เกร็ดน่ารู้จาก In the Name of the King: A Dungeon Siege Tale

เกร็ดน่ารู้
  • ดั๊ก เทย์เลอร์ เป็นผู้เขียนบทภาพยนตร์เรื่องนี้ โดยดัดแปลงจากเค้าโครงเรื่องของ เจสัน แร็ปพาพอร์ต, แดน สตรอนแค็ก และ ดั๊ก เทย์เลอร์เอง แรงบันดาลใจดั้งเดิม คือวิดีโอเกม Dungeon Siege ที่พัฒนาโดย คริส เทย์เลอร์
  • ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ อูเว โบลล์ เคยดัดแปลงวิดีโอเกมดังๆ เป็นภาพยนตร์แนวผจญภัยมาแล้วมากกว่า 20 เรื่อง อาทิ Alone in the Dark (2005), BloodRayne (2005) และ Postal (2007) โดยเขาจะรับหน้าที่กำกับ เขียนบท หรือไม่ก็อำนวยการสร้าง
  • ผู้กำกับ อูเว โบลล์ ไปคุยกับค่าย แก๊ส พาวเวอร์ เกมส์ เพื่อขอนำเกม Dungeon Siege มาสร้างเป็นภาพยนตร์ เนื่องจากเขาเห็นว่าเกมนี้เหมาะจะสร้างเป็นภาพยนตร์แฟนตาซีเพื่อผู้ชมทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะกลุ่มผู้ชมอายุ 13 ปีขึ้นไป หรือเรตพีจี-13 ซึ่งก่อนหน้านี้ อูเว กำกับภาพยนตร์เพื่อผู้ชมอายุ 18 ปีขึ้นไป หรือเรตอาร์ อาทิ เรื่อง Bloodrayne (2005) กับ House of the Dead (2003)
  • เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่ อูเว โบลล์ ได้กำกับด้วยทุนสร้างมหาศาลและใช้นักแสดงดังล้วนๆ เนื่องจากบริษัททุนสร้างภาพยนตร์ยอมอนุมัติให้ถึงกว่า 60 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นทุนสร้างภาพยนตร์ที่มากที่สุดสำหรับกองถ่ายเยอรมัน และเงินทุนก้อนนี้มากกว่าตอนที่สร้าง BloodRayne (2005) หรือ Alone in the Dark (2005) ถึง 3 เท่า
  • นายทุนเชื่อมั่นว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะขายได้ จึงเสนอบทไปให้นักแสดงดังๆ ทั้งหลาย ทำให้มีดาราดัง สนใจมาร่วมงานด้วยมากมาย อาทิ เควิน คอสเนอร์ และ เพียร์ซ บรอสแนน แต่ผู้กำกับ อูเว โบลล์ มองว่า ฟาร์มเมอร์ ตัวเอกของเรื่อง ซึ่งเป็นพ่อบ้านแสนดีที่มีลูกชายยังเด็กนั้นเหมาะกับ เจสัน สเตแธม นักแสดงแนวบู๊ที่ยังสดใหม่ของฮอลลีวูดมากกว่า
  • เจสัน สเตแธม เป็นนักแสดงร่างกำยำ ที่เคยเป็นนักกีฬาดำน้ำทีมชาติอังกฤษ และเคยเข้าแข่งโอลิมปิกมาก่อนด้วย เขามักแสดงฉากผาดโผนด้วยตัวเอง ผลงานในอดีตที่ดังๆ ของเขา อาทิ Transporter (2002) และ Crank (2006)
  • เรย์ ลิอ็อตต้า ผู้รับบท กัลเลี่ยน พ่อมดหมอผีวายร้ายนั้นเป็นเพื่อนสนิทกับ เจสัน สเตแธม มาตั้งแต่แสดงเรื่อง Revolver (2005) ของ กาย ริตชี่ ด้วยกัน
  • เรย์ ลิอ็อตต้า เป็นนักแสดงที่เข้าถึงบทบาทด้วยกรรมวิธีที่ล้ำลึก เขามักจะไปนั่งหลบอยู่ในมุมมืดระหว่างการพักกองถ่าย และไม่สุงสิงกับใครมากนัก
  • คริสแทนน่า โลเค่น ผู้รับบท เอลลอร่า นางไม้อเมซอน เคยร่วมงานกับผู้กำกับ อูเว โบลล์ ในเรื่อง BloodRayne (2005) มาก่อน ผู้กำกับจึงมั่นใจว่าเธอจะแกร่งพอสำหรับบทที่ต้องห้อยโหนโจนทะยาน และเคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่วสง่างามเช่นนี้ เนื่องจากตอนถ่ายทำ BloodRayne กันในสภาพแวดล้อมเลวร้ายสุดๆ ของโรมาเนีย เธอก็สามารถผ่านช่วงเวลาเหล่านั้นมาได้
  • ผู้กำกับฉากต่อสู้ในเรื่องนี้ คือ เฉินเสี่ยวตง ซึ่งได้รับรางวัลมาแล้วมากมายจากภาพยนตร์จีนหลายเรื่อง รวมทั้ง House of Flying Daggers (2004) เขาเป็นผู้เสนอแนวคิดในการถ่ายทำฉากเหาะเหินเดินอากาศของเหล่านางไม้ นอกจากนี้ ยังดึงเพื่อนร่วมงานที่รู้ใจจากจีนสิบคนมารับบทเป็นองครักษ์ของราชา และนินจาชุดดำที่แสดงฝีไม้ลายมือเต็มๆ ในฉากบู๊ของภาพยนตร์เรื่องนี้
  • ผู้กำกับ อูเว โบลล์ เลือก เฉินเสี่ยวตง มาเป็นผู้กำกับฉากต่อสู้ เพราะไม่อยากได้ฉากบู๊ที่ซ้ำซากชินตาจากภาพยนตร์อย่าง Kingdom of Heaven (2005) กับ Troy (2004) นอกจากนี้ เฉินเสี่ยวตง ยังช่วยให้ผู้กำกับ อูเว โบลล์ ทำงานได้เร็ว เพราะประสบการณ์หลายปีในการทำงานกับกองถ่ายทำภาพยนตร์ฮ่องกงที่ใช้ระยะเวลาในการถ่ายทำสั้นๆ
  • ภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายทำกันในบริติช โคลัมเบีย ประเทศแคนาดากันทั้งเรื่อง โดยเน้นทิวทัศน์สวยงามของเทือกเขาร็อกกี้ฝั่งแคนาดา และป่าเขียวขจีของเกาะแวนคูเวอร์ เป็นแหล่งพำนักสุดตระการตาของพวกเอ็บในเรื่อง ซึ่งสถานที่เหล่านี้จะต้องเดินทางเข้าไปด้วยเฮลิคอปเตอร์เท่านั้น
  • ตลอดทั้งเรื่องถ่ายทำจากสถานที่จริง รวมทั้งฉากน้ำตกที่รายล้อม มีเพียงตัวปราสาทยุคกลางซึ่งปรากฏในฉากที่ราชาปราศัยเท่านั้นที่ต้องสร้างภาพด้วยคอมพิวเตอร์
  • ผู้กำกับ อูเว โบลล์ สร้างหมู่บ้านสโตนบริจด์ ในเมืองซุก ขึ้น ซึ่งเป็นอุทยานที่อยู่ทางตอนใต้ปลายสุดของเกาะแวนคูเวอร์ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ค่อนข้างเป็นเอกเทศ เข้าถึงยาก ในสถานที่แห่งนี้ ทีมงานได้ร่วมงานกับชนเผ่าพื้นเมือง และในตอนเช้าทุกๆ เช้า ยังมีโอกาสได้เห็นปลาวาฬเพชฌฆาตอีกด้วย
  • ในตอนที่ถ่ายทำฉากที่ตัวละคร ฟาร์มเมอร์, มัวรีลล่า และ เอลลอร่า เดินทางข้ามเขา พวกเขาจะต้องขึ้นไปที่ยอดเขาด้วยเฮลิคอปเตอร์ ทว่ามีอยู่ครั้งหนึ่งที่เมื่อพวกเขาขึ้นไปบนยอดเขาแล้ว เมื่อจะกลับลงมา หมอกกลับลงจัดจนไม่สามารถขับเฮลิคอปเตอร์ขึ้นได้ พวกเขาพากันนั่งรอให้หมอกจาง ประมาณ 3 ชั่วโมงผ่านไป สถานการณ์ก็ไม่ดีขึ้น พวกเขาจึงเดินเท้ากันกลับลงมาในที่สุด
  • ทีมงานลงทุนตั้งค่ายสำหรับม้าและเหล่าคนเลี้ยงม้าที่ยอดเขา ซึ่งหากหมอกหนาจัด คนและม้าเหล่านั้นก็ต้องอยู่แต่บนเขาเท่านั้น ลงมาไม่ได้ เพราะการปล่อยให้ม้าไต่ลงมาในสภาพเช่นนั้นมันอันตรายเกินไป
  • ผู้กำกับ อูเว โบลล์ คิดว่าการสร้างภาพคนด้วยคอมพิวเตอร์นั้นดูน่าเบื่อ จึงสั่งให้ใช้นักแสดงสมทบมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ พวกเขามีกองกำลังเป็น ม้า 200 ตัว รถบรรทุก 100 คัน และนักแสดงประกอบฉากอีก 800 ชีวิต ในฉากสมรภูมิรบมหึมา พวกเขาใช้คนจริงๆ ทั้งหมด
  • ภาพยนตร์ถ่ายทำกันในฤดูร้อน อุณหภูมิสูง 90-100 องศาฟาเรนไฮต์ และเหล่านักแสดงต้องสวมชุดเต็มยศ โดยเฉพาะพวกครักที่มีองค์ประกอบเครื่องแต่งกายเยอะมาก แล้วยังต้องแสดงฉากต่อสู้ กระโดดไปมา และวิ่งฝ่าป่าเขาลำเนาไพรในชุดที่หนาหนัก ทีมงานพยายามแจกจ่ายน้ำให้ทั่วถึง แต่ก็มีหลายคนเป็นลมแดด
  • บทภาพยนตร์ดัดแปลงเพิ่มเติมจากในเกมไปไม่น้อย เช่น สร้างตัวละครเพิ่มเข้าไปตั้งแต่ตอนต้นเรื่อง และจากในเกมที่ภรรยาของตัวละครฟาร์มเมอร์ถูกฆ่าตายไปพร้อมทุกๆ คนในฟาร์มนั้น ผู้เขียนบทก็เปลี่ยนให้พวกครักจับตัวภรรยาของฟาร์มเมอร์ไปเป็นเชลยแทน เพื่อให้การตัดสินใจร่วมทำศึกของฟาร์มเมอร์ดูสมเหตุสมผลขึ้น
  • ทีมงานใช้เวลาพัฒนาบทภาพยนตร์นานกว่าหนึ่งปีครึ่ง

advertisement

วันนี้ในอดีต

  • โป๊ะแตกโป๊ะแตกเข้าฉายปี 2010 แสดง เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา, เทพ โพธิ์งาม, เท่ง เถิดเทิง
  • 14 Blades14 Bladesเข้าฉายปี 2010 แสดง Donnie Yen, Zhao Wei, Qi Yuwu
  • Turn Left, Turn RightTurn Left, Turn Rightเข้าฉายปี 2004 แสดง Gigi Leung, Takeshi Kaneshiro, Edmund Chen

เกร็ดภาพยนตร์

  • Deliver Us from Evil - โจเอล แม็กเฮล ผู้รับบท บัตเลอร์ ใช้เวลาหลายเดือนฝึกฝนขว้างมีด และศิลปะการต่อสู้เพื่อจะได้ไม่ต้องใช้นักแสดงแทน เขาไม่มีบาดแผลจากการฝึกฝนหรือการถ่ายทำเลยสักแผลเดียว จนกระทั่งวันท้ายๆ ของการถ่ายทำ เขากลับมีบาดแผลเพราะใช้มีดตัดช็อกโกแลตให้ลูกชาย อ่านต่อ»
  • Kite - เดิมที เดวิด อาร์ เอลลิส คือผู้กำกับที่ถูกวางตัวให้กำกับภาพยนตร์ แต่หลังจาก เดวิด เสียชีวิตในโรงแรมที่โจฮันเนสเบิร์ก ราล์ฟ ซีแมน จึงรับหน้าที่กำกับแทน อ่านต่อ»

เปิดกรุภาพยนตร์

Ek Ladki Ko Dekha Toh Aisa Laga Ek Ladki Ko Dekha Toh Aisa Laga เรื่องราวความรักนั้นไม่ใช่ง่าย เรื่องราวของ สวีตีย์ (โซแนม คาปูร์) ก็เป็นแบบนั้น เธอต้องต่อสู้กับครอบครัวของเธอที่ต้องก...อ่านต่อ»