นักวิชาการแนะ ผู้บริโภคต้องระวัง เลือกซื้อเนื้อหมูปลอดภัย เลี่ยงของถูกเสี่ยงรับสารเร่งเนื้อแดง
19 ธ.ค. 66 18:38 น. /
ดู 4,452 ครั้ง /
1 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์
จากสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว สวนทางกับอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบโดยตรงต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค ที่ต้องประหยัดค่าใช้จ่าย ด้วยการหาของถูกเพื่อใช้ในการดำรงชีวิตประจำวัน หากร้านใดมีเนื้อหมูราคาถูกขายย่อมได้รับความสนใจทันที แต่ในสถานการณ์ที่มี "เนื้อหมูลักลอบนำเข้าผิดกฎหมาย" เข้ามาทำลายความปลอดภัยทางอาหารของคนไทยเช่นนี้ ผู้บริโภคจำเป็นต้องหยุดคิดสักนิดก่อนตัดสินใจซื้อ เพราะของราคาถูกเหล่านั้นแฝงไปด้วยอันตรายจากสารเร่งเนื้อแดง ซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคมะเร็ง
สารเร่งเนื้อแดง เป็นสารสังเคราะห์ในกลุ่มเบต้า อะโกนิสต์ (Beta-Agonist) อย่างเช่น แรคโตพามีน (Ractopamine) มีคุณสมบัติในการเพิ่มน้ำหนักตัวของสัตว์ โดยสารในกลุ่มนี้มีฤทธิ์เปลี่ยนไขมันเป็นกล้ามเนื้อ และลดการสะสมไขมันในเนื้อเยื่อ กระบวนการเลี้ยงหมูในอดีต นิยมใช้สารเร่งเนื้อแดงผสมในอาหารสัตว์เพื่อลดต้นทุนการผลิต ลดการสะสมไขมันและเพิ่มเนื้อแดง โดยงานวิจัยพบว่า สารนี้ทำให้หมูกินอาหารน้อยลงแต่มีน้ำหนักตัวและปริมาณเนื้อแดงเพิ่มมากขึ้น ซึ่งการใช้สารเร่งเนื้อแดงส่งผลเสียต่อตัวสัตว์ และอาจตกค้างทำอันตรายต่อผู้บริโภค
ด้วยเหตุนี้ ไทยจึงได้ออกกฎหมายห้ามใช้สารเร่งเนื้อแดงในการเลี้ยงสัตว์ เริ่มจาก ประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 269) พ.ศ. 2546 กำหนดให้อาหารทุกชนิดต้องตรวจไม่พบการปนเปื้อนของสารเคมีกลุ่มนี้ ยกตัวอย่างเช่น เนื้อหมูต้องตรวจไม่พบสารเคมีกลุ่มเบต้า อะโกนิสต์ ทุกชนิดขณะที่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประกาศห้ามใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตและนำเข้าซึ่งอาหารสัตว์ ตามพระราชบัญญัติควบคุมคุณภาพอาหารสัตว์มาตั้งแต่ พ.ศ. 2525 และพระราชบัญญัติควบคุมคุณภาพอาหารสัตว์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2542 เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับคนไทยหากได้รับสารนี้ที่ตกค้างอยู่ในเนื้อสัตว์ สะท้อนถึงความอันตรายของสารเร่งเนื้อแดง
เนื่องจาก "สารเร่งเนื้อแดง" มีคุณสมบัติทนความร้อนสูง การต้มอบ หรือทอด ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความเข้มข้น หรือไม่สามารถทำให้สารกลุ่มนี้สลายไปได้ จึงมีสารตกค้างอยู่ในเนื้อสัตว์ แม้จะผ่านการประกอบอาหารแล้วก็ตาม ส่งผลเสียต่อสุขภาพของผู้บริโภคโดยตรง เพราะมีผลต่อการทำงานของระบบประสาทที่ควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจ กล้ามเนื้อเรียบของหลอดเลือด หลอดลม กระเพาะปัสสาวะ อาจมีอาการผิดปกติ อาทิ มือสั่น กล้ามเนื้อสั่นกระตุก ปวดศีรษะ หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ คลื่นไส้ อาเจียน มีอาการทางจิตประสาท ซึ่งข้อมูลทางการแพทย์ชี้ให้เห็นว่า หากได้รับสารกลุ่มนี้เข้าไปในปริมาณสูง จะส่งผลต่อสุขภาพ และเป็นอันตรายมาก โดยเฉพาะหญิงมีครรภ์ ผู้ที่เป็นโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ลมชัก และโรคไฮเปอร์ไทรอยด์ โดยในต่างประเทศมีรายงานการพบผู้ป่วย ที่ได้รับพิษจากการบริโภคเนื้อสัตว์ที่มีสารเร่งเนื้อแดงปนเปื้อนอยู่เป็นระยะ
นอกจากนั้น หมูลักลอบนำเข้ายังเสี่ยงปนเปื้อนยาปฏิชีวนะ และยาฆ่าแมลง เนื่องจากประเทศผู้ผลิตต้นทางไม่เข้มงวดกับสารตกค้างในเนื้อสัตว์ ที่สำคัญยังพบว่า หมูเถื่อนที่ถูกตรวจจับได้เป็นเนื้อที่ใกล้หมดอายุ หรือหมดอายุแล้ว เป็นหมูเก่าผลิตข้ามเดือนข้ามปี มีสภาพเก่าเก็บมีเชื้อรา บางส่วนเน่าเสีย ผู้ประกอบการแก้ปัญหาโดยการตัดแต่งส่วนเสียทิ้ง เพื่อให้เนื้อส่วนที่เหลือสามารถนำไปจำหน่ายต่อได้ ซึ่งเนื้อส่วนดังกล่าวไม่ควรนำมาบริโภค เพราะส่งผลกระทบต่อสุขอนามัยและความปลอดภัยของผู้บริโภคโดยตรง เรื่องนี้ต้องวิงวอนผู้ประกอบการที่หวังประโยชน์โดยนำเนื้อหมูเถื่อนมาจำหน่าย ขอให้คำนึงถึงสุขภาพ ไม่นำหมูปนเปื้อนสารอันตรายมาทำร้ายคนไทยอีกต่อไป
ที่สำคัญผู้บริโภคต้องไม่เห็นแก่ของถูกที่เสี่ยงต่อสุขภาพ ควรเลือกซื้อเนื้อหมูจากร้านค้าที่มีสัญลักษณ์ "ปศุสัตว์ OK" หากไม่พบสัญลักษณ์ดังกล่าว ขอให้สังเกตเบื้องต้นจากสีของเนื้อหมูต้องไม่แดงจนผิดปกติ เมื่อกดต้องนุ่มไม่กระด้าง หรือส่วนสามชั้น ปกติแล้วมีเนื้อแดง 2 ส่วน และไขมัน 1 ส่วน หากเนื้อแดงมากกว่านี้ก็ควรหลีกเลี่ยง ที่สำคัญสังเกตจากราคาขายหากต่ำกว่าท้องตลาดมากจนผิดสังเกตก็ควรหลีกเลี่ยงเช่นกัน
ขณะเดียวกัน ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ต้องเร่งดำเนินการจัดการปัญหาลักลอบนำเข้า "หมูเถื่อน" อย่างจริงจัง กวาดล้างขบวนการดังกล่าวให้สำเร็จ เพื่อรักษามาตรฐานความปลอดภัยอาหารให้แก่คนไทย ช่วยให้เกษตรกรมีกำลังใจในการฟื้นฟูการเลี้ยงผลิตเนื้อหมูคุณภาพดีส่งต่อให้คนไทยในราคาที่เหมาะสม เพราะหมูไทยปลอดภัยกว่าแน่นอน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.prachachat.net/spinoff/lifestyle/news-1104505
เลขไอพี : ไม่แสดง
| ตั้งกระทู้โดย Windows 10
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google