สัญญาณเตือนอาการเด็กสมาธิสั้นที่ผู้ปกครองควรต้องจับตาดูเป็นพิเศษ
14 ก.พ. 67 16:04 น. /
ดู 2,488 ครั้ง /
2 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์
hashtag:
#เด็กสมาธิสั้น
การเข้าใจและการจัดการกับเด็กสมาธิสั้นเป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับผู้ปกครองและครูผู้สอน สมาธิสั้นหรือสมาธิสั้นผสมซุกซน (ADHD) เป็นภาวะทางประสาทวิทยาที่มีผลต่อการควบคุมพฤติกรรมและสมาธิทำให้เด็กมีปัญหา การแสดงพฤติกรรมที่ซุกซนเกินกว่าปกติ อาการหลัก ๆ ประกอบด้วย วอกแวกง่าย ไม่ฟังเมื่อมีคนพูดด้วย ทำตามคำสั่งได้ยาก ละเลยในรายละเอียด หรือทำผิดด้วยความเลินเล่อจัดระเบียบตนเองไม่ค่อยได้ ทำของหายบ่อยๆ ซึ่งการที่เด็กมีสมาธิสั้นนั้นเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ดังนั้นคุณพ่อ คุณแม่ หรือผู้ปกครองต้องคอยสังเกตุอาการของเด็กๆ ให้ดี หากพบอาการเข้าข่ายว่าเด็กเป็นสมาธิสั้นจะได้ทำการรักษาได้ทันที ซึ่งปัจจุบันมีโรงพยาบาลมากมายที่มีแผนกรักษาอาการเด็กสมาธิสั้นโดยเฉพาะ อย่างเช่น รพ.นนทเวช เป็นต้น เพราะฉะนั้นหากพบอาการเร็วรักษาเร็วเด็กก็จะมีโอกาสหายจากโรคนี้ได้สูงค่ะ
ทั้งนี้โรคสมาธิสั้นในเด็กเกิดจากสารเคมีในสมองไม่สมดุลกัน เพราะโดยปกติสมองส่วนหน้าจะหลั่งสารเคมีชนิดหนึ่งที่ช่วยให้เด็กมีสมาธิที่ยาวนานขึ้น และควบคุมพฤติกรรมตัวเองได้ แต่ในเด็กที่สมาธิสั้นนั้นจะมีการหลั่งสารเคมีชนิดนี้ออกมาน้อย หรือไม่ก็อาจจะหลั่งสารออกมาแต่เกิดการสลายตัวเร็วเกินไป จึงทำให้เกิดอาการสมาธิสั้น รวมถึงยังมีสาเหตุอื่นๆ อีกดังนี้
พันธุกรรม โดยพบว่าเด็กที่มีประวัติคนในครอบครัวเป็นสมาธิสั้นจะมีโอกาสเป็นสมาธิสั้นได้มากกว่าเด็กอื่นๆ 3-4 เท่า
ผลจากการเลี้ยงดู อย่างสื่อทางจอสามารถเป็นปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้เด็กสมาธิสั้นมีอาการมากขึ้นได้
ปัจจัยจากสิ่งแวดล้อมอื่นๆ ทั้งหลังจากที่เด็กคลอดแล้วหรืออยู่ในครรภ์ เช่น คุณแม่มีการดื่มสุรา สูบบุหรี่ หรือได้รับสารพิษจำพวกยาฆ่าแมลงในระหว่างตั้งครรภ์ หรือหลังจากคลอดแล้วเด็กยังได้รับสารจำพวกนี้อยู่ ก็อาจจะส่งผลต่อสมองของเด็ก รวมถึงความเครียดของคุณแม่ในระหว่างตั้งครรภ์ก็สามารถส่งผลให้เด็กที่เกิดมามีสมาธิสั้นได้ด้วย
สัญญาณเตือนหลักๆ อาการเด็กสมาธิสั้นที่ผู้ปกครองควรต้องจับตามอง
การขาดสมาธิ เด็กมักมีปัญหาในการรักษาสมาธิเป็นเวลานาน อาจดูเหมือนว่าไม่ฟังเมื่อพูดกับพวกเขาหรือง่ายที่จะหลุดจากเรื่องที่กำลังทำ
การกระทำโดยไม่คิดถึงผลลัพธ์ อาจแสดงพฤติกรรมที่ดูไม่คำนึงถึงผลที่จะตามมา เช่น การกระทำอย่างรวดเร็วโดยไม่คิดหรือการตัดสินใจโดยไม่พิจารณา
ความซุกซนและไม่สามารถนิ่งเฉยได้ เด็กๆ มักจะมีพลังงานสูงและยากที่จะนั่งนิ่งๆ ไม่ว่าจะในห้องเรียนหรือในสถานการณ์ที่ต้องการความสงบ
ปัญหาในการจัดการงานหรือกิจกรรม อาจพบว่ามีความยากลำบากในการจัดลำดับหรือเสร็จสิ้นงานที่มีหลายขั้นตอน
การหลงลืม เด็กที่มีสมาธิสั้นมักมีปัญหากับการจำสิ่งของประจำวัน เช่น การลืมทำการบ้านหรือลืมเอาของไปโรงเรียน
การแทรกแซงหรือการขัดจังหวะบ่อยครั้ง พวกเขาอาจมีปัญหาในการรอคอยหรือการรับฟังคนอื่นจนจบ และอาจแทรกแซงการสนทนาหรือกิจกรรมของคนอื่นโดยไม่ตั้งใจ
ปัญหาทางสังคม อาจมีปัญหาในการสร้างและรักษาความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมรุ่น เนื่องจากพฤติกรรมซุกซนหรือการขาดความอดทน
แนวทางในการรักษาเด็กที่สมาธิสั้น
1. การบำบัดด้วยพฤติกรรม วิธีนี้มุ่งเน้นที่การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผ่านการใช้ระบบรางวัลและผลลัพธ์ มันช่วยให้เด็กเรียนรู้ทักษะในการจัดการกับสมาธิและพฤติกรรมของตนเอง โดยอาจรวมถึงการฝึกทักษะสังคมและการจัดการอารมณ์
2. การให้คำปรึกษาและการบำบัดทางจิตวิทยา การให้คำปรึกษาสามารถช่วยให้เด็กเข้าใจและจัดการกับความรู้สึกและพฤติกรรมของตนเองได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถช่วยให้พวกเขาพัฒนาทักษะการรับมือที่เป็นประโยชน์
3. การแทรกแซงทางการศึกษา การปรับเปลี่ยนวิธีการสอนและสภาพแวดล้อมในห้องเรียนสามารถช่วยให้เด็กที่มีสมาธิสั้นได้รับประโยชน์สูงสุดจากการศึกษา รวมถึงการใช้การสอนแบบบุคคลเฉพาะและการจัดการห้องเรียนที่เอื้อต่อการเรียนรู้
4. การใช้ยา ยาเป็นวิธีการรักษาที่สำคัญสำหรับเด็กบางคนที่มีสมาธิสั้น ยาเหล่านี้มักถูกใช้เพื่อช่วยให้เด็กสามารถรักษาสมาธิและควบคุมพฤติกรรมได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม การใช้ยาควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์
5. การสนับสนุนจากครอบครัว การมีครอบครัวที่เข้าใจและสนับสนุนเป็นสิ่งสำคัญมาก การฝึกอบรมสำหรับผู้ปกครองและการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้และการเติบโตที่บ้านสามารถช่วยให้เด็กมีพฤติกรรมที่ดีขึ้น
6. การจัดการกับปัญหาที่เกี่ยวข้อง บางครั้งเด็กที่มีสมาธิสั้นอาจมีปัญหาทางอารมณ์หรือปัญหาการเรียนอื่น ๆ การทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญทางการศึกษาหรือสุขภาพจิตเพื่อจัดการกับปัญหาเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญ
หากเกิดความสงสัยว่าเด็กมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคสมาธิสั้น พ่อแม่ผู้ปกครองควรรีบพาเด็กไปปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการทันที เพราะการรักษาเด็กสมาธิสั้นต้องใช้เวลาและอาศัยความร่วมมือทั้งจากตัวเด็ก พ่อแม่ผู้ปกครอง และคุณครูผู้สอน ซึ่งต้องใช้หลายศาสตร์ร่วมกันเพื่อผลการรักษาที่ดี ที่สำคัญหากเด็กเข้ารับการรักษาจนหายขาดจากโรคนี้ เด็กก็จะมีสมาธิดีขึ้น ผลการเรียนดีขึ้น เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพในอนาคตได้ค่ะ
#เด็กสมาธิสั้น
แก้ไขล่าสุด 14 ก.พ. 67 16:25 |
เลขไอพี : ไม่แสดง
| ตั้งกระทู้โดย Windows 10
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google