็ต้องเปลี่ยนไป เมื่อลูกหว้าน้องสาวของหวายมาหาเธอที่บ้าน พร้อมกับเป็นสุขผู้เป็นแม่ ทั้งสองคนมาเพื่อขอให้ช่วยลูกหวาย เพราะถ้าโดนไล่ออกจริงๆ จะโดนพ่อตีอย่างหนักแน่ๆ ยอดยุทธเป็นคนอารมณ์ร้ายมาก ทำให้เป็นสุขทนไม่ได้ ขอหย่าและแบ่งลูกกัน หวายจึงเป็นคนเดียวที่ต้องรองรับอารมณ์ของพ่อ ทำให้เขากลายเป็นเด็กก้าวร้าว และใช้กำลังตัดสินปัญหา
ในระหว่างที่ลังเลอยู่นั้น กรก็พ่ายแพ้ต่อความรู้สึกของตัวเอง เขามาหาเธอที่บ้านเพื่อตามกลับไปทำงาน แต่ยังวางท่าด้วยการเอาคลิปวิดีโอที่อำนาจพูดในที่ประชุมด้วยความสะใจที่เธอทิ้งงานกลางครัน ทรายทิพย์ฟังแล้วโกรธขึ้นมาทันที กรรีบท้าทายถ้าอยากจะลบคำประมาทก็ต้องกลับไปทำงาน ดีกว่าจะต้องเสียชื่อไปทั้งชีวิต ทรายทิพย์คิดและตัดสินใจ ฉันกลับไปทำก็ได้ ถ้าต้องการให้เธอกลับไปทำงานครั้งนี้ กรจะต้องทำตัวเป็นทีมเดียวกับเธอ ไม่ใช่อยู่ฝ่ายตรงข้ามแล้วมาคอยไล่บี้แบบไม่มีเหตุผล และจะช่วยเธอทำงานนี้ให้สำเร็จในฐานะเพื่อนร่วมงานไม่ใช่เจ้านาย กรกลับไปต่อรองกับแม่ได้สำเร็จ นพลักษณ์ยืดระยะเวลาของโครงการนี้ไปอีกหนึ่งเทอม กรและทรายทิพย์ได้กลับมาทำงานด้วยกันอีกครั้ง จากความผูกพันที่เริ่มก่อตัวได้รับการสานต่ออย่างเหนียวแน่น โดยมีปัญหารายล้อมเป็นตัวเร่ง ทรายทิพย์รวบรวมกำลังใจ และข้อมูลที่มีเพื่อเริ่มต้นสานต่อโครงการเด็กดีไม่มีปัญหาอีกครั้ง โดยมีกรคอยประกบอยู่ไม่ห่าง ระหว่างปิดเทอมเด็กทั้ง 5 คน ต่างมีกิจกรรมที่แตกต่างกันออกไป ทำให้ทรายทิพย์ได้รู้จักเด็กๆ ในอีกมุมที่เธอไม่เคยรู้ ระหว่างปิดเทอมที่ได้ทำงานด้วยกันทั้งกรและทรายทิพย์ได้รู้จักกันมากขึ้น ได้ใช้ชีวิตในแบบที่ไม่เคยทำมาก่อน เหมือนได้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง โรงเรียนเปิดเทอม สิ่งไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เด็กทั้ง 5 คน กลับมาสร้างปัญหาเหมือนเดิมและรุนแรงมากขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน จากเหตุการณ์ร้ายแรงที่ประดังเข้ามาทำให้นพลักษณ์ตัดสินใจยุติโครงการเด็กดีไม่มีปัญหาของกร และเรียกเด็กทั้ง 5 คน พร้อมกับผู้ปกครองมาชี้แจงเรื่องการขอเชิญให้ออกกลางเทอม ทุกคนถึงกับช็อกและไม่ยอมออก
ส่วนยอดยุทธเมื่อรู้เรื่องก็ตบหวายต่อหน้าทุกคนอย่างแรง ในจังหวะนั้นเองทรายทิพย์ก็พุ่งเข้าไปและเอาตัวเองกอดหวายไว้ ยอมที่จะรับฝ่ามือและกำปั้นของยอดยุทธแทนโดยไม่คำนึงถึงความเจ็บปวด กรเข้ามาเห็นพอดีรีบเข้ามาห้าม กว่าเหตุการณ์จะสงบทำเอาทุกคนอกสั่นขวัญหาย และร่างกายของทรายทิพย์ก็มีรอยฟกช้ำดำเขียวเต็มไปหมด กรปฐมพยาบาลให้ทรายทิพย์ด้วยความสงสาร วินาทีนี้เขาไม่กังขากับความทุ่มเทให้กับงานของเธออีกต่อไป เขาชื่นชมเธอเป็นครั้งแรก ทรายทิพย์ดีใจและนึกไม่ถึงว่าเธอจะทำให้จอมเฮี้ยบอย่างกรเอ่ยปากชมได้ แต่สุดท้ายเธอก็ทำโครงการนี้ไม่สำเร็จ เด็กๆ ต้องโดนไล่ออก กรเสียความน่าเชื่อถือไป และตัวเธอเองก็ต้องตกงาน ความเห็นอกเห็นใจกันทำให้ทั้งสองคนใกล้ชิดกันมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อนพลักษณ์เรียกทรายทิพย์เข้าพบ และบอกให้กลับมาทำโครงการเดิมให้สำเร็จ นพลักษณ์บอกว่าหลังจากเกิดเรื่องเหล่าบรรดาผู้ปกครองของเด็กมาขอเข้าพบ และขอร้องในเรื่องเดียวกันนั่นคือ ขอโอกาสเพื่อเข้าโครงการเด็กดีไม่มีปัญหาอีกครั้ง การกลับมาของเด็กทั้ง 5 คน สร้างความแปลกใจให้เพื่อนร่วมห้องเป็นอย่างมาก หลายคนแสดงอาการรังเกียจอย่างเห็นได้ชัด ทรายทิพย์และกรต้องร่วมมือกันรีบแก้ปัญหา ก่อนที่เด็กจะโดนทำร้ายจิตใจจนยากจะแก้ไข ทรายทิพย์และกรร่วมมือกันเริ่มต้นแก้ปัญหาจากทั้งสองด้านคือ แก้ที่เด็ก และแก้ที่พ่อแม่ ในระหว่างที่ทรายทิพย์พยายามจะแก้ปัญหาอันแสนหนักหน่วงของเด็กทั้ง 5 คน เธอมีกรคอยเป็นผู้ช่วยและให้กำลังใจอย่างใกล้ชิด ทำให้เธอได้เห็นมุมต่างๆ ของผู้ชายแสนเฮี้ยบหน้าขรึมคนนี้มากมาย กลายเป็นความผูกพันที่แสนงาม
ท่ามกลางความชื่นมื่นของทรายทิพย์และกร กับโครงการที่กำลังไปได้ดี ทั้งสองไม่รู้เลยว่าอำนาจได้แอบสร้างคลื่นใต้น้ำ พลังความคิดในด้านลบนี้ถูกก่อขึ้นและพร้อมระเบิดในวันประชุมผู้ปกครองประจำปี ในการประชุมผู้ปกครองหลายคนที่โดนปั่นหัวเห็นด้วย ลามปามจนถึงขั้นต้องไล่เด็กออก ไล่ทรายทิพย์ออก และขู่ว่าถ้านพลักษณ์ให้กรมาดูแลโรงเรียนแทนจะพาลูกลาออกทั้งหมด อำนาจยิ้มพอใจกับปฎิกริยาของผู้ปกครอง แต่แล้วสิ่งที่อำนาจวาดฝันไว้ก็ต้องพังทลาย เมื่อพีรดา นวลสราญ ตรีทิพย์ ดุจฤทัย และภูทอง รวมทั้งเป็นสุข และยอดยุทธ ลุกขึ้นพูดถึงการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นหลังจากที่ได้ร่วมโครงการนี้ แต่ละคนพูดถึงสิ่งที่ได้รับ ได้เห็นปัญหา ได้เข้าใจปัญหาของลูกของตัวเอง ได้รู้ว่าเราจะปรับปรุงตัวอย่างไร เพื่อทำให้ลูกและตัวเราเป็นคนที่มีคุณภาพมากขึ้น สุดท้ายจะไล่เด็กทั้ง 5 คน ออกจากโรงเรียนก็ได้ แต่ขอให้มีโครงการนี้ต่อไป เพราะคนที่จะได้ประโยชน์คือลูกๆ และตัวคุณเอง ทำให้ผู้ปกครองคนอื่นๆ อึ้ง จากหน้ามือเป็นหลังมือ จนอำนาจไม่พอใจ เผลอหลุดโวยวายออกมา จนนพลักษณ์ต้องรีบปิดการประชุม นพลักษณ์ต่อว่าอำนาจ และบอกว่าเธอรู้ทันเกมของเขา ไม่มีวันที่เธอจะขายหุ้น และนับจากนี้ไปเธอจะให้กรขึ้นมาบริหารโรงเรียนแทน ถ้ารับไม่ได้ก็พร้อมจะให้ลาออก อำนาจตีหน้าซื่อและไม่มีปัญหาที่กรขึ้นมาแทน เขาพร้อมที่จะทำงานกับทุกคนเพื่อโรงเรียนเพื่อเด็กๆ อำนาจแม้จะพลาดในครั้งนี้ แต่เขาเก็บความแค้นไว้จนแน่นอก พร้อมจะแก้แค้นทันทีที่มีโอกาส การประชุมผู้ปกครองที่ผ่านพ้นไปเหมือนพายุที่พัดพาความมืดมัวออกไปจากชีวิตของหลายๆ คน ปิ๊กปิ๊กเลิกนิสัยขโมยของโดยเด็ดขาด และนำของที่เคยเอาไปซ่อนเพราะความอิจฉามาคืนเพื่อนๆ คืนโรงเรียน และคืนทรายทิพย์ ตรีทิพย์เลิกไปยุ่งวุ่นวายกับเมียอื่นๆ ของจักรินทร์ ดูแลลูก ดูแลตัวเอง โชกุนกล้าที่จะพูดความจริง และยอมรับความผิด แม้ต้องโดนลงโทษก็ไม่กลัว ดุจฤทัยและภูทองกลับมาคืนดีกันอีกครั้ง ทั้งสองคนเริ่มต้นกลับมาอยู่ด้วยกันใหม่ โดยมีโชกุนเป็นกาวใจ
นวลสราญกลับมาสวยเหมือนเดิม เธอเลิกกับชัยภูมิอย่างเด็ดขาดและตัดสินใจกลับไปต่างจังหวัด พร้อมกับนำเงินที่เก็บสะสมไว้มาลงทุนทำสวนในที่ของตัวเอง ตังเมยินดีลาออกจากโรงเรียน และย้ายไปเรียนที่ประจำจังหวัดเพื่อจะได้อยู่กับแม่ ตังเมใช้เวลาไปกับการสร้างสรรค์งานศิลปะที่น่าทึ่ง มินนี่กลับมาเป็นเด็กธรรมดา ลดการสื่อสารทางโซเชียลมีเดีย กลับมาอยู่กับเพื่อนๆ อยู่กับโลกความเป็นจริง และหาเวลาไปเที่ยวต่างจังหวัดกับแม่มากขึ้น ทุ่มเทให้กับการเรียน หวายเอาดีทางด้านกีฬาจนได้เป็นนักฟุตบอลโรงเรียน เมื่อได้ปลดปล่อยพลังออกมา ความก้าวร้าวก็ลดลง อาการของพ่อก็เริ่มดีขึ้น ยอดยุทธขอร้องให้เป็นสุขและหว้ากลับมาอยู่บ้าน ยอดยุทธหันไปฟังธรรมะและละวางเรื่องงาน เรียนรู้เรื่องการควบคุมอารมณ์ เพื่อแลกกับครอบครัวที่เป็นสุข นพลักษณ์ชื่นชมทรายทิพย์อย่างมากในความสำเร็จครั้งนี้ แต่ทรายทิพย์ไม่รับ เธอตัดสินใจเลื่อนตำแหน่งให้กรขึ้นมาดูแลโรงเรียนแทนเธอ ท่ามกลางการยอมรับของครูและผู้ปกครอง กรขอบคุณทรายทิพย์ที่ช่วยเหลือมาตลอด เขาชวนเธอมาเป็นพนักงานประจำ ทำหน้าที่ดูแลเด็กที่มีปัญหาคนอื่นๆ ที่อาจจะมีมาอีก แต่เธอปฎิเสธ เธอขออยู่อย่างอิสระ แต่ถ้ามีเด็กต้องการความช่วยเหลือ เธอจะมาทันที กรยอมรับและในการตัดสินใจ และถือเป็นสัญญาใจระหว่างเขาและเธอ ทรายทิพย์ปิดงานแรกในชีวิตอย่างมีความสุข เธอได้เรียนรู้ว่า ครอบครัวเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตมนุษย์ ไม่ว่าครอบครัวเราจะรั่ว แตก แยก ผุ อยู่ในสภาพเลวร้ายขนาดไหนก็ตาม ความรัก ความใส่ใจ ความสนใจ คืออุปกรณ์สำคัญที่จะอุดรอยรั่ว รอยร้าวได้อย่างดีที่สุด
ผลงานแรกที่กรหมายมั่นปั้นมือต้องทำให้สำเร็จคือ โครงการ เด็กดีไม่มีปัญหา (Sweet Broken Home) โครงการนี้เกิดขึ้นเพราะมีเด็กแสบสร้างปัญหาจนถึงขั้นต้องไล่ออกพร้อมกันถึง 5 คน อำนาจยืนยันว่าเด็กกลุ่มนี้เกินเยียวยาต้องไล่ออกเท่านั้น แต่หลังจากดูประวัติกรเห็นว่าเด็กทั้ง 5 คน มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือ พ่อแม่แยกทางกัน เด็กแต่ละคนมีครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์ กรจึงเกิดความคิดที่จะทำโครงการพิเศษนี้ขึ้น เพื่อแก้ปัญหาให้เด็กสามารถใช้ชีวิตกับคนอื่นได้ ไม่ใช่โยนเด็กที่มีปัญหาออกไปสู่สังคมภายนอกโดยไม่ทำอะไร ซึ่งความคิดนี้ตรงกันข้ามกับอำนาจอย่างสิ้นเชิง และนพลักษณ์ก็เลือกที่จะให้กรพิสูจน์ตัวเอง ทำให้อำนาจไม่พอใจอยู่ลึกๆ นพลักษณ์ยื่นคำขาด ถ้าโครงการนี้ลดความแสบของเด็กทั้ง 5 คน ลงได้ ถือว่ากรสอบผ่าน เด็กได้เรียนต่อและอาจจะมีโครงการนี้ต่อไป แต่ถ้าล้มเหลว เด็กทั้ง 5 คน ต้องโดนไล่ออก กรยอมรับการพิสูจน์ครั้งนี้ และสั่งให้ปาล์มตามหานักจิตวิทยาเฉพาะทางที่จะมาเป็นหัวหน้าโครงการโดยด่วน และคนคนนั้นก็คือทรายทิพย์นั่นเอง ในการพบกันครั้งแรกของทรายทิพย์และกรไม่ได้สวยหรูอย่างที่เธอคิดไว้ เขาไม่ได้ปลื้มกับใบปริญญาที่วางเรียงเป็นแผงและเกรดอันดีเยี่ยมของเธอแม้แต่น้อย แต่เขากลับไม่ไว้ใจเพราะเธอไม่เคยทำงานจริง และอายุก็ยังน้อย ทรายทิพย์เลยสวนกลับไปว่า "คุณกำลังตีค่าฉัน เหมือนกับที่ครูในโรงเรียนตีค่าคุณ พวกเขาคิดว่าคุณทำงานแทนแม่คุณไม่ได้ เพราะไม่มีประสบการณ์และอายุน้อย ถ้าคุณไม่พอใจที่คนอื่นตัดสินคุณด้วยเหตุผลนี้ คุณเองก็ไม่ควรตัดสินฉันด้วยเหตุผลนี้เช่นกัน" คำพูดของทรายจี้ใจดำกรอย่างแรง กรตัดสินใจยอมรับเธอเข้ามาทำงานในตำแหน่ง หัวหน้าโครงการเด็กดีไม่มีปัญหา
เมื่อนักจิตวิทยาบ้าตำรายังไม่เคยเจอของจริง ต้องมาทำงานกับคนจริงสุดเขี้ยว และยังต้องปะทะกับเด็กแสบอีก 5 คน ความปั่นป่วนชวนเวียนหัวจึงได้เกิดขึ้น ความผูกพันอันสวยงามของกรและทรายค่อยๆ ก่อตัวขึ้น พร้อมๆ ไปกับการทำงานที่ใกล้ชิดแบบตัวแทบจะติดกัน เด็กคนแรก ด.ญ.ญาทิป หรือ ปิ๊กปิ๊ก (ณพัศพร บุญธรรมรัตน์) อยู่ชั้น ป. 4 เด็กน้อยหน้าตาจิ้มลิ้ม แววตาใสซื่อ พ่อชื่อ จักรินทร์ (สราวุฒิ พุ่มทอง) เป็นนักธุรกิจใหญ่ ร่ำรวย เจ้าชู้ จนต้องแยกทางกับ แม่ ตรีทิพย์ (อัญชิสา เลี่ยวไพโรจน์) ที่มีฐานะร่ำรวยไม่แพ้กัน แต่ปิ๊กปิ๊กกลับมีพฤติกรรมชอบขโมย จนเพื่อนไม่อยากคบ แต่ปิ๊กปิ๊กกลับไม่รู้ร้อนรู้หนาว ไม่หยุดพฤติกรรมจอมฉก ปิ๊กปิ๊กจึงเป็นเด็กดีหมายเลข 1 ที่ท้าทายความสามารถของกรและทรายทิพย์ เด็กดีหมายเลข 2 เป็นเด็กชายอยู่ชั้น ป. 6 ชื่อ ด.ช. ดังใจ หรือ โชกุน (ณัฐพัชร์ นิมจิรวัฒน์) พ่อแม่แยกทางกัน ดุจฤทัย หรือ ดุจ (คัคกิ่งรักส์ คิคคิคสะระณัง) เป็นผู้หญิงเก่งที่ทุกอย่างต้องเป๊ะ จน ภูทอง หรือ ภู (โฆษวิส ปิยะสกุลแก้ว) สามีขอหย่า และหันไปเปิดผับเล็กๆ ในขณะที่ดุจฤทัยเป็นผู้บริหารระดับสูงของบริษัทข้ามชาติ ความเนี้ยบของดุจทำให้โชกุนมีปัญหา ไม่กล้าบอกความจริงและนำมาสู่การเป็นเด็กเลี้ยงแกะ จอมโกหกของโรงเรียน เด็กดีหมายเลข 3 เมษา หรือ ตังเม (ชาร์เลท วาศิตา แฮเมเนา) อยู่ชั้น ม. 3 มีปัญหาหมกหมุ่นกับการฆ่าตัวตาย พ่อตังเมชื่อ ชัยภูมิ หรือ ภูมิ (ณพสิทธิ์ เที่ยงธรรม) เป็นเจ้าของโรงงานขนาดใหญ่มีครอบครัวแล้ว นวลสราญ หรือ นวล (เพชรดา เทียมเพ็ชร) แม่ของเธอมีฐานะเป็นเมียน้อยอย่างไม่เต็มใจ นวลปล่อยตัวให้จมกับความทุกข์ ไม่ลุกขึ้นสู้กับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ทำให้ตังเมเป็นเด็กที่ไม่ได้รับความรัก การขู่ฆ่าตัวตายเพื่อเรียกร้องให้พ่อแม่หันมาสนใจ
เด็กดีหมายเลข 4 ที่สุดแสบ แสบทั้งแม่ทั้งลูก เรียกได้ว่าแสบสะท้านวงการ เพราะเธอเป็นลูกสาวของ พีรดา หรือ รดา (มยุริญ ผ่องผุดพันธ์) อดีตดาราชื่อดังที่กำลังอยู่ในช่วงขาลง มงกุฎแก้ว หรือ มินนี่ (ปฤสยา เจริญเนติศาสตร์) เป็นดาวโรงเรียน เป็นคนหลงตัวเองอย่างสุดขั้ว แม่ลูกคู่วีน เหวี่ยง เป็นจอมสร้างภาพอันดับต้นๆ ของประเทศไทย มินนี่วางตัวเป็นเจ้าแม่คอยควบคุมเพื่อน เผด็จการ เป็นตัวแทนของเด็กในยุค Gen Me อย่างแท้จริง ติดโซเชียลมีเดียจนถึงขั้นรับความจริงไม่ได้ พีรดาและมินนี่เธอรับไม่ได้ที่ตัวเองถูกส่งมารวมกับไอ้เด็กปัญหา อาละวาดจนแซนต์และกรต้องปวดหัว ความปวดหัวสุดท้ายคือเด็กคนที่ 5 ถวายชัย หรือ ลูกหวาย (ชาโนว์ แพมเบอร์เกอร์) เด็กชั้น ม. 6 หน้าตาดี ภายนอกดูสุภาพ เรียบร้อย พูดน้อย ทรายทิพย์แทบไม่อยากเชื่อเลยว่าหวายจะเป็นเด็กที่ชอบใช้ความรุนแรง มีเรื่องชกต่อยกับเพื่อนเป็นประจำ ไม่ให้ความร่วมมืออะไรทั้งสิ้น เธอรู้แค่ว่าพ่อของหวายชื่อ ยอดยุทธ (ศานติ สันติเวชกุล) เป็นเจ้าของโรงเหล็ก ส่วน เป็นสุข (สุปราณี เจริญผล) ผู้เป็นแม่ แยกทางกับพ่อได้สองสามปี หวายมีน้องสาวชื่อ ถวายพร หรือ ลูกหว้า (อภัสริญญา แพมเบอร์เกอร์) ที่อาศัยอยู่กับแม่ หลังจากได้รู้จักเด็กทั้ง 5 คน ทรายทิพย์เครียดสุดๆ เพราะแต่ละปัญหาไม่ได้ง่ายอย่างที่เธอคิด ซ้ำร้ายยังไม่มีใครให้ความร่วมมือแม้แต่คนเดียว ทั้งตัวเด็ก พ่อ แม่ แต่สิ่งที่ทั้งสองคนได้โดยไม่คาดคิดคือ การได้เรียนรู้กันและกัน ทั้งกรและทรายทิพย์ได้เก็บข้อมูลของกันและกันโดยไม่ตั้งใจ
ทรายทิพย์ได้รู้ถึงความกดดันที่ทำให้กรเป็นคนดุและจริงจังจนเกินไป กรเองก็ได้รู้ว่าปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทรายทิพย์เป็นผู้หญิงคิดบวก ไม่ท้อแท้ ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ เป็นเพราะเธอมีครอบครัวที่แสนดีเป็นกองหนุนสำคัญ กรเองก็แอบมาขอกำลังกำลังใจจากพ่อแม่ของเธอเป็นประจำ เขาคิดว่ากรเป็นลูกชายคนหนึ่งโดยไม่รู้ตัว แต่ถึงแม้ทรายทิพย์จะได้กำลังใจอย่างมากจากครอบครัว แต่ปัญหาสารพันที่รุมเร้าเข้ามา และฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้เธอสติขาดผึง เมื่อกรมาระบายความกดดันใส่ ด้วยการจิกเอาผลงาน การไล่บี้แบบไม่สนใจเหตุผลของกร ทำให้ทรายทิพย์ระเบิดอารมณ์อย่างกดดัน "ไม่ไหวแล้วเว้ยยยยยย ฉันขอลาออก" ทรายทิพย์เก็บของและเดินออกไป กรและปาล์มถึงกับอึ้ง การลาออกของทรายทิพย์ทำให้อำนาจสะใจอย่างแรง อำนาจสรุปเลยว่าโครงการเด็กดีไม่มีปัญหา ล้มเหลวไม่มีชิ้นดี ขณะนี้อำนาจหวังสูง เขาต้องการบีบขอซื้อหุ้นจากนพลักษณ์และยึดโรงเรียนมาเป็นของตัวเอง ต้องทำทุกอย่างเพื่อให้กรหมดความน่าเชื่อถือ กรเองเมื่อไม่มีทรายทิพย์ก็เริ่มรู้สึกเหมือนขาดคนรู้ใจ กรเร่งให้ปาล์มไปตามตัวทรายทิพย์กลับมา ทางด้านทรายทิพย์หลังจากลาออก เธอกลับรู้สึกว่างจนเหงา ด้วยทิฐิทรายทิพย์พยายามไม่ยอมรับความรู้สึกที่แท้จริง ยืนยันกับปาล์มว่าไม่กลับไปทำงานเด็ดขาด แต่แล้วความตั้งใจของเธอก็ต้องเปลี่ยนไป เมื่อลูกหว้าน้องสาวของหวายมาหาเธอที่บ้าน พร้อมกับเป็นสุขผู้เป็นแม่ ทั้งสองคนมาเพื่อขอให้ช่วยลูกหวาย เพราะถ้าโดนไล่ออกจริงๆ จะโดนพ่อตีอย่างหนักแน่ๆ ยอดยุทธเป็นคนอารมณ์ร้ายมาก ทำให้เป็นสุขทนไม่ได้ ขอหย่าและแบ่งลูกกัน หวายจึงเป็นคนเดียวที่ต้องรองรับอารมณ์ของพ่อ ทำให้เขากลายเป็นเด็กก้าวร้าว และใช้กำลังตัดสินปัญหา
ในระหว่างที่ลังเลอยู่นั้น กรก็พ่ายแพ้ต่อความรู้สึกของตัวเอง เขามาหาเธอที่บ้านเพื่อตามกลับไปทำงาน แต่ยังวางท่าด้วยการเอาคลิปวิดีโอที่อำนาจพูดในที่ประชุมด้วยความสะใจที่เธอทิ้งงานกลางครัน ทรายทิพย์ฟังแล้วโกรธขึ้นมาทันที กรรีบท้าทายถ้าอยากจะลบคำประมาทก็ต้องกลับไปทำงาน ดีกว่าจะต้องเสียชื่อไปทั้งชีวิต ทรายทิพย์คิดและตัดสินใจ ฉันกลับไปทำก็ได้ ถ้าต้องการให้เธอกลับไปทำงานครั้งนี้ กรจะต้องทำตัวเป็นทีมเดียวกับเธอ ไม่ใช่อยู่ฝ่ายตรงข้ามแล้วมาคอยไล่บี้แบบไม่มีเหตุผล และจะช่วยเธอทำงานนี้ให้สำเร็จในฐานะเพื่อนร่วมงานไม่ใช่เจ้านาย กรกลับไปต่อรองกับแม่ได้สำเร็จ นพลักษณ์ยืดระยะเวลาของโครงการนี้ไปอีกหนึ่งเทอม กรและทรายทิพย์ได้กลับมาทำงานด้วยกันอีกครั้ง จากความผูกพันที่เริ่มก่อตัวได้รับการสานต่ออย่างเหนียวแน่น โดยมีปัญหารายล้อมเป็นตัวเร่ง ทรายทิพย์รวบรวมกำลังใจ และข้อมูลที่มีเพื่อเริ่มต้นสานต่อโครงการเด็กดีไม่มีปัญหาอีกครั้ง โดยมีกรคอยประกบอยู่ไม่ห่าง ระหว่างปิดเทอมเด็กทั้ง 5 คน ต่างมีกิจกรรมที่แตกต่างกันออกไป ทำให้ทรายทิพย์ได้รู้จักเด็กๆ ในอีกมุมที่เธอไม่เคยรู้ ระหว่างปิดเทอมที่ได้ทำงานด้วยกันทั้งกรและทรายทิพย์ได้รู้จักกันมากขึ้น ได้ใช้ชีวิตในแบบที่ไม่เคยทำมาก่อน เหมือนได้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง โรงเรียนเปิดเทอม สิ่งไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เด็กทั้ง 5 คน กลับมาสร้างปัญหาเหมือนเดิมและรุนแรงมากขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน จากเหตุการณ์ร้ายแรงที่ประดังเข้ามาทำให้นพลักษณ์ตัดสินใจยุติโครงการเด็กดีไม่มีปัญหาของกร และเรียกเด็กทั้ง 5 คน พร้อมกับผู้ปกครองมาชี้แจงเรื่องการขอเชิญให้ออกกลางเทอม ทุกคนถึงกับช็อกและไม่ยอมออก
ส่วนยอดยุทธเมื่อรู้เรื่องก็ตบหวายต่อหน้าทุกคนอย่างแรง ในจังหวะนั้นเองทรายทิพย์ก็พุ่งเข้าไปและเอาตัวเองกอดหวายไว้ ยอมที่จะรับฝ่ามือและกำปั้นของยอดยุทธแทนโดยไม่คำนึงถึงความเจ็บปวด กรเข้ามาเห็นพอดีรีบเข้ามาห้าม กว่าเหตุการณ์จะสงบทำเอาทุกคนอกสั่นขวัญหาย และร่างกายของทรายทิพย์ก็มีรอยฟกช้ำดำเขียวเต็มไปหมด กรปฐมพยาบาลให้ทรายทิพย์ด้วยความสงสาร วินาทีนี้เขาไม่กังขากับความทุ่มเทให้กับงานของเธออีกต่อไป เขาชื่นชมเธอเป็นครั้งแรก ทรายทิพย์ดีใจและนึกไม่ถึงว่าเธอจะทำให้จอมเฮี้ยบอย่างกรเอ่ยปากชมได้ แต่สุดท้ายเธอก็ทำโครงการนี้ไม่สำเร็จ เด็กๆ ต้องโดนไล่ออก กรเสียความน่าเชื่อถือไป และตัวเธอเองก็ต้องตกงาน ความเห็นอกเห็นใจกันทำให้ทั้งสองคนใกล้ชิดกันมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อนพลักษณ์เรียกทรายทิพย์เข้าพบ และบอกให้กลับมาทำโครงการเดิมให้สำเร็จ นพลักษณ์บอกว่าหลังจากเกิดเรื่องเหล่าบรรดาผู้ปกครองของเด็กมาขอเข้าพบ และขอร้องในเรื่องเดียวกันนั่นคือ ขอโอกาสเพื่อเข้าโครงการเด็กดีไม่มีปัญหาอีกครั้ง การกลับมาของเด็กทั้ง 5 คน สร้างความแปลกใจให้เพื่อนร่วมห้องเป็นอย่างมาก หลายคนแสดงอาการรังเกียจอย่างเห็นได้ชัด ทรายทิพย์และกรต้องร่วมมือกันรีบแก้ปัญหา ก่อนที่เด็กจะโดนทำร้ายจิตใจจนยากจะแก้ไข ทรายทิพย์และกรร่วมมือกันเริ่มต้นแก้ปัญหาจากทั้งสองด้านคือ แก้ที่เด็ก และแก้ที่พ่อแม่ ในระหว่างที่ทรายทิพย์พยายามจะแก้ปัญหาอันแสนหนักหน่วงของเด็กทั้ง 5 คน เธอมีกรคอยเป็นผู้ช่วยและให้กำลังใจอย่างใกล้ชิด ทำให้เธอได้เห็นมุมต่างๆ ของผู้ชายแสนเฮี้ยบหน้าขรึมคนนี้มากมาย กลายเป็นความผูกพันที่แสนงาม
ท่ามกลางความชื่นมื่นของทรายทิพย์และกร กับโครงการที่กำลังไปได้ดี ทั้งสองไม่รู้เลยว่าอำนาจได้แอบสร้างคลื่นใต้น้ำ พลังความคิดในด้านลบนี้ถูกก่อขึ้นและพร้อมระเบิดในวันประชุมผู้ปกครองประจำปี ในการประชุมผู้ปกครองหลายคนที่โดนปั่นหัวเห็นด้วย ลามปามจนถึงขั้นต้องไล่เด็กออก ไล่ทรายทิพย์ออก และขู่ว่าถ้านพลักษณ์ให้กรมาดูแลโรงเรียนแทนจะพาลูกลาออกทั้งหมด อำนาจยิ้มพอใจกับปฎิกริยาของผู้ปกครอง แต่แล้วสิ่งที่อำนาจวาดฝันไว้ก็ต้องพังทลาย เมื่อพีรดา นวลสราญ ตรีทิพย์ ดุจฤทัย และภูทอง รวมทั้งเป็นสุข และยอดยุทธ ลุกขึ้นพูดถึงการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นหลังจากที่ได้ร่วมโครงการนี้ แต่ละคนพูดถึงสิ่งที่ได้รับ ได้เห็นปัญหา ได้เข้าใจปัญหาของลูกของตัวเอง ได้รู้ว่าเราจะปรับปรุงตัวอย่างไร เพื่อทำให้ลูกและตัวเราเป็นคนที่มีคุณภาพมากขึ้น สุดท้ายจะไล่เด็กทั้ง 5 คน ออกจากโรงเรียนก็ได้ แต่ขอให้มีโครงการนี้ต่อไป เพราะคนที่จะได้ประโยชน์คือลูกๆ และตัวคุณเอง ทำให้ผู้ปกครองคนอื่นๆ อึ้ง จากหน้ามือเป็นหลังมือ จนอำนาจไม่พอใจ เผลอหลุดโวยวายออกมา จนนพลักษณ์ต้องรีบปิดการประชุม นพลักษณ์ต่อว่าอำนาจ และบอกว่าเธอรู้ทันเกมของเขา ไม่มีวันที่เธอจะขายหุ้น และนับจากนี้ไปเธอจะให้กรขึ้นมาบริหารโรงเรียนแทน ถ้ารับไม่ได้ก็พร้อมจะให้ลาออก อำนาจตีหน้าซื่อและไม่มีปัญหาที่กรขึ้นมาแทน เขาพร้อมที่จะทำงานกับทุกคนเพื่อโรงเรียนเพื่อเด็กๆ อำนาจแม้จะพลาดในครั้งนี้ แต่เขาเก็บความแค้นไว้จนแน่นอก พร้อมจะแก้แค้นทันทีที่มีโอกาส การประชุมผู้ปกครองที่ผ่านพ้นไปเหมือนพายุที่พัดพาความมืดมัวออกไปจากชีวิตของหลายๆ คน ปิ๊กปิ๊กเลิกนิสัยขโมยของโดยเด็ดขาด และนำของที่เคยเอาไปซ่อนเพราะความอิจฉามาคืนเพื่อนๆ คืนโรงเรียน และคืนทรายทิพย์ ตรีทิพย์เลิกไปยุ่งวุ่นวายกับเมียอื่นๆ ของจักรินทร์ ดูแลลูก ดูแลตัวเอง โชกุนกล้าที่จะพูดความจริง และยอมรับความผิด แม้ต้องโดนลงโทษก็ไม่กลัว ดุจฤทัยและภูทองกลับมาคืนดีกันอีกครั้ง ทั้งสองคนเริ่มต้นกลับมาอยู่ด้วยกันใหม่ โดยมีโชกุนเป็นกาวใจ
นวลสราญกลับมาสวยเหมือนเดิม เธอเลิกกับชัยภูมิอย่างเด็ดขาดและตัดสินใจกลับไปต่างจังหวัด พร้อมกับนำเงินที่เก็บสะสมไว้มาลงทุนทำสวนในที่ของตัวเอง ตังเมยินดีลาออกจากโรงเรียน และย้ายไปเรียนที่ประจำจังหวัดเพื่อจะได้อยู่กับแม่ ตังเมใช้เวลาไปกับการสร้างสรรค์งานศิลปะที่น่าทึ่ง มินนี่กลับมาเป็นเด็กธรรมดา ลดการสื่อสารทางโซเชียลมีเดีย กลับมาอยู่กับเพื่อนๆ อยู่กับโลกความเป็นจริง และหาเวลาไปเที่ยวต่างจังหวัดกับแม่มากขึ้น ทุ่มเทให้กับการเรียน หวายเอาดีทางด้านกีฬาจนได้เป็นนักฟุตบอลโรงเรียน เมื่อได้ปลดปล่อยพลังออกมา ความก้าวร้าวก็ลดลง อาการของพ่อก็เริ่มดีขึ้น ยอดยุทธขอร้องให้เป็นสุขและหว้ากลับมาอยู่บ้าน ยอดยุทธหันไปฟังธรรมะและละวางเรื่องงาน เรียนรู้เรื่องการควบคุมอารมณ์ เพื่อแลกกับครอบครัวที่เป็นสุข นพลักษณ์ชื่นชมทรายทิพย์อย่างมากในความสำเร็จครั้งนี้ แต่ทรายทิพย์ไม่รับ เธอตัดสินใจเลื่อนตำแหน่งให้กรขึ้นมาดูแลโรงเรียนแทนเธอ ท่ามกลางการยอมรับของครูและผู้ปกครอง กรขอบคุณทรายทิพย์ที่ช่วยเหลือมาตลอด เขาชวนเธอมาเป็นพนักงานประจำ ทำหน้าที่ดูแลเด็กที่มีปัญหาคนอื่นๆ ที่อาจจะมีมาอีก แต่เธอปฎิเสธ เธอขออยู่อย่างอิสระ แต่ถ้ามีเด็กต้องการความช่วยเหลือ เธอจะมาทันที กรยอมรับและในการตัดสินใจ และถือเป็นสัญญาใจระหว่างเขาและเธอ ทรายทิพย์ปิดงานแรกในชีวิตอย่างมีความสุข เธอได้เรียนรู้ว่า ครอบครัวเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตมนุษย์ ไม่ว่าครอบครัวเราจะรั่ว แตก แยก ผุ อยู่ในสภาพเลวร้ายขนาดไหนก็ตาม ความรัก ความใส่ใจ ความสนใจ คืออุปกรณ์สำคัญที่จะอุดรอยรั่ว รอยร้าวได้อย่างดีที่สุด