รู้จักกับ...หัวรถจักรไฟฟ้า (EV) - MINE Locomotive

6 มี.ค. 66 21:18 น. / ดู 15,341 ครั้ง / 1 ความเห็น / 0 ชอบจัง / แชร์
หัวรถจักรไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่ที่ได้มีการทดสอบระบบจริง ณ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ปฏิวัติคมนาคมทางรางไทยด้วยพลังงานไฟฟ้า

    บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ร่วมกับ CRRC Dalian ผู้ผลิตรถไฟรายใหญ่จากประเทศจีน ได้รับโอกาสจากกระทรวงคมนาคม โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ผลักดันนโยบาย EV on Train พร้อมร่วมมือกับภาควิชาการ เริ่มทดสอบระบบสับเปลี่ยนขบวน (Shunting) ณ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ โดยหัวรถจักรไฟฟ้า (EV) หรือ "MINE Locomotive" แบตเตอรี่ขนาด 4.1 MWh สามารถวิ่งได้ระยะกว่า 300 กิโลเมตร ผสานเทคโนโลยีการอัดประจุ Ultra-Fast Charge ของ EA Anywhere ใช้เวลาชาร์จเพียง 1 ชั่วโมง และประหยัดต้นทุนพลังงานได้กว่า 40% เมื่อเปรียบเทียบกับหัวรถจักรดีเซล
    นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า นับเป็นโอกาสสำคัญในการพลิกโฉมประวัติศาสตร์การคมนาคมทางราง ที่จะขับเคลื่อนประเทศให้เข้าสู่สังคมปลอดคาร์บอนได้เร็วยิ่งขึ้น โดย EA ได้นำนวัตกรรมหัวรถจักรไฟฟ้า "MINE Locomotive" สู่เมืองไทยภายใต้ความร่วมมือกับพันธมิตร เพื่อสร้างประโยชน์ในทุกมิติ และพร้อมสนับสนุนนโยบายรัฐ เพื่อความมั่นคงทางด้านพลังงานและการคมนาคมของประเทศชาติ
    MINE Locomotive หัวรถจักรไฟฟ้าพร้อมตู้แบตเตอรี่แยก (Power Car) เพื่อเพิ่มระยะทางการวิ่ง รวมแบตเตอรี่ขนาด 4.1 MWh สามารถชาร์จเต็มภายใน 1 ชั่วโมง ออกแบบตามมาตรฐานการรถไฟไทยเพื่อการใช้งานหลากหลาย ทั้งการสับเปลี่ยนขบวน (Shunting) เข้าชานชาลาสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ เพื่อลดมลพิษในอาคารผู้โดยสาร และสามารถลากขบวนสินค้า (Cargo train) จาก ICD ลาดกระบังถึงแหลมฉบัง และขบวนโดยสาร (Passenger Train) ในเขตเมือง และระหว่างจังหวัด  ด้วยความเร็วสูงสุด (Max Operating Speed) 120 km/h พร้อม Regenerative Braking ที่สามารถชาร์จไฟฟ้าเข้าแบตเตอรี่จากการเบรก
โดยจากการทดสอบประเมินว่าสามารถวิ่งได้ระยะกว่า 300 กิโลเมตร ตามแต่การใช้งาน ซึ่งจะประหยัดต้นทุนพลังงานได้ถึงร้อยละ 40 เมื่อเทียบกับการใช้น้ำมันดีเซล ทั้งนี้หัวรถจักรไฟฟ้า MINE Locomotive สามารถพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว ลงทุนต่ำกว่าระบบไฟฟ้าเหนือหัวกว่าครึ่ง และสามารถขยายได้ทั้งประเทศ
      EA เล็งเห็นว่า เทรนด์โลกกำลังเปลี่ยนผ่านการใช้พลังงานฟอสซิลไปสู่พลังงานไฟฟ้า นับเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของประเทศไทย ที่จะส่งเสริมให้เกิดนวัตกรรม และเทคโนโลยีที่ยกระดับผลิตภัณฑ์โดยฝีมือของคนไทยที่ทัดเทียมกับนานาชาติได้อย่างก้าวกระโดด EA มุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ "Green Product"
    โดยยกระดับการขนส่งด้วยยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ทั้งรถโดยสารไฟฟ้า (MINE Bus) รถกระบะไฟฟ้า (MINE MT30)  เรือโดยสารไฟฟ้า (MINE Smart Ferry) และหัวรถจักรไฟฟ้า (MINE Locomotive) เพื่อตอบโจทย์การคมนาคมด้าน รถ-เรือ-ราง และจะกลายเป็นนวัตกรรมสำคัญที่จะช่วยสร้างอุตสาหกรรมให้กับประเทศไทยบนพื้นฐานความยั่งยืนให้เดินหน้าพร้อมสร้างความสมดุล ในการพัฒนาสังคมและการรักษาสิ่งแวดล้อม
    ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของภาคธุรกิจที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมใหม่แห่งอนาคต (New S-curves) เพื่อพัฒนาประเทศสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ตามนโยบายภาครัฐที่มุ่งส่งเสริมโมเดลเศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน (BCG Economy) นายอมร กล่าวทิ้งท้าย
เลขไอพี : ไม่แสดง | ตั้งกระทู้โดย Windows 10

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

#1 | _uwu_ | 7 มี.ค. 66 16:06 น.

ไอพี: ไม่แสดง | โดย Windows 10

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google