วิจารณ์ Into the Wild
-
Watchmen_Since_1985
(เลขที่ 296622)
เมื่อ 28 ก.ย. 55 11:32
ท่วงทำนองของชีวิต
ผมชอบดูหนังอารมณ์ FeelGood แต่ดูเหมือนผมจะเข้าใจผิด
แม้ว่าหน้าหนังจะสื่อออกมาในแนวทางหนังชีวิต มองโลกในแง่บวก แต่เอาเข้าจริงๆแม้เริ่มต้นหนังจะเล่าออกมาในโทนสดใสแต่หลังจากนั้นหนังจะใส่ปมปัญหาเข้ามามากมายผ่านทางตัวละครเอกอย่าง Christopher McCandless เด็กหนุ่มบัณฑิตอนาคตไกลที่ตัดสินใจทิ้งชีวิตในสังคมเมือง ทุนนิยม เข้าชีวิตที่เป็นชีวิตจริงๆ Into the Wild หนังเล่าเรื่องราวผ่านการผจญภัยซึ่งเป็นแนวหนัง Road Movie แต่หากใครคิดว่าหนัง้ดินตามสูตรสำเร็จหนังแนวนี้แล้วคุณคิดผิด หนังใช้ภาพตัดสลับไปมาระหว่างเหตุการณ์ในอดีตและปัจจุบัน เสียงบรรยายของน้องสาว Christopher แทรกเป็นระยะๆ ทำให้เราเข้าใจในความคิดที่ไม่เข้าใจของ Christopher ได้เป็นอย่างดี ที่อยากชื่นชมคือนักแสดงนำอย่าง Emile Hirsch ก่อนหน้านี้หลายคนอาจจดจำเขาผู้นี้จากบทบาท Speed นักแ่ข่งรถใน Speed Racer หรือเมื่อต้นปีกับหนังสุดแป้กอย่าง The Darkest Hour แต่น้อยคนนักที่จะจดจำว่าเขาเป็นหนึ่งในนักแสดงที่มีฝีมือจากทั้งหนังเรื่อง Milk,Taking Woodstock,Alpha Dog
มุมองการเล่นภาพของนักแสดงออสการ์ที่ผันตัวมากำกับอย่าง Sean Penn นั้นถือว่ายอดเยี่ยม มุมภาพคัลท์ใช้ได้เลยทีเดียว แม้จะมีบางซีนที่ผมรู้สึกว่าน่าจะหดหายไปใน deleted scenes อยู่ก็ตาม เพลงประกอบถือว่าจับใจเข้ากันได้ดีกับสิ่งที่หนังต้องการจะสื่อสารให้กับคนดู
แม้ว่าตอนจบจะเป็นอะไรที่ทำร้ายคนดูอยู่ไม่น้อย โดยฌแพาะคนที่ถูกด่าว่าอยู่บ่ิอยๆว่าพวกโลกสวย นั้นค่อนข้างสะเทือนใจอยู่ ยิ่งได้รู้ว่าสร้างจากเรื่องราวจริงๆของคนบนโลกใบนี้ ยิ่งทำให้ผมรู้สึกว่าจริงๆแล้ว โลกเรามันก็ไม่ได้บวกไปเสียหมด แม้ว่าเราจะพยายามมองไปในแง่นั้นแต่บางสิ่งเราก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงมันได้
Into the Wild จัดเป็นหนังน้ำดี มีคุณภาพ แม้หนังจะมีความยามกว่า 148 นาที นับว่าไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่จะนั่งดูในวันที่ชีวิตเร่งรีบ แต่หากคุณได้ดูแล้ว คุณอาจรู็สึกเหมือนกันกับผมที่ว่า ดีใจที่ได้ดู >//<
9/10
*หวังว่าผมคงได่เห็น Emile Hirsch ในหนังรางวัลมากกว่าที่จะเห็นในหนังตลาด เสียดายเพราะเขาคือนักแสดงที่มีคุณภาพเหลือหลาย -
i23EF
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 29 มี.ค. 52 17:43
หนังเรื่องนี้ให้อะไรหลายๆอย่างเลยครับ
ข้อคิด คติ การเลือกตัดสินใจในการดำรงชีวิต ความหมาย ความสุขของชีวิต
การดำเนินเรื่องสลับช่วงเวลาไปมา แต่ไม่ทำให้คนดูงงมากครับ
ตัวนักแสดงเล่นได้ดีมากครับ
My Score
Story 9/10
CG 8/10
Acting 8/10
Entertain 7/10
ความประทับใจ 8/10
Total 40 /50 = Grade A
ส่วนตัวผมให้ B+ ครับ
ผมคิดว่าเป็นหนังคุณภาพ "ดี" ครับ เป็นหนัง Drama เรื่องหนึ่งที่น่าดูครับ ให้แง่คิดใหม่ๆกับชีวิต ผมชอบครับ -
บ้ามูฟวี่
(เลขที่ 184762)
เมื่อ 10 ก.ย. 51 20:28
คำเตือน: บางส่วนของคำวิจารณ์นี้เหมาะกับผู้ที่ชมภาพยนตร์เรื่องนี้แล้วเท่านั้น ดูแล้วอยากอ่านบันทึกของจริงที่เค้าบันทึกเรื่องต่างๆเอาไว้จัง
ผู้ชายคนนี้เป็นคนที่มีใจเด็ดมากๆ เรียนก็เก่ง ฐานะก็ดี แต่หลีกหนีมาใช้ชีวิตแบบไม่ต้องพึ่งพาสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ
ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเมื่อเค้าป่วยเค้าไม่ออกไปรักษาในเมือง หรือว่าที่เค้าอยู่นั่นห่างไกลจากตัวเมืองมากจนไม่สามารถออกไปได้ในสภาพนั้น
ตอนจบดูแล้วเศร้าจริงๆเลยอะ ถ้าเค้าอยู่ถึงตอนนี้อยากรู้จังเค้าจะเป็นคนแบบไหน
เป็นหนังที่ดีมากๆอีกเรื่องนึงครับ -
emo69
(เลขที่ 100209)
เมื่อ 27 ก.ค. 51 02:48
ใช่ๆ พึ่งจะดูวันนี้นี่เอง ให้ 10 เต็มไปเลย ดูแล้วได้อะไรให้คิดในชีวิตได้เลย ตอนเรกที่หนังขึ้นแล้วจะมี บทความ ให้อ่านก่อนอ่ะ เป็นอะไรที่ชอบมากๆและมีความหมายมาก
-
Ryan
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 15 พ.ค. 51 21:09
คำเตือน: บางส่วนของคำวิจารณ์นี้เหมาะกับผู้ที่ชมภาพยนตร์เรื่องนี้แล้วเท่านั้น คนไม่ได้ดู ห้ามอ่าน เด็ดขาดนะ ผมจะ spoil
Into The Wild หนังภาพยนตร์ที่สร้างมาจากเรื่องจริงของชายผู้หนึ่ง ผู้ที่เบื่อชีวิตอย่างคนปรกติ และคิดจะหาทางออกด้วยการ ทำลายบัตรเครดิตกับบัตรประชาชน และเผาเงินทิ้งทั้งหมด ทั้งเช็คต่อมิอะไร เพื่อเดินทางมุ่งหน้าสู่ ธรรมชาติ
Chris McCandless (12 February 1968 18 August 1992) เสียชีวิตด้วยวัยเพียง 24 ปีเท่านั้น หลังจากออกเดินทางได้ไม่นาน เขาตายเพราะพืชที่เขากินเข้า ทำให้เกิดอาการผอมซีด ไม่มีแรง เวียนหัว และ "ตาย" ในที่สุด
ถึงแม้ว่าจุดจบของชายผู้นี้จะไม่น่าดูชมนัก แต่ความกล้าและความเด็ดเดี่ยวของเขาผู้นี้ดูยิ่งใหญ่กว่าภูเขาทั้งลูก เขาสามารถฟันฝ่าอุปสรรค์ทุกอย่างได้ อย่างไม่ย่อท้อใดๆ ทั้งที่ตัวเองมีชีวิตเเสนวิเศษรอคอยอยู่แล้ว แต่ชายคนนี้กลับเรื่องหนทางสู่ The Wild สู่ป่า นั่นเอง
หนังเรื่องนี้เล่าประวัติว่าชายคนนี้ได้เดินทางไปเจอกับอะไรๆมากมาย จนได้ประสบการณ์มาเยอะ ทั้งผจญภัย เรื่อง่นาหวาดเสียว เรื่องแย่เรื่องเลวร้าย เรื่องราวความรัก เรื่องความประทับใจ และเรื่องอีกต่างๆนาๆ ทำให้คนดูได้รู้ถึงชีวิตมนุษย์
พอมองสะท้อนในอีกแง่ เหมือนเค้าจะสื่อมาว่า ชีวิตการดำรงแบบนี้มันคือ อิสระ ที่แท้จริงของมนุษย์ ไม่ใช่ต้องจมปักอยู่กับสังคมเมืองตลอดไปจนแก่ตาย มันแสดงถึงคนๆนึง ที่ดิ้นรนที่จะหลุดออกจากวงจรวิถีชีวิตปรกติของคน และไปหาสิ่งที่เรียกว่า "ใช่"
ถ้าจะพูดถึงนักแสดงก็ขอบอกว่านักแสดงแสดงได้ดีมากๆสมบทบาท
ส่วน คริส ตัวจริงนั้นได้เสียชีวิตไปตั้งแต่ สิงหาคม พ.ศ. 2535 ยังไงก็ขอไว้อาลัยย้อนหลังสำหรับบุรุษผู้มีความทะเยอทะยานคนนี้ด้วยแล้วกันครับ ประวัติของคุณคนอีกมากมายจะจดจำไปอีกนาน
ผมให้คะแนน 10/10 ครับ ไม่ต้องมีคำบรรยายมาก เอา A ไปเลย สุดยอดมาก เพลง soundtrack ก็เพราะเช่นกัน เพลง Hard Sun - Eddie Veider ครับ
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google+ หรือ Facebook ก็ได้
Facebook | Google+
advertisement
วันนี้ในอดีต
- Skylineเข้าฉายปี 2010 แสดง Eric Balfour, Scottie Thompson, David Zayas
- โคเลสเตอรอล..ที่รักเข้าฉายปี 2004 แสดง วัชระ ตังคะประเสริฐ, เมทินี กิ่งโพยม, ชุติมา เอเวอรี่
- Sawเข้าฉายปี 2004 แสดง Leigh Whannell, Cary Elwes, Danny Glover
เกร็ดภาพยนตร์
- Badlapur - เป็นภาพยนตร์ที่ไม่ใช่แนวตลกเรื่องแรกที่ วรุณ ธาวาน ผู้รับบท รักฮาฟ แสดง อ่านต่อ»
- Chappie - ชาร์ลโต คอปลีย์ ผู้รับบท แชปปี้ กับผู้กำกับ นีลล์ บลอมแคมป์ เรียนโรงเรียนเดียวกันสมัยมัธยมศึกษา ทั้งคู่เป็นเพื่อนสนิทกัน ชาร์ลโต จึงร่วมแสดงในภาพยนตร์ทุกเรื่องที่ นีลล์ กำกับก่อนหน้านี้ ได้แก่ District 9 (2009) และ Elysium (2013) อ่านต่อ»