Hifu ดีไหม ? ยี่ห้อไหนทำแล้วเห็นผลลัพธ์ดี และอยู่ได้นานคุ้มค่าที่สุด อ่านเลย!

31 ม.ค. 67 13:52 น. / ดู 3,234 ครั้ง / 2 ความเห็น / 0 ชอบจัง / แชร์
Hifu ดีไหม ? ยี่ห้อไหนทำแล้วเห็นผลลัพธ์ดี และอยู่ได้นานคุ้มค่าที่สุด อ่านเลย!


Hifu (High-Intensity Focused Ultrasound) คือเทคโนโลยีล่าสุดในการยกกระชับผิวหน้าและลำตัว ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในหมู่ผู้ที่ต้องการดูแลผิวอย่างจริงจัง แต่คำถามที่ว่า "Hifu ดีไหม?" นั้นต้องพิจารณาจากหลายปัจจัย โดยเฉพาะเรื่องของการเลือกรุ่นและเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน น่าเชือถือ

ในบทความนี้ ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ Hifu เอาไว้ให้แล้ว เพื่อการพิจารณาก่อนตัดสินใจว่าควรทำ Hifu ดีไหม ?

Hifu ดีไหม ? พิจารณาจากอะไร ?



Hifu เป็นเทคโนโลยียกกระชับผิวแบบ non-invasive โดยใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวนด์ความเข้มข้นสูง (High-Intensity Focused Ultrasound) ยิงพลังงานลงไปใต้ผิวหนังชั้นลึกถึงชั้น SMAS (Superficial Musculoaponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่ศัลยแพทย์ดึงหน้าทำ ความร้อนที่เกิดขึ้นจะทำให้ผิวหดตัว จากนั้นจึงจะกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวกระชับขึ้น ริ้วรอยลดลง และผิวดูอ่อนเยาว์ขึ้น

ก่อนจะรู้ว่า Hifu ดีไหมนั้น  ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ ดังนี้
สภาพผิวและปัญหาที่ต้องการแก้ไข Hifu เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอย ผิวไม่กระชับ ไขมันสะสม เป็นต้น หากมีปัญหาผิวที่รุนแรง เช่น ผิวหย่อนคล้อยมาก อาจมีความจำเป็นต้องทำ Hifu หลายครั้งหรือทำร่วมกับหัตถการอื่น ๆ เช่น ร้อยไหม ฉีดฟิลเลอร์ เป็นต้น

คุณภาพของเครื่อง Hifu เครื่อง Hifu ที่ดีต้องมีคุณภาพสูง เป็นเครื่อง Hifu แท้ผ่านการรับรองความปลอดภัยจากองค์การอาหารและยา มีการกระจายพลังงานที่สม่ำเสมอ และสามารถยิงคลื่นเสียงไปที่ชั้นผิวที่ต้องการได้อย่างแม่นยำ หากใช้เครื่อง Hifu ปลอมที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น ผิวไหม้ ระคายเคือง เป็นต้น

ประสบการณ์ของแพทย์ผู้ทำ แพทย์ผู้ทำ Hifu ควรมีประสบการณ์และได้รับการอบรมมาเป็นอย่างดี เพื่อให้สามารถประเมินสภาพผิวและปัญหาที่ต้องการแก้ไขได้อย่างถูกต้อง และใช้พลังงานที่เหมาะสมในแต่ละตำแหน่ง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย

การดูแลตัวเองหลังทำ การดูแลตัวเองหลังทำ Hifu มีความสำคัญเช่นกัน ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เช่น หลีกเลี่ยงการโดนแดด ทาครีมกันแดดเป็นประจำ ดื่มน้ำให้เพียงพอ เป็นต้น

โดยสรุปแล้ว Hifu เป็นเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพในการยกกระชับผิว แต่ควรเลือกทำกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน และใช้เครื่อง Hifu ที่ดี เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย

ข้อดีของ Hifu
✓ เห็นผลทันที : การทำ Hifu จะเริ่มเห็นผลหลังทำทันที 20-30% และเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจนภายใน 2-3 เดือนหลังทำ
✓ ผลลัพธ์อยู่ได้นาน : ผลลัพธ์ของการทำ Hifu จะอยู่ได้นานประมาณ 5-12 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคน
✓ ปลอดภัย : การทำ Hifu เป็นเทคโนโลยีที่ปลอดภัย ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (FDA)
✓ ไม่ต้องผ่าตัด : การทำ Hifu เป็นหัตถการที่ไม่เจ็บ ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ทำให้เกิดแผล
✓ ไม่ต้องพักฟื้น : หลังทำ Hifu สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไม่ต้องพักฟื้น
✓ ไม่ต้องทำบ่อย : ทำเพียงปีละ 2 ครั้ง

ข้อเสียของ Hifu
- อาจมีอาการบวมช้ำเล็กน้อยหลังทำ
- ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 5-12 เดือน[/list]
- หากคุณกำลังพิจารณาทำ Hifu ควรศึกษาข้อมูลให้ดีและปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์ก่อนตัดสินใจ เพื่อให้แน่ใจว่า Hifu เหมาะกับคุณและได้ผลลัพธ์ที่คุณต้องการ

ยี่ห้อ Hifu

ปัจจุบันมีเครื่อง Hifu หลายยี่ห้อให้เลือกสรร แต่ละยี่ห้อมีจุดเด่นและราคาที่แตกต่างกัน ยี่ห้อ Hifu ที่นิยมในประเทศไทย ได้แก่

- Ulthera SPT เป็นยี่ห้อ Hifu จากประเทศสหรัฐอเมริกา ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐอเมริกา เป็นเครื่อง Hifu ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยสูง มีจุดเด่นคือใช้พลังงานคลื่นเสียงอัลตราซาวนด์ความเข้มข้นสูงแบบแปรผัน (Micro & Macro Focused Ultrasound, MMFU) และมีหน้าจอแสดงระดับความลึกให้ดูขณะทำ ทำให้แพทย์สามารถยิงพลังงานลงไปยังชั้นผิวหนัง SMAS ได้แม่นยำและมีประสิทธิภาพ

- Ultraformer III เป็นยี่ห้อ Hifu จากประเทศเกาหลีใต้ ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐอเมริกา เป็นเครื่อง Hifu ที่มีจุดเด่นคือใช้พลังงานคลื่นเสียงอัลตราซาวนด์ความเข้มข้นสูงแบบแปรผัน (Micro & Macro Focused Ultrasound, MMFU) เช่นกัน แต่มีขนาดจุดโฟกัสไม่ใหญ่เท่า Ulthera ให้ประสิทธิภาพที่ได้แตกต่างกันในเรื่องของผลลัพธ์และระยะเวลา Ultraformer III จึงมีราคาย่อมเยากว่า

นอกจากนี้ Hifu แต่ละยี่ห้อยังมีความแตกต่างกันในด้านต่าง ๆ เช่น
- พลังงาน ระดับพลังงานของ Hifu มีผลต่อประสิทธิภาพในการยกกระชับผิว โดยทั่วไปแล้ว Hifu ที่มีพลังงานสูงจะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า Hifu ที่มีพลังงานต่ำ

- ความลึก ความลึกของคลื่นเสียงอัลตราซาวนด์มีผลต่อชั้นผิวที่เข้าไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน โดยทั่วไปแล้ว Hifu ที่มีพลังงานสูงจะเข้าไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินที่ชั้น SMAS ได้ดีกว่า Hifu ที่มีพลังงานต่ำ

- จำนวน Line จำนวน Line ของ Hifu มีผลต่อความครอบคลุมในการยกกระชับผิว โดยทั่วไปแล้ว Hifu ที่มีจำนวน Line มากจะครอบคลุมในการยกกระชับผิวได้ดีกว่า Hifu ที่มีจำนวน Line น้อย

เคล็ดลับเลือก Hifu แบบไหน ? ให้เห็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

การเลือกยี่ห้อ Hifu ควรพิจารณาจากปัจจัยหลายประการ ดังนี้

- งบประมาณ ราคา Hifu แต่ละยี่ห้อแตกต่างกันไป ควรพิจารณางบประมาณที่มีและเลือกยี่ห้อที่เหมาะกับงบประมาณ โดย Hifu ยี่ห้อ Ultraformer III ราคาเริ่มต้น 3,999.-/100 line และ Hifu ยี่ห้อ Ulthera SPT ราคาเริ่มต้น 19,xxx.-/200 line

- สภาพผิว หากมีปัญหาผิวหย่อนคล้อยมาก อาจต้องเลือกยี่ห้อ Hifu ที่ใช้พลังงานสูง เช่น Ulthera ส่วนถ้าผิวหย่อนคล้อยปานกลางอาจต้องเลือกยี่ห้อ Hifu ที่ใช้พลังงานสูงรองลงมา เช่น Ultraformer III

- ความคาดหวัง หากคาดหวังผลลัพธ์ที่ชัดเจนและยาวนาน อาจต้องเลือกยี่ห้อ Hifu ที่ใช้พลังงานสูง เช่น Ulthera อยู่ได้นาน 1 ปี ส่วน Ultraformer III อยู่ได้นาน 5-6 เดือน

- ความปลอดภัย ควรเลือกเครื่อง Hifu ที่มีมาตรฐานความปลอดภัยสูงและได้รับการขึ้นทะเบียนจากอย.
หากใครกำลังพิจารณาทำ Hifu ควรศึกษาข้อมูลให้ดีและปรึกษาแพทย์ประสบการณ์สูงก่อนตัดสินใจ เพื่อให้แน่ใจว่า Hifu ยี่ห้อไหนเหมาะกับคุณและจะให้ผลลัพธ์ได้ตามที่คุณต้องการ

Hifu ทำงานอย่างไร ?



หลักการทำงานของ HIFU คือ การใช้คลื่นอัลตราซาวนด์ความเข้มข้นสูงส่งผ่านชั้นผิวต่าง ๆ ตั้งแต่ผิวชั้นบน ลงไปจนถึงผิวชั้น SMAS (Superficial Musculo-Aponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่อยู่ใต้ชั้นผิวหนังชั้นหนังแท้ เมื่อคลื่นอัลตราซาวนด์สัมผัสกับชั้น SMAS จะทำให้เกิดความร้อนขึ้นและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวกระชับขึ้น ริ้วรอยลดเลือนลง และรูปหน้าเรียวขึ้น

ขั้นตอนในการทำ HIFU

แพทย์จะทำความสะอาดผิวหน้าและทายาชาก่อนเริ่มการทำ จากนั้นจะใช้หัวยิงของ Hifu ยิงพลังงานคลื่นเสียงอัลตราซาวนด์ลงไปยังชั้นผิวหนัง SMAS ความร้อนที่เกิดขึ้นจะรู้สึกอุ่น ๆ บริเวณที่ยิง บางคนอาจรู้สึกเจ็บเล็กน้อย แต่สามารถทนได้ ไม่ทำให้เกิดแผลหรือรอยช้ำหลังการทำ

หลังทำ Hifu อาจมีอาการบวมแดงเล็กน้อย ซึ่งจะหายไปเองภายใน 1-2 ชั่วโมง สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติทันที ไม่มีข้อห้ามหรือข้อจำกัดใด ๆ ในการรับประทานอาหารหรือออกกำลังกาย

ข้อควรระวังก่อนทำ Hifu
- ไม่ควรทำ Hifu หากกำลังตั้งครรภ์ ให้นมบุตร
- ไม่ควรทำ Hifu หากมีแผลอักเสบบริเวณใบหน้า
- ไม่ควรทำ Hifu หากมีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง
- ควรปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์ก่อนทำ Hifu เพื่อให้แน่ใจว่าปลอดภัยและเหมาะสมกับสภาพผิว

Hifu ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง ?

การทำ Hifu ช่วยใน 5 เรื่องหลัก ๆ ได้แก่

        ✔  ยกกระชับผิวหน้า
        ✔  ลดริ้วรอยตื้น ๆ บนใบหน้า
        ✔  กระชับรูขุมขน
        ✔  ปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน
        ✔  ลดไขมันส่วนเกินบริเวณใบหน้า

> Hifu ยกกระชับผิวหน้า : Hifu จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ในชั้นผิว ทำให้ผิวหน้ามีความยืดหยุ่นและกระชับขึ้น ช่วยให้ผิวหน้าดูเต่งตึงขึ้น ริ้วรอยลดลง ร่องลึกตื้นขึ้น

> Hifu ลดริ้วรอยตื้น ๆ บนใบหน้า : Hifu ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ในชั้นผิว ทำให้ผิวหน้ามีความยืดหยุ่นและกระชับขึ้น ส่งผลให้ริ้วรอยตื้นขึ้นและจางลง

> Hifu กระชับรูขุมขน : Hifu ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ในชั้นผิว ทำให้ผิวหน้ามีความยืดหยุ่นและกระชับขึ้น ส่งผลให้รูขุมขนเล็กลง

> Hifu ปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน :Hifu ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ในชั้นผิว ทำให้ผิวหน้ามีความยืดหยุ่นและกระชับขึ้น ส่งผลให้ผิวหน้าเรียบเนียนขึ้น

> Hifu ลดไขมันส่วนเกินบริเวณใบหน้า : Hifu สามารถช่วยลดไขมันส่วนเกินบริเวณใบหน้า โดยคลื่นเสียงจะเข้าไปทำลายเซลล์ไขมันในชั้น SMAS ทำให้เซลล์ไขมันแตกตัวเป็นไขมันเหลวและถูกดูดซึมโดยร่างกายไปในที่สุด ส่งผลให้ไขมันส่วนเกินบริเวณใบหน้าลดลง  เช่น ไขมันแก้ม ไขมันใต้คาง ช่วยให้ใบหน้าเรียวสวยขึ้น

ผลลัพธ์ของ Hifu

ผลลัพธ์ของ Hifu ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคน โดยทั่วไปแล้วจะเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังทำ 20%-30% และจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนภายใน 2-3 เดือน โดยผิวจะค่อย ๆ ยกกระชับขึ้น ริ้วรอยลดลง รูขุมขนเล็กลง ผิวดูเรียบเนียนขึ้น ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน หลังจากนั้นสามารถกลับมาทำซ้ำอีกครั้งได้ หากต้องการผลลัพธ์ที่ยาวนานขึ้น

การเลือก Hifu ที่เหมาะสม ควรพิจารณาจากสภาพผิว และจุดที่ต้องการยกกระชับ โดยปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านความงามหรือการปรับรูปหน้าสำหรับทำ Hifu

ทำ Hifu แบบไหนไม่ดี ?

การทำ Hifu แบบไม่ดี คือการที่ทำ Hifu กับคลินิกไม่ได้มาตรฐาน ใช้เครื่อง Hifu ปลอม ไม่ผ่าน อย. ซึ่งอาจทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ไม่ดี หรืออาจเกิดอันตรายได้ ดังนี้
- ได้ผลลัพธ์ไม่ดี เช่น ผิวไม่กระชับขึ้น ริ้วรอยไม่ลดลง หรือผิวดูไม่อ่อนเยาว์ขึ้น อาจเป็นเพราะเครื่อง Hifu ที่ใช้พลังงานไม่เพียงพอ หรือพลังงานไม่แม่นยำ ทำให้ไม่สามารถเข้าไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ได้อย่างเต็มที่
- เกิดอันตราย เช่น เกิดแผลไหม้ ผิวไหม้ เบิร์น ผิวหนังลอก หรือผิวหนังอักเสบ อาจเป็นเพราะเครื่อง Hifu ที่ใช้พลังงานสูงเกินไป หรือพลังงานไม่แม่นยำ ทำให้ความร้อนไปทำลายผิวชั้นบนหรือชั้นลึกเกินไป

ดังนั้น หากต้องการทำ Hifu ควรเลือกคลินิกหรือสถานเสริมความงามที่มีความน่าเชื่อถือ มีแพทย์มากประสบการณ์เป็นผู้ทำหัตถการ และมีเครื่อง Hifu แท้ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัย เพื่อให้แน่ใจว่าการทำ Hifu จะได้รับผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย

นอกจากนี้ ควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจทำ Hifu เพื่อให้เข้าใจถึงขั้นตอนและผลลัพธ์ที่อาจเกิดขึ้น และสามารถตัดสินใจได้อย่างเหมาะสม

สรุป

เชื่อว่าหลาย ๆ คนที่อยากรู้ว่า Hifu ดีไหม คงได้คำตอบแล้ว สำหรับใครที่อยากทำ Hifu เพื่อยกกระชับผิว อย่าลืมว่าการเลือกรุ่นที่เหมาะสมและเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ใช้เครื่อง Hifu แท้ก็เป็นสิ่งสำคัญ การทำความเข้าใจและปรึกษากับแพทย์ที่มีประสบการณ์จะช่วยให้คุณได้รับผลลัพธ์ที่ดีและคุ้มค่ากับการลงทุนในการดูแลผิวที่ดีที่สุดจากเทคโนโลยี Hifu
แก้ไขล่าสุด 31 ม.ค. 67 13:54 | เลขไอพี : ไม่แสดง | ตั้งกระทู้โดย Windows 10

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

#1 | asider | 1 ก.พ. 67 14:10 น.

ไอพี: ไม่แสดง | โดย Windows 10

#2 | Yvonne | 9 มี.ค. 67 00:28 น.

ไอพี: ไม่แสดง | โดย Windows 10

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google