สัตวแพทย์ จุฬาฯ แนะเลือกซื้อเนื้อหมูจากผู้ผลิตมาตรฐานลดเสี่ยง
9 เม.ย. 67 09:17 น. /
ดู 1,065 ครั้ง /
1 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์
ประเทศไทยมีแนวทางในการป้องกันโรคระบาดสัตว์ตามมาตรฐานสากล มีการตรวจสอบโดยกรมปศุสัตว์อย่างเคร่งครัดควบคุมการเคลื่อนย้ายสุกรและซากสุกรอย่างเข้มงวด เพื่อสร้างหลักประกันเนื้อสัตว์ปลอดภัยและความมั่นคงทางอาหารให้กับผู้บริโภค โดยเฉพาะโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (African Swine Fever : ASF) ซึ่งเป็นโรคติดเชื้อไวรัสกลุ่ม Asfivirus เป็น DNA virus ที่ระบาดเฉพาะในสุกรเท่านั้น ไม่ติดต่อสู่คนและไม่ติดต่อหรือเป็นอันตรายต่อสัตว์ชนิดอื่น
"เชื้อโรค ASF ไม่ได้ทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพมนุษย์ ผู้บริโภคสามารถรับประทานเนื้อหมูได้อย่างปลอดภัย โดยจะต้องให้ความร้อนปรุงสุกที่อุณหภูมิสูงกว่า 70 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 30 นาทีขึ้นไป เพื่อทำลายเชื้อโรค ASF และเชื้ออื่น ๆ ที่อาจติดมาด้วย เช่น โรคไข้หูดับ โรคพยาธิ หรือโรคที่ทำให้เกิดท้องเสีย ที่สำคัญต้องเลือกซื้อเนื้อหมูจากผู้ผลิตและจำหน่ายที่ได้มาตรฐาน มีแหล่งที่มาที่น่าเชื่อถือ มีการรับรองจากกรมปศุสัตว์"
นอกจากนี้ ประเทศไทยยังได้นำระบบการป้องกันโรคและการเลี้ยงสัตว์ที่เหมาะสมในสุกร (Good Farming Management : GFM) มาส่งเสริมการเลี้ยงสุกรของเกษตรกรรายเล็กและเกษตรกรรายย่อย ให้มีการจัดการที่มีระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ (Biosecurity) เพื่อลดปัญหาจากโรคระบาด และส่งเสริมให้สินค้าปศุสัตว์มีความปลอดภัย โดยระบบ GFM ประกอบด้วยการจัดการ 8 ด้าน คือ การจัดพื้นที่เลี้ยงและโครงสร้างการจัดการโรงเรือนหรือเล้าและอุปกรณ์ การจัดการยานพาหนะ การจัดการบุคคล การจัดการด้านสุขภาพ การจัดการอาหาร น้ำ และยาสัตว์ การจัดการข้อมูล และการจัดการสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีขั้นตอนที่ปฏิบัติได้ง่าย ไม่ซับซ้อน และต้นทุนต่ำ สามารถป้องกัน และลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคระบาด ลดความสูญเสียที่เกิดขึ้นจากโรคระบาดได้
จากกรณีล่าสุดที่มีการลักลอบนำเข้าผลิตภัณฑ์สุกรเข้ามาในประเทศไทย อาจทำให้สถานการณ์การระบาดของโรคกลับมาอีก หากเกิดการติดเชื้อโรค ASF ในอุตสาหกรรมการเลี้ยงจะทำให้สุกรตายเป็นจำนวนมาก และเกษตรกรจะต้องทำลายสุกรที่มีความเสี่ยงทิ้งทั้งหมด เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค จึงควรซื้อเนื้อหมูจากร้านหรือผู้ผลิตที่เชื่อถือได้ และได้รับการรับรองจากกรมปศุสัตว์
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีเพียงเวียดนามประเทศเดียวเท่านั้นที่ได้รับการอนุมัติให้ใช้วัคซีนที่ผลิตขึ้นเองในประเทศเป็นตัวแรกของโลก เพื่อป้องกันโรค ASF ในเชิงพาณิชย์ ขณะที่ประเทศอื่น ๆ ยังไม่มีวัคซีนและวิธีการรักษาที่จำเพาะ ดังนั้น เพื่อป้องกันความเสียหายต่ออุตสาหกรรมการเลี้ยงสุกรของไทย ซึ่งเป็นความมั่นคงทางอาหาร ผู้บริโภคไม่ควรสนับสนุนเนื้อหมูที่ไม่ทราบแหล่งที่มา และหากพบเห็นเนื้อหมูต้องสงสัยให้แจ้งกรมปศุสัตว์เพื่อเข้าควบคุมและตรวจสอบทันที
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : https://mgronline.com/business/detail/9660000070150
"เชื้อโรค ASF ไม่ได้ทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพมนุษย์ ผู้บริโภคสามารถรับประทานเนื้อหมูได้อย่างปลอดภัย โดยจะต้องให้ความร้อนปรุงสุกที่อุณหภูมิสูงกว่า 70 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 30 นาทีขึ้นไป เพื่อทำลายเชื้อโรค ASF และเชื้ออื่น ๆ ที่อาจติดมาด้วย เช่น โรคไข้หูดับ โรคพยาธิ หรือโรคที่ทำให้เกิดท้องเสีย ที่สำคัญต้องเลือกซื้อเนื้อหมูจากผู้ผลิตและจำหน่ายที่ได้มาตรฐาน มีแหล่งที่มาที่น่าเชื่อถือ มีการรับรองจากกรมปศุสัตว์"
นอกจากนี้ ประเทศไทยยังได้นำระบบการป้องกันโรคและการเลี้ยงสัตว์ที่เหมาะสมในสุกร (Good Farming Management : GFM) มาส่งเสริมการเลี้ยงสุกรของเกษตรกรรายเล็กและเกษตรกรรายย่อย ให้มีการจัดการที่มีระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ (Biosecurity) เพื่อลดปัญหาจากโรคระบาด และส่งเสริมให้สินค้าปศุสัตว์มีความปลอดภัย โดยระบบ GFM ประกอบด้วยการจัดการ 8 ด้าน คือ การจัดพื้นที่เลี้ยงและโครงสร้างการจัดการโรงเรือนหรือเล้าและอุปกรณ์ การจัดการยานพาหนะ การจัดการบุคคล การจัดการด้านสุขภาพ การจัดการอาหาร น้ำ และยาสัตว์ การจัดการข้อมูล และการจัดการสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีขั้นตอนที่ปฏิบัติได้ง่าย ไม่ซับซ้อน และต้นทุนต่ำ สามารถป้องกัน และลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคระบาด ลดความสูญเสียที่เกิดขึ้นจากโรคระบาดได้
จากกรณีล่าสุดที่มีการลักลอบนำเข้าผลิตภัณฑ์สุกรเข้ามาในประเทศไทย อาจทำให้สถานการณ์การระบาดของโรคกลับมาอีก หากเกิดการติดเชื้อโรค ASF ในอุตสาหกรรมการเลี้ยงจะทำให้สุกรตายเป็นจำนวนมาก และเกษตรกรจะต้องทำลายสุกรที่มีความเสี่ยงทิ้งทั้งหมด เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค จึงควรซื้อเนื้อหมูจากร้านหรือผู้ผลิตที่เชื่อถือได้ และได้รับการรับรองจากกรมปศุสัตว์
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีเพียงเวียดนามประเทศเดียวเท่านั้นที่ได้รับการอนุมัติให้ใช้วัคซีนที่ผลิตขึ้นเองในประเทศเป็นตัวแรกของโลก เพื่อป้องกันโรค ASF ในเชิงพาณิชย์ ขณะที่ประเทศอื่น ๆ ยังไม่มีวัคซีนและวิธีการรักษาที่จำเพาะ ดังนั้น เพื่อป้องกันความเสียหายต่ออุตสาหกรรมการเลี้ยงสุกรของไทย ซึ่งเป็นความมั่นคงทางอาหาร ผู้บริโภคไม่ควรสนับสนุนเนื้อหมูที่ไม่ทราบแหล่งที่มา และหากพบเห็นเนื้อหมูต้องสงสัยให้แจ้งกรมปศุสัตว์เพื่อเข้าควบคุมและตรวจสอบทันที
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : https://mgronline.com/business/detail/9660000070150
เลขไอพี : ไม่แสดง
| ตั้งกระทู้โดย Windows 10
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google