มิว กับงานคู่ ตุลย์ งานแรกที่แสดงออกถึงความเป็นคนที่รู้ใจกันแบบไม่มีกั๊ก!
26 เม.ย. 67 19:36 น. /
ดู 2,312 ครั้ง /
1 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์
hashtag:
#ตุลย์ภากร #มิวศุภศิษฏ์
ถือเป็นงานคู่งานแรกอย่างเป็นทางการของ มิว ตุลย์ เขาเลย สำหรับ UItherapy Seenomenon Fest
หลังเปิดตัวว่ามีความสัมพันธ์ที่พิเศษต่อกัน
ได้ยืนคู่เคียงบ่าเคียงไหล่ต่อหน้าสาธารณะชนแล้วดีงามมาก รุ่นพี่วิศวะกับรุ่นน้องสถาปัตย์
และแน่นอนหลายๆ คนรวมถึงพี่ๆ สื่อก็รอคอยวันนี้กันมานาน งานนี้เลยไม่พลากต้องได้สัมภาษณ์คู่กัน
สำหรับความรู้สึกที่ได้ออกงานคู่กันครั้งแรก ทั้งคู่ก็ยอมรับว่าตื่นเต้น แต่ตุลย์บอก ข่มความตื่นเต้นไว้ แต่อุ่นใจอยู่แล้วครับ
พี่มิวเขาพูดเก่งเขาเอาอยู่ ส่วนทำไมถึงตัดสินใจรับงานแรกด้วยกัน คนพี่บอก คิดว่าเป็นช่วงเวลาที่ดี หลังจากที่เราไปเที่ยวกันมาไปพักผ่อนกันมาเมื่อช่วงวันสงกรานต์ ก็รู้สึกว่าหลังจากที่ผ่านมา ก็ได้ไปพบปะครอบครัวและรู้สึกว่าห่างหายจากการที่ไปอีเวนต์ และก็รู้สึกว่ากลับมาหลังสงกรานต์ก็มีงานกันก็น่ารักดี ก่อนหน้านี้ก็จะเป็นงานคู่ถ่ายแบบ ถ่ายแฟชั่นที่ไปคู่กัน งานคู่ติดต่อเยอะ มีแฟนมีตติ้งด้วย แต่ว่ายังไม่ได้ตอบตกลงว่าจะอะไรยังไงดี ไม่งั้นแม่เขาจะด่าผมว่าชวนน้อง (หัวเราะ) ฟากของตุลย์เองก็ยอมรับว่า
ตัวเองยังบริหารงานมาทำงานในวงการได้ไม่ดียังมีภาระที่ต้องทำงานกับที่บ้านเยอะ ถ้าบริหารเวลาได้ก็จะรับงาน แต่ว่าก็เหมือนจะเฟดๆ ลง ซีรีส์ก็ยังไม่พร้อมจะรับเลย มีติดต่อมาเยอะมาก แต่ในเมื่อเราไม่สามารถบริหารเวลาให้ไปถ่ายได้ในขณะที่ต้องทำงานประจำไปด้วย ตอนนี้ก็ทำงานกับที่บ้านเป็นหลัก งานคู่ก็เดี๋ยวดูตามความเหมาะสม
ส่วนพี่นักข่าวก็ขยี้ขอแบบชัดๆ ไม่อ้อมว่า สถานะความสัมพันธ์ใช้เป็นคำว่าอะไร แบบคู่จิ้นคู่ใหม่รึเปล่าไรงี้
มิว: จะเรียกว่าคู่จิ้นหรือเปล่า
นักข่าว: หรือคู่จริง
ตุลย์: คู่จิ้นมีแล้ว เป็นคู่อื่นบ้าง เป็นอะไรก็ได้เพราะโตแล้ว ปล่อยจอย เป็นคู่ปล่อยจอย
มิว: เป็นคู่ที่พัฒนาความสัมพันธ์
ตุลย์: เป็นพาร์ตเนอร์
มิว: เป็นคนรู้ใจกำลังดีใช่ไหม เป็นพาร์ตเนอร์ที่ดี ถ้าให้จำกัดความก็คิดว่าเหมือน
ตุลย์: ก็อย่างนั้นแหละอะไรก็ได้ ไม่ต้องรู้หรอกว่าเราคบกันแบบไหน ก็เป็นพาร์ตเนอร์กัน ปล่อยจอย เคารพการตัดสินใจ
ถามว่าเขินไหม?
ตุลย์:โทรคุยกันเขินกว่านี้อีก ก็เป็นคนที่ใส่ใจความรู้สึก และครอบครัวก็ให้อิสระในการตัดสินใจอยู่แล้ว ที่บ้านก็ไม่ติดเหมือนกัน ซัปพอร์ตทุกเรื่องครับ เวลาพี่มิวไปบ้าน เขาก็อยากรู้จักพี่มิว เขาทำงานอะไร
มิว: ถามว่าเกร็งไหม รู้สึกว่าช่วงเวลาที่ได้ไปเที่ยวด้วยกัน หรือว่าไปทานข้าวด้วยกันทำความรู้จักกับครอบครัวของตุลย์มาสักระยะหนึ่งแล้ว ก็รู้สึกว่าความเกร็งก็ลดน้อยลงครับ แต่ครั้งแรกที่เจอก็เกร็ง แต่ว่าพอไปเรื่อยๆ ต้องบอกว่าครอบครัวเขาน่ารักมากๆ เรารู้สึกว่าเราผ่อนคลายที่ได้อยู่ด้วยกัน ส่วนเป็นเหมือนคนในครอบครัวไหม ต้องถามคนในครอบครัวเขาสิ
ตุลย์: ก็ไปมาหาสู่กันได้ตลอด เวลารักอะไรเราก็เต็มที่กับความรัก ถามว่าทะเลาะกันไหม เอาความเห็นมาคุยกันและกัน
มิว: คุยกันเฉยๆ นานๆ ทีเราจะทะเลาะกันที ถามว่าใครชนะ ต้องบอกว่าเรื่องความสัมพันธ์เราจะไม่มีการแพ้ชนะ ต้องบอกว่าการที่เราเอาความเห็นมาคุยกัน เพื่อให้มันดีขึ้นหรือเปล่า ถ้าดีขึ้นเอามาคุยกันได้ แต่ถ้าไม่ดีขึ้นต้องเว้นห่างสักระยะแล้วค่อยกลับมาคุยกัน จากนี้ให้เป็นคนที่รู้ใจกันก็ได้ ความสัมพันธ์ตอนนี้คือเฮลท์ตี้มากๆ เหมือนพออยู่ด้วยกันแล้วได้กำลังใจ แล้วก็ได้พลังงานบวกตลอดเวลา ไม่ว่าต่างฝ่ายต่างมีภาระหน้าที่อะไร รู้สึกว่าเหมือนทั้งสองคน มีความเหมือนและความต่างที่ลงตัว คือบางทีอย่างที่ตุลย์ บอกว่าผมเป็นคนช้ามาก เขาเป็นคนที่ตัดสินใจเร็วไปหน่อย ก็ต้องมีคนที่คิดหลายๆ ทาง แบบเขาช่วยคอยตัดสินใจว่า มีทางไหนอีกไหม เหมือนทำให้ชีวิตเราดีมากขึ้น ถามว่าสมบูรณ์แบบไหม ก็ค่อยๆ เรียนรู้เพิ่มมากขึ้นครับ นับตั้งแต่รู้จักกันมา 12-13 ปีได้แล้วครับ สมัยนั้นยังเป็นน้องสถาปัตย์ ผมเป็นพี่วิศวะอยู่เลยเรื่องกฎหมายสมรสเท่าเทียม ก็ดีใจที่เรื่องต่างๆ ของประเทศไทยจะไปในทิศทางที่ดีมากขึ้น ถ้าสมมติว่าร่างกฎหมายผ่านแบบ 100% เราจะมาบอกว่าความสัมพันธ์เป็นยังไง ทุกคนจะได้เคลียร์และได้ช่วยกันรณรงค์เรื่องนี้เพิ่มมากขึ้น
ส่วนบรรยากาศตอนอยู่ในงานขนาดยังไม่ขึ้นเวที มวลความเหมือนสิ่งนั้นก็พลุกพล่านมากๆ🥰
และตอนขึ้นไปพูดคุยบนเวทีที่โดนถามถึงเรื่องการเลือกใช้บริการนวัตกรรมเพิ่มความสวยหล่อ
ตุลย์: จริงๆ ตอนนี้มีหลายเทคโนโลยีในตลาด แต่เราก็ต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเองอยู่แล้ว
MC: สิ่งที่ดีที่สุด หมายถึงนวัตกรรมเนาะ?
ตุลย์: ทุกอย่างครับ
แก้มจะแตกกันแล้วม้าง เจอชงแล้วก็ตบกลับแฮงใช่ย่อย
ถ้าถามทั้งคู่มีวิธีดูแลผิวหน้ากันยังไง คำตอบคนน้องก็คือถ้าคนข้างๆ ถือลูกโป่งกุ้งอยู่คงเอาหนีบคอตัวเองตุยไปแล้ว
เพราะตุลย์บอก ช่วยกันทาครีม ถึงจะตามมาด้วยคำว่า พูดเล่นๆ แต่ไม่ทันแล้วเตง~
วัดกรอบหน้ากันก็มาแล้วหนึ่ง แต่ความศุภศิษฏ์ก็คือจิ้มหน้าน้องแล้วก็ถาม ทำไมนิ่มจัง
หรือ MC ให้มองด้านข้าง ก็พูดขึ้นมาว่า น่ารักครับ คลั่งรักเกิ๊นนน😳
ตอนเล่นเกมกับแฟนคลับ ก็หยอกกันถึงเนื้อถึงตัวเลย เปิดตัวแล้วจะทำไรก็ได้เนอะ
มีเพลงคู่ที่เคยร้องด้วยกันมาแล้วอย่าง Can't Take My Eyes Off You มาร้องให้ฟังด้วย
แต่พิเศษตรงที่เวอร์ชั่นนี้เขา Take Off a Shirt กันด้วย เล่นทั้งเขินทั้งหน้าร้อนไปตามๆ กันเลย งานคู่งานแรกนี้ ~
#มิวศุภศิษฏ์ #ตุลย์ภากร
หลังเปิดตัวว่ามีความสัมพันธ์ที่พิเศษต่อกัน
และแน่นอนหลายๆ คนรวมถึงพี่ๆ สื่อก็รอคอยวันนี้กันมานาน งานนี้เลยไม่พลากต้องได้สัมภาษณ์คู่กัน
สำหรับความรู้สึกที่ได้ออกงานคู่กันครั้งแรก ทั้งคู่ก็ยอมรับว่าตื่นเต้น แต่ตุลย์บอก ข่มความตื่นเต้นไว้ แต่อุ่นใจอยู่แล้วครับ
พี่มิวเขาพูดเก่งเขาเอาอยู่ ส่วนทำไมถึงตัดสินใจรับงานแรกด้วยกัน คนพี่บอก คิดว่าเป็นช่วงเวลาที่ดี หลังจากที่เราไปเที่ยวกันมาไปพักผ่อนกันมาเมื่อช่วงวันสงกรานต์ ก็รู้สึกว่าหลังจากที่ผ่านมา ก็ได้ไปพบปะครอบครัวและรู้สึกว่าห่างหายจากการที่ไปอีเวนต์ และก็รู้สึกว่ากลับมาหลังสงกรานต์ก็มีงานกันก็น่ารักดี ก่อนหน้านี้ก็จะเป็นงานคู่ถ่ายแบบ ถ่ายแฟชั่นที่ไปคู่กัน งานคู่ติดต่อเยอะ มีแฟนมีตติ้งด้วย แต่ว่ายังไม่ได้ตอบตกลงว่าจะอะไรยังไงดี ไม่งั้นแม่เขาจะด่าผมว่าชวนน้อง (หัวเราะ) ฟากของตุลย์เองก็ยอมรับว่า
ตัวเองยังบริหารงานมาทำงานในวงการได้ไม่ดียังมีภาระที่ต้องทำงานกับที่บ้านเยอะ ถ้าบริหารเวลาได้ก็จะรับงาน แต่ว่าก็เหมือนจะเฟดๆ ลง ซีรีส์ก็ยังไม่พร้อมจะรับเลย มีติดต่อมาเยอะมาก แต่ในเมื่อเราไม่สามารถบริหารเวลาให้ไปถ่ายได้ในขณะที่ต้องทำงานประจำไปด้วย ตอนนี้ก็ทำงานกับที่บ้านเป็นหลัก งานคู่ก็เดี๋ยวดูตามความเหมาะสม
ส่วนพี่นักข่าวก็ขยี้ขอแบบชัดๆ ไม่อ้อมว่า สถานะความสัมพันธ์ใช้เป็นคำว่าอะไร แบบคู่จิ้นคู่ใหม่รึเปล่าไรงี้
มิว: จะเรียกว่าคู่จิ้นหรือเปล่า
นักข่าว: หรือคู่จริง
ตุลย์: คู่จิ้นมีแล้ว เป็นคู่อื่นบ้าง เป็นอะไรก็ได้เพราะโตแล้ว ปล่อยจอย เป็นคู่ปล่อยจอย
มิว: เป็นคู่ที่พัฒนาความสัมพันธ์
ตุลย์: เป็นพาร์ตเนอร์
มิว: เป็นคนรู้ใจกำลังดีใช่ไหม เป็นพาร์ตเนอร์ที่ดี ถ้าให้จำกัดความก็คิดว่าเหมือน
ตุลย์: ก็อย่างนั้นแหละอะไรก็ได้ ไม่ต้องรู้หรอกว่าเราคบกันแบบไหน ก็เป็นพาร์ตเนอร์กัน ปล่อยจอย เคารพการตัดสินใจ
ถามว่าเขินไหม?
ตุลย์:โทรคุยกันเขินกว่านี้อีก ก็เป็นคนที่ใส่ใจความรู้สึก และครอบครัวก็ให้อิสระในการตัดสินใจอยู่แล้ว ที่บ้านก็ไม่ติดเหมือนกัน ซัปพอร์ตทุกเรื่องครับ เวลาพี่มิวไปบ้าน เขาก็อยากรู้จักพี่มิว เขาทำงานอะไร
มิว: ถามว่าเกร็งไหม รู้สึกว่าช่วงเวลาที่ได้ไปเที่ยวด้วยกัน หรือว่าไปทานข้าวด้วยกันทำความรู้จักกับครอบครัวของตุลย์มาสักระยะหนึ่งแล้ว ก็รู้สึกว่าความเกร็งก็ลดน้อยลงครับ แต่ครั้งแรกที่เจอก็เกร็ง แต่ว่าพอไปเรื่อยๆ ต้องบอกว่าครอบครัวเขาน่ารักมากๆ เรารู้สึกว่าเราผ่อนคลายที่ได้อยู่ด้วยกัน ส่วนเป็นเหมือนคนในครอบครัวไหม ต้องถามคนในครอบครัวเขาสิ
ตุลย์: ก็ไปมาหาสู่กันได้ตลอด เวลารักอะไรเราก็เต็มที่กับความรัก ถามว่าทะเลาะกันไหม เอาความเห็นมาคุยกันและกัน
มิว: คุยกันเฉยๆ นานๆ ทีเราจะทะเลาะกันที ถามว่าใครชนะ ต้องบอกว่าเรื่องความสัมพันธ์เราจะไม่มีการแพ้ชนะ ต้องบอกว่าการที่เราเอาความเห็นมาคุยกัน เพื่อให้มันดีขึ้นหรือเปล่า ถ้าดีขึ้นเอามาคุยกันได้ แต่ถ้าไม่ดีขึ้นต้องเว้นห่างสักระยะแล้วค่อยกลับมาคุยกัน จากนี้ให้เป็นคนที่รู้ใจกันก็ได้ ความสัมพันธ์ตอนนี้คือเฮลท์ตี้มากๆ เหมือนพออยู่ด้วยกันแล้วได้กำลังใจ แล้วก็ได้พลังงานบวกตลอดเวลา ไม่ว่าต่างฝ่ายต่างมีภาระหน้าที่อะไร รู้สึกว่าเหมือนทั้งสองคน มีความเหมือนและความต่างที่ลงตัว คือบางทีอย่างที่ตุลย์ บอกว่าผมเป็นคนช้ามาก เขาเป็นคนที่ตัดสินใจเร็วไปหน่อย ก็ต้องมีคนที่คิดหลายๆ ทาง แบบเขาช่วยคอยตัดสินใจว่า มีทางไหนอีกไหม เหมือนทำให้ชีวิตเราดีมากขึ้น ถามว่าสมบูรณ์แบบไหม ก็ค่อยๆ เรียนรู้เพิ่มมากขึ้นครับ นับตั้งแต่รู้จักกันมา 12-13 ปีได้แล้วครับ สมัยนั้นยังเป็นน้องสถาปัตย์ ผมเป็นพี่วิศวะอยู่เลยเรื่องกฎหมายสมรสเท่าเทียม ก็ดีใจที่เรื่องต่างๆ ของประเทศไทยจะไปในทิศทางที่ดีมากขึ้น ถ้าสมมติว่าร่างกฎหมายผ่านแบบ 100% เราจะมาบอกว่าความสัมพันธ์เป็นยังไง ทุกคนจะได้เคลียร์และได้ช่วยกันรณรงค์เรื่องนี้เพิ่มมากขึ้น
ส่วนบรรยากาศตอนอยู่ในงานขนาดยังไม่ขึ้นเวที มวลความเหมือนสิ่งนั้นก็พลุกพล่านมากๆ🥰
และตอนขึ้นไปพูดคุยบนเวทีที่โดนถามถึงเรื่องการเลือกใช้บริการนวัตกรรมเพิ่มความสวยหล่อ
ตุลย์: จริงๆ ตอนนี้มีหลายเทคโนโลยีในตลาด แต่เราก็ต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเองอยู่แล้ว
MC: สิ่งที่ดีที่สุด หมายถึงนวัตกรรมเนาะ?
ตุลย์: ทุกอย่างครับ
แก้มจะแตกกันแล้วม้าง เจอชงแล้วก็ตบกลับแฮงใช่ย่อย
ถ้าถามทั้งคู่มีวิธีดูแลผิวหน้ากันยังไง คำตอบคนน้องก็คือถ้าคนข้างๆ ถือลูกโป่งกุ้งอยู่คงเอาหนีบคอตัวเองตุยไปแล้ว
เพราะตุลย์บอก ช่วยกันทาครีม ถึงจะตามมาด้วยคำว่า พูดเล่นๆ แต่ไม่ทันแล้วเตง~
วัดกรอบหน้ากันก็มาแล้วหนึ่ง แต่ความศุภศิษฏ์ก็คือจิ้มหน้าน้องแล้วก็ถาม ทำไมนิ่มจัง
หรือ MC ให้มองด้านข้าง ก็พูดขึ้นมาว่า น่ารักครับ คลั่งรักเกิ๊นนน😳
ตอนเล่นเกมกับแฟนคลับ ก็หยอกกันถึงเนื้อถึงตัวเลย เปิดตัวแล้วจะทำไรก็ได้เนอะ
มีเพลงคู่ที่เคยร้องด้วยกันมาแล้วอย่าง Can't Take My Eyes Off You มาร้องให้ฟังด้วย
แต่พิเศษตรงที่เวอร์ชั่นนี้เขา Take Off a Shirt กันด้วย เล่นทั้งเขินทั้งหน้าร้อนไปตามๆ กันเลย งานคู่งานแรกนี้ ~
#มิวศุภศิษฏ์ #ตุลย์ภากร
ขอบคุณภาพและคลิปจาก
@StarDelight_ent @OnJitlada @MOA_KK @myworldspt @Nuu_2363 @TurtleItsme
@Bunterngthaionline @ChannelSuppasit
แก้ไขล่าสุด 26 เม.ย. 67 23:23 |
เลขไอพี : ไม่แสดง
| ตั้งกระทู้โดย Windows 10
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google